พิมพ์คำค้นหา หรือลองคลิกตัวอย่าง >
มันสำปะหลัง
,
ข้าว
,
อ้อย
,
ทุเรียน
,
กัญชา
,
ข้าวโพด
,
ปาล์ม
,
ยางพารา
,
อินทผลัม
,
โรคใบไหม้
,
ราสนิม
,
เพลี้ย
,
ยาแช่ท่อนพันธุ์
+ โพสเรื่องใหม่ |
^ เลือกหน้า |
All contents
3576 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 357 หน้า, หน้าที่ 358 มี 6 รายการ
แพนน่อนแก้เชื้อรา โรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ใช้ได้กับพืชทุกชนิด สั่งซื้อ โทร 090-592-8614
ใช้ แพนน่อน ผสมกับ ฮิวมิคFK ฉีดพ่นไปพร้อมกัน จะเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ และพืชจะดูดซึมตัวยาไปใช้งานได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้ว ฮิวมิคFK จะช่วยปรับปรุงดิน ทำให้พืชฟื้นตัวได้เร็ว กลับมาโตไว เขียวแข็งแรง ให้ผลผลิตดีดังเดิม ในระยะเวลาที่สั้นลง
อัตราผสม ฮิวมิคFK 10กรัม แพนน่อน 40กรัม ผสมกับน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่น หมายเหตุ 1ช้อนแกง จะหนักประมาณ 10กรัม
คุณสมบัติของ แพนน่อน ซึ่งมีชื่อสามัญว่า แมนโคเซป (Mancozeb) เป็นสารป้องกันเชื้อราในพืช โดยสามารถใช้รักษาและป้องกันโรคพืชต่าง ๆ ได้หลายชนิด ใช้ได้กับทุกพืช ยกตัวอย่างได้ดังนี้:
- โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose)
- โรคใบจุด (Leaf Spot)
- โรคราน้ำค้าง (Downy Mildew)
- โรคราแป้ง (Powdery Mildew)
- โรคใบไหม้ (Blight)
- โรคใบไหม้สายพันธุ์ปลาย (Late Blight)
- โรคสแคป (Scab)
- โรคผลเน่า (Fruit Rot)
- โรคกาบใบไหม้ (Sheath Blight)
- โรคใบจุดตากบ (Frog-eye Spot)
แมนโคเซปเป็นสารที่ใช้กันแพร่หลายในการป้องกันโรคจากเชื้อราในพืชหลายชนิด เช่น ผัก ผลไม้ และพืชสวน
ประโยชน์ : ใช้ในการป้องกันโรคกาบใบแห้ง ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา Rhizoctonia solani (Thanatephorus cucumeris)
วิธีใช้ อัตรา 40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้ง พ่นครั้วแรกเมื่อการระบาดของโรค และครั้งที่ 2 หลังจากพ่นครั้งแรก 10 วัน
วิธเก็บรักษา : ต้องเก็บแพนน่อน ในภาชะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ไห้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งแและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ
คำเตือน : แพนน่อน เป็นวัตถุอันตราย ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันมิไห้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ใช้ต้องปฏิบัติดังนี้ 1.ห้าม ดื่มน้ำ ในขณะปฏิบัติงาน ห้าม เทสารที่เหลือหรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสาร ลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบริเวณไกล้เคียง เมื่อใช้สารหมดแล้ว ห้าม ใช้ไฟเผาภาชนะที่บรรจุ หรือนำกลับมาใช้อีก ห้าม เด็กและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณกำลังฉีดพ่นสาร 2.ขณะผสม ต้อง สวมถุงมือยาง และหน้ากากเพื่อป้องกันมิไห้สารเข้มข้นถูกผิวหนัง และ กระเด็นเข้าตา การผสมให้ใช้ไม้กวน ขณะพ่นสาร ต้องอยู่เหนือลมเสมอ และควรสวมถึงมือยาง และหน้ากาก ต้องล้างมือ และหน้า ไห้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า และซักชุดที่สวมทำงานไห้สะอาด ภาชนะบรรจุเมื่อใช้หมดแล้วไห้กลั้วล้างด้วยน้ำ 3 ครั้ง และรวมเอาน้ำไปใช้ผสมฉีดพ่นสาร กำจัดภาชนะบรรจุโดยการทำลายและฝังดิน หรือรวมทิ้งในที่ปลอดภัย 3.ระวัง อย่าไห้เข้า ปาก ตา จมูก หรือถูกผิวหนังและเสื้อผ้า 4.การใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราโรคพืช ซึ่งอยู่ในหมายเลขกลุ่มเดียวกัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจก่อไห้เกิดความต้านทานของเชื้อราสาเหตุของโรคพืช 5. เป็นพิษต่อปลา และสัตว์น้ำอื่นๆ ต้องระวังการชะล้างลงสู่แหล่งน้ำ 6. ห้ามเก็บเกี่ยว ภายใน 30 วัน หลังพ่นสารครั้งสุดท้าย
อาการเกิดพิษ : หากเข้าตาทำไห้เกิดการระคายเคือง หากสัมผัสผิวหนังอาจมีอาการคัน เป็นผื่นบวมแดง
การแก้พิษเบื้องต้น : 1.ถ้าเกิดพิษเนื่องจากการสูดดม รีบน้ำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่ใช้ และให้พักผ่อนในที่ที่มีอากาศ
ถ่ายเทสะดวก หากอาการไม่ทุเลา รีบไปพบแพทย์ 2. ถ้าเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากนาน 15 นาที หากอาการไม่ทุเลา รีบไปพบแพทย์ 3.ถ้าถูกผิดหนังให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำจนสะอาด ถ้าเปื้อนเสื้อผ้าให้รีบอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที 4.ถ้าหากเข้าปากให้รีบบ้วนน้ำ ล้างปาก หากกลืนกิน ห้ามทำให้อาเจียน และห้าม ให้น้ำ เครื่องดื่ม หรืออาการใดๆทั้งสิ้น รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันทีพร้อมภาชนะบรรจุและฉลาก
คำแนะนำสำหรับแพทย์ : 1.รักษาตามอาการ 2.หากกลืนกินเข้าไปจำนวนมาก และยังไม่ท้องเสียหรืออาเจียนออกมาภายใน 1 ชั่วโมงไห้ผู้ป่วยกิน activated charcoal 25 g. ผสมน้ำ 300 ml. และ sorbitol 70% 1-2 ml /kg น้ำหนักตัว (เด็กต่ำกว่า 12 ปี ลดขนาดเป็น sorbitol 35% 1.5-2.3 ml /kg น้ำหนักตัว)
ผลิตภัณฑ์ สารปรับปรุงดิน ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค สารออกฤทธิ์ : สารออกฤทธิ์ : ฮิวมิค แอซิด (humic acid).......85% WP
คุณสมบัติ : ฮิวมิค FK ประกอบด้วย ฮิวมิค แอซิด และ ฟลูวิค แอซิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบของอินทรีย์ในดินที่มีคุณสมบัติในการปรับโครงสร้างดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช
ประโยชน์ ฮิวมิค FK
ช่วยปรับโครงสร้างดิน ทำไห้ดินร่วน ระบายน้ำดี
ปรับความเป็น กรด-ด่าง เนื่องจากไส่ปุ๋ยเคมีเป็นเวลานาน
เป็นหัวเชื้ออาหารพืช เพื่อช่วยการเจริญเติบโตของพืช
เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับปุ๋ย และดูดซึมสารเคมีต่างๆ
ช่วยไห้พืชดูดกินปุ๋ยทั้งทางรากและทางใบ
ช่วยฟื้นฟูและสร้างระบบรากฝอย
อัตราการใช้
ราดดิน : ดินเหนียว ใช้อัตรา 2-3 กก.ต่อไร่ ดินทราย ใช้อัตรา 1-2 กก.ต่อไร่ ผสมน้ำราดหรือฉีดพ่นบริเวณโคนต้นหรือทรงพุ่ม
ผสมน้ำฉีดพ่น : ใช้ 10-20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 15 วัน ได้ทุกระยะของพืช ใช้ผสมสารเคมีอื่นๆ ใช้ 10-20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม และเพิ่มฤทธิ์สารเคมี
คลุกปุ๋ยเม็ด : ใช้ 1 กก. คลุกปุ๋ยเม็ด 50 กก. คลุกไห้เข้ากันแล้วนำไปหว่าน
วิธีการเก็บรักษา : ต้องเก็บ ฮิวมิค FK ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ไห้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากอาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยงและเปลวไฟ
อาการเกิดพิษและวิธีการแก้พิษเบื้องต้น : ถ้าเข้าตาหรือ ถูกผิดหนังและเสื้อผ้า ไห้รีบ ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากๆ อย่างน้อย 15 นาที หากอาการไม่ทุเลารีบพบแพทย์
ข้อควรระวัง : อย่าไห้สารเข้าตา ปาก สัมผัสผิวหนัง หรือสูดดม รับปะทานอาหาร หรือเครื่องดื่มระหว่างปฏิบัติงาน |
การดูแลมะพร้าวให้โตไว สมบูรณ์ และมีผลผลิตดีด้วยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1
การดูแลมะพร้าวอย่างต่อเนื่องด้วยปุ๋ยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้เร็วและมีผลผลิตดี โดยเลือกใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามวงจรการเจริญเติบโตของมะพร้าว
คุณสมบัติของปุ๋ย:
1. ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค): ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและสารอาหารในดิน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ทำให้ต้นมะพร้าวสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): ปุ๋ยสูตรสมดุล (20-20-20) ที่เสริมด้วยแมกนีเซียมและสังกะสี ช่วยในการสังเคราะห์แสง เพิ่มความเขียวสดของใบ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้น
ช่วงเวลาการใช้ปุ๋ย:
ช่วงต้นฤดูกาลเติบโต: ใช้ ฮิวมิคFK ผสมในอัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น เพื่อปรับปรุงดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโต และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร
ช่วงเร่งการเจริญเติบโต: ใช้ ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมส่วนผสมสองถุง (สูตร 20-20-20 และสารคลอโรฟิล Mg Zn) อัตราส่วน 25-50 กรัม ต่อถุง ในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ เพื่อกระตุ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มความเขียวสดให้ใบ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงติดดอก
ช่วงหลังจากมะพร้าวติดผล: ใช้ ฮิวมิคFK ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดี และทำให้ผลเจริญเติบโตเต็มที่
ช่วงเตรียมพร้อมก่อนเข้าฤดูฝน: ใช้ ฮิวมิคFK เพื่อปรับสภาพดินให้พร้อมรองรับน้ำฝน ช่วยให้ดินไม่แน่นเกินไป และเพิ่มการอุ้มน้ำ
ช่วงฟื้นฟูหลังฤดูฝน: ใช้ ปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อเสริมสร้างความเขียวสดให้ใบและซ่อมแซมใบที่อาจเสียหายจากสภาพอากาศหนัก ช่วยให้ต้นฟื้นตัวเร็วขึ้น
อัตราการผสม
ฮิวมิคFK: 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น
ปุ๋ยทางใบ FK-1:
ถุงแรก (สูตร 20-20-20): 25-50 กรัม
ถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): 25-50 กรัม ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ
|
การบำรุงพืชให้เจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิตด้วยฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค และปุ๋ยทางใบ FK-1
การดูแลพืชทุกชนิดให้เติบโตสมบูรณ์แข็งแรงและเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพต้องใช้วิธีบำรุงที่เหมาะสม ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค และปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg และ Zn) เป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถนำไปใช้ได้กับพืชหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพืชสวน พืชไร่ หรือพืชผัก เพราะมีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชได้ดี
### คุณประโยชน์ของฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค - **ฮิวมิค FK**: ช่วยปรับโครงสร้างของดิน ทำให้ดินสามารถกักเก็บน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้ดิน ทำให้รากพืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้พืชเติบโตแข็งแรงและมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง - **ฟลูวิค**: ช่วยเสริมการดูดซึมธาตุอาหารสำคัญในดิน ทำให้รากพืชนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นและใบให้สมบูรณ์
**วิธีการใช้ฮิวมิค FK**: - **อัตราการผสม**: ใช้ฮิวมิค FK 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร - **การฉีดพ่น**: พ่นรอบโคนต้นพืชเพื่อให้สารอาหารซึมลงสู่ราก ควรฉีดพ่นทุก 1-2 เดือน เพื่อคงคุณภาพของดินและเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของพืช
### คุณสมบัติและวิธีการใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและโครงสร้างของพืช โดยในปุ๋ยนี้ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักสูตร 20-20-20 ซึ่งมีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในสัดส่วนที่เหมาะสม ช่วยให้พืชมีใบเขียวสด เสริมความสมบูรณ์ของต้น รวมถึงมีสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg และ Zn ที่ช่วยให้พืชสังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น ทำให้พืชมีสุขภาพแข็งแรงและเพิ่มผลผลิตได้ดี
**วิธีการใช้ปุ๋ย FK-1**: 1. เมื่อเปิดกล่อง FK-1 จะพบถุงปุ๋ยสองถุง: - **ถุงแรก**: เป็นปุ๋ยสูตร 20-20-20 - **ถุงที่สอง**: เป็นสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn 2. **อัตราการผสม**: ใช้ถุงละ 25-50 กรัม ผสมในน้ำ 20 ลิตร 3. ผสมทั้งสองถุงลงในน้ำและคนให้ละลายเข้ากันดี 4. **การฉีดพ่น**: ฉีดพ่นทางใบของพืชทุก 1-2 เดือน หรือเพิ่มความถี่ในช่วงที่พืชกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ทุก 15-30 วัน
### ประโยชน์ที่พืชได้รับจากการใช้ฮิวมิค FK และ FK-1 - **การเจริญเติบโตที่สมบูรณ์**: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารของพืช ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและแข็งแรง - **การสังเคราะห์แสงที่ดีขึ้น**: ช่วยให้พืชมีใบเขียวสด มีสุขภาพดี ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการสร้างพลังงานที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต - **ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น**: การได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและสม่ำเสมอทำให้พืชสามารถผลิตผลผลิตที่มีคุณภาพได้มากขึ้น
การใช้ฮิวมิค FK และปุ๋ย FK-1 เป็นวิธีการบำรุงที่เหมาะสำหรับพืชหลากหลายชนิด ช่วยให้พืชเจริญเติบโตเต็มที่ เพิ่มผลผลิต และมีสุขภาพที่แข็งแรง |
วิธีดูแลไร่ ข้าวโพด ให้ได้ผลผลิตสูง
**ด้วยการใช้ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคและปุ๋ยทางใบ FK-1**
การเพิ่มผลผลิตข้าวโพดอย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการบำรุงดูแลที่เหมาะสมตั้งแต่การเตรียมดินไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค และปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) เป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมการเจริญเติบโตของข้าวโพด ทำให้ต้นแข็งแรง ผลผลิตสมบูรณ์ และให้ผลผลิตสูงขึ้น
### คุณประโยชน์ของฮิวมิค FK และฟลูวิคต่อข้าวโพด - **ฮิวมิค FK** ช่วยปรับโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำ และเสริมการเจริญเติบโตของราก ทำให้รากสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น - **ฟลูวิค** ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุอาหารที่จำเป็นในดิน ทำให้พืชแข็งแรงและพร้อมต่อการเจริญเติบโตที่ดี
### วิธีการใช้ฮิวมิค FK - **อัตราการผสม**: ใช้ฮิวมิค FK 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร - **การใช้งาน**: ฉีดพ่นรอบโคนต้นข้าวโพดเมื่อเริ่มปลูก และทำซ้ำทุก 1-2 เดือน โดยเน้นบริเวณรากเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากและเสริมการดูดซึมของธาตุอาหาร
### ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn ปุ๋ย FK-1 เป็นปุ๋ยสูตร 20-20-20 ที่มีธาตุอาหารครบถ้วนช่วยเสริมการเจริญเติบโตของลำต้นและใบ อีกทั้งยังเสริมด้วยสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn ซึ่งมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์แสงและทำให้ใบมีสีเขียวเข้ม มีความสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยให้ข้าวโพดแข็งแรงและเพิ่มผลผลิต
#### วิธีการใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 1. **แกะกล่อง FK-1** จะพบสองถุง: - **ถุงแรก**: ปุ๋ยสูตร 20-20-20 - **ถุงที่สอง**: สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn 2. **อัตราการผสม**: ใช้ถุงละ 25-50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร 3. ผสมปุ๋ยทั้งสองถุงในน้ำ คนให้เข้ากันดี 4. ฉีดพ่นทางใบข้าวโพดทุก 15-30 วัน ช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับใบและต้น เพื่อให้ต้นข้าวโพดได้รับสารอาหารครบถ้วน
### ตารางการบำรุงดูแลไร่ข้าวโพด - **ระยะต้นอ่อน**: ฉีดพ่นฮิวมิค FK รอบโคนต้นและใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต - **ระยะกลางการเจริญเติบโต**: ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ทุก 15-30 วัน เพื่อเสริมใบและลำต้น - **ระยะก่อนเก็บเกี่ยว**: ฉีดพ่นฮิวมิค FK เพื่อฟื้นฟูสภาพดินและเตรียมความพร้อมสำหรับรอบการเพาะปลูกต่อไป
### สรุป การใช้ **ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค** และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn** เป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวโพดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการเสริมราก ใบ และลำต้น ทำให้ต้นข้าวโพดสมบูรณ์แข็งแรงและเพิ่มปริมาณผลผลิต |
ดูแลสวนเงาะ ให้ได้ผลผลิตดีขึ้น ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะ และการปรับปรุงโครงสร้างดิน
**การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 ในการดูแลสวนเงาะ**
การใช้ปุ๋ย ฮิวมิค FK และ FK-1 เป็นวิธีช่วยให้สวนเงาะเติบโตได้สมบูรณ์และให้ผลผลิตดี โดยสามารถใช้ตามช่วงการเติบโตของเงาะเพื่อเสริมสร้างราก ลำต้น ใบ และผล
**คุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์**
- **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)**: ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของระบบราก ดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทำให้พืชเติบโตแข็งแรง - **ปุ๋ย FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)**: เป็นปุ๋ยทางใบที่เสริมสารอาหารหลัก (ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม) ร่วมกับสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ที่ช่วยในการสังเคราะห์แสงของใบ ทำให้ใบเขียวเข้มและสุขภาพดีขึ้น
**คำแนะนำการใช้งานตามช่วงการเจริญเติบโตของเงาะ**
1. **ระยะต้นกล้าและเตรียมปลูก** ใช้ฮิวมิค FK ในอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้นทุก 15 วัน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก และให้รากแข็งแรง
2. **ระยะสร้างใบและลำต้น** ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ผสมสองส่วน (ถุงแรก 20-20-20 และถุงที่สอง Mg + Zn) โดยใช้ในอัตราส่วน 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 15 วันเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น *หมายเหตุ*: ไม่ควรฉีดพ่นช่วงที่เงาะเริ่มติดดอก เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อดอกที่อาจหลุดร่วงได้
3. **ระยะเพิ่มคุณภาพผล** เมื่อเงาะเริ่มเข้าสู่ระยะการพัฒนาของผล สามารถใช้ฮิวมิค FK อัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดบริเวณโคนต้นทุก 15-20 วัน เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีน้ำหนักดีและได้ขนาด
4. **ระยะเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว** หลังเก็บเกี่ยว ใช้ฮิวมิค FK และ FK-1 ในอัตราที่แนะนำ เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของต้น และเสริมสร้างการเตรียมตัวสำหรับฤดูถัดไป |
เทคนิคการบำรุง สวนมะพร้าว ให้ได้ผลผลิตสูง
**ด้วยฮิวมิค FK และปุ๋ยทางใบ FK-1**
การบำรุงสวนมะพร้าวเพื่อเพิ่มผลผลิตและเสริมความสมบูรณ์ของผล จำเป็นต้องใช้การบำรุงธาตุอาหารและปรับสภาพดินอย่างเหมาะสม การใช้ฮิวมิค FK พร้อมฟลูวิคและปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg และ Zn) สามารถช่วยเร่งการเจริญเติบโตให้ต้นมะพร้าว ให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงและส่งผลดีต่อผลผลิต
### คุณสมบัติของฮิวมิค FK และฟลูวิคต่อมะพร้าว - **ฮิวมิค FK**: มีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงดิน เพิ่มการยึดเกาะน้ำและธาตุอาหาร ทำให้รากมะพร้าวดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ - **ฟลูวิค**: ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารที่สำคัญในดิน ทำให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้ดีขึ้นและมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม
### ขั้นตอนการใช้ฮิวมิค FK - **อัตราการผสม**: ใช้ฮิวมิค FK 10 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร - **วิธีการฉีดพ่น**: ฉีดพ่นรอบโคนต้น โดยเน้นช่วงรากเพื่อเสริมการดูดซึมธาตุอาหาร ควรทำซ้ำทุก 1-2 เดือนเพื่อให้ดินมีสภาพที่ดีต่อการเจริญเติบโตของต้นมะพร้าว
### การบำรุงด้วยปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 และสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn ปุ๋ย FK-1 สูตร 20-20-20 มีธาตุอาหารสำคัญที่ช่วยให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตเร็วขึ้น ช่วยเสริมสร้างลำต้นและใบให้แข็งแรง อีกทั้งสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสง ทำให้ใบเขียวสดและมีสุขภาพดี
#### วิธีการใช้ปุ๋ย FK-1 ทางใบ 1. เมื่อเปิดกล่อง FK-1 จะพบถุงปุ๋ยสองถุง: - **ถุงแรก**: ปุ๋ยสูตร 20-20-20 - **ถุงที่สอง**: สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn 2. **อัตราการผสม**: ใช้ถุงละ 25-50 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร 3. ผสมทั้งสองถุงลงในน้ำและคนให้ละลายเข้ากันดี 4. ฉีดพ่นทางใบของต้นมะพร้าวทุก 1-2 เดือน หรือเพิ่มความถี่เป็นทุก 15-30 วันในช่วงฤดูที่ผลผลิตออกดก
### ตารางการบำรุงสวนมะพร้าว - **ช่วงเริ่มต้นการปลูก**: ใช้ฮิวมิค FK รอบโคนต้นเพื่อเสริมการเติบโตของราก - **ระยะการเจริญเติบโต**: ใช้ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่นทางใบเพื่อบำรุงต้นและเพิ่มความเขียวสดของใบ - **ช่วงก่อนเก็บเกี่ยว**: ฉีดพ่นฮิวมิค FK และ FK-1 อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ต้นมะพร้าวแข็งแรงและได้ผลผลิตที่สมบูรณ์
### สรุป การดูแลสวนมะพร้าวโดยใช้ฮิวมิค FK และปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 เสริมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn สามารถช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของต้นมะพร้าว ส่งเสริมให้เกิดการเจริญเติบโตที่แข็งแรงและเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
คาดการณ์ ราคารับซื้อ สับปะรด และ การส่งออกสับปะรด ปี 2568
ในปี 2566 ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกสับปะรดรายใหญ่ของโลก โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ มาเลเซีย จีน และสิงคโปร์ โดยข้อมูลระบุว่าราคาส่งออกเฉลี่ยของสับปะรดไทยในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ **811 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน** หรือประมาณ **28_000 บาทต่อตัน** (อัตราแลกเปลี่ยนที่ 35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ)
### ปริมาณและมูลค่าการส่งออกในปี 2568 (คาดการณ์) 1. **ปริมาณการส่งออก**: หากพิจารณาจากข้อมูลการส่งออกในปี 2566 ที่ประเทศไทยส่งออกสับปะรดมากกว่า 95% ของผลผลิตรวมทั้งหมด คาดการณ์ว่าในปี 2568 ประเทศไทยจะยังคงมีปริมาณการส่งออกใกล้เคียงกับปัจจุบัน โดยขึ้นอยู่กับผลผลิตรวมประจำปี ซึ่งมีปัจจัยสำคัญจากสภาพภูมิอากาศและความต้องการในตลาดโลก
2. **มูลค่าการส่งออก**: หากราคาส่งออกเฉลี่ยในปี 2568 ไม่เปลี่ยนแปลงมาก คาดว่ามูลค่าการส่งออกสับปะรดของไทยในปีดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ **30_000 ล้านบาท** ต่อปี โดยพิจารณาจากปริมาณผลผลิตและราคาตลาดที่ค่อนข้างคงที่
### แนวโน้มตลาดในประเทศและส่งออก - ความต้องการสับปะรดสดและผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น สับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรดในตลาดต่างประเทศยังคงสูง โดยเฉพาะในจีนและกลุ่มประเทศยุโรป - การพัฒนาด้านการเก็บเกี่ยวและกระบวนการผลิต รวมถึงการลดต้นทุนการขนส่ง จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทย |
แนวโน้มปาล์มน้ำมันในประเทศไทย ปี 2568 (2025)
1. **ราคาผลปาล์มสด** แนวโน้มราคาผลปาล์มสดในปี 2568 คาดว่าจะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่: - **ความต้องการในประเทศ**: การใช้น้ำมันปาล์มในอุตสาหกรรมอาหารและพลังงานชีวภาพ (ไบโอดีเซล) ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะนโยบายที่สนับสนุนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซล B10 และ B20 - **ความต้องการส่งออก**: ประเทศผู้นำเข้าหลัก เช่น อินเดีย จีน และยุโรป มีแนวโน้มเพิ่มความต้องการน้ำมันปาล์มในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิต - **ราคาตลาดโลก**: หากราคาน้ำมันดิบโลกยังคงสูง ความต้องการน้ำมันปาล์มสำหรับพลังงานชีวภาพจะเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อราคาผลปาล์มในประเทศ
ราคาผลปาล์มสดในปี 2568 คาดว่าอาจอยู่ในช่วง **4.50-5.50 บาทต่อกิโลกรัม** ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพผลผลิตและอัตราการสกัดน้ำมัน
2. **มูลค่าการส่งออก** - คาดว่าการส่งออกน้ำมันปาล์มจะมีมูลค่าประมาณ **40_000-45_000 ล้านบาท** เนื่องจากความต้องการน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์แปรรูปเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและพลังงานของอินเดียและจีน - มาตรฐานด้านความยั่งยืน เช่น RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) จะกลายเป็นข้อกำหนดที่สำคัญในตลาดส่งออก โดยไทยจำเป็นต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานนี้
3. **มูลค่าตลาดในประเทศ** - ตลาดในประเทศคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ **70_000-80_000 ล้านบาท** โดยไบโอดีเซลยังเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นความต้องการ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอางในประเทศยังคงเป็นตลาดสำคัญ
4. **พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน** - พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันของประเทศไทยในปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2567 โดยอยู่ที่ประมาณ **5.2 ล้านไร่** เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นและการสนับสนุนจากภาครัฐในการปลูกพืชพลังงาน
5. **ปัจจัยเสี่ยงและความท้าทาย** - การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจส่งผลต่อผลผลิตปาล์มน้ำมันโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ - ความผันผวนของราคาตลาดโลก หากประเทศคู่แข่ง เช่น อินโดนีเซียและมาเลเซีย มีผลผลิตล้นตลาด - มาตรการกีดกันทางการค้าจากประเทศในยุโรปที่ต้องการลดการใช้น้ำมันปาล์มในผลิตภัณฑ์
การเติบโตของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในประเทศไทยในปี 2568 จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการผลผลิต การส่งเสริมคุณภาพ และการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ |
ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2568 ดีไหม ราคามันสำปะหลังเป็นอย่างไร
ในปี 2568 การปลูกมันสำปะหลังยังคงมีโอกาสที่ดี โดยราคามันสำปะหลังในตลาดมีการปรับตามคุณภาพและความต้องการในแต่ละพื้นที่ รายละเอียดราคาล่าสุดสำหรับมันสดและมันเส้น มีดังนี้:
ราคามันสำปะหลังสด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นครราชสีมา):
มันสดเชื้อแป้ง 30%: 2.60-3.10 บาท/กก.
มันสดเชื้อแป้ง 25%: 2.25-2.60 บาท/กก.
ภาคกลาง: มันสดอาจมีราคาต่ำกว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนการขนส่งไปยังโรงงาน
ราคามันเส้น
โกดังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา: 6.30-6.35 บาท/กก. ราคานี้เป็นราคามันเส้นที่พร้อมสำหรับการส่งออกและมีคุณภาพสูง ซึ่งสะท้อนความต้องการในตลาดต่างประเทศที่ยังคงเติบโต
ปัจจัยที่ต้องพิจารณา
ฤดูกาลเก็บเกี่ยว: ราคามันสำปะหลังจะลดลงในช่วงผลผลิตมาก (มกราคม-มีนาคม) และเพิ่มขึ้นเมื่อผลผลิตลดลง (ปลายปี)
คุณภาพผลิตภัณฑ์: การรักษาคุณภาพของมันสดและมันเส้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ราคาสูง
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำติดตามผ่านกรมการค้าภายในหรือสมาคมผู้ผลิตมันสำปะหลังในภูมิภาคที่เกี่ยวข้องครับ
|
วิเคราะห์ตลาดทุเรียน แนวโน้มปี 2568
ตลาดทุเรียนในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกทุเรียนอันดับหนึ่งของโลก คาดว่าจะส่งออกได้ถึง 1.04 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 57% จากปีก่อนหน้า โดยตลาดหลักยังคงเป็นจีน ซึ่งจะนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้น 95% จากปี 2563 ส่วนตลาดใหม่ที่น่าจับตามอง ได้แก่ เกาหลีใต้และไต้หวัน ที่มีการนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้นกว่า 50%.
ด้านราคา ทุเรียนหมอนทอง ที่ขายในประเทศคาดว่าจะเฉลี่ยประมาณ 144 บาท/กก. ในปี 2568 ส่วนราคาส่งออกไปจีนอาจพุ่งถึง 379 บาท/กก. หากการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 15%.
อย่างไรก็ตาม ตลาดทุเรียนต้องเผชิญความท้าทายจากคู่แข่ง เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม ที่เพิ่มศักยภาพการผลิตและส่งออกมากขึ้น แม้ยังไม่สามารถเทียบกับไทยได้ในด้านคุณภาพและมาตรฐาน.
กลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ส่งออก คือการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย และตะวันออกกลาง เพื่อกระจายความเสี่ยง และพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดโลก.
|
|
|
|
กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3,
นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)
กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอส3ลิตร กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งมาคากับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอกี้-บีทีกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งFK-T 250ซีซี กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง
สั่ง อินเวท กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง เมทาแลคซิล กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง คาร์รอน กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง แม็กซ่า กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|