<กลับหน้าค้นข้อมูล แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย

การปลูกมันสำปะหลัง การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตดี

1.46.167.149 2563/06/05 10:07:34 , View: 4140, e
การปลูกมันสำปะหลัง การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตดี

มันสำปะหลัง Manihot esculenta Crantz เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย นอกจากจะเป็นผู้ผลิตมันสำปะหลังได้มากเป็นอันดับที่สามของโลก รองจากประเทศ ไนจีเรีย และบราซิล ยังเป็นประเทศผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นอันดับหนึ่งของโลก และนำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 30_000 ล้านบาท เนื่องจากมันสำปะหลังเป็นพืชของขวัญของเกษตรกรไทย เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่ายแม้ดินจะไม่ดี ทนต่อความแห้งแล้ง ปัญหาโรคแมลงมีน้อย หัวสดมีตลาดรองรับแน่นอน การขุดเก็บเกี่ยวไม่ขึ้นกับฤดูกาล สามารถจะชะลอการเก็บเกี่ยวได้

จากการสำรวจมันสำปะหลังจะเห็นได้ว่า ผลผลิตหัวมันสดเฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้นไม่มากในปี 2547/2548 2548/2549 เฉลี่ยต่อไร่ (2_749และ 2_921กิโลกรัม)

จากการสำรวจการปลูกมันสำปะหลังประจำปี 2550/2551 ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 7_302_960 ไร่ ผลผลิตต่อไร่ 3_782 ตัน ผลผลิตรวม 27_618_763 ตัน เปรียบเทียบกับ ปีประจำปี 2549/2550 ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 7_201_243 ไร่ ผลผลิตต่อไร่ 3_668 ตัน ผลผลิตรวม 26_411_233 ตัน

พื้นที่เก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น 1.41% ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น 3.11% และผลผลิตรวมเพิ่มขึ้น 4.57% (มูลนิธิพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย_ 2550) แม้ในปัจจุบัน จะมีการขยายพื้นที่มันสำปะหลังพันธุ์ดีสู่เกษตรกรไปมากแล้วก็ตาม สาเหตุหลักเนื่องจากดินเสื่อมโทรม ทำให้ผลผลิตต่ำแม้ใช้มันสำปะหลังพันธุ์ดีเนื่องจากเกษตรกรไม่นิยมปรับปรุงบำรุงดิน

การเพิ่มผลผลิตโดยรวมของประเทศ จึงมาจากการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้นมากกว่า ในการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังต่อไร่เพิ่มขึ้นนั้น เกษตรกรสามารถทำได้ 3 วิธีร่วมกันคือ

- การจัดการดินดี
- การใช้พันธุ์ดีที่เหมาะสมกับดินและพื้นที่
- การปฏิบัติดูแลรักษาดี

ก็จะช่วยให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น ปัญหาของเกษตรกรผู้ผลิตมันสำปะหลังคือ ดินเสื่อมโทรมจะเป็นปัญหาอันดับหนึ่ง จึงจำเป็นต้องหาหนทางในการปรับปรุงสมบัติทางกายภาพของดิน และการบำรุงรักษาดิน และการดูแลรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินให้สูงอยู่เสมอ จะช่วยให้ผลผลิตหัวสดต่อไร่สูงขึ้นกว่าในปัจจุบัน เนื่องจากศักยภาพของพันธุ์มันสำปะหลังพันธุ์ใหม่ ถ้าเกษตรกรมีการปฏิบัติดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ได้ผลผลิตสูงเฉลี่ยต่อไร่ 5-10 ตันต่อไร่ได้ เนื่องจากการผลิตมันสำปะหลังในปัจจุบัน แม้ราคาจำหน่ายหัวมันสดจะสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละกว่า 2.50 บาท แต่ปัจจัยการผลิตต่างๆ ก็แพงขึ้นตามตัวไม่ว่าจะราคาน้ำมัน (ดีเซล) ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปุ๋ยเคมี สารกำจัดวัชพืช ค่าแรงงาน ทำให้ต้องมองหาวิธีการลดต้นทุนปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ยเคมี มีราคาแพงถึงกระสอบละ 1_000 กว่าบาทนั้น ต้องมองหาแหล่งปุ๋ยอินทรีย์ ที่นับวันจะหาอยากเพื่อจะนำมาใช้ทั้งโดยตรง และร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีที่ใช้อัตราต่ำลง แต่ยังคงให้ผลผลิตคุ้มกับการลงทุน

ในปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหากับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและน้ำมันิบมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การหาแหล่งพลังงานใหม่เข้ามาทดแทนการนำเข้าน้ำมันดิบ จากวัตถุดิบทางการเกษตรที่สามารถผลิตได้เองภายในประเทศ จะช่วยให้เกิดความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ อย่างยั่งยืน สถานภาพวัตถุดิบที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเอทานอล สามารถผลิตได้จากพืชจำพวกแป้งและน้ำตาล เมื่อนำมาผสมกับน้ำมันเบนซินในอัตราส่วน 20% จะได้น้ำมันที่เรียกว่า แก๊ซโซฮอล์ (Gasohol) โดยวัตถุดิบทางการเกษตรในประเทศไทยที่มีศักยภาพสูงสำหรับการผลิตเอทานอลได้แก่ อ้อย กากน้ำตาล และมันสำปะหลัง

จากการวิจัยและพัฒนาพบว่า วัตถุดิบที่เหมาะสมที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตเอทานอล คือมันเส้นเมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุชนิดอื่นๆ การใช้วัตถุดิบจากมันสำปะหลังจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้มันน้อยที่สุด ทั้งนี้พิจารณาถึงความสามารถและกำลังการผลิตหัวมันสำปะหลังซึ่งในปัจจุบัน ผลผลิตหัวสดมีปริมาณไม่เพียงพอในการผลิตแป้ง ในปัจจุบัน และราคาหัวมันสดที่สูงถึงกว่า 2.50 บาท จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตเอธานอลที่ไม่คุ้มกับการลงทุน เนื่องจากปัญหาจำนวนผลผลิตส่วนใหญ่ใช่ในอุตสาหกรรมอาหาร จึงมีผลผลิตไม่เพียงพอในการนำไปผลิตพลังงานทดแทน หากจะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้นเป็นเรื่องจำเป็น

การปฏิบัติในการปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตและปริมาณแป้งในมันสำปะหลัง เพื่อรองรับทางด้านพลังงานสามารถทำได้ดังนี้

1. การเตรียมดินดี ดินเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญในการปลูกพืช ดินที่ปลูกจะต้องมีความอุดมสมบูรณ์ที่เหมาะสมในการปลูกมันสำปะหลังส่วนใหญ่จะปลูกในดินร่วนปนทราย ในสภาพพื้นที่ลอนลาด เนินเขาต่างๆ ในการปฏิบัติส่วนใหญ่หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จในช่วงต้นฤดูฝน ถ้าทำการปลูกต่อจะไถพื้นที่ด้วยรถไถผาล 3 หรือเรียกว่าไถดะ เพื่อไถหมักต้นและใบสดที่ทิ้งในแปลง รวมทั้งวัชพืชที่ขึ้นในแปลงโดยทิ้งไว้ประมาณ 15-20 วัน เพื่อหมักให้วัชพืชเน่าเปื่อย หากจะบำรุงดินโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ หรือสารปรับปรุงดิน เช่น ยิบซั่ม ก็ทำการหว่านให้ทั่วทั้งแปลง เมื่อดินมีความชื้นเพียงพอก็ทำการไถอีกครั้งด้วยรถไถผาล 7 เรียกว่าไถแปร ถ้าหากปลูกแบบพื้นราบก็ทำการปลูกได้เลยโดยการใช้เชือกทำเครื่องหมาย
ระยะปลูกให้เหมาะสมในแต่ละสภาพพื้นที่ หากในบางพื้นที่ก็ทำการยกร่องปลูกก็ขึ้นกับสภาพพื้นที่

2. ปรับปรุง และบำรุงดิน ปัจจุบันพันธุ์มันสำปะหลัง เทคโนโลยีการผลิตนั้น ประเทศไทยถือได้ว่ามีความก้าวหน้ามากที่สุดประเทศหนึ่ง ในประเทศผู้ปลูกมันสำปะหลังในโลกปัจจุบัน แต่ปัญหาใหญ่ของเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทยคือ ปัญหาเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ต่ำ ทำให้ผลผลิตหัวสดเฉลี่ยของเกษตรและของประเทศ ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำประมาณ 2.5-3.0 ตันต่อไร่ (ปี 2549/50 3.7 ตันต่อไร่) แม้เกษตรกรจะใช้มันสำปะหลังพันธุ์ที่ใหม่และให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 5-10 ตันต่อไร่ก็ตาม แต่หากไม่มีการปรับปรุงบำรุงดินให้ดีก็คงจะได้ผลผลิตสูงได้ยาก

การปรับปรุงบำรุงดินเป็นสิ่งจำเป็นในการปลูกมันสำปะหลัง หากจะปลูกแล้วให้มีกำไรและให้ผลผลิตอย่างยั่งยืน ปัจจุบันเกษตรกรนิยมใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้แก่ ปุ๋ยมูลไก่ มูลสุกร มูลโค หรือมูลสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่หาได้โดยใส่อัตราประมาณ 500 – 1_000 กก./ไร่ หรือปุ๋ยอื่น ๆ ที่หาได้ในท้องถิ่น เช่นนอกจากนั้นยังสามารถใช้วัสดุเหลือทิ้งจากโรงงานที่สามารถนำมาใช้โดยตรง เช่น เปลือกมันสำปะหลังจากโรงงานแป้งมันสำปะหลังที่ทิ้งหมักไว้แล้ว วัสดุเหลือทิ้งจากโรงงานผงชูรส เป็นต้น การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปรับปรุงบำรุงดิน ต้องใส่่ในปริมาณที่มาก เนื่องจากปุ๋ยอินทรีย์ส่วนใหญ่มีปริมาณธาตุอาหารที่ต่ำ และการปลดปล่อยธาตุอาหารก็ช้า และต้องใช้เวลาในการใช้จึงจะเห็นผลจำเป็นต้องใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมี
จึงจะเกิดประโยชน์และช่วยให้ผลผลิตสูงขึ้น

ในกรณีปลูกพืชปุ๋ยสดเพื่อทำเป็นปุ๋ยพืชสดบำรุงดินเป็นเรื่องที่ดีในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติแม้ผลการทดลอง จากการใช้ปุ๋ยพืชสดร่วมกับการปลูกมันสำปะหลังได้ผลผลิตหัวสดสูงขึ้น แต่การขยายผลจากงานทดลองสู่เกษตรกรยังไม่มีการตอบรับจากเกษตรส่วนใหญ่ เนื่องจากเกษตรกรมีทุนในการปลูกมันสำปะหลังน้อยอยู่แล้ว การไถแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนสูงขึ้นจึงไม่ได้รับการยอมรับ

ประภาสและคณะ ศึกษาการใช้แคลเซียมซัลเฟต (CaSo4.2H2O) หรือยิบซั่มซึ่งเป็นสารปรับปรุงดินที่มีธาตุแคลเซี่ยม(Ca) และกำมะถัน(S) เป็นองค์ประกอบหลักใส่ในการปลูกมันสำปะหลัง ร่วมกับปุ๋ยเคมีและปุ๋ยมูลไก่ ทั้งในช่วงต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝนโดยในชุดดินวาริน ทำการศึกษาโดยใช้มันสำปะหลังพันธุ์ เกษตรศาสตร์ 50 ระยอง 72 และพันธุ์ห้วยบง 60 ส่วนชุดดินมาบบอนใช้มันสำปะหลังพันธุ์ห้วยบง 60 และพันธุ์ระยอง 5 ทั้งต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝนเป็นเวลา 3 ปี

จากผลการทดลองในดินชุดวาริน ในอำเภอด่านขุนทดจังหวัดนครราชสีมา และชุดดินมาบบอนในอำเภอพนมสารคามจังหวัดฉะเชิงเทรา ในการทดลองทั้งสองชุดดินที่มีสภาพเป็นดินร่วนปนทรายสามารถยกระดับผลผลิตเพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน ก็เป็นทางเลือกที่เกษตรกรจะพิจารณาใส่ในการปลูกมันสำปะหลัง เนื่องจากปัญหาราคาปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงมาก

3. การวางแผนการปลูกให้เหมาะสมกับฤดูกาล

ปลูกปลายฤดูฝน
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือช่วงเดือนตุลาคม ไม่ควรเกินวันที่ 10 พฤศจิกายน ในภาคตะวันออกตั้งแต่เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ การปลูกมันสำปะหลัง ในช่วงปลายฤดูฝนความสม่ำเสมอในการเจริญเติบโตของมันสำปะหลังจะต่ำกว่าการปลูกในช่วงต้นฤดูฝน เนื่องจากการปลูกปลายฤดูฝนมันสำปะหลังจะติดแล้ง ในช่วงระยะแรกของการเจริญเติบโตอายุ 3-4 เดือน การปลูกในช่วงปลายฤดูฝนจึงแนะนำให้ปลูกในพื้นที่ดินเป็นทรายหรือร่วนปนทราย ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ดินค่อนข้างเหนียว ซึ่งเมื่อกระทบแล้งมันสำปะหลังจะตายมาก และมีในภาคตะวันออกอาจจะเริ่มปลูกตั้งแต่เดือนตุลาคม – มกราคม เนื่องจากสภาพดินส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนทรายและหากมีการไถดะให้ลึกเพื่อตัดเก็บความชื้นเอาไว้
จะช่วย ให้ในดินมีความชื้นและปริมาณน้ำฝนที่มากและการกระจายตัวของฝนมากกว่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ปลูกต้นฤดูฝน
ตั้งแต่ปลายมีนาคม – เมษายน ในฤดูฝนควรดำเนินการในช่วงเดือนพฤษภาคมให้เสร็จ หากปลูกหลังจากเดือนนี้จะมีปัญหาเรื่องวัชพืชที่มี ต้นทุนสูงที่สุดในขั้นตอนการปลูกมันสำปะหลั งยิ่งทำในพื้นที่มากๆแล้วไม่แนะนำให้ดำเนินการในช่วงเดือนนี้ ควรทำในช่วงต้นฤดูฝน

4. ปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ดี คือ พันธุ์ที่มีการปรับตัวในสภาพแวดล้อมต่าง ๆได้ดี สามารถงอกและมีอัตราการอยู่รอดสูง เจริญเติบโตดี สามารถคลุมวัชพืชดี ทรงต้นดี อายุการเก็บต้นพันธุ์หลังการเก็บเกี่ยวได้นาน ให้ผลผลิตหัวสดและปริมาณแป้งสูง ในพื้นที่ของเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังควรเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกพันธุ์ดีที่เหมาะสมกับดินที่เกษตรกรปลูกเอง ในปัจจุบันทางราชการได้แนะนำพันธุ์มันสำปะหลังประเภทปลูกส่งโรงงานอุตสาหกรรมให้เกษตรกรขยายพันธุ์ปลูกไปแล้วจำนวน 11 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ระยอง 1 ระยอง 3 ระยอง 60 ศรีราชา 1 ระยอง 90 เกษตรศาสตร์ 50 ระยอง 5 ระยอง 72 ห้วยบง 60 ระยอง 7 และระยอง 9 ซึ่งแต่ละพันธุ์มีลักษณะเด่น และด้อยต่างกัน

5. การใช้ต้นพันธุ์ดี พันธุ์ที่มีคุณภาพเหมาะสมและวิธีการปลูกที่ถูกต้องผลผลิตหัวสดที่ได้จากการปลูกมันสำปะหลัง มีความสัมพันธุ์อย่างมากกับความงอกและจำนวนต้น อยู่รอดจนกระทั่งขุดเก็บเกี่ยว แต่ส่วนมากนิยมการปลูกแบบปักตรง ซึ่งได้รับผลผลิตสูงกว่า ตางอกได้เร็วกว่า การดูแลรักษาหลังการปลูก เช่น การกำจัดวัชพืช ปัญหาเรื่องแดดเผาต้นไม่มี การใส่ปุ๋ยตลอดจนการขุดเก็บเกี่ยวทำได้สะดวก การเลือกท่อนพันธุ์ที่ดี เป็นต้นพันธุ์ที่ใหม่หลังการตัดต้นพันธุ์แล้ว ควรรีบดำเนินการปลูกภายใน 1 – 2 สัปดาห์ หากขุดมันแล้ว เกิดภาวะแห้งแล้งไม่เหมาะสมในการปลูก หากจำเป็นต้องเก็บต้นไว้ปลูกหลายเดือนควรเก็บท่อนพันธุ์ตั้งไว้กลางแจ้ง ให้โคนต้นถึงพื้นดินทุกต้นและกรบโคนต้น รดน้ำให้ดินมีความชื้นโดยกองละประมาณ 500 ต้น ต้นมันสำปะหลังจะรักษาน้ำเลี้ยงคงความสดไว้ได้นานกว่า 2 เดือน ต้นพันธุ์ที่เหมาะสมควรคัดต้นที่สมบูรณ์ ตาของท่อนพันธุ์ต้องถี่ ต้นมีสีออกน้ำตาล หลีกเหลี่ยงการใช้ส่วนที่เป็นโคนต้นและปลายยอดที่มีสีเขียว รวมทั้งลำต้นที่เป็นโพรง วิธีการสับท่อนพันธุ์เป็นเรื่องที่น่าสนใจและใช้ความระมัดระวังอย่างมาก อย่าให้กระทบกระเทือนตาบนท่อนพันธุ์ และแนะนำให้สับตรงหรือเฉียงเล็กน้อย ไม่ควรสับเฉียงจนแหลมมาก นอกจากนั้นต้องตัดท่อนพันธุ์ให้มีความยาวที่เหมาะสม คือ ยาวประมาณ 20-25 ซม. การใช้ต้นพันธ์เพื่อปลูก ถ้าต้นพันธุ์มันสำปะหลังมีความยาวขนาด 1.20 เมตร จะใช้ต้นพันธุ์ประมาณ 500 - 650 ต้นต่อไร่ก็ขึ้นกับพันธุ์

6. วิธีการปลูก
สำหรับการปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทยที่เกษตรกรนิยมปลูกมีด้วยกัน 3 วิธีคือ
6.1.การปลูกแบบยกร่อง
6.2.การปลูกแบบพื้นราบ
6.3.การปลูกโดยใช้เครื่องจักร

7.จัดระยะปลูกให้ถูกต้อง
ทุกสภาพดินการปลูกมันสำปะหลังเพื่อเพิ่มผลผลิตสามารถกระทำได้โดยการใช้ระยะปลูกให้เหมาะสมกับชนิดของพันธุ์ที่ใช้ และความอุดมสมบูรณ์ของดิน หลักในการพิจารณาโดยทั่วๆไปที่เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ผู้คนที่มีอาชีพปลูกมันสำปะหลังสำปะหลังก็คือ “ดินเลวปลูกถี่ ดินดีปลูกห่าง” ความนิยมของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ โดยจะมีระปลูกโดยทั่วไปเช่น ระยะ1.0 x1.0 เมตรใช้ท่อนพันธุ์ 1_600 ท่อน 1.2 x 0.8 เมตร (1_600 ท่อนปลูกระยะถี่1.0 x 0.8 เมตร (2_400 ท่อน ) ในบางครั้งจะเห็นว่าเกษตรกรนั้นปลูกระถี่กว่านี้จะใช้ระยะ 1.2 x 0.3-0.7 เมตร ขึ้นกับพันธุ์ที่ใช้ปลูก

8. การกำจัดวัชพืช
นอกจากปัญหาเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของดินแล้ว ปัญหาวัชพืชหรือทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่า “รุ่น” เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังลดลงตลอดฤดูฝน ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในการปลูกและดูแลรักษาเกิดจากการป้องกันกำจัดวัชพืช โดยเฉพาะในระยะ 1-4 เดือนแรกของการปลูกเกษตรกร
ต้องหมั่นตรวจแปลงปลูกทุก 15 วัน เพื่อแก้ปัญหาวัชพืชโดยใช้หลักป้องกันไว้ก่อน การแก้ปัญหาล่าช้า ปล่อยให้วัชพืชแข็งแรง เจริญเติบโตจนกระทั่งออกดอก จะกำจัดทำลายยากและยืดเยื้อ ใช้ต้นทุนสูง ทำให้มันสำปะหลังแคระแกรน ผลผลิตต่ำ การปลูกมันสำปะหลังในช่วงปลายฤดูฝนซึ่งตรงกับหน้าแล้ง ปัญหาวัชพืชจะไม่รุนแรง

9. การเพิ่มผลผลิตโดยการใช้ปุ๋ยเคมี การใส่ปุ๋ยเคมีให้ทันเวลาหมายถึงการใส่ปุ๋ยเคมีหลังปลูก เพื่อใส่ปุ๋ยเนื่องจากพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังของเกษตรกรส่วนใหญ่ทำในพื้นที่หลายไร่ จึงจำเป็นต้องเริ่มใส่ปุ๋ยให้เร็วเพราะจะทำให้มันสำปะหลังเจริญเติบได้เร็ว สามารถคลุมวัชพืชได้เร็ว และจะช่วยลดปัญหาการชะล้างพังทะลายของดินซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ แล้วยังจะช่วยลดการกำจัดวัชพืชได้ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้

10. ขุดเก็บเกี่ยวให้ถูกฤดูกาลในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนใหญ่ขุดระหว่าง 8-12 เดือน มันสำปะหลังสังเกตุจากมันจะเริ่มทิ้งใบ โดยใช้เครื่องจักรหรือแรงงานคน ส่วนใหญ่จะเริ่มขุดในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ถึงเดือนเมษายนเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากมันจะได้อายุครบ 12 เดือนหรือใกล้เคียง อีกช่วงหนึ่งที่มีการขุดหัวมันขายมากก็ในช่วง เดือนกันยายน-ตุลาคม หรือเรียกว่ามันที่ปลูกปลายฤดูฝน หากช่วงไหนราคามันไม่ดีหรือมีแปลงขนาดใหญ่ ที่มีการหมุนเวียนการปลูกภายในฟาร์มขนาดใหญ่ ก็ไม่จำเป็นที่จะขุดที่ 12 เดือน เป็นหลักอาจจะยืดอายุการขุดออกไปถึง 15-18 เดือนเนื่องจากอายุ ยิ่งมาก ผลผลิตก็ยิ่งสูงขึ้นก็ขึ้นกับปริมาณน้ำฝน

ข้อมูลจาก ku.ac.th/e-magazine/ oct51/agri/agri2.htm
การปลูกมันสำปะหลัง การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตดี


สนใจสั่งซื้อสินค้า
โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset



โทรศัพท์ 📞 090-592-8614
ไลน์ไอดี 💬 @FarmKaset
🌾 ผลิตภัณฑ์เกษตรครบวงจร 🌾
จากเริ่มปลูก สู่การเก็บเกี่ยว ด้วยสินค้าคุณภาพ
🌱 ขั้นตอนที่ 1: เริ่มต้นและเร่งการเจริญเติบโต
สำหรับพืชที่เพิ่งปลูกหรือต้องการเร่งโต เร่งราก เร่งใบเขียว
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
ช่วยให้พืชมีรากแข็งแรง ใบเขียวแกร่ง และเติบโตเร็ว เป็นฐานที่ดีสำหรับการพัฒนาในขั้นตอนต่อไป
FK-1
⭐ เอฟเค-1 (FK-1) - ตัวหลักเริ่มต้น
สูตรพิเศษสำหรับการเริ่มต้น ฟื้นฟูพืชที่อ่อนแอ เร่งการเจริญเติบโต เร่งระบบราก และกระตุ้นการออกดอก
✨ ประโยชน์เด่น:
• เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งราก
• ฟื้นฟูพืชที่เสียหาย
• เร่งดอก เหมาะสำหรับทุกพืช
💰 1กล่อง (2กิโลกรัม) ราคา : 890 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-1: Lazada Shopee
📱 ช่องทางอื่น: TikTok Line
สตาร์เฟอร์ 30-20-5 + ฮิวมิค FK
🚀 สตาร์เฟอร์ 30-20-5 + ฮิวมิคFK - เร่งต้น เร่งใบ
สูตรไนโตรเจนสูง เหมาะสำหรับช่วงต้นของการเจริญเติบโต เร่งใบเขียว เร่งต้นแข็งแรง
✨ ประโยชน์เด่น:
• ไนโตรเจนสูง เร่งใบเขียวเข้ม
• เร่งการเจริญเติบโตในช่วงแรก
• ผสมสูตรเองได้ตามต้องการ
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคแอซิดช่วยเพิ่มการดูดซับไนโตรเจนได้ 2-3 เท่า ทำให้ใบเขียวเข้มและโตเร็วกว่าปกติ ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้ทุกครั้ง
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์: Lazada Shopee
🛒 สั่งซื้อฮิวมิค: Lazada Shopee
ฮิวมิค FK
💎 ฮิวมิคFK - ตัวช่วยเสริมพื้นฐาน
สารฮิวมิคแอซิดธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับปุ๋ย ปรับปรุงดิน ทำให้พืชแข็งแรงขึ้น
✨ ประโยชน์เด่น:
• เพิ่มการดูดซับปุ๋ย 2-3 เท่า
• ปรับปรุงโครงสร้างดิน
• ใช้ได้ทุกพืช ผสมกับปุ๋ยอื่นได้
💰 ขนาด 500g: 190 บาท | 1kg: 250 บาท
💧 1kg ผสมน้ำได้ถึง 2,000 ลิตร
🛒 สั่งซื้อฮิวมิค: Lazada Shopee
📱 ช่องทางอื่น: TikTok Line
🌸 ขั้นตอนที่ 2: เร่งดอก เร่งผล และเพิ่มผลผลิต
เมื่อพืชโตแข็งแรงแล้ว ก็ถึงเวลาเพิ่มขนาดผล น้ำหนัก และคุณภาพ
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
กระตุ้นการออกดอก ขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก และปรับปรุงคุณภาพผลผลิต เพื่อผลตอบแทนสูงสุด
สตาร์เฟอร์ 10-40-10 + ฮิวมิค FK
🌺 สตาร์เฟอร์ 10-40-10 + ฮิวมิคFK - เร่งราก เร่งดอก
สูตรฟอสฟอรัสสูง เหมาะสำหรับช่วงเร่งดอก ช่วยให้รากแข็งแรง ดอกออกเยอะ คุณภาพดี
✨ ประโยชน์เด่น:
• ฟอสฟอรัสสูง เร่งดอก เร่งราก
• เพิ่มการติดผล ลดการร่วง
• เสริมความแข็งแรงของราก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยให้ฟอสฟอรัสถูกดูดซับง่ายขึ้น เร่งการเจริญเติบโตของราก และกระตุ้นการออกดอกได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์: Lazada Shopee
FK-3
⭐ FK-3 - ขยายผล เพิ่มน้ำหนัก (สำหรับผลไม้)
สูตรเฉพาะสำหรับพืชออกผล ช่วยขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก และปรับปรุงคุณภาพผลผลิต
✨ ประโยชน์เด่น:
• ขยายขนาดผลไม้ เพิ่มน้ำหนัก
• เพิ่มความหวาน ปรับปรุงรสชาติ
• ใช้ได้กับผลไม้ทุกชนิด
💰 1ชุด (2กิโลกรัม) ราคา : 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3: Lazada Shopee
📱 ช่องทางอื่น: TikTok Line
สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิค FK
🍯 สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK - เพิ่มผลผลิต เร่งแป้ง
สูตรโพแทสเซียมสูง เร่งการสร้างแป้ง น้ำตาล ขยายขนาดผล เหมาะสำหรับช่วงเก็บเกี่ยว
✨ ประโยชน์เด่น:
• โพแทสเซียมสูง เร่งแป้ง สร้างน้ำตาล
• ขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก
• ปรับปรุงคุณภาพและรสชาติ
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยส่งโพแทสเซียมเข้าสู่ผลได้เร็วขึ้น เพิ่มความหวาน แป้ง และน้ำหนักผลมากกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้ทุกครั้ง
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์: Lazada Shopee
🌾 ขั้นตอนที่ 3: สูตรเฉพาะทางสำหรับพืชเศรษฐกิจ
สูตรพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผลไม้ ข้าว อ้อย และมันสำปะหลัง
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
ใช้สูตรที่ปรับแต่งมาเฉพาะสำหรับพืชแต่ละชนิด เพื่อผลผลิตและคุณภาพที่ดีที่สุด รวมถึงการใช้ FK-1 ร่วมด้วย
FK-1 + FK-3
🍇 FK-1 + FK-3 - สำหรับผลไม้ทุกชนิด
ชุดคู่สำหรับผลไม้ทุกชนิด เริ่มด้วย FK-1 เพื่อฟื้นฟูและเร่งโต ตามด้วย FK-3 เพื่อขยายผลและเพิ่มน้ำหนัก
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งราก
• FK-3: ขยายผล เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มความหวาน
• เหมาะกับผลไม้ทุกชนิด
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: ใช้หลังปลูก 1-4 สัปดาห์ และเมื่อต้องการฟื้นฟูพืช
FK-3: ใช้เมื่อผลเริ่มติด ช่วงผลอ่อน ก่อนเก็บเกี่ยว 2-4 สัปดาห์
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-1: Lazada Shopee
🛒 สั่งซื้อ FK-3: Lazada Shopee
FK-1 + FK-3R
🌾 FK-1 + FK-3R - เฉพาะสำหรับข้าว (Rice)
ชุดคู่สำหรับข้าว เริ่มด้วย FK-1 เพื่อเร่งโตและแข็งแรง ตามด้วย FK-3R เพื่อรวงยาว เมล็ดเต็ม
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งแตกกอ
• FK-3R: รวงยาว เมล็ดเต็ม น้ำหนัก 1,000 เมล็ดสูง
• เพิ่มผลผลิตต่อไร่
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังหว่าน 15-45 วัน และเมื่อข้าวใบเหลือง
FK-3R: ช่วงตั้งท้อง ออกรวง และก่อนข้าวสุก 2-3 สัปดาห์
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3R: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3R: Lazada Shopee
FK-1 + FK-3S
🎯 FK-1 + FK-3S - เฉพาะสำหรับอ้อย (Sugarcane)
ชุดคู่สำหรับอ้อย เริ่มด้วย FK-1 เพื่อเร่งโตและแตกหน่อ ตามด้วย FK-3S เพื่อลำสูง ความหวาน CCS สูง
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งแตกหน่อ ลำแข็งแรง
• FK-3S: ลำสูง ปล้องยาว เพิ่มค่า CCS
• น้ำหนักต่อลำเพิ่มขึ้น
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังปลูก 1-3 เดือน และเมื่ออ้อยใบเหลือง
FK-3S: อายุ 6-10 เดือน และก่อนตัด 2-3 เดือน
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3S: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3S: Lazada Shopee
FK-1 + FK-3C
🥔 FK-1 + FK-3C - เฉพาะสำหรับมันสำปะหลัง (Cassava)
ชุดคู่สำหรับมันสำปะหลัง เริ่มด้วย FK-1 เพื่อต้นแข็งแรง ตามด้วย FK-3C เพื่อหัวมันดก โตใหญ่ แป้งสูง
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต ต้นแข็งแรง ทนแล้ง
• FK-3C: หัวมันดก โตใหญ่ เปอร์เซ็นต์แป้งสูง
• น้ำหนักต่อต้นเพิ่มขึ้นมาก
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังปลูก 1-4 เดือน และเมื่อมันใบเหลือง
FK-3C: อายุ 6-10 เดือน และก่อนขุด 2-3 เดือน
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3C: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3C: Lazada Shopee
🛡️ ขั้นตอนที่ 4: ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช
ป้องกันโรคพืช แมลงศัตรูพืช และวัชพืช เพื่อผลผลิตที่สมบูรณ์
ไทอะมีทอกแซม + ฮิวมิค FK
🐛 ไทอะมีทอกแซม + ฮิวมิคFK - กำจัดแมลงปากดูด
สารอินทรีย์ป้องกันกำจัดเพลี้ยทุกชนิด แมลงปากดูด หนอนชอนใบ และโล่ปลาดาว
✨ ป้องกันศัตรูพืช:
• เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไก่แจ้
• แมลงปากดูดทุกชนิด
• หนอนชอนใบ โล่ปลาดาว
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการติดผิวใบ ทำให้สารกำจัดแมลงทำงานได้นานขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชหลังถูกแมลงทำลาย ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 ไทอะมีทอกแซม 100g: 69 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อไทอะมีทอกแซม: Lazada Shopee
แพนน่อน + ฮิวมิค FK
🍄 แพนน่อน + ฮิวมิคFK - กำจัดโรคเชื้อรา
สารป้องกันกำจัดโรคพืชจากเชื้อราหลายชนิด เหมาะสำหรับทุกพืช ใช้ได้ตลอดปี
✨ ป้องกันโรคพืช:
• ใบไหม้ ใบจุด ใบติด กิ่งแห้ง
• ราน้ำค้าง ราสนิม ไปทอปธอร่า
• แอนแทรคโนส กุ้งแห้ง
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเสริมความแข็งแรงให้พืช ทำให้ต้านทานโรคได้ดีขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชที่เสียหายจากโรคเร็วกว่า ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 แพนน่อน 1kg: 390 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อแพนน่อน: Lazada Shopee
อินเวท + ฮิวมิค FK
⚡ อินเวท + ฮิวมิคFK - เคมีกำจัดเพลี้ยแรงแล้ว
สารเคมีประสิทธิภาพสูง กำจัดเพลี้ยทุกชนิด ใช้ได้ทุกพืช สำหรับการระบาดหนัก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยลดความเครียดของพืชจากสารเคมี และช่วยฟื้นฟูพืชหลังการฉีดพ่นให้แข็งแรงเร็วขึ้น ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 อินเวท: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้ออินเวท: Lazada Shopee
แม็กซ่า + ฮิวมิค FK
💚 แม็กซ่า + ฮิวมิคFK - สร้างภูมิต้านทาน
สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ประกอบด้วยแมกนีเซียม ซิงค์ เร่งเขียว สร้างภูมิต้านทานโรค
✨ ประโยชน์เด่น:
• เร่งใบเขียวเข้ม เพิ่มคลอโรฟิลล์
• สร้างภูมิต้านทานโรค
• เสริมแมกนีเซียม ซิงค์
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มการดูดซับแมกนีเซียมและซิงค์ ทำให้ใบเขียวเข้มกว่า และสร้างภูมิต้านทานได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 แม็กซ่า: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อแม็กซ่า: Lazada Shopee
🎁 ขั้นตอนที่ 5: ชุดโปรโมชั่นสุดคุ้ม
แพ็คเกจคู่ที่ประหยัดและได้ผลดี รวมถึงสินค้ายอดนิยมจาก Lazada
FKT250-IS250
🔥 โปรฯเล็กยอดฮิต - บำรุง + ป้องกัน
ชุดคู่สุดคุ้ม FKT 250cc + ไอเอส 250cc ทั้งบำรุงและป้องกันโรค ในราคาเดียว
✨ ได้ 2 ประโยชน์:
• FK ธรรมชาตินิยม: บำรุงฟื้นฟู
• ไอเอส: ป้องกันโรคราต่างๆ
• ผสมน้ำได้รวม 100 ลิตร
💰 ราคาพิเศษ : 499 บาท
(ปกติ 740 บาท ประหยัด 241 บาท!)
🛒 สั่งซื้อโปรพิเศษ: Lazada Shopee
🏆 #1 ขายดี
ไอเอส 1ลิตร + ฮิวมิค FK
🌟 ไอเอส + ฮิวมิคFK - ยอดขายอันดับ 1 บน Lazada
สินค้าขายดีที่สุดในหมวดโรคพืช ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ โรคราต่างๆ ได้ผลจริง
✨ ทำไมขายดี:
• ได้ผลจริง ราคาไม่แพง
• ป้องกันโรคได้หลายชนิด
• ใช้ง่าย ปลอดภัย
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเสริมภูมิต้านทานธรรมชาติให้พืช ทำให้ป้องกันโรคได้ยาวนานขึ้น และลดการใช้สารเคมีลงได้ ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 ไอเอส 1L: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อไอเอส: Lazada Shopee
มาคา + ฮิวมิค FK
🦗 มาคา + ฮิวมิคFK - กำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูพืช
สารอินทรีย์ป้องกันกำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูพืช ใช้ได้ทุกพืช ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
✨ ประโยชน์เด่น:
• กำจัดเพลี้ยทุกชนิด
• แมลงศัตรูพืชต่างๆ
• ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มการติดผิวใบของสารอินทรีย์ ทำให้ได้ผลนานขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชหลังถูกแมลงทำลายเร็วกว่า ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 มาคา 1L: 470 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อมาคา: Lazada Shopee
FKT1L + ฮิวมิค FK
🌿 FK ธรรมชาตินิยม + ฮิวมิคFK
ปุ๋ยธรรมชาติ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค
✨ ปุ๋ยธรรมชาติ ปลอดภัย:
• พืชทุกชนิด โตไว ใบเขียว ทนแล้ง
• ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย
• เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับธาตุอาหารธรรมชาติ ทำให้พืชแข็งแรงและทนแล้งได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 FK-T 1L: 890 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-T: Lazada Shopee
เมทาแลคซิล + ฮิวมิค FK
💊 เมทาแลคซิล + ฮิวมิคFK - เคมีป้องกันโรค ราต่างๆในพืช
สารเคมีประสิทธิภาพสูง ป้องกันกำจัดโรคพืช โรคใบไหม้ ใบจุด ราน้ำค้าง ราสนิม โรคจากเชื้อราทุกชนิด
✨ ประโยชน์เด่น:
• แก้ปัญหาโรครุนแรง
• ได้ผลเร็ว ครอบคลุมโรคหลายชนิด
• สำหรับการระบาดหนัก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยลดความเครียดจากสารเคมี และเร่งการฟื้นฟูพืชหลังการรักษาโรค ทำให้พืชแข็งแรงเร็วขึ้น ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 เมทาแลคซิล: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อเมทาแลคซิล: Lazada Shopee
📱 ช่องทางอื่น: TikTok Line
คาร์รอน + ฮิวมิค FK
🌿 คาร์รอน + ฮิวมิคFK - กำจัดหญ้า คุมวัชพืช
ยากำจัดหญ้าและวัชพืช ครอบคลุมทั้งใบแคบและใบกว้าง ได้ผลดี ราคาประหยัด
✨ ประโยชน์เด่น:
• กำจัดหญ้าใบแคบ ใบกว้าง
• คุมวัชพืชได้ยาวนาน
• ประหยัด ได้ผลดี
⚠️ หมายเหตุพิเศษ:
หลังฉีดกำจัดวัชพืช ใช้ฮิวมิคช่วยฟื้นฟูดินและเสริมความแข็งแรงให้พืชหลัก ป้องกันการกลับมาของวัชพืช ใช้แยกเวลา 3-7 วันหลังฉีดคาร์รอน
💰 คาร์รอน: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อคาร์รอน: Lazada Shopee
📱 ช่องทางอื่น: Line
🎯 สรุปขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนแนะนำ:
🌱 เริ่มต้น: เลือกใช้ FK-1 หรือ สตาร์เฟอร์ 30-20-5 + ฮิวมิคFK
🌸 เร่งดอกผล: เลือกใช้ FK-3 (หรือ FK-3R/3S/3C) หรือ สตาร์เฟอร์ 10-40-10 + ฮิวมิคFK
🛡️ ป้องกัน: ไทอะมีทอกแซม หรือ แพนน่อน หรือ แม็กซ่า + ฮิวมิคFK
🍯 เก็บเกี่ยว: สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK
💎 สำคัญที่สุด:
ใช้ ฮิวมิคFK ผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นทุกครั้ง จะได้ผลดีขึ้น 2-3 เท่า
💡 เคล็ดลับ: เริ่มด้วยโปรโมชั่นขนาดเล็ก → หากได้ผลแล้วค่อยซื้อเพิ่ม
💡 คำแนะนำสำหรับมือใหม่
🔰 แนะนำเริ่มต้น: โปรฯเล็กยอดฮิต (499 บาท) + ฮิวมิคFK (250 บาท) = ทดลองในงบ 750 บาท
🌾 เกษตรกรข้าว: FK-1 + FK-3R + ไอเอส + ฮิวมิคFK
🎯 เกษตรกรอ้อย: FK-1 + FK-3S + แม็กซ่า + ฮิวมิคFK
🥔 เกษตรกรมันฯ: FK-1 + FK-3C + ฮิวมิคFK
🍇 เกษตรกรผลไม้: FK-1 + FK-3 + สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK
⚠️ หมายเหตุ:
คาร์รอน ไม่ผสมกับผลิตภัณฑ์อื่น ใช้แยกเวลา แล้วค่อยใช้ฮิวมิคฟื้นฟูพืช
📞 ติดต่อสอบถาม คำแนะนำการใช้
โทรศัพท์
📞 090-592-8614
ไลน์ไอดี
💬 @FarmKaset
🌟 ทีมงานพร้อมให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ ปรึกษาปัญหาพืช และแนะนำสูตรที่เหมาะสม
📅 เวลาทำการ: 9:00-17:00 น.
💎 พิเศษ: ปรึกษาการใช้ ฮิวมิคFK คู่กับผลิตภัณฑ์อื่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
คำแนะนำเวลา: ช่วงเวลาการใช้ FK-1 และ FK-3 ชุดต่างๆ ตามพืชแต่ละชนิด
🌾 FarmKaset - ผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพ เพื่อเกษตรกรไทย 🌾
📍 ส่งทั่วประเทศ
🚚 จัดส่งเร็ว
💯 ได้ผลจริง
🏆 ขายดี #1 บน Lazada
💎 จุดเด่นใหม่:
ฮิวมิคFK เพิ่มประสิทธิภาพทุกผลิตภัณฑ์ 2-3 เท่า
© 2025 FarmKaset - สงวนลิขสิทธิ์ | 🔗 ระบบคำนวณการผสมปุ๋ย







🌱 แอพเกษตร FK

ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ติดตามสินค้าที่คุณสั่ง
คุณ เจริ..., Tuesday 17 June 2025 15:39:15, เลขจัดส่ง SMAM000รออัพเดท
อภินันท์..., อังคาร 17 มิถุนายน 2568 15:09:11, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
นิธิโรจน..., อังคาร 17 มิถุนายน 2568 14:26:36, เลขจัดส่ง SPX EXPRESS
ถนัดฎา ค..., อังคาร 17 มิถุนายน 2568 14:24:57, เลขจัดส่ง SPX EXPRESS
ศรินยา แ..., อังคาร 17 มิถุนายน 2568 14:18:23, เลขจัดส่ง SPX EXPRESS
คุณ สมชา..., Tuesday 17 June 2025 14:12:24, เลขจัดส่ง SMAM000รออัพเดท
กิตติชัย..., อังคาร 17 มิถุนายน 2568 14:09:44, เลขจัดส่ง SPX EXPRESS
วัชรินทร..., อังคาร 17 มิถุนายน 2568 14:08:16, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
น้องไฮ, อังคาร 17 มิถุนายน 2568 14:05:35, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
สมชาย ปล..., อังคาร 17 มิถุนายน 2568 14:01:52, เลขจัดส่ง FLASH EXPRESS
ดูรายการจัดส่งทั้งหมด
กำจัดเพลี้ย ใน แตงกวาเร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/05/04 15:54:27 - Views: 3498
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยอ่อน ในดอกกุหลาบ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/11 12:48:01 - Views: 3526
ยาฆ่าเพลี้ย มะยม ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/09/10 10:28:25 - Views: 3595
กัญชา-กัญชง ต่างกันอย่างไร กฎหมายอนุญาตใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
Update: 2564/04/06 09:02:33 - Views: 3850
การป้องกันกันกำจัดโรคพืช อย่างมีประสิทธิภาพ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคราสนิม โรคราต่างๆ
Update: 2568/04/30 09:27:59 - Views: 292
โรคมะระ โรคมะระจีน โรคมะระขี้นก ราน้ำค้าง ใบจุด ราแป้ง โรคต่างๆจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส1 หยุดโรค + FK-1 ฟื้นฟู โตไว ผลผลิตดี
Update: 2564/10/05 04:44:45 - Views: 3608
เคล็ดลับการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นเพื่อสร้างต้นพุทราผลใหญ่และดกเต็มต้น
Update: 2566/11/23 08:22:33 - Views: 3495
อาการใบหงิกม้วนในมะเขือเทศเชอร์รี่แดง
Update: 2564/08/27 02:23:08 - Views: 3843
ประโยชน์ของปุ๋ยเร่งรากและเร่งดอกสำหรับแตงกวา
Update: 2566/11/21 14:58:55 - Views: 3591
การบำรุงดูแลสวนปาล์มน้ำมันเพื่อเพิ่มผลผลิต ด้วยการใช้ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคและปุ๋ยทางใบ FK-1
Update: 2567/11/06 10:15:44 - Views: 232
กระเพรา ใบไหม้ ใบจุด ราน้ำค้าง กำจัดโรคกระเพรา จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช) โดย FK
Update: 2565/10/29 10:45:00 - Views: 3595
เรื่องราวความสำเร็จในการป้องกันและกำจัดโรคผลเน่าและเหี่ยวที่เกิดจากเชื้อราในมะเขือ
Update: 2566/05/17 10:41:24 - Views: 3541
🔥โรคใบไหม้ ราสนิม ราน้ำค้าง โรคพืชต่างๆจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส ใช้ได้กับทุกพืช เร่งพืชฟื้นตัว กลับมาโตไวให้ผลผลิตดี ด้วย FK-1
Update: 2563/10/01 22:16:38 - Views: 3548
ยาฆ่าเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน ลิ้นจี่ และพืช ทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2566/04/03 11:41:51 - Views: 3517
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคยางไหล กิ่งแห้ง ในมะม่วง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
Update: 2565/12/22 14:46:32 - Views: 3696
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 3 สูตร: เพิ่มผลผลิตให้มะพร้าวน้ำหอมของคุณ
Update: 2567/02/12 14:46:39 - Views: 3762
ปุ๋ยสำหรับ เมล่อน แคนตาลูป ปุ๋ยน้ำฉีดพ่นแคนตาลูป ปุ๋ยแคนตาลูป ปุ๋ย แคนตาลูป ผลผลิตดี ฉีดพ่น FK-1
Update: 2564/09/23 21:04:12 - Views: 3613
ป้องกันและกำจัด โรคแอนแทรคโนส ที่เกิดกับมันสำปะหลัง
Update: 2564/01/19 20:46:13 - Views: 3569
ปัญหาส้มใบเหลือง แก้ได้ง่ายๆ ด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์
Update: 2567/03/15 14:03:18 - Views: 3675
ปุ๋ยสับปะรด บำรุงสับปะรด เร่งผล เพิ่มผลผลิตสับปะรด ฉีดพ่น FK-1 มี N-P-K, Mg, Zn และสารจับใบ
Update: 2564/11/06 12:59:34 - Views: 3510
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022