เงาะเป็นผลไม้เมืองร้อนรสอร่อย เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็เป็นอาหารว่างที่หนอนกินใบไม้ชื่นชอบเช่นกัน ศัตรูพืชเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อต้นเงาะและทำให้ผลผลิตลดลง การใช้สารกำจัดศัตรูพืชเป็นวิธีการแก้ปัญหาทั่วไปวิธีหนึ่ง แต่อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ด้วย Bacillus Brand Baserex เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันและกำจัดหนอนกินใบในผลเงาะ

Bacillus Brand Baserex เป็นยาฆ่าแมลงทางชีวภาพที่มีพื้นฐานมาจากแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis (Bt) บีทีเป็นแบคทีเรียในดินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งผลิตโปรตีนคริสตัลซึ่งเป็นพิษต่อแมลงหลายชนิด เมื่อหนอนกินเข้าไป คริสตัลโปรตีนจะแตกตัวในลำไส้ ปล่อยสารพิษที่ทำลายระบบย่อยอาหารและทำให้ตายในที่สุด บีทีไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และแมลงที่มีประโยชน์มากที่สุด ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการควบคุมศัตรูพืช

บาซิลลัส ตรา บาซิเร็กซ์ ใช้ฉีดพ่นที่ใบเงาะที่ถูกหนอนผีเสื้อกัดกิน ผลิตภัณฑ์นี้สามารถคงประสิทธิภาพได้นานถึงสองสัปดาห์หลังการใช้ ใช้งานง่ายและไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ ทำให้เกษตรกรรายย่อยและชาวสวนที่บ้านสามารถเข้าถึงได้

ประสิทธิภาพของ Bacillus Brand Baserex ได้รับการพิสูจน์ในการทดลองภาคสนามจำนวนมาก ในการศึกษาหนึ่งที่ดำเนินการในประเทศอินโดนีเซีย ได้ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์กับต้นเงาะที่ถูกมอดเจาะผลซึ่งเป็นแมลงที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับผล ผลการวิจัยพบว่า Bacillus Brand Baserex มีประสิทธิภาพสูงในการลดจำนวนตัวอ่อนของมอดเจาะผลไม้ได้มากกว่า 90%

Bacillus Brand Baserex ยังเข้ากันได้กับแนวทางปฏิบัติในการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ (IPM) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและส่งเสริมศัตรูตามธรรมชาติของศัตรูพืช การใช้ Bacillus Brand Baserex เกษตรกรสามารถลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพสำหรับตนเองและชุมชนของพวกเขา

สรุปได้ว่า บาซิลลัส ตรา เบสเร็กซ์ เป็นวิธีการป้องกันและกำจัดหนอนกินใบในผลเงาะที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การใช้งานสามารถช่วยลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืช ส่งเสริมการปฏิบัติด้าน IPM และนำไปสู่การเกษตรที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพในที่สุด

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ**

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

ทุเรียน (Durio zibethinus) เป็นผลไม้เมืองร้อนที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นอาหารอันโอชะที่เป็นที่ต้องการอย่างสูงในหลายส่วนของโลก เนื่องจากความต้องการทุเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นสำหรับผู้ปลูกทุเรียนที่จะต้องปรับแนวทางการทำฟาร์มของตนให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดในช่วงที่ออกผล ในบทความนี้ เราจะสำรวจประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-3 ที่มีโพแทสเซียมสูง 40% อุดมด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม สังกะสี และสารยึดเกาะทางใบ ปุ๋ยสูตรนี้ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการเพิ่มผลผลิตทุเรียน ส่งผลให้ต้นแข็งแรงขึ้นและให้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์

พลังของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-3

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-3 ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ปลูกทุเรียนเนื่องจากมีธาตุอาหารที่จำเป็นและสารยึดเกาะทางใบที่สมดุล มาดูกันดีกว่าว่าส่วนประกอบสำคัญของปุ๋ยนี้มีประโยชน์อย่างไรในการปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิตสูงสุด

ปริมาณโพแทสเซียมสูง: โพแทสเซียมมีความสำคัญต่อการพัฒนาและคุณภาพของผลไม้ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากที่แข็งแรง เพิ่มการดูดน้ำ และเพิ่มฟังก์ชันการเผาผลาญโดยรวมของต้นทุเรียน ปริมาณโพแทสเซียมสูงใน FK-3 ช่วยให้มั่นใจถึงการออกดอกและผลที่แข็งแรง ซึ่งนำไปสู่ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์

ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม: สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการโดยรวมของต้นทุเรียน ไนโตรเจนส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ในขณะที่ฟอสฟอรัสสนับสนุนการพัฒนาของรากและการผลิตดอก แมกนีเซียมมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ช่วยเพิ่มความสามารถของต้นไม้ในการจับแสงแดดและเปลี่ยนเป็นพลังงานสำหรับการผลิตผลไม้ การผสมผสานที่สมดุลของสารอาหารเหล่านี้ใน FK-3 ช่วยให้ต้นทุเรียนเติบโตอย่างเหมาะสมและเตรียมพร้อมสำหรับการติดผล

สังกะสี: สังกะสีเป็นสารอาหารรองที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและการสุกของผลไม้ ช่วยในการสังเคราะห์ฮอร์โมนพืช กิจกรรมของเอนไซม์ และการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต การใส่ธาตุสังกะสีลงในปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-3 ช่วยให้ผู้ปลูกสามารถมั่นใจได้ว่าผลทุเรียนจะมีการพัฒนาที่ดี ส่งผลให้ผลผลิตสูงขึ้นและคุณภาพของผลดีขึ้น

สารยึดเกาะทางใบ: สารยึดเกาะทางใบที่มีอยู่ใน FK-3 ช่วยให้ปุ๋ยยึดเกาะกับผิวใบ ทำให้ต้นทุเรียนดูดซึมและใช้ประโยชน์สูงสุด สิ่งนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหารและลดของเสีย ทำให้สุขภาพพืชโดยรวมดีขึ้นและติดผลดีขึ้น

แนวทางการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-3

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-3 จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางการใช้ที่แนะนำ นี่คือคำแนะนำทีละขั้นตอน:

การผสมปุ๋ย: เมื่อเปิดถุงปุ๋ย FK-3 เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น
ใบของต้นทุเรียนทั้งหมด

ระยะเวลาในการให้สาร : FK-3 ฉีดพ่นทางใบในช่วงที่ต้นทุเรียนติดผล โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นหลังจากระยะออกดอกและเมื่อผลไม้เริ่มพัฒนา แนะนำให้ใช้เป็นประจำทุกสองถึงสามสัปดาห์ในช่วงเวลานี้

ความถี่ในการฉีดพ่น: ฉีดพ่นทางใบซ้ำทุกๆ 2-3 สัปดาห์ตลอดช่วงติดผลเพื่อให้ต้นทุเรียนได้รับสารอาหารอย่างสม่ำเสมอ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

Beauveria mix Methharicium เป็นสารกำจัดศัตรูพืชทางชีวภาพชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับป้องกันและกำจัดเพลี้ยในต้นพุทรา สารออกฤทธิ์ในสารกำจัดศัตรูพืชนี้คือ Beauveria bassiana ซึ่งเป็นเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งเป็นอันตรายต่อแมลงแต่ปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เมื่อนำไปใช้กับใบของต้นพุทรา Beauveria ผสม Methharicium จะติดเชื้อและฆ่าเพลี้ย ช่วยให้ต้นไม้แข็งแรงและปราศจากความเสียหายจากศัตรูพืช แบรนด์หนึ่งที่มีโบเวอเรียผสมเมธาริเซียมคือบิวทาเร็กซ์ การควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธีประเภทนี้เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่เกษตรกรผู้ปลูกพุทราและชาวสวน

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

การปลูกลองกองให้ได้ผลผลิตสูงสุด: การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ลองกอง หรือที่เรียกว่า แลนโซน เป็นไม้ผลเมืองร้อนที่มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ผลไม้นี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงในด้านเนื้อหวานฉ่ำและเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ตาม การปลูกลองกองอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากต้นไม้ต้องการสภาพการเจริญเติบโตที่เฉพาะเจาะจงและการดูแลที่เหมาะสมเพื่อให้ผลมีคุณภาพสูง ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการทำให้ได้ผลผลิตสูงสุดคือการใช้ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ เช่น ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยที่ละลายน้ำได้ซึ่งมีธาตุอาหารที่จำเป็นรวมกันอย่างสมดุล ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี สารอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช และเมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สารอาหารเหล่านี้สามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชผลได้อย่างมาก นอกจากนี้ ปุ๋ยยังมีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยให้ธาตุอาหารยึดเกาะกับใบและซึมผ่านเนื้อเยื่อของพืช จึงมั่นใจได้ว่าจะดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในการปลูกลองกองมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

ซื้อปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 จำนวน 2 ถุง ๆ ละ 1 กิโลกรัม

ผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันในภาชนะจนเข้ากันดี

ตวงปุ๋ยที่ผสมแล้ว 50 กรัม ละลายในน้ำ 20 ลิตร ใช้คนเพื่อให้แน่ใจว่าปุ๋ยกระจายตัวในน้ำอย่างสม่ำเสมอ

เทสารละลายปุ๋ยลงในกระบอกฉีดและฉีดให้ทั่วต้นลองกอง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้คลุมใบและกิ่งอย่างทั่วถึง แต่หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นโดยตรงที่ผลไม้

ใช้ซ้ำทุกสองสัปดาห์ในช่วงฤดูปลูก หรือตามความจำเป็นตามสภาพของพืช

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สามารถช่วยให้ต้นลองกองเติบโตอย่างแข็งแรงและให้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์และมีคุณภาพสูง การผสมผสานที่สมดุลของสารอาหารที่จำเป็นและสารลดแรงตึงผิวทำให้มั่นใจได้ว่าปุ๋ยจะถูกดูดซึมอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเพิ่มผลผลิตสูงสุด นอกจากนี้ สูตรที่ละลายน้ำได้ยังช่วยให้นำไปใช้ได้ง่าย และลดความเสี่ยงของการใส่ปุ๋ยมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพืชและลดคุณภาพของผลไม้

กล่าวโดยสรุป การปลูกลองกองต้องเอาใจใส่ปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ รวมทั้งการให้ปุ๋ย การใช้ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ เช่น FK-1 ฉีดพ่นทางใบสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุณภาพของผลลองกองได้ ปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆ ข้างต้น เกษตรกรลองกองสามารถมั่นใจได้ว่าต้นของพวกเขาได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างสมดุลเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตที่เหมาะสม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

เชื้อราไตรโคเดอร์มาเป็นกลุ่มของเชื้อราที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่ามีความสามารถในการปกป้องพืชจากโรคต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อราชนิดอื่น Trichoderma harzianum สายพันธุ์หนึ่งที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ทางการค้าเพื่อป้องกันและควบคุมโรคพืช หนึ่งในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคือ Trichorex ซึ่งมีสายพันธุ์ T. harzianum ที่รู้จักกันในชื่อ T22

เชื้อราไตรโคเดอร์มาชนิดนี้เป็นที่รู้จักจากความสามารถในการหลั่งเอนไซม์และสารเคมีต่างๆ ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราชนิดอื่นๆ พวกเขายังสามารถตั้งรกรากรากของพืชและสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับพวกเขา ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าในการปกป้องพืชจากโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น Colletotrichum sp.

Colletotrichum sp. เป็นสาเหตุของโรคเน่าในดอกดาวเรืองและพืชอื่นๆ เชื้อราสามารถติดเชื้อที่ดอก ใบ และลำต้นของพืช ทำให้ใบเหลือง เหี่ยว และตายในที่สุด เพื่อป้องกันและควบคุมโรคนี้ เกษตรกรและชาวสวนสามารถใช้ Trichorex ซึ่งมีเชื้อ T. harzianum สายพันธุ์ T22

Trichorex ใช้ฉีดพ่นทางใบหรือรดลงดินรอบๆ ต้นพืช มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้กับสัญญาณแรกของโรคหรือเป็นมาตรการป้องกันก่อนเริ่มฤดูปลูก สายพันธุ์ T22 ของ T. harzianum ใน Trichorex อาศัยรากของพืชและหลั่งเอนไซม์และสารเคมีที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของ Colletotrichum sp. และเชื้อราอื่นๆ

นอกจากคุณสมบัติในการป้องกันโรคแล้ว เชื้อราไตรโคเดอร์มายังช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิตอีกด้วย สามารถช่วยให้พืชดูดซึมสารอาหารและน้ำได้ดีขึ้น นำไปสู่การเติบโตที่แข็งแรงและแข็งแรงมากขึ้น

โดยสรุปแล้ว เชื้อราไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันและควบคุมโรคเน่าในดอกดาวเรืองและพืชอื่นๆ สารออกฤทธิ์ซึ่งเป็นสายพันธุ์ T22 ของ T. harzianum มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของ Colletotrichum sp. และเชื้อราอื่น ๆ และยังสามารถเพิ่มการเจริญเติบโตของพืชและปรับปรุงผลผลิตของพืช

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ว่านหางจระเข้เป็นพืชอวบน้ำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ยา และอาหาร อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับพืชอื่นๆ ว่านหางจระเข้ยังไวต่อโรคเชื้อราที่อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของมัน โรคเชื้อราในว่านหางจระเข้สามารถเกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด เช่น Fusarium oxysporum_ Pythium ultimum และ Rhizoctonia solani เชื้อโรคเหล่านี้สามารถทำให้เกิดโรครากเน่า ลำต้นเน่า ใบจุด และโรคอื่นๆ ที่สามารถนำไปสู่การตายของพืชได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา

การป้องกันกำจัด:
มาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่ผสมผสานการปฏิบัติทางวัฒนธรรม การควบคุมทางชีวภาพ และการบำบัดทางเคมีสามารถใช้ป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในว่านหางจระเข้ได้ การบำบัดด้วยสารเคมีที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่งคือ IS ซึ่งเป็นส่วนผสมของสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในพืชได้ อัตราผสมที่แนะนำสำหรับ IS คือ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร สามารถฉีดพ่นส่วนผสมนี้บนใบพืชและดินเพื่อควบคุมโรคเชื้อรา

การบำบัดที่มีประสิทธิภาพอีกอย่างหนึ่งคือ FK-1 ซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว FK-1 สามารถบำรุงพืชและเพิ่มความต้านทานต่อโรคเชื้อรา อัตราส่วนผสมที่แนะนำสำหรับ FK-1 คือ 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองผสมกับน้ำ 20 ลิตร ส่วนผสมนี้สามารถใช้กับรากและใบของพืชเพื่อป้องกันและควบคุมโรคเชื้อรา

บทสรุป:
โรคเชื้อราอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อต้นว่านหางจระเข้ แต่ด้วยวิธีการป้องกันและกำจัดที่เหมาะสมก็จะสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ IS และ FK-1 เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสองวิธีที่สามารถป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในว่านหางจระเข้ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามอัตราส่วนการผสมและวิธีการใช้ที่แนะนำ เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียต่อสุขภาพของพืช ด้วยการใช้มาตรการควบคุมแบบผสมผสานและการบำบัดแบบออร์แกนิก ผู้ปลูกว่านหางจระเข้สามารถรักษาพืชให้แข็งแรงและให้ผลผลิตได้

โรคจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้และโรคใบจุด สามารถลดผลผลิตและคุณภาพของต้นยางได้อย่างมาก การป้องกันและกำจัดโรคเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาสวนยางอย่างยั่งยืน และให้ผลผลิตที่ดีขึ้น.

แนวทางหนึ่งที่ได้ผลในการควบคุมโรคเชื้อราในต้นยางคือการใช้สารอินทรีย์ ไอเอส ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในพืชโดยใช้เทคนิคการควบคุมด้วยไอออน ไอเอส สามารถควบคุมโรคเชื้อราในต้นยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

การใช้ ไอเอส ให้ผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วใบต้นยาง ควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของโรคเชื้อรา โปรดทราบว่า ไอเอส เป็นสารประกอบอินทรีย์ จึงไม่มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของต้นยาง.

นอกจากการใช้สารประกอบอินทรีย์แล้ว การใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมยังมีความสำคัญต่อการเพิ่มผลผลิตของต้นยาง ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งคือปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK1 ซึ่งมีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว การผสมผสานสารอาหารที่สมดุลนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นยาง เนื่องจากช่วยเพิ่มการพัฒนาของราก และเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของยาง.

ในการใช้ FK1 ให้ผสม 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สอง (ทั้งสองถุงบรรจุในกล่องเดียวที่มีน้ำหนัก 2 กก.) กับน้ำ 20 ลิตร แล้วคนให้ละลาย ควรฉีดพ่นทางใบของต้นยางเพื่อให้ธาตุอาหารดูดซึมและใช้ประโยชน์ได้สูงสุด.

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบทั้ง ไอเอส และ FK1 ทำให้สวนยางสามารถลดอุบัติการณ์ของโรคเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้ ใบจุด และเพิ่มผลผลิตและคุณภาพได้สูงสุด ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับใช้ในสวนยางพารา ซึ่งรับประกันความยั่งยืนและความสำเร็จในระยะยาวของอุตสาหกรรมยาง

http://ไปที่..link..

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงล่างอีกนิดนะคะ

เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียนเป็นศัตรูพืชทั่วไปที่สามารถทำลายและทำให้ต้นทุเรียนอ่อนแอลงทำให้ผลผลิตผลไม้ลดลง วิธีหนึ่งในการควบคุมเพลี้ยเหล่านี้คือการใช้สารอินทรีย์ เช่น MAKA ผสมกับปุ๋ยตรา FK-1

MAKA เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดเป้าหมายและกำจัดเพลี้ยโดยเฉพาะ ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อทั้งพืชและมนุษย์ เมื่อนำไปใช้กับพืชที่ถูกรบกวน MAKA จะทำงานโดยรบกวนเมแทบอลิซึมของเพลี้ยทำให้เพลี้ยตาย

ปุ๋ยตรา FK-1 มีส่วนผสมของธาตุอาหารที่จำเป็น ได้แก่ แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม สารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพของพืช และการเติมสารลดแรงตึงผิวจะช่วยให้ปุ๋ยกระจายอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพทั่วทั้งดิน

เมื่อใช้ร่วมกัน MAKA และ FK-1 สามารถควบคุมเพลี้ยไก่แจ้ในทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยบำรุงต้นให้ฟื้นตัวจากการรบกวน สารอาหารในปุ๋ยจะช่วยให้พืชเติบโตแข็งแรงและต้านทานต่อเพลี้ยในอนาคต ในขณะที่สารอินทรีย์ตรา MAKA จะกำจัดเพลี้ยที่ยังหลงเหลืออยู่

การใช้สารประกอบอินทรีย์และปุ๋ยร่วมกันนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการควบคุมเพลี้ยไก่แจ้ในทุเรียน และปรับปรุงสุขภาพและผลผลิตของต้นทุเรียน สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามอัตราการใช้และความถี่ที่แนะนำสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สนใจ มาคา และ FK1 ช่องทางสั่งซื้อ

ลาซาด้า

FK-1 บนลาซาด้า ราคา 890 บาท http://ไปที่..link..

มาคา บนลาซาด้า ราคา 470 บาท http://ไปที่..link..

ช้อปปี้

FK-1 บนช้อปปี้ ราคา 890 บาท http://ไปที่..link..

มาคา บนช้อปปี้ ราคา 470 บาท http://ไปที่..link..

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset

โรคที่เกิดจากเชื้อราในต้นถั่วเหลืองมีหลายชนิด ซึ่งสามารถทำให้ต้นถั่วเหลืองเสียหายและลดผลผลิตได้มาก บางโรคที่เกิดจากเชื้อราที่พบบ่อยในต้นถั่วเหลืองประกอบด้วย:

โรคใบจุดดำ (Anthracnose): โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum spp. ทำให้ใบถั่วเป็นจุดดำและแห้งตายไปทีละส่วน

โรคใบจุดสนิม (Rust): เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา Puccinia spp. ทำให้ใบถั่วเกิดจุดสีสนิมและมีลักษณะเป็นโครงสร้างเหลี่ยมหรือวงกลมสีน้ำตาล

โรคแผลเน่า (Root Rot): เกิดจากเชื้อรา Rhizoctonia solani ทำให้ระบบรากถั่วเหลืองเน่าสลาย

โรคโคนเน่า (Damping-off): เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด เช่น Rhizoctonia spp. Pythium spp. ทำให้เมล็ดถั่วเหลืองเน่าก่อนงอก

การป้องกันและควบคุมโรคที่เกิดจากเชื้อราในต้นถั่วเหลืองสามารถทำได้โดยการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช (fungicides) และการบำรุงรักษาต้นถั่วให้แข็งแรง เช่น การให้น้ำพอเหมาะ การให้ปุ๋ยที่เหมาะสม การตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรคออก เพื่อลดโอกาสในการระบาดของโรคในต้นถั่วเหลือง

.
ไอเอส เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด โรคถั่วเหลือง จากเชื้อราหลายชนิด
ไอเอส สามารถป้องกันกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ไอเอส ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
.หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

IS: ทางออกอินทรีย์สำหรับโรคราสีชมพูในลำไย

โรคราสีชมพูที่เกิดจากเชื้อราก่อโรคเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมผลไม้ลำไย โรคที่เป็นอันตรายนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความสามารถในการตลาดของผลไม้เท่านั้น แต่ยังสร้างความท้าทายให้กับผู้ปลูกที่ต้องการวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่กระจาย อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณแห่งความหวังรออยู่ที่ขอบฟ้า – IS น้ำยาป้องกันเชื้อราแบบออร์แกนิกที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด

ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม IS มีประสิทธิภาพระดับสูงในการควบคุมและยับยั้งเชื้อรา โดยมุ่งเป้าหมายไปที่โรคราสีชมพูในลำไยโดยเฉพาะ โดยอาศัยเทคโนโลยีล้ำสมัย IS ควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของเชื้อรา

สิ่งที่ทำให้ IS แตกต่างจากการรักษาเชื้อราแบบดั้งเดิมคือส่วนประกอบที่ได้มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้น สูตรออร์แกนิกนี้รับประกันความปลอดภัยของทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม จัดการกับข้อกังวลที่เพิ่มขึ้นสำหรับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืน ด้วย IS ผู้ปลูกสามารถต่อสู้กับโรคราสีชมพูได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายหรือสารสังเคราะห์

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS อยู่ที่การยึดเกาะกับผิวใบพืชที่เพิ่มขึ้น คุณลักษณะเฉพาะนี้ช่วยให้การปกปิดดีขึ้น มั่นใจได้ถึงการป้องกันที่ครอบคลุมจากเชื้อราที่ก่อโรค โดยการสร้างเกราะป้องกันบนใบ IS จะจำกัดการเข้ามาและการก่อตัวของเชื้อรา ลดความสามารถในการสร้างความเสียหายและการแพร่กระจายของเชื้อรา

ยิ่งกว่านั้น IS ยังทำหน้าที่เป็นวิธีแก้ปัญหาหลายแง่มุม ซึ่งให้ประโยชน์มากกว่าการควบคุมโรค ช่วยสนับสนุนสุขภาพโดยรวมและความมีชีวิตชีวาของต้นลำไย ส่งเสริมกลไกการป้องกันตามธรรมชาติ สิ่งนี้ส่งผลให้พืชแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้นซึ่งพร้อมที่จะต้านทานการติดเชื้อราและปัจจัยกดดันอื่น ๆ ได้ดีขึ้น

การประยุกต์ใช้ IS ทำได้ง่ายและสะดวก ทำให้เข้าถึงได้ทั้งผู้ปลูกขนาดใหญ่และเกษตรกรรายย่อย ผลิตภัณฑ์สามารถรวมเข้ากับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย ทำให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะราบรื่นโดยไม่กระทบต่อกิจวัตรประจำวัน การนำระบบสารสนเทศมาใช้ในกลยุทธ์การจัดการพืชผล ทำให้เกษตรกรสามารถต่อสู้กับโรคราสีชมพูและปกป้องการเก็บเกี่ยวลำไยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อเป็นการยืนยันถึงความปลอดภัยและประสิทธิผล IS ได้ผ่านการทดสอบและประเมินผลอย่างเข้มงวดในห้องปฏิบัติการอิสระและการทดลองภาคสนาม การศึกษาเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในการควบคุมโรคราสีชมพูในขณะที่รักษามาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ผู้ปลูกสามารถไว้วางใจระบบ IS ได้อย่างมั่นใจในการปกป้องพืชผลของพวกเขาและบรรเทาความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการติดเชื้อรา

โดยสรุป IS แสดงถึงความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาเชื้อราอินทรีย์ ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อต่อสู้กับโรคราสีชมพูในลำไย โดยใช้ประโยชน์จากพลังของส่วนผสมจากธรรมชาติและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ IS มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคในขณะที่รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ด้วยระบบ IS ผู้ปลูกสามารถปกป้องพืชผลลำไยได้อย่างมั่นใจ รักษาผลผลิต และมีส่วนร่วมในการทำการเกษตรที่ยั่งยืน

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน