ปุ๋ยวันเดอร์ส้ม คือการปฏิวัติเทคโนโลยี 3T ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับพืชหลากหลายชนิด รวมถึงยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย นาข้าว และพืชผล สูตรเฉพาะประกอบด้วยเม็ดปุ๋ยสามชั้นที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้สารอาหารแก่พืชอย่างสมดุลและยั่งยืน

ชั้นแรกเรียกว่า T1 เป็นชั้นจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งมีแบคทีเรียและเชื้อราที่มีประโยชน์หลากหลายชนิด จุลินทรีย์เหล่านี้ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ ทำให้พืชเข้าถึงสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ T1 ยังช่วยยับยั้งโรคที่มากับดินและปรับปรุงโครงสร้างของดิน ช่วยให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิตมากขึ้น

ชั้นที่ 2 T2 เป็นชั้นที่ปลดปล่อยสารอาหารที่มีกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อพืช 18 ชนิด สารอาหารเหล่านี้พร้อมสำหรับพืช ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพวกมันในทันที

ชั้นที่สาม T3 เป็นสารอาหารที่ปลดปล่อยอย่างช้าๆ ซึ่งให้ปริมาณสารอาหารที่ยั่งยืนในระยะเวลาที่นานขึ้น สิ่งนี้ช่วยป้องกันการขาดสารอาหารและรักษาสภาวะการเจริญเติบโตที่เหมาะสมสำหรับพืช

โดยรวมแล้ว ปุ๋ยวันเดอร์ส้ม เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรและชาวสวนที่ต้องการเพิ่มผลผลิตสูงสุดและปรับปรุงสุขภาพของพืช การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของจุลินทรีย์ กรดอะมิโน และสารอาหารที่ปลดปล่อยออกมาอย่างช้าๆ ทำให้ได้รับสารอาหารที่สมดุลและยั่งยืน ช่วยให้พืชเติบโตและเข้าถึงศักยภาพสูงสุด

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset

แบรนด์ Basilisk Baserex เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับหนอนกระทู้ในต้นดาวเรือง ศัตรูพืชเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับสวนของคุณ และสิ่งสำคัญคือต้องใช้มาตรการป้องกันเพื่อปกป้องพืชของคุณ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Bacillus เช่น Basilisk Baserex นำเสนอวิธีแก้ปัญหานี้อย่างได้ผล

หนอนผีเสื้อเป็นศัตรูพืชทั่วไปที่สามารถสร้างความหายนะให้กับสวนได้ พวกมันเป็นตัวอ่อนของแมลงเม่าบางชนิด และพวกมันกินลำต้นและใบของพืช โดยมักจะตัดพวกมันที่โคน สิ่งนี้สามารถสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อพืชของคุณ และอาจถึงตายได้ในกรณีที่รุนแรง ดาวเรืองมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษต่อการทำลายของหนอนกระทู้ ทำให้เป็นเป้าหมายในอุดมคติสำหรับศัตรูพืชชนิดนี้

Basilisk Baserex เป็นผลิตภัณฑ์จากบาซิลลัสซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อต่อสู้กับหนอนกระทู้ Bacillus thuringiensis หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Bt เป็นแบคทีเรียที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งผลิตโปรตีนที่เป็นพิษต่อแมลงบางชนิด รวมทั้งหนอนผีเสื้อ เมื่อกินเข้าไป โปรตีนจะโจมตีระบบย่อยอาหารของแมลง ทำให้มันหยุดกินอาหารและตายในที่สุด

ไม่เหมือนกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Bacillus เช่น Basilisk Baserex ปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง และไม่เป็นอันตรายต่อแมลงที่เป็นประโยชน์ เช่น ผึ้งและผีเสื้อ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับชาวสวนที่ต้องการปกป้องพืชของตนในขณะที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

การใช้บาซิลิสก์ Baserex เป็นเรื่องง่าย เพียงผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำตามคำแนะนำบนฉลาก แล้วนำไปใช้กับต้นดาวเรืองของคุณ จากนั้นแบคทีเรียจะถูกพยาธิหนอนกระทู้กินที่พยายามกินพืชของคุณ หยุดการแพร่ระบาดในเส้นทางของมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Bacillus เช่น Basilisk Baserex นั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้ในเชิงป้องกัน นี่หมายถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ก่อนที่หนอนกระทู้จะมีโอกาสรบกวนพืชของคุณ อย่างไรก็ตาม หากคุณสังเกตเห็นความเสียหายของหนอนผีเสื้อในสวนของคุณ ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะดำเนินการ เพียงใช้ผลิตภัณฑ์กับพืชของคุณโดยเร็วที่สุด และตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณของความเสียหายเพิ่มเติม

สรุปได้ว่า Basilisk Baserex เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับการป้องกันและกำจัดหนอนกระทู้ในต้นดาวเรือง สูตรที่มีส่วนผสมของบาซิลลัสเป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับชาวสวนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยความช่วยเหลือของผลิตภัณฑ์เช่น Basilisk Baserex คุณสามารถปกป้องสวนของคุณและเพลิดเพลินไปกับต้นดาวเรืองที่สวยงามและมีสุขภาพดีตลอดทั้งฤดูกาล

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ**

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

การปลูกถั่วฝักยาวให้ได้ผลผลิตสูงสุด: เคล็ดลับและเทคนิค

ถั่วฝักยาวหรือที่เรียกว่าถั่วหน่อไม้ฝรั่งหรือถั่วฝักยาวจีนเป็นผักที่นิยมในหลายส่วนของโลก พวกมันเป็นแหล่งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่ดีและเติบโตได้ง่ายในสภาพอากาศส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดจากต้นถั่วฝักยาวของคุณ คุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำและเทคนิคบางประการ

เลือกความหลากหลายที่เหมาะสม
ถั่วฝักยาวมีหลายสายพันธุ์ และบางพันธุ์ก็เหมาะกับสภาพอากาศและดินบางชนิดมากกว่าพันธุ์อื่นๆ อย่าลืมเลือกพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพท้องถิ่นของคุณ

เตรียมดิน
ถั่วฝักยาวชอบดินที่ระบายน้ำได้ดีและอุดมสมบูรณ์ เตรียมดินโดยใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกก่อนปลูก คุณยังสามารถใส่ปุ๋ยที่ละลายช้าลงในดินได้อีกด้วย

ปลูกในเวลาที่เหมาะสม
ถั่วฝักยาวเป็นพืชฤดูร้อนและควรปลูกหลังจากน้ำค้างแข็งครั้งสุดท้ายในพื้นที่ของคุณ ในภูมิภาคส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิหรือต้นฤดูร้อน ปลูกเมล็ดลึกประมาณ 1 นิ้วและห่างกัน 3 นิ้ว

ให้การสนับสนุน
ต้นถั่วฝักยาวเป็นไม้เลื้อยและต้องการความช่วยเหลือเมื่อมันเติบโต คุณสามารถใช้หลัก ระแนงบังตา หรือโครงสร้างรองรับอื่นๆ เพื่อให้ต้นไม้ตั้งตรงได้

น้ำอย่างสม่ำเสมอ
ถั่วฝักยาวต้องการการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง รดน้ำให้ลึกและสม่ำเสมอ แต่หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไปเพราะอาจทำให้รากเน่าได้

ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ
เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดจากต้นถั่วฝักยาวของคุณ คุณสามารถใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบเช่น FK-1 ปุ๋ยนี้ประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว ซึ่งช่วยให้ปุ๋ยซึมผ่านใบและดูดซึมได้เร็วขึ้น

หากต้องการใช้ FK-1 ให้ผสมปุ๋ย 1 ถุง (50 กรัม) กับน้ำ 20 ลิตร คนให้ละลายแล้วนำไปฉีดพ่นที่ใบของต้นถั่วฝักยาว ทำซ้ำขั้นตอนนี้ทุกๆ 10-14 วันในช่วงฤดูปลูก

เก็บเกี่ยวในเวลาที่เหมาะสม
ถั่วฝักยาวพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีความยาวประมาณ 18-24 นิ้ว และเส้นผ่านศูนย์กลาง ¼-½ นิ้ว เก็บเกี่ยวถั่วเป็นประจำเพื่อกระตุ้นให้พืชผลิตมากขึ้น
โดยสรุปแล้วการปฏิบัติตามคำแนะนำและเทคนิคเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถปลูกถั่วฝักยาวให้ได้ผลผลิตสูงสุด เลือกพันธุ์ที่เหมาะสม เตรียมดิน ปลูกในเวลาที่เหมาะสม ให้การสนับสนุน รดน้ำสม่ำเสมอ ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ และเก็บเกี่ยวในเวลาที่เหมาะสม ด้วยความใส่ใจเพียงเล็กน้อย คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยวถั่วฝักยาวแสนอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการได้มากมาย

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ปุ๋ยเม็ดสกัดวัดเดอร์เขียว เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ปฏิวัติวงการซึ่งใช้เทคโนโลยี 3T ที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อให้พืชได้รับประโยชน์มากมาย ปุ๋ยเม็ดสามชั้นทำงานร่วมกันเพื่อจัดเตรียมโปรแกรมโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลสำหรับพืชหลากหลายชนิด

T1 หรือชั้นจุลินทรีย์ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งทำงานเพื่อปรับปรุงสุขภาพและโครงสร้างของดิน จุลินทรีย์เหล่านี้ช่วยในการย่อยสลายอินทรียวัตถุ เพิ่มความพร้อมของธาตุอาหารสำหรับพืช นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน ลดความจำเป็นในการรดน้ำบ่อยครั้ง

T2 หรือชั้นสารอาหารที่ปลดปล่อยอย่างรวดเร็วนั้นเต็มไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช กรดอะมิโนเหล่านี้ถูกพืชดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีพลังงานเพิ่มขึ้นทันทีและช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง ชั้นนี้เป็นประโยชน์ต่อพืช 18 ชนิดที่แตกต่างกัน ทำให้เป็นทางเลือกที่หลากหลายสำหรับความต้องการในการทำสวนที่หลากหลาย

T3 หรือชั้นสารอาหารที่ปลดปล่อยอย่างช้าๆ ให้การปลดปล่อยสารอาหารอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้ช่วยให้แน่ใจว่าพืชมีแหล่งสารอาหารที่สม่ำเสมอ ทำให้พวกมันเติบโตและเจริญเติบโตได้แม้ในช่วงที่มีความเครียด ธรรมชาติที่ปล่อยออกมาช้าของชั้นนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการใส่ปุ๋ยมากเกินไปซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพืช

โดยรวมแล้ว ปุ๋ยเม็ดวัดเดอร์เขียว เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับชาวสวนที่ต้องการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืชที่ดี เทคโนโลยี 3T ที่เป็นเอกลักษณ์ให้โปรแกรมโภชนาการที่สมบูรณ์และสมดุล ช่วยให้พืชเจริญเติบโตและงอกงาม ไม่ว่าคุณจะปลูกดอกไม้ ผัก หรือไม้ประดับ ปุ๋ยวัดเดอร์เขียว เป็นส่วนเสริมที่ล้ำค่าสำหรับชุดเครื่องมือทำสวนของคุณ

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset

นาข้าวหรือที่เรียกว่านาข้าวเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของหลายประเทศทั่วโลก การจัดการและบำรุงไร่นาเหล่านี้อย่างเหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเก็บเกี่ยวที่ประสบความสำเร็จและอุดมสมบูรณ์ วิธีหนึ่งในการปรับปรุงสุขภาพและผลผลิตของนาข้าวคือการใช้ปุ๋ยเม็ดอะมิโน เช่น ปุ๋ยอะมิโนเม็ดสกัด วันเด้อร์เขียว

ปุ๋ยอะมิโนเม็ดสกัด วันเด้อร์เขียว เป็นปุ๋ยเทคโนโลยี 3T เฉพาะที่มีสารอาหารสามชั้นและจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ ชั้น T1 ประกอบด้วยชั้นจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งช่วยปรับปรุงสุขภาพและโครงสร้างของดิน ชั้น T2 เป็นชั้นสารอาหารที่ปลดปล่อยอย่างรวดเร็วซึ่งให้สารอาหารที่จำเป็นแก่พืชในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ชั้น T3 เป็นชั้นสารอาหารที่ปลดปล่อยอย่างช้าๆ ซึ่งช่วยให้สารอาหารไหลเวียนได้อย่างสม่ำเสมอในระยะเวลาที่นานขึ้น

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของการใช้ ปุ๋ยอะมิโนเม็ดสกัด วันเด้อร์เขียว คือมีกรดอะมิโนมากกว่า 18 ชนิด ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช กรดอะมิโนเหล่านี้ช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งสามารถปรับปรุงสุขภาพและโครงสร้างของดินให้ดียิ่งขึ้น สิ่งนี้สามารถช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนมากขึ้นสำหรับต้นข้าว ทำให้พวกมันเติบโตอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์

นอกจากการปรับปรุงสุขภาพดินแล้ว วันเดอร์ กรีนยังช่วยปรับสมดุลของธาตุอาหารในดินอีกด้วย สิ่งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษในนาข้าว เนื่องจากต้นข้าวมีความต้องการสารอาหารเฉพาะที่ต้องได้รับเพื่อให้พืชเจริญเติบโต ด้วยการใช้ ปุ๋ยอะมิโนเม็ดสกัด วันเด้อร์เขียว เกษตรกรสามารถมั่นใจได้ว่าไร่นาของพวกเขาได้รับส่วนผสมของสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของพืชที่แข็งแรงและสมบูรณ์

ประโยชน์อีกประการของการใช้ ปุ๋ยอะมิโนเม็ดสกัด วันเด้อร์เขียว คือช่วยให้ต้นข้าวทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ดีขึ้น สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคที่เกิดภัยแล้งบ่อยครั้ง เนื่องจากสามารถช่วยให้แน่ใจว่าการเก็บเกี่ยวมีความน่าเชื่อถือและมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ต้นข้าวที่ปลูกด้วยสารวันเดอร์กรีนยังเป็นที่รู้กันว่าผลิตเครื่องไถพรวนได้มากขึ้น ซึ่งเป็นหน่อด้านข้างที่สามารถนำไปสู่การเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์มากขึ้น

ในที่สุด ปุ๋ยอะมิโนเม็ดสกัด วันเด้อร์เขียว ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ต้นข้าวผลิตใบสีเขียวเข้มและรักษาสีเขียวได้ยาวนาน นี่เป็นสัญญาณของพืชที่แข็งแรงและแข็งแรง และสามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่มีคุณค่าสำหรับสุขภาพโดยรวมของพืช

โดยสรุป ปุ๋ยอะมิโนเม็ดสกัด วันเด้อร์เขียว เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงสุขภาพและผลผลิตของนาข้าว เทคโนโลยี 3T ที่เป็นเอกลักษณ์และปริมาณกรดอะมิโนช่วยปรับปรุงความสมบูรณ์ของดิน สร้างสมดุลของสารอาหาร และเพิ่มความทนทานต่อสภาพแห้งแล้ง ส่งผลให้พืชเติบโตแข็งแรงและสมบูรณ์และเก็บเกี่ยวได้มากมาย
สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset

เพลี้ยสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อต้นพริก ลดผลผลิตและส่งผลเสียต่อคุณภาพของพืชผล มีสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหลายชนิดสำหรับควบคุมเพลี้ย แต่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวิธีการอื่นในการควบคุมเพลี้ย อัลคาลอยด์ Maca เป็นทางเลือกหนึ่งดังกล่าว

Maca เป็นผักรากที่เติบโตบนเทือกเขาแอนดีสสูงของเปรู มันถูกใช้มานานนับพันปีสำหรับคุณสมบัติทางยาและเป็นแหล่งอาหาร Maca มีอัลคาลอยด์หลายชนิด รวมทั้ง macamides และ macaene ซึ่งทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการฆ่าแมลง

การวิจัยพบว่าอัลคาลอยด์ Maca มีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ยในพริก ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Agricultural and Food Chemistry นักวิจัยพบว่าสารสกัด maca alkaloid ลดจำนวนเพลี้ยในต้นพริกได้อย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยยังพบว่าสารสกัด maca alkaloid ไม่มีผลเสียต่อต้นพริกเอง

อัลคาลอยด์ Maca ทำงานโดยรบกวนระบบประสาทของเพลี้ย ทำให้เป็นอัมพาตและตาย พวกเขายังคิดว่ารบกวนความสามารถในการสืบพันธุ์ของเพลี้ย อัลคาลอยด์ของ Maca ถือว่าปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

นอกจากคุณสมบัติในการฆ่าแมลงแล้ว ยังพบว่าอัลคาลอยด์ของมาคายังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย มีการแสดงเพื่อปรับปรุงระดับพลังงาน เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และปรับปรุงการทำงานทางเพศ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งสามารถช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ

โดยสรุป Maca alkaloids เป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการควบคุมเพลี้ยในพริก ปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมและมีประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มเติม ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับเกษตรกรและชาวสวนที่ต้องการปกป้องพืชผลของตนโดยไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมหรือตนเอง

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

การปลูกข้าวโพดเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด: การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้าวโพดเป็นพืชสำคัญที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตอาหารทั่วโลก เป็นอาหารหลักในหลายประเทศ และยังใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงเชื้อเพลิงชีวภาพและพลาสติก เพื่อตอบสนองความต้องการข้าวโพดที่เพิ่มขึ้น เกษตรกรจำเป็นต้องใช้วิธีการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่กำหนดผลผลิตของข้าวโพดคือคุณภาพของดิน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสภาพดินที่ดีที่สุด ต้นข้าวโพดก็ยังประสบปัญหาการขาดสารอาหารที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของข้าวโพดได้ นี่คือที่มาของปุ๋ย ปุ๋ยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการให้สารอาหารที่จำเป็นที่พืชต้องการในการเจริญเติบโต

ปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวโพดคือปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ปุ๋ยนี้มีส่วนผสมของสารอาหารที่จำเป็น ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ช่วยเพิ่มผลผลิตได้ถึง 30% ในบางกรณี

ในการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 นั้น เกษตรกรจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวัง FK-1 หนึ่งกล่องหนัก 2 กก. และบรรจุสองถุง ๆ ละ 1 กก. ต้องผสมทั้งสองถุงเพื่อเตรียมสเปรย์ ในการเตรียมส่วนผสม เกษตรกรควรนำถุงแรก 50 กรัม และถุงที่สอง 50 กรัม ผสมกับน้ำ 20 ลิตร คนส่วนผสมจนละลายหมดและพร้อมที่จะฉีดพ่น

ช่วงเวลาที่เหมาะในการฉีดพ่น FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ คือ ในช่วงต้นของการเจริญเติบโตของข้าวโพด นี่คือช่วงที่พืชเปิดรับสารอาหารในปุ๋ยได้มากที่สุด ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็นเมื่ออากาศเย็นและใบไม่เครียด เพื่อให้แน่ใจว่าพืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 แล้ว เกษตรกรควรปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีเพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุด ซึ่งรวมถึงการปลูกข้าวโพดพันธุ์ที่เหมาะสม การเตรียมดินที่เหมาะสม และการควบคุมศัตรูพืชและโรค เมื่อรวมแนวทางปฏิบัติเหล่านี้เข้ากับการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวโพดและรายได้ของพวกเขาได้อย่างมาก

โดยสรุปแล้ว ข้าวโพดเป็นพืชที่จำเป็น และเกษตรกรจำเป็นต้องใช้วิธีการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าที่สำคัญนี้ การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตสูงสุด การปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวังและผสมผสานกับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวโพดและช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารได้

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

อินทผลัมมีความเสี่ยงต่อโรคเชื้อราหลายชนิด รวมถึงโรคใบไหม้และใบจุด ซึ่งสามารถลดผลผลิตและคุณภาพของพืชได้อย่างมาก
_
ไอเอส เป็นสารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติต้านเชื้อราที่รุนแรง ทำงานโดยการรบกวนเยื่อหุ้มเซลล์ของเชื้อรา ซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้สปอร์ของเชื้อรางอกและแพร่กระจายได้ นอกจากนี้ ไอเอส ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์ การใช้ ไอเอส ในการป้องกันกำจัดโรคเชื้อราในอินทผลัม ให้ผสม ไอเอส 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นให้ทั่วต้น สิ่งสำคัญคือต้องฉีดพ่นให้ทั่วถึง ทั้งด้านบนและด้านล่างของใบ เนื่องจากจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของสปอร์ของเชื้อรา
_
FK-1 เป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบที่มีธาตุอาหารหลายชนิด ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี นอกจากนี้ยังมีสารลดแรงตึงผิวซึ่งสามารถช่วยให้สารอาหารซึมผ่านใบไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อใช้ตามที่กำหนด FK-1 สามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชผลได้อย่างมาก รวมทั้งช่วยเพิ่มภูมิต้านทานต่อโรคจากเชื้อรา หากต้องการใช้ FK-1 หนัก 2 กก. เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบ 2 ถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม ต้องผสมใช้พร้อมกับ ตักถุงแรก 50 กรัม และถุงที่สอง 50 กรัม ผสมให้เข้ากันในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นให้ทั่วถึงทั้งใบและลำต้น เนื่องจากจะช่วยให้สารอาหารซึมผ่านใบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
_
การใช้ ไอเอส และ FK-1 ร่วมกันสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตของต้นอินทผลัมได้สูงสุด ในขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันและกำจัดโรคจากเชื้อราได้ เมื่อใช้ตามที่กำหนด สารประกอบอินทรีย์เหล่านี้สามารถช่วยให้แน่ใจว่าอินทผลัมของคุณมีสุขภาพดี มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีคุณภาพสูงสุด

http://ไปที่..link..

เลือกซื้อไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงอีกนิดนะคะ

การปลูกมะละกอให้ได้ผลผลิตสูงสุด: เคล็ดลับและเทคนิคสำหรับเกษตรกร

มะละกอเป็นผลไม้เมืองร้อนที่ขึ้นชื่อว่ามีรสหวานฉ่ำ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นผลไม้ยอดนิยมในหมู่ผู้บริโภค และการปลูกมะละกอสามารถทำกำไรให้กับเกษตรกรได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด เกษตรกรจำเป็นต้องนำเทคนิคและวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมมาใช้ วิธีปฏิบัติอย่างหนึ่งคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ซึ่งมีธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว

ในบทความนี้เราจะพูดถึงเคล็ดลับและเทคนิคในการปลูกมะละกอที่สามารถช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตสูงสุด

การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม: การเลือกพันธุ์มะละกอเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของสวนของคุณ เลือกพันธุ์ที่เหมาะกับภูมิภาคของคุณและมีความต้านทานต่อศัตรูพืชและโรคได้ดี

การเตรียมดิน: ต้นมะละกอต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดีและอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ เตรียมดินโดยใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า pH ของดินอยู่ระหว่าง 6.0 ถึง 6.5

การปลูก: ต้นมะละกอสามารถขยายพันธุ์ได้จากเมล็ดหรือกิ่งตอน ปลูกเมล็ดหรือกิ่งในดินที่เตรียมไว้อย่างดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าต้นไม้วางห่างจากกันอย่างน้อย 8 ฟุต

การชลประทาน: ต้นมะละกอต้องการการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงปีแรกของการเจริญเติบโต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินชื้น แต่ไม่มีน้ำขัง หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไปเพราะอาจทำให้รากเน่าได้

การให้ปุ๋ย: ต้นมะละกอต้องการการใส่ปุ๋ยเป็นประจำเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด ใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพื่อให้ธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ในการเตรียมสารละลาย ให้ผสม FK-1 ทั้งสองถุงในอัตราส่วนถุงละ 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร คนให้ละลายแล้วฉีดพ่นบนพืช

การจัดการศัตรูพืชและโรค: ต้นมะละกออ่อนแอต่อแมลงศัตรูพืชและโรคต่างๆ เช่น แมลงวันผลไม้ ไวรัสจุดวงแหวนมะละกอ และโรคราแป้ง ใช้ยาฆ่าแมลงและสารฆ่าเชื้อราอินทรีย์ในการจัดการศัตรูพืชและโรค

การตัดแต่งกิ่ง: ตัดแต่งต้นมะละกอเป็นประจำเพื่อรักษารูปร่างและขนาด ถอนกิ่งและใบที่เป็นโรคหรือเสียหายออก

กล่าวโดยสรุป การทำฟาร์มมะละกอสามารถทำกำไรให้กับเกษตรกรได้หากนำเทคนิคและวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมมาใช้ การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม การเตรียมดิน การให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ การใส่ปุ๋ย การจัดการศัตรูพืชและโรค และการตัดแต่งกิ่ง เกษตรกรสามารถได้รับผลผลิตสูงสุด การใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ที่มีสารอาหารที่จำเป็นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเร่งการเจริญเติบโตและผลผลิตของต้นมะละกอ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

Maca Alkaloids: วิธีแก้ปัญหาแมลงศัตรูพืชในกระเจี๊ยบเขียวอย่างได้ผล

แมลงศัตรูพืชเป็นปัญหาสำคัญสำหรับเกษตรกรมาโดยตลอด โดยเฉพาะพืชที่ปลูกอย่างกระเจี๊ยบเขียว มีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างแพร่หลายเพื่อควบคุมศัตรูพืชเหล่านี้ แต่การใช้สารเคมีเหล่านี้เป็นเวลานานทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น การดื้อยาและมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม โชคดีที่มีทางเลือกจากธรรมชาติเช่น maca alkaloids ที่สามารถนำมาใช้ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชในกระเจี๊ยบเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อัลคาลอยด์ Maca เป็นอัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติซึ่งได้รับการคัดเลือกอย่างระมัดระวังโดยใช้หลักการทางเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อรวมอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูง อัลคาลอยด์เหล่านี้ได้มาจาก maca ซึ่งเป็นพืชที่เติบโตในเทือกเขา Andean ของเปรู Maca ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายศตวรรษโดยชนพื้นเมืองของเปรูสำหรับคุณสมบัติทางยาของมัน

ข้อดีประการหนึ่งของการใช้มาคาอัลคาลอยด์เป็นยาฆ่าแมลงคือมีวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งหมายความว่าแมลงไม่สามารถปรับความต้านทานต่อสารอัลคาลอยด์ได้ง่ายเท่ากับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช นอกจากนี้ Maca alkaloids ยังไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินหรือน้ำ จึงปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค

ในการใช้ มาคา อัลคาลอยด์เป็นยาฆ่าแมลงสำหรับกระเจี๊ยบ ควรผสมมาคา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรฉีดพ่นทางใบแก่ต้นกระเจี๊ยบทุก 3 วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง เพื่อเป็นการป้องกัน ขั้นตอนนี้ควรทำซ้ำทุกๆ 15-30 วัน

การใช้อัลคาลอยด์ของมะค่าทำให้เกษตรกรสามารถป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชในกระเจี๊ยบเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหรือเสี่ยงต่อการดื้อยา อัลคาลอยด์ของ Maca เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติสำหรับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และการใช้สารเหล่านี้สามารถช่วยให้เกษตรกรผลิตพืชผลที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน