โรคราแป้งเป็นโรคเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลต่อดอกกุหลาบและสามารถทำลายลักษณะและการเจริญเติบโตของกุหลาบได้อย่างรุนแรง โชคดีที่มีสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถช่วยป้องกันและกำจัดโรคนี้ได้ ในบทความนี้ เราจะสำรวจวิธีการป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในดอกกุหลาบที่แนะนำโดยใช้ IS และ FK-1

IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพที่สามารถป้องกันและควบคุมโรคราแป้งในดอกกุหลาบ เป็นส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวและสารฆ่าเชื้อราที่สามารถใช้รักษาโรคเชื้อราในพืชได้ อัตราการผสมที่แนะนำของ IS คือ 50cc ต่อน้ำ 20 ลิตร สามารถฉีดพ่นส่วนผสมนี้ลงบนใบกุหลาบได้โดยตรงเพื่อป้องกันโรคราแป้ง

FK-1 เป็นสารประกอบอินทรีย์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในดอกกุหลาบ เป็นอาหารพร้อมบำรุงพืชที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี นอกจากนี้ยังมีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยให้สารละลายติดกับใบของพืช อัตราส่วนผสมที่แนะนำสำหรับ FK-1 คือ 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองผสมกับน้ำ 20 ลิตร ส่วนผสมนี้สามารถฉีดพ่นบนใบกุหลาบเพื่อให้สารอาหารและป้องกันโรคราแป้ง

เพื่อป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในดอกกุหลาบอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องใช้สารประกอบอินทรีย์ที่ปลอดภัยต่อพืชและสิ่งแวดล้อม เมื่อใช้ IS และ FK-1 ชาวสวนสามารถมั่นใจได้ว่าดอกกุหลาบของพวกเขาจะแข็งแรงและสวยงาม

แตงโมมีความไวต่อโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้ โรคราน้ำค้าง และโรคใบจุด โรคเหล่านี้สามารถลดผลผลิตและคุณภาพของผลไม้ได้อย่างมาก ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียทางการเงิน เนื่องจากผลผลิตต่ำ และด้อยคุณภาพ

ไอเอส เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ช่วยป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในพืชโดยใช้เทคนิคการควบคุมด้วยไอออน สารนี้ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ หากต้องการใช้ ไอเอส ให้นำสาร 50 ซีซี ละลายในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบนต้นแตงโม ควรใช้ส่วนผสมนี้กับพืชทุกๆ 10-15 วันเพื่อให้แน่ใจว่ามีการป้องกันสูงสุดจากโรคเชื้อรา

นอกจากการใช้ ไอเอส แล้ว ยังสามารถใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบเพื่อเพิ่มผลผลิตให้กับต้นแตงโมได้อีกด้วย FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว ปุ๋ยนี้ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ปรับปรุงคุณภาพของแตงโม และเพิ่มผลผลิต FK-1 หนึ่งกล่องหนัก 2 กก. และบรรจุสองถุง ๆ ละ 1 กก. การใช้ FK-1 ต้องผสมพร้อมกันทั้งสองถุง ให้ใช้ถุงละ 50 กรัม ผสมให้เข้ากันกับน้ำ 20 ลิตร ควรฉีดพ่นกับพืชทุกๆ 10-15 วันในช่วงฤดูปลูก

การใช้สารอินทรีย์และปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ ไอเอส และ FK-1 สามารถช่วยป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นแตงโมและเพิ่มผลผลิต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติตามอัตราการผสมที่แนะนำและช่วงเวลาการใช้งานเพื่อให้แน่ใจว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ เกษตรกรสามารถปลูกแตงโมที่แข็งแรงและผลิตผลไม้คุณภาพสูงได้

http://ไปที่..link..

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงล่างอีกนิดนะคะ

สารกำจัดหนอน: กำจัดหนอนในต้นส้มอย่างมีประสิทธิภาพด้วย Aiki-BT สารชีวภาพประสิทธิภาพสูง

เกษตรกรชาวสวนส้มมักเผชิญกับความท้าทายในการจัดการกับการระบาดของหนอนที่สามารถทำลายพืชผลของพวกเขาและทำให้ผลผลิตลดลง วิธีการแบบดั้งเดิมในการควบคุมสัตว์รบกวน เช่น สารเคมีกำจัดแมลง อาจมีประสิทธิภาพ แต่อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ทางออกที่ดีคือ Aiki-BT ซึ่งเป็นสารชีวภาพที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดหนอนในต้นส้มโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือผู้ใช้

Aiki-BT เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับเกษตรกรชาวสวนส้ม เนื่องจากมุ่งเป้าไปที่หนอนชนิดต่างๆ รวมถึงหนอนชอนใบ หนอนส้ม และศัตรูพืชอื่นๆ ทั่วไปที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อต้นส้ม สิ่งที่ทำให้ Aiki-BT แตกต่างคือโหมดการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ มันมีแบคทีเรียที่ผลิตสารพิษที่มุ่งเป้าไปที่แมลงศัตรูพืชโดยเฉพาะ ทำให้ร่างกายของพวกมันเหี่ยวเฉาและตายภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังจากสัมผัส สิ่งนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถจัดการประชากรหนอนในสวนส้มของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสที่พืชผลเสียหายและเพิ่มการควบคุมแมลงศัตรูพืชโดยรวม

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Aiki-BT คือความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดแมลงซึ่งสามารถคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมและสะสมในห่วงโซ่อาหาร Aiki-BT แตกตัวตามธรรมชาติและไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตราย ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีการควบคุมสัตว์รบกวนที่มีประสิทธิภาพซึ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ Aiki-BT ยังปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ รวมถึงเกษตรกรและคนงานที่ใช้สารนี้ ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์และไม่ต้องใช้ชุดป้องกันหรืออุปกรณ์ในระหว่างการใช้งาน ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย ลดความเสี่ยงของผลกระทบต่อสุขภาพสำหรับเกษตรกรและผู้ใช้รายอื่น

ประโยชน์ที่สำคัญอีกประการของ Aiki-BT คือความเข้ากันได้กับแนวทางปฏิบัติในการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) IPM เป็นวิธีการแบบองค์รวมในการควบคุมศัตรูพืชที่มีเป้าหมายเพื่อลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและเน้นการใช้วิธีการควบคุมทางชีวภาพและวัฒนธรรม Aiki-BT สอดคล้องกับหลักการของ IPM เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นสารชีวภาพที่กำหนดเป้าหมายศัตรูพืชโดยเฉพาะโดยไม่ทำอันตรายต่อแมลงที่เป็นประโยชน์ เช่น แมลงผสมเกสรและสัตว์กินพืช หรือทำลายสมดุลตามธรรมชาติของระบบนิเวศ

สรุปได้ว่า Aiki-BT นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูงแก่ชาวไร่ส้มในการจัดการการรบกวนของหนอนในสวนผลไม้ของพวกเขา โหมดการดำเนินการที่เป็นเอกลักษณ์ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ และความเข้ากันได้กับแนวทางปฏิบัติของ IPM ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีแนวโน้มในการควบคุมศัตรูพืชอย่างยั่งยืนในการทำไร่ส้ม ด้วย Aiki-BT เกษตรกรสามารถกำจัดเวิร์มในต้นส้มได้อย่างมีประสิทธิภาพและปกป้องพืชผลของพวกเขาในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอกี้ และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
ไอกี้ 25 กรัม และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และ ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (brown plant hopper)

มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า นิลาพาร์วาทาลูเยนส์ เป็นแมลงที่ ใช้ปากแทงดูด ชอบดูดกินน้ำเลี้ยงจากกาบใบของต้น ข้าว ตัวสีน้ำตาล และสามารถทำลายต้นข้าวในทุกระยะ ของการเจริญเติบโตให้เสียหายได้ เช่น ระยะต้นกล้า ระยะแตกกอ ระยะออกรวง และแมลงเพลี้ยกระโดด ตั้งแต่ตัวอ่อนจนถึงตัวแก่ สามารถทำลายต้นข้าวได้ อย่างรุนแรง ต้นข้าวที่ถูกแมลงนี้ทำลายจะมีอาการ เหี่ยวแล้วแห้งเป็นสีน้ำตาลแก่ ซึ่งอาจมีคราบของเชื้อรา สีดำเกาะติดอยู่กับต้นข้าวด้วย ต้นข้าวที่กำลังแตกกอ ที่ถูกทำลายจะแห้งตาย ต้นข้าวที่ออกรวงแล้วจะมีเมล็ด ไม่สมบูรณ์และมีน้ำหนักเบา ล้มง่าย ลักษณะกลุ่มของ ต้นข้าวที่ถูกแมลงเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลายเรียกว่า ฮอพเพอร์เบิร์น (hopper burn) แมลงชนิดนี้ชอบดูดกิน น้ำเลี้ยงและอาศัยอยู่บนต้นข้าวที่แตกกอมาก ต้นไม่ค่อย สูง เช่น พันธุ์ กข.๑ และจะระบาดรุนแรงมากในระหว่าง เดือนที่มีอากาศร้อนและความชื้นค่อนข้างสูง เช่น เดือน พฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม

Beauveria mix Methharicium หรือที่รู้จักในชื่อแบรนด์ Butarex เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชทางชีวภาพที่มีส่วนผสมของสปอร์ของเชื้อรา Beauveria bassiana และ Metarhizium anisopliae สปอร์เหล่านี้ติดเชื้อและฆ่าเพลี้ยสีน้ำตาลซึ่งเป็นศัตรูพืชทั่วไปในนาข้าว ผลิตภัณฑ์นี้ใช้สำหรับป้องกันและกำจัดเพลี้ยสีน้ำตาล และถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

Beauveria mix Methharicium หรือที่รู้จักในชื่อ Butarex เป็นส่วนผสมของเชื้อรา Beauveria bassiana และไส้เดือนฝอย Metharicium bovis ชุดนี้ใช้สำหรับป้องกันและกำจัดไรขาวในต้นพริก เชื้อรา Beauveria bassiana เป็นที่รู้จักจากความสามารถในการติดเชื้อและฆ่าแมลงศัตรูพืชได้หลากหลายชนิด ในขณะที่ไส้เดือนฝอย Metharicium bovis เป็นที่รู้จักจากความสามารถในการติดเชื้อและฆ่าไข่และตัวอ่อนของไรขาว การใช้สารควบคุมทางชีวภาพทั้ง 2 ชนิดผสมกัน ทำให้การควบคุมไรขาวในต้นพริกมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

ต้นยาสูบมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคเชื้อราได้หลายชนิด ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผล ลดผลผลิต และส่งผลต่อคุณภาพของยาสูบที่ผลิตได้ โรคเชื้อราเกิดจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่โจมตีใบ ลำต้น และรากของต้นยาสูบ ทำให้ขัดขวางการเจริญเติบโตและพัฒนาของต้นยาสูบ ในบทความนี้ เราจะสำรวจโรคเชื้อราที่พบบ่อยที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อต้นยาสูบ และแนะนำวิธีการป้องกันและกำจัดโดยใช้ IS และ FK-1

บลูโมลด์
Blue Mold เป็นโรคเชื้อราที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อต้นยาสูบ โรคนี้จะปรากฏเป็นจุดที่มีน้ำขังบนใบ ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและแห้งอย่างรวดเร็ว จุดเหล่านี้มักมาพร้อมกับราสีน้ำเงินอมเทาที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสภาวะที่มีความชื้น ราสีน้ำเงินเกิดจากเชื้อรา Peronospora tabacina และสามารถป้องกันได้ด้วยการใช้สารฆ่าเชื้อราในเวลาที่เหมาะสม สามารถใช้ IS และ FK-1 เพื่อป้องกันต้นยาสูบจากเชื้อราสีน้ำเงิน

โรคราแป้ง
โรคราแป้งเป็นโรคเชื้อราทั่วไปที่มีผลต่อต้นยาสูบ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความชื้นสูง โรคนี้ปรากฏเป็นผงสีขาวบนใบ ลำต้น และดอกของต้นไม้ โรคราแป้งเกิดจากเชื้อรา Erysiphe cichoracearum และสามารถป้องกันได้โดยการใช้ยาฆ่าเชื้อราในเวลาที่เหมาะสม การใช้ IS และ FK-1 สามารถช่วยป้องกันการโจมตีของโรคราแป้งได้

ก้านดำ
Black Shank เป็นโรคเชื้อราที่มีผลต่อรากของต้นยาสูบ โรคนี้จะปรากฏเป็นแผลสีน้ำตาลดำบนราก ซึ่งในที่สุดจะทำให้รากเน่าและตายได้ Black Shank เกิดจากเชื้อรา Phytophthora parasitica และสามารถป้องกันได้โดยการใช้ยาฆ่าเชื้อราอย่างทันท่วงที การใช้ IS และ FK-1 สามารถช่วยป้องกันการโจมตีของ Black Shank ได้เช่นกัน

จุดสีน้ำตาล
จุดสีน้ำตาลเป็นโรคเชื้อราที่มีผลต่อใบของต้นยาสูบ โรคนี้จะปรากฏเป็นจุดสีน้ำตาลบนใบ ซึ่งอาจทำให้ใบร่วงก่อนกำหนดได้ จุดสีน้ำตาลเกิดจากเชื้อรา Alternaria alternata และสามารถป้องกันได้ด้วยการใช้สารฆ่าเชื้อราอย่างทันท่วงที การใช้ IS และ FK-1 ยังช่วยป้องกันการเกิดจุดสีน้ำตาลได้อีกด้วย

เพื่อป้องกันโรคเชื้อราในต้นยาสูบ สิ่งสำคัญคือต้องฝึกฝนการจัดการพืชผลที่ดี ซึ่งรวมถึงการรักษาความชื้นในดินให้เพียงพอ ให้สารอาหารที่เหมาะสมแก่พืช และกำจัดวัสดุพืชที่ติดเชื้อออกจากแปลงทันที การใช้สารกำจัดเชื้อราอย่างทันท่วงทียังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคเชื้อราในต้นยาสูบ

IS และ FK-1 เป็นสองผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นยาสูบ IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในขณะเดียวกันก็ช่วยบำรุงพืช FK-1 เป็นสารประกอบที่ประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวซึ่งช่วยบำรุงพืชและเพิ่มความสามารถในการต้านทานโรคเชื้อรา เมื่อใช้ IS และ FK-1 สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามอัตราการผสมที่แนะนำเพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้งานที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

สรุปได้ว่าโรคเชื้อราสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพและผลผลิตของต้นยาสูบได้อย่างมีนัยสำคัญ สิ่งสำคัญคือต้องฝึกฝนการจัดการพืชผลที่ดีและใช้วิธีการป้องกันและกำจัดที่เหมาะสม เช่น IS และ FK-1 เพื่อป้องกันและจัดการโรคเหล่านี้ เกษตรกรสามารถช่วยให้แน่ใจว่าพืชยาสูบแข็งแรงและให้ผลผลิต

โรคเชื้อราสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อต้นข้าว ส่งผลให้ผลผลิตลดลงและเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสำหรับเกษตรกร ในบทความนี้ เราจะพูดถึงสองวิธีที่ได้ผลในการป้องกันและกำจัดโรคราในต้นข้าวโดยใช้ IS และ FK-1

IS เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา แนะนำให้ผสม IS 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นลงบนต้นข้าว สิ่งนี้จะสร้างเกราะป้องกันที่สามารถป้องกันสปอร์ของเชื้อราไม่ให้งอกและติดเชื้อในพืช

FK-1 เป็นสารประกอบอินทรีย์อีกชนิดหนึ่งที่สามารถบำรุงและปกป้องต้นข้าวจากโรคเชื้อรา เมื่อเปิดกล่อง FK-1 จะมีกระเป๋าสองใบ ถุงแรกเป็นธาตุหลักประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ส่วนถุงที่สองประกอบด้วยธาตุเสริม เช่น แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว ในการใช้ FK-1 ให้ผสม 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองกับน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดส่วนผสมลงบนต้นข้าว FK-1 สามารถปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันของพืชและเพิ่มความต้านทานต่อโรคเชื้อรา

การใช้ IS และ FK-1 ร่วมกันสามารถให้วิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในการควบคุมโรคเชื้อราในต้นข้าว เมื่อปฏิบัติตามอัตราส่วนการผสมและวิธีการใช้งานที่แนะนำ เกษตรกรสามารถลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของโรคเชื้อราได้อย่างมาก ส่งผลให้ผลผลิตพืชผลดีขึ้นและผลกำไรที่สูงขึ้น

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่กำจัดโรคราสีชมพูในทุเรียน

โรคราสีชมพูซึ่งเกิดจากเชื้อราสกุล Trichothecium เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อการปลูกทุเรียน ส่งผลให้เกษตรกรสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีต้านเชื้อราอินทรีย์ได้เกิดขึ้นจากการวิจัยและพัฒนาที่กว้างขวาง โซลูชันนี้มีชื่อว่า IS ใช้ประโยชน์จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดเพื่อควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

การพัฒนา IS เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่พิถีพิถันในการระบุสารดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถจัดการกับโรคราสีชมพูได้ นักวิจัยให้ความสำคัญกับการคัดเลือกสารที่มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อราและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับสารประกอบอินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อต้นทุเรียน ดิน หรือระบบนิเวศโดยรอบ

IS ใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืชที่ไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของเชื้อรา ด้วยการควบคุมสภาวะที่ต้นทุเรียนเติบโตอย่างระมัดระวัง IS จึงสร้างสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อราสีชมพู วิธีการนี้ไม่เพียงแต่กำจัดการแพร่ระบาดของเชื้อราที่มีอยู่ แต่ยังป้องกันการระบาดในอนาคตอีกด้วย

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือการยึดติดกับพื้นผิวใบพืชเป็นพิเศษ สูตรเฉพาะทำให้มั่นใจได้ว่าสารต้านเชื้อราจะเคลือบใบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้การป้องกันโรคราสีชมพูอย่างครอบคลุม ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของการยึดเกาะ IS ช่วยลดความเสี่ยงของการไหลบ่าหรือการเคลื่อนตัวเนื่องจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ฝนหรือลม ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของผลการป้องกัน

นอกจากนี้ IS ยังมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับเกษตรกรและผู้บริโภค องค์ประกอบอินทรีย์ช่วยขจัดความกังวลเกี่ยวกับสารเคมีตกค้างบนผลทุเรียนหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพของผู้ที่จับหรือบริโภคผลทุเรียน ลักษณะนี้ก่อให้เกิดแนวทางการทำการเกษตรแบบยั่งยืนส่งเสริมการผลิตทุเรียนคุณภาพสูงและปลอดภัยต่อการกิน

ประสิทธิภาพของ IS ได้รับการทดสอบและรับรองอย่างกว้างขวางผ่านการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เข้มงวด การทดลองภาคสนามที่ดำเนินการในสวนทุเรียนที่มีประวัติโรคราสีชมพู แสดงให้เห็นถึงการลดลงของการเจริญเติบโตของเชื้อราและอุบัติการณ์ของโรคหลังการใช้ IS ผลลัพธ์ในเชิงบวกได้สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกร นำไปสู่การยอมรับสารต้านเชื้อราอินทรีย์นี้อย่างแพร่หลาย

นอกเหนือจากประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคราสีชมพูแล้ว IS ยังให้คำมั่นสัญญาสำหรับการใช้งานที่กว้างขึ้นในการปฏิบัติทางการเกษตร ธรรมชาติอินทรีย์และคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ทำให้เป็นโซลูชันอเนกประสงค์สำหรับการจัดการการติดเชื้อราต่างๆ ในพืชผลต่างๆ นวัตกรรมที่ก้าวล้ำนี้มีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีที่เกษตรกรปกป้องพืชของตน โดยมุ่งไปสู่วิธีการทำฟาร์มที่ยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

IS สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคราสีชมพูในการปลูกทุเรียน ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ได้กลายเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา เพิ่มการยึดเกาะกับพื้นผิวของพืช และการจัดลำดับความสำคัญขององค์ประกอบอินทรีย์ IS แสดงถึงขั้นตอนสำคัญสู่การผลิตทุเรียนที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพ ด้วยศักยภาพในการใช้งานที่กว้างขึ้น IS จึงมีขีดความสามารถในการปรับรูปแบบการปฏิบัติทางการเกษตรและปกป้องพืชผลทั่วโลก

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

หน่อไม้ฝรั่งเป็นผักยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับพืชผลอื่นๆ มันมีความเสี่ยงต่อศัตรูพืชและโรคที่สามารถลดผลผลิตและคุณภาพได้อย่างมาก ศัตรูพืชที่มีชื่อเสียงที่สุดชนิดหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อหน่อไม้ฝรั่งคือหนอนเจาะสมอฝ้าย ซึ่งเป็นศัตรูพืชทำลายล้างที่กัดกินหน่อไม้ฝรั่งที่กำลังพัฒนา ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อพืชผล

โชคดีที่มีวิธีแก้ปัญหานี้และมาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์แบคทีเรียที่เรียกว่า Bacillus ยี่ห้อ Basilisk ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสายพันธุ์บาซิลลัสที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและกำจัดหนอนเจาะสมอฝ้ายในหน่อไม้ฝรั่ง

Bacillus ยี่ห้อ Basilisk เป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยสำหรับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์นี้ทำงานโดยการผลิตคริสตัลโปรตีนที่เป็นพิษต่อตัวอ่อนของหนอนเจาะสมอฝ้าย โปรตีนเหล่านี้พุ่งเป้าไปที่ลำไส้ของตัวอ่อน ทำให้พวกมันหยุดกินอาหารและตายในที่สุด

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้บาซิลลัสยี่ห้อ Basilisk คือมีผลกระทบต่ำมากต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย เช่น แมลงที่มีประโยชน์ นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทั้งนี้เนื่องจากเชื้อบาซิลลัสมีความจำเพาะสูงต่อตัวอ่อนของหนอนเจาะสมอฝ้าย และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากศัตรูพืชชนิดนี้

ข้อดีอีกอย่างของการใช้บาซิลลัสยี่ห้อ Basilisk คือทาง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆ ผลิตภัณฑ์นี้มาในรูปแบบของเหลวซึ่งสามารถผสมกับน้ำได้ง่ายและฉีดพ่นลงบนหน่อไม้ฝรั่ง ปริมาณที่แนะนำและความถี่ในการใช้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเข้าทำลายและระยะของการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง

การใช้ Bacillus ยี่ห้อ Basilisk สามารถปรับปรุงผลผลิตและคุณภาพของหน่อไม้ฝรั่งได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการควบคุมแมลงศัตรูพืช การใช้วิธีแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพนี้ เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของพวกเขาจากหนอนเจาะสมอฝ้ายและรับประกันการเก็บเกี่ยวที่สมบูรณ์

สรุปได้ว่า Bacillus ยี่ห้อ Basilisk เป็นสารละลายที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับการป้องกันและกำจัดหนอนเจาะสมอฝ้ายในหน่อไม้ฝรั่ง โหมดการดำเนินการที่ไม่เหมือนใคร ความเฉพาะเจาะจง และการใช้งานที่ง่ายทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนในการควบคุมศัตรูพืช การใช้บาซิลลัสยี่ห้อ Basilisk เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลหน่อไม้ฝรั่งของพวกเขาและรับประกันการเก็บเกี่ยวที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืน

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีมูลค่าสูงในหลายๆ ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดโรคเชื้อราที่สามารถทำลายพืชผลและทำให้ผลผลิตลดลงได้ โรคเชื้อราที่พบบ่อยชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่อต้นทุเรียนคือ โรคแอนแทรคโนส ซึ่งเกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides อาการของโรคแอนแทรคโนส ได้แก่ โรคใบจุด โรคใบติดทุเรียน โรคทุเรียนใบไหม้ โรคแคงเกอร์ที่ลำต้น และผลเน่า ซึ่งอาจทำให้เกษตรกรเสียหายอย่างมาก

เพื่อป้องกันและควบคุมโรคจากเชื้อรา เช่น แอนแทรคโนส เกษตรกรสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า IS ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา IS ทำงานโดยเสริมสร้างการป้องกันตามธรรมชาติของพืช ทำให้มันต้านทานต่อการติดเชื้อราได้มากขึ้น นอกจากนี้ IS ยังมี FK-1 ซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีศักยภาพซึ่งช่วยบำรุงพืชและเพิ่มผลผลิต

ในการใช้ IS เกษตรกรควรผสมผลิตภัณฑ์ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรใช้น้ำยาฉีดพ่นที่ใบและลำต้นของต้นทุเรียน ควรทำทุก 7-10 วันเพื่อรักษาป้องกันโรคเชื้อรา

นอกจากการใช้ IS แล้ว เกษตรกรยังสามารถใช้มาตรการอื่น ๆ เพื่อป้องกันโรคเชื้อราในต้นทุเรียน สิ่งเหล่านี้รวมถึงการฝึกสุขอนามัยที่ดีโดยการกำจัดเศษพืชที่ติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการรดน้ำเหนือศีรษะ และการปลูกพันธุ์ที่ต้านทานโรค ด้วยการดูแลและจัดการที่เหมาะสม เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนสามารถป้องกันและควบคุมโรคเชื้อราได้ ทำให้พืชผลแข็งแรงและให้ผลผลิตดี