IS: วิธีแก้ปัญหาจากธรรมชาติทั้งหมดสำหรับการยับยั้งเชื้อราและโรคราน้ำค้างในแตงโม

แตงโม ของโปรดในฤดูร้อนและเป็นอาหารหลักของการปิกนิกและบาร์บีคิวในสวนหลังบ้าน ไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั่วไปอย่างหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปลูกแตงโมและผู้บริโภคคือการเติบโตของเชื้อราและโรคราน้ำค้าง ซึ่งอาจทำให้ผลไม้เสียและเสี่ยงต่อสุขภาพได้ ในความพยายามที่จะต่อสู้กับปัญหานี้ นักวิจัยได้พัฒนาสารอินทรีย์ที่เรียกว่า IS ซึ่งได้มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและโรคราน้ำค้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้

จากการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม นักวิทยาศาสตร์ได้ระบุและใช้ประโยชน์จากพลังของส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อสร้าง IS สารอินทรีย์นี้ทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งเชื้อราและโรคราน้ำค้างที่มีประสิทธิภาพ ป้องกันการเจริญเติบโตบนพื้นผิวแตงโมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช IS จะสร้างสภาวะที่ไม่เหมาะสมสำหรับการแพร่กระจายของเชื้อรา ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา และป้องกันความเสียหายต่อพืชผลแตงโม

ข้อได้เปรียบที่สำคัญประการหนึ่งของ IS คือประสิทธิภาพสูงในการดับเชื้อราและโรคราน้ำค้าง การทดสอบอย่างกว้างขวางได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่น่าทึ่งในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราชนิดต่างๆ ที่พบได้ทั่วไปในแตงโม รวมถึงเชื้อราอย่าง Penicillium และ Aspergillus ตลอดจนสิ่งมีชีวิตที่ก่อให้เกิดโรคราน้ำค้าง เช่น Powdery Mildew โซลูชันที่ก้าวล้ำนี้ช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมมีเครื่องมืออันทรงพลังในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อราและปกป้องพืชผลของพวกเขา

นอกจากนี้ IS ยังเพิ่มประสิทธิภาพโดยปรับปรุงการยึดเกาะกับพื้นผิวใบของพืช ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีขั้นสูง การกำหนดสูตรของ IS ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการยึดเกาะที่ดีขึ้น ทำให้สามารถสร้างเกราะป้องกันบนใบแตงโมได้ สิ่งกีดขวางนี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันเชื้อราและโรคราน้ำค้าง ป้องกันสิ่งที่แนบมาและการเจริญเติบโตที่ตามมา ด้วยการเกาะที่ผิวใบพืชอย่างมีประสิทธิภาพ IS ให้การปกป้องที่ยาวนาน เพื่อให้แน่ใจว่าแตงโมยังคงแข็งแรงและปราศจากการปนเปื้อนของเชื้อราตลอดวงจรการเจริญเติบโต

นอกเหนือจากประสิทธิภาพที่น่าประทับใจแล้ว IS ยังโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัย สารอินทรีย์นี้มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ปลูกและผู้บริโภค ซึ่งแตกต่างจากสารฆ่าเชื้อราที่ใช้สารเคมีทั่วไป IS ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพหรือทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายไว้บนผิวแตงโม เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสุขภาพ

การพัฒนา IS ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อราและโรคราน้ำค้างในการผลิตแตงโม ด้วยการควบคุมพลังแห่งธรรมชาติ นักวิจัยได้สร้างโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้ สารอินทรีย์นี้ไม่เพียงให้การป้องกันเชื้อราและโรคราน้ำค้างที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังสนับสนุนการปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืน

ขณะนี้ผู้ปลูกแตงโมสามารถพึ่งพา IS เพื่อปกป้องพืชผลของพวกเขาและรับประกันการเก็บเกี่ยวผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพและปราศจากรามากมาย นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสามารถเพลิดเพลินกับแตงโมได้อย่างสบายใจ เพราะรู้ว่าแตงโมปราศจากเชื้อราที่เป็นอันตรายและปลูกด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคและธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัว IS จึงนำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสำหรับอุตสาหกรรมแตงโม IS ปูทางไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพ โดยให้ความสำคัญกับทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ปลูก ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

การกำจัดหนอนที่รบกวนพืชทุกชนิดสามารถทำได้โดยใช้วิธีการต่างๆ ตามลักษณะของหนอนและพืชที่ถูกทำลาย

วิธีการกำจัดหนอนในพืชทุกชนิดที่คุณสามารถลองใช้:

การใช้สารเคมี:

ใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อหนอน เช่น พิริมิฟอส-เมทิล คลอร์พีรีฟอส แลมบ์ดาไซด์ ฟิโพรนิล ฯลฯ โดยทำตามคำแนะนำที่ระบุในฉลากของสารเคมี และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย ควรสลับใช้สารเคมีเพื่อป้องกันการดื้อยาของหนอน

การใช้วิธีชีวภาพ:

ใช้เชื้อราบาซิลลัสไทูริงเจนิส (Bacillus thuringiensis) ซึ่งเป็นสารชีวภาพที่ถูกต้องในการกำจัดหนอนแมลงวันและหนอนผีเสื้อ
ใช้แตนเนียเลา (Trichogramma) ซึ่งเป็นแมลงมวนที่สามารถกินไข่ของหนอนผีเสื้อ
ใช้แมลงพาหะเช่น เพลี้ยกระโดด หรือมดเพื่อกินไข่หรือตัวอ่อนของหนอน

การใช้วิธีการทางกล:

ใช้ตาข่ายกันแมลงวันหรือกับดักกาวสีเหลืองเพื่อดักจับหนอนแมลงวัน
ใช้วิธีการตัดแต่งพืชโดยตัดต้นหรือใบที่มีการทำลายออก เพื่อลดโอกาสให้หนอนมีที่อยู่
ใช้กับดักแสง UV ในการดักจับหนอนชอนใบหรือหนอนผีเสื้อที่มีการกลายพันธุ์ใกล้พื้นผิวดิน

การใช้สมุนไพร:

ใช้สมุนไพรเช่น ข่า กระเทียม พริกไทย หอมแดง เป็นต้น โดยผสมน้ำและใช้พ่นพืชเพื่อไล่หนอน

การบำรุงและดูแลพืช:

ให้พืชมีสุขภาพดีโดยให้ปุ๋ย_ น้ำ_ และการดูแลรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้พืชแข็งแรงและต้านทานต่อโรคและแมลง
ควรจะเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและพืชที่คุณปลูก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการกำจัดหนอนในพืชของคุณ

การป้องกันและกำจัดหนอนในพืช ทำได้โดยการตรวจสอบดูแลแปลงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อตรวจหนอนศัตรูพืช เร่งใช้ยาฉีดพ่น เพื่อป้องกันกำจัด ไม่ให้ลุกลามสร้างความเสียหายมากขึ้น
ไอกี้-บีที เป็นสารชีวินทรีย์ ป้องกัน กำจัด หนอนศัตรูพืช ในพืชทุกชนิด

สั่งซื้อ ไอกี้-บีที ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..

หรือ โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

เมื่อต้นมะนาวขาดธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และ โพแทสเซียม (K) อาจเกิดอาการผิดปกติที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของมะนาวได้ หากไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ มะนาวจะแสดงอาการใบเหลืองและเล็กลง โดยที่ผลมะนาวก็อาจไม่โตใหญ่เต็มที่ และรสชาติของมะนาวก็อาจเป็นกรดเกินไป

FK-1 เป็นปุ๋ยที่มีส่วนประกอบของธาตุอาหารพืชที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของมะนาว ประกอบด้วยไนโตรเจน (N) ที่ช่วยในกระบวนการสร้างโปรตีนและเยื่อหุ้มใบ ฟอสฟอรัส (P) ที่เสริมสร้างระบบรากและเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการพลังงาน และโพแทสเซียม (K) ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง

นอกจากนี้ยังมีธาตุอาหารอื่น ๆ ที่สำคัญอย่างมาก เช่น แมกนีเซียม (Mg) ที่เสริมให้ใบมะนาวสีเขียวสดใส และสังกะสี (Zn) ที่มีบทบาทในกระบวนการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และการเจริญเติบโตของพืช

ดังนั้น การให้มะนาวปุ๋ย FK-1 จะช่วยให้มะนาวเจริญเติบโตสมบูรณ์ มีผลผลิตที่ดี และมีคุณภาพที่สูงสุด การดูแลและให้สารอาหารที่เหมาะสมให้กับมะนาวนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพื่อให้ได้มะนาวที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุดในการบริโภคและการนำไปใช้ปรุงอาหารต่าง ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยในการบริโภค

.
🫗ใช้ได้ 2 วีธี ฉีดพ่นทางใบ หรือราดลงโคน เพื่อเร่งการเจริญเติบโต เสริมสร้างภูมิต้านทาน
.
💦อัตราผสมใช้ FK-1
» เมื่อแกะกล่อง FK-1 จะพบ 2 ถุง บรรจุถุงละ 1กิโลกรัม
» ต้องผสมทั้งสองถุงใช้พร้อมกัน (ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สองเป็นธาตุเสริม)
» ตักถุงแรก 25-50กรัม ถุงที่สอง 25-50กรัม ผสมลงในน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นพืช
» (25กรัม เท่ากับประมาณ 2ช้อนโต๊ะ)
.
💲ราคาสินค้า
FK-1 ราคา 890บ. เร่งโต เร่งราก เร่งดอก พืชทุกชนิด
✈จัดส่งฟรี kerry ด่วน เก็บเงินปลายทาง
.
📌สั่งซื้อ สอบถาม

» Line@ ID: @FarmKaset หรือคลิกแอดไลน์ http://ไปที่..link.. .
» โทร 090-592-8614
.
🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้ TikTok
.
» ซื้อFK-1 ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อFK-1 ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อFK-1 ที่TikTok: http://ไปที่..link..

เกษตรกร จ.พิจิตร ตัดสินใจเลิกทำนาใช้พื้นที่ 7 ไร่ ปลูกอินทผลัมใช้เวลา 2 ปีเศษ ปัจจุบันมีผู้สั่งจองขอซื้อผลผลิตจำนวนมาก คาดรายได้ไม่ต่ำกว่าหลักล้านบาท

ชาตรี อ๊อดหมี “ตั๊ก” อายุ 58 ปี ซึ่งทำแปลงปลูกอินทผลัม อยู่ที่หมู่ 9 ต.สากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร บนพื้นที่ 7 ไร่ ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ทำนาปลูกข้าว จากนั้นปรับเปลี่ยนมาปลูกอินทผลัม ทั้งหมดประมาณ 230 ต้น ปลูกระยะ 6 X 6 เมตร เป็นอินทผลัมสายพันธุ์ “บาร์ฮี” หรือ “บัรฮี” เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับการทานผลสดโดยเฉพาะ มีแหล่งกำเนิดในประเทศอิรัก ปัจจุบันมีการปลูกกันแพร่หลายในหลายประเทศ กล่าวกันว่า พันธุ์บาร์ฮี เป็น "แอปเปิ้ลแห่งตะวันออกกลาง"

ชาตรี เล่าว่า ได้ไปดูงานนิทรรศการที่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ เกิดความสนใจจึงได้ลงทุนซื้อต้นพันธุ์อินทผลัมเพาะเนื้อเยื่อมาจำนวน 118 ต้น ต้นละ 1_200 บาท อีก 112 ต้น เป็นพันธุ์ที่เพาะเมล็ด พันธุ์แม่โจ้ 36 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ไทย ราคาต้นละ 250 บาท พร้อมทั้งลงทุนขุดสระน้ำเอาดินมาถมพื้นที่นา 7 ไร่ ให้เป็นแปลงปลูกอินทผลัม ลงทุนครั้งแรกประมาณ 3-4 แสนบาทเศษ บริหารจัดการใช้ระบบการให้น้ำแบบปล่อยน้ำด้วยระบบท่อใส่ต้นทุกต้น การให้ปุ๋ยพื้นที่ 7 ไร่ 2 ปี ที่ผ่านมาใช้ปุ๋ย 10 กว่ากระสอบเท่านั้น

นอกจากนี้ เฝ้าระวังเรื่องโรคแมลงและหนูนาที่ชอบมากัดกินผลผลิต วิธีป้องกันจะห่อช่อของอินทผลัมด้วยผ้ารี่หรือผ้าตาข่ายพลาสติกแล้วห่อด้านนอกซ้ำด้วยกระดาษฟอยด์ ซึ่งจะห่อในช่วงที่อินทผลัมเริ่มออกช่อและผสมเกสรประมาณเดือน ก.พ.ของทุกปี และต้องมีการตัดแต่งผลเพื่อให้ลูกโตได้ขนาดตามความต้องการ ขณะนี้ปลูกมาเป็นระยะเวลา 2 ปีเศษ ผลผลิตรุ่นแรกที่จะเก็บขายสร้างรายได้ คือราวกลางเดือน ก.ค. 2561

สำหรับเรื่องการตลาดขณะนี้มีผู้สนใจมาจับจองซื้อถึงหน้าสวน โดยจ่ายเงินล่วงหน้ามัดจำไว้แล้วก็มี ซึ่งก็เป็นพ่อค้าและแม่ค้าจาก จ.ปัตตานี นครนายก และ จ.สระบุรี สำหรับราคาซื้อขายเปิดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท พื้นที่ 7 ไร่ ใช้เวลา 2 ปี ปลูกอินทผลัม 230 ต้น ต้นหนึ่งได้ผลผลิตประมาณ 20 กิโลกรัม ดังนั้นจึงคาดว่าจะได้เงินจากการขายผลผลิตอินทผลัมในรุ่นแรกนี้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาทเศษ ซึ่ง 1 ปี เก็บผลผลิตได้ 1 ครั้ง ดีกว่าการทำนาหลายเท่าตัว

กิตติชาติ ชาติยานนท์ เกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เกษตรกรรายนี้ถือได้ว่าเป็นผู้มีแนวคิดและใฝ่รู้ศึกษาในการปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวหันมาปลูกอินทผลัม ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่ชาวตะวันออกกลางหรือชาวมุสลิมนิยมบริโภค แต่ขอให้คำแนะนำกับเกษตรกรท่านอื่นๆ ที่สนใจหรือจะทำตามว่า ขอให้ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งนี้เพื่อลดอัตราความเสี่ยง ซึ่งถ้าหากสนใจสำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตรก็พร้อมจะเป็นพี่เลี้ยงหรือที่ปรึกษาให้ในเรื่องการทำเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP)

สำหรับข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับอินทผลัม ก็คืออินทผลัม เป็นผลไม้ที่ไม่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ นอกจากนี้เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามิน A_ วิตามิน B1_ วิตามิน B2_ วิตามิน B6_ วิตามิน K_ แคลเซียม_ ซัลเฟอร์_ เหล็ก_ โพแทสเซียม_ ฟอสฟอรัส_ แมงกานิส_ แมกนีเซียม และน้ำมันโวลาไทล์ แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในการลดอาการท้องผูก

ข้อมูลจาก posttoday.com/economy/sme/563538

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่กำจัดรากเน่าและโคนเน่าในมะละกอ

ในโลกของเกษตรกรรม แมลงศัตรูพืชและโรคเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อการผลิตพืชผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อราสามารถสร้างความหายนะให้กับพืช ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น รากเน่าและโคนเน่า โรคเหล่านี้มีชื่อเสียงในด้านผลกระทบร้ายแรงต่อต้นมะละกอ นำไปสู่การเติบโตแคระแกรน ผลผลิตลดลง และแม้กระทั่งต้นตาย อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณการวิจัยและพัฒนาที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ทำให้เกิดความก้าวหน้าในรูปแบบของ IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด

IS ย่อมาจาก "Inhibitor Solution" ได้รับการพัฒนาโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการคัดเลือกวัตถุดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อควบคุมและยับยั้งเชื้อรา ทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง IS ได้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของเชื้อรา สารต้านเชื้อราอินทรีย์นี้ไม่เพียงแต่กำจัดโรครากเน่าและโคนเน่าในมะละกอเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความต้านทานของพืชต่อการติดเชื้อราอีกด้วย

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือความสามารถในการยึดติดกับพื้นผิวใบพืชได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยการสร้างเกราะป้องกันบนใบ IS จะป้องกันการเข้ามาและการก่อตัวของเชื้อราที่ก่อโรค ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยปกป้องสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของต้นมะละกอ กลไกการทำงานแบบใหม่นี้ทำให้ IS แตกต่างจากสารต้านเชื้อราทั่วไปที่มักต้องใช้ซ้ำบ่อยๆ และอาจมีความเสี่ยงต่อทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม

IS คิดค้นขึ้นโดยใช้ส่วนผสมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด คัดสรรมาอย่างดีสำหรับคุณสมบัติในการต้านเชื้อรา ส่วนผสมเหล่านี้มาจากแหล่งอินทรีย์ที่ยั่งยืน ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ยังคงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิต ด้วยการใช้พลังจากธรรมชาติ IS ขจัดความจำเป็นในการใช้สารฆ่าเชื้อราสังเคราะห์ ลดการสัมผัสสารเคมี และส่งเสริมระบบนิเวศการเกษตรที่ดีต่อสุขภาพ

นอกจากนี้ IS ยังผ่านการทดสอบและประเมินผลอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัย การทดลองภาคสนามอย่างกว้างขวางได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่นในการควบคุมโรครากเน่าและโคนเน่าในมะละกอ ลดการสูญเสียผลผลิตให้น้อยที่สุดและเพิ่มผลผลิตพืชผลให้ได้สูงสุด นอกจากนี้ IS ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นพิษต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

การใช้ IS ไม่เพียงแต่ให้วิธีแก้ปัญหาแบบออร์แกนิกในการต่อสู้กับการติดเชื้อราเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การนำระบบ IS มาใช้ในการปลูกมะละกอ เกษตรกรสามารถลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดเชื้อราและช่วยให้ระบบอาหารมีสุขภาพดีขึ้น นอกจากนี้ การลดสารเคมีตกค้างบนผลมะละกอยังช่วยเพิ่มความสามารถทางการตลาด ดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพซึ่งให้ความสำคัญกับผลผลิตจากธรรมชาติที่ปราศจากยาฆ่าแมลง

โดยสรุป IS แสดงถึงความสำเร็จครั้งสำคัญในการต่อสู้กับโรครากเน่าและโคนเน่าในมะละกอ ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม ทำให้สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงได้ถูกสร้างขึ้น โดยใช้พลังของวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด ด้วยการควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช IS จะสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ขณะเดียวกันก็รับประกันการยึดเกาะและความปลอดภัยที่เหมาะสม ด้วยระบบ IS เกษตรกรผู้ปลูกมะละกอสามารถปกป้องพืชผลของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มผลผลิต และมีส่วนร่วมในอนาคตทางการเกษตรที่ยั่งยืนและมีสุขภาพดี

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

โรคใบจุด เชื้อสาเหตุ เกิดจากเชื้อรา โรคใบจุดมันหวานญี่ปุ่น ลักษณะอาการ เริ่มต้นใบจะเป็นจุดสีน้ำตาลแก่ขนาดเล็ก แล้วแผลนี้จะค่อยๆลุกลามขยายใหญ่ออก เมื่อโรครุนแรงมากขึ้น แผลจะชนกันมองดูคล้ายๆกับอาการใบไหม้ แต่ลักษณะใบไหม้ของโรคนี้ เป็นลักษณะของการใบไหม้แบบแห้งกรอบ โรคนี้มักระบาดในสภาพที่มีความชื้นสูง และอากาศไม่เย็นนัก

โรครากเน่าโคนเน่า โรคเชือราเมล็ดผักกาด และโรคหัวมันเน่า สาเหตุ เกิดจากเชื้อราหลายชนิด โรคหัวมันหวานญี่ปุ่นเน่า ที่เกิดจากเชื้อราเข้าทำลายทางบาดแผล บาดแผลจะมีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงดำ เมื่อผิวแก่จะแข็งกระด้าง

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย 'การควบคุมประจุไฟฟ้า' สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

เชื้อราเข้าทำลายในระยะดอกตูม ดอกจะไม่สามารถบานได้ กรณีเชื้อราเข้าทำลายรุนแรงในระยะที่ดอกบานแล้ว เชื้อราจะขยายลุกลามไปสู่ต้น ทำให้ต้นเน่าและยืนต้นตายในที่สุด
ในระยะดาวเรืองติดดอก โดยจะแสดงอาการเริ่มแรกที่กลีบดอกมีลักษณะฉ่ำน้ำ ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลจากปลายกลีบดอกไปหาโคนดอก จากนั้นจะเน่าลุกลามเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทั่วทั้งดอก ทำให้ดอกดาวเรืองเสียคุณภาพ


ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย การควบคุมประจุไฟฟ้า สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และ ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

FK-1 ประกอบด้วย
✅ไนโตรเจน
✅ฟอสฟอรัส
✅โพแทสเซียม
✅แคลเซียม
✅แมกนีเซียม
✅สังกะสี
✅สารจับใบ

แก้วมังกรหรือที่เรียกว่าพิทยาเป็นผลไม้เมืองร้อนที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นทั่วโลก เนื่องจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ คุณค่าทางโภชนาการ และประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับพืชชนิดอื่นๆ ต้นแก้วมังกรสามารถเสี่ยงต่อเพลี้ยได้ ซึ่งสามารถทำลายใบ ดอก และผลของพืช และทำให้ผลผลิตลดลง

มาคา เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถป้องกันและกำจัดเพลี้ยได้หลายชนิด รวมทั้งตัวที่รบกวนต้นแก้วมังกรด้วย มันทำงานโดยทำลายระบบประสาทของแมลงจนนำไปสู่ความตาย นอกจากนี้ MAKA ยังสามารถบำรุงพืชด้วย FK-1 ซึ่งเป็นปุ๋ยที่ให้ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อต้นแก้วมังกร

การใช้ MAKA และ FK-1 เพื่อป้องกันและกำจัดเพลี้ยในต้นแก้วมังกร ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

ผสม MAKA 50cc ต่อน้ำ 20 ลิตร คนส่วนผสมให้เข้ากันเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมกระจายตัว

เมื่อเปิดกล่อง FK-1 คุณจะพบสองถุง ถุงแรกเป็นธาตุหลักซึ่งประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ถุงที่สองเป็นธาตุเสริมประกอบด้วยแมกนีเซียมและสังกะสีและสารลดแรงตึงผิว

ใช้ถุงแรก 50 กรัม และถุงที่สอง 50 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร คนส่วนผสมให้เข้ากันเพื่อให้แน่ใจว่าปุ๋ยกระจายตัวทั่วถึง

ใช้ส่วนผสมของ MAKA และ FK-1 ฉีดพ่นใบและลำต้นของต้นแก้วมังกร โดยเน้นที่บริเวณที่มีเพลี้ย

ทาซ้ำทุกๆ 7 ถึง 14 วัน หรือตามความจำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มเติม

นอกจากการใช้ MAKA และ FK-1 แล้ว ยังมีมาตรการป้องกันอื่นๆ อีกหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อปกป้องต้นแก้วมังกรของคุณจากเพลี้ย เหล่านี้รวมถึง:

การตัดแต่งกิ่ง: ถอนกิ่ง ใบ หรือดอกที่ถูกทำลายหรือถูกทำลายออกจากต้น

การตรวจสอบ: ตรวจสอบต้นแก้วมังกรเป็นประจำเพื่อหาสัญญาณของเพลี้ยรบกวน เช่น ใบม้วนงอ กากเหนียว และการเจริญเติบโตบิดเบี้ยว

เมื่อปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นและใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม คุณสามารถช่วยให้ต้นแก้วมังกรแข็งแรงและให้ผลผลิตได้ ด้วยการใช้ MAKA และ FK-1 คุณสามารถป้องกันและกำจัดเพลี้ยและให้สารอาหารที่จำเป็นแก่ต้นแก้วมังกรในการเจริญเติบโต