[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3581 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 1 รายการ

 
ขนุน ดอกร่วง ผลเน่า ผลดำ ใบไหม้ กำจัดโรค เชื้อราต่างๆในขนุน ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK สวย ปุ่ย ศัตรูพืช
ขนุน ดอกร่วง ผลเน่า ผลดำ ใบไหม้ กำจัดโรค เชื้อราต่างๆในขนุน ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK สวย ปุ่ย ศัตรูพืช
ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

โรครากเน่า​โคน​เน่า​ในขนุน​ ที่เกิดจากเชื้อราไฟท็อปธอร่า​ เข้าทำลาย​ ลักษณะ​อาการคล้ายโรครากเน่า​โคน​เน่า​ในทุเรียน​ บางครั้งมีเชื้อราฟิวซา​เรี่ยม​เข้าทำลายซ้ำ​ ทำให้ต้นขนุนยืนต้นตาย​ ใบเหลือง​ ร่วง

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย 'การควบคุมประจุไฟฟ้า' สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
คุณค่าทางสารอาหารและประโยชน์ต่อสุขภาพ ทานตะวัน
คุณค่าทางสารอาหารและประโยชน์ต่อสุขภาพ ทานตะวัน
ทานตะวัน พืชดอกสีเหลืองที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม แต่เมล็ดทานตะวันและน้ำมันทานตะวันยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร และเชื่อกันว่าอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต บรรเทาการติดเชื้อแบคทีเรีย รักษาการติดเชื้อราที่เท้า เป็นต้น

ส่วนเมล็ดทานตะวันนั้น ประกอบไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่มีคุณค่าหลายชนิด เช่น มีทองแดง แมงกานีส และซีลีเนียมในปริมาณมาก มีวิตามินอี วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก ใยอาหาร และโปรตีน เป็นต้น

นอกจากนี้ เมล็ดทานตะวันยังมีไขมันสูงด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการรับประทานไขมันชนิดนี้ในปริมาณที่พอดี และรับประทานทดแทนอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวหรือไขมันทรานส์สูง อาจมีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ ลดความดันโลหิต ตลอดจนลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลได้

ประโยชน์ต่อสุขภาพจากทานตะวัน

ลดคอเลสเตอรอล

เมล็ดและน้ำมันทานตะวันอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งไขมันชนิดนี้มีหน้าที่กำจัดไขมันคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีซึ่งสะสมอยู่ตามหลอดเลือด การบริโภคผลิตภัณฑ์จากทานตะวันจึงอาจช่วยลดคอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมองได้

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่สนับสนุนประโยชน์ของทานตะวันในด้านนี้ โดยการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ทดลองในกลุ่มชายอายุ 35-55 ปี จำนวน 14 คน และหญิงวัยหมดประจำเดือนอายุ 50-60 ปี จำนวน 14 คน พบว่าหลังรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันทานตะวันที่อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเป็นเวลา 1 เดือน ผู้ทดลองมีระดับไขมันชนิดที่ดีเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลดลงตามไปด้วย สอดคล้องกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ชี้ว่า กลุ่มชายหญิงที่รับประทานอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวจากน้ำมันทานตะวันนั้น มีระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีและระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ลดลงมากกว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง

นอกจากนี้ มีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนผู้ทดลองมากขึ้น และทดลองกับผู้ป่วยไขมันในเลือดสูงโดยตรงจำนวน 96 คน โดยแบ่งกลุ่มให้ผู้ป่วยรับประทานน้ำมันทานตะวันหรือน้ำมันคาโนล่าเป็นเวลา 6 เดือน ผลปรากฏว่าทั้ง 2 กลุ่มต่างมีระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีและไขมันไตรกลีเซอไรด์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งมีไขมันชนิดที่ดีเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันดีอย่างทานตะวันแทนอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์นั้น เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและอาจช่วยลดไขมันชนิดที่ไม่ดีได้

ลดความดันโลหิต

นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ไขมันไม่อิ่มตัวอาจมีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งเมล็ดทานตะวันและน้ำมันทานตะวันก็เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันชนิดนี้ จึงมีการทดลองเปรียบเทียบคุณสมบัติของไขมันไม่อิ่มตัวจากทานตะวันกับน้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัวชนิดอื่น ๆ ตามมา

โดยมีงานวิจัยหนึ่งแบ่งกลุ่มให้ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจำนวน 530 คนที่ใช้ยาลดความดันโลหิตอย่างนิเฟดิปีน รับประทานน้ำมันที่มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวอย่างน้ำมันงา น้ำมันทานตะวัน น้ำมันถั่วลิสง หรือไม่รับประทานน้ำมันชนิดใด ๆ ผลลัพธ์พบว่าทุกกลุ่มมีระดับความดันโลหิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อเทียบกับน้ำมันอีก 2 ชนิด กลุ่มน้ำมันงาจะเห็นผลชัดที่สุด โดยผู้ป่วยกลุ่มน้ำมันงาและน้ำมันทานตะวันมีระดับไขมันคอเลสเตอรอลโดยรวมและไขมันไตรกลีเซอไรด์ลดลง ในขณะเดียวกันก็มีระดับไขมันดีเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ล่าสุดมีงานวิจัยที่ให้อาสาสมัครวัย 30-60 ปี จำนวน 60 คน ที่เป็นโรคอ้วนลงพุงแบ่งกลุ่มและให้ได้รับน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์หรือน้ำมันเมล็ดทานตะวันเป็นระยะเวลา 7 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์มีความดันโลหิตลดลงมากกว่าเล็กน้อย ในขณะที่กลุ่มน้ำมันเมล็ดทานตะวันมีไขมันโดยรวมและคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีลดลงมากกว่า

จากผลการทดลองต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าน้ำมันจากทานตะวันอาจมีผลต่อการลดระดับความดันโลหิตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับน้ำมันจากพืชชนิดอื่น ๆ ดังนั้น ทานตะวันจึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการช่วยลดความดันโลหิต ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจึงควรรับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ และปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมหรือสมุนไพรใด ๆ ก็ตาม

รักษาการติดเชื้อราที่เท้า

น้ำมันจากดอกทานตะวันอาจช่วยยับยั้งเชื้อราได้ โดยมีงานวิจัยหนึ่งพบว่าผู้ป่วยโรคเชื้อราที่เท้าจำนวน 100 คนที่ได้รับการรักษาด้วยน้ำมันทานตะวัน 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ มีอาการดีขึ้นเทียบเท่ากับผู้ป่วยอีกกลุ่มที่ใช้ยารักษาการติดเชื้อราอย่างคีโตโคนาโซลที่ความเข้มข้น 2 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย

ทารกแรกเกิดนั้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะทารกที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งมักจะมีเกราะป้องกันผิวไม่แข็งแรงเท่าที่ควร การทาน้ำมันเมล็ดทานตะวันลงบนผิวของทารกจึงอาจเป็นวิธีทางธรรมชาติที่ประหยัดและปลอดภัยในการป้องกันเชื้อโรคให้ลูกน้อย

ผลงานวิจัยจำนวนหนึ่งสนับสนุนประโยชน์ในด้านนี้ โดยมีการทดลองพบว่าทารกที่คลอดก่อนกำหนดขณะมีอายุครรภ์น้อยกว่า 34 สัปดาห์ จำนวน 51 คน ที่ถูกทาน้ำมันเมล็ดทานตะวันตามผิวหนังวันละ 3 ครั้ง มีอัตราการติดเชื้อขณะอยู่ในโรงพยาบาลลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับทารกอีก 52 คนที่ไม่ได้ทาน้ำมันชนิดนี้ และยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งพบว่าทารกคลอดก่อนกำหนดที่ทาน้ำมันเมล็ดทานตะวันในช่วง 10 วันแรกหลังคลอดนั้นมีสภาพผิวที่แข็งแรงขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางการแพทย์ในปัจจุบันก็ยังมีไม่มากและไม่ชัดเจนเพียงพอที่จะสรุปสรรพคุณด้านนี้ของทานตะวันได้ จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป ก่อนจะนำทานตะวันมาประยุกต์ใช้เพื่อต้านเชื้อโรคอย่างแบคทีเรียได้จริง

บริโภคหรือใช้ผลิตภัณฑ์ทานตะวันอย่างไร ให้ได้ประโยชน์และปลอดภัยต่อสุขภาพ ?

เมล็ดทานตะวันเป็นอาหารที่รับประทานง่ายและประยุกต์กับอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะกินเล่นเป็นของว่าง ผสมกับสลัดผักผลไม้ สลัดไก่ สลัดทูน่า สมูทตี้ โยเกิร์ต หรือไอศกรีม โดยเมล็ดทานตะวันมีแคลอรี่ในระดับปานกลางไปจนถึงสูงปานกลาง และสามารถเลือกรับประทานไขมันชนิดที่ดีได้จากเมล็ดทานตะวันหรืออาหารชนิดอื่น ๆ แทนอาหารที่มีแคลอรี่และไขมันอิ่มตัวสูง

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ปลอดภัย และส่งผลดีต่อสุขภาพ ผู้บริโภคควรจำกัดปริมาณการรับประทานให้เหมาะสม เพราะแม้ทานตะวันจะมีไขมันชนิดที่ดี แต่หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้มีน้ำหนักตัวและรอบเอวเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ก่อนรับประทานเมล็ดทานตะวันที่ผ่านการแปรรูป ควรดูปริมาณเกลือหรือโซเดียมบนฉลากด้วย เพราะการได้รับโซเดียมจากอาหารมากเกินไปอาจส่งผลต่อสุขภาพหัวใจและไต รวมทั้งอาจทำให้เกิดภาวะบวมน้ำจนนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูงได้

ส่วนการรับประทานน้ำมันเมล็ดทานตะวันหรือการทาลงบนผิวหนังนั้น ก็อาจปลอดภัยหากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่บุคคลต่อไปนี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอหากต้องการใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการรักษาหรือป้องกันโรค

หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันได้ว่าน้ำมันทานตะวันมีความปลอดภัยต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และทารก
ผู้ที่เคยมีอาการแพ้หรือสงสัยว่าแพ้น้ำมันเมล็ดทานตะวัน
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะการรับประทานอาหารที่มีน้ำมันทานตะวันในปริมาณสูงอาจส่งผลให้ระดับอินซูลินและน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งอาจทำให้มีไขมันในเลือดหลังมื้ออาหารเพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ป่วยโรคนี้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงตีบแข็งได้


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
อ่าน:3469
ปุ๋ยบำรุงแตงโม ปุ๋ยแตงโม โตไว ระบบรากแข็งแรง ออกผลดี มีคุณภาพ FK-1 มี N,P,K,Mg,Zn



บำรุงแตงโม ด้วย FK-1 ประกอบด้วยธาตุอาหาร N - ไนโตรเจน ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต แตกยอด แตกใบ แตงโมโตไว ใบเขียว สังเคราะห์แสงได้ดี มีธาตุ P - ฟอสฟอรัส ระบบรากแข็งแรง แตกรากดี ช่วยการติดการติดดอกติดผล และ ธาตุ K - โพแตสเซียม ส่งเสริมกระบวนการสะสมอาหาร ทำให้ผลโต มีความสมบูรณ์ นอกจากนั้นแล้ว ยังประกอบด้วย Mg - แมกนีเซียม ที่ช่วยสังเคราะห์กรดอะมิโน วิตามิน ไขมัน และน้ำตาล เพื่อเป็นอาหารและพลังงาน มี ธาตุ Zn - สังกะสี ควบคุมการเจริญเติบโต สังเคราะห์ฮอร์โมนออกซิน คลอโรฟิลล์และแป้ง ควบคุมการย่อยน้ำตาลของพืช จึงทำให้ แตงโม เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ แข็งแรง และให้ผลผลิตดี

http://www.farmkaset..link..

มีสารจับใบในตัว ลดแรงตรึงผิว ทำให้ FK-1 สามารถเกาะใบ และดูดซึมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

อัตราส่วนการผสม
- แกะกล่องออกมามี 2 ถุง ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง
- ตักถุงแรก 1-2 ช้อนโต๊ะ ถุงที่สอง 1-2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร
- คนให้แตกตัวละลายเข้ากับน้ำ
- ฉีดพ่นทางใบพืช

ราคา 890บาท ต่อกล่อง
ในหนึ่งกล่อง ประกอบด้วย
บัวแก้ว บรรจุ 1กิโลกรัม 1ถุง ทะเบียน เลขที่ 1641/2563 (กรมวิชาการเกษตร)
เอฟ-วัน บรรจุ 1กิโลกรัม 1ถุง ใบรับแจ้ง เลขที่ รส. 1727/2563 (กรมวิชาการเกษตร)
ผสมใช้พร้อมกัน

พืชจะถูกจำกัดการเจริญเติบโต ด้วยธาตุอาหารที่ได้รับต่ำสุด (Liebig s law of the minimum) FK-1 ให้ธาตุอาหารที่จำเป็นครบถ้วน แก้ปัญหาพืชโตช้า ส่งเสริมให้ผลผลิตสูง มีคุณภาพ

ปุ๋ย FK-1 เร่งโต สำหรับพืชต่างๆ ประกอบด้วย ธาตุหลัก สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ สารจับใบ ไนโตรเจน [N] ฟอสฟอรัส [P] โพแทสเซียม [K] แมกนีเซียม [Mg] สังกะสี [Zn]

การสั่งซื้อ ส่งฟรีถึงบ้าน เก็บเงินปลายทาง

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

FK-1 จาก ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

FK-1 จาก ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3469
ข้าววัชพืช ป้องกัน กำจัด ลดปริมาณ เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว
ข้าววัชพืช ป้องกัน กำจัด ลดปริมาณ เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว
ข้าววัชพืช ป้องกัน กำจัด ลดปริมาณ เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว
1. ข้าววัชพืช คืออะไร ต่างกับข้าวทั่วไปอย่างไร

ข้าวที่ชาวนาใช้ปลูกทั่วไป มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Oryza sativa L. ใช้ปลูกในประเทศไทยมากกว่า 100 พันธุ์ เรียกในที่นี้ว่าข้าวปลูก เป็นพันธุ์ข้าวที่ถูกคัดเลือกให้มีลักษณะที่ต้องการเช่นผลผลิตสูง ข้าวสารมีสีขาว ใส คุณภาพหุงต้มนุ่มและหอม ไปจนถึงร่วนแข็ง ต้านทานต่อโรคหรือแมลงที่สำคัญ ข้าวพันธุ์หนึ่งจะมีลักษณะทางการเกษตรต่างๆ เหมือนกันและคงตัว คือในพันธุ์เดียวกันจะมีลักษณะ สีใบ ทรงกอ ความสูง การออกรวง สีเปลือก สีข้าวกล้อง เหมือนกันและคงตัว และทุกพันธุ์จะมีลักษณะสำคัญคือเมล็ดจะสุกแก่ใกล้เคียงกันคือหลังบานดอกแล้วประมาณ 28-30 วัน พร้อมที่จะถูกเก็บเกี่ยวและถูกนวดให้หลุดจากรวง คือจะไม่สุกแก่ก่อนเวลาไม่หลุดร่วงเองได้ง่ายๆ และข้าวเปลือกจะไม่มีหางหรือถ้ามีก็จะสั้นมาก

ข้าวป่าเป็นบรรพบุรุษของข้าวที่ใช้ปลูกในปัจจุบัน เป็นข้าวอีกชนิดหนึ่งที่มีตามธรรมชาติทั้งในที่ลุ่มลึกและบนที่ดอน ข้าวป่ามีหลายชนิดและที่มีความสำคัญและคาดว่าจะเป็นเชื้อพันธุ์ของข้าววัชพืชมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Oryza rufipogon Griff. ข้าวป่าแม้จะสามารถแบ่งเป็นหลายชนิด ในแต่ละชนิดจะมีหลายลักษณะ แต่มีลักษณะสำคัญหลายประการที่มีในข้าวป่าทุกชนิดคือ เมล็ดในรวงเดียวกันสุกแก่ไม่พร้อมกันตั้งแต่ 9-30 วัน เมื่อสุกแก่ก็จะหลุดร่วงได้เอง เมล็ดมีระยะพักตัวหลากหลายตั้งแต่ไม่มีระยะพักตัวไปจนถึงระยะพักตัวหลายปี เมล็ดข้าวเปลือกและข้าวกล้องของข้าวป่าจะมีหลากหลายสี เมล็ดอาจมีหางยาวมากกว่า 10 เท่าตัวของเมล็ด และมีหลายสี

“ข้าววัชพืช” มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า weedy rice เป็นวัชพืชชนิดหนึ่งที่กำลังระบาดอย่างรุนแรงในนาภาคกลางจนถึงภาคเหนือตอนล่าง มีลักษณะเหมือนต้นข้าวจนแยกไม่ออกในระยะกล้า มีชื่อเรียกต่างๆกันไปในแต่ละท้องถิ่นตามลักษณะของข้าววัชพืชที่ปรากฏเช่น ข้าวหาง เนื่องเมล็ดมีหางยาว ข้าวดีด ข้าวเด้ง เนื่องจากเมื่อเมล็ดแก่ และถูกลมพัดหรือคนไปสัมผัส เมล็ดจะร่วง ข้าวลาย เนื่องเมล็ดมีเปลือกลาย ข้าวแดง เนื่องจากเมื่อแกะเมล็ดจะพบว่าเมล็ดข้าวกล้องมีสีแดง ดาวกระจาย เนื่องจากลักษณะรวงจะกางออกและเมื่อเมล็ดแก่จะร่วงและกระจายไปรอบๆ เป็นต้น เคยระบาดในประเทศไทยที่จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช ปราจีนบุรี และพิษณุโลกในปี 2518 ความเสียหายที่จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ผลผลิตลดลงมากกว่า 80% แต่ก็มีการจัดการได้ซึ่งสมัยนั้นโดยการเผาฟาง เปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ การเขตกรรมโดยการไถล่อข้าววัชพืชหลายครั้ง เนื่องจากชาวนายังทำนาปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และพบการระบาดรุนแรงอีกครั้งเมื่อปี 2544 ที่จังหวัดกาญจนบุรี จนถึงปัจจุบัน ข้าววัชพืชขยายวงกว้างของการระบาดออกไปเรื่อย ๆ จากการสำรวจข้อมูลการระบาดของข้าววัชพืชในฤดูนาปี 2550 พบการระบาดในพื้นที่นาของประเทศไทยถึง 19.2 ล้านไร่

2. ข้าววัชพืชเกิดขึ้นได้อย่างไร

จากการศึกษาของหลายหน่วยงานพบว่า ข้าววัชพืชเกิดจากการผสมข้ามระหว่างข้าวป่าธรรมชาติ
(O. rufipogon L.) กับข้าวปลูก และมีการกระจายตัวของลูกหลานออกเป็นหลายลักษณะ โดยอัตราการผสมข้ามระหว่างข้าวปลูกกับข้าวป่า และระหว่างข้าวปลูกกับข้าววัชพืช ลูกผสมที่กระจายตัวและเจริญแพร่พันธุ์ในแปลงปลูกมีลักษณะส่วนใหญ่ไม่เป็นที่ต้องการของชาวนา

3. การจำแนกข้าววัชพืช
สามารถจำแนกตามลักษณะภายนอกของข้าววัชพืชได้เป็น 3 ลักษณะ ดังนี้

ข้าวหางหรือข้าวนก
คือข้าววัชพืชที่มีลักษณะเมล็ดข้าวเปลือกสีดำหรือสึน้ำตาลเข้ม มีหางยาว หางอาจจะมีสีแดงหรือขาวในระยะข้าวยังสด เมล็ดร่วงก่อนเก็บเกี่ยว สีของเยื่อหุ้มเมล็ดมีทั้งแดงไปจนถึงขาว

ข้าวแดงหรือข้าวลาย
คือข้าววัชพืชที่มีลักษณะสีข้าวเปลือกมักมีสีเข้มไปจนถึงลายสีน้ำตาลแดง เมล็ดข้าวเปลือกส่วนใหญ่ไม่มีหาง เมล็ดมีทั้งร่วงและไม่ร่วงก่อนเก็บเกี่ยว แต่สีของเยื่อหุ้มเมล็ดส่วนใหญ่มีสีแดง

ข้าวดีดหรือข้าวเด้ง
คือข้าววัชพืชที่มีลักษณะร่วงง่ายและร่วงเร็วโดยทยอยร่วงตั้งแต่หลังบานดอก 9 วันเป็นต้นไป เมล็ดข้าวเปลือกส่วนใหญ่มีหางสั้นหรือไม่มีหาง ข้าวเปลือกส่วนใหญ่มีสีเหลืองฟาง สีของเยื่อหุ้มเมล็ดมีทั้งแดงและขาว

4. สาเหตุการแพร่ระบาดของข้าววัชพืช
การแพร่ระบาดของข้าววัชพืช มาจากสาเหตุ 5 ประการ คือ

4.1 ติดมากับเมล็ดพันธุ์ข้าวเนื่องจากเกษตรกรใช้พันธุ์ข้าวจากแหล่งไม่มีคุณภาพ ในรอบ 1 ปี ชาวนามีความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวประมาณกว่า 1 ล้านตัน แต่หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี ได้มาตรฐานได้ไม่เกิน 15 % ของความต้องการของชาวนาเท่านั้น อีก 85 % ชาวนาจำเป็นต้องเสี่ยงในการหาซื้อเมล็ดพันธุ์เองตามร้านค้าและแหล่งผลิตเอกชน ซึ่งอาจจะไม่ได้มาตรฐานและมีเมล็ดข้าววัชพืชติดมาด้วย

4.2 ติดมากับอุปกรณ์ในการทำนา เครื่องมือเตรียมดิน_ เก็บเกี่ยวหรือภาชนะบรรจุข้าว โดยเฉพาะรถเกี่ยวนวดข้าว เมื่อไปเกี่ยวข้าวในแปลงที่มีการระบาดของข้าววัชพืชรุนแรง เมล็ดข้าวที่ติดมากับรถเกี่ยวนวด มีจำนวนประมาณ 2-5 ถัง ซึ่งมีโอกาสที่เมล็ดข้าววัชพืชติดมาด้วย และมาร่วงหล่นในนาแปลงใหม่ที่รถเกี่ยวนวดข้าวลงทำงาน

4.3 ติดมากับปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ ที่ผลิตจากวัสดุที่ได้มาจากนาข้าว เช่น ฟาง แกลบ ขี้เถ้าแกลบ หน้าดินผสมจากท้องนา ซึ่งเมล็ดข้าววัชพืชมีคุณสมบัติอยู่ได้นานในสภาพต่าง ๆ

4.4 การแพร่ไปกับน้ำ ในระบบชลประทาน (ข้าวหาง ข้าวครึ่งเมล็ด) ลอยไปกับน้ำลงสู่แปลงนาได้

4.5 ติดไปกับอาหารเสริมของเป็ดที่ปล่อยในนาข้าว ส่วนใหญ่เป็นข้าวเปลือกที่มีราคาถูก มีสิ่งเจือปน

5. ลักษณะของข้าววัชพืชที่ทำให้เป็นปัญหาร้ายแรง
ดังได้กล่าวมาแล้วว่าข้าววัชพืชมีลักษณะต่างๆที่คล้ายหรือแตกต่างกับข้าวปลูกอย่างไรบ้าง แต่ลักษณะสำคัญที่ทำให้ข้าววัชพืชเป็นวัชพืชร้ายแรง ดังนี้

5.1 ข้าววัชพืชมีการเจริญเติบโตรวดเร็ว มีความสามารถในการแข่งขันได้ดีกว่าข้าวปลูก ข้าววัชพืชอาจมีความสูงมากกว่าข้าว จึงมีความสามารถในการแก่งแย่งธาตุอาหารและแสงแดดมากกว่าข้าว ข้าววัชพืชที่ต้นสูงจะล้มทับข้าวในระยะออกรวงทำให้ต้นข้าวปลูกเสียหาย

5.2 ข้าววัชพืชบางชนิดออกดอกเร็วกว่าข้าวปลูกและเมล็ดส่วนใหญ่ร่วงก่อน จึงไม่ถูกเก็บเกี่ยวไปพร้อมกับข้าวปลูก ทำให้มีเมล็ดสะสมอยู่ในแปลงนา ซึ่งจะเพิ่มความหนาแน่นมากขึ้นในฤดูต่อไป

5.3 เมล็ดข้าววัชพืชที่ร่วงสะสมอยู่ในนามีระยะพักตัวหลากหลาย จึงไม่ได้งอกพร้อมกันทั้งหมด ทำให้ยากต่อการกำจัด

5.4 เมล็ดส่วนใหญ่ร่วงก่อนเก็บเกี่ยว จึงไม่ถูกเก็บเกี่ยวไปพร้อมกับข้าวปลูก ทำให้ผลผลิตข้าวลดลงได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์

5.5 เมล็ดข้าววัชพืชที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงปะปนไปกับผลผลิตข้าว ทำให้ถูกตัดราคา

6. การป้องกันปัญหาข้าววัชพืช
แม้ว่าข้าววัชพืชจะเกิดจากการผสมข้ามระหว่างข้าวปลูกกับข้าวป่าก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นได้โดยง่าย ดังนั้นการป้องกันเมล็ดข้าววัชพืชจากแหล่งที่มีการระบาดแล้วไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาในแปลงนาที่ยังไม่มีการปลอมปน และเพื่อไม่ให้เผชิญกับปัญหาข้าววัชพืช ดังนั้นชาวนาสามารถทำการป้องกันปัญหาข้าววัชพืชได้โดย

6.1 การเลือกใช้เมล็ดพันธุ์มาตรฐานไม่มีข้าววัชพืชปลอมปน

6.2 ทำความสะอาดเครื่องจักรกลเกษตรก่อนการทำงานในแปลงทุกครั้ง

6.3 การใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ ที่ไม่นำวัสดุจากนาข้าวมาผลิต หรือต้องมั่นใจว่าไม่มีข้าววัชพืชปนมา

6.4 น้ำชลประทานที่ผ่านท้องที่ที่มีการระบาดของข้าววัชพืช อาจมีเมล็ดข้าววัชพืชลอยมากับน้ำได้ การใช้ตาข่ายกั้นทางน้ำก็จะป้องกันข้าววัชพืชได้

7. การกำจัดข้าววัชพืชโดยวิธีเขตกรรม
การผสมผสานหลายวิธีการในทุกขั้นตอนของการทำนาดังต่อไปนี้ จะช่วยแก้ปัญหาข้าววัชพืชได้ไม่ต้องพึ่งพาสารกำจัดวัชพืชหรือสารเคมีใดๆ

7.1 การกำจัดเมล็ดข้าววัชพืชโดยล่อให้งอกแล้วไถกลบ
การเตรียมดินโดยการไถ พรวน หรือคราดทำเทือก ควรเว้นช่วง 2-4 สัปดาห์ เพื่อเว้นระยะเวลาให้เมล็ดข้าววัชพืชที่ยังเหลืออยู่ในดินได้มีโอกาสพ้นระยะพักตัวมากขึ้น โดยการมีขั้นตอนดังนี้ ปล่อยให้แปลงแห้งก่อนการเก็บเกี่ยวข้าวประมาณ 10 วัน หลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้วปล่อยให้แห้งต่ออีก อย่างน้อย 1 สัปดาห์ แล้วเอาน้ำเข้าแปลงพอชื้น เพื่อให้เมล็ดข้าววัชพืชงอก ไถกลบ ปล่อยแปลงในสภาพชื้นต่ออีก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เมล็ดข้าววัชพืชที่หลงเหลืออยู่งอกขึ้นมาอีก แล้วไถทิ้ง การล่อให้งอกแล้วไถกลบทำลายในแต่ละครั้งสามารถลดปริมาณข้าววัชพืชลงได้มากกว่า 50 %

7.2 เปลี่ยนวิธีการปลูกข้าว

7.2.1 วิธีปักดำ
การปักดำด้วยมือ ใช้เครื่องจักรตกกล้าปักดำ หลังปลูกให้ขังน้ำทันทีระดับน้ำลึก 3-5 ซม. จะป้องกันการงอกข้าววัชพืชได้ แต่ชาวนาต้องใช้เมล็ดพันธุ์บริสุทธิ์ และตกกล้าในแปลงนาที่ไม่มีข้าววัชพืชอยู่ก่อน อย่างไรก็ตามแม้จะใช้วิธีปักดำและการขังน้ำอย่างมีประสิทธิภาพก็อาจยังมีข้าววัชพืชงอกและเจริญเติบโตขึ้นมาได้ ทั้งนี้ข้าววัชพืชที่เจริญเติบโตขึ้นมาได้นี้จะอยู่นอกแถวหรือนอกกอของการปักดำ ชาวนาจึงพบเห็นข้าววัชพืชได้สะดวกตั้งแต่ในระยะแรก และสามารถถอนกำจัดเสียแต่ต้น

7.2.2 การปลูกข้าวด้วยวิธีโยนกล้า
ปลูกข้าวด้วยวิธีโยนกล้า เป็นการเพาะข้าวจำนวน 3-4 เมล็ดต่อหลุมลงในถาดพลาสติก มีหลุมขนาดเล็ก แต่ละหลุมบรรจุดินประมาณ 2.5 กรัม โดยใช้เมล็ดพันธุ์บริสุทธิ์เพียง 3-4 กิโลกรัม เพาะลงในถาดจำนวน 50-60 ถาด นำไปโยนได้ 1 ไร่ อายุต้นกล้าที่เหมาะสม 12-16 วัน หลังโยนกล้า 1-2 วัน ให้ขังน้ำและเพิ่มระดับน้ำ 5-10 ซม. จะป้องกันการงอกของข้าววัชพืชได้ดี แต่เกษตรกรจะต้องเตรียมแปลงให้สม่ำเสมอ และข้อสำคัญอย่าให้นาขาดน้ำ

7.3 การตรวจตัดข้าววัชพืช
การตรวจตัดข้าววัชพืชเป็นการลดปัญหาไม่ให้ข้าววัชพืชผลิตเมล็ดสะสมในแปลงนาเพิ่มขึ้น ในระยะแตกกอเริ่มเห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจน โดยจะสังเกตเห็นข้าววัชพืชส่วนใหญ่มีความสูงมากกว่า ลำต้นและใบมีสอ่อนกว่าข้าวปลูก ระยะนี้ต้องใช้วิธีถอนต้นข้าววัชพืชทิ้ง พอถึงระยะออกดอกจะเห็นความแตกต่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยข้าววัชพืชส่วนใหญ่จะออกดอกก่อนข้าวปลูก ระยะนี้ต้องใช้วิธีตัดชิดโคนต้นข้าววัชพืช แล้วนำไปทิ้งนอกแปลง เนื่องจากข้าววัชพืชงอกไม่พร้อมกันจึงแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างข้าวปลูกกับข้าววัชพืชไม่พร้อมกัน ดังนั้นจึงควรมี

7.4 การเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง
การเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งสามารถลดปริมาณเมล็ดข้าววัชพืชที่หลุดร่วงอยู่บนผิวดินได้ โดยเป็ด 200 ตัว/ไร่ ปล่อยไว้เป็นเวลา 2 วัน สามารถลดความหนาแน่นข้าววัชพืชได้ถึง 50 %

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..
สินค้าจากเรา

ชุดย่อยสลายฟางข้าว ชุดย่อยสลายตอฟาง ย่อยสลายใน 7วัน ไม่ต้องเผา

ลดข้าวดีดมากกว่า 70% รวดเร็วในการย่อยสลายตอซังฟางข้าว ภายใน 5-7 วัน โดยไม่ต้องเผา ปรับสภาพดินในนาข้าว สามารถไถพรวนได้ง่าย เพิ่มจุลธาตุอาหารให้แก่นาข้าวหลังการเก็บเกี่ยว สามารถลดปัญหาข้าวดีด และข้าววัชพืชอื่น ๆ ในนาข้าวได้

#ย่อยสลายฟางข้าว #ย่อยสลายตอฟาง #ย่อยสลายตอซัง

🔤ทักแชทได้เลยค่ะ

☎โทร 090-592-8614

🆗ไลน์ไอดี FarmKaset คลิกลิงค์เพื่อแอดไลน์ http://www.farmkaset..link..

🎗ซื้อ ชุดย่อยสลายตอฟาง กับ Lazada : http://www.farmkaset..link..

🎗ซื้อ ชุดย่อยสลายตอฟาง กับ Shopee : http://www.farmkaset..link..
แคลเซียม ช่วยเพิ่มผลผลิตและ ปรับปรุงดิน ได้อย่างไร
แคลเซียม ช่วยเพิ่มผลผลิตและ ปรับปรุงดิน ได้อย่างไร
สำหรับเกษตรกรมือใหม่ หรือผู้ที่เริ่มต้นปลูกพืชอาจจะไม่ทราบว่า พืชที่จะเจริญเติบโตได้ดี ออกผลผลิตได้มากและมีน้ำหนักดี จำเป็นจะต้องพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่า ธาตุอาหารในการเจริญเติบโต ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้หากพืชได้ไม่ครบก็อาจจะแสดงอาการผิดปกติบางประการออกมา หรืออาจจะถึงขั้นไม่สามารถดำรงชีพได้ครบวงจร ไม่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปและแน่นอนว่าอาจตายลงในที่สุด

ยกตัวอย่างธาตุอาหารจำเป็นสำหรับพืช เช่น

ไนโตรเจน (N) ช่วยให้พืชมีสีเขียว ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบ และลำต้น ทำให้ลำต้น และใบมีสีเขียวเข้ม ควบคุมการออกดอก และติดผลของพืช อีกทั้งเพิ่มปริมาณโปรตีนให้แก่พืช

ฟอสฟอรัส (P) ส่งเสริมการออกดอกและผล ติดเมล็ด การพัฒนาเมล็ดและผล เร่งการเจริญเติบโตของราก พร้อมช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคพืช และมีส่วนช่วยในการเร่งการสุกแก่ของผลให้เร็วขึ้น

โพแทสเซียม (K) ช่วยพืชสร้างอาหาร (สังเคราะห์แสง) และมีส่วนช่วยทำให้รากแข็งแรง ทำให้รากดูดน้ำ และธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทนทานต่อโรคแมลง อีกทั้งเพิ่มขนาดผลผลิต เมล็ด และช่วยเพิ่มคุณภาพของพืช ผัก และผลไม้ ทำให้พืชมีสีสัน เพิ่มขนาด และเพิ่มความหวาน

ซึ่งธาตุทั้งสามนี้ นับเป็นธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องการเพียงแค่นี้ ยังมีธาตุอาหารรองอีกหลายชนิดที่พืชเองก็ต้องการด้วยเช่นเดียวกัน โดยเราจะขอยกตัวอย่างหนึ่งในธาตุอาหารรองที่แสนจะสำคัญสำหรับพืช เพราะมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการแบ่งเซลล์ของพืช บริเวณเนื้อเยื่อเจริญทั้งที่ปลายยอด ปลายราก ใบอ่อน การแตกตาอ่อนของกิ่ง ของตาดอก และการเจริญของดอกและผลเป็นสำคัญ นั่นก็คือ ธาตุแคลเซียม นั่นเอง

ทำความรู้จัก “ธาตุแคลเซียมช่วยเพิ่มผลผลิต”

ธาตุแคลเซียม มีความสำคัญในการเป็นธาตุอาหารรองสำหรับพืช โดยจัดเป็นส่วนประกอบของสารที่เชื่อมเซลล์สองเซลล์ให้ติดกัน เรียกว่า แคลเซียมเพคเตต ช่วยคงสภาพโครงสร้างของเซลล์พืชให้ทำงานปกติ ช่วยการดูดซึมธาตุโพแทสเซียม ช่วยลดพิษของธาตุแมกนีเซียม ทำให้พืชดูดซึมธาตุแมกนีเซียมมากขึ้น และนำธาตุแมกนีเซียมไปสร้างคลอโรฟิลล์ แคลเซียมจึงเป็นธาตุอาหารที่มีความสำคัญในด้านที่ช่วยให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ

หน้าที่สำคัญของธาตุแคลเซียมในพืช

มีหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับโครงสร้างของผลไม้ คือ ช่วยเสริมสร้างเซลล์ และการแบ่งเซลล์ของพืช ซึ่งพืชต้องการอย่างต่อเนื่อง

ช่วยในการสร้างเซลล์และโครงสร้างของเซลล์ของพืช ช่วยให้เซลล์ติดต่อกัน และจะช่วยเชื่อมผนังเซลล์ให้เป็นรูปร่าง และขนาดให้เป็นไปตามลักษณะของพืชแต่ละชนิด ทำให้พืชแข็งแรง

ช่วยเพิ่มการติดผล

ช่วยให้สีเนื้อและสีผิวของผลสดใส

ช่วยลดการเกิดเนื้อของผลแข็งกระด้าง และเนื้อแฉะ

ช่วยป้องกันผลร่วง ผลแตก

มีบทบาทที่สำคัญในระยะการเจริญเติบโตและการออกดอกของพืช

มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการย่อยธาตุไนโตรเจน และช่วยให้พืชดูดไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เป็นตัวช่วยลดการหายในของพืช ทำให้พืชเหี่ยวช้า

เป็นตัวช่วยเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบไปสู่ผล ทำให้ผักผลไม้มีรสชาติดี

ควบคุมการดูดน้ำเข้าไปในเซลล์พืช และป้องกันผลแตก

ทนทานต่อการเข้าทำลายของโรคและแมลง ไม่เน่าง่าย

วิธีการเติมแคลเซียมเพิ่มผลผลิตให้กับพืช

ปกติแล้วแคลเซียมนั้นเป็นธาตุที่ไม่เคลื่อนย้ายในพืช ดังนั้น การเพิ่มปริมาณแคลเซียมในดินเพื่อเพิ่มปริมาณแคลเซียมในผลไม้มักไม่ค่อยได้ผลดี การให้แคลเซียมที่ใบหรือผลโดยตรงดูจะเป็นวิธีการเพิ่มปริมาณแคลเซียมในผลที่ได้ผลที่สุด ซึ่งวิธีการเติมแคลเซียมเพิ่มผลผลิตให้กับพืชจะให้แคลเซียมช่วงก่อนการเก็บเกี่ยวโดยการฉีดพ่นที่ผลบนต้น โดยสามารถใช้ผสมรวมไปกับสารเคมีฆ่าแมลงและฉีดพ่นต้นตามปกติได้เลย หรือการให้แคลเซียมกับผลหลังการเก็บเกี่ยวโดยการจุ่มผล หรือแช่ผลในระบบสุญญากาศหรือให้ความดันพาสารละลายแคลเซียมเข้าไปในผล

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรคำนึงถึงปริมาณของแคลเซียมที่เหมาะสมเอาไว้ด้วย เพราะเกลือแคลเซียมบางชนิดอาจละลายน้ำได้ไม่ดี ถ้าหากความเข้มข้นของแคลเซียมไม่เหมาะสมอาจทำให้มีปริมาณแคลเซียมในผลไม่มากพอ หรือในทางตรงกันข้ามหากผลไม้ได้รับแคลเซียมมากเกินไปอาจทำให้ผลไม้เกิดความผิดปกติได้ ดังนั้น จึงควรนำแคลเซียมมาใส่ในน้ำส้มสายชูกลั่น (5%) 2 มิลลิลิตร ต่อสารละลาย 5 ลิตร เพื่อช่วยในการละลาย นอกจากนี้เกลือแคลเซียมในรูปต่างๆ อาจไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ และบางชนิดอาจก่อให้เกิดอาการผิดปกติกับผลไม้ได้ จึงควรระมัดระวังในการใช้งาน

สรุป

จะเห็นได้ว่า พืชที่ได้รับแคลเซียมเพียงพอ โดยเฉพาะในส่วนของผลผลิต จะทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มีอายุการเก็บรักษาได้นาน เป็นที่ต้องการของตลาด ในส่วนของการเพิ่มแคลเซียมให้พืชอย่างมีประสิทธิภาพนั้น นอกจากคำนึงถึงสภาพแวดล้อมดิน ที่มีความสมดุลของธาตุที่เมื่อเสริมธาตุแล้วจะทำให้พืชดูดซึมได้ดีแล้ว ควรคำนึงถึงวิธีการให้ธาตุอาหารด้วยการฉีดพ่นทางใบ หรือผลที่ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้อย่างทันท่วงทีร่วมด้วย

ข้อมูลจาก http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3469
กำจัดเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน ถัวลิสง และพืช ทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)
กำจัดเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน ถัวลิสง และพืช ทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)
กำจัดเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน ถัวลิสง และพืช ทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)
Maca Alkaloids: ทางออกที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสำหรับการควบคุมสัตว์รบกวน

การควบคุมศัตรูพืชเป็นส่วนสำคัญของการเกษตร เนื่องจากช่วยให้เกษตรกรปกป้องพืชผลของตนจากแมลงศัตรูพืชที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชมีผลกระทบด้านลบหลายประการ เช่น มลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ความเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย และการพัฒนาของความต้านทานต่อประชากรศัตรูพืช ดังนั้นการพัฒนาวิธีการกำจัดศัตรูพืชแบบธรรมชาติและปลอดสารพิษจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำการเกษตรแบบยั่งยืน

วิธีแก้ปัญหาทางธรรมชาติอย่างหนึ่งคือ maca alkaloids ซึ่งสกัดได้จากต้น maca (Lepidium meyenii) Maca เป็นพืชที่เติบโตในภูมิภาค Andean ของอเมริกาใต้ และเป็นที่รู้จักกันดีในด้านประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมถึงความสามารถในการเพิ่มพลังงาน เพิ่มความใคร่ และทำให้อารมณ์ดีขึ้น

อัลคาลอยด์ Maca ได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันโดยใช้หลักการเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อรวมอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูง อัลคาลอยด์เหล่านี้พบว่ามีฤทธิ์ฆ่าแมลงที่มีศักยภาพในการต่อต้านแมลงศัตรูพืชหลายชนิด รวมถึงเพลี้ยในถั่วลิสง ยิ่งไปกว่านั้น สารอัลคาลอยด์ Maca มีวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชโดยไม่ยอมให้ปรับความต้านทาน

ข้อดีที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของการใช้มาคาอัลคาลอยด์ในการควบคุมศัตรูพืชคือไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ สิ่งนี้ทำให้ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้และผู้บริโภครวมถึงเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม Maca alkaloids ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย เช่น แมลงที่เป็นประโยชน์ นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

ข้อดีอีกประการของมาคาอัลคาลอยด์คือความสามารถในการยับยั้งการดื้อยาที่เกิดจากการใช้สารเคมีเป็นเวลานาน แมลงสามารถพัฒนาความต้านทานต่อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่ได้ผลเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอัลคาลอยด์ของ Maca มีวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง จึงป้องกันไม่ให้แมลงปรับตัวเข้ากับการดื้อยา ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ยั่งยืนกว่าสำหรับการควบคุมศัตรูพืช

โดยสรุป Maca alkaloids เป็นวิธีแก้ปัญหาทางธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสำหรับการควบคุมแมลงศัตรูพืชในการเกษตร ธรรมชาติที่ไม่เป็นพิษ วิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง และความสามารถในการยับยั้งการดื้อยาทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ด้วยการใช้ maca alkaloids เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของพวกเขาได้โดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคหรือสิ่งแวดล้อม

การใช้มาคาอัลคาลอยด์ เกษตรกรควรผสมสารละลาย 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นพืชทุกๆ 3 วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันแนะนำให้ฉีดพ่นพืชทุกๆ 15-30 วัน วิธีการนี้สามารถป้องกันและควบคุมแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้สูงสุดด้วยเทคนิคการปลูกที่เหมาะสม
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้สูงสุดด้วยเทคนิคการปลูกที่เหมาะสม
มันสำปะหลัง ทนแล้งและสามารถเติบโตได้ในดินหลากหลายชนิดเท่านั้น การปลูกมันสำปะหลังได้ผลผลิตสูงสุด สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามเทคนิคการปลูกที่เหมาะสม ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณปลูกมันสำปะหลังได้ผลผลิตสูง:

1. เลือกพันธุ์ที่เหมาะสม: มันสำปะหลังมีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไป บางชนิดมีความทนทานต่อศัตรูพืชและโรค ในขณะที่บางชนิดให้ผลผลิตสูงกว่า เลือกพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพอากาศและสภาพดินในท้องถิ่นของคุณ

2. ปลูกในเวลาที่เหมาะสม: มันสำปะหลังเป็นพืชเมืองร้อน ดังนั้นมันจึงเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิที่อบอุ่น ในพื้นที่ส่วนใหญ่ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการปลูกมันสำปะหลังคือช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่มีน้ำเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของพืช อย่างไรก็ตาม อย่าลืมหลีกเลี่ยงการปลูกในช่วงที่ร้อนที่สุดและแห้งแล้งที่สุดของปี เพราะจะทำให้พืชเครียดและให้ผลผลิตลดลง

3. ใช้วัสดุปลูกที่ดีต่อสุขภาพของมันสำปะหลัง: มันสำปะหลังขยายพันธุ์ผ่านการตัดลำต้น ดังนั้นการใช้วัสดุปลูกที่สะอาด และปลอดโรค จึงเป็นเรื่องสำคัญ หลีกเลี่ยงการใช้กิ่งที่มีแมลงศัตรูพืชหรือโรคระบาด เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของการปลูกได้ง่าย

4. การเว้นระยะห่างที่เหมาะสม: มันสำปะหลังต้องการพื้นที่มากในการเจริญเติบโตและพัฒนา ปลูกให้ห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร (5 ฟุต) เพื่อให้แน่ใจว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับกางออก

5. ใช้การเตรียมดินที่เหมาะสม: มันสำปะหลังไม่ใช่พืชที่พิถีพิถันในเรื่องดิน แต่ชอบดินที่ระบายน้ำดีและอุดมสมบูรณ์ ก่อนปลูก ให้พรวนดินด้วยส้อมและผสมในปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เพื่อปรับปรุงโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดิน

6. น้ำอย่างสม่ำเสมอ: มันสำปะหลังสามารถทนแล้งได้ แต่ก็ยังต้องการน้ำที่สม่ำเสมอเพื่อให้เติบโตและให้ผลผลิตสูง การให้น้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้ดินมีความชุ่มชื้น

เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มผลผลิตจากการปลูกมันสำปะหลังได้สูงสุด และเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวพืชผลที่มีคุณค่าทางโภชนาการและหลากหลายมากมาย
ยาฆ่าเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน แตงไทย เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ยาฆ่าเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน แตงไทย เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
อัลคาลอยด์ Maca เป็นอัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติซึ่งได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันโดยใช้หลักการทางเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างส่วนผสมของอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูง พบว่าสารผสมนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชและเพลี้ยในแตงไทยได้ในขณะเดียวกันยังช่วยยับยั้งการดื้อยาที่เกิดจากการใช้สารเคมีเป็นเวลานาน

ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งของการใช้ Maca alkaloids ก็คือพวกมันมีวิธีการทำงานที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งหมายความว่าพวกมันสามารถป้องกันแมลงไม่ให้ปรับความต้านทานต่ออัลคาลอยด์ได้ เนื่องจากอัลคาลอยด์ของ Maca มีโหมดการทำงานหลายโหมดที่มุ่งเป้าหมายไปที่กระบวนการทางชีวภาพต่างๆ ในแมลง ทำให้ยากต่อการพัฒนาของพวกมัน ด้วยเหตุนี้ Maca alkaloids จึงเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมแทนสารเคมีกำจัดแมลง ซึ่งมักสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากการดื้อยาของแมลง

ประโยชน์อีกประการของการใช้ Maca alkaloids คือไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินหรือน้ำ สารเคมีกำจัดแมลงมักทิ้งสารพิษตกค้างที่อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ นี่ไม่ใช่กรณีของ Maca alkaloids ซึ่งปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ใช้และผู้บริโภค

อัลคาลอยด์ของ Maca สกัดจากรากของต้น Maca ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเทือกเขา Andes ของเปรู พืชชนิดนี้ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายศตวรรษโดยชนพื้นเมืองของเปรูสำหรับสรรพคุณทางยา ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Maca alkaloids ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการเกษตรเนื่องจากคุณสมบัติในการฆ่าแมลง

ในการสกัดอัลคาลอยด์ของ Maca นั้น รากของต้น Maca จะถูกเก็บเกี่ยวและทำให้แห้ง จากนั้นรากแห้งจะบดเป็นผงละเอียดซึ่งผสมกับตัวทำละลายเพื่อสกัดอัลคาลอยด์ ส่วนผสมที่ได้จะถูกทำให้บริสุทธิ์เพื่อสร้างสารสกัดอัลคาลอยด์ที่มีความเข้มข้นสูง

อัลคาลอยด์ Maca เป็นทางเลือกที่มีแนวโน้มดีกว่าการใช้สารเคมีกำจัดแมลง เนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมแมลงศัตรูพืชและเพลี้ยในแตงไทย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการดื้อยาที่เกิดจากการใช้สารเคมีกำจัดแมลงในระยะยาว การใช้ Maca alkaloids ช่วยให้เกษตรกรลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดแมลง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

โดยรวมแล้ว การใช้ Maca alkaloids แสดงถึงขั้นตอนสำคัญสู่การเกษตรแบบยั่งยืน การใช้อัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติทำให้เกษตรกรสามารถควบคุมแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของมนุษย์ ในขณะที่ความต้องการสำหรับการเกษตรแบบยั่งยืนยังคงเติบโต Maca alkaloids มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคตของการทำฟาร์ม

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว

ขนาด 1 ลิตร

อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า

พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคดอกสนิมหรือจุดสนิม ในดอกกล้วยไม้ ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคดอกสนิมหรือจุดสนิม ในดอกกล้วยไม้ ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคดอกสนิมหรือจุดสนิม ในดอกกล้วยไม้ ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
เชื้อราไตรโคเดอร์มาคือเชื้อราชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในดินและบนพืช เชื้อราไตรโคเดอร์มาสายพันธุ์หนึ่งคือ Trichoderma harzianum ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการเกษตรในฐานะสารชีวภัณฑ์สำหรับป้องกันและกำจัดโรคพืช ผลิตภัณฑ์เชื้อราไตรโคเดอร์มายี่ห้อหนึ่ง Trichorex เป็นสูตรเฉพาะสำหรับป้องกันและควบคุมราสนิมและจุดสนิมบนพืช

โรคราสนิมและราสนิมเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อพืชหลากหลายชนิด ทั้งพืชไร่ ไม้ประดับ และต้นไม้ โรคเหล่านี้เกิดจากเชื้อราในสกุล Puccinia และ Phragmidium และอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อพืชหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาการของสนิมและจุดสนิม ได้แก่ สปอร์สีเหลือง ส้ม หรือแดงบนใบ ลำต้น และกิ่งก้านของพืชที่เป็นโรค ตลอดจนการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง

Trichorex เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมทางชีวภาพที่ประกอบด้วยสปอร์ของ Trichoderma harzianum และไมซีเลียมที่มีความเข้มข้นสูง เมื่อนำไปใช้กับพืช Trichorex จะตั้งรกรากบนผิวของพืชและแข่งขันกับเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคเพื่อแย่งชิงสารอาหารและพื้นที่ Trichorex ยังผลิตเอนไซม์และสารเคมีที่ยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่พันธุ์ของราสนิมและราสนิม

Trichorex ใช้งานง่ายและสามารถฉีดพ่นทางใบหรือราดทางดินได้ ปลอดภัยสำหรับใช้กับพืชหลากหลายชนิด รวมถึงผัก ผลไม้ ถั่ว และไม้ประดับ และมีประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมการเกิดสนิมและจุดสนิมทั้งในเรือนกระจกและในไร่นา

สรุปได้ว่า Trichorex เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมทางชีวภาพที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับการป้องกันและควบคุมการเกิดสนิมและจุดสนิมบนพืช สารออกฤทธิ์ Trichoderma harzianum เป็นเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งช่วยปกป้องพืชจากโรคเชื้อราและปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของพืช หากคุณกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับสนิมหรือจุดสนิมบนต้นไม้ของคุณ ให้พิจารณาใช้ Trichorex เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ยาฆ่าเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน ทับทิม เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ยาฆ่าเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน ทับทิม เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
อัลคาลอยด์เป็นกลุ่มของสารประกอบอินทรีย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งสามารถพบได้ในพืชหลายชนิด สารประกอบเหล่านี้ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางถึงคุณสมบัติทางยา แต่ก็ยังมีฤทธิ์ฆ่าแมลงซึ่งทำให้มีประโยชน์ในการควบคุมศัตรูพืช

ศัตรูพืชทั่วไปชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับพืชผลได้คือเพลี้ยอ่อน แมลงตัวเล็ก ๆ เหล่านี้กินน้ำเลี้ยงของพืช ทำให้ใบเหี่ยวและเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เพื่อกำจัดเพลี้ย เกษตรกรและชาวสวนจำนวนมากหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารอัลคาลอยด์ เช่น มาคา

ยี่ห้อ Maka เป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่มีส่วนผสมของอัลคาลอยด์ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อกำหนดเป้าหมายเพลี้ยในผลทับทิม สารออกฤทธิ์ในมะค่าคืออะซาไดแรคติน (azadirachtin) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ได้จากต้นสะเดา Azadirachtin ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติในการฆ่าแมลงและมีผลกับแมลงศัตรูพืชหลากหลายชนิด รวมถึงเพลี้ยด้วย

เมื่อนำไปใช้กับต้นทับทิม มาคาจะทำงานโดยรบกวนพฤติกรรมการกินอาหารของเพลี้ย สิ่งนี้ทำให้แมลงหยุดกินต้นไม้ซึ่งนำไปสู่ความตายในที่สุด นอกจากจะมีประสิทธิภาพแล้ว มะค่ายังถือว่าปลอดภัยสำหรับใช้ในการทำเกษตรอินทรีย์และทำสวนอีกด้วย

ข้อดีประการหนึ่งของการใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่มีส่วนประกอบของอัลคาลอยด์ เช่น มาคา คือ พวกมันค่อนข้างไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์อื่นๆ นี่เป็นเพราะอัลคาลอยด์ได้พัฒนาเพื่อกำหนดเป้าหมายตัวรับแมลงโดยเฉพาะ และตัวรับเหล่านี้ไม่มีอยู่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นผลให้ความเสี่ยงต่ออันตรายต่อมนุษย์และสัตว์อื่น ๆ ต่ำ

โดยสรุป สารอัลคาลอยด์ที่พบใน มาคา สามารถเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการกำจัดเพลี้ยในผลทับทิม อัลคาลอยด์สามารถช่วยป้องกันพืชผลจากความเสียหายและปรับปรุงผลผลิตโดยการขัดขวางพฤติกรรมการหาอาหารของศัตรูพืชเหล่านี้ เช่นเดียวกับสารกำจัดศัตรูพืช สิ่งสำคัญคือต้องใช้อัลคาลอยด์อย่างมีความรับผิดชอบและตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อให้แน่ใจว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
3581 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 1 รายการ
|-Page 300 of 359-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 | 359 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
น้ำท่วม หากต้องการความช่วยเหลือจากทหาร โทรประสานงานได้ที่ นพค.51
Update: 2562/09/01 09:45:15 - Views: 3477
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ปุ๋ยโพแทสเซียม 0-0-60: ตัวช่วยสำคัญสำหรับการบำรุงต้นองุ่นให้ผลใหญ่ ผลดก รสชาติดี มีคุณภาพ
Update: 2567/03/05 14:41:11 - Views: 3576
ดูแลยางพาราเล็ก และยางพาราหลังเปิดกรีด ใช้ ฮิวมิคFK
Update: 2567/11/04 07:56:25 - Views: 142
คาดการณ์ ราคา และ ปริมาณการส่งออก ยางพารา ปี 2568
Update: 2567/11/23 08:26:02 - Views: 332
กำจัดโรคราแป้ง โรคที่เกิดจากเชื้อรา ศัตรูพืชในทุเรียน สารอินทรีย์ไอเอส และ FK-T ธรรมชาตินิยม ฟื้นฟูจากการทำลายของเชื้อรา
Update: 2566/05/26 11:00:04 - Views: 3571
การปลูกกระชายขาว
Update: 2564/08/20 23:07:31 - Views: 3660
การป้องกัน กำจัด โรคแอนแทรคโนสในทุเรียน
Update: 2563/11/27 08:49:56 - Views: 6011
โรคมันสำปะหลัง: โรคใบไหม้มันสำปะหลัง เกิดได้ทุกภาคในไทย ป้องกันด้วย ไอเอส บำรุงด้วย FK-1
Update: 2564/01/19 09:43:00 - Views: 3594
ประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในต้นทุเรียน
Update: 2566/05/13 09:27:27 - Views: 3672
โรคจุดสีน้ำตาลแก้วมังกร
Update: 2564/08/19 07:11:23 - Views: 3730
คาดการณ์ ราคารับซื้อ สับปะรด และ การส่งออกสับปะรด ปี 2568
Update: 2567/11/26 11:40:17 - Views: 378
การปลูกขนุน การดูแลรักษา และการป้องกันกำจัดโรคขนุน
Update: 2564/01/25 10:19:35 - Views: 3704
โรคใบไหม้ในหน้าวัว และโรคใบไหม้ใน สาวน้อยปะแป้ง
Update: 2563/11/16 07:16:11 - Views: 4220
การป้องกันกำจัด โรค แอนแทรคโนส กุหลาบ
Update: 2563/12/04 20:24:08 - Views: 3794
โรคใบจุดมันสำปะหลัง โรคราแป้ง โรคราต่างๆในมันสำปะหลัง เร่งป้องกันกำจัด ด้วย เมทาแลกซิล
Update: 2567/03/12 09:57:10 - Views: 3525
ระวัง!! โรคใบไหม้ จุดดำ ผลเน่า ราสนิม รากขาว โรคแอนแทรคโนส ในต้นกาแฟ สร้างความเสียหายได้มาก จัดการได้อย่างไร ??
Update: 2566/11/03 11:37:01 - Views: 3511
การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดโรคในต้นมะม่วง
Update: 2567/02/28 13:24:37 - Views: 3576
ปุ๋ยสำหรับมะพร้าว
Update: 2564/05/07 08:10:37 - Views: 3794
ผักชีใบไหม้ ใบเหลือง ใบจุด โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/08 04:04:35 - Views: 4537
แก้ปัญหา มะพร้าวใบเหลือง ผลเล็ก ไม่ติดผล ด้วยปุ๋ย สตาร์เฟอร์
Update: 2567/03/15 13:35:04 - Views: 4202
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022