[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3569 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 356 หน้า, หน้าที่ 357 มี 9 รายการ

 
หนอนเจาะดอกมะลิ ดอกมะลิจะเป็นสีน้ำตาลแห้ง ยากำจัด หนอนมะลิ ใช้ ไอกี้ บำรุง ฟื้นตัวด้วย FK-T
หนอนเจาะดอกมะลิ ดอกมะลิจะเป็นสีน้ำตาลแห้ง ยากำจัด หนอนมะลิ ใช้ ไอกี้ บำรุง ฟื้นตัวด้วย FK-T
ไอกี้ และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

หนอนเจาะดอกมะลิเป็นแมลงศัตรูที่สำคัญของมะลิ หนอนจะเจาะดอกเข้าไปกัดกินเกสรอยู่ภายในดอก ทำให้กลีบดอกช้ำเห็นมูลเป็นขุยๆ อยู่ภายใต้ดอก ต่อมาดอกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแห้งและร่วงหล่น หนอนเข้าทำลายตั้งแต่ขนาดดอกเท่าหัวไม้ขีดไฟ ถ้าไม่มีดอกจะกัดกินใบอ่อนหรือยอดอ่อน จะระบาดมากในฤดูฝน ทำให้ดอกเสียหายมาก

ไอกี้ เป็นสารชีวินทรีย์ (ชีวภาพ) ปลอดภัย กำจัดหนอนต่างๆหลายชนิด
ขนาด 500 กรัม (แนะนำให้ใช้คู่กับ FK ธรรมชาตินิยม เพื่อเร่งฟื้นฟูบำรุง)
อัตราผสม 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอกี้ และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
ไอกี้ 25 กรัม และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
อ่าน:3484
ดินมีปัญหา ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก รู้ปัญหา แก้ได้ ตรวจดินกับ iLab
ดินมีปัญหา ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก รู้ปัญหา แก้ได้ ตรวจดินกับ iLab
ดินที่มีปัญหาทางด้านการเกษตร หมายถึง ดินที่มีสมบัติทางกายภาพและเคมีไม่เหมาะสม หรือเหมาะสมน้อยสำหรับการเพาะปลูก ทำให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตตามปกติได้

ส่วนใหญ่เป็นดินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ ดินเค็ม ดินเปรี้ยวจัด ดินทรายจัด ดินอินทรีย์. ดินปนกรวด และดินตื้น นอกจากนี้ยังรวมถึงพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ซึ่งถ้ามีการใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรแล้ว จะทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง หากว่าจะใช้ดินเหล่านี้ในการปลูกพืชแล้ว จำเป็นต้องมีการจัดการเพื่อแก้ไขสภาพของดินให้เหมาะสมก่อนการปลูกพืชตามวิธีการปกติเสียก่อน
ดินที่มีปัญหาประเภทต่างๆ ที่พบในประเทศไทย

1.ดินเปรี้ยวจัด

ดินเปรี้ยวจัด หมายถึง ดินที่มีสภาพความเป็นกรดสูงมาก เนื่องจากอาจจะมี กำลังมี หรือได้เคยมีกรดกำมะถันซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเกิดดินชนิดนี้อยู่ในหน้าตัดของดิน และปริมาณของกรดกำมะถันที่เกิดขึ้นนั้น มีมากพอที่จะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน และการเจริญเติบโตของพืชในบริเวณนั้น

การเกิดดินเปรี้ยวจัด..

เป็นผลสืบเนื่องมาจากกระบวนการกำเนิดของดิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับตะกอนน้ำทะเลหรือตะกอนน้ำกร่อย ทำให้เกิดการสะสมสารประกอบกำมะถันขึ้นในดิน ซึ่งเมื่อดินแห้ง สารประกอบกำมะถันเหล่านี้จะแปรสภาพทำให้เกิดกรดกำมะถันขึ้นในดิน ทำให้ดินเป็นกรดสูงมากจนมีผลกระทบต่อพืชที่ปลูก โดยทั่วไปจะมีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง หรือพีเอช (pH) ต่ำกว่า 4.0 และมักจะพบจุดประสีเหลืองฟางข้าว ของสารจาโรไซต์ (jarosite) ในชั้นดินล่าง

แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ตามระดับความลึกของจุดประสีเหลืองฟางข้าวที่พบ ได้แก่

1.ดินเปรี้ยวจัดระดับตื้น พบจาโรไซต์ภายใน 50 ซม. จากผิวดิน

2. ดินเปรี้ยวจัดระดับลึกปานกลาง พบจาโรไซต์ภายในช่วง 50-100 ซม. จากผิวดิน

3. ดินเปรี้ยวจัดระดับลึก พบจาโรไซต์ที่ระดับความลึกมากกว่า 100 ซม.จากผิวดิน

ปัญหาที่เกิดจากดินเปรี้ยวจัด

การที่ดินมีความเป็นกรดสูงเกินไปทำให้เกิดการขาดแคลนธาตุอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส นอกจากนี้สภาพที่เป็นกรดสูงยังทำให้ธาตุเหล็กและอะลูมินัมละลายออกมาอยู่ในดินมากจนถึงระดับที่เป็นพิษต่อพืชที่ปลูก

การปรับปรุงดินเปรี้ยวจัด มีหลายวิธี สำหรับดินที่มีปฏิกิริยาของดินเป็นกรดไม่รุนแรง อาจใช้วิธีการทำให้กรดเจือจางลง โดยการใช้น้ำชะล้างความเป็นกรดในดิน หรือการขังน้ำไว้นานๆ แล้วระบายออกก่อนปลูกพืช ร่วมกับการเลือกพันธุ์พืชที่ทนต่อดินกรด สำหรับการจัดการดินที่มีปฏิกิริยาของดินเป็นกรดรุนแรงมาก จะใช้วิธีการใส่วัสดุปูน เช่น ปูนมาร์ล ปูนขาว หินปูนบด หินปูนฝุ่น ผสมคลุกเคล้ากับหน้าดินในอัตราที่เหมาะสมตามความต้องการปูนของดิน เพื่อช่วยลดความเป็นกรดในดิน หรือใช้ปูนควบคู่ไปกับการใช้น้ำชะล้างและควบคุมระดับน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นวิธีการที่สมบูรณ์ที่สุดและใช้ได้ผลมากในพื้นที่ซึ่งดินเป็นกรดรุนแรงมากและถูกปล่อยทิ้งร้างเป็นเวลานาน

2.ดินอินทรีย์...

ดินอินทรีย์ หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “ดินพรุ” หมายถึง ดินที่เกิดจากการสะสมเศษซากอินทรีย์ ที่เกิดจากการสลายตัวเน่าเปื่อยของพืชพรรณไม้ตามธรรมชาติ ที่ขึ้นอยู่ในแอ่งที่ลุ่มต่ำมีน้ำแช่ขังเป็นเวลานาน จนเกิดการสะสมเป็นชั้นดินอินทรีย์ที่หนากว่า 40 ซม

ดินอินทรีย์ที่พบในประเทศไทย ส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลง บริเวณชายฝั่งทะเลที่เคยมีน้ำขึ้นลงท่วมถึง จนเกิดเป็นแอ่งต่ำปิด ที่น้ำทะเลไม่สามารถเข้าถึงได้อีก เนื่องจากมีสันทรายปิดกั้นไว้ ต่อมานานวันเข้าน้ำทะเลที่แช่ขังอยู่จึงค่อยๆ จืดลงและมีพืชพวกหญ้าหรือกกงอกขึ้นมา เมื่อพืชเหล่านี้ตายทับถมกันจนพื้นที่ตื้นเขินขึ้น ต้นไม้เล็กใหญ่จึงขึ้นมาแทนที่ เกิดเป็นป่าชนิดที่เรียกว่า “ป่าพรุ” ต่อมาต้นไม้ใหญ่น้อยล้มตายลงตามอายุทับถมลงในแอ่งน้ำขัง ที่อัตราการย่อยสลายของเศษซากพืชเกิดขึ้นได้อย่างช้าๆ จึงเกิดการทับถมอินทรียสารเกิดเป็นชั้นดินอินทรีย์ที่หนาขึ้นเรื่อยๆ

ลักษณะของดินอินทรีย์

สีดินเป็นสีน้ำตาลแดงเข้มหรือน้ำตาลแดงคล้ำ องค์ประกอบของดินส่วนใหญ่เป็นอินทรียวัตถุทั้งที่ย่อยสลายแล้ว และบางส่วนที่ยังคงสภาพเป็นเศษชิ้นส่วนของพืช เช่น กิ่ง ก้าน ลำต้น หรือราก ที่มีการสะสมเป็นชั้นหนามากกว่า 40 ซม. ขึ้นไป ดินตอนล่างถัดจากชั้นดินอินทรีย์ลงไป จะเป็นดินเลนสีเทาปนน้ำเงินซึ่งเป็นตะกอนน้ำทะเล ซึ่งบางแห่งอาจมีการสะสมสารประกอบกำมะถันที่จะเกิดเป็นดินเปรี้ยวจัด เมื่อมีการระบายน้ำออกจากพื้นที่จนดินอยู่ในสภาพที่แห้งด้วย

ปัญหาของดินอินทรีย์

เป็นดินที่มีชิ้นส่วนของพืชเป็นองค์ประกอบมาก พื้นที่มักจะี่มีน้ำขัง หากระบายน้ำออกจนแห้ง ดินจะยุบตัวมาก มีน้ำหนักเบา ติดไฟง่าย และต้นพืชที่ปลูกไม่สามารถตั้งตรงอยู่ได้ นอกจากนี้ในบริเวณที่มีดินที่มีศักยภาพเป็นดินเปรี้ยวจัดอยู่ตอนล่าง หลังจากมีการระบายน้ำออก ดินจะกลายเป็นดินกรดจัดรุนแรงด้วย

การปรับปรุงแก้ไข

เลือกพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำจืดบริเวณขอบพรุ และมีชั้นวัสดุอินทรีย์หนาน้อยกว่า 100 ซม.จากผิวดิน

มีแนวป้องกันน้ำท่วมร่วมกับคลองระบายน้ำ และคลองส่งน้ำในระบบ ที่สามารถป้องกันอันตรายจากน้ำท่วมได้ เพื่อใช้ปลูกข้าว โดยเลือกปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง หรือพันธุ์ที่ทนต่อสภาพความเป็นกรดของดิน

ในบริเวณที่ปลูกพืชไร่ ควรมีแนวป้องกันน้ำท่วม และคูระบายน้ำ มีการควบคุมระดับใต้ดินให้คงที่ เพื่อป้องกันการเกิดกรดของดินเพิ่มขึ้น หากดินเป็นกรดจัดมาก ปรับสภาพความเป็นกรดในดิน และเพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหาร โดยไถคลุกเคล้าวัสดุปูน หินปูนฝุ่นอัตรา 2.5-3.0 ตัน/ไร่ ให้ทั่วบนสันร่อง และหว่านในร่องคูน้ำ

3.ดินเค็ม

ดินเค็ม หมายถึง ดินที่มีปริมาณเกลือที่ละลายอยู่ในสารละลายดินมากเกินไป จนมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและผลิตผลของพืช เนื่องจากทำให้พืชเกิดอาการขาดน้ำ และมีการสะสมไอออนที่เป็นพิษในพืชมากเกินไป นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความไม่สมดุลของธาตุอาหารพืชด้วย

ดินเค็มที่พบในประเทศไทย สามารถจำแนกตามลักษณะการเกิดและสัณฐานภูมิประเทศ ได้ 2 ประเภท คือ

1.ดินเค็มชายฝั่งทะเล

มักพบบริเวณตามแนวชายฝั่งทะเล ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมถึง หรือเคยเป็นพื้นที่ๆมีน้ำทะเลท่วมมาก่อน โดยพบมากที่สุดตามแนวฝั่งชายทะเลในภาคใต้ เกิดจากการได้รับอิทธิพลจากการขึ้นลงของน้ำทะเล และทำให้เกิดการสะสมเกลือในดิน

2.ดินเค็มบก พบบริเวณในแอ่งที่ลุ่มหรือตามเชิงเนิน ที่เป็นพื้นที่ต่อเนื่องระหว่างสภาพพื้นที่แบบลูกคลื่น โดยพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นที่บริเวณขอบเขตแอ่งโคราช หรือที่แอ่งสกลนคร และพบบ้างในภาคกลางแถบจังหวัดเพชรบุรี

ปัญหาของดินเค็ม

ปลูกพืชไม่ได้ผลหรือผลผลิตลดลงและมีคุณภาพต่ำ เนื่องจากมีปริมาณเกลือที่ละลายได้ในน้ำมากเกินไป จนเป็นอันตรายต่อพืช พืชเกิดอาการขาดน้ำ และได้รับพิษจากธาตุที่เป็นส่วนประกอบของเกลือที่ละลายออกมา

การปรับปรุงแก้ไข

1. การจัดการดินเค็มชายทะเล อาจทำได้ 2 ลักษณะใหญ่ คือ การจัดการให้เหมาะกับสภาพธรรมชาติที่มีอยู่ เช่น การปลูกป่าชายเลน การทำนาเกลือ หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการดัดแปลงสภาพธรรมชาติ เช่น การสร้างเขื่อนปิดกั้นน้ำทะเล เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่ปลูกถาวร และการยกเป็นร่องสวนเพื่อปลูกไม้ทนเค็ม เป็นต้น

2. การจัดการดินเค็มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยการใช้เทคโนโลยีพื้นบ้าน เช่น การใช้พืชทนเค็ม การไถกลบพืชปุ๋ยสด ปุ๋ยอินทรีย์ หรือใส่วัสดุปรับปรุงดิน เช่น แกลบ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน และความอุดมสมบูรณ์ของดิน หรือการปลูกข้าวโดยใช้ต้นกล้าที่อายุมากกว่าปกติ และปักดำด้วยจำนวนต้นมากกว่าปกติ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องระมัดระวังในการทำกิจกรรมบางอย่างที่ จะมีผลกระทบต่อการที่จะทำให้เกลือแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นได้ เช่น การทำเหมืองเกลือขนาดใหญ่ การตัดไม้ทำลายป่า หรือการสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ที่มีแหล่งสะสมเกลือ

4.ดินทรายจัด

ดินทรายจัด หมายถึง ดินที่มีเนื้อดินบนเป็นดินทราย หรือดินทรายปนร่วน มีอนุภาคขนาดทรายเป็นองค์ประกอบมากกว่าร้อยละ 85 มีความหนามากกว่า 50 เซนติเมตร

ดินมีการระบายน้ำดีจนถึงดีเกินไป ไม่อุ้มน้ำ ทำให้ดินเก็บน้ำไว้ไม่อยู่ และเกิดการกร่อนได้ง่าย มักเกิดจากวัตถุต้นกำเนิดดินที่เป็นตะกอนเนื้อหยาบ หรือตะกอนทรายชายฝั่งทะเล พบได้ทั้งในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่ดอน

ดินทรายในพื้นที่ดอน

พบตามบริเวณหาดทราย สันทรายชายทะเล หรือบริเวณพื้นที่ลาดถึงที่ลาดเชิงเขา เนื้อดินเป็นทรายตลอด มีการระบายน้ำดีมากจนถึงดีมากเกินไป ดินไม่อุ้มน้ำ และเกิดการชะล้างพังทะลายได้ง่ายเนื่องจากอนุภาคดินมีการเกาะตัวกันน้อยมาก ส่วนใหญ่ใช้ปลูกพืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง สับปะรด

ดินทรายในพื้นที่ลุ่ม

มักพบตามที่ลุ่มระหว่างสันหาด หรือเนินทรายชายฝั่งทะเล หรือบริเวณที่ราบที่อยู่ใกล้ภูเขาหินทราย ดินมีการระบายน้ำเลวหรือค่อนข้างเลว ทำให้ดินแฉะหรือมีน้ำขังเป็นระยะเวลาสั้นๆ ได้ หลังจากที่มีฝนตกหนัก บางแห่งใช้ทำนา บางแห่งใช้ปลูกพืชไร่ เช่น อ้อย และปอ บางแห่งเป็นทืทิ้งร้าง หรือเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติ

นอกจากนี้ในบางพื้นที่ บริเวณหาดทรายเก่า หรือบริเวณสันทรายชายทะเล โดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกและภาคใต้ อาจพบดินทรายที่มีชั้นดินดานอินทรีย์ ซึ่งเป็นดินทรายที่มีลักษณะเฉพาะตัวคือ ช่วงชั้นดินตอนบนจะเป็นทรายสีขาว แต่เมื่อขุดลึกลงมา จะพบชั้นทรายสีน้ำตาลปนแดงที่เกิดจากการจับตัวกัน ของสารประกอบพวกเหล็ก และอินทรียวัตถุอัดแน่นเป็นชั้นดานในตอนล่าง ซึ่งในช่วงฤดูแล้งชั้นดานในดินนี้ จะแห้งแข็งมากจนรากพืชไม่อาจชอนไชผ่านไปได้ ส่วนในฤดูฝนดินจะเปียกแฉะ ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ป่าเสม็ด ป่าชายหาด ป่าละเมาะ หรือบางแห่งใช้ปลูกมะพร้าว มะม่วงหิมพานต์

ปัญหาดินทราย

ดินระบายน้ำดีเกินไป อุ้มน้ำได้น้อย มีความสามารถในการจับหรือแลกเปลี่ยนประจุธาตุอาหารต่ำ ความอุดมสมบูรณ์ต่ำมาก มีธาตุอาหารน้อย เกิดการชะล้างพังทลายได้ง่าย

การปรับปรุงแก้ไข

ปรับปรุงบำรุงดินดินและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยการใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ เช่นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปลูกพชปุ๋ยสดแล้วไถกลบ เพื่อเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน และปริมาณธาตุอาหารให้เพียงพอแก่ความต้องการของพืช และควรจะต้องมีระบบการอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างเหมาะสม

5.ดินตื้น

ดินตี้น หมายถึง ดินที่มีชั้นลูกรัง ก้อนกรวด เศษหิน ปะปนอยู่ในเนื้อดิน หรือมีชั้นหินปูนมาร์ล หรือพบชั้นหินพื้น อยู่ตื้นกว่า 50 เซนติเมตรจากผิวดิน เนื้อดินจะมีปริมาณชิ้นส่วนหยาบ กรวด หรือลูกรังปนอยู่ มากกว่าร้อยละ 35 ทำให้มีปริมาตรของดินน้อย ดินจึงอุ้มน้ำได้น้อย มักขาดแคลนน้ำในฤดูฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดี และให้ผลผลิตต่ำ

แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ

1) ดินตื้นที่มีการระบายน้ำเลว พบในบริเวณที่ราบต่ำที่มีน้ำขังในช่วงฤดูฝน แสดงว่าดินมีการระบายน้ำค่อนข้างเลว ขุดลงไปจากผิวดินที่ระดับความลึก 25-50 เซนติเมตร มีกรวดหรือลูกรังปนอยู่ในเนื้อดินมากกว่า 35 เปอร์เซ็นโดยปริมาตร ถ้าขุดลึกลงมาถัดไปจะเป็นชั้นดินที่มีศิลาแลงอ่อนปนทับอยู่บนชั้นหินผุ

2) ดินตื้นปนลูกรังหรือกรวดที่มีการระบายน้ำดี พบตามพื้นที่ลอนลาดหรือเนินเขา ตั้งแต่บริเวณผิวดินลงไปมีลูกรังหรือหินกรวดมนปะปนอยู่ในดินมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร และดินประเภทนี้บางแห่งก็มีก้อนลูกรังหรือศิลาแดงโผล่กระจัดกระจายทั่วไปที่บริเวณผิวดิน

3) ดินตื้นปนหินมีการระบายน้ำดี พบตามพื้นที่ลอนลาดหรือบริเวณเนินภูเขา ดินประเภทนี้เมื่อขุดลงไปที่ความลึกประมาณ 30- 50 เซนติเมตร จะพบเศษหินแตกชิ้นน้อยใหญ่ปะปนอยู่ในเนื้อดินมากกว่า 35 เปอร์เซ็นโดยปริมาตร บางแห่งพบหินผุหรือหินแข็งปะปนอยู่กับเศษหิน บางแห่งมีก้อนหินและหินโผล่กระจัดกระจายทั่วไปตามหน้าดิน

4) ดินตื้นปนปูนมาร์ล พบตามพื้นที่ลาดถึงพื้นที่ลอนลาด หรือบริเวณที่ลาดเชิงเขา เมื่อขุดลงไปในระดับความลึกที่ 20-50 เซนติเมตร จะพบสารประกอบจำพวกแคลเซียมหรือแมกนิเซียมคาร์บอเนตปนอยู่ ทำให้ดินประเภทนี้จัดว่าเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง แต่มีข้อเสียคือมีปฏิกิริยาเป็นด่าง เป็นข้อจำกัดต่อพืชบางชนิดที่ไวต่อความเป็นด่าง เช่น สัปปะรด

การเกิดดินตี้น

เกิดมาจากวัตถุกำเนิดดิน เช่น หินดินดานเชิงเขา หรือเศษหินเชิงเขา ที่ส่วนใหญ่เป็นพวกหินตะกอนเนื้อหยาบ คือ หินทราย หินกรวดมน แตกกระจัดกระจายร่วงหล่นออกมาทับทมเกะกะอยู่บริเวณเชิงเขา หรือเป็นผลจากกระบวนการทางดินที่ทำให้เกิดการสะสมปูนมาร์ลหรือศิลาแลงในดิน

ปัญหาดินตี้น

ดินตื้นนั้นเป็นดินที่ไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกเพราะ มีปริมาณชิ้นส่วนหยาบปนอยู่ในดินมาก ทำให้มีเนื้อดินน้อย มีธาตุอาหารน้อย ไม่อุ้มน้ำ ชั้นล่างของดินชนิดนี้จะแน่นทึบรากพืชชอนไชไปได้ยาก พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างปกติ

การปรับปรุงแก้ไข

การจัดการดินในพื้นที่เหล่านี้จะต้องกระทำอย่างระมัดระวัง ควรเลือกทำการเกษตรในพื้นที่ที่มีหน้าดินหนามากกว่า 25 ซม. และไม่มีก้อนกรวดหรือลูกรังกระจัดกระจายอยู่ที่ผิวดินมาก ปรับปรุงดินด้วยการไถกลบพืชปุ๋ยสด ร่วมกับการปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตรา 2-3 ตัน/ไร่ หรือขุดหลุมปลูกไม้ผลขนาด 75x75x75 ซม. หรือถึงชั้นหินพื้น และปรับปรุงหลุมปลูกด้วยหน้าดิน ที่ไม่มีก้อนกรวดหรือลูกรังร่วมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ใช้ปุ๋ยเคมีตามชนิดพืชที่ปลูก ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์น้ำและผลิตภัณฑ์สารเร่ง พด.3 และพด.7 หรือพัฒนาเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์

ข้อมูลจาก http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3484
หนอนหัวดำ หนอนศัตรูมะพร้าว การป้องกันและกำจัด หนอนหัวดำ
หนอนหัวดำ หนอนศัตรูมะพร้าว การป้องกันและกำจัด หนอนหัวดำ
หนอนหัวดำ หนอนศัตรูมะพร้าว การป้องกันและกำจัด หนอนหัวดำ
จังหวัดนครปฐมจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องกันกำจัดหนอนหัวดำ ศัตรูมะพร้าว ซึ่งในขณะนี้กำลังระบาดในจังหวัดนครปฐมและอีกหลายจังหวัด ด้วยวิธีการผสมผสานแบบครอบคลุมพื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน

ที่บริเวณศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 8 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายอำเภอสามพราน เกษตรจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ เกษตรอำเภอ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประชาชน ร่วมกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ โครงการป้องกันและกำจัดหนอนหัวดำ ศัตรูมะพร้าว ซึ่งในขณะนี้กำลังระบาดในจังหวัดนครปฐมและอีกหลายจังหวัด สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรเป็นจำนวนมาก โดยนายบุญเลี้ยง ข่ายม่าน เกษตรจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จังหวัดนครปฐมมีพื้นที่ปลูกมะพร้าว จำนวน 7_112 ไร่ มีพื้นที่การระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว จำนวน 121.48 ไร่ ซึ่งศัตรูมะพร้าว โดยเฉพาะหนอนหัวดำ หากไม่ป้องกันและกำจัดที่ดี จะทำให้ผลผลิตมะพร้าวลดลง และรายได้ของเกษตรกรก็ลดลงตามไปด้วย

สำหรับการจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและกำจัดหนอนหัวดำในครั้งนี้ เป็นการกำจัดด้วยวิธีผสมผสานแบบครอบคลุมพื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืนจากทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และท้องถิ่น เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสาน บูรณาการร่วมกับงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี และการบริการเกษตร เพื่อเริ่มต้นฤดูการผลิตใหม่ ปี 2560 เพื่อถ่ายทอดความรู้ และให้บริการแก่เกษตรกรในชุมชนให้ได้รับความรู้ เข้าถึงปัจจัยการผลิต ลดความเสี่ยงในการบริหารจัดการ และให้เกิดความเข้มแข็ง โดยมีการจัดสถานีการเรียนรู้ให้แก่เกษตรกร ได้แก่ การจัดการวัสดุจากมะพร้าวเพื่อการปรับปรุงบำรุงดิน การจัดการหนอนหัวดำโดยชีววิธี การกำจัดหนอนหัวดำโดยใช้สารเคมีและการให้ความรู้ด้านกฎหมาย การผลิตและใช้แตนเบียนบราคอนในการควบคุมหนอนหัวดำมะพร้าว โดยศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน นอกจากนี้ ผู้ว่าราชารจังหวัดนครปฐม ได้มอบแตนเบียนบราคอนให้แก่ตัวแทนเกษตรกรทั้ง 7 อำเภอ และร่วมปล่อยแตนเบียนบราคอนบริเวณแปลงเรียนรู้การควบคุมศัตรูพืช ซึ่งเป็นการกำจัดโดยวิธีทางธรรมชาติ โดยแตนเบียนบราคอน จะไปทำลายหนอนหัวดำ และวางไข่ฝังในตัวหนอนหัวดำ และเกิดใหม่เพื่อไปทำลายหนอนหัวดำต่อไป โดยไม่ทำลายพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกรแต่อย่างใด

อ้าอิง http://www.farmkaset..link..

ไอกี้-บีที คือ สารชีิวนทรีย์ สำหรับป้องกัน และกำจัดหนอนทุกชนิด ปลอดภัย ผลิตจาก เชื้อ BT เป็นแบคทีเรียแกรมบวก ที่ออกฤทธิ์ ทำลาย ตะกูลหนอนทั้งหมด และเป็นอันตรายต่อตระกูลหนอนเท่านั้น ปลอดภัยต่อคน และสัตว์เลี้ยง
 5 ประโยชน์ของกัญชา ที่น่าสนใจ
5 ประโยชน์ของกัญชา ที่น่าสนใจ
กัญชา ชื่อพืชคุ้นหูที่ถูกระบุในฐานะยาเสพติดมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อไม่นานมานี้กัญชาก็ได้ถูกยอมรับอนุญาตให้สามารถนำมาใช้เพื่อการรักษา และเพื่อความผ่อนคลายได้โดยยังอยู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมายเพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และไม่ก่อให้เกิดภาวะที่ประชาชนจะเสพติดจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย และจิตใจได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ทยอยออกสินค้าใหม่ออกมาเพื่อเอาใจ สายเขียว ให้ได้เปิดประสบการณ์พืชทางเลือกใหม่กันมากขึ้น เลยขอรวบรวมประโยชน์ของกัญชา ว่าสรรพคุณกัญชานั้นจะมีอะไรที่น่าสนใจ และมีผลิตภัณฑ์อะไรในท้องตลาดที่เอาสรรพคุณของกัญชามาใช้ประโยชน์กันบ้าง

1.สรรพคุณกัญชา : ช่วยให้ผ่อนคลาย ประโยชน์ของกัญชาที่มีฤทธิ์ช่วยให้ผ่อนคลาย
เรามักจะเคยได้ยินกันว่าคนที่เสพกัญชาเข้าไปมักจะหัวเราะ อารมณ์ดี ร่าเริงผิดปกติ เพราะที่จริงแล้วในกัญชามีสาร Tetrahydrocannabinol เป็นสารที่ออกฤทธิ์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้น อีกทั้งสารดังกล่าวยังมีฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและนานขึ้นด้วย จึงทำให้ประโยชน์ของกัญชาสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้นั่นเอง

2.สรรพคุณของกัญชา : ช่วยให้เจริญอาหาร ประโยชน์ของกัญชาที่มีฤทธิ์ช่วยให้เจริญอาหาร
นอกจากสารข้างต้นจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว สารดังกล่าวยังทำให้กัญชามีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหารได้อีกด้วย โดยการใช้สารชนิดนี้จะถูกนำไปผสมกับสาร Dronabinol เพื่อใช้กระตุ้นให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาโดยใช้วิธีเคมีบำบัด และผู้ป่วยโรคเอดส์ พบว่าการใช้สรรพคุณกัญชาที่ได้นี้ช่วยให้กระตุ้นการอยากอาหารได้มากขึ้น

3.สรรพคุณของกัญชา : ต้านอาการซึมเศร้า ประโยชน์ของกัญชาที่มีฤทธิ์ช่วยต้านอาการซึมเศร้า
ในกัญชาจะมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Cannabinoids ที่ออกฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลร่างกาย ทำให้กัญชามีสรรพคุณช่วยต้านอาการซึมเศร้าได้โดยเฉพาะอาการซึมเศร้าในผู้สูงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับฮอร์โมน นอกจากนี้สรรพคุณของกัญชายังช่วยปรับความกระวนกระวายใจให้น้อยลง ปรับให้จิตใจสงบนิ่งได้มากขึ้น ช่วยให้ลดการแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวทางอารมณ์ได้มากขึ้นถ้าหากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น

4.สรรพคุณของกัญชา : ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ประโยชน์ของกัญชาที่มีฤทธิ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อ
ประโยชน์ของกัญชานอกจากช่วยเจริญอาหาร ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และต้านอาการซึมเศร้าและ สรรพคุณของกัญชายังสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการปวดได้อีกด้วย สารในกัญชาทั้ง Tetrahydrocannabinol และ Cannabinoids นั้นมีส่วนช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการบาดเจ็บกล้ามเนื้อทั้งการผ่อนคลายเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเฉียบพลันในกล้ามเนื้อ และการลดอาการอักเสบถือเป็นประโยชน์ของกัญชาที่ยอดเยี่ยมมากที่เดียว

5.สรรพคุณของกัญชา : ยับยั้งเซลล์มะเร็ง ประโยชน์ของกัญชาที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง
แม้จะมีข่าวออกมาพักใหญ่เกี่ยวกับประโยชน์ของกัญชาในการช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง และอาจจะมีผลช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ เพราะในกัญชาจะมีสาร Tetrahydrocannabinol ที่เชื่อว่าสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งปอดชนิด adenocarcinoma ได้ แต่สรรพคุณของกัญชาในข้อนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยเพื่อให้ทราบผลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดว่าประโยชน์ของกัญชาสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หรือไม่

ประโยชน์ของกัญชาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์กัญชาสรรพคุณดีที่น่าสนใจ
ทั้งนี้แม้ว่าประโยชน์ของกัญชาจะมีอยู่มาก แต่กฎหมายของไทยยังจำกัดการครอบครอง สายพันธุ์ที่อนุญาตใช้ทั้งในการรักษา และเชิงพาณิชย์ อีกทั้งผลิตภัณฑ์ ร้านค้า คาเฟ่ที่จะมีผลิตภัณฑ์กัญชาวางจำหน่ายจะต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง และต้องขายกัญชาในความเข้มข้นที่กฎหมายกำหนด โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชายา (ไม่นับรวมการขายในร้านอาหาร และคาเฟ่) ที่อนุญาตให้จำหน่ายตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขมี 4 ประเภท ได้แก่

1. ยาน้ำมันกัญชาที่เป็นยาปัจจุบันที่มีประโยชน์จากกัญชามีทั้งหมด 3 สูตรได้แก่ น้ำมันสกัดที่มีสาร Tetrahydrocannabinol และ Cannabinoids ในอัตรา 1:1_ น้ำมันสกัดที่มีสาร Tetrahydrocannabinol สูง และน้ำมันสกัดที่มีสาร Cannabinoids สูง

2. ตำรับยากัญชาแผนไทยที่ใช้ประโยชน์ของกัญชาไปรวมกับสมุนไพรอื่นเพื่อรักษา และบรรเทาอาการโรคต่าง ๆ โดยสูตรยาเหล่านี้จะอยู่ในตำรายาแผนไทยตามที่ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เช่น ยาศุขไสยาสน์ ยาแก้ลมแก้เส้น ยาทำลายพระสุเมรุ เป็นต้น

3. น้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา ที่มีสรรพคุณของกัญชาตามคำสั่งของแพทย์แผนไทยที่ผลิตโดยกองพัฒนาแผนยาไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทย และแผนทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข

4. ยาตำรับที่ปรุงขึ้นโทยแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่สามารถดึงเอาประโยชน์ของกัญชามาใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยแพทย์ที่ปรุงยาจะต้องได้รับการรับรองจาก กรมการแพทย์แผนไทย และแผนทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข

แม้ประโยชน์ของกัญชาจะสามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้มาก แต่สมุนไพรทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียถ้าหากได้รับมากจนเกินไป ดังนั้นก่อนจะพิจารณาการใช้ประโยชน์จากกัญชาก็อยากจะขอให้ลองศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาที่เหมาะสมก็จะเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพได้มากที่สุด

ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..

สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชา-กัญชง ที่สนใจตรวจสารสำคัญ ของกัญชา-กัญชง สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..
เพลี้ยเมล่อน แคนตาลูป เพลี้ยไฟแคนตาลูป เพลี้ยต่างๆ ฉีดพ่น มาคา
เพลี้ยเมล่อน แคนตาลูป เพลี้ยไฟแคนตาลูป เพลี้ยต่างๆ ฉีดพ่น มาคา
ป้องกัน กำจัด เพลี้ย แมลงจำพวกปากดู ศัตรูพืช เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว ฉีดพ่น มาคา

อัตราส่วนการใช้ 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทั่วบริเวณที่มีการระบาด

คุณสมบัติของมาคา

หลักการทำงานและวิธีการออกฤทธิ์
วิธีการออกฤทธิ์ในการ ฆ่าและกำจัด โดยสารสกัดที่อยู่ในรูปของ อัลคาลอยด์ จะมีผลโดยเป็นพิษต่อระบบประสาทของแมลง และยับยั้งกระบวนการหายใจโดยจะไปมีผลในระบบของการสร้างพลังงานภายในเซลล์ร่างกายทำให้ร่างกายของแมลงขาดพลังงานทำงานช้าลงและตายในที่สุด จึงมีผลทำให้แมลงตายในที่สุด

วิธีการออกฤทธิ์ในการ ไล่ สารสกัดที่ได้ใช้ทั้งกลิ่นและการสร้างความเจ็บปวด ทรมานและเกิดอาการแสบ ร้อน ให้กับแมลงที่สัมผัสหรือได้รับสารนี้เข้าไป โดยกลิ่นที่ฉุนจะทำให้เกิดความไม่คุ้นเคยสร้างความสับสนให้กับแมลงและสารนี้ยังไปกระตุ้นระบบประสาทรับความรู้สึกในส่วนของความเจ็บปวด ความแสบ ร้อน ของแมลงให้เกิดมากขึ้นจนเกินกว่าที่ร่างกายของแมลงจะทนรับได้ จึงมีผลทำให้แมลงมีสภาวะที่ผิดปกติ ต้องบินหนีไป

สารในรูปของน้ำมัน ( oil ) ทำหน้าที่อุดรูหายใจของแมลง ( Spiracles block ) ทำให้แมลงไม่สามารถรับอากาศภายนอกได้ ดังนั้นกระบวนการใช้ออกซิเจนหรือกระบวนการสร้างพลังงาน ( ATP ) เพื่อใช้ในร่างกายจึงถูกรบกวนมีผลทำให้ metabolism ภายในร่างกายของแมลงถูกยับยั้ง แมลงหมดแรง เฉื่อยชา และตายในที่สุด

การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
ปุ๋ยสำหรับทับทิม ปุ๋ยน้ำทับทิม ปุ๋ยทับทิม ปุ๋ยฉีดพ่นทับทิม ปลูกเยอะใช้ FK-1 ปลูกน้อยใช้ FKธรรมชาตินิยม
ปุ๋ยสำหรับทับทิม ปุ๋ยน้ำทับทิม ปุ๋ยทับทิม ปุ๋ยฉีดพ่นทับทิม ปลูกเยอะใช้ FK-1 ปลูกน้อยใช้ FKธรรมชาตินิยม
ส่งเสริมการเจริญเติบโต บำรุงทับทิม แก้ปัญหาต้นแคระ โตช้า ใบเหลือง ขาดธาตุ ฉีดพ่น ปุ๋ย FK เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มความสมบูรณ์ สังเคราะห์แสงได้ดี แตกยอดใบ ติดดอก ออกผล

ปลูกน้อย ใช้ FKธรรมชาตินิยม ปลูกเยอะ ใช้ FK-1

FKธรรมชาตินิยม และ FK-1 เป็นอาหารพืชทางใบ สำหรับเลี้ยง ดูแล พืชพันธุ์นานาชนิด ส่งเสริมการเจริญเติบโต เสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรง ด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่ประกอบอยู่ในผลิตภัณฑ์

อัตราส่วนการใช้

FKธรรมชาตินิยม ผสม 1 ฝา ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

FK-1 แกะกล่องออกมา มีสองถุง ต้องใช้พร้อมกัน ถุงแรก 50กรัม ถุงที่สอง 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร คนให้แตกตัวละลายเข้ากับน้ำ ฉีดพ่นทางใบ (ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สอง เป็นธาตุเสริม และสารจับใบ)

เคมีธาตุอาการพืช เป็น อาหารพืชโดยตรง ไม่ได้อันตรายเหมือน ยาเคมี ที่เป็นสารเคมีอันตราย ซึ่งหลายครั้งถูกเข้าใจผิดไปอย่างมาก เนื่องจาก เคมีธาตุอาหารพืชนั้น เป็นธาตุอาหารโดยตรง ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตพืชได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูง

ยกตัวอย่างเคมีธาตุอาหารพืช ที่จำเป็นอย่างมาก ต่อการเจริญเติบโตของพืช
ธาตุ N หรือ ไนโตรเจน
ธาตุ P หรือ ฟอสฟอรัส
ธาตุ K หรือ โพแตสเซียม
ธาตุ Mg หรือ แมกนีเซียม
ธาตุ Zn หรือ ซิงค์ หรือ สังกะสี
และยังมีอีกหลายธาตุ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช

อาหารเสริมเพืชทางใบ ซึ่งประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง และธาตุเสริม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบการปลูกพืช หากไม่เคยเติมธาตุเหล่านี้ ซึ่งธาตุรองธาตุเสริมที่ขาด จะกลายเป็นข้อจำกัดการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจาก "พืชจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด" ตามกฎ Liebig s law of the minimum_ FKธรรมชาตินิยม ประกอบด้วย ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เกิดอาการขาดธาตุ ซึ่งบางอย่าง เป็นธาตุที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถให้ได้

เมื่อพืช ได้รับธาตุอาหารที่ขาดไป ธาตุอาหารพืชต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในดิน ที่พืชไม่เคยดูดกินไปใช้ประโยชน์ได้ ก็สามารถนำไปใช้ได้ เนื่องจาก ธาตุบางตัว เป็นตัวนำพาธาตุอื่นๆ จึงทำให้พืช ใช้ประโยชน์ จากการปลดปล่อยธาตุอาหารเดิมที่มีอยู่ รวมกับธาตุอาหารที่ได้รับเข้าไปใหม่ ได้อย่างเต็มที่


การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
กำจัดหนอนเจาะผล ศัตรูพืชในต้นทุเรียน AiKi-BT ฟื้อนฟูจากการเข้าทำลายของหนอน FK-T อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ โดย FK
กำจัดหนอนเจาะผล ศัตรูพืชในต้นทุเรียน AiKi-BT ฟื้อนฟูจากการเข้าทำลายของหนอน FK-T อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ โดย FK
แมลงศัตรูพืชเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพืชผลทางการเกษตร ซึ่งมักสร้างความเสียหายและความสูญเสียให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก มีการใช้สารเคมีกำจัดแมลงแบบดั้งเดิมอย่างแพร่หลายเพื่อต่อสู้กับแมลงศัตรูพืชเหล่านี้ แต่ก็มีข้อเสียในตัวเอง รวมถึงผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม วิธีแก้ปัญหาที่ก้าวหน้าที่เรียกว่า Aiki-BT (Biological Toxin) กำลังปฏิวัติการควบคุมศัตรูพืชในการปลูกทุเรียน ด้วยการใช้พลังของสารชีวภาพที่มีประสิทธิภาพสูง Aiki-BT สามารถกำจัดหนอนเจาะผลในทุเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้ด้วย

พลังของ Aiki-BT:
Aiki-BT ใช้ประสิทธิภาพการฆ่าแมลงของแบคทีเรียเพื่อต่อสู้กับแมลงศัตรูพืช เมื่อสัมผัสกับสารพิษนี้ ศัตรูพืชจะมีอาการทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การตายภายใน 24-48 ชั่วโมง Aiki-BT ไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายในสิ่งแวดล้อม ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดแมลงทั่วไป ทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเกษตรกร นอกจากนี้ ลักษณะที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของผู้ที่จัดการผลิตภัณฑ์

เสริมสุขภาพพืชผลด้วยอาหารเสริมพืช FKT:
นอกเหนือจากคุณสมบัติในการฆ่าแมลงแล้ว Aiki-BT ยังได้รับการเสริมด้วยธาตุอาหารพืช FKT เพื่อฟื้นฟูพืชผลที่ได้รับผลกระทบจากการรบกวนของหนอน เมื่อพืชประสบปัญหาดังกล่าว มักจะแสดงอาการต่างๆ เช่น การเจริญเติบโตช้า แตกกอ เหี่ยว ใบเหลือง และขาดดอกหรือผล อย่างไรก็ตาม การผสมผสานอาหารเสริมพืชของ FKT เข้ากับระบบการควบคุมศัตรูพืช เกษตรกรสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาหารเสริมพืช FKT ให้สารอาหารสำคัญที่ช่วยในการฟื้นตัวและการเจริญเติบโตของพืช พวกมันช่วยบำรุงพืชที่ได้รับผลกระทบโดยให้องค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟู ด้วยการเติมสารอาหารที่หมดไปซึ่งเกิดจากการเข้าทำลาย อาหารเสริม FKT ช่วยให้การเจริญเติบโตแข็งแรงส่งผลให้ต้นทุเรียนแข็งแรงและให้ผลผลิตมากขึ้น

ข้อดีสำหรับเกษตรกร:
การใช้ Aiki-BT ในการปลูกทุเรียนมีข้อดีหลายประการสำหรับเกษตรกร ประการแรก ประสิทธิภาพสูงในการกำจัดหนอนเจาะผล ช่วยลดการสูญเสียพืชผล ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากขึ้น การกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้ทำให้เกษตรกรสามารถปกป้องต้นทุเรียนของตนจากความเสียหายที่รุนแรงและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตโดยรวม

ยิ่งไปกว่านั้น ธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ Aiki-BT ยังมีส่วนช่วยในการทำฟาร์มอย่างยั่งยืน ด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย เกษตรกรลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมระบบนิเวศที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้ช่วยขจัดความกังวลเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีการควบคุมศัตรูพืชที่เชื่อถือได้และปลอดภัย

บทสรุป:
ด้วยการเปิดตัว Aiki-BT และการผสมผสานอันทรงพลังของสารชีวภาพที่มีประสิทธิภาพสูงและอาหารเสริมพืช FKT ชาวสวนทุเรียนสามารถต่อสู้กับหนอนเจาะผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมใหม่นี้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทนการใช้สารเคมีกำจัดแมลงทั่วไป เมื่อใช้ Aiki-BT เกษตรกรสามารถปกป้องต้นทุเรียนของพวกเขาจากแมลงศัตรูพืช ฟื้นฟูสุขภาพของพืช และรับประกันการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งหมดนี้ในขณะที่ส่งเสริมการทำฟาร์มอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
อินทผาลัม โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
อินทผาลัม โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
อินทผาลัม โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
การเพิ่มผลผลิตสูงสุด: เคล็ดลับสำหรับการเพาะปลูกอินทผลัมโดยใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

อินทผลัมเป็นหนึ่งในผลไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และการเพาะปลูกเป็นแหล่งอาหารและรายได้ที่จำเป็นสำหรับสังคมจำนวนมากมาหลายศตวรรษ อินทผลัมเติบโตในพื้นที่แห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีฝนตกน้อยและอุณหภูมิสูง อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลผลิตและคุณภาพสูงสุด เกษตรกรผู้ปลูกอินทผลัมจำเป็นต้องใช้วิธีการเพาะปลูกและปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพ เช่น FK-1 ฉีดพ่นทางใบ

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของอินทผาลัม ประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นอย่างสมดุล เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาที่เหมาะสมของอินทผาลัม นอกจากนี้ สเปรย์ทางใบยังมีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมและประสิทธิภาพของปุ๋ย

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการสำหรับการใช้ FK-1 ฉีดพ่นทางใบเพื่อปลูกอินทผลัมและให้ได้ผลผลิตสูงสุด:

เวลาเป็นสิ่งสำคัญ
อินทผลัมมีระยะการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน และระยะเวลาในการฉีดพ่นทางใบเป็นสิ่งสำคัญ เวลาที่ดีที่สุดในการใส่ปุ๋ยคือช่วงการเจริญเติบโตของพืชซึ่งเกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูปลูก ระยะนี้มีลักษณะเฉพาะของการพัฒนาของใบ ยอด และรากใหม่ การใส่ปุ๋ยในระยะนี้ ธาตุอาหารจะถูกดูดซึมและนำไปใช้โดยพืช ส่งผลให้การเจริญเติบโตและการพัฒนาเป็นไปอย่างสมบูรณ์

ใช้ปริมาณที่ถูกต้อง
เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด จำเป็นต้องใช้ FK-1 ฉีดพ่นทางใบในปริมาณที่ถูกต้อง ปริมาณที่แนะนำคือปุ๋ย FK-1 เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบสองถุง บรรจุถุงละ 1 กก. ต้องผสมใช้พร้อมกัน ให้ผสมถุงแรก 50 กรัมกับถุงที่สอง 50 กรัมในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่น

ตรวจสอบการใช้งานที่สม่ำเสมอ
เพื่อให้แน่ใจว่าฉีดพ่นทางใบอย่างสม่ำเสมอ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เครื่องพ่นที่ให้ละอองละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าปุ๋ยจะกระจายทั่วใบ ส่งผลให้มีการดูดซึมและการใช้สารอาหารอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าสเปรย์ครอบคลุมพื้นผิวใบทั้งหมด รวมถึงด้านล่างของใบซึ่งเป็นที่ตั้งของปากใบ

ติดตามความคืบหน้า
หลังจากใช้งานแล้ว การติดตามความคืบหน้าของอินทผาลัมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการฉีดพ่นทางใบ สัญญาณของการเติบโตและผลผลิตที่ดีขึ้น ได้แก่ ขนาดใบที่เพิ่มขึ้น สีที่ดีขึ้น และชุดผลไม้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเฝ้าติดตามพืชว่ามีสัญญาณของความเครียดหรือการขาดสารอาหาร ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการใส่ปุ๋ยเพิ่มเติม

สรุปได้ว่า FK-1 ฉีดพ่นทางใบเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตของอินทผลัม เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น ชาวสวนอินทผลัมจะได้ผลผลิตและคุณภาพสูงสุด ส่งผลให้รายได้และความมั่นคงทางอาหารดีขึ้น

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และ ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคแอนแทรคโนส ในองุ่น ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคแอนแทรคโนส ในองุ่น ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคแอนแทรคโนส ในองุ่น ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
เชื้อราไตรโคเดอร์มา (Trichoderma) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในการเกษตรเพื่อป้องกันและควบคุมโรคพืช หนึ่งในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคือ Trichorex ซึ่งเป็นแบรนด์ของเชื้อราไตรโคเดอร์มาสูตรเฉพาะสำหรับการป้องกันและกำจัดโรคแอนแทรกโนสในองุ่น

โรคแอนแทรคโนสเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราที่ส่งผลกระทบต่อพืชหลากหลายชนิด รวมทั้งองุ่นด้วย ลักษณะเด่นคือการพัฒนาของรอยโรคสีคล้ำบนผลไม้ ลำต้น และใบของพืช หากปล่อยทิ้งไว้ โรคนี้อาจนำไปสู่การสูญเสียผลผลิตอย่างมากและอาจทำให้พืชตายได้

Trichorex เป็นวิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติและมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคแอนแทรกโนสในองุ่น มีเชื้อราไตรโคเดอร์มาสายพันธุ์ที่คัดเลือกมาโดยเฉพาะสำหรับความสามารถในการยับยั้งการเจริญและการพัฒนาของเชื้อราแอนแทรคโนส เมื่อนำไปใช้กับพืช Trichorex จะไปตั้งรกรากที่รากและเนื้อเยื่อพืชอื่นๆ สร้างเกราะป้องกันจากเชื้อราที่บุกรุกเข้ามา

นอกจากคุณสมบัติในการป้องกันโรคแล้ว Trichorex ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายในองุ่น สามารถปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและความแข็งแรงของพืช เพิ่มความต้านทานต่อความเครียด และเพิ่มความสามารถในการดูดซับสารอาหาร ประโยชน์เหล่านี้สามารถนำไปสู่ผลผลิตที่สูงขึ้นและองุ่นที่มีคุณภาพดีขึ้น

Trichorex ใช้งานง่ายและสามารถใช้ได้หลายวิธี รวมทั้งการรดทางดิน การฉีดพ่นทางใบ หรือการบำรุงเมล็ด นอกจากนี้ยังเข้ากันได้กับปัจจัยการผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ทำให้เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์และสะดวกสำหรับผู้ปลูกองุ่น

สรุปได้ว่า Trichorex เป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมโรคแอนแทรคโนสในองุ่น โหมดการทำงานตามธรรมชาติ รวมกับความสามารถในการปรับปรุงสุขภาพของพืชและเพิ่มผลผลิต ทำให้เป็นเครื่องมือที่ทรงคุณค่าสำหรับผู้ปลูกองุ่นที่ต้องการปกป้องพืชผลของตนจากโรคร้ายนี้

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่า

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ป้องกันกำจัด โรคใบไหม้ของมะม่วง ด้วยสารอินทรีย์
ป้องกันกำจัด โรคใบไหม้ของมะม่วง ด้วยสารอินทรีย์
ต้นมะม่วงเป็นพืชที่มีคุณค่าสำหรับเกษตรกรจำนวนมากทั่วโลก แต่ก็อ่อนแอต่อโรคต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อราเช่นกัน หนึ่งในโรคทำลายล้างที่พบได้บ่อยที่สุดคือ โรคใบไหม้ ซึ่งอาจทำให้ใบและผลของต้นไม้เสียหายอย่างรุนแรงได้ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ผลผลิตที่ลดลงและแม้กระทั่งการสูญเสียพืชผลทั้งหมดหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแล

เพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ เกษตรกรมักพึ่งพาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและยาฆ่าเชื้อรา อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและอาจไม่ได้ผลในระยะยาว ทางเลือกอื่นคือการใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส และ FK-1 ซึ่งสามารถป้องกันและกำจัดโรคใบไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช

สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ทำงานโดยสร้างสภาพแวดล้อมบนใบพืชที่ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อรา โดยใช้เทคนิคการควบคุมไอออน ซึ่งจะเปลี่ยนระดับ pH และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการอยู่รอดของเชื้อรา เมื่อผสมกับ FK-1 และฉีดพ่นบนต้นไม้ สารประกอบ ไอเอส จะกำจัดโรค ในขณะที่ FK-1 เร่งการงอกใหม่ การดูแล และส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตที่ดีขึ้น

FK-1 เป็นส่วนผสมของสารอาหารหลายชนิด ได้แก่ แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และสารลดแรงตึงผิว ส่วนผสมเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับต้นไม้และส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดี ซึ่งจะช่วยป้องกันการระบาดของโรคใบไหม้ในอนาคต

โดยรวมแล้ว การใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส และ FK-1 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนในการต่อสู้กับโรคใบไหม้ของมะม่วงและส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ดีของต้นไม้ วิธีการนี้สามารถช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงคุณภาพของพืชผล และปกป้องสิ่งแวดล้อม

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงล่างอีกนิดนะคะ
3569 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 356 หน้า, หน้าที่ 357 มี 9 รายการ
|-Page 119 of 357-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
วิธีปลูกทุเรียนอย่างละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว
Update: 2564/05/31 08:12:06 - Views: 5134
การทำไร่อ้อย ใน 4 ขั้นตอนหลักๆ
Update: 2563/09/27 20:19:32 - Views: 4001
อินทผาลัม อินทผลัม ใบเหลือง ใบจุด ใบไหม้ โรคราเขม่า เชื้อราเขม่าผง รากเน่า โรคราสนิม ใบแห้ง ใช้ ไอเอส
Update: 2564/09/07 01:23:21 - Views: 3584
ดอกดาวเรือง ดอกเน่า รากเน่า ใบไหม้ ใบจุด โรคราต่างๆ กำจัดด้วย ไอเอส และเร่งฟื้นฟูด้วย ปุ๋ย FK-T
Update: 2567/03/30 11:48:28 - Views: 3501
แก้ทุเรียนเล็กใบไหม้ ใบแห้ง ยอดไหม้ ใบเหลือง เพราะโรคจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส
Update: 2564/05/07 12:21:17 - Views: 4952
คู่มือเบื้องต้นสำหรับการ ป้องกันและกำจัดโรคในสวนยางพารา ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ
Update: 2566/04/29 14:56:01 - Views: 8446
โรคราน้ำค้างในคะน้า: วิธีป้องกันและกำจัดโรคพืชจากเชื้อรา
Update: 2566/05/15 11:15:11 - Views: 3490
โรคองุ่นเน่าดำ (Black rot) โรคองุ่น
Update: 2564/05/01 12:50:15 - Views: 3472
แก้โรคใบไหม้ รักษาโรคใบไหม้ด้วยยาอินทรีย์ และปุ๋ยเคมีทางใบ (ปุ๋ยเคมี ไม่ได้อันตรายเหมือนยาเคมี)
Update: 2563/09/11 07:33:59 - Views: 3591
เงาะ ผลใหญ่ ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ 0-0-60 โพแทสเซี่ยม สูตรเร่งผล เพิ่มผลผลิต ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก และคุณภาพ
Update: 2567/04/24 15:53:00 - Views: 3494
ชวนชมใบไหม้ โรคราน้ำค้างชวนชม ยารักษาโรคชวนชม โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/26 01:57:45 - Views: 3567
โรคใบด่างมันสำปะหลัง
Update: 2564/08/09 10:19:41 - Views: 3701
คู่มือการป้องกันกำจัดโรคทุเรียนจากเชื้อราต่างๆ
Update: 2566/04/29 14:37:12 - Views: 3617
ไบโอเทคพัฒนาวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ อินทผลัม
Update: 2564/11/18 18:01:59 - Views: 3421
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค - เคล็ดลับการปลดปล่อยธาตุอาหารให้กับพืชแอ๊ปเปิ้ล
Update: 2567/02/13 09:25:43 - Views: 3490
การปลูกลองกอง และการดูแลรักษา
Update: 2564/09/04 21:50:16 - Views: 3525
การป้องกันและกำจัดโรคพืชจากเชื้อราในข้าวโพด
Update: 2566/05/17 09:54:42 - Views: 3523
โรคมะม่วงใบจุด สแคบ แอนแทรคโนสมะม่วง โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส1 หยุดโรค + FK-1 ฟื้นฟู บำรุง สร้างภูมิคุ้มกันโรค 1ชุด ใช้ได้ 5ไร่
Update: 2564/08/16 07:41:53 - Views: 3421
ป้องกันกำจัดโรคส้มโอ ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา เช่น ใบไหม้ กิ่งแห้ง ยอดไหม้ ผลเน่า ราสนิม
Update: 2566/01/23 11:49:02 - Views: 3515
ทุเรียนใบไหม้ ใบจุด แอนแทรคโนส โคนเน่า ราแป้ง ราสีชมพู โรคต่างๆจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส
Update: 2562/08/18 15:11:54 - Views: 4744
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022