ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ เป็นปุ๋ยเคมีมาตรฐาน ประเภทโพแทสเซียมคลอไรด์ สูตร 0-0-60 ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตและผลผลิตของถั่วเหลืองโดยเฉพาะ

คุณสมบัติ

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ประกอบด้วยโพแทสเซียม (K2O) 60% ละลายน้ำง่าย พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้รวดเร็ว
ช่วยให้ต้นถั่วเหลืองมีลำต้นแข็งแรง ใบเขียว ฟื้นฟูจากสภาพอากาศแปรปรวน
กระตุ้นการออกดอก เพิ่มจำนวนฝัก เพิ่มขนาดผล เพิ่มน้ำหนักเมล็ด
เพิ่มคุณภาพผลผลิต เก็บเกี่ยวได้นาน
ปลอดภัยต่อพืชและสิ่งแวดล้อม

วิธีใช้

ฉีดพ่นทางใบ อัตรา 25 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่นทุกๆ 7-10 วัน
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น

ข้อควรระวัง

เก็บปุ๋ยในที่แห้งและมิดชิด
สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อใช้ปุ๋ย
ห้ามรับประทาน
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ผลลัพธ์ที่ได้

ต้นถั่วเหลืองเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง ใบเขียว
ออกดอกติดฝักดก
เพิ่มขนาดผล เพิ่มน้ำหนักเมล็ด
ผลผลิตมีคุณภาพ เก็บเกี่ยวได้นาน

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตถั่วเหลือง

หมายเหตุ

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น เกษตรกรควรศึกษาวิธีการใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่

ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สายพันธุ์ถั่วเหลือง สภาพดิน สภาพอากาศ และการจัดการ

บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้น เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และเลือกใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสายพันธุ์ถั่วเหลือง

🌿ฉีดพ่นทางใบ อัตราผสม 25 กรัม(2ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (2ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
🌳ปุ๋ยทางใบสูตรสูง 3สูตรหลัก ที่ใช้ได้กับทุกพืช
- เร่งโตเร่งต้นเร่งใบเร่งเขียว สูตร 30-20-5
- เร่งระบบราก เร่งดอก สูตร 10-40-10
- เพิ่มผลผลิต ขยายขนาดผล สูตร 15-5-30
.
∞ ผสมปุ๋ยทางใบเป็นสูตรต่างๆได้ตามต้องการ
» เราพัฒนาระบบคำนวณสูตรผสมปุ๋ยให้ใช้ฟรี
» ใช้ปุ๋ย 3สูตรหลักด้านบน ผสมได้หลากหลายสูตรสูง ใช้ได้กับทุกพืช
£ มีเอกสารแนบวิธีการผสมลงในกล่อง

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรต้องได้รับการสนับสนุนจากสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฮิวมิค แอซิด จากยี่ห้อฟาร์มิคเป็นหนึ่งในสารออกฤทธิ์ที่นำเสนอความสามารถในการฟื้นฟูระบบรากของพืช และปรับปรุงโครงสร้างดินอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของการเกษตร.

สารออกฤทธิ์ที่ทำให้ดินเป็นมิตรต่อพืช
ฮิวมิค แอซิด เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีต้นทางมาจากแหล่งที่ยังไม่ได้รับการปฏิสัมพันธ์ทางเคมีมาก่อน ซึ่งทำให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่สร้างผลกระทบที่เสียหายต่อผู้บริโภคและพืชได้.

ฟื้นระบบรากและปลดปล่อยธาตุอาหาร
ฮิวมิค แอซิด มีฤทธิ์ที่ช่วยฟื้นฟูระบบรากของพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบรากทำงานได้ดีขึ้น และเปิดโอกาสให้พืชได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโต อีกทั้งยังช่วยในการปลดปล่อยธาตุอาหารจากดินให้พืชได้ใช้ประโยชน์.

ปรับปรุงโครงสร้างดิน
การใช้ฮิวมิค แอซิด ยี่ห้อฟาร์มิค ช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช มีการรั่วไหลของน้ำที่ดีและการถ่ายเทอากาศที่เพียงพอ.

ช่วยไห้ดินร่วยซุย และระบายน้ำดี
การใช้ฮิวมิค แอซิด ช่วยเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ในดิน ทำให้ดินมีสมบัติร่วนซุย และมีการระบายน้ำที่ดี ทำให้พืชได้รับน้ำและสารอาหารที่พอเหมาะ.

สร้างระบบรากฝอยสำหรับฉีดพ่น
การฉีดพ่นฮิวมิค แอซิด ยี่ห้อฟาร์มิค เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการให้สารออกฤทธิ์เข้าสู่ระบบรากของพืชโดยตรง ทำให้ฮิวมิค แอซิด สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว.


การใช้ฮิวมิค แอซิด จากยี่ห้อฟาร์มิค เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลผลิตเกษตร โดยที่ไม่สะท้อนผลกระทบที่เสียหายต่อสิ่งแวดล้อม และมนุษยชาติ. นอกจากนี้ยังช่วยในการลดการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบที่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคทั่วไปด้วย. ดังนั้นการใช้ฮิวมิค แอซิด ยี่ห้อฟาร์มิค ไม่เพียงแต่เป็นการดูแลและปรับปรุงดินในระดับที่ดี แต่ยังเป็นการให้เกษตรกรมีการผลิตที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ.


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ธรรมชาติได้ให้เรามีทรัพยากรที่มีประโยชน์มากมายเพื่อเติบโตและพัฒนาชีวิตของเราในทุกๆ ด้าน และในทางเกษตรกรรม เพื่อให้พืชของเราเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์ ฮิวมิค แอซิดจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับการใช้ในการเกษตรกรรมที่มีความเข้มข้นในสารออกฤทธิ์ที่สร้างประโยชน์ต่อดินและพืชตลอดจนส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมทั้งระบบ โดยเฉพาะยี่ห้อที่ได้รับความไว้วางใจจากชาวเกษตรกร นั่นคือ "ฟาร์มิค" (Farmic) ฮิวมิค แอซิดที่เชื่อมโยงกับความเจริญเติบโตของพืชในทุกฤดูกาล.

1. สารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช

ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิดมีสารออกฤทธิ์ที่ทำให้พืชได้รับประโยชน์มากมาย ซึ่งเป็นประสิทธิภาพในการบำรุงดินและพืช โดยเฉพาะสารประกอบที่ช่วยในการปลดปล่อยธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำให้พืชเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสมบูรณ์.

2. ปรับปรุงโครงสร้างดิน

การใช้ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิดช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินให้มีความกระชับและร่วนซุย ทำให้น้ำซึมผ่านได้ดี และช่วยในการควบคุมการระบายน้ำในดินได้ดีขึ้น ทำให้พืชได้รับน้ำและสารอาหารที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง.

3. ช่วยในการรักษาความเปียกชื้นของดิน

การใช้ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิดช่วยในการรักษาความเปียกชื้นของดิน ทำให้ดินร่วงระบายน้ำได้ดี ช่วยลดการสูญเสียน้ำในดินและสนับสนุนการเจริญเติบโตของรากพืช.

4. สร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง

ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิดมีความสามารถในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากฝอย ทำให้ระบบรากของพืชเสริมแข็งแรงและมีประสิทธิภาพในการดูดน้ำและธาตุอาหาร.

5. ปลดปล่อยธาตุอาหารในดิน

ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิดช่วยในกระบวนการปลดปล่อยธาตุอาหารในดินอย่างต่อเนื่อง ทำให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นในทุกช่วงเวลา ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตอย่างสมดุลและมีคุณภาพ.


ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิด เป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ในการพัฒนาการเกษตรกรรมที่ยึดมั่นในหลักการที่สมดุล ช่วยปรับปรุงดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชให้สมบูรณ์แข็งแรง ทั้งยังมีผลต่อการรักษาความสมดุลของน้ำในดินและสร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิดเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการผลิตพืชที่มีคุณภาพและยั่งยืน.


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

โรคพืช หมายถึง ภาวะที่พืชมีลักษณะผิดปกติ เนื่องจากเชื้อโรคที่เป็นสิ่งมีชีวิต และ สภาพแวดล้อมซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ไปทำให้การทำงานของระบบต่างๆ ในพืชผิดปกติ โครงสร้างและรูปร่างของส่วนต่างๆ ของพืชเปลี่ยนแปลง โดยการเกิดโรคพืชมีปัจจัยสำคัญ คือ พืชอาศัยอ่อนแอ สภาพแวดล้อมเหมาะสม เชื้อสาเหตุโรคที่รุนแรง และระยะเวลาที่พอเหมาะ

การจัดกลุ่มโรคพืชตามเชื้อสาเหตุโรค แบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ

1. โรคพืชที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต
ได้แก่ โรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น ราสนิม ใบจุด ราน้ าค้าง ราแป้ง โรคที่เกิดเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคแคงเกอร์ในตระกูลส้ม โรคเหี่ยว โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส เช่น โรคใบด่าง อ้อย โรคเส้นใบเหลือง โรคที่เกิดจากไส้เดือนฝอย เช่น โรครากปม เป็นต้น

2. โรคพืชที่เกิดจากสิ่งไม่มีชีวิต
เช่น เกิดจากการขาดธาตุอาหาร สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เกิดจากความเป็นพิษของของธาตุอาหาร ดินมีความเป็นกรดด่างสูง เกิดจากพิษของสารกำจัดวัชพืชและสารเคมีต่างๆ

โรคพืชป่าไม้ที่สำคัญ ได้แก่ โรคใบจุด (leaf spot) ใบไหม้ (leaf blight) ราสนิม(rust) ราแป้ง (powdery mildew) ราดำ (black mildew) จุดนูนดำ (tar spot) อาการเหี่ยว (wilt) โรครากเน่า โรคลำต้นผุเน่า เป็นต้น โรคส่วนใหญ่ที่พบมักเป็นโรคที่เกิดทางใบ ส่งผลกระทบต่อการสังเคราะห์แสงของพืชและจะทำให้ลำต้นอ่อนแอ

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..

สินค้าจากเรา

โรคพืช ที่มีสาเหตุจาก เชื้อราต่างๆ ป้องกัน กำจัดด้วย ไอเอส สารอินทรีย์ป้องกันและยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา

โรคพืช ที่มีสาเหตุจาก การขาดธาตุอาหาร ใช้ FK-1 ที่ประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม สารสังเคราะห์คลอโรคฟิลล์ เป็นการให้อาหารพืชได้อย่างครบถ้วน

เลื่อนอ่านรายละเอียดด้านล่างนะคะ

ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

โรคเมลาโนส หรือโรคราน้ำหมาก
เกิดจากเชื้อรา พบอาการที่ใบของต้นส้ม จะมีจุดเล็กๆ สีน้ำตาล มีวงเหลืองล้อมรอบจุดนั้น เมื่อลองลูบเนื้อใบจะรู้สึกสากมือเหมือนลูบกระดาษทราย ทำให้ต้นส้มทรุดโทรมและมีผลผลิตน้อยลง ส่วนใหญ่พบในส้มต้นโตหรือมีอายุมากกว่าในส้มที่มีอายุน้อย

โรครากเน่าโคนเน่าในส้ม
เกิดจากเชื้อรา แสดงอาการใบเหลืองหรือเหลืองซีดโดยเฉพาะเส้นกลางใบของต้น ส่วนเปลือกปริแตกมีสีคล้ำฉ่ำน้ำและอาจมียางไหลจากรอยแผล เมื่อถากเปลือกตรงรอยแผลออกจะพบเนื้อไม้เป็นแผลสีน้ำตาลหรือน้ำตาลแดง มีอาการทรุดโทรม ไม่สมบูรณ์แข็งแรง แตกใบอ่อนน้อย หากรุนแรงจะมีอาการใบเหี่ยว ใบและผลร่วงและกิ่งแห้ง


ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย การควบคุมประจุไฟฟ้า สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้าhttp://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ป้องกัน กำจัด เพลี้ย แมลงจำพวกปากดู ศัตรูพืช เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว ฉีดพ่น มาคา

อัตราส่วนการใช้ 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทั่วบริเวณที่มีการระบาด

คุณสมบัติของมาคา

หลักการทำงานและวิธีการออกฤทธิ์
วิธีการออกฤทธิ์ในการ ฆ่าและกำจัด โดยสารสกัดที่อยู่ในรูปของ อัลคาลอยด์ จะมีผลโดยเป็นพิษต่อระบบประสาทของแมลง และยับยั้งกระบวนการหายใจโดยจะไปมีผลในระบบของการสร้างพลังงานภายในเซลล์ร่างกายทำให้ร่างกายของแมลงขาดพลังงานทำงานช้าลงและตายในที่สุด จึงมีผลทำให้แมลงตายในที่สุด

วิธีการออกฤทธิ์ในการ ไล่ สารสกัดที่ได้ใช้ทั้งกลิ่นและการสร้างความเจ็บปวด ทรมานและเกิดอาการแสบ ร้อน ให้กับแมลงที่สัมผัสหรือได้รับสารนี้เข้าไป โดยกลิ่นที่ฉุนจะทำให้เกิดความไม่คุ้นเคยสร้างความสับสนให้กับแมลงและสารนี้ยังไปกระตุ้นระบบประสาทรับความรู้สึกในส่วนของความเจ็บปวด ความแสบ ร้อน ของแมลงให้เกิดมากขึ้นจนเกินกว่าที่ร่างกายของแมลงจะทนรับได้ จึงมีผลทำให้แมลงมีสภาวะที่ผิดปกติ ต้องบินหนีไป

สารในรูปของน้ำมัน ( oil ) ทำหน้าที่อุดรูหายใจของแมลง ( Spiracles block ) ทำให้แมลงไม่สามารถรับอากาศภายนอกได้ ดังนั้นกระบวนการใช้ออกซิเจนหรือกระบวนการสร้างพลังงาน ( ATP ) เพื่อใช้ในร่างกายจึงถูกรบกวนมีผลทำให้ metabolism ภายในร่างกายของแมลงถูกยับยั้ง แมลงหมดแรง เฉื่อยชา และตายในที่สุด

การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..

ต้นงา (Sesamum indicum) มีคุณค่ามาช้านานสำหรับเมล็ดที่มีน้ำมันสูง ใช้ทำอาหาร และสรรพคุณทางยา การเพาะปลูกต้นงาอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มผลผลิตจำเป็นต้องเอาใจใส่ในการจัดการธาตุอาหารอย่างระมัดระวัง ในบทความนี้ เราจะสำรวจประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 และให้แนวทางในการใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ: สารละลายที่อุดมด้วยสารอาหาร:
ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นสูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อให้สารอาหารที่จำเป็นแก่ต้นงา ส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง เพิ่มการออกดอก และเพิ่มการผลิตเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยคุณภาพสูงนี้มีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวที่สมดุล นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่ครอบคลุมเพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุด

แกะกล่องและคำแนะนำในการผสม:
เริ่มต้นด้วยการแกะกล่องปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ซึ่งมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม ข้างในมีกระเป๋า 2 ใบ แต่ละใบหนัก 1 กก. สิ่งสำคัญคือต้องผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันเพื่อให้แน่ใจว่ามีสารอาหารที่สมดุลสำหรับต้นงาของคุณ

ในการเตรียมสารละลายสำหรับการฉีดพ่น ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

ตวงปริมาณน้ำที่ต้องการ: เริ่มต้นด้วยการตวงน้ำ 20 ลิตร สามารถใช้ภาชนะสะอาดหรือถังฉีดพ่นเพื่อจุดประสงค์นี้ได้

เติมถุงแรก: นำปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ถุงแรก 50 กรัม แล้วค่อยๆ เติมลงในน้ำที่วัดได้

เพิ่มถุงที่สอง: ในทำนองเดียวกันให้นำถุงที่สอง 50 กรัมใส่ลงในภาชนะที่มีน้ำและถุงแรก

คนจนละลาย: ใช้คนหรือเครื่องกวนผสมสารละลายให้ทั่วถึง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าถุงทั้งสองละลายในน้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน

เทคนิคการใช้งาน:
เมื่อเตรียมสารละลายปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 แล้ว ก็พร้อมนำไปใช้กับต้นงา ปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้เพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ:

เวลา: ใช้ฉีดพ่นทางใบในช่วงระยะการเจริญเติบโตที่แนะนำของต้นงา โดยปกติแล้ว ระยะการออกดอกและการพัฒนาของผลในระยะแรกจะเหมาะสำหรับการดูดซึมสารอาหารและการใช้ประโยชน์

วิธีการใช้: ใช้เครื่องพ่นแบบมือถือหรือแบบใช้มอเตอร์ฉีดพ่นสารละลายบนใบของต้นงาอย่างสม่ำเสมอ ตั้งเป้าหมายให้ครอบคลุมทั้งใบ ลำต้น และกิ่งก้าน เพื่อให้มั่นใจว่าสารละลายเข้าถึงทุกส่วนของพืช

ความถี่ในการฉีดพ่น: ฉีดพ่นทางใบซ้ำเป็นระยะๆ สม่ำเสมอตลอดฤดูปลูก ตามคำแนะนำของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร สิ่งนี้จะช่วยรักษาปริมาณสารอาหารที่สม่ำเสมอและสนับสนุนการเจริญเติบโตที่ดี

ข้อพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม: แนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงเวลาที่มีแสงแดดจ้าหรือสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น อุณหภูมิสูงหรือมีลมแรง สภาวะการฉีดพ่นที่เหมาะสมส่งเสริมการดูดซับที่ดีขึ้นและลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

บทสรุป:
การเพาะปลูกต้นงาสามารถเพิ่มได้อย่างมากโดยใช้กลยุทธ์การจัดการสารอาหารที่เหมาะสม การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวของสารอาหารที่จำเป็นและสารลดแรงตึงผิว ทำให้ได้สารละลายที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตของต้นงา ด้วยการปฏิบัติตามแนวทางการแกะกล่อง การผสม และการใช้งานที่แนะนำ เกษตรกรและผู้เพาะปลูกสามารถปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของพืชผลงาของพวกเขา ส่งผลให้พืชมีสุขภาพดีขึ้น ผลผลิตเพิ่มขึ้น และเพิ่มผลกำไรของฟาร์มโดยรวม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้าhttp://ไปที่..link.. ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. และ ติ๊กต็อก ช้อป http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์เพื่อกำจัดโรคเหี่ยวเหลืองในพริก

พริกเป็นพืชยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติเผ็ดร้อนและสีสันที่สดใส อย่างไรก็ตามพืชเหล่านี้มีความไวต่อโรคต่างๆ รวมทั้ง Fusarium oxysporum ซึ่งทำให้เกิดโรคเหี่ยวเหลือง การติดเชื้อราที่ทำลายล้างนี้อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตพริกอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียทางเศรษฐกิจสำหรับเกษตรกร ในการตอบสนองต่อความท้าทายนี้ การวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวางส่งผลให้มีการสร้าง IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด

IS ได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถันเพื่อต่อสู้กับ Fusarium oxysporum และเชื้อราก่อโรคอื่นๆ ที่ส่งผลต่อพริก จากการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวด นักวิจัยได้ระบุสารดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูงภายในระบบ IS ซึ่งปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อรา เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง IS มุ่งเน้นไปที่การจัดการกับสภาพแวดล้อมที่ผิวใบของพืชเพื่อสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาของเชื้อรา ท้ายที่สุดจะป้องกันการเหี่ยวเหลืองและปกป้องสุขภาพของพืชผล

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือการยึดเกาะกับผิวใบพืชได้ดีขึ้น ยาต้านเชื้อราแบบดั้งเดิมมักมีปัญหาในการคงประสิทธิภาพไว้ ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงและต้องใช้ซ้ำบ่อยครั้ง IS เอาชนะความท้าทายนี้โดยใช้เทคนิคการผสมสูตรขั้นสูงที่ช่วยให้ยึดเกาะกับผิวใบได้ดีขึ้น ทำให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันการติดเชื้อราที่ยาวนาน

ที่สำคัญ IS ประกอบด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด ส่วนประกอบอินทรีย์นี้ไม่เพียงทำให้เป็นสารละลายที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสารเคมีตกค้างในพืชผลอีกด้วย เกษตรกรสามารถใช้ IS ได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตนเอง ผู้บริโภค หรือระบบนิเวศ

การใช้ IS เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการสามารถช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกพริกสามารถควบคุมเชื้อรา Fusarium oxysporum และผลกระทบที่เป็นอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานที่แนะนำ เกษตรกรสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ลดความเสี่ยงของอาการเหี่ยวเหลืองและเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตพริก

นอกจากนี้ การใช้ IS สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบยั่งยืน ลดการพึ่งพาสารฆ่าเชื้อราสังเคราะห์ และลดผลกระทบต่อระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานให้น้อยที่สุด ด้วยการเลือกใช้สารต้านเชื้อราอินทรีย์เช่น IS เกษตรกรมีส่วนร่วมในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ สุขภาพของดิน และความสมดุลโดยรวมของระบบนิเวศการเกษตรของพวกเขา

โดยสรุป IS แสดงถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการต่อสู้กับ Fusarium oxysporum และโรคเหี่ยวเหลืองในพริก องค์ประกอบอินทรีย์ซึ่งได้มาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติล้วนทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ด้วยการควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราอย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่สร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อเชื้อโรค IS จึงมอบเครื่องมืออันทรงพลังแก่เกษตรกรในการปกป้องพืชผลและเพิ่มผลผลิต ด้วย IS เกษตรกรผู้ปลูกพริกสามารถต่อสู้กับโรคเหี่ยวเหลืองได้อย่างมั่นใจและบำรุงพืชให้แข็งแรงและเจริญงอกงาม

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

การเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศสูงสุดด้วยเทคนิคการปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม

มะเขือเทศเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากมีความหลากหลายและคุณค่าทางโภชนาการ อย่างไรก็ตาม การปลูกมะเขือเทศให้ได้ผลผลิตสูงสุดนั้นต้องอาศัยเทคนิคการปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม ในบทความนี้ เราจะมุ่งเน้นที่ข้อหลัง โดยเฉพาะการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นการผสมผสานที่มีศักยภาพของสารอาหารที่จำเป็นซึ่งส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศ มาในกล่องน้ำหนัก 2 กก. บรรจุ 2 ถุง ๆ ละ 1 กก. เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดต้องผสมทั้งสองถุงในอัตราส่วนที่กำหนดต่อน้ำ 20 ลิตร ในการเตรียมสารละลาย ให้นำถุงแรก 50 กรัม ถุงที่สอง 50 กรัม และคนให้ละลาย

ก่อนใส่ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาระยะการเจริญเติบโตของมะเขือเทศ ควรใช้ครั้งแรกเมื่อต้นมะเขือเทศถึงระยะออกดอก ควรใช้ครั้งต่อไปในช่วงเวลา 10-14 วันจนกว่าผลไม้จะสุก ช่วงเวลานี้ช่วยให้แน่ใจว่าต้นมะเขือเทศได้รับสารอาหารที่สม่ำเสมอในช่วงระยะการเจริญเติบโต

เมื่อใช้ปุ๋ย สิ่งสำคัญคือต้องฉีดพ่นให้เท่ากันทั้งสองด้านของใบมะเขือเทศ สารลดแรงตึงผิวในปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ช่วยให้สารอาหารแทรกซึมเข้าสู่เซลล์พืช ทำให้การดูดซึมมีประสิทธิภาพมากขึ้น เวลาฉีดพ่นที่แนะนำคือช่วงเช้าตรู่หรือช่วงบ่ายแก่ๆ ที่แดดไม่ร้อนจัด เพื่อป้องกันใบไหม้

นอกเหนือจากการใช้ปุ๋ยแล้ว เทคนิคการปลูกที่เหมาะสมก็มีความสำคัญเช่นกันในการเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศให้ได้สูงสุด มะเขือเทศต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดีและมีแสงแดดเพียงพอในการเจริญเติบโต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุและมีค่า pH 6.0-7.0 ปลูกมะเขือเทศเป็นแถวโดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น 60-90 ซม.

เพื่อหลีกเลี่ยงโรคและแมลงศัตรูพืช สิ่งสำคัญคือต้องให้น้ำแก่ต้นมะเขือเทศแต่อย่ามากเกินไป การให้น้ำมากเกินไปอาจทำให้รากเน่าได้ ในขณะที่การให้น้ำน้อยอาจทำให้การเจริญเติบโตแคระแกร็นและผลผลิตลดลง นอกจากนี้ ให้นำใบที่ตายหรือติดเชื้อออกจากต้นมะเขือเทศเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค

โดยสรุป การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิวเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศให้ได้สูงสุด อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาระยะการเจริญเติบโตของต้นมะเขือเทศ ฉีดพ่นให้ทั่วใบทั้งสองด้าน และทำตามอัตราส่วนการผสมที่แนะนำ นอกจากนี้ เทคนิคการปลูกที่เหมาะสม การให้น้ำ และการจัดการศัตรูพืชก็มีความสำคัญเช่นกันเพื่อให้ได้ผลผลิตมะเขือเทศสูงสุด ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวมะเขือเทศที่ฉ่ำและอร่อยได้มากมาย

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน