หน่อไม้ฝรั่งเป็นผักยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับพืชผลอื่นๆ มันมีความเสี่ยงต่อศัตรูพืชและโรคที่สามารถลดผลผลิตและคุณภาพได้อย่างมาก ศัตรูพืชที่มีชื่อเสียงที่สุดชนิดหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อหน่อไม้ฝรั่งคือหนอนเจาะสมอฝ้าย ซึ่งเป็นศัตรูพืชทำลายล้างที่กัดกินหน่อไม้ฝรั่งที่กำลังพัฒนา ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อพืชผล

โชคดีที่มีวิธีแก้ปัญหานี้และมาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์แบคทีเรียที่เรียกว่า Bacillus ยี่ห้อ Basilisk ผลิตภัณฑ์นี้เป็นสายพันธุ์บาซิลลัสที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและกำจัดหนอนเจาะสมอฝ้ายในหน่อไม้ฝรั่ง

Bacillus ยี่ห้อ Basilisk เป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยสำหรับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์นี้ทำงานโดยการผลิตคริสตัลโปรตีนที่เป็นพิษต่อตัวอ่อนของหนอนเจาะสมอฝ้าย โปรตีนเหล่านี้พุ่งเป้าไปที่ลำไส้ของตัวอ่อน ทำให้พวกมันหยุดกินอาหารและตายในที่สุด

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้บาซิลลัสยี่ห้อ Basilisk คือมีผลกระทบต่ำมากต่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เป้าหมาย เช่น แมลงที่มีประโยชน์ นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทั้งนี้เนื่องจากเชื้อบาซิลลัสมีความจำเพาะสูงต่อตัวอ่อนของหนอนเจาะสมอฝ้าย และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากศัตรูพืชชนิดนี้

ข้อดีอีกอย่างของการใช้บาซิลลัสยี่ห้อ Basilisk คือทาง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆ ผลิตภัณฑ์นี้มาในรูปแบบของเหลวซึ่งสามารถผสมกับน้ำได้ง่ายและฉีดพ่นลงบนหน่อไม้ฝรั่ง ปริมาณที่แนะนำและความถี่ในการใช้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเข้าทำลายและระยะของการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง

การใช้ Bacillus ยี่ห้อ Basilisk สามารถปรับปรุงผลผลิตและคุณภาพของหน่อไม้ฝรั่งได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการควบคุมแมลงศัตรูพืช การใช้วิธีแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพนี้ เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของพวกเขาจากหนอนเจาะสมอฝ้ายและรับประกันการเก็บเกี่ยวที่สมบูรณ์

สรุปได้ว่า Bacillus ยี่ห้อ Basilisk เป็นสารละลายที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับการป้องกันและกำจัดหนอนเจาะสมอฝ้ายในหน่อไม้ฝรั่ง โหมดการดำเนินการที่ไม่เหมือนใคร ความเฉพาะเจาะจง และการใช้งานที่ง่ายทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนในการควบคุมศัตรูพืช การใช้บาซิลลัสยี่ห้อ Basilisk เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลหน่อไม้ฝรั่งของพวกเขาและรับประกันการเก็บเกี่ยวที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืน

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

โรคเหี่ยว Fusarium เป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อต้นมะม่วง ทำให้ต้นเหี่ยวเฉาและตายได้ โรคนี้เกิดจากเชื้อราที่เรียกว่า Fusarium oxysporum ซึ่งบุกรุกระบบหลอดเลือดของพืชและปิดกั้นการไหลของน้ำและสารอาหาร ส่งผลให้พืชเหี่ยวเฉา ใบเหลือง และตายในที่สุด

เพื่อป้องกันและกำจัดเชื้อรา Fusarium ในมะม่วง หนึ่งในวิธีที่ได้ผลคือการใช้สารอินทรีย์ ไอเอส ซึ่งเป็นเทคนิคการควบคุมไอออนที่ทำให้สภาพแวดล้อมบนใบพืชไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อรา เมื่อใช้ ไอเอส กับใบพืช มันจะสร้างเกราะป้องกันไอออนที่ป้องกันไม่ให้เชื้อราเจาะเข้าไปในเนื้อเยื่อของพืช ทำให้เชื้อราไม่สามารถสร้างตัวเองและทำให้เกิดโรคได้

นอกจาก ไอเอส แล้ว อีกวิธีที่ได้ผลในการป้องกันและกำจัด Fusarium wilt คือการใช้ FK-1 ซึ่งเป็นสารเร่งการเจริญเติบโตที่มีแมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และสารลดแรงตึงผิว เมื่อใช้ FK-1 กับพืช จะช่วยเร่งการงอกใหม่ของพืชจากการถูกทำลายที่เกิดจากโรค บำรุงและส่งเสริมการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีขึ้นอีกด้วย

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-1 แล้วคนให้เข้ากัน เมื่อใช้ร่วมกัน ไอเอส จะกำจัดโรคในขณะที่ FK-1 จะเร่งการงอกใหม่ของพืชและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิต

สรุป โรคเหี่ยว Fusarium เป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อต้นมะม่วง เพื่อป้องกันและกำจัดโรคนี้ ขอแนะนำให้ใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส และ FK-1 เมื่อใช้ร่วมกัน สารประกอบเหล่านี้จะสร้างเกราะป้องกันไอออนที่ป้องกันไม่ให้เชื้อราเจาะเข้าไปในเนื้อเยื่อของพืชและเร่งการงอกใหม่ของพืชและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิต สิ่งนี้จะช่วยให้ต้นมะม่วงของคุณแข็งแรงและให้ผลผลิต

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงล่างอีกนิดนะคะ

มันสำปะหลังต้องการธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการสร้างหัว สร้างแป้ง ใช้ปุ๋ย FK-1 ให้ถูกสูตร ในอัตราส่วนผสมที่ถูกต้อง ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ต้นมันสำปะหลังเติบโตสมบูรณ์ โดยแนะน้ำให้ใช้ปุ๋ย FK-1 และ ปุ๋ย FK-3C ฉีดพ่นดังนี้

ระยะแรกปลูกจนถึงมันสำปะหลังอายุไม่เกิน 3 เดือน หากมีการใช้ปุ๋ยเคมีแบบเม็ดเพื่อเร่งการเจริญเติบโตแล้วในระยะนี้ ฉีดพ่น ปุ๋ยทางใบ FK-1 หนึ่งครั้ง ในช่วงมันสำปะหลังอายุ 2-3 เดือน กรณีไม่ได้ใช้ปุ๋ยเม็ดเลย ให้ฉีดพ่น FK-1 เดือนละหนึ่งครั้งต่อเดือน ในเดือนที่ 1 เดือนที่ 2 และเดือนที่ 3

ระยะมันสำปะหลังลงหัวสะสมอาหาร มีอายุ 4 เดือนขึ้นไป หากมีการใช้ปุ๋ยเม็ดสูตรเร่งหัว (สูตรที่มีโพแตสเซียมสูง เช่น 13-13-21 หรือ 0-0-60) ให้ฉีดพ่น ปุ๋ยทางใบ FK-3C ที่เป็นสูตรสำหรับเร่งหัว เพิ่มเปอร์เซ็นต์แป้งในมันสำปะหลัง 1 ครั้ง ในช่วงเดือนที่ 4-6 ช่วงเดือนใดก็ได้ สำหรับกรณีที่ไม่ได้ใช้ปุ๋ยเม็ดเพื่อบำรุงหัวมันสำปะหลังเลย ให้ฉีดพ่น FK-3C ปุ๋ยเร่งหัวมันสำปะหลัง เพิ่มเปอร์เซ็นแป้ง ในเดือนที่ 4 หนึ่งครั้ง เดือนที่ 5 หนึ่งครั้ง และเดือนที่ 6 อีกหนึ่งครั้ง เพื่อช่วนส่งเสริมกระบวนการสะสมแป้งและน้ำตาล มันสำปะหลังจะมีหัวใหญ่ น้ำหนักดี มีเปอร์เซ็นต์แป้งสูง

