บ.ไอออนิค จำกัด ภาคใต้ รัฐบาลร่วมลงทุน(สสว.) มาเลเซีย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ไทย วิจัยพัฒนา (r&d)
ผลผลิตยางพาราเพิ่มขึ้น ปาล์มน้ำมันมีความสมบูรณ์ ลูกดก ทะลายมาก
ปาล์มน้ำมันมีแปลงที่ประสบความสำเร็จให้ดู ที่สุราษ / กระบี่
รับดูแลทั้งระบบ 50ไร่ อัพ
4 รอบการใช้หรือ 18 เดือน เห็นผลทันตา

ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

โรคในหัวไชเท้า
สาเหตุ เชื้อรา Aphanomyces raphari ลักษณะอาการ เกิดแผล สีน้ำตาล–แดง หรือ ดำ บนบริเวิณรากหรือหัวไชเท้า
โรคใบจุด
สาเหตุ เชื้อรา Alternaria spp ลักษณะอาการ เกิดแผลกลมเทา–น้ำตาลเล็กๆ บนใบหัวไชเท้า มีวงเหลืองล้อมรอบ ซึ่งหากเป็นหนัก วงกลมเล็กๆจะรวมเป็นวงใหญ่ และขยายไปที่ก้านใบ และลำต้น
โรคราน้ำค้าง
สาเหตุ เชื้อรา Peronospora parasitica ลักษณะอาการ เกิดแผลเป็นผืนสีเหลือง ใต้ใบจะพบเส้นใยสีขาว–เทาเจริญอยู่ใต้แผล

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย 'การควบคุมประจุไฟฟ้า' สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

โรคราสนิมกาแฟ (Coffee Leaf Rust) เกิดจากเชื้อรา Hemeleia vastatrix ซึ่งยังแบ่งออกเป็นสายพันธุ์ต่างๆ อีกจำนวนมากกว่า ๒๐ สายพันธุ์ เป็นโรคที่สำคัญและทำอันตรายร้ายแรงในการปลูกกาแฟเป็นการค้า ในแหล่งปลูกกาแฟอราบิก้าทั่วโลก

อาการ เชื้อราจะเข้าทำลายผิวด้านใต้ใบ แล้วสร้างสปอร์สีส้มคล้ายสนิมเหล็ก เป็นจุดๆ อยู่ใต้ใบ และแพร่ขยายทำลายใบ ทำให้ใบร่วงหล่น ไม่สามารถสังเคราะห์อาหารได้ ถ้าไม่มีการป้องกันกำจัด จะ เสียหายประมาณ ๗๐ – ๘๐ เปอร์เซนต์ อาจไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ และต้นกาแฟจะตาย เริ่มระบาดตั้งแต่ฝนเริ่มตกและระบาดมากในเดือนตุลาคม และรุนแรงที่สุดในเดือนธันวาคม

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..

สินค้าจากเรา
ไอเอส ยับยั้ง หยุดการระบาด ของโรคราสนิมกาแฟ
FK-1 ฟื้นฟู บำรุง ส่งเสริมการแตกยอดใบใหม่ และผลผลิต

นายนิกร แสงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 อุบลราชธานี (สศท.11) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานีนับเป็นแหล่งผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี (ณ 31 มีนาคม 2564) พบว่า มีพื้นที่ปลูก 14_048 ไร่ พื้นที่เก็บเกี่ยว 13_978 ไร่ ผลผลิตรวม 48_224 ตัน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมวิชาการเกษตร ผสานความร่วมมือกับภาคเอกชนให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้ ปัจจัยการผลิต การใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิต รวมถึงการตรวจรับรองมาตรฐานการผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ นอกจากนี้ มีเกษตรกรบางพื้นที่ได้เข้าร่วมโครงการผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ ของบริษัทที่เข้ามาส่งเสริมภายใต้การทำ Contract Farming เนื่องจากเกษตรกรมีแรงจูงใจในเรื่องราคาที่ให้ผลตอบแทนดีกว่ามันสำปะหลังทั่วไป และมีตลาดรองรับที่แน่นอน

จากการติดตามสถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ปัจจุบันเกษตรกรหันมาปลูกมันสำปะหลังอินทร์กันมากขึ้น โดยบริษัทอุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) ได้ทำ Contract Farming กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ ใน ?โครงการปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์? ตั้งแต่ปี 2559 โดยรับซื้อผลผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์จากเกษตรกรทั้งหมด ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 939 ราย พื้นที่ปลูก 5_656 ไร่ ดำเนินการมาแล้วทั้งหมด 5 รุ่น ซึ่งผลผลิตของเกษตรกรทั้ง 5 รุ่น ได้ออกสู่ตลาดช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาประมาณ 21_000 ตัน สำหรับปี 2564 กำลังอยู่ในช่วงรับสมัครรุ่นที่ 6 และกำหนดการฝึกอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 4 จังหวัดอุบลราชธานี กรมวิชาการเกษตร ได้ร่วมมือกับบริษัทฯ ในการลงพื้นที่ ให้ความรู้กับเกษตรกรในเรื่องการผลิต การดูแล การป้องกันโรคแมลง การปรับปรุงบำรุงดิน และการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิต รวมถึงการตรวจรับรองมาตรฐานการผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์

สำหรับราคามันสำปะหลังอินทรีย์เชื้อแป้ง 25% ที่บริษัทฯ ประกันราคาอยู่ที่ 3.25 บาท/กก. ซึ่ง สศก. โดย สศท.11 อุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาต้นทุน ผลตอบแทน และการตลาดของสินค้ามันสำปะหลังอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง พบว่า ต้นทุนการผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเฉลี่ยอยู่ที่ 7_039 บาท/ไร่/รอบการผลิต เนื่องจากต้องจ้างแรงงานคนในการกำจัดวัชพืชจึงทำให้มีค่าแรงสูง ต้นทุนการผลิตจึงสูงกว่ามันสำปะหลังทั่วไป เกษตรกรนิยมปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม ระยะเวลาเพาะปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว 8 ? 10 เดือน เก็บเกี่ยวช่วงเดือนมีนาคมของปีถัดไป ผลผลิตเฉลี่ย 3_800 กก./ไร่ ผลตอบแทน 12_350 บาท/ไร่/รอบการผลิต ผลตอบแทนเฉลี่ยสุทธิ (กำไร) 5_311 บาท/ไร่/รอบการผลิต ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวผลผลิตและเกษตรบางส่วนเริ่มเตรียมดินสำหรับทำการเพาะปลูกรอบถัดไป

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ โดยเน้นย้ำว่าปัจจุบันได้มีการแปรรูปมันสำปะหลังอินทรีย์เป็นแป้งออร์แกนิค ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากแป้งออร์แกนิคสามารถแปรรูปเป็นอาหารแห่งอนาคต (Future Food) และอาหารเพื่อสุขภาพได้หลากหลาย สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในการเป็นส่วนผสมอาหารพรีเมี่ยม จึงนับว่าเป็นโอกาสดีของเกษตรกร ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ ได้ผ่านมาตรฐานอินทรีย์ไทย และมาตรฐานอินทรีย์สากล ได้แก่ 1) มาตรฐาน มกษ 9000-2552 หรือ Organic Thailand 2) มาตรฐานอินทรีย์ USDA-NOP (สหรัฐอเมริกา) 3) มาตรฐานอินทรีย์ EU (ยุโรป) 4) มาตรฐานอินทรีย์ JAS (ญี่ปุ่น) 5) มาตรฐานอินทรีย์ Korean (เกาหลี) และ 6) มาตรฐานอินทรีย์ China (จีน) จึงเป็นเครื่องการันตีและสร้างความมั่นใจกับผู้ค้าได้ว่า ผลผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ของเกษตรกรได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูง

ผู้อำนวยการ สศท.11 กล่าวเพิ่มเติมว่า การปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ให้ได้คุณภาพนั้น เกษตรกรต้องใช้ความอดทน พิถีพิถันในทุกขั้นตอน และต้องจำกัดพื้นที่ปลูกเพื่อควบคุมมาตรฐาน รวมทั้งต้องมีการวางแผนล่วงหน้าช่วงเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์แป้งตามต้องการ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการปรับเปลี่ยน 2 ? 3 ปี จึงจะได้ผลผลิตที่เป็นอินทรีย์ผ่านมาตรฐาน ทั้งนี้ หากเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจข้อมูลการผลิตและการตลาดมันสำปะหลังอินทรีย์ หรือสนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถขอคำปรึกษาได้ที่คุณกัณฑ์พร กรรณสูต ตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายประสานงานภาครัฐ บริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) โทร 08 9962 6544

ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 อุบลราชธานี

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

# http://www.farmkaset..link..

มาคา และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

เพลี้ยไฟสามารถทําลายพืชได้ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัย และทําลายได้เกือบทุกส่วนของพืช โดยเฉพาะยอด
อ่อน ตาอ่อน ใบ ดอกและผล เพลี้ยไฟกินอาหารโดยใช้ปากที่มีลักษณะเป็นแท่ง จึงดูดน้ําเลี้ยงจากเซลล์พืช ทําให้บริเวณที่ถูกทําลายเกิดรอยด่าง สีซีด หรือมีรอยแผลสีน้ําตาล ขอบใบแห้ง

มาคา สารอัลคาลอยต์ กำจัดเพลี้ย (ขนาด1ลิตร อัตรการผสม 50-100 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 3-7วัน)
เป็นสารอัลคาลอยด์สกัดจากธรรมชาติที่ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน โดยใช้หลักการเทคโนโลยีชั้นสูง
โดยดารรวมสารอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูงเข้าด้วยกัน สามารถฉีดพ่นได้ในช่วงก่อนเก็บเกี่ยว
โดยปราศจากสารพิษตกค้างในดินและน้ำ ปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้าhttp://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..ด้เช่นกัน

เชื้อสาเหตุของ โรคเน่าดำองุ่น เกิดจากเชื้อรา Phyllosticta ampelicida องุ่นที่เป็นโรคเน่าดำ จะมีลักษณะอาการ ใบเป็นรูจุดไหม้สีน้ำตาลแดง ตรงกลางแผลมีสีน้ำตาลอ่อน ขอบแผลมีสีน้ำตาลเข้ม กิ่งจะมีลักษณะปื้นดำเป็นแถบ เนื้อเยื่อบริเวณแผลยุบตัวลงแต่ไม่ลึก มีสีเทา บริเวณแผล มีเม็ดเล็กๆ สีดำ ผลอ่อนเป็นจุดแผลฉ่ำน้ำสีน้ำตาลเนื้อเยื่อบริเวณแผลยุบตัวลง

การระบาดของ โรคเน่าดำองุ่น ระบาดในสภาพอากาศเย็นและชื้น

การป้องกันกำจัด โรคองุ่นเน่าดำ

1. หมั่นตรวจสอบแปลงและป้องกันกำจัดตั้งแต่เริ่มพบโรค

2. กำจัดวัชพืชในโรงเรือนและรอบโรงเรือน

3. งดให้น้ำในช่วงเย็น

4. การใช้สารปลอดภัย

4.1 ฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ ยับยั้งโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา ในอัตตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ทุก 5-7 วัน

4.2 ฉีดพ่น FK-1 เพื่อบำรุงพืช ให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ โตไว ผลผลิตดี
[FK-1 แกะกล่องมาจะมีสองถุง ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สองเป็นสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง ถุงละ 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร]

* สามารถผสม FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกับ ไอเอส
* ควรฉีดพ่นช่วยเช้าก่อนแดดออก หรือ ช่วงเย็น หลังแดดร่มลมตก ไม่ควรฉีดพ่นตอนแดดร้อนจัด

# http://www.farmkaset..link..

Beauveria mix Methharicium เป็นสารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพที่รวมเชื้อรา 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Metarhizium anisopliae เพื่อป้องกันและกำจัดเพลี้ยในผักกาดขาว สารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพนี้วางตลาดภายใต้ชื่อแบรนด์ Butarex และใช้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม

เพลี้ยเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปสำหรับชาวไร่ผักกาดขาว เนื่องจากพวกมันกินน้ำเลี้ยงของพืชและทำให้ใบ ลำต้น และตาเสียหายอย่างมาก สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ลดผลผลิตและคุณภาพของพืชผลเท่านั้น แต่ยังทำให้พืชอ่อนแอต่อโรคและแมลงศัตรูพืชอื่นๆ อีกด้วย สารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถมีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ย แต่ก็มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ด้วย

Beauveria ผสม Methharicium ทำงานโดยการติดเชื้อเพลี้ยด้วยสปอร์ของเชื้อราและสปอร์ของเชื้อราทั้งสองชนิด สปอร์ของเชื้อราจะเข้าสู่ตัวเพลี้ยผ่านทางช่องเปิดตามธรรมชาติ เช่น ปาก เกลียว หรือบาดแผล และเติบโตภายในตัวแมลงทำให้พวกมันตาย จากนั้นเพลี้ยที่ติดเชื้อจะปล่อยเศษเชื้อราออกสู่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น แพร่เชื้อไปยังเพลี้ยตัวอื่น ส่งผลให้จำนวนเพลี้ยลดลง ลดความเสียหายต่อพืชผักกาดขาว

การใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมมีข้อดีหลายประการเหนือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ประการแรก เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ประการที่สอง มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานและมีความเสถียรภายใต้อุณหภูมิและความชื้นที่หลากหลาย ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บและใช้งาน สุดท้ายนี้ มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมเพลี้ย และแสดงให้เห็นว่าสามารถลดจำนวนเพลี้ยได้มากถึง 90%

สรุปได้ว่าบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแทนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในผักกาดขาวปลี สารกำจัดศัตรูพืชทางชีวภาพนี้สามารถช่วยเกษตรกรปกป้องพืชผลของพวกเขาและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตของพวกเขา ในขณะที่ลดผลกระทบด้านลบของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิมที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้าhttp://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

ในโลกของเกษตรกรรม การจัดการศัตรูพืชมีบทบาทสำคัญในการรับรองการเจริญเติบโตของพืชผลที่ดีและเพิ่มผลผลิตสูงสุด แม้ว่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชจะใช้ในการควบคุมสัตว์รบกวนแบบดั้งเดิม แต่การใช้ในระยะยาวอาจนำไปสู่มลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาความต้านทานของแมลง และปัญหาด้านสุขภาพสำหรับทั้งผู้ใช้และผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นักวิจัยได้ค้นพบทางเลือกจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยั่งยืน หนึ่งในความก้าวหน้าดังกล่าวคือการใช้ Maca ซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติ เพื่อต่อสู้กับแมลงศัตรูพืชและยับยั้งการดื้อยา

Maca: สารสกัดอัลคาลอยด์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน:
Maca เป็นอัลคาลอยด์ที่มีศักยภาพที่สกัดจากพืชที่คัดสรรโดยใช้หลักการเทคโนโลยีขั้นสูง อัลคาลอยด์เหล่านี้ได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันโดยพิจารณาจากประสิทธิภาพและความสามารถในการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วยการรวมอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูง Maca นำเสนอวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงปรับตัวและพัฒนาความต้านทาน คุณลักษณะนี้ทำให้แตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั่วไป

การกำจัดแมลงศัตรูพืชโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:
Maca มีข้อดีตรงที่ไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช แอตทริบิวต์นี้ช่วยรับประกันสุขภาพของระบบนิเวศในระยะยาวโดยการป้องกันมลพิษในดินและน้ำ นอกจากนี้ยังปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ ขจัดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสสารเคมี ผู้บริโภคสามารถสบายใจได้เมื่อรู้ว่าผลิตผลที่พวกเขาบริโภคนั้นปราศจากสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตราย

ยับยั้งการดื้อยา:
หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั่วไปคือการพัฒนาความต้านทานในแมลงเนื่องจากการใช้เป็นเวลานาน เมื่อเวลาผ่านไป แมลงจะปรับตัวได้และไวต่อสารเคมีเหล่านี้น้อยลง ทำให้ไม่ได้ผล ในทางกลับกัน Maca มีโหมดการออกฤทธิ์ที่ไม่เหมือนใครซึ่งยับยั้งการดื้อยา วิธีการที่ไม่เฉพาะเจาะจงทำให้แมลงปรับตัวได้ยาก ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในระยะยาว

ประโยชน์เสริมของอาหารเสริมพืช Maca และ FKT:
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Maca สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากพืช FKT อาหารเสริมเหล่านี้ช่วยบำรุงพืช ช่วยในการฟื้นตัวจากการทำลายของศัตรูพืช การรวมกันของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Maca และ FKT เป็นแนวทางแบบองค์รวมในการจัดการศัตรูพืช โดยระบุถึงทั้งการกำจัดศัตรูพืชและการฟื้นฟูพืชที่ได้รับผลกระทบจากเพลี้ยอ่อน

ผลการฉีดพ่นร่วม:
เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพืช Maca และ FKT ร่วมกันผ่านการฉีดพ่นร่วมกัน จะได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง อัลคาลอยด์ที่มีอยู่ใน Maca กำหนดเป้าหมายและกำจัดแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันความเสียหายและการสูญเสียพืชผล ในขณะเดียวกัน อาหารเสริมพืช FKT ให้สารอาหารที่จำเป็นเพื่อช่วยให้พืชฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดจากเพลี้ยอ่อน วิธีการฉีดพ่นร่วมกันช่วยเพิ่มสุขภาพโดยรวมของพืช ส่งเสริมการเจริญเติบโตและความยืดหยุ่น

บทสรุป:
Maca ซึ่งเป็นสารอัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติ นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนสำหรับการควบคุมแมลงศัตรูพืชในการเกษตร อัลคาลอยด์ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันและรูปแบบการทำงานที่ไม่เฉพาะเจาะจงทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านแมลงศัตรูพืช ป้องกันการดื้อยา อีกทั้งมะค่าไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค เมื่อรวมกับอาหารเสริมพืชของ FKT Maca จะยิ่งมีศักยภาพมากขึ้น ช่วยให้พืชฟื้นตัวจากการรบกวนของเพลี้ย การยอมรับทางเลือกจากธรรมชาติเช่น Maca เราสามารถส่งเสริมแนวทางการจัดการศัตรูพืชที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้นในการเกษตร

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

การผสมปุ๋ยเป็นสูตรที่ต้องการ ในปัจจุบันทำได้ง่าย เนื่องจากมี Web app ช่วยคำนวณอัตราส่วนผสมแม่ปุ๋ย เป็นปุ๋ยได้ทุกสูตรตามที่เราต้องการ ทำให้ต้นทุนปุ๋ยถูกลงกว่าที่เราจะไปซื้อปุ๋ยสูตรสำเร็จ ที่ขายตามท้องตลาด ซึ่งก็ทำได้ง่ายๆ เช่น หากเราเคยใช้ปุ๋ยสูตรไหนแล้วชอบ เราเพียงแค่จำตัวเลย 3 ตัวข้างกระสอบ เช่น สูตร 16-16-8 หรือ 15-15-15 แล้วเอามากรอกใน แอพฯ กดคำนวณ แอพก็จะแจ้งอัตราส่วนผสมให้เราทำตามได้ทันที

แม่ปุ๋ยที่เราจะมีติดบ้านติดสวนเอาไว้ผสม เราซื้อไว้เพียง 3 สูตร คือ
46-0-0
18-46-0
0-0-60
เพียง 3 สูตรนี้ ก็ใช้ผสมเป็นปุ๋ยได้ทุกสูตรที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด ที่เราคุ้นเคย

เข้าใช้เว็บแอพฯผสมปุ๋ย โดยไม่ต้องติดตั้ง ได้ที่ http://ไปที่..link..

มะพร้าวเป็นพืชไม้เขตร้อนที่ขึ้นชื่อในด้านความอเนกประสงค์ โดยใช้ประโยชน์ได้หลากหลายตั้งแต่อาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงเครื่องสำอางและวัสดุก่อสร้าง แต่เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากต้นมะพร้าว คุณต้องแน่ใจว่าพวกมันได้รับการใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสม นั่นคือที่มาของปุ๋ย FK-1 และ FK-3

ปุ๋ย FK-1 เป็นปุ๋ยน้ำที่ออกแบบมาเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของต้นมะพร้าว ประกอบด้วยส่วนผสมของสารอาหารที่จำเป็น ได้แก่ แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมทั้งสารลดแรงตึงผิวเพื่อช่วยให้สารอาหารถูกดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการใช้ FK-1 เพียงผสมกับน้ำตามคำแนะนำของผู้ผลิต แล้วฉีดลงบนใบไม้และดินรอบโคนต้นไม้

ปุ๋ย FK-3 คล้ายกับปุ๋ย FK-1 แต่มีโพแทสเซียมเข้มข้นกว่า ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในช่วงเริ่มต้นของการออกผล เนื่องจากโพแทสเซียมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาของผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ หากต้องการใช้ FK-3 เพียงทำตามขั้นตอนเดียวกับ FK-1 โดยผสมกับน้ำแล้วฉีดพ่นลงบนใบไม้และดิน

ทั้งปุ๋ย FK-1 และ FK-3 ใช้งานง่ายและสามารถช่วยให้ต้นมะพร้าวของคุณเติบโตได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะปลูกมะพร้าวเพื่อผลที่อร่อยหรือเพื่อใช้ประโยชน์อื่นๆ มากมาย ปุ๋ยเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของกิจวัตรการดูแลต้นมะพร้าว

เลื่อนลงล่างอีกนิด เลือกซื้อ ปุ๋ย ยาฯ คุณภาพสูงสำหรับมะพร้าว จากเรา