Trichorex เป็นเชื้อราไตรโคเดอร์มายี่ห้อหนึ่งที่ใช้สำหรับป้องกันและกำจัดโรคใบจุดสีน้ำตาลในต้นชา โรคใบจุดสีน้ำตาลหรือที่เรียกว่า Cercospora leaf spot เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีและใบร่วงในใบชา สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ผลผลิตที่ลดลงและคุณภาพชาที่ต่ำลง

Trichorex เป็นสารกำจัดแมลงชีวภาพที่มีเชื้อรา Trichoderma สายพันธุ์หนึ่งซึ่งทราบกันดีว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดโรคใบจุดสีน้ำตาล เชื้อราไตรโคเดอร์มาสายพันธุ์ใน Trichorex ผลิตเอนไซม์ที่ทำลายผนังเซลล์ของเชื้อราใบจุดสีน้ำตาล จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อใบชา

ข้อดีประการหนึ่งของการใช้ Trichorex คือเป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ไม่เป็นอันตรายต่อแมลงที่มีประโยชน์หรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของต้นชา นอกจากนี้ ทริโคเร็กซ์ยังใช้ง่ายและสามารถใช้ร่วมกับสารฆ่าเชื้อราและยาฆ่าแมลงอื่นๆ

ประโยชน์อีกประการของการใช้ Trichorex คือช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของต้นชา สายพันธุ์ Trichoderma ใน Trichorex สามารถตั้งรกรากที่รากของต้นชา สร้างความสัมพันธ์ทางชีวภาพที่ช่วยปรับปรุงการดูดซึมสารอาหารและน้ำ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ต้นชาที่แข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้นซึ่งสามารถต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืชได้ดีขึ้น

Trichorex สามารถใช้กับต้นชาในระยะการเจริญเติบโตต่างๆ รวมถึงระยะต้นกล้า การเจริญเติบโตของพืช และระยะสืบพันธุ์ ปริมาณที่แนะนำจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะการเจริญเติบโตของต้นชาและความรุนแรงของการเข้าทำลายของใบจุดสีน้ำตาล โดยทั่วไปจะใช้เป็นสเปรย์หรือเปียกโชก

สรุปได้ว่า Trichorex เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันและกำจัดโรคใบจุดสีน้ำตาลในต้นชา การใช้สามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพและผลผลิตของต้นชาในขณะที่ลดความจำเป็นในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เป็นธรรมชาติ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ผู้ปลูกชาควรพิจารณา

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่า

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

การทำธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับ เรื่องของกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดก็ตามจะต้องมีกฏหมายและมีมาตรฐานของธุรกิจนั้นๆที่ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้เข้ามาหากำไรจากการขายสินค้าและบริการที่ไม่มีคุณภาพอันจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะในหมวดหมู่ของอาหารเราจะคุ้นหูและรู้จักกันดีกับหน่วยงานที่เรียกว่าสำนักคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขผู้มีหน้าที่ให้การรับรองแก่สินค้าประเภทอาหารในลักษณะของเครื่องหมาย อย.

คำถามคือว่าแล้วจำเป็นแค่ไหนที่หากเราจะทำธุรกิจอาหารขึ้นมาจะต้องขออนุญาติทุกครั้งไปหรือไม่ และเพื่อให้ทุกคนเข้าใจในเรื่องนี้ตรงกันจะพาทุกท่านไปดูทีละขั้นตอนกับบทนิยมแห่งคำว่าอาหารไปจนถึงขั้นตอนการขอใบอนุญาต เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินธุรกิจของทุกคน นิยามคำว่าอาหารตามพระราชบัญญัติ อาหาร ในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 หมายถึง วัตถุทุกชนิดที่คนกิน ดื่ม หรือนำเข้าสู่ร่างการ แต่ ไม่รวมถึงยา วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หรือยาเสพติดให้โทษ

นอกจากนี้อาหารยังรวมถึงวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหาร วัตถุเจือปนอาหาร สี เครื่องปรุงแต่งกลิ่นรสด้วย โดยปัจจุบันนี้ประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ ได้รวมตัวกันเป็นชมรมหรือสหกรณ์ นำวัตถุดิบที่ได้จากการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อบริโภคหรือจำหน่ายเป็นการช่วยลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ เช่น เครื่องดื่มทำจากผลไม้ท้องถิ่น เครื่องดื่มจากสมุนไพร กะปิ น้ำปลา ขนมหวาน อาหารขบเคี้ยว เป็นต้น

ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะต้องสะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพหรือมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ผู้ผลิตอาจต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายต่อไปซึ่งก็มีคำถามตามมาอีกว่าอ้าว! แล้วอาหารแบบไหนละที่ต้องขออนุญาตในการผลิต โดยในที่นี้ได้แบ่งไว้เป็น 2 หมวดหลักๆคือ 1.กลุ่มอาหารที่ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. อาหารกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ไม่แปรรูปหรือถ้าแปรรูปก็จะใช้กระบวนการผลิตง่าย ๆ ในชุมชน ผู้บริโภคจะต้องนำมาปรุงหรือผ่านความร้อนก่อนบริโภค อาหารกลุ่มนี้ผู้ผลิตที่มีสถานที่ผลิตไม่เข้าข่าย โรงงาน (ใช้อุปกรณ์หรือเครื่องจักรต่ำกว่า 5 แรงม้า หรือคนงานน้อยกว่า 7คน) สามารถผลิตจำหน่ายได้โดยไม่ต้องมาขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แต่ต้องแสดงฉลากอาหารที่ถูกต้องไว้ด้วย 2.กลุ่มอาหารที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. อาหารกลุ่มนี้เป็นอาหารที่มีการแปรรูปเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรืออาหารสำเร็จรูปแล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้บริโภคในระดับต่ำ ปานกลางหรือสูง แล้วแต่กรณี ได้แก่

อาหารที่ต้องมีฉลาก อาหารกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน หรืออาหารควบคุมเฉพาะ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องขออนุญาตสถานที่ผลิตอาหารและขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร หรือจดทะเบียนอาหาร หรือแจ้งรายละเอียดของอาหารแต่ละชนิดแล้วแต่กรณี ได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

เอกสารสำคัญที่ต้องจัดเตรียมเพื่อขอจัดตั้งโรงงาน/สถานที่ผลิต สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจ สำเนาทะเบียนบ้านผู้มีอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (เฉพาะกรณีเป็นนิติบุคลล) สำเนา ภพ.20 (เฉพาะกรณีเป็นนิติบุคคล) สำเนาทะเบียนบ้านของร้าน หรือบริษัท (กรณีที่อยู่ดังกล่าว ไม่ตรงกับที่อยู่ผู้มีอำนาจ) แผนที่ตั้งของร้าน หรือบริษัท แผนผังภายในร้าน หรือบริษัท ระบุ สถานที่ผลิต_ บรรจุ_ เก็บสินค้า ให้ชัดเจน สินค้าตัวอย่างพร้อม ฉลาก ภาพจาก goo.gl/aLQjA8 อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตผลิตอาหาร ใช้คนงานตั้งแต่ 7 -19 คน โดยไม่ใช้เครื่องจักร จนถึงเครื่องจักรไม่ถึง 5 แรงม้า (เข้าข่ายโรงงาน) 3_000 บาท ใช้คนงานตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป โดยไม่ใช้เครื่องจักรจนถึงเครื่องจักรไม่ถึง 5 แรงม้า (เข้าข่ายโรงงาน) 5_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 5- 91 แรงม้า 6_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 10 -24 แรงม้า 7_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 25 – 49 แรงม้า 8_000 บาท ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ 50 แรงม้า ขึ้นไป 10_000 บาท

สำหรับกรณีไม่เข้าข่ายโรงงาน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น (ฟรี) หลักฐานสำคัญเพื่อใช้ขอรับเลขสารบบอาหาร (อย.) ใบจดทะเบียนอาหาร/แจ้งรายละเอียดอาหาร (แบบ สบ.5) จำนวน 2 ฉบับ สำเนาการได้รับอนุญาตตั้งสถานที่ผลิต ใบรับรองสถานที่ผลิตอาหารที่เทียบเท่าเกณฑ์ Primary GMP ภาพจาก goo.gl/kh2tba สรุป 4 ขั้นตอนการขอเครื่องหมาย อย. จัดเตรียมสถานที่ผลิตอาหารให้ได้ตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP: GOOD MANUFACTURING PRACTICE) จัดเตรียมเอกสารโดยติดต่อขอข้อมูลได้ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอที่เป็นที่ตั้งของสถานที่ผลิตอาหารทุกแห่ง ยื่นเอกสารขออนุญาตตั้งสถานที่ผลิตอาหาร พร้อมนัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อตรวจสถานที่ ยื่นขอเอกสารอนุญาตขอรับเลขสารบบ 13 หลัก (เลข อย.) ตามแต่ชนิดของผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่ม ได้แก่ อาหารควบคุมเฉพาะ_ อาหารที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน และอาหารที่ต้องมีฉลาก สถานที่ยื่นคำขออนุญาต

ในกรณีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ (0ne stop service center )สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรณีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นคำขอ ณ สำนักงานสาธารณสุขในจังหวัดนั้นๆ นี่คือเรื่องพื้นฐานในทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่สันทัดในการเดินเอกสารก็มีหลายบริษัทที่เข้าทำหน้าที่รับดำเนินการแทน แต่เราก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายทางที่ดีเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากทำเองก็จะช่วยลดต้นทุนได้ดีกว่าสำคัญคือสินค้าเรามีคุณภาพสถานที่ผลิตได้มาตรฐานทุกอย่างก็ผ่านอนุมัติง่ายและเร็วแน่นอน แต่สำหรับท่านใดที่มองว่าอยากเริ่มธุรกิจแบบที่ไม่ต้องยุ่งยากไม่ต้องขอจดทะเบียนให้วุ่นวายก็อาจจะเลือกลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ซึ่งเรามีให้เลือกมากมายตามความต้องการของทุกท่าน

ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..

เชื้อราไตรโคเดอร์มา Trichorex เป็นเชื้อราไตรโคเดอร์มายี่ห้อหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันและกำจัดโรคราน้ำค้างในแตงโมโดยเฉพาะ

โรคราน้ำค้างเป็นโรคทั่วไปที่ส่งผลต่อแตงโม ทำให้เกิดเป็นหย่อมๆ สีเหลืองและสีน้ำตาลบนใบและลำต้นของพืช หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแล อาจนำไปสู่การสูญเสียผลผลิตอย่างมากและคุณภาพของผลไม้ลดลง

เชื้อราไตรโคเดอร์มาเป็นตัวห้ำตามธรรมชาติของเชื้อโรคพืชหลายชนิด รวมทั้งโรคราน้ำค้าง พวกมันผลิตเอนไซม์ที่ทำลายผนังเซลล์ของเชื้อโรค ฆ่ามันอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันไม่ให้มันแพร่กระจาย

เชื้อรา Trichoderma Trichorex ใช้ฉีดพ่นทางใบของต้นแตงโม สามารถใช้เป็นมาตรการป้องกันเพื่อป้องกันโรคราน้ำค้างหรือเป็นการรักษาพืชที่ติดเชื้อแล้ว

นอกจากประสิทธิภาพในการป้องกันโรคราน้ำค้างแล้ว เชื้อรา Trichoderma Trichorex ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายประการสำหรับพืชแตงโม ช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของพืชและเพิ่มความสามารถในการต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืชอื่นๆ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเจริญเติบโตและการพัฒนาของราก ปรับปรุงการเจริญเติบโตและผลผลิตโดยรวมของพืช

เชื้อราไตรโคเดอร์มา Trichorex ใช้ง่ายและปลอดภัยทั้งพืชและคน เข้ากันได้กับสารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้บ่อยที่สุดและสามารถใช้ร่วมกับมาตรการควบคุมอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

โดยสรุปแล้ว เชื้อราไตรโคเดอร์มาไตรโคเร็กซ์เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมชาติสำหรับการป้องกันและกำจัดโรคราน้ำค้างในแตงโม ความสามารถในการปรับปรุงสุขภาพและความแข็งแรงของพืช ตลอดจนความเข้ากันได้กับมาตรการควบคุมอื่นๆ ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับผู้ปลูกแตงโมที่ต้องการปกป้องพืชผลของตนและเพิ่มผลผลิตให้ได้สูงสุด

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

การปลูกเสาวรสให้ได้ผลผลิตสูงสุด: บทบาทของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

เสาวรสหรือที่รู้จักกันในชื่อกรานาดิลลาเป็นผลไม้เมืองร้อนแสนอร่อยที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในหลายส่วนของโลก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สีสันที่สดใส และคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้มันเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในน้ำผลไม้ สมูทตี้ ของหวาน และการทำอาหารอื่นๆ เสาวรสยังเป็นพืชที่มีคุณค่าสำหรับเกษตรกร เนื่องจากสามารถปลูกได้ในสภาพอากาศที่หลากหลายและมีรอบการเก็บเกี่ยวที่ค่อนข้างสั้น

หากคุณเป็นเกษตรกรผู้ปลูกเสาวรส คุณอาจสนใจเรียนรู้วิธีเพิ่มผลผลิตพืชผลและปรับปรุงคุณภาพผลไม้ของคุณ วิธีหนึ่งที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้คือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูงอย่าง FK-1 ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกการปลูกเสาวรสและสำรวจประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

การปลูกเสาวรส: ภาพรวม

เสาวรสเป็นไม้เถาเลื้อยที่อยู่ในวงศ์ Passifloraceae มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ แต่ปัจจุบันได้รับการปลูกอย่างแพร่หลายในภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย เถาเสาวรสสามารถเติบโตได้ยาวถึง 20 ฟุต และต้องมีโครงสร้างรองรับ เช่น ระแนงบังตาหรือเสาเพื่อปีนขึ้นไป

ผลไม้มีขนาดเล็กและกลม มีผิวด้านนอกที่แข็งซึ่งมีสีตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีม่วงเข้ม เนื้อฉ่ำและเต็มไปด้วยเมล็ดเล็กๆ ที่กินได้และมีสารอาหารหนาแน่น ต้นเสาวรสมักจะปลูกจากการเพาะเมล็ดหรือการปักชำ และสามารถเริ่มออกผลได้ภายใน 6-12 เดือนหลังจากปลูก

เพื่อให้ได้ผลผลิตและคุณภาพสูงสุด ต้นเสาวรสต้องการการดูแลและบำรุงรักษาที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ การให้ปุ๋ย การตัดแต่งกิ่ง และการควบคุมศัตรูพืช นอกจากนี้ ต้นเสาวรสยังได้รับประโยชน์จากปุ๋ยที่สมดุลซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี

FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ: จุดเปลี่ยนของชาวสวนเสาวรส

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิตของพืช ประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสีที่สมดุล รวมทั้งสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยให้ปุ๋ยยึดเกาะกับพื้นผิวของพืชและปรับปรุงการดูดซึม

เมื่อใช้เป็นสเปรย์ทางใบ FK-1 สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วทางใบของต้นเสาวรส ทำให้พวกมันได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต สิ่งนี้สามารถส่งผลให้เติบโตเร็วขึ้น ขนาดผลใหญ่ขึ้น และเพิ่มความต้านทานต่อศัตรูพืชและโรค

หากต้องการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพียงผสมถุง 50 กรัมสองถุงเข้าด้วยกันในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นให้ทั่วใบของต้นเสาวรสของคุณ อย่าลืมใส่ปุ๋ยในช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆ เมื่ออุณหภูมิเย็นลงและพืชมีโอกาสน้อยที่จะเกิดความเครียดจากความร้อน

บทสรุป

หากคุณเป็นเกษตรกรผู้ปลูกเสาวรสที่ต้องการเพิ่มผลผลิตสูงสุดและปรับปรุงคุณภาพผลไม้ของคุณ ให้พิจารณาใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวของสารอาหารที่จำเป็นและเทคโนโลยีสารลดแรงตึงผิว FK-1 สามารถช่วยให้ต้นเสาวรสของคุณบรรลุศักยภาพสูงสุดและผลิตผลไม้ที่อร่อยและอุดมด้วยสารอาหาร ทำไมต้องรอ? ลองใช้ FK-1 วันนี้และดูความแตกต่างที่สามารถทำได้ในการเพาะปลูกเสาวรสของคุณ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

โรคราสีชมพูเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมทุเรียน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความสามารถในการตลาดของผลไม้เมืองร้อนอันเป็นที่รักนี้ ในการตอบสนองต่อความท้าทายนี้ ความพยายามในการวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวางได้นำไปสู่การค้นพบ IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม IS ควบคุมและยับยั้งเชื้อรา ซึ่งสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อราบนผิวใบทุเรียน นอกจากนี้ เมื่อใช้ร่วมกับอาหารเสริมพืช FK-T แล้ว IS ยังช่วยเร่งการฟื้นตัวจากการรุกรานของเชื้อรา ส่งผลให้ต้นทุเรียนแข็งแรงขึ้นและให้ผลผลิตดีขึ้น

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์

IS เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ก้าวล้ำในการต่อสู้กับโรคราสีชมพู ด้วยการใช้พลังของสารประกอบอินทรีย์ สารต่อต้านเชื้อราที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้สามารถกำจัดเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม การวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวางนำไปสู่การเลือกสารดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งกำหนดเป้าหมายและควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อราในต้นทุเรียนโดยเฉพาะ

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง IS มุ่งเน้นไปที่การจัดการสภาพแวดล้อมบนพื้นผิวของใบพืช ทำให้เกิดที่อยู่อาศัยที่ไม่เหมาะสมสำหรับเชื้อรา สิ่งนี้จะยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของพวกมัน กำจัดโรคราสีชมพูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น IS ยังช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับใบทุเรียน ทำให้สามารถป้องกันการโจมตีของเชื้อราได้ยาวนานขึ้น

FK-T อาหารเสริมพืช: เสริมสร้างสุขภาพทุเรียนและภูมิคุ้มกัน

เมื่อรวมกับ IS อาหารเสริมพืช FK-T จะปลดปล่อยคุณประโยชน์มากมายสำหรับต้นทุเรียน อาหารพืชที่ยอดเยี่ยมนี้ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งการเจริญเติบโต ช่วยให้เติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ใบเขียวชอุ่ม และการสังเคราะห์แสงที่เหมาะสม อาหารเสริมช่วยให้พืชสะสมสารอาหารที่จำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าพืชเหล่านั้นพร้อมสำหรับระยะออกดอกและติดผล

ข้อดีอย่างหนึ่งของอาหารเสริมพืช FK-T คือความสามารถในการเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมของต้นทุเรียน ทำให้ไม่อ่อนแอต่อการร่วงหล่นหรือได้รับผลกระทบที่เป็นอันตรายอื่นๆ เมื่อใช้เป็นประจำ FK-T ช่วยให้พืชได้รับสารอาหารที่เพียงพอ รวมถึงธาตุที่จำเป็น ส่งผลให้ต้านทานโรคได้มากขึ้น

นอกจากนี้ FK-T ยังมีบทบาทสำคัญในการเร่งการฟื้นตัวของต้นทุเรียนจากการรุกรานของเชื้อรา เมื่อให้ร่วมกับ IS อาหารเสริมพืชนี้จะช่วยฟื้นฟูต้นไม้ได้เร็วขึ้น ป้องกันไม่ให้ต้นโทรมและส่งเสริมการกลับสู่สุขภาพที่ดีอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ FK-T ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของพืช เสริมกลไกการป้องกันจากการโจมตีของเชื้อราในอนาคต