ไฟทอฟธอร่า เป็นโรคพืชที่ทำลายล้างซึ่งเกิดจากเชื้อราที่สามารถสร้างความหายนะให้กับไร่มะพร้าว นำไปสู่การสูญเสียผลผลิตพืชอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มีวิธีป้องกันและกำจัดไฟทอฟธอร่าในไร่มะพร้าวที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ: การใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส

สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ทำงานโดยรบกวนสมดุลของไอออนบนใบพืช ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา หากต้องการใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ในการควบคุมไฟทอฟธอร่า ให้ผสมกับ FK-1 แล้วฉีดพ่นลงบนพืชที่ได้รับผลกระทบ

ไอเอส ไม่เพียงแต่กำจัดไฟทอฟธอราเท่านั้น แต่ FK-1 ยังช่วยเร่งการงอกใหม่ของพืชและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตอีกด้วย FK-1 เป็นสารส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็น เช่น แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมทั้งสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารเหล่านี้โดยพืช

การใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ร่วมกับ FK-1 ชาวสวนมะพร้าวสามารถป้องกันและกำจัดไฟทอปธอร่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็บำรุงและส่งเสริมการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชผล ดังนั้นหากคุณต้องการปกป้องทุ่งมะพร้าวของคุณจากไฟทอฟธอร่าและเพิ่มผลผลิตของคุณให้สูงสุด

สินค้าเลื่อนลงด้านล่างอีกนิดนะคะ

โรคใบติดทุเรียน หรืออาการทุเรียนใบไหม้ มีสาเหตุจากเชื้อราโรคพืช เชื้อราจะมีลักษณะเป็นสปอร์ ฟุ้งปลิวไปในอากาศ สามารถระบาดติดต่อกันได้ในระยะทางไกล โรคเชื้อรานี้ จึงมากับลม กับฝน ระบาดมาจากสวนข้างเคียง หรืออาจะห่างไกลกันหลายกิโลเมตร ก็อาจจะระบาดมาถึงสวนเราได้ อาการใบไหม้ใบติด จะระบาดจากเชื้อราที่ติดอยู่กับยอดใบที่อยู่ด้านบน หล่นลงมาติดกับใบทุเรียนที่อยู่ด่านล่าง จึงลุกลามติดต่อกันไปเรื่อยๆ จึงลุุกลามไปได้เรื่อยๆ ควรรีบป้องกันกำจัด

การฉีดพ่นเพื่อป้องกันกำจัดเชื้อราโรคพืชเหล่านี้ จึงต้องฉีดพ่นครอบคลุมบริเวณทั้งหมด เนื่องจากเชื้อราเป็นสปอร์ฟุ้งอยู่ในอากาศ เรามองไม่เห็น แน่นนอนว่า เมื่อเราเห็นโรคใบติด ใบไหม้ ในทุเรียน แม้ในต้นข้างเคียงที่ยังไม่แสดงอาการให้เห็น ก็อาจจะเริ่มติดโรคแล้ว

ใช้ไอเอส ผสมกับ FK-1 ฉีดพ่นครอบคลุมบริเวณสวนทุเรียน เพื่อป้องกันกำจัด และบำรุงให้ทุเรียนแตกยอดใบใหม่ได้รวดเร็ว กลับมาสมบูรณ์ แข็งแรง ต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น กลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

หลายคนยังเข้าใจผิด คิดว่าการป้องกันกำจัดโรคราต่างๆนั้น เมื่อฉีดพ่นตัวยาลงไป จะทำให้ใบพืชที่เสียหายจากเชื้อรา หรือผลพืชที่เป็นเชื้อรา ผลเน่า จะกลับมาหาย ใบเขียว ผลสวยดังเดิม ในความเป็นจริงแล้ว ยาป้องกันกำจัดเชื้อราต่างๆ จะกำจัดเชื้อรา ทำให้เชื้อราฝ่อตาย ส่วนใบหรือผลผลิตที่เสียหายไปแล้ว จะหยุดการลุกลาม เนื้อเยื่อที่เสียหายแล้ว ก็เหมือนแผลเป็น เพียงแต่จะไม่เป็นเพิ่มขึ้น เราจึงต้องผสม FK-1 เพื่อเร่งให้พืชแตกยอดใบใหม่ และฟื้นฟูความแข็งแรงให้พืช หลังจากเชื้อราฝ่อตายลงไปแล้ว หากเปรียบเทียบกับคน เมื่อได้ยารักษาโรค ก็ต้องทานอาหารที่ดีควบคู่ไปด้วย จึงจะหายจากโรคได้เร็ว และกลับมาแข็งแรงขึ้นได้เร็วกว่าการรับแต่ยาแต่ไม่ได้ทานอาหาร

เชื้อราไตรโคเดอร์มา Trichorex เป็นเชื้อราไตรโคเดอร์มายี่ห้อหนึ่งที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในมะเขือเทศโดยเฉพาะ โรคราแป้งเป็นโรคเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อพืชหลากหลายชนิดรวมถึงมะเขือเทศ ลักษณะเด่นคือ มีจุดสีขาวเป็นหย่อมๆ บนใบ ลำต้น และผลของพืช หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา โรคราแป้งจะทำให้พืชอ่อนแอลงอย่างมากและทำให้ผลผลิตลดลง

เชื้อราไตรโคเดอร์มา Trichorex เป็นวิธีการป้องกันและควบคุมโรคราแป้งในมะเขือเทศที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยเชื้อราไตรโคเดอร์มาสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมโรคพืชหลายชนิด รวมทั้งโรคราแป้ง เชื้อราไตรโคเดอร์มาในเชื้อรา Trichoderma Trichorex ผลิตเอนไซม์และสารประกอบหลายชนิดที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียชนิดอื่นๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการป้องกันและควบคุมโรคราแป้งในมะเขือเทศ

การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ เพียงผสมกับน้ำตามคำแนะนำข้างบรรจุภัณฑ์แล้วนำไปใช้กับพืชที่เป็นโรคโดยใช้ขวดสเปรย์หรือบัวรดน้ำ สามารถใช้เป็นมาตรการป้องกันหรือเป็นการรักษาโรคราแป้งที่มีอยู่

นอกจากจะมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคราแป้งแล้ว เชื้อรา Trichoderma Trichorex ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายประการสำหรับต้นมะเขือเทศ สามารถปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและความแข็งแรงของพืช เพิ่มความต้านทานต่อโรคอื่น ๆ และเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงคุณภาพและผลผลิตของผลไม้

โดยรวมแล้ว เชื้อรา Trichoderma Trichorex เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมในการป้องกันและควบคุมโรคราแป้งในมะเขือเทศ ประสิทธิภาพและความอเนกประสงค์ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับผู้ปลูกมะเขือเทศที่ต้องการเพิ่มสุขภาพและผลผลิตของพืชของตนให้ได้สูงสุด

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

อัลคาลอยด์: ควบคุมพลังของธรรมชาติเพื่อปกป้องพืชผลและต่อสู้กับการดื้อยา

ในโลกของเกษตรกรรม การต่อสู้กับแมลงศัตรูพืชและการพัฒนาของเชื้อดื้อยาเป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรและนักวิจัยต่างแสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องพืชผล ในขณะที่ลดผลกระทบที่เป็นอันตรายของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวคือคุณสมบัติที่โดดเด่นของอัลคาลอยด์ ซึ่งเป็นกลุ่มสารประกอบธรรมชาติที่หลากหลายซึ่งพบได้ในพืชต่างๆ ในหมู่พวกเขา Maca โดดเด่นในฐานะอัลคาลอยด์ที่เป็นแบบอย่างที่มีศักยภาพมหาศาล

Maca เป็นอัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติ คัดสรรอย่างพิถีพิถันด้วยหลักการเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อรวมเอาอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูง สารประกอบตามธรรมชาตินี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นตัวเปลี่ยนเกมในการต่อสู้กับแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะเพลี้ยแป้งในสวนทุเรียน วิธีการดำเนินการที่ไม่เฉพาะเจาะจงของ Maca แตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั่วไป ป้องกันและกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้โดยไม่ส่งเสริมการพัฒนาของการดื้อยา นี่เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ เนื่องจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นเวลานานมักจะทำให้แมลงปรับตัวและเกิดการดื้อยา ทำให้สารเคมีไม่ได้ผล

เอกลักษณ์ของ Maca อยู่ที่ความสามารถในการทำลายกลไกทางชีววิทยาของแมลงศัตรูพืชโดยไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ ทำให้ไม่เพียงแต่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้และผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ด้วย Maca เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลของตนได้โดยไม่กระทบต่อความสมบูรณ์ของระบบนิเวศหรือทำลายคุณภาพของผลผลิต

นอกจากนี้ Maca ยังให้ประโยชน์เพิ่มเติมในรูปของอาหารเสริมพืช FKT อาหารเสริมเหล่านี้ช่วยให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของเพลี้ยซึ่งเป็นศัตรูพืชทั่วไปอีกชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผล ด้วยการบำรุงพืชด้วยอาหารเสริม FKT เกษตรกรสามารถกระตุ้นกลไกการป้องกันตามธรรมชาติ ทำให้พวกเขาฟื้นตัวจากการโจมตีของเพลี้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีการแบบผสมผสานนี้เป็นการรวมคุณสมบัติขับไล่แมลงของ Maca เข้ากับความสามารถในการฟื้นฟูของอาหารเสริมพืชของ FKT มอบโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับการปกป้องและฟื้นฟูพืชผล

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้อาหารเสริมพืช Maca และ FKT ร่วมกันคือการฉีดพ่นร่วมกัน ด้วยการรวมเครื่องมืออันทรงพลังทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน เกษตรกรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมศัตรูพืชได้ การฉีดพ่นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Maca และ FKT ร่วมกันมีผลเสริมฤทธิ์กัน สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อศัตรูพืช ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความยืดหยุ่นและการฟื้นตัวของพืช แนวทางที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ช่วยให้มั่นใจถึงกลยุทธ์การป้องกันพืชผลที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น ลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ และลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด

ผลลัพธ์ของการฉีดพ่นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพืช Maca และ FKT ร่วมกันมีแนวโน้มสูง เกษตรกรที่ใช้แนวทางนี้ได้รายงานว่าผลผลิตพืชผลดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ลดความเสียหายจากศัตรูพืช และสุขภาพของพืชดีขึ้น นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Maca และ FKT ยังช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาวของการเกษตรโดยลดความจำเป็นในการแทรกแซงทางเคมีและป้องกันการพัฒนาของเชื้อดื้อยา

กล่าวโดยสรุป สารอัลคาลอยด์เช่น Maca ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้ในขอบเขตของการป้องกันพืชผลและการจัดการศัตรูพืช ด้วยการควบคุมพลังแห่งธรรมชาติและใช้หลักการเทคโนโลยีขั้นสูง อัลคาลอยด์เข้มข้นเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม โหมดการทำงานที่ไม่เฉพาะเจาะจงของ Maca ป้องกันไม่ให้แมลงพัฒนาความต้านทาน ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในระยะยาว เมื่อรวมกับอาหารเสริมพืชของ FKT Maca นำเสนอแนวทางแบบองค์รวมในการปกป้องพืชผล ส่งเสริมการฟื้นฟูพืชและลดการพึ่งพาสารเคมีสังเคราะห์ ด้วยการฉีดพ่นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Maca และ FKT ร่วมกัน เกษตรกรสามารถยอมรับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบยั่งยืนในขณะที่ปกป้องผลผลิตของพวกเขาและสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ต้นกำเนิดของปุ๋ยสามารถย้อนกลับไปได้ไกลถึงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มนุษย์ในยุคนั้นสังเกตเห็นว่าพืชที่เติบโตอยู่บริเวณรอบๆ กองมูลสัตว์หรือซากพืชจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าพืชที่เติบโตอยู่บริเวณอื่น จึงเริ่มนำมูลสัตว์หรือซากพืชมาใส่ในดินเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

หลักฐานที่บ่งชี้ว่ามนุษย์รู้จักใช้ปุ๋ยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้แก่

พบซากพืชและมูลสัตว์ที่ฝังอยู่ในดินอายุประมาณ 11_000 ปีก่อนคริสตกาล
พบภาพวาดบนผนังถ้ำในยุคหินใหม่แสดงถึงการทำนาและการใส่ปุ๋ย
พบตำราการเกษตรในยุคอียิปต์โบราณกล่าวถึงการใช้ปุ๋ยมูลสัตว์และซากพืช
ในยุคต่อมา มนุษย์เริ่มพัฒนาวิธีการผลิตปุ๋ยให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยนำวัสดุต่างๆ เช่น มูลสัตว์ ซากพืช แกลบ ฝุ่นละออง น้ำเสีย มาใช้ผลิตปุ๋ย

ในศตวรรษที่ 19 มีการค้นพบกระบวนการทางเคมีที่ทำให้สามารถสังเคราะห์ปุ๋ยได้ ทำให้การผลิตปุ๋ยมีปริมาณมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในปัจจุบัน ปุ๋ยมีบทบาทสำคัญในการผลิตอาหารของโลก โดยปุ๋ยช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ช่วยให้มนุษย์สามารถผลิตอาหารได้เพียงพอต่อความต้องการ

ประเภทของปุ๋ย

ปุ๋ยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี

ปุ๋ยอินทรีย์ ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เช่น มูลสัตว์ ซากพืช แกลบ ฝุ่นละออง น้ำเสีย เป็นต้น ปุ๋ยอินทรีย์มีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และธาตุอื่นๆ อีกมากมาย ปุ๋ยอินทรีย์มีประโยชน์ต่อดินและสิ่งแวดล้อม โดยช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี ช่วยป้องกันดินพังทลาย และช่วยปรับปรุงคุณภาพของดิน

ปุ๋ยเคมี ผลิตจากแร่ธาตุ เช่น ยูเรีย ฟอสเฟต โพแทสเซียม เป็นต้น ปุ๋ยเคมีมีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชสูง ปุ๋ยเคมีช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ปุ๋ยเคมีอาจส่งผลเสียต่อดินและสิ่งแวดล้อมได้ เช่น ทำให้ดินเสื่อมโทรม และอาจปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำ

ประโยชน์ของปุ๋ย

ปุ๋ยมีประโยชน์ต่อการเกษตรและสิ่งแวดล้อม ดังนี้

ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ช่วยปรับปรุงคุณภาพของดิน
ช่วยป้องกันดินพังทลาย
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ
ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารของพืช
ช่วยเพิ่มการต้านทานโรคและแมลงของพืช
การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม

การใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสมช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้

ชนิดของพืชและความต้องการธาตุอาหารของพืช
สภาพของดิน
ฤดูกาล
ปริมาณน้ำฝน
นอกจากนี้ ควรใช้ปุ๋ยอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อดินและสิ่งแวดล้อม

ปลูกฟักข้าวไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแค่เพาะเมล็ดและให้น้ำไม่พออาจทำให้ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง การให้ปุ๋ยที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุของต้นฟักข้าวจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด สำหรับคุณที่ต้องการที่ดีที่สุดสามารถพบเจอกับปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรที่จะช่วยให้ต้นฟักข้าวของคุณเติบโตแข็งแรงและได้ผลผลิตที่มากมาย

สูตรที่ 1: 30-20-5 - เพิ่มความเร็วในการเจริญเติบโต
สูตรนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของต้นฟักข้าวให้ได้ขนาดที่ใหญ่และแข็งแรง สัดส่วนคำนวณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วยสัดส่วน 30-20-5 ที่ช่วยให้ต้นฟักข้าวเติบโตไว ใบเขียวขึ้นอย่างสมบูรณ์

สูตรที่ 2: อัตราส่วนเฉลี่ย - สำหรับระยะรากและดอก
ในช่วงเวลาที่ต้นฟักข้าวต้องการพักฟื้นหลังจากการเจริญเติบโตต้องมีสูตรที่เหมาะสม เราแนะนำสูตรที่มีส่วนผสมที่อัตราส่วนเฉลี่ย เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตของรากและการออกดอก ทำให้ต้นฟักข้าวสามารถดูแลตนเองได้ดีในช่วงเวลานี้

สูตรที่ 3: ระยะขยายขนาด - ผลใหญ่ น้ำหนักดี
เมื่อต้นฟักข้าวขยายขนาดและเติบโตมากขึ้น ความต้องการทางอาหารก็เพิ่มขึ้น ใช้สูตรที่มีสัดส่วนที่เน้นไปที่การเจริญเติบโตและการขยายขนาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุด

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรนี้ไม่เพียงแค่ช่วยในการเจริญเติบโตของต้นฟักข้าว แต่ยังมีสารอาหารที่สำคัญช่วยให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเร่งการเจริญเติบโต_ การส่งเสริมราก_ หรือการขยายขนาด ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรนี้เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการปลูกฟักข้าวของคุณ เริ่มใช้งานได้วันนี้เพื่อผลผลิตที่มากขึ้น


🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร


ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตร: สำหรับการดูแลต้นทับทิมในทุกระยะ

เร่งการเจริญเติบโต ด้วยสูตรที่ 1 - 30-20-5

ต้นทับทิมต้องการสารอาหารที่ตรงกับช่วงอายุของมันเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตและการพัฒนาใบเขียวสดใส ในช่วงนี้ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5 เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เน้นปริมาณสูงของไนโตรเจน (N) เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้น และฟอสฟอรัส (P) ที่สูงเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก และโปรตีน (K) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาใบให้มีสีเขียวอย่างสมบูรณ์

ระยะเร่งการเจริญเติบโตของรากและการออกดอก ด้วยสูตรที่ 2 - อัตราส่วนเสมอ 20-20-20

ในช่วงระยะนี้ต้นทับทิมจำเป็นต้องการสารอาหารที่เน้นไปที่การเจริญเติบโตของรากและการพัฒนาดอก สูตรที่เหมาะสมในช่วงนี้คือ 20-20-20 ที่มีอัตราส่วนของไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P)และโปรตีน (K) ที่เท่าเทียมกัน ช่วยให้รากเจริญเติบโตแข็งแรงและเตรียมตัวสำหรับการออกดอก

ระยะขยายขนาด ผลใหญ่ น้ำหนักดี ด้วยสูตรที่ 3 - 15-30-15

ในช่วงนี้ต้นทับทิมต้องการสารอาหารที่ช่วยให้ผลขยายขนาดได้ทั้งน้ำหนักและขนาดใหญ่ สูตรที่เหมาะสมในช่วงนี้คือ 15-30-15 ที่มีไนโตรเจน (N) ในปริมาณที่น้อยลง เพื่อลดการเจริญเติบโตที่ไม่ควร และฟอสฟอรัส (P) ที่สูงเพื่อส่งเสริมการพัฒนาดอกและผล

ความสามารถของปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตร:

เร่งการเจริญเติบโต: ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5 ช่วยให้ต้นทับทิมเจริญเติบโตไวขึ้น และใบเขียวสดใส.

ระยะเร่งการเจริญเติบโตของรากและการออกดอก: สูตร 20-20-20 ช่วยเสริมรากและกระตุ้นการออกดอก.

ระยะขยายขนาด ผลใหญ่ น้ำหนักดี: สูตร 15-30-15 ช่วยให้ผลทับทิมขยายขนาดใหญ่และมีน้ำหนักดี.

ให้ทุกการใช้ปุ๋ยนี้เป็นส่วนผสมของการดูแลทับทิมของคุณเพื่อให้ได้ผลผลิตที่สมบูรณ์แข็งแรง และคุณภาพสูง ด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตรที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของต้นทับทิมในทุกระยะของการเจริญเติบโต.


🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อปุ๋ยสตาร์เฟอร์ ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..