ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

มะปรางระวังโรคแอนแทรคโนส
โรคจากเชื้อราโรคนี้เข้าทำลายผลผลิตในระยะออกดอก ผลอ่อน โดยไม่แสดงอาการให้เห็นแต่จะแสดงออกมาชัดเจนเมื่อผลผลิตแก่หรือเริ่มสุก อาการของโรคที่พอจะพบเห็นได้
อาการบนใบ จะพบแผลรูปร่างไม่แน่นอน ขอบแผลชัดเจนสีน้ำตาลเข้ม กลางแผลสีน้ำตาลอ่อนบางใสกว่าเนื้อใบรอบๆ กรณีมีความชื้นสูง แผลที่เกิดบนใบอ่อนจะเพิ่มจำนวนขยายใหญ่อย่างรวดเร็วจนติดกันทั้งใบ ทำให้ใบบิดเบี้ยวหรือแห้งไหม้หากรุนแรงจนถึงระยะออกดอก โรคจะเข้าทำลายช่อดอก เห็นเป็นจุดสีน้ำตาลดำกระจายบนก้านดอก ทำให้ดอกเหี่ยว หลุดร่วง และไม่ติดผล
อาการบนผลอ่อน ผลจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำและร่วงหล่น เชื้อ ราสาเหตุโรคนี้สามารถแฝงอยู่ที่ผลอ่อนและไม่แสดงอาการของโรค แต่จะแสดงอาการเมื่อผลแก่ โดยพบจุดแผลสีดำเล็กๆ ต่อมาแผลจะขยายลุกลาม บริเวณแผลอาจพบรอยแตก ทำให้ผลเน่า


ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย 'การควบคุมประจุไฟฟ้า' สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับจุลินทรีย์กันดีกว่า จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่บทบาทของมันไม่ได้เล็กไปด้วย จุลินทรีย์มีบทบาทที่สำคัญต่อดินและพืชหลายประการ ไม่ได้เป็นแหล่งธาตุอาหารของพืชโดยตรง แต่ทำหน้าที่ “เป็นผู้ย่อยสลาย” ย่อยสลายสารประกอบอินทรีย์ที่มีโครงสร้างซับซ้อนให้มีขนาดเล็กและกลายเป็นธาตุอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งปรับสมดุลและสภาพแวดล้อมต่างๆ ในดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช

จุลินทรีย์มีหลายชนิด สามารถใช้ทางการเกษตรได้ และชนิดที่คนอาจจะคุ้นเคยและใช้กันแพร่หลายแล้วคือ จุลินทรีย์ EM (Effective Microorganisms) ลักษณะเป็นน้ำสีน้ำตาลเข้ม ที่ขยายพันธุ์ด้วยกากน้ำตาล ไม่ชอบแสงแดด แต่วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับจุลินทรีย์น้องใหม่ที่ชอบแสงแดดและมีประโยชน์ไม่แพ้กัน นั่นก็คือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง หรือ PSB (Photosynthetic Bacteria) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่อยู่ในกลุ่มของจุลินทรีย์สีม่วง พบได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำธรรมชาติ สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตร บำบัดน้ำเสียจากอาคารบ้านเรือนและอุตสาหกรรมได้เช่นกัน จุลินทรีย์กลุ่มนี้ต้องการสิ่งที่จำเป็นในการเจริญเติบโตคือแสงแดด

ความสามารถที่ไม่ธรรมดาของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นประโยชน์ด้วยมีดังนี้

1.ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคพืชได้ดี ทำให้เปลือกหรือลำต้นแข็งแรง ทนต่อการกัดกินของแมลง
2.ช่วยกระตุ้นเซลล์เจริญบริเวณปลายรากพืชให้ขยายตัวและแตกแขนงได้ดี ทำให้มีรากฝอยที่หากินเก่งจำนวนมาก จึงทำให้พืชสามารถเพิ่มผลผลิตได้ดีเนื่องจากการสะสมอาหารได้มาก
3.สามารถใช้แทนปุ๋ยยูเรีย ปุ๋ยยูเรีย คือ ปุ๋ยสังเคราะห์ที่มีส่วนประกอบของไนโตรเจนในอัตราที่สูง โดยจุลินทรีย์ใช้หลักการย่อยสลายกลุ่มก๊าซของเสียให้เป็นไนโตรเจนซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักของพืช
4.นำจุลินทรีย์ไปใช้ผสมผสานร่วมกับน้ำหมักหรือปุ๋ยสูตรต่างๆ จะทำให้ผลผลิตยิ่งเพิ่ม และคุณภาพผลิตดีขึ้นตามด้วย
5.ลดต้นทุนการผลิต เมื่อใช้เป็นประจำและต่อเนื่อง สามารถลดการใช้ปุ๋ยสูตรต่างๆ ลงได้สูงสุด 50% ทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลง กำไรเพิ่มมากขึ้น
6.ช่วยในการบำบัดน้ำเสีย ได้ทั้งกับน้ำเสียที่อยู่ทั่วไปในท่อ บ่อปลา ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ หรือกับน้ำเสียจากอุตสาหกรรมก็ได้
7.ช่วยย่อยสลายของเสียในดิน โดยเฉพาะกลุ่มก๊าซไข่เน่า หรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจะเข้าไปทำลายกำจัดก๊าซไฮโดรเจนโดยนำของเสียนั้นมาเป็นพลังงานใช้ในการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ และขับของเสียออกมาให้อยู่ในรูปกลุ่มโกรทฮอร์โมน (growth hormone) ที่มีประโยชน์ต่อพืช
8.ช่วยลดสภาวะโลกร้อน เนื่องจากจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงย่อยสลายทำลายโครงสร้างของก๊าซมีเทน (methane) ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ เป็นตัวทำลายชั้นบรรยากาศของโลกเรา และมีอยู่มากในท้องนาที่มีน้ำขังอยู่ เพียงแค่เกษตรกรนำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปใส่ในนา นอกจากจะทำให้ต้นข้าวเติบโตแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการช่วยปกป้องโลกของเราได้ด้วย

ในการขยายเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง สิ่งที่ต้องเตรียม ประกอบไปด้วย
1.ขวดน้ำพลาสติก (สามารถเตรียมได้ทั้ง 3 ขนาด คือ 600 cc / 1500 cc / 6000 cc)
2.น้ำเปล่า (สามารถใช้น้ำฝน น้ำบ่อ หรือน้ำประปาที่พักค้างคืนไว้)
3.ไข่ (ไข่ไก่ หรือไข่เป็ดก็ได้ ไข่เน่าแล้วก็ยังได้ จุลินทรีย์ยิ่งชอบ)
4.น้ำปลา หรือกะปิ
5.ผงชูรส
6.ถ้วย ช้อน ส้อม
7.หัวเชื้อจุลินทรีย์ (ถ้ามี)

ขั้นตอนการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
1.ลอกพลาสติกที่ปิดขวดออกก่อน และกรอกน้ำลงไปในขวดให้ได้ 70% ของขวด
2.ตอกไข่ใส่ถ้วย ตีไข่ขาวและไข่แดงให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่น้ำปลา และผงชูรสตามไป ตีจนเข้ากันเหมือนกำลังทำไข่เจียว อัตราส่วน ไข่ 1 ฟอง : น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ : ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ จำง่ายๆ คือ 1:1:1)
3.จะใส่หรือไม่ใส่เปลือกไข่ก็ได้ ถ้าใส่ก็ช่วยเสริมแคลเซียม ให้ตำหรือบดให้ละเอียดแล้วใส่ลงในไข่ที่ผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
4.ตักใข่ที่ผสมแล้วใส่ลงในขวดน้ำที่เตรียมไว้ ดังนี้
5.สำหรับขวด 600 cc ใส่ครึ่งช้อนโต๊ะ
6.สำหรับขวด 1500 cc ใส่ 1 ช้อนโต๊ะ
7.สำหรับขวด 6000 cc ใส่ 4 ช้อนโต๊ะ
8.เขย่าส่วนผสมให้เข้ากับน้ำ แล้วเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะแสงลงไปให้เหลือพื้นที่วางในขวดเล็กน้อย ปิดฝาขวดให้แน่น
9.นำขวดไปวางเรียงกันในที่ที่มีแสงแดดส่องตลอดวัน
เขย่าขวดบ้าง หากมีแก๊สในขวดมากก็เปิดฝาระบายออกได้ รอจนกว่าจะเป็นสีแดงเข้มทั้งขวดจึงจะนำไปใช้ได้ (ถ้าใส่หัวเชื้อใช้เวลา 2 อาทิตย์จึงแดงดี ถ้าไม่มีหัวเชื้อใช้เวลาประมาณ 1 เดือน)

เท่านี้ ก็ได้จุลินทรีย์ใช้กันแล้ว ซึ่งทำไม่ยากเลยแต่แค่ต้องใจเย็นในการรอให้จุลินทรีย์ขยายตัว โดยปริมาณการใช้ จะใช้จุลินทรีย์ 200 CC ผสมน้ำ 20 ลิตร (ใช้กะปริมาณได้ไม่ต้องเป๊ะมาก ประมาณจุลินทรีย์ 1 แก้ว ต่อน้ำ 1 กะละมัง) ฉีดพ่นหรือรดน้ำทุกๆ 5-7 วัน ซึ่งใช้ทางการเกษตรในการปลูกต้นไม้ ดังนี้

-ใช้แช่เมล็ดพืช ก่อนปลูก 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ช่วยให้รากพืชงอกเร็วและแข็งแรง ลดการติดเชื้อกำจัดเชื้อราหรือแบคทีเรียก่อโรคที่เมล็ดพืช ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นปลูกสามารถควบคุมไม่ให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่าได้
-ใช้เตรียมดินปลูก ฉีดพ่นลงพื้นดินที่เพาะปลูก จะช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุย ลดความเป็นกรดในดิน และลดเชื้อโรคในดิน
-ใช้ฉีดพ่น หรือรดต้นไม้ ทุก 7-15 วัน ช่วยทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตงอกงามแข็งแรง ผลไม้รสชาติดี หวาน กรอบ อร่อย ช่วยเพิ่มน้ำหนักผลไม้ ช่วยป้องกันโรคและแมลง ช่วยป้องกันการร่วงหล่นทิ้งลูกทิ้งผลก่อนเก็บเกี่ยว

หากอยากผลิตจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเพื่อจำหน่าย ต้องปฏิบัติตามนี้

การขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับปุ๋ย

ขั้นตอนการ ขึ้นทะเบียนปุ๋ย (ฉบับสมบูรณ์)
1. เครื่องหมายการค้า (กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์)
– ขึ้นทะเบียนเครื่องหมายการค้าใหม่ (ใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี)
– ซื้อต่อเครื่องหมายการค้าจากคนอื่น ที่จดจำพวกสำหรับ “ปุ๋ย” ไว้แล้ว (ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์)

บริการขึ้นทะเบียนเครื่องหมายการค้า
2. ขึ้นทะเบียนปุ๋ย (กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (ใช้เวลาประมาณ 8-12 เดือน)
2.1 เลือกประเภทของปุ๋ย
– ปุ๋ยอินทรีย์
– ปุ๋ยเคมี
– ปุ๋ยเคมี ธาตุรองเสริม
– ปุ๋ยอินทรีย์เคมี
– ปุ๋ยชีวภาพ
2.2 เลือก สูตร / ลักษณะการผลิต ที่ต้องการขึ้นทะเบียน
– ปุ๋ยอินทรีย์ OM20% ปั้นเม็ด ขนาดบรรจุ 25 กก. และ 50 กก.
– ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สูตร 6-3-3 OM10% แบบคอมปาวน์ ขนาดบรรจุ 25 กก. และ 50 กก.
– ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สูตร 6-3-3 OM10% แบบผสม ขนาดบรรจุ 25 กก. และ 50 กก.
– ปุ๋ยเคมี ธาตุรองเสริม ชนิดน้ำ Cal 10% ขนาดบรรจุ 100 CC. _ 250 CC. _ 500 CC. และ 1 ลิตร
2.3 เลือก ชื่อทางการค้า
– ตั้งชื่อทางการค้า สำหรับเรียกสินค้าชนิดนั้น ๆ เฉพาะ เช่น ดินน้ำต้นไม้ _ บราโว่ เอ _วะว้าว
– เครื่องหมายการค้า ตรา อินเนอร์โกร ต้องการขึ้นทะเบียนปุ๋ย โดยใช้ชื่อที่ขออนุญาตขึ้นทะเบียนว่า “ปุ๋ยอินทรีย์ ดินน้ำต้นไม้ ตรา อินเนอร์โกร” หรือ “ปุ๋ยอินทรีย์เคมี 6-3-3 OM10% บราโว่ เอ ตรา อินเนอร์โกร” หรือ “ปุ๋ยเคมี วะว้าว ตรา อินเนอร์โกร”
2.4 ส่งตัวอย่างปุ๋ยเพื่อตรวจวิเคราะห์ กับแล็บที่ได้รับรองจากกรมวิชาการเกษตรเท่านั้น
2.5 ยื่นผลวิเคราะห์ปุ๋ย พร้อมกับเอกสารเจ้าของเครื่องหมายการค้า ที่กรมวิชาการเกษตร

3. ขออนุญาติขายปุ๋ย (กรมวิชาการเกษตร / หน่วยราชการใกล้บ้าน ) (ใช้เวลาประมาณ 1-4 สัปดาห์)
– จดทะเบียนการค้า / จดทะเบียนบริษัท / จดห้างหุ้นส่วน

4. สั่งทำบรรจุภัณฑ์ (ใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์)
– ออกแบบ
– ทำบล็อคกระสอบ
– ผลิตกระสอบ
– ผลิตขวด บรรจุภัณฑ์
– ผลิตฉลาก

5. ผลิตปุ๋ยน้ำหมัก (ใช้เวลาประมาณ 7-14 วันทำการ)
– ผลิตปุ๋ย
– หารถขนส่ง

ข้อมูลการทำน้ำหมักจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง จาก okmd.or.th/okmd-kratooktomkit/4064/

ข้อมูลการขึ้นทะเบียน ปุ๋ย (น้ำหมักจุลินทรียื) จาก http://ไปที่..link..

สำหรับผู้ผลิตน้ำหมักจุลินทรีย์สังเคาะห์แสง เพื่อจำหน่าย ที่สนใจตรวจวิเคราะห์น้ำหมักจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..

สำหรับผู้ผลิตน้ำหมักจุลินทรีย์สังเคาะห์แสง เพื่อจำหน่าย ที่สนใจตรวจฉลากสินค้า สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..

เพลี้ยหรือที่เรียกว่าเหาพืชเป็นศัตรูพืชทั่วไปที่สามารถสร้างความหายนะให้กับกล้วยไม้ ทำลายสุขภาพและความงามโดยรวม ผู้ที่ชื่นชอบและผู้ปลูกกล้วยไม้ต่างแสวงหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเพลี้ย ในขณะที่ยังคงรักษาสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของพืช ทางออกหนึ่งที่เป็นไปได้คือการใช้ผลิตภัณฑ์ผสมที่เรียกว่า Beauveria Mix Methharicium ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะสำหรับเพลี้ยอ่อนในกล้วยไม้ ในบทความนี้ เราจะสำรวจประสิทธิภาพและประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์นี้เพื่อควบคุมเพลี้ยในกล้วยไม้

ทำความเข้าใจกับ Beauveria Mix Methharicium:

Beauveria Mix Methharicium เป็นแบรนด์เฉพาะที่ผสมผสานเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Metharhizium anisopliae เชื้อราเหล่านี้เป็นที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการทำให้เกิดโรคทางพยาธิวิทยา ซึ่งหมายความว่าสามารถแพร่เชื้อและฆ่าแมลงต่างๆ รวมถึงเพลี้ยได้ ด้วยการใช้กลไกการควบคุมทางชีวภาพตามธรรมชาติของเชื้อราเหล่านี้ Beauveria Mix Methharicium นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนสำหรับการจัดการเพลี้ยในกล้วยไม้

วิธีการทำงานของ Beauveria Mix Methharicium:

เมื่อนำไปใช้กับกล้วยไม้ สปอร์ของบิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมจะติดอยู่ที่หนังกำพร้าของเพลี้ยอ่อน เมื่อติดแล้ว สปอร์จะงอกและเจาะเข้าไปในร่างกายของแมลง ทำให้เนื้อเยื่อภายในของเพลี้ยตั้งรกราก เชื้อราเติบโตอย่างรวดเร็วภายในเพลี้ย ปล่อยเอนไซม์และสารพิษที่นำไปสู่การตายในที่สุด กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ฆ่าเพลี้ยที่เป็นเป้าหมาย แต่ยังช่วยป้องกันการแพร่กระจายของการทำลายไปยังต้นกล้วยไม้อื่นๆ

ประโยชน์ของการใช้บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียม:

การควบคุมเพลี้ยอย่างมีประสิทธิภาพ: Beauveria Mix Methharicium แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่คาดหวังในการควบคุมประชากรเพลี้ยในกล้วยไม้ การผสมผสานระหว่าง Beauveria bassiana และ Metharhizium anisopliae นำเสนอวิธีการแบบสองขั้นตอน ซึ่งเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้

ปลอดภัยสำหรับกล้วยไม้: Beauveria Mix Methharicium ไม่เหมือนกับสารเคมีกำจัดแมลงหลายชนิด ปลอดภัยสำหรับใช้กับกล้วยไม้ ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นพิษหรือความเสียหายต่อพืชเมื่อใช้ตามที่กำหนด สิ่งนี้ทำให้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ปลูกออร์แกนิกและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

ผลตกค้าง: การใช้บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธฮาริเซียมสามารถให้ผลตกค้างได้ หมายความว่ายังคงปกป้องกล้วยไม้จากเพลี้ยแม้หลังจากการรักษาครั้งแรก คุณลักษณะนี้ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำและให้การควบคุมที่ยาวนาน

ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: Beauveria Mix Methharicium เป็นสารควบคุมทางชีวภาพที่ได้จากเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ นำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ลดผลกระทบด้านลบต่อแมลงที่มีประโยชน์ สัตว์ และระบบนิเวศโดยรวม

แนวทางการสมัคร:

เมื่อใช้บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียม จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติของผู้ผลิต โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์จะอยู่ในรูปของผงหรือของเหลว ควรใช้อย่างสม่ำเสมอกับต้นกล้วยไม้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ครอบคลุมใบและลำต้นอย่างทั่วถึง อาจจำเป็นต้องใช้ซ้ำทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการทำลายเพลี้ย

บทสรุป:

Beauveria Mix Methharicium เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Beauveria bassiana และ Metharhizium anisopliae นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับป้องกันและกำจัดเพลี้ยในกล้วยไม้ สารควบคุมชีวภาพนี้มีเป้าหมายที่เพลี้ยโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและยั่งยืนแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เมื่อใช้ตามคำแนะนำ Beauveria Mix Methharicium สามารถช่วยรักษาสุขภาพและความงามของกล้วยไม้ ทำให้มั่นใจได้ถึงการเจริญเติบโตและความมีชีวิตชีวาในระยะยาว

อะมิโนโปรตีนจำเป็นต่อพืช 18 ชนิด ช่วนในการส้รางฮอร์โมนพืช โตไว ผลใหญ่ แข็งแรง ทนแล้ง ทนโรค ทำไห้เกิดการสร้างและขยายขนาดของเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่างๆของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบ ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์สำหรับควบคุมโรคใบไหม้ในมะเขือเทศ

โรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans เป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับผู้ปลูกมะเขือเทศทั่วโลก เชื้อโรคที่ทำลายล้างนี้สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและติดเชื้อพืชผลมะเขือเทศทั้งหมด ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียผลผลิตและผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก เพื่อต่อสู้กับอันตรายจากเชื้อรานี้ นักวิจัยได้พัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่ก้าวล้ำ: IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด

ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม IS ได้รับการกำหนดอย่างรอบคอบเพื่อกำหนดเป้าหมายและกำจัดโรคใบไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง IS เลือกเป้าหมายที่เชื้อราและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ป้องกันการพัฒนาและการแพร่กระจายของ Phytophthora infestans บนต้นมะเขือเทศ

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือความสามารถในการควบคุมสภาพแวดล้อมบนผิวใบพืช ทำให้เกิดสภาวะที่ไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเชื้อรา เมื่อทำเช่นนั้น IS จะรบกวนวงจรชีวิตของ Phytophthora infestans ซึ่งจำกัดความสามารถในการแพร่กระจายและทำให้พืชที่มีสุขภาพดีติดเชื้อ กลไกการควบคุมนี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน ป้องกันการก่อตัวและการเพิ่มจำนวนของเชื้อราบนต้นมะเขือเทศ ยับยั้งโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

IS ยังแสดงคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมกับพื้นผิวใบพืช ทำให้มั่นใจได้ถึงการครอบคลุมที่ดีขึ้นและการป้องกันที่ยาวนาน ประสิทธิภาพสูงในการยึดเกาะกับใบทำให้สามารถกระจายสารต้านเชื้อราได้สม่ำเสมอมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโรคใบไหม้ การปกปิดที่สม่ำเสมอนี้ช่วยป้องกันการก่อตัวของพื้นที่เฉพาะที่ซึ่งเชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ ให้การปกป้องที่ครอบคลุมสำหรับต้นมะเขือเทศทั้งหมด

ที่สำคัญ IS มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้ปลูก ไม่มีสารเคมีสังเคราะห์หรือสารอันตรายที่อาจเป็นอันตรายต่อแมลง สัตว์ หรือระบบนิเวศที่เป็นประโยชน์ ด้วย IS เกษตรกรสามารถต่อสู้กับโรคใบไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่กระทบต่อความสมบูรณ์ของพืชผลหรือสภาพแวดล้อมโดยรอบ

นอกจากคุณสมบัติต้านเชื้อราแล้ว IS ยังมีประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับต้นมะเขือเทศอีกด้วย เป็นชั้นป้องกันที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันทางกายภาพ ปกป้องใบไม้จากปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น รังสี UV และการสูญเสียความชื้น การป้องกันนี้ช่วยเพิ่มสุขภาพโดยรวมและความแข็งแรงของพืช ปรับปรุงความยืดหยุ่นของพวกมันต่อเชื้อโรคต่างๆ และทำให้ผลผลิตพืชสูงขึ้น

การพัฒนา IS แสดงถึงความสำเร็จครั้งสำคัญในการต่อสู้กับโรคใบไหม้ในมะเขือเทศ ธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยประกอบกับประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกที่ต้องการวิธีแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ด้วยระบบ IS เกษตรกรสามารถปกป้องต้นมะเขือเทศได้อย่างมั่นใจในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

โดยสรุป IS เป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติที่ควบคุมโรคใบไหม้ในมะเขือเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการวิจัยและพัฒนา ได้รับการออกแบบมาเพื่อเลือกเป้าหมายและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Phytophthora ด้วยการสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพิ่มจำนวนของเชื้อราและเพิ่มการยึดเกาะกับใบพืช ระบบ IS จึงให้การปกป้องที่ครอบคลุมในขณะที่มั่นใจในความปลอดภัยของผู้ใช้ องค์ประกอบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคุณประโยชน์เพิ่มเติมช่วยเสริมความแข็งแกร่งในฐานะโซลูชั่นที่ก้าวล้ำสำหรับผู้ปลูกมะเขือเทศทั่วโลก

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

เพิ่มผลผลิตของคุณด้วยน้อยหน่าและปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

คุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มผลผลิตและผลผลิตในสวนน้อยหน่าของคุณหรือไม่? มองไม่เพิ่มเติม! เคล็ดลับอยู่ที่การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ที่มีธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว เมื่อใช้ร่วมกับเทคนิคการใช้ที่เหมาะสม ปุ๋ยนี้สามารถช่วยให้คุณได้ผลผลิตสูงสุดและต้นน้อยหน่ามีสุขภาพดีขึ้น

FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบมี 2 ถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม สิ่งสำคัญคือต้องผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เริ่มด้วยการผสมถุง 50 กรัมถุงแรกกับถุง 50 กรัมใบที่สองในน้ำ 20 ลิตร สิ่งนี้จะสร้างสารละลายที่อุดมด้วยสารอาหารที่สามารถฉีดพ่นบนต้นน้อยหน่า

กุญแจสำคัญในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 คือการใช้อย่างเหมาะสม ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับเพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

เวลาเป็นสิ่งสำคัญ: ใส่ปุ๋ยในช่วงการเจริญเติบโตของต้นน้อยหน่า โดยปกติจะเป็นช่วงพืชและเมื่อต้นไม้กำลังผลิตใบและยอดใหม่ หลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ยในช่วงฤดูแล้งหรือสภาพอากาศที่รุนแรง เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของปุ๋ยลดลง

การเจือจางที่เหมาะสม: FK-1 เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น เพื่อให้สารอาหารกระจายอย่างสม่ำเสมอและรากของต้นไม้สามารถดูดซึมไปใช้ได้

ฉีดพ่นให้ทั่วต้นน้อยหน่า ฉีดพ่นให้ทั่วต้นน้อยหน่า ทั้งใบ ลำต้น และกิ่ง เพื่อให้ต้นไม้ทุกต้นได้รับสารอาหารในปริมาณที่เท่ากัน ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมดุล

การใส่ซ้ำ: เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ใส่ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ซ้ำเป็นระยะๆ ตลอดฤดูปลูก สิ่งนี้ช่วยรักษาปริมาณสารอาหารที่จำเป็นให้กับต้นไม้อย่างสม่ำเสมอและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตอย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ร่วมกับต้นน้อยหน่านั้นมีมากมาย สารอาหารที่จำเป็นในปุ๋ยช่วยส่งเสริมใบที่แข็งแรง การพัฒนาของรากที่แข็งแรง และความแข็งแรงของพืชโดยรวม ส่งผลให้การออกดอก การติดผล และผลผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่ผลผลิตที่สูงขึ้นในสวนของคุณในที่สุด

นอกจากประโยชน์ด้านผลผลิตแล้ว ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ยังช่วยลดการขาดธาตุอาหารอีกด้วย การขาดธาตุอาหารอาจทำให้ผลไม้มีคุณภาพต่ำและผลผลิตลดลง องค์ประกอบของสารอาหารที่สมดุลของ FK-1 ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้และส่งเสริมการเจริญเติบโตที่เหมาะสมและพัฒนาการของต้นน้อยหน่า

สรุปได้ว่าปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกน้อยหน่าที่ต้องการเพิ่มผลผลิตให้ได้สูงสุด การใช้ปุ๋ยที่อุดมด้วยสารอาหารนี้อย่างเหมาะสมร่วมกับต้นน้อยหน่าสามารถส่งผลให้ต้นไม้แข็งแรงขึ้น ออกดอกเพิ่มขึ้น และผลผลิตสูงขึ้น ปฏิบัติตามแนวทางการใช้ที่แนะนำและได้รับประโยชน์จากการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สำหรับสวนน้อยหน่าของคุณ ต้นไม้ของคุณจะขอบคุณด้วยการเก็บเกี่ยวมากมาย!

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียม เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธีที่ใช้ในการควบคุมแมลงหวี่ขาวในต้นพริก ผลิตภัณฑ์นี้เป็นส่วนผสมของเชื้อรา Beauveria สองสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งทราบกันดีว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดแมลงหวี่ขาว

แมลงหวี่ขาวเป็นศัตรูพืชทั่วไปที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อต้นพริก พวกมันกินน้ำนมของพืชซึ่งอาจนำไปสู่การเติบโตและผลผลิตที่ลดลง พวกเขายังผลิตน้ำหวานซึ่งสามารถนำไปสู่การเจริญเติบโตของราเขม่าบนใบของพืช

บิวเวอเรีย มิกซ์ เมทาฮาริเซียมเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมแมลงหวี่ขาวในต้นพริก เชื้อราจะติดเชื้อและฆ่าแมลงหวี่ขาว ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนในการควบคุมศัตรูพืช ผลิตภัณฑ์นี้ถูกนำไปใช้เป็นสเปรย์ฉีดที่ใบของต้นพริก ซึ่งแมลงหวี่ขาวจะติดเชื้อในขณะที่มันกิน

หนึ่งในแบรนด์ของผลิตภัณฑ์นี้คือ Butarex บิวทาเร็กซ์ โบเวอเรีย มิกซ์ เมธฮาริเซียม เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมแมลงศัตรูพืชโดยชีววิธี ที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมแมลงหวี่ขาวในต้นพริกโดยเฉพาะ เป็นส่วนผสมของเชื้อรา Beauveria สองสายพันธุ์ซึ่งทราบกันดีว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดแมลงหวี่ขาว

ผลิตภัณฑ์นี้ใช้งานง่ายและปลอดภัยสำหรับใช้กับมนุษย์และสัตว์ นอกจากนี้ยังปลอดภัยสำหรับใช้ในฟาร์มออร์แกนิกเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

สรุปได้ว่าบิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมเป็นสารละลายที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมแมลงหวี่ขาวในต้นพริก เป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนในการควบคุมศัตรูพืช และปลอดภัยสำหรับใช้ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ แบรนด์ Butarex เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับ Beauveria Mix Methharicium สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

บาซิลลัส ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Baserex เป็นบาซิลลัสที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้ป้องกันและกำจัดหนอนเจาะผลในผลส้มโอ หนอนเจาะผลเป็นปัญหาทั่วไปสำหรับผู้ปลูกส้มโอ และอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ตรวจสอบ บาซิลิสก์เป็นสารละลายอินทรีย์ที่สามารถช่วยป้องกันศัตรูพืชเหล่านี้ไม่ให้สร้างความเสียหายแก่พืชผลส้มโอ

บาซิลิสก์เป็นบาซิลลัสชนิดหนึ่งที่เจาะจงไปที่หนอนเจาะผล Bacillus thuringiensis เป็นสารออกฤทธิ์ใน Basilisk ซึ่งเป็นแบคทีเรียในดินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งผลิตสารพิษที่ทำลายตัวอ่อนของแมลงหลายชนิด รวมถึงหนอนเจาะผล เมื่อใช้กับต้นเกรปฟรุต บาซิลิสก์จะแพร่เชื้อไปยังตัวอ่อนของหนอนเจาะผล และทำให้พวกมันหยุดกินอาหารและตายภายในสองสามวัน

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของการใช้บาซิลิสก์คือเป็นสารละลายอินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหรือแมลงที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ปลอดภัยที่จะใช้กับต้นส้มโอและไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์หรือสัตว์ นอกจากนี้ บาซิลิสก์ยังสมัครได้ง่ายและไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษหรือการฝึกอบรมใดๆ

ในการใช้บาซิลิสก์ ขอแนะนำให้ใช้เมื่อสัญญาณแรกของการรบกวนของหนอนเจาะผล เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์สามารถป้องกันศัตรูพืชไม่ให้สร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่อพืชผลส้มโอ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้โดยใช้เครื่องพ่นสารเคมีได้ และสิ่งสำคัญคือต้องฉีดให้ทั่วทั้งต้น รวมถึงลำต้น กิ่งก้าน และผล

สรุปได้ว่าบาซิลิสก์เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการป้องกันและกำจัดหนอนเจาะผลในผลส้มโอ เป็นสารละลายอินทรีย์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือแมลงที่มีประโยชน์ ใช้งานง่าย การใช้บาซิลิสก์สามารถช่วยให้แน่ใจว่าผู้ปลูกส้มโอสามารถปกป้องพืชผลของตนจากการทำลายของหนอนเจาะผลและเพิ่มผลผลิตได้

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

การเพิ่มผลผลิตหม่อน: ความสำคัญของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ต้นหม่อนเป็นพืชที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมไหม โดยเป็นแหล่งอาหารหลักสำหรับหนอนไหม ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเกษตรกรในการเพิ่มผลผลิตหม่อนให้ได้สูงสุด วิธีหนึ่งที่ได้ผลคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ได้แสดงให้เห็นผลดีในการเพิ่มผลผลิตของต้นหม่อน ในบทความนี้ เราจะพูดถึงประโยชน์ของการใช้ FK-1 และวิธีการใช้งานที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด

ประโยชน์ของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นสูตรเฉพาะที่มีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช ประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว สารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพของต้นหม่อน

ไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตคลอโรฟิลล์ ซึ่งจำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง ฟอสฟอรัสมีหน้าที่ในการเจริญเติบโตของรากและการเจริญเติบโตของดอก โพแทสเซียมช่วยในการขนส่งน้ำและสารอาหารทั่วทั้งพืช แมกนีเซียมจำเป็นสำหรับการผลิตเอนไซม์ที่ช่วยในการสังเคราะห์แสง สังกะสีมีความสำคัญต่อการพัฒนาของใบและผล สุดท้าย สารลดแรงตึงผิวช่วยให้สเปรย์ยึดติดกับใบและช่วยให้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ช่วยให้ต้นหม่อนได้รับสารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้เพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเจริญเติบโตและผลผลิตที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น เนื่องจากสารอาหารจะถูกส่งไปยังใบโดยตรง ทำให้สามารถดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 อย่างเหมาะสม

เมื่อใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 จำเป็นต้องปฏิบัติตามวิธีการใช้ที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด ปุ๋ยเมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

ควรฉีดพ่นส่วนผสมลงบนใบหม่อนเพื่อให้ครอบคลุมทั่วถึง ควรฉีดพ่นในตอนเช้าตรู่หรือช่วงเย็น หลีกเลี่ยงส่วนที่ร้อนที่สุดของวัน เพื่อป้องกันการระเหยของสเปรย์ แนะนำให้ใช้สเปรย์ทุกๆ 15 วันในช่วงฤดูปลูกเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

บทสรุป

การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตต้นหม่อน สารอาหารที่จำเป็นที่มีอยู่ในปุ๋ยช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตและสุขภาพของพืช ส่งผลให้ผลผลิตสูงขึ้น การใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด เมื่อปฏิบัติตามวิธีการใช้ที่ถูกต้อง เกษตรกรสามารถมั่นใจได้ว่าต้นหม่อนของตนแข็งแรงและให้ผลผลิต ซึ่งจะนำไปสู่ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นและความสำเร็จในอุตสาหกรรมไหม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. และ ติ๊กต็อก ช้อป http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

อาการใบจุด ใบร่วง ใบไหม้ โรคราสีชมพู ในยางพารา อาการต่างๆเหล่านี้ มีสาเหตุจากเชื้อรา โรคยางพาราที่มีสาเหตุจากเชื้อรานั้น สามารถระบาดลุกลามไปได้อย่างรวดรวด หากไม่รีบป้องกันกำจัด เนื่องจากเชื้อรานั้นมีลักษณะการระบาดโดยแตกเป็นสปอร์ ปลิวไปกับลม ไปติดต้นที่ใกล้เคียง สามารถระบาดข้ามพื้นที่ได้ในระยะทางไกล การป้องกันกำจัด จึงเป็นการฉีดพ่นยา ให้ครอบคลุมบริเวณ ไม่เพียงฉีดพ่นเฉพาะส่วนที่ติดโรคเท่านั้น

ไอเอส สารอินทรีย์ป้องกัน กำจัดโรคพืชที่มีสาเหตุจากเชื้อรา สัดส่วนการใช้ 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร

FK-1 ฟื้นฟูบำรุงต้นยางพารา ให้กลับมาเจริญเติบโตได้ไว และให้ผลผลิตที่ดีขึ้น สัดส่วนการใช้ ในกล่องมีสองถุง ต้องผสมใช้พร้อมกันทั้งสองถุง ตักถุงละ 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร

สามารถผสม ไอเอส และ FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกันได้

Beauveria mix Methharicium จำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ Butarex เป็นส่วนผสมของยาฆ่าแมลงที่ใช้สำหรับป้องกันและกำจัดเพลี้ยในต้นกะเพรา ส่วนผสมนี้ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Metharizium anisopliae

Beauveria bassiana เป็นเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งสามารถติดเชื้อและฆ่าแมลงศัตรูพืชต่างๆ รวมถึงเพลี้ย เมื่อฉีดพ่นบนต้นโหระพา สปอร์ของ Beauveria bassiana จะติดกับตัวของเพลี้ยและเจาะทะลุโครงร่างภายนอกของเพลี้ย ซึ่งทำให้พวกมันตายในที่สุด

Metharizium anisopliae เป็นเชื้อราที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอีกชนิดหนึ่งที่สามารถติดเชื้อและฆ่าแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด เมื่อรวมกับบิวเวอเรีย บาสเซียนา ส่วนผสมจะยิ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดเพลี้ย

Methharicium ผสม Beauveria ยี่ห้อ Butarex ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์ และไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายในต้นโหระพา

ในการใช้บิวทาเร็กซ์ ให้เจือจางส่วนผสมด้วยน้ำตามคำแนะนำของผู้ผลิต แล้วฉีดพ่นลงบนต้นโหระพาที่ได้รับผลกระทบ สิ่งสำคัญคือต้องฉีดพ่นพืชให้ทั่วถึง รวมถึงใต้ใบ ซึ่งเพลี้ยมีแนวโน้มที่จะรวมตัวกัน

โดยรวมแล้ว บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีแนวโน้มดีในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในต้นกะเพรา โดยไม่ต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตราย สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตทุกครั้งเมื่อใช้ยาฆ่าแมลง รวมถึงบิวทาเร็กซ์ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

อะมิโนโปรตีนจำเป็นต่อพืช 18 ชนิด ช่วนในการส้รางฮอร์โมนพืช โตไว ผลใหญ่ แข็งแรง ทนแล้ง ทนโรค ทำไห้เกิดการสร้างและขยายขนาดของเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่างๆของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบ ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..