เพลี้ยมักจะเป็นปัญหาที่พบบ่อยในต้นกาแฟ และอาจทำให้พืชทุเรียนเสียหายได้ นอกจากนี้ มีหลายชนิดของเพลี้ยที่สามารถทำลายกาแฟได้ ดังนี้:

เพลี้ยหอย (Aphids): เพลี้ยหอยสามารถทำลายใบกาแฟได้ โดยพวกเพลี้ยนี้จะดูเหมือนทวีปเล็กๆ สีเขียวหรือดำ พวกเขาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกลุ่มเล็กๆ ที่บนใบหรือยอดของพืช

เพลี้ยไฟ (Whiteflies): เพลี้ยไฟเป็นแมลงขนาดเล็กที่มีสีขาวและบินได้ พวกเขาจะเข้าทำลายใบกาแฟและส่วนยอดของต้น

เพลี้ยแป้ง (Mealybugs): เพลี้ยแป้งมีลักษณะเป็นหย่อมหรือเม็ดขาว พวกเขาส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในที่ที่ชื้น และส่วนใหญ่จะเจาะดูดน้ำเลี้ยงจากต้นกาแฟ

การควบคุมเพลี้ยในต้นกาแฟสามารถทำได้โดยใช้วิธีการต่างๆ เช่น:

การใช้สารเคมี: สารเคมีเช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส หรือไพรีทรอยด์ เป็นต้น สามารถใช้เพื่อควบคุมเพลี้ยได้ แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากสารเคมีบางชนิดอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

การใช้แบคทีเรีย: แบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถช่วยในการควบคุมเพลี้ยได้ โดยพวกเขาจะทำลายเพลี้ยทางชีวภาพ

การใช้น้ำยาล้างจาน: การผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำและใช้พ่นพืชสามารถช่วยในการกำจัดเพลี้ยได้

การตัดแต่งกิ่ง: การตัดแต่งกิ่งที่มีเพลี้ยหรือสภาพที่ไม่ดีออกจากต้นกาแฟสามารถช่วยลดปัญหาได้

อย่าลืมทำการสังเกตุและรักษาต้นกาแฟของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพราะการตรวจสอบและรับมือกับปัญหาเพลี้ยทันทีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียหายของพืชของคุณได้.

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในต้นกาแฟ
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

โรคข้าวโพดจากเชื้อราต่างๆ อาจก่อให้เกิดความสูญเสียในผลผลิตหากไม่รักษาอย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างโรคราต่างๆในข้าวโพด เช่น:

โรคราน้ำค้าง (Downy Mildew): โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Plasmopara maydis และมักเกิดในสภาพอากาศที่ชื้นและเย็น เชื้อรานี้ส่งผลให้ใบข้าวโพดมีลายเส้นคลื่นคล้ายราน้ำค้างที่สีน้ำตาลหรือดำ.

โรคราหนู (Smut): โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Ustilago maydis และส่งผลให้เกิดก้อนที่มีลายสีดำบนของข้าวโพด เชื้อรานี้สามารถทำให้ผลผลิตลดลง.

โรคเกล็ดหรือราเส้นใย (Stalk or Stipe Diseases): โรคเกล็ดสามารถเกิดจากหลายชนิดของเชื้อรา เช่น Fusarium spp._ Colletotrichum spp. โรคนี้ส่งผลให้ลำต้นข้าวโพดมีจุดหรือลายสีดำหรือสีน้ำตาลและสามารถทำให้ข้าวโพดแก่ก่อนเวลา.

โรคราแป้ง (Corn Smut): โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Ustilago zeae

โรคราขี้เห็น (Rust): โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Puccinia spp. โดยมักทำให้ใบข้าวโพดมีจุดสีส้มหรือน้ำตาล และสามารถกระจายไปยังผลผลิตข้าวโพด.

การป้องกันและรักษาโรคเชื้อราในข้าวโพด ทำได้โดยการตรวจสอบดูแลแปลงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อตรวจพบโรค เร่งใช้ยาฉีดพ่น เพื่อป้องกันกำจัด ไม่ให้ลุกลามสร้างความเสียหายมากขึ้น

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด โรคข้าวโพด จากเชื้อราหลายชนิด
ไอเอส สามารถป้องกันกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน

สั่งซื้อ ไอเอส ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
หรือ โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset

โรคแอนแทรคโนสในมะละกอเป็นโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่ชื่อว่า Colletotrichum spp. โรคนี้สามารถทำให้เกิดความเสียหายในลักษณะของจุดดำหรือแผลดำบนผลมะละกอ และอาจกระจายไปยังใบ กิ่ง และลำต้นได้ด้วย

อาการของโรคแอนแทรคโนสในมะละกอ:

จุดดำหรือแผลดำ: มักพบจุดดำหรือแผลดำที่ผิวผลมะละกอ โดยจุดนี้จะเริ่มเล็กและขยายตัวขึ้นเมื่อสภาพอากาศช่วยเพิ่มความเหมาะสมในการพัฒนาของเชื้อรา

เส้นใยสีขาว: เมื่อความชื้นสูง สามารถมองเห็นเส้นใยสีขาวของเชื้อราที่แพร่กระจายบนผิวผลมะละกอ

การเน่าเสียหาย: โรคนี้อาจทำให้มะละกอเน่าเสียหายได้ โดยทำให้ผลมะละกอไม่สามารถจัดการน้ำและสารอาหารได้อย่างเหมาะสม

การป้องกันและควบคุม:

การจัดการทางทัศนศาสตร์: การให้ทำความสะอาดบริเวณที่ปลูกและการลดความชื้นในสภาพแวดล้อมที่มะละกอโตขึ้น สามารถช่วยลดโอกาสในการพัฒนาของเชื้อรา

การใช้สารป้องกัน: สารป้องกันกำจัดเชื้อราสามารถใช้เพื่อควบคุมโรคนี้ การใช้สารป้องกันควรเป็นไปตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

การตรวจสอบและการดูแลรักษามะละกออย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคแอนแทรคโนสในมะละกอ

.
ไอเอส เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด โรคมะละกอ จากเชื้อราหลายชนิด
ไอเอส สามารถป้องกันกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ไอเอส ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

การมีเพลี้ยบนต้นงาเป็นปัญหาที่พบบ่อยในการเกษตรหรือการทำสวน ซึ่งเพลี้ยสามารถทำให้พืชเสียหายได้โดยการดูดน้ำเลี้ยงจากเนื้อเยื่อพืชและส่งน้ำหวานที่มีสารน้ำตาลออกมา นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายทอดเชื้อโรคไปยังพืชอื่นๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่เกิดจากสารเคมีที่เพลี้ยสามารถปลดปล่อยออกมาและทำให้เกิดความเสียหายในระบบนิเวศท้องถิ่น

นานาวิถีสามารถใช้วิธีการต่างๆ เพื่อควบคุมเพลี้ยในต้นงาได้ ต่อไปนี้คือวิธีบางประการ:

การใช้สารเคมี: สารเคมีเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ยในต้นงา สารเคมีที่ใช้บ่อยสำหรับการควบคุมเพลี้ยรวมถึงคาร์บาริล_ อิมิดาโคลพริด_ และพีระมิตร.

การใช้ศัตรูธรรมชาติ: การใช้ศัตรูธรรมชาติเช่น แตนเบีย และ การใช้ผีเสื้อดีดเข้ามาเข้าทำลายเพลี้ย สามารถช่วยลดจำนวนเพลี้ยได้.

การใช้วิธีกล: การใช้น้ำฉีดพ่นหรือล้างเพลี้ยทิ้งจากต้นงาโดยใช้น้ำแรงดันสูง.

การใช้สารเสริมทางชีวภาพ: การใช้สารเสริมทางชีวภาพเช่น ไนโตรเจนจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียที่ช่วยลดจำนวนเพลี้ย.

การเลือกใช้พันธุกรรมที่ทนทาน: การเลือกปลูกต้นงาที่มีพันธุกรรมที่ทนทานต่อเพลี้ย.

การควบคุมเพลี้ยในต้นงาควรจะเป็นระบบแบบผสมที่นำมาใช้ร่วมกันเพื่อลดการใช้สารเคมีในปริมาณมาก และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและน้ำท่วมในระบบที่ใช้สารเคมีในปริมาณมาก.

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในต้นงา
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธฮาริเซียม: โซลูชั่นที่มีศักยภาพในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้งในพืชทุกชนิด

การแนะนำ

ในขณะที่ความนิยมของการจัดสวนในร่มและกลางแจ้งยังคงเติบโต ความท้าทายในการจัดการศัตรูพืชก็เช่นกัน เพลี้ยแป้งซึ่งเป็นแมลงดูดน้ำนมขนาดเล็กมีชื่อเสียงในด้านการทำลายพืชโดยการทำให้พืชอ่อนแอลงและแพร่กระจายโรค ในการแสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สารกำจัดศัตรูพืช Beauveria Mix Methharicium ภายใต้แบรนด์ Butarex ที่มีชื่อเสียงได้กลายเป็นสารที่มีแนวโน้มในการควบคุมเพลี้ยแป้ง ในบทความนี้ เราจะสำรวจคุณสมบัติและประโยชน์ของบิวเวอเรีย มิกซ์ เมธฮาริเซียม และศักยภาพในการปกป้องพืชจากการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้ง

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียม

Beauveria Mix Methharicium เป็นสารกำจัดศัตรูพืชทางชีวภาพที่รวมเชื้อราก่อโรคในธรรมชาติ Beauveria bassiana และ Metharizium anisopliae เชื้อราทั้งสองนี้เป็นที่รู้จักสำหรับกิจกรรมปรสิตของพวกมันกับแมลงหลากหลายชนิดรวมถึงเพลี้ยแป้ง แบรนด์ Butarex ทำให้มั่นใจได้ว่าสูตรประกอบด้วยสปอร์ของเชื้อราที่มีคุณภาพสูงและมีชีวิต ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ

ประโยชน์ของบิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียม

วิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: หนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของการใช้บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธฮาริเซียมคือความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สารกำจัดแมลงชีวภาพมุ่งเป้าไปที่เพลี้ยแป้งโดยเฉพาะ โดยไม่ทำลายแมลงที่มีประโยชน์อื่นๆ นอกจากนี้ยังไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายไว้กับพืชหรือในสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

ความอเนกประสงค์: บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมเหมาะสำหรับใช้กับพืชหลากหลายชนิด รวมถึงไม้ประดับ พืชผัก และไม้ผล ไม่ว่าคุณจะมีสวนในร่มขนาดเล็กหรือพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่ สารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพนี้สามารถผสานรวมเข้ากับกลยุทธ์การจัดการศัตรูพืชของคุณได้อย่างลงตัว

การป้องกันและกำจัด: แตกต่างจากยาฆ่าแมลงแบบดั้งเดิมที่เน้นการกำจัดประชากรเพลี้ยแป้งที่มีอยู่เป็นหลัก Beauveria Mix Methharicium ทำหน้าที่เป็นทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไข เมื่อใช้ป้องกัน จะสร้างเกราะป้องกันรอบ ๆ ต้นพืช ยับยั้งเพลี้ยแป้งไม่ให้ตกตะกอน เมื่อใช้กับพืชที่ถูกรบกวน เชื้อราจะเจาะโครงกระดูกภายนอกของเพลี้ยแป้ง ทำให้พวกมันตายภายในสองสามวัน

การจัดการความต้านทาน: เมื่อเวลาผ่านไป แมลงศัตรูพืชเช่นเพลี้ยแป้งสามารถพัฒนาความต้านทานต่อสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้มีประสิทธิภาพน้อยลง อย่างไรก็ตาม Beauveria Mix Methharicium ทำงานผ่านกลไกที่แตกต่างกันและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการสร้างสารดื้อยา จึงรับประกันประสิทธิภาพในระยะยาว

ความเป็นพิษต่ำต่อมนุษย์และสัตว์: แตกต่างจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสังเคราะห์ Beauveria Mix Methharicium ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์ เพิ่มความปลอดภัยและการใช้งาน

แนวทางการสมัคร

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานทั่วไปเหล่านี้:

การระบุ: ก่อนที่จะใช้สารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพ ให้ระบุการมีอยู่ของเพลี้ยแป้งบนพืชของคุณอย่างแม่นยำ การระบุที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายศัตรูพืชได้ถูกต้อง

การเตรียม: เขย่าขวดบิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมให้ดีก่อนเจือจางในน้ำ ทำตามคำแนะนำในการใช้ยาที่ผู้ผลิตให้มา

การใช้งาน: ใช้เครื่องพ่นแบบมือถือหรือเครื่องพ่นแบบสะพายหลังทาส่วนผสมให้ทั่วถึงทุกส่วนของพืช โดยเน้นที่ใบและลำต้นที่มักมีเพลี้ยแป้งเกาะอยู่

เวลา: ใช้บิวเวอเรีย มิกซ์ เมธาริเซียมในช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆ เมื่ออุณหภูมิเย็นลง เนื่องจากอุณหภูมิสูงสามารถลดประสิทธิภาพได้

การใช้งานซ้ำ: ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการรบกวน คุณอาจต้องใช้งานซ้ำทุกๆ 7 ถึง 14 วันเพื่อให้แน่ใจว่ามีการกำจัดเพลี้ยแป้งอย่างสมบูรณ์

บทสรุป

เพลี้ยแป้งสามารถสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่ชื่นชอบพืชและเกษตรกรได้ โชคดีที่ยาฆ่าแมลง Beauveria Mix Methharicium นำเสนอโดยแบรนด์ Butarex ที่มีชื่อเสียง นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสำหรับทั้งการป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้ง ลักษณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความเก่งกาจ และความสามารถในการจัดการความต้านทาน ทำให้เป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับกลยุทธ์การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน การผสมผสานสารกำจัดศัตรูพืชทางชีวภาพนี้เข้ากับกิจวัตรการดูแลพืชของคุณ คุณจะสามารถปกป้องเพื่อนสีเขียวของคุณจากการทำลายของเพลี้ยแป้ง และรับประกันสุขภาพและความมีชีวิตชีวาของพวกมันในระยะยาว

*** มาตรฐานการผลิต ***
✅ มาตรฐาน ห้อง LAB " ISO /IEC17025
✅ สกัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
✅ วิจัยและคิดค้นสูตรในห้องแล็บที่ได้
มาตรฐาน
✅ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
✅ สะดวก ใช้งานง่ายแค่ผสมน้ำพ่นได้เลย

***ปลอดภัยต่อคนและสิ่งแวดล้อม ***

-วิธีใช้-
*ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
**ฉีดพ่นช่วงเวลาแดดอ่อน
***ฉีด ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น และโคนต้น
****ฉีดครั้งละ 3-7 วันแล้วแต่อาการ

ข้อแนะนำ
*****ไม่แน่นำไห้ฉีดร่วมกับสารกำจัดเชื้อรา ไตรโครเดอร์มา

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

โรคผลเน่าในทุเรียนเป็นหนึ่งในปัญหาทางการเกษตรที่สำคัญ เป็นโรคที่สามารถก่อให้เกิดความสูญเสียในการผลิตและคุณภาพของทุเรียนได้ โรคนี้มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิด และมีวิธีการป้องกันและรักษาต่าง ๆ ดังนี้:

สาเหตุของโรคผลเน่าในทุเรียน:
เชื้อรา Colletotrichum spp.: เป็นสาเหตุหลักของโรคนี้ ทำให้เกิดการทำลายบนผิวผลทุเรียน.

สภาพแวดล้อม: การฝนตกมากหรืออากาศชื้นสูงอาจกระตุ้นให้โรคนี้ระบาดมากขึ้น.

การดูแลไม่ดี: การดูแลทุเรียนไม่เหมาะสม การให้น้ำมากเกินไป หรือการให้ปุ๋ยไม่ถูกต้อง.

วิธีป้องกันและรักษา:

การจัดการที่ดิน: ให้ระบบรากมีการไหลเวียนอากาศที่ดี และปรับปรุงที่ดินตามคำแนