[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3578 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 8 รายการ

 
การป้องกัน กำจัดเพลี้ย กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วย ชีวภัณฑ์ บิวเวอเรีย และ เมธาไรเซียม ได้ผลดี และปลอดภัย
การป้องกัน กำจัดเพลี้ย กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วย ชีวภัณฑ์ บิวเวอเรีย และ เมธาไรเซียม ได้ผลดี และปลอดภัย
บิวเวอเรีย "Beauveria" และ เมธาไรเซียม "Metarhizium" เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของเชื้อราที่มีความสามารถที่จะเป็นศัตรูศัตรูทางชีวภาพของแมลงศัตรูพืช โดยทั่วไป_ ทั้งสองชนิดนี้มักถูกนำมาใช้ในการควบคุมแมลงศัตรูในการเกษตรทอดถิ่นและอย่างยิ่งในการจัดการศัตรูที่ตัวแข็งต่อสารเคมีหรือทนทานต่อการใช้สารเคมี.

Beauveria: บิวเวอเรีย

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Beauveria bassiana
วิธีการทำงาน: Beauveria bassiana เมื่อแมลงสัมผัสกับเชื้อบิวเวอเรีย_ เชื้อราจะเจริญเติบโตในแมลงและทำให้เกิดโรคที่ทำให้แมลงตาย.
การใช้: มักใช้เป็นสารป้องกันกำจัดแมลงศัตรูในทางเกษตร_ สวน_ และที่ดิน.

Metarhizium: เมธาไรเซียม

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Metarhizium anisopliae
วิธีการทำงาน: Metarhizium anisopliae เชื่อมต่อตัวเชื้อราไปยังแมลงผ่านทางผิวหนังหรือเปลือกโดยเฉพาะ. เมื่อเข้าสู่ร่างของแมลง_ เชื้อราจะเจริญเติบโตและทำให้เกิดโรคที่ทำให้แมลงตาย.
การใช้: เชื้อรา Metarhizium anisopliae มักถูกใช้เพื่อควบคุมแมลงศัตรูในทางเกษตร_ ที่ดิน_ และสวน.

ทั้งสองชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการควบคุมแมลงศัตรูทางชีวภาพโดยลดการใช้สารเคมี

บิวทาเร็กซ์ เป็นเชื้อราบิวเวอเรีย ผสมเมธาไรเซียม ใช้ป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช
บิวทาเร็กซ์ ใช้กำจัดเพลี้ย และแมลงต่างๆ สามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด

สั่งซื้อบิวทาเร็กซ์ ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
อ่าน:10442
วันนี้ที่ฟาร์มเกษตร เปลี่ยนน้ำปลาคาร์ฟ พบลูกปลาคาร์ฟ ที่เกิดเองจำนวนมาก
วันนี้ที่ฟาร์มเกษตร เปลี่ยนน้ำปลาคาร์ฟ พบลูกปลาคาร์ฟ ที่เกิดเองจำนวนมาก
วันนี้ที่ฟาร์มเกษตร เปลี่ยนน้ำปลาคาร์ฟ พบลูกปลาคาร์ฟ ที่เกิดเองจำนวนมาก
เป็นวันที่โชคดี ปกติปลาคาร์ฟที่เลี้ยงไว้ใบบ่อเดียวกันของเรา ไม่เคยเกิดเองตามธรรมชาติ ต้องฉีดฮอร์โมนผสมพันธุ์ แต่คราวนี้เปลี่ยนน้ำให้ปลาในบ่อ กลับพบลูกปลาคาร์ฟ น่าจะราวๆพันตัวโดยประมาณ
อ่าน:10048
โรคราแป้ง ราน้ำค้าง โรคใบไหม้ เกิดได้กับหลายพืช เร่งควบคุม ป้องกัน กำจัด ลดความเสียหายต่อพืช
โรคราแป้ง ราน้ำค้าง โรคใบไหม้ เกิดได้กับหลายพืช เร่งควบคุม ป้องกัน กำจัด ลดความเสียหายต่อพืช
โรคราแป้ง โรคใบไหม้ และโรคราน้ำค้าง เป็นปัญหาที่พบในการปลูกพืชและสวนเพราะเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคเหล่านี้

โรคราแป้ง: โรคราแป้งเป็นโรคที่มีลักษณะดำๆหรือขาวๆบนผิวใบและส่วนต่างๆ ของพืช โรคนี้เกิดจากเชื้อราที่ชื่อเชื่อราแป้ง และส่วนใหญ่มักเริ่มต้นจากสภาพอากาศชื้น

โรคใบไหม้: โรคนี้มักแสดงอาการใบหงิกหลังจากใบไหม้ และเนื่องจากเชื้อราที่ชื่อว่า Pseudoperonospora cubensis สาเหตุของโรคนี้ สภาพอากาศชื้นและหรือฝนตกมากเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างโอกาสให้โรคนี้ระบาด

โรคราน้ำค้าง: โรคราน้ำค้างทำให้เกิดความเสียหายในผลผลิตผลไม้และพืชอื่นๆ โดยที่ส่วนขนาดของเชื้อราที่คล้ายเส้นในน้ำค้างมีสีขาว สาเหตุของโรคนี้คือเชื้อรา Phytophthora infestans สภาพอากาศชื้นเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาของโรคนี้

ป้องกัน กำจัด โรคพืช ราแป้ง ราน้ำค้าง ใบไหม้ ด้วย สารอินทรีย์ ไอเอส
สั่งซื้อได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
อ่าน:9757
ความสำเร็จอันหอมหวานของการปลูกทุเรียน: คู่มือสำหรับเกษตรกร
ความสำเร็จอันหอมหวานของการปลูกทุเรียน: คู่มือสำหรับเกษตรกร
ทุเรียน เป็นที่รู้จักในฐานะ "ราชาแห่งผลไม้" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีชื่อเสียงในด้านรสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ แม้จะมีชื่อเสียงว่ามีกลิ่นฉุน แต่ทุเรียนก็เป็นที่ต้องการอย่างมากและเป็นพืชที่ให้ผลกำไรแก่เกษตรกร ในบทความนี้ เราจะหารือเกี่ยวกับการปลูกทุเรียนและให้คำแนะนำสำหรับเกษตรกรเพื่อให้แน่ใจว่าการเก็บเกี่ยวประสบความสำเร็จ

ข้อกำหนดด้านสภาพอากาศและดิน
ทุเรียนเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นโดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 27°C ต้องใช้ดินที่ระบายน้ำได้ดีซึ่งมีระดับ pH ระหว่าง 5.0 ถึง 6.5 ดินที่เป็นกรดหรือด่างมากเกินไปจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของต้นทุเรียนได้

การขยายพันธุ์
ทุเรียนสามารถขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือการตอนกิ่ง โดยทั่วไปจะใช้เมล็ดพืช แต่ใช้เวลานานกว่าต้นไม้จะออกผล ซึ่งอาจใช้เวลาถึงเจ็ดปี ในทางกลับกัน การต่อกิ่งเกี่ยวข้องกับการใช้กิ่งจากต้นทุเรียนที่แก่เต็มที่มาทาบกิ่งบนต้นตอของต้นกล้า วิธีการนี้เป็นที่ต้องการของเกษตรกรเนื่องจากให้ผลเร็วกว่าภายในสามถึงสี่ปี

ปลูก
ต้นทุเรียนต้องการพื้นที่กว้างขวางในการเจริญเติบโต ควรปลูกห่างกันอย่างน้อย 10 เมตร หลุมปลูกควรมีขนาดสองถึงสามเท่าของรูตบอล โดยเพิ่มอินทรียวัตถุลงในดินเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกต้นกล้าในระดับความลึกเดียวกับในเรือนเพาะชำ

การให้ปุ๋ยและการให้น้ำ
ต้นทุเรียนต้องการการใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเจริญเติบโตที่ดีและให้ผลผลิตสูง ควรใส่ปุ๋ยที่สมดุล เช่น NPK 15-15-15 ทุกสามเดือนในช่วงฤดูปลูก การชลประทานที่เพียงพอก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้ง

การจัดการศัตรูพืชและโรค
ต้นทุเรียนอ่อนแอต่อโรคและแมลงศัตรูพืชต่างๆ เช่น หนอนเจาะผลทุเรียนและโรคแอนแทรคโนส การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอและการใช้ยาฆ่าแมลงและยาฆ่าเชื้อราอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยป้องกันและควบคุมปัญหาเหล่านี้ได้

การเก็บเกี่ยว
ผลทุเรียนพร้อมเก็บเกี่ยวหลังผสมเกสร 100 ถึง 120 วัน ควรเก็บเกี่ยวผลไม้เมื่อแก่จัดแต่ต้องไม่สุกงอมเกินไป ควรตัดลำต้นให้ใกล้กับผลไม้ และควรดูแลผลไม้ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสียหาย

กล่าวโดยสรุป การปลูกทุเรียนสามารถทำกำไรให้กับเกษตรกรได้ แต่ต้องมีการวางแผนและการจัดการอย่างรอบคอบ ทำตามเคล็ดลับที่ระบุไว้ในบทความนี้ เกษตรกรสามารถรับประกันการเก็บเกี่ยวผลไม้ที่มีค่านี้ได้สำเร็จ ด้วยรสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ทุเรียนจะยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชื่นชอบผลไม้ทั่วโลกต่อไป
อ่าน:9472
คู่มือเบื้องต้นสำหรับการ ป้องกันและกำจัดโรคในสวนยางพารา ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ
คู่มือเบื้องต้นสำหรับการ ป้องกันและกำจัดโรคในสวนยางพารา ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ
ต้นยางเป็นพืชมีค่าที่นิยมปลูกเพื่อเอาน้ำยางไปใช้ทำผลิตภัณฑ์ยางต่างๆ อย่างไรก็ตาม โรคเชื้อราสามารถส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นยาง ทำให้สูญเสียผลผลิตและคุณภาพได้ ในบทความนี้จะกล่าวถึงคำแนะนำในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นยางโดยใช้ IS และ FK-1

โรคเชื้อราในต้นยางเกิดได้จากเชื้อก่อโรคหลายชนิด เช่น Phytophthora palmivora_ Colletotrichum gloeosporioides และ Fusarium oxysporum เชื้อโรคเหล่านี้สามารถเข้าทำลายราก ใบ และลำต้นของต้นยาง ทำให้เกิดอาการเหี่ยว ใบเหลือง ใบร่วงได้ หากปล่อยไว้ โรคเชื้อราจะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อสวนยางพารา

เพื่อป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นยาง เกษตรกรสามารถใช้ IS ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่มีสารออกฤทธิ์ป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา IS ทำงานโดยการสร้างเกราะป้องกันบนพื้นผิวพืชที่ยับยั้งการเจริญเติบโตและการพัฒนาของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรค สารประกอบนี้ปลอดภัยสำหรับทั้งสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกษตรกรที่ต้องการนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้

ในการใช้ IS ให้ได้ผล เกษตรกรควรผสมน้ำในอัตรา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร สำหรับการบำรุงพืชด้วย FK-1 เมื่อแกะกล่อง FK-1 เกษตรกรจะพบถุงสองใบ ถุงแรกเป็นธาตุหลักประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ส่วนถุงที่สองเป็นธาตุเสริมประกอบด้วยแมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว ในการใช้ FK-1 เกษตรกรควรผสม 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองในน้ำ 20 ลิตร FK-1 ช่วยบำรุงต้นยางพร้อมป้องกันและกำจัดโรคเชื้อรา

สรุปได้ว่าโรคเชื้อราสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อสวนยาง เพื่อป้องกันและกำจัดโรคเหล่านี้ เกษตรกรสามารถใช้ IS และ FK-1 IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในขณะที่ FK-1 ช่วยบำรุงต้นยาง การนำแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้มาใช้ เกษตรกรสามารถรับประกันสุขภาพและผลผลิตของต้นยางในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด
อ่าน:8718
โรคมะพร้าว ราสนิมมะพร้าว ราน้ำค้าง มะพร้าวใบไหม้ มะพร้าวยอดแห้ง
โรคมะพร้าว ราสนิมมะพร้าว ราน้ำค้าง มะพร้าวใบไหม้ มะพร้าวยอดแห้ง
มะพร้าวเป็นพืชที่อาจถูกโรคเชื้อราต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น โรคใบไหม้ ราน้ำค้าง ราสนิม

โรคใบไหม้ขอบใบ (Leaf Spot): โรคนี้ทำให้ใบมะพร้าวมีจุดสีน้ำตาลหรือดำ โดยเชื้อราที่เป็นสาเหตุ การรักษาโรคนี้มักเริ่มจากการตัดแต่งใบที่เป็นโรคและการพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อรา.

โรคราน้ำค้าง (Downy Mildew): โรคนี้ทำให้ใบมะพร้าวมีคลื่นคล้ายราน้ำค้างบนผิวใบ โรคนี้มักเกิดในสภาพอากาศชื้น การรักษาโรคราน้ำค้างเริ่มจากการป้องกันการระบายน้ำที่ดีและการใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา.

โรคเส้นใยสีดำ (Charcoal Rot): โรคนี้ทำให้ลำต้นมะพร้าวมีเส้นใยสีดำบนผิว สาเหตุมาจากเชื้อราในดิน การรักษาโรคนี้มักเน้นการควบคุมความชื้นในดินและการเพิ่มความถนอมของต้นมะพร้าว.

โรคราสนิม (Rust): โรคนี้ทำให้ใบมะพร้าวมีสีน้ำตาลหรือสีส้มและสามารถกระจายไปยังส่วนอื่นของต้นมะพร้าว การรักษาโรคราสนิมเริ่มจากการตัดแต่งใบที่เป็นโรคและการใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา.

โรครากเน่า (Root Rot): โรคนี้เกิดจากเชื้อราที่สามารถทำให้รากมะพร้าวเน่าเสียหายได้ สาเหตุสำคัญมาจากความชื้นสูงเกินไปในดิน โรคนี้อาจทำให้ต้นมะพร้าวตายได้ถ้าไม่รักษาทันที การรักษาโรครากเน่าคือการพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราและการปรับปรุงการระบายน้ำในพื้นดิน.

สำหรับการป้องกันและรักษาโรคเชื้อราในมะพร้าว_ ควรรักษาพื้นที่ปลูกให้สะอาด_ ควบคุมความชื้นในดิน_ ตัดแต่งใบที่เป็นโรค_ และใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์ สามารถป้องกันกำจัดโรคมะพร้าวจากเชื้อราต่างๆ
ไอเอส ใช้ได้กับพืชทุกชนิด ที่พบปัญหาโรคเชื้อราต่างๆเช่นกัน

สั่งซื้อ ไอเอส ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
อ่าน:8625
คู่มืองป้องกันและกำจัดโรคในลำไย โรคราต่างๆ ใบไหม้ ราแป้ง ราสนิม กิ่งแห้ง และราอื่นๆ
คู่มืองป้องกันและกำจัดโรคในลำไย โรคราต่างๆ ใบไหม้ ราแป้ง ราสนิม กิ่งแห้ง และราอื่นๆ
โรคลำไยจากเชื้อรา เกิดขึ้นได้หลายอาการ ยกตัวอย่างเช่น โรคใบไหม้ ใบจุด ในลำไย ราแป้ง ราสนิมลำไย โรคลำไยกิ่งแห้ง โคนเน่า และ อื่นๆ โรคเชื้อราที่เราจะเน้นเรียกว่าโรคแอนแทรกโนส (Anthracnose) ซึ่งเกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides โรคนี้ส่งผลกระทบต่อผล ใบ และกิ่งของต้นลำไย และสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาการของโรคแอนแทรคโนส ได้แก่ รอยโรคสีดำบนใบ จุดยุบบนผล และกิ่งก้านตาย

เพื่อป้องกันและกำจัดโรคแอนแทรกโนส ขอแนะนำให้ใช้ IS และ FK-1 IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในขณะที่ FK-1 เป็นปุ๋ยที่ช่วยบำรุงพืช เมื่อใช้ IS และ FK-1 สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามอัตราการผสมและคำแนะนำอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าต้นลำไยไม่ได้รับความเสียหาย

เมื่อเปิดกล่อง FK-1 คุณจะพบกับถุงสองใบ ถุงแรกเป็นธาตุหลักประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ส่วนถุงที่สองเป็นธาตุเสริมประกอบด้วยแมกนีเซียมและสังกะสีรวมทั้งสารลดแรงตึงผิว ในการเตรียมสารละลาย ให้ผสม 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองในน้ำ 20 ลิตร

เมื่อคุณเตรียมสารละลาย FK-1 แล้ว ให้เติม IS 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นใช้เครื่องพ่นฉีดพ่นที่ใบ กิ่ง และผลของต้นลำไย สิ่งสำคัญคือต้องฉีดพ่นต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าครอบคลุมทุกส่วนของพืช

ขอแนะนำให้ใช้ IS และ FK-1 ทุก 15 วันเพื่อป้องกันและกำจัดโรคแอนแทรกโนส สิ่งสำคัญคือต้องรักษาหลักปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่ดี เช่น กำจัดเศษซากพืชที่ตายแล้วและติดเชื้อออกจากรอบๆ ต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจาย

สรุปได้ว่าโรคแอนแทรคโนสเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นลำไย เพื่อป้องกันและกำจัดโรคนี้ ขอแนะนำให้ใช้ IS และ FK-1 ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา พร้อมบำรุงพืชไปด้วย เมื่อปฏิบัติตามอัตราการผสมและคำแนะนำอย่างระมัดระวัง คุณจะสามารถปกป้องต้นลำไยของคุณและเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวที่ดีต่อสุขภาพและอุดมสมบูรณ์ได้
อ่าน:8497
ประโยชน์ของการปลูกพืชผสมผสานระหว่าง มันสำปะหลัง กับ พืชตระกูลถั่ว
ประโยชน์ของการปลูกพืชผสมผสานระหว่าง มันสำปะหลัง กับ พืชตระกูลถั่ว
มันสำปะหลังเป็นพืชหัวที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและรายได้ที่สำคัญสำหรับผู้คนหลายล้านคน อย่างไรก็ตาม การปลูกมันสำปะหลังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ได้แก่ ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ โรคและแมลงศัตรูพืช และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทางออกหนึ่งสำหรับความท้าทายเหล่านี้คือการปลูกพืชแบบผสมผสาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปลูกพืชสองชนิดขึ้นไปร่วมกันบนที่ดินเดียวกัน ในบทความนี้ เราจะพูดถึงประโยชน์ของการปลูกพืชผสมผสานระหว่างมันสำปะหลังกับพืชตระกูลถั่ว ซึ่งสามารถเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ลดศัตรูพืชและโรค และเพิ่มผลผลิตของพืชผล

พืชตระกูลถั่วเป็นพืชในอุดมคติที่จะปลูกร่วมกับมันสำปะหลัง เนื่องจากพวกมันมีความสัมพันธ์ทางชีวภาพกับแบคทีเรียที่ตรึงไนโตรเจนซึ่งเปลี่ยนไนโตรเจนในบรรยากาศให้อยู่ในรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งหมายความว่าพืชตระกูลถั่วสามารถปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินและลดความจำเป็นในการใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ซึ่งมีราคาแพงและอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ พืชตระกูลถั่วยังช่วยควบคุมวัชพืช เนื่องจากพวกมันแย่งชิงทรัพยากรและลดการเจริญเติบโตของวัชพืช สิ่งนี้สามารถลดความจำเป็นในการใช้สารกำจัดวัชพืชซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

การปลูกมันสำปะหลังร่วมกับพืชตระกูลถั่วยังสามารถลดแมลงศัตรูพืชและโรคต่างๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากพืชตระกูลถั่วสามารถดึงดูดแมลงที่เป็นประโยชน์และขับไล่ศัตรูพืชที่เป็นอันตรายได้ ตัวอย่างเช่น พืชตระกูลถั่วบางชนิดผลิตสารประกอบที่ขับไล่แมลงศัตรูพืช เช่น ถั่วพุ่ม ซึ่งผลิตสารประกอบที่ขับไล่แมลงหวี่ขาวซึ่งเป็นศัตรูพืชทั่วไปของมันสำปะหลัง นอกจากนี้ พืชตระกูลถั่วยังสามารถดึงดูดแมลงที่มีประโยชน์ เช่น เต่าทองและแมลงปีกแข็ง ซึ่งกินแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยอ่อนและไร สิ่งนี้สามารถลดความจำเป็นในการใช้สารกำจัดศัตรูพืชซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

ประการสุดท้าย การปลูกพืชแซมปะหลังร่วมกับพืชตระกูลถั่วสามารถปรับปรุงผลผลิตของพืช เนื่องจากพืชทั้งสองชนิดสามารถเสริมซึ่งกันและกันในแง่ของการใช้ทรัพยากร ตัวอย่างเช่น มันสำปะหลังมีระบบรากที่ลึกซึ่งสามารถเข้าถึงสารอาหารและน้ำจากชั้นดินที่ลึกกว่า ในขณะที่พืชตระกูลถั่วมีระบบรากที่ตื้นซึ่งสามารถเข้าถึงสารอาหารและน้ำจากชั้นดินด้านบน ซึ่งหมายความว่าพืชทั้งสองชนิดสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องแย่งชิงทรัพยากร และยังสามารถเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของกันและกันได้อีกด้วย นอกจากนี้การปลูกพืชแซมยังช่วยเพิ่มแหล่งรายได้ให้กับเกษตรกร เนื่องจากพืชตระกูลถั่วสามารถขายเป็นพืชเศรษฐกิจหรือใช้บริโภคในครัวเรือนได้

โดยสรุปแล้ว การปลูกพืชแซมปะหลังร่วมกับพืชตระกูลถั่วสามารถให้ประโยชน์มากมายแก่เกษตรกรและสิ่งแวดล้อม รวมถึงทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ดีขึ้น โรคและแมลงศัตรูพืชลดลง และเพิ่มผลผลิตพืช วิธีการนี้ยังสามารถนำไปสู่การเกษตรแบบยั่งยืน เนื่องจากช่วยลดการใช้ปุ๋ยสังเคราะห์และยาฆ่าแมลง และเพิ่มแหล่งรายได้ให้กับเกษตรกร ดังนั้นผู้กำหนดนโยบายและนักวิจัยควรส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกพืชแซมเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและให้ผลกำไรสำหรับการปลูกมันสำปะหลัง

ชื่อเรื่อง : การปรับปรุงการปลูกมันสำปะหลังด้วยพืชตระกูลถั่วสลับ
อ่าน:8190
การป้องกันกำจัด เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยต้นทุเรียน
การป้องกันกำจัด เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยต้นทุเรียน
ทุเรียนเป็นผลไม้เมืองร้อนยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว อย่างไรก็ตามไม้ผลชนิดนี้มีความไวต่อศัตรูพืชหลายชนิดรวมถึงเพลี้ย แมลงขนาดเล็กเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับต้นทุเรียนได้อย่างมากโดยการกัดกินน้ำเลี้ยงของต้นทุเรียน ซึ่งอาจนำไปสู่การเติบโตแคระแกร็นและอาจถึงขั้นตายได้ โชคดีที่มีวิธีป้องกันและกำจัดเพลี้ยรบกวนอย่างได้ผล เช่น การใช้ มาคา

มาคา (MAKA) เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถป้องกันและกำจัดเพลี้ยได้หลายชนิดพร้อมทั้งบำรุงพืชด้วย FK-1 อัตราการผสมที่แนะนำสำหรับ MAKA คือ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร สามารถฉีดพ่นที่ใบและลำต้นของต้นทุเรียนเพื่อกำจัดเพลี้ยได้

อัตราการผสม FK-1 คือ 50 กรัมของถุงแรก และ 50 กรัมของถุงที่สอง ผสมน้ำ 20 ลิตร ถุงแรกบรรจุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ถุงที่สองประกอบด้วยแมกนีเซียมและสังกะสี ซึ่งช่วยให้พืชดูดซึมสารอาหารเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

FK-1 ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและปรับปรุงความต้านทานต่อศัตรูพืชและโรคของต้นไม้ ส่วนของ มาคา เมื่อใช้ MAKA เป็นประจำ ผู้ปลูกทุเรียนสามารถมั่นใจได้ว่าต้นของพวกเขาจะแข็งแรงและปราศจากเพลี้ยรบกวน

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าแม้ว่า MAKA จะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเพลี้ย แต่ก็ไม่ได้ทดแทนการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี ผู้ปลูกทุเรียนควรดูแลให้ต้นไม้ได้รับน้ำ แสงแดด และสารอาหารอย่างเพียงพอ และควรตัดแต่งกิ่งที่เสียหายหรือเป็นโรคทันที

โดยสรุปแล้ว การป้องกันและกำจัดเพลี้ยที่ระบาดบนต้นทุเรียนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาการเจริญเติบโตของต้นให้แข็งแรงและให้ผลผลิตสูง MAKA เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนให้บรรลุเป้าหมายในการป้องกันกำจัดเพลี้ย ปฏิบัติตามอัตราการผสมที่แนะนำและใช้เป็นประจำ ผู้ปลูกทุเรียนสามารถปกป้องต้นทุเรียนจากเพลี้ยด้วยมาคา ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดีได้ด้วย FK-1
อ่าน:8143
วิธีปลูกทุเรียนอย่างละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว
วิธีปลูกทุเรียนอย่างละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว
เมื่อถึงฤดูกาลของผลไม้สีเหลืองกลิ่นยั่วใจ คนที่ชื่นชอบการทานทุกเรียนจะต้องยอมจ่ายเงินซื้อทุเรียนกินทุกครั้งไป และบางคนอาจอยากรู้สึกลองปลูกทุเรียนดูบ้าง แต่หลายคนก็บอกว่าปลูกทุเรียนมันยาก มักไม่ค่อยรอด เรามีคำแนะนำการปลูกทุเรียนจากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาเป็นข้อมูลให้เบื้องต้น

พันธุ์ทุเรียน

ชะนี
ข้อดี

-ทนทานต่อโรครากเน่า โคนเน่าพอสมควร
-ออกดอกง่าย
-เนื้อแห้ง รสดี สีสวย

ข้อเสีย

-ออกดอกดกแต่ติดผลยาก
-เป็นไส้ซึมง่าย
-อ่อนแอต่อโรคใบติด

หมอนทอง

ข้อดี

-ราคาสูงกว่าพันธุ์อื่น
-ติดผลดีมาก น้ำหนักผลดี
-เนื้อมาก เมล็ดลีบ มีกลิ่นน้อย เนื้อละเอียดแห้ง ไม่เละ ผลสุกแล้วเก็บไว้ได้นาน
-ไม่ค่อยเป็นไส้ซึม

ข้อเสีย

-อ่อนแอต่อโรครากเน่าโคนเน่า

ก้านยาว

ข้อดี

-ติดผลดี
-ราคาค่อนข้างดี
-น้ำหนักผลดี

ข้อเสีย

-ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรค รากเน่า โดนเน่า
-เปลือกหนา
-เนื้อน้อย
-เป็นไส้ซึมค่อนข้างง่าย
-ผลสุกเก็บไว้ได้ไม่นาน กันผลแตกง่าย
-อายุการให้ผลช้า

กระดุม

ข้อดี

-ไม่มีปัญหาไส้ซึมเพราะเป็นพันธุ์เบาเก็บเกี่ยวก่อนฝนตกชุก
-ออกดอกเร็วผลแก่เร็วจึงขายได้ราคาดีในช่วงต้นฤดู
-ผลดก ติดผลง่าย
-อายุการให้ผลเร็ว

ข้อเสีย

-อ่อนแอต่อโรครากเน่าโดนเน่า

การเลือกพื้นที่ปลูกทุเรียนควรคำนึงถึง

1.แหล่งน้ำ ต้องมีแหล่งน้ำจืดให้ต้นทุเรียนได้เพียงพอตลอดปี

2.อุณหภูมิและความชื้น ทุเรียนชอบอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ในช่วงประมาณ 25-30 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศประมาณ 75-85% ถ้าปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศแห้งแล้งมีอากาศร้อนจัดเย็นจัดและมีลมแรงจะพบปัญหาใบไหม้หรือใบร่วง ต้นทุเรียนไม่เจริญเติบโตหรือเติบโตช้า ให้ผลผลิตช้าและน้อยไม่คุ้มต่อการลงทุน

3. สภาพดินควรเป็นดินร่วนดินร่วนปนทรายดินเหนียวปนทรายที่มีการระบายนํ้าดีและมีหน้าดินลึกเพราะทุเรียนเป็นพืชที่อ่อนแอต่อสภาพนํ้าขังความเป็นกรดด่างของดินอยู่ระหว่าง 5.5-6.5 ถ้าจําเป็นต้องปลูกทุเรียนในสภาพดินทรายจําเป็นต้องนําหน้าดินจากแหล่งอื่นมาเสริมต้องใส่ปุ๋ยคอกและต้องดูแลเรื่องการให้นํ้ามากเป็นพิเศษแหล่งนํ้าต้องเพียงพอ

การปลูก

ฤดูปลูก ถ้ามีการจัดระบบการให้นํ้าอย่างมีประสิทธิภาพสามารถดูแลให้นํ้ากับต้นทุเรียนได้สมํ่าเสมอช่วงหลังปลูกควรปลูกตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายนแต่ถ้าหากจัดระบบนํ้าไม่ทันหรือยังไม่อาจดูแลเรื่องนํ้าได้ควรปลูกต้นฤดูฝนเตรียมพื้นที่การปลูกทุเรียน

1. ไถขุดตอขุดรากไม้เก่าออกจากแปลง
- พื้นที่ดอนไม่มีปัญหานํ้าทวมขัง : ไถกําจัดวัชพืชอย่างเดียว
- พื้นที่ดอนมีแอ่งที่ลุ่มนํ้าขัง : ไถปรับสภาพพื้นที่ให้เรียบ
- พื้นที่ลุ่มหรือตํ่ามีนํ้าท่วมขัง : ทําทางระบายนํ้าหรือยกร่อง

2. กําหนดระยะปลูก
ระยะระหว่างต้นและระยะระหว่างแถวด้านละ 9 เมตรปลูกได้ไร่ละ 20 ต้นการทําสวนขนาดใหญ่ควรขยายระยะระหว่างแถวให้กว้างขึ้นเพื่อสะดวกต่อการนําเครื่องจักรกลต่างๆไปทํางานในระหว่างแถว
3. วางแนวและปักไม้ตามระยะปลูกที่กําหนด
วางแนวกําหนดแถวปลูกโดยคํานึงว่าแนวปลูกขวางความลาดเทของพื้นที่หรืออาจกําหนดในแนวตั้งฉากกับถนนหรือกําหนดแถวปลูกไปในแนวทิศตะวันออกตะวันตกและถ้ามีการจัดวางระบบนํ้าต้องพิจารณาแนวทางจัดวางท่อในสวนด้วยจากนั้นจึงปักไม้ตามระยะที่กําหนดเพื่อขุดหลุมปลูกต่อไปวิธีการปลูกทุเรียนทําได้ 2 ลักษณะ

1. วิธีการขุดหลุมปลูกเหมาะกับสวนที่ไม่มีการวางระบบนํ้า
2. วิธีการปลูกแบบไม่ขุดหลุมเหมาะกับสวนที่จัดวางระบบนํ้ามีข้อดีคือประหยัดแรงงานค่าใช้จ่ายในการขุดหลุมดินระบายนํ้าและอากาศดีรากเจริญเร็ว

การปลูกทุเรียนแบบขุดหลุมปลูก

1. ขุดหลุมมีขนาดกว้างยาวและลึกด้านละ 50 เซนติเมตร

2. ผสมปุ๋ยคอกเก่าประมาณ 5 กิโลกรัมและปุ๋ยหินฟอสเฟตครึ่งกิโลกรัมคลุกเคล้ากับดินที่ขุดขึ้นมากลบกลับคืนไปในหลุมสูงประมาณ 2 ใน 3 ของหลุม

3. เตรียมต้นกล้าที่แข็งแรงสมบูรณ์ไม่เป็นโรคไม่มีแมลงทําลายและมีใบยอดคู่สุดท้ายแก้ระบบรากแผ่กระจายดีไม่ขดม้วนงออยู่ก้นถุง

4. ใช้มีดกรีดก้นถุงออกถ้าพบรากขดงออยู่ก้นถุงให้ตัดออก

5. วางถุงต้นกล้าที่ตัดก้นถุงออกแล้ววางลงตรงกลางหลุมจัดให้ตรงแนวกับต้นอื่นๆ พร้อมทั้งปรับระดับสูงตํ่าของต้นทุเรียนให้รอยต่อระหว่างรากกับลําต้นหรือระดับดินปากถุงเดิมสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย

6. ใช้มีดกรีดด้านข้างถุงจากล่างขึ้นบนทั้งสองด้าน

7. ดึงถุงพลาสติกออกระมัดระวังอย่าให้ดินในถุงแตก

8. กลบดินที่เหลือลงไปในหลุมอย่ากลบดินสูงถึงรอยเสียบยอดหรือรอยทาบ

9. ปักไม้หลักข้างต้นทุเรียนที่ปลูกแล้วพร้อมทั้งผูกเชือกยึดไว้เพื่อป้องกันลมพัดโยก

10. กดดินบริเวณโคนต้นหาวัสดุคลุมโคนต้นแล้วรดนํ้าตามให้โชก

11. จัดทําร่มเงาให้ต้นทุเรียนที่เพิ่งปลูกโดยใช้ทางมะพร้าวทางจากแผงหญ้าคาทางระกําหรือตาข่ายพรางแสงเมื่อทุเรียนตั้งตัวดีแล้วควรปลดออกหรืออาจปลูกไม้เพื่อให้ร่มเงาเช่น กล้วยก็จะช่วยเป็นร่มเงาและเพิ่มความชื้นในสวนทุเรียนได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่อากาศแห่งและมีแสงแดดจัด

12. แกะผ่าพลาสติกที่พันรอยเสียบยอดหรือทาบออกเมื่อปลูกไปแล้วประมาณ1-2 เดือน

การปลูกทุเรียนแบบไม่ขุดหลุม

1. โรยปุ๋ยหินฟอสเฟต 500 กรัมหรือประมาณหนึ่งกระป๋องนมครึ่งตรงตําแหน่งที่ต้องการปลูกกลบดินบางๆ

2. นําต้นพันธุ์มาวางแล้วถากดินข้างๆ ขึ้นมาพูนกลบแต่ถ้าหากเป็นดินร่วนปนทรายดินทรายดินจะไม่เกาะตัวกันควรใช้วิธีขุดหลุมปลูกหรือจะใช้วิธีดัดแปลง

3. วิธีดัดแปลงคือนําหน้าดินจากแหล่งอื่นมากองตรงตําแหน่งที่จะปลูกกองดินควรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ1เมตรสูง15 เซนติเมตรแหวกกลางกองดินโรยปุ๋ยหินฟอสเฟตในช่องที่แหวกไว้กลบดินบางๆ วางต้นพันธุ์ดีลงตรงช่องที่แหวกไว้กลบดินทับ

4. การแกะถุงออกต้องระมัดระวังอย่าให้ดินแตกอาจทําได้โดยกรีดก้นถุงออกก่อนแล้วนําไปวางในตําแหน่งที่ปลูกกรีดถุงพลาสติกให้ขาดจากล่างขึ้นบนแล้วจึงค่อยๆ ดึงถุงพลาสติกออกเบาๆ

5. ระมัดระวังอย่ากลบดินให้สูงถึงรอยเสียบยอดหรือรอยทาบ

6. หาวัสดุคลุมโคนและจัดทําร่มเงาให้กับต้นทุเรียนเหมือนการปลูกโดยวิธีขุดหลุม

การปฏิบัติดูแลรักษาทุเรียน

การปฏิบัติดูแลทุเรียนในช่วงก่อนให้ผลผลิต

เป็นสิ่งสําคัญที่จะทําใหญ่ทุเรียนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และให้ผลผลิตได้เร็วขึ้น

1.ในระหว่างรอทุเรียนให้ผลผลิตในช่วงแรกควรปลูกพืชแซมเสริมรายได้โดยเลือกพืชให้ตรงกับความต้องการของตลาด

2. เมื่อตรวจพบทุเรียนตายหลังปลูกให้ทําการปลูกซ่อม

3. การให้นํ้าช่วงเวลาหลังจากปลูกจะตรงกับฤดูฝนถ้ามีฝนตกหนักควรทําทางระบายนํ้าและตรวจดูบริเวณหลุมปลูกถ้าดินยุบตัวเป็นแอ่งมีนํ้าขังต้องพูนดินเพิ่มถ้าฝนทิ้งช่วงควรรดนํ้าให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอในปีต่อๆไปควรดูแลรดนํ้าให้ต้นไม้ผลอย่างสมํ่าเสมอและในช่วงฤดูแล้งควรใช้วัสดุคลุมดินเพื่อช่วยรักษาความชื้นในดินเช่นฟางข้าวหญ้าแห้ง

4. การตัดแต่งกิ่ง
ปีที่1-2 ไม่ควรตัดแต่ง ปล่อยให้ต้นทุเรียนเจริญเติบโตอย่างเต็มที่
ปีต่อๆ ไปตัดแต่งกิ่งแห้งกิ่งแขนงกิ่งกระโดงในทรงพุ่มกิ่งเป็นโรคออกเลี้ยงกิ่งแขนงที่สมบูรณ์ที่อยู่ในแนวขนานกับพื้น (กิ่งมุมกว้าง) ไว้ในปริมาณและทิศทางเหมาะสมโดยให้กิ่งล่างสุดอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 80-100 เซนติเมตร

5. การป้องกันกําจัด
ชวงแตกใบอ่อน : ควรป้องกันกําจัดโรคใบติดเพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยไฟไรแดงช่วงฤดูฝน:ป้องกันกําจัดโรครากเน่าโคนเน่าและควบคุมวัชพืชโดยการปลูกพืชคลุมดินและอาจจะกําจัดโดยใช้แรงงานขุดถากถอนตัดพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเพราะต้นทุเรียนยังเล็กอยู่ละอองสารเคมีอาจจะไปทําลายต้นทุเรียน

6. การทําร่มเงา
ในช่วงฤดูแล้งแสงแดดจัดมากทําให้ทุเรียนใบไหม้ได้ ควรทําร่มเงาให้

7. การใส่ปุ๋ยควรทําดังนี้
- ใส่ปุ๋ยหลังจากตัดแต่งกิ่ง-
- ใส่ปุ๋ยพร้อมกับการทําโคน คือถากวัชพืชบริเวณใต้ทรงพุ่มหว่านปุ๋ยและพรวนดินนอกชายพุ่มขึ้นมากลบใต้ทรงพุ่มให้มีลักษณะเป็นหลังเต่า และขยายขนาดของเนินดินให้กว้างขึ้นตามขนาดของทรงพุ่มหรือจะใส่ปุ๋ยโดยวิธีใช้ไม้ปลายแหลมแทงดินเป็นรูหยอดปุ๋ยใส่และปิดหลุมเป็นระยะให้ทั่วบริเวณใต้ทรงพุ่มวิธีหลังนี้แม้จะเปลืองแรงงานแต่ช่วยลดการสูญเสียของปุ๋ยจากการระเหยหรือถูกนํ้าชะพา
- หว่านปุ๋ยคอกก่อนและตามด้วยปุ๋ยเคมี
- ควรใส่ปุ๋ยในบริเวณใต้ทรงพุ่มโดยรอบและให้ห่างจากโคนต้นประมาณ 20-30เซนติเมตรขึ้นไปขึ้นกับขนาดทรงพ่มปริมาณและเวลาใส่ปุ๋ย
ปีที่1 : ใส่ปุ๋ยและทําโคน 4 ครั้ง (เดือนเว้นเดือน)
ครั้งที่1-3 ใส่ปุ๋ยคอก 5 กิโลกรัมต่อต้น (ประมาณ1ปีบ)
ครั้งที่ 4 - ใส่ปุ๋ยคอก 5 กิโลกรัมต่อต้น (ประมาณ1ปีบ)

- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร15-15-15 หรือ16-16-16 ประมาณ150-200 กรัมต่อต้น (ครึ่งกระป๋องนมข้น)ปีต่อๆไป(ระยะที่ทุเรียนยังไม่ให้ผลผลิต):ใส่ปุ๋ยและทําโคน 2 ครั้ง (ต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน)ครั้งที่1 (ต้นฝน) ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร15-15-15 หรือ16-16-16ประมาณครึ่งถึง 3 กิโลกรัมต่อต้นครั้งที่ 2 (ปลายฝน) ใส่ปุ๋ยคอก15-50 กิโลกรัมต่อต้น (ประมาณ 3-10 ปีบ)ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร15-15-15 หรือ16-16-16 ประมาณครึ่งถึง 3 กิโลกรัมต่อต้นปริมาณปุ๋ยเคมีที่ใส่ในแต่ละครั้งขึ้นกับขนาดของทรงพุ่มโดยยึดหลักว่าวัดจากโคนต้นมายังชายพุ่มเป็นเมตรได้เท่าไรคือจํานวนปุ๋ยเคมีที่ใส่เป็นกิโลกรัมเช่นระยะจากโคนต้นถึงชายพุ่ม1เมตรใส่ปุ๋ย1กิโลกรัมระยะจากโคนต้นถึงชายพุ่ม 2 เมตรใส่ปุ๋ย 2 กิโลกรัมระยะจากโคนต้นถึงชายพุ่ม 2 เมตรครึ่งใส่ปุ๋ย 2 กิโลกรัมครึ่ง

การปฏิบัติดูแลทุเรียนในช่วงให้ผลแล้ว

เป็นสิ่งสําคัญที่จะทําให้ทุเรียนออกดอกติดผลมากและให้ผลผลิตคุณภาพดีการเตรียมต้นให้พร้อมที่จะออกดอกคือการเตรียมให้ต้นทุเรียนมีความสมบูรณ์มีอาหารสะสมเพียงพอเมื่อทุเรียนมีใบแก่ทั้งต้นและสภาพแวดล้อมเหมาะสมฝนแล้งดินมีความชื้นตํ่าอากาศเย็นลงเล็กน้อยทุเรียนก็จะออกดอกขั้นตอนต่างๆ จะต้องรีบดําเนินการภายหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตดังนี้

1. การตัดแต่งกิ่ง
หลังเก็บเกี่ยวให้รีบตัดแตงกิ่งแห้งกิ่งเป็นโรคกิ่งแขนงด้านในทรงพุ่มออกโดยเร็วทารอยแผลที่ตัดด้วยสารเคมีป้องกันกําจัดเชื้อราหรือปูนแดงกินกับหมาก
2. หลังตัดแต่งกิ่งให้กําจัดวัชพืชและใส่ปุ๋ยทันที
- ปุ๋ยคอก15-50 กิโลกรัมต่อต้น (ประมาณ 3-10 ปีบ)
- ปุ๋ยเคมีสูตร15-15-15 หรือ16-16-16 ในอัตรา 3-5 กก. ต่อต้น (ทุเรียนต้นที่ขาดความสมบูรณ์ต้องการปุ๋ยมากกว่าทุเรียนต้นที่มีความสมบูรณ์อยู่แล้วทุเรียนต้นที่ให้ผลผลิตไปมากต้องการปุ๋ยมากกว่าทุเรียนที่ให้ผลผลิตน้อย)

3. ในช่วงฤดูฝน

-ถ้าฝนตกหนักจัดการระบายนํ้าออกจากแปลงปลูก

- ถ้าฝนทิ้งช่วงให้รดนํ้าแก่ต้นทุเรียน

- ควบคุมวัชพืชโดยการตัดและหรือใช้สารเคมี

- ป้องกันกําจัดโรคแมลงเช่นโรครากเน่าโคนเน่าโรคใบติดโรคแอนแทรกโนสเพลี้ยไก่แจ ไรแดงและเพลี้ยไฟ


4. ในช่วงปลายฤดูฝน


-เมื่อฝนทิ้งช่วงใหญ่ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24_ 9-24-24 หรือ12-24-12 2-3 กก.ต่อต้นเพื่อช่วยในการออกดอก

- ให้กําจัดวัชพืชใต้ทรงพุ่มกวาดเศษหญ้าและใบทุเรียนออกจากโคนต้นเพื่อให้ดินแห้งเร็วขึ้น

-งดการให้นํ้า 10-14 วันเมื่อสังเกตเห็นใบทุเรียนเริ่มลดลงต้องเริ่มให้นํ้าทีละน้อยเพื่อกระตุ้นให้ตามดอกเจริญอย่าปล่อยให้ขาดนํ้านานจนใบเหลืองใบตกเพราะตาดอกจะไม่เจริญและระวังอย่าให้นํ้ามากเกินไปเพราะช่อดอกอาจเปลี่ยนเป็นใบได้วิธีให้นํ้าที่เหมาะสมคือให้นํ้าแบบโชยๆ แล้วเว้นระยะสังเกตอาการของใบและดอกเมื่อเห็นดอกระยะไข่ปลามากพอแล้วก็เพิ่มปริมาณให้มากขึ้นเรื่อยๆจนสู่สภาวะปกติ

เอกสารประกอบการเรียบเรียง
1. สํานักงานส่งเสริมการเกษตรภาคกลาง_ 2534_ เอกสารวิชาการการบริหารศัตรูไม้ผลโดยวิธีผสาน. ชัยนาท. หน้า1/1-1/21.
2. สํานักงานส่งเสริมการเกษตรภาคตะวันออก_ 2534_ ทุเรียนภาคตะวันออก. ระยอง. 118หนา.
3. สมาคมชาวสวนผลไม้จังหวัดระยองและสํานักงานเกษตรจังหวัดระยอง_2536_ บันทึกชาวสวนผลไม้_ ระยอง. 102 หน้า.
4. ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี_ 2533_ ปัจจัยและเทคนิคการเพิ่มการติดผลในทุเรียน. เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรเทคโนโลยีเพื่อการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพ. วันที่ 27 ธันวาคม2533. 39 หน้า.
5. ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี_ 2534_ ปัจจัยและการจัดการเพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิตของทุเรียน.เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรเทคโนโลยีเพื่อการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพวันที่ 9มกราคม 2534. 26 หน้า.
6. ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี_ 2534_ การเตรียมสภาพต้นเพื่อการชักนําให้ออกดอก. เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรเทคโนโลยีเพื่อการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพวันที่13 มิถุนายน2534. 16 หน้า.
7. ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี_ 2536. เอกสารวิชาการพัฒนาการใช้สารคัลทาร์กับการผลิตทุเรียนก่อนฤดู. กรมวิชาการเกษตร_30 หน้า.8. หิรัญหิรัญประดิษฐ์และคณะ_ 2536. เทคนิคการผลิตทุเรียนก่อนฤดู_ วารสารส่งเสริมการเกษตรปีที่ 23 ฉบับที่ 67 มิถุนายน 2536. หน้า 2-9.

ข้อมูลจาก http://www.farmkaset..link..
อ่าน:6566
3578 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 8 รายการ
|-Page 2 of 358-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
โรคถั่วฝักยาว ราแป้งถั่วฝักยาว อาการใบเหลือง ใบไหม้ ในถั่วฝักยาว
Update: 2564/08/22 22:28:51 - Views: 4011
กำจัดเชื้อรา กาแฟ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/09/22 10:10:14 - Views: 3432
วิเคราะห์ตลาดทุเรียน แนวโน้มปี 2568
Update: 2567/11/20 09:22:37 - Views: 179
พืชออกดอก แต่ติดโรคไม่สมบูรณ์ ป้องกันได้ตั้งแต่ต้น
Update: 2567/05/20 09:13:53 - Views: 3625
โรคไหม้ข้าว โรคข้าวใบไหม้
Update: 2564/08/09 10:20:20 - Views: 3899
การเพิ่มผลผลิตทุเรียนให้สูงสุดในช่วงติดผลด้วยเทคนิคการเพาะปลูกและปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1
Update: 2566/05/19 14:13:30 - Views: 3447
ปลูกมันสำปะหลัง ใช้ ฮิวมิคFK บำรุงราก แทงหัวไว โตสมบูรณ์ ดินดี ปลูกอะไรก็งาม
Update: 2567/10/22 09:41:40 - Views: 114
ผสมปุ๋ยสำหรับอ้อยตอ สูตร 15-5-20 ใช้เอง ลดต้นทุน เร่งอ้อยโตให้โตไวผลผลิตดี
Update: 2566/01/30 07:27:06 - Views: 3817
ทุเรียนใบไหม้ ใบจุด แอนแทรคโนส โคนเน่า ราแป้ง ราสีชมพู โรคต่างๆจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส
Update: 2562/08/18 15:11:54 - Views: 5208
มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 72 และ KU 50 ทนต่อโรคใบด่าง และควรเลือกใช้ท่อนพันธุ์ จากแหล่งที่ปลอดโรค หยุดการแพร่ระบาด โรคมันสำปะหลังใบด่าง ได้เป็นอย่างดี
Update: 2563/06/13 15:50:29 - Views: 3637
ยากำจัด เพลี้ยไฟแตงโม แตงโมใบหงิก แตงโมยอดตั้ง ไอ้โต้ง แตงโม เพลี้ยต่างๆ ฉีดพ่น มาคา
Update: 2564/09/25 03:14:15 - Views: 3545
ยาแก้พริกใบหงิก พริกใบม้วน เพราะเพลี้ยไฟ และเพลี้ยต่างๆเข้าทำลาย ยาแก้โรคพริกที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ผลเน่า ใบไหม้ ใบแห้ง
Update: 2563/07/02 10:48:23 - Views: 4081
วิธีการไถกลบตอซังข้าว
Update: 2564/08/24 01:37:08 - Views: 3682
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนผีเสื้อกินใบ ใน ผักบุ้ง และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/01 15:02:11 - Views: 3470
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ย ในผักชีลาว และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/15 14:44:56 - Views: 3496
ปุ๋ยสำหรับอ้อย เพื่อบำรุงผลผลิต การแก้โรคอ้อย ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ป้องกันกำจัดเพลี้ย ในไร่อ้อย
Update: 2563/06/18 17:25:32 - Views: 4711
ข้าวแดง ข้าวลาย ข้าวหาง ข้าวดีด ข้าวเด้ง
Update: 2564/08/26 22:39:23 - Views: 3781
มะนาวใบไหม้ ใบเหลือง ขอบใบแห้ง เพราะโรคที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส
Update: 2564/08/03 02:58:39 - Views: 4549
กล้วย ใบไหม้ ใบจุด โรคตายพลาย ราแป้ง รากเน่า โรคราต่างๆ กำจัดด้วย ไอเอส และเร่งฟื้นฟูด้วย ปุ๋ย FK-T
Update: 2567/04/04 11:24:46 - Views: 3631
สารอินทรีย์สำหรับป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นกาแฟ
Update: 2566/05/09 10:59:01 - Views: 3457
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022