การทำงานร่วมกัน: IS และ FK-T รวมกัน

การผสมผสานระหว่าง IS และอาหารเสริมพืช FK-T พิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่น่ากลัวสำหรับชาวสวนทุเรียนที่ต่อสู้กับโรคราสีชมพู ด้วยการใช้คุณสมบัติต้านเชื้อราของ IS และความสามารถของ FK-T ในการปรับปรุงสุขภาพและภูมิคุ้มกันของพืช คู่หูแบบไดนามิกนี้นำเสนอวิธีการที่ครอบคลุมในการกำจัดและป้องกัน

คุณสมบัติต้านเชื้อราของ IS กำจัดเชื้อราที่มีอยู่บนใบทุเรียน ในขณะที่ FK-T ให้สารอาหารที่จำเป็นและช่วยให้พืชฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ไม่เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของโรคราสีชมพู แต่ยังสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันการโจมตีของเชื้อราในอนาคต แนวทางแบบองค์รวมนี้ช่วยให้ต้นทุเรียนแข็งแรงขึ้น ผลผลิตผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และเพิ่มความต้านทานต่อโรค

บทสรุป

การเกิดขึ้นของสารอินทรีย์ต้านเชื้อรา IS ได้นำความหวังใหม่มาสู่ชาวสวนทุเรียนที่ประสบปัญหาโรคราสีชมพู จากการวิจัยและพัฒนาอย่างพิถีพิถัน ทำให้ IS ควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราบนผิวใบทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการแพร่กระจายของเชื้อรา เมื่อใช้ร่วมกับอาหารเสริมพืช FK-T กระบวนการฟื้นตัวจากการบุกรุกของเชื้อราจะเร็วขึ้น นำไปสู่การฟื้นฟูต้นไม้อย่างรวดเร็วและแข็งแรง

เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนสามารถต่อสู้กับโรคราสีชมพูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพและความสามารถในการตลาดของผลทุเรียนของพวกเขา ด้วย IS และ FK-T ทางเลือกออร์แกนิกและปลอดภัย ชาวสวนทุเรียนสามารถปกป้องทุเรียนได้อย่างมั่นใจ


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์กำจัดโรคราสนิมในฝรั่ง

โรคราสนิมที่เกิดจากเชื้อราก่อโรคเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อต้นฝรั่งทั่วโลก เกษตรกรและนักวิจัยได้แสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมาเป็นเวลานานเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายนี้ หลังจากการวิจัยและพัฒนาอย่างมากมาย สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่เป็นที่รู้จักในชื่อ IS ได้กลายมาเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านโรคราสนิมในผลฝรั่ง มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด IS ใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อควบคุมและยับยั้งเชื้อรา มอบวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูงที่รับประกันสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของพืชผลฝรั่ง

วิธีดั้งเดิมในการต่อสู้โรคราสนิมในผลฝรั่งมักเกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีสังเคราะห์ ซึ่งไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์ แต่ยังส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เมื่อตระหนักถึงความต้องการทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า นักวิจัยจึงหันมาสนใจสารประกอบอินทรีย์และส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อรา ผลลัพธ์ของความพยายามของพวกเขาคือ IS ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยที่ใช้ประโยชน์จากพลังแห่งธรรมชาติเพื่อปกป้องต้นฝรั่ง

ข้อได้เปรียบที่สำคัญประการหนึ่งของ IS คือความสามารถในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อราบนผิวใบพืช ด้วยการควบคุมสภาวะที่ผิวใบอย่างระมัดระวัง IS จะจำกัดการพัฒนาของเชื้อรา และป้องกันไม่ให้เกิดโรคราสนิมได้ในที่สุด วิธีการที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ช่วยให้แน่ใจว่าต้นฝรั่งได้รับการปกป้องจากผลกระทบที่เป็นอันตรายของการติดเชื้อรา ทำให้พวกมันเติบโตและดึงศักยภาพสูงสุดออกมา

นอกจากคุณสมบัติในการต้านเชื้อราที่โดดเด่นแล้ว IS ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับผิวใบพืชอีกด้วย การยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นนี้ให้การปกป้องที่ยาวนาน ทำให้มั่นใจได้ว่าสารต้านเชื้อรายังคงอยู่แม้ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เมื่อติดแน่นกับใบ IS จะเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด สร้างเกราะป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่อโรคราสนิม

ที่สำคัญ IS ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติ จึงปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกษตรกรสามารถใช้ IS กับต้นฝรั่งได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค การยอมรับโซลูชันออร์แกนิกนี้ทำให้ผู้ปลูกสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตผลปลอดสารกำจัดศัตรูพืช ในขณะเดียวกันก็ปกป้องสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต

ยิ่งไปกว่านั้น IS ไม่เพียงแต่ต่อสู้กับโรคราสนิม แต่ยังส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของพืชอีกด้วย ด้วยการป้องกันการติดเชื้อรา สารต้านเชื้อราช่วยให้ต้นฝรั่งจัดสรรพลังงานเพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนามากกว่าการต่อสู้กับเชื้อโรค วิธีการแบบองค์รวมนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันโรคราสนิมเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้ผลฝรั่งมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงโดยรวมอีกด้วย

การปรากฎตัวของ IS นับเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับโรคราสนิมในผลฝรั่ง ด้วยการวิจัยและการพัฒนาที่ทุ่มเท ทำให้สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงได้ถูกสร้างขึ้น นำเสนอโซลูชั่นที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแก่เกษตรกรในการปกป้องผลฝรั่งของพวกเขา โดยอาศัยพลังแห่งธรรมชาติและควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบ ระบบ IS ช่วยให้มั่นใจได้ถึงสภาวะที่ไม่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อราในขณะที่เพิ่มการยึดเกาะ ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกฝรั่งมั่นใจได้ว่าต้นฝรั่งจะปลอดจากโรคราสนิม ทำให้สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่สมบูรณ์แข็งแรง

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

สารอินทรีย์ที่เรียกว่า IS ได้กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการต่อสู้กับเชื้อราและโรคใบไหม้ในต้นข้าวโพด ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมนี้ได้รับการพัฒนาโดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ทำให้เกษตรกรมีวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ด้วยการควบคุมสภาพแวดล้อมบนผิวใบพืช ระบบ IS จะสร้างที่อยู่อาศัยที่ไม่เอื้ออำนวยสำหรับเชื้อรา ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงสุขภาพของพืชผลและผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น IS ยังแสดงให้เห็นถึงการยึดเกาะที่ดีขึ้นกับพื้นผิวของโรงงาน ทำให้มั่นใจได้ถึงการปกป้องที่ยาวนานโดยไม่ลดทอนความปลอดภัยของผู้ใช้หรือสิ่งแวดล้อม

ความท้าทายของเชื้อราและโรคใบไหม้ในข้าวโพด:

โรคราและใบไหม้ก่อให้เกิดความท้าทายอย่างมากต่อชาวไร่ข้าวโพดทั่วโลก โรคเชื้อราเหล่านี้อาจทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อทั้งปริมาณและคุณภาพของการเก็บเกี่ยวข้าวโพด วิธีการควบคุมแบบดั้งเดิมมักเกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีสังเคราะห์ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์ ปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม และมีประสิทธิภาพจำกัดในการต่อต้านเชื้อราสายพันธุ์ดื้อยา ดังนั้นการพัฒนาโซลูชันอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงเช่น IS จึงเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับการเกษตรแบบยั่งยืน

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง IS:

IS ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อราในต้นข้าวโพดอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยบนผิวใบพืช ระบบ IS จะป้องกันไม่ให้สปอร์ของเชื้อรางอกและสร้างอาณานิคม วิธีการที่ไม่เหมือนใครนี้ขัดขวางวงจรชีวิตของเชื้อรา ลดผลกระทบต่อสุขภาพพืชผล สูตรของ IS มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ทำให้ปลอดภัยสำหรับทั้งเกษตรกรและระบบนิเวศ

เพิ่มการยึดเกาะและประสิทธิภาพ:

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือความสามารถในการยึดติดกับพื้นผิวใบพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโซลูชันอื่นๆ ผ่านการผสมสูตรอย่างระมัดระวัง IS สร้างเกราะป้องกันที่ต้านทานการชะล้างของฝนหรือการชลประทาน ช่วยให้คงประสิทธิภาพได้เป็นระยะเวลานาน การยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันเชื้อราและใบไหม้ที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้มากขึ้น แม้ในสภาพอากาศที่ท้าทาย เป็นผลให้เกษตรกรสามารถมีความมั่นใจมากขึ้นในการป้องกันที่ยาวนานโดย IS

ความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้:

IS นำเสนอทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนสารฆ่าเชื้อราที่ใช้สารเคมี ส่วนประกอบอินทรีย์ช่วยลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม และลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ เช่น แมลงผสมเกสรและศัตรูพืชที่เป็นสัตว์นักล่าตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ส่วนผสมจากธรรมชาติของ IS ยังทำให้ปลอดภัยสำหรับเกษตรกรและคนงานที่สัมผัสกับพืชที่ผ่านการบำบัด ขจัดความกังวลเกี่ยวกับการได้รับสารพิษ

บทสรุป:

การนำ IS มาใช้เป็นสารอินทรีย์ในการควบคุมเชื้อราและโรคใบไหม้ในข้าวโพดถือเป็นก้าวสำคัญของนวัตกรรมการเกษตร ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม โซลูชันนี้ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ด้วยความสามารถในการสร้างสภาวะที่ไม่เหมาะสมสำหรับเชื้อราและการยึดเกาะที่ดีขึ้นกับพื้นผิวของพืช IS เป็นเครื่องมือที่มีแนวโน้มสำหรับเกษตรกรที่แสวงหาวิธีการที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในการปกป้องพืชข้าวโพดของตน ในขณะที่เราก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น IS ปูทางไปสู่ยุคใหม่ของการคุ้มครองพืชผลอินทรีย์

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์: ตัวช่วยสำคัญสำหรับการปลูกน้อยหน่า

น้อยหน่า ผลไม้ยอดนิยมที่มีรสชาติหวานหอม เนื้อนุ่ม ทานอร่อย แต่การปลูกน้อยหน่าให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอ หนึ่งในตัวช่วยสำคัญคือ "ปุ๋ยสตาร์เฟอร์"

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ มีสูตรเฉพาะสำหรับต้นน้อยหน่า 3 สูตร ที่ช่วยบำรุงต้นน้อยหน่าในทุกช่วงการเจริญเติบโต

สูตร 1: 30-20-5

สูตรเร่งการเจริญเติบโต โตไว ใบเขียว
เหมาะสำหรับต้นน้อยหน่าที่มีอายุน้อยหรือต้องการฟื้นฟูสภาพ
มีไนโตรเจนสูง ช่วยให้ต้นน้อยหน่าเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ใบเขียวชอุ่ม

สูตร 2: 10-40-10+3 MgO

สูตรเร่งการเจริญเติบโตของราก และการออกดอก
เหมาะสำหรับต้นน้อยหน่าที่มีอายุ 1-2 ปีขึ้นไป
มีฟอสฟอรัสสูง ช่วยให้รากแข็งแรง ดูดซึมสารอาหารได้ดี และส่งเสริมการออกดอก

สูตร 3: 15-5-30+3 MgO

สูตรขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต
เหมาะสำหรับต้นน้อยหน่าที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป
มีโพแทสเซียมสูง ช่วยให้ผลใหญ่ น้ำหนักดี และมีคุณภาพดี

ข้อดีของปุ๋ยสตาร์เฟอร์

มีธาตุอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชในสัดส่วนที่เหมาะสม
ช่วยเร่งการเจริญเติบโต เพิ่มขนาดและน้ำหนักของผล
ช่วยให้ต้นน้อยหน่าแข็งแรงและอุดมสมบูรณ์
ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้คุณปลูกน้อยหน่าได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ รสชาติอร่อย น่ารับประทาน

หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น เกษตรกรควรศึกษาวิธีการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมกับสภาพดิน สภาพอากาศ และสายพันธุ์ของน้อยหน่า

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

การใช้ Metalaxyl ในการฉีดพ่นเป็นวิธีที่มีประโยชน์มากในการป้องกันและกำจัดโรคจุดสีน้ำตาลที่พบได้บ่อยในต้นเสาวรส และโรคเชื้อราต่างๆที่อาจทำให้พืชตายได้ โรคจุดสีน้ำตาลที่เป็นผลจากเชื้อราสาเหตุที่ชื่อว่า Phytophthora spp. มักจะทำให้ใบและผลเสาวรสเป็นจุดสีน้ำตาลและเน่าเสีย การใช้ Metalaxyl เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคนี้ เนื่องจากมีส่วนประกอบที่สามารถทำลายเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เสาวรสสามารถเติบโตแข็งแรงและสมบูรณ์ไปได้

นอกจากนี้ Metalaxyl ยังมีความสามารถในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราต่างๆที่มีโอกาสทำให้เสาวรสเสียหาย เช่น โรครากเน่าโคนเน่า และโรคใบจุด ซึ่งเป็นโรคที่สามารถทำให้พืชตายได้หากไม่ได้รับการควบคุมทันที การใช้ Metalaxyl ในการป้องกันเชื้อราเหล่านี้จึงช่วยให้ผลผลิตเสาวรสมีโอกาสสำเร็จและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Metalaxyl ยังช่วยลดต้นทุนในการผลิตเสาวรส โดยป้องกันการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากโรคโรคเชื้อราต่างๆได้ การใช้ Metalaxyl ในระบบการจัดการโรคของเสาวรสไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ปลูกมีผลผลิตที่มากขึ้น แต่ยังเป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากลดการใช้สารเคมีที่มีพิษต่อสิ่งมีชีวิต

ในสรุป Metalaxyl เป็นสารป้องกันและกำจัดโรคที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคจุดสีน้ำตาลและโรคเชื้อราต่างๆที่อาจเป็นอันตรายต่อเสาวรส การนำ Metalaxyl มาใช้ในการปลูกเสาวรสไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ปลูกมีผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัย แต่ยังช่วยในการลดต้นทุนและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับการเกษตรผสมผสานในประเทศของเราไปได้ในทางที่ยั่งยืนและยังคงเป็นที่น่าเชื่อถือในวงกว้างของชาวเกษตรกรทั่วโลกที่ปลูกเสาวรสอยู่ในปริมาณมาก


อัตราส่วนผสม เมทาแลกซิล ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ และโรคพืชต่างๆจากเชื้อรา
50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร
.
🔎สั่งซื้อยารักษาโรคพืช
เมทาแลคซิล ยารักษาโรคพืช #แก้โรคพืช #โรคใบไหม้ #โรคใบจุด #โรคพืช จากเชื้อราต่างๆ
สั่งซื้อทักแชท
.
» Line@ ID: @FarmKaset หรือคลิกแอดไลน์ http://ไปที่..link..
.
» โทร 090-592-8614
.
» ซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..
.
» ซื้อกับช้อปปี้ http://ไปที่..link..
.
» ซื้อกับTikTok http://ไปที่..link..

Maca Alkaloids: ทางออกตามธรรมชาติสำหรับการควบคุมแมลงศัตรูพืช

ในขอบเขตของการเกษตร ความท้าทายในการปกป้องพืชผลจากแมลงศัตรูพืชในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นวิธีการทั่วไป แต่มักจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อทั้งสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าล่าสุดในหลักการทางเทคโนโลยีระดับสูงได้ปูทางไปสู่การพัฒนาทางเลือกที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น มาคาอัลคาลอยด์

อัลคาลอยด์ Maca เป็นอัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติซึ่งได้มาจากต้น Maca (Lepidium meyenii) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในภูมิภาค Andean ของเปรู ด้วยการคัดสรรอย่างพิถีพิถันและการประยุกต์ใช้หลักการทางเทคโนโลยีขั้นสูง อัลคาลอยด์เหล่านี้ถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างรูปแบบเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูง สูตรเฉพาะนี้นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่มีแนวโน้มดีในการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะเพลี้ยในพืช

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของอัลคาลอยด์ Maca คือวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชจำนวนมากที่มุ่งเป้าไปที่เส้นทางชีวเคมีเฉพาะในแมลง มะค่าอัลคาลอยด์ออกฤทธิ์ผ่านกลไกที่กว้างกว่า ลักษณะเฉพาะนี้ทำให้แมลงพัฒนาความต้านทานเมื่อเวลาผ่านไปได้ยาก เนื่องจากพวกมันไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับผลกระทบที่ไม่เฉพาะเจาะจงของอัลคาลอยด์ได้ ดังนั้นการใช้มาคาอัลคาลอยด์สามารถช่วยยับยั้งการพัฒนาของเชื้อดื้อยาที่เกิดจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ การใช้มาคาอัลคาลอยด์ในการควบคุมสัตว์รบกวนยังให้ประโยชน์อย่างมากในแง่ของความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม สารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิมมักจะทิ้งสารพิษตกค้างไว้ในดินและน้ำ ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบทางนิเวศวิทยาในระยะยาว ในทางตรงกันข้าม Maca alkaloids จะไม่ทิ้งสารพิษตกค้างใดๆ ทำให้ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงดินและแหล่งน้ำด้วย คุณลักษณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้อัลคาลอยด์ของ Maca จะไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อระบบนิเวศ

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งของอัลคาลอยด์ Maca คือความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้และผู้บริโภค สารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของเกษตรกร คนงานเกษตร และผู้บริโภคที่สัมผัสกับผลิตผลที่ผ่านการบำบัด อัลคาลอยด์ของ Maca เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเนื่องจากไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้งานหรือบริโภคโดยเป็นส่วนหนึ่งของพืชที่ผ่านการบำบัด สิ่งนี้ไม่เพียงปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเกษตร แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารที่บริโภค

การใช้อัลคาลอยด์ของมะค่าเป็นวิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติสำหรับการควบคุมแมลงศัตรูพืชแสดงถึงขั้นตอนสำคัญสู่การเกษตรแบบยั่งยืน ด้วยการใช้พลังของอัลคาลอยด์เข้มข้นที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ให้เหลือน้อยที่สุด วิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจงของมาคาอัลคาลอยด์ช่วยป้องกันแมลงจากการดื้อยา ทำให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพในการควบคุมศัตรูพืชในระยะยาว นอกจากนี้ การไม่มีสารพิษตกค้างในดินและน้ำ ประกอบกับความปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค ทำให้แมคคาอัลคาลอยด์เป็นทางเลือกที่มีความรับผิดชอบสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรสมัยใหม่

เนื่องจากความต้องการโซลูชันการเกษตรแบบยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาและการใช้สารทดแทนจากธรรมชาติ เช่น มะค่าอัลคาลอยด์จึงเป็นสัญญาณแห่งความหวัง เราสามารถสร้างสมดุลระหว่างผลผลิต การรักษาสิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเกษตร ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่และใช้ประโยชน์จากพลังของธรรมชาติ อัลคาลอยด์ของ Maca เป็นตัวอย่างวิธีการที่กลมกลืนกันนี้และถือเป็นศักยภาพในการปฏิวัติวิธีที่เราปกป้องพืชผลของเราจากแมลงศัตรูพืชในขณะที่สร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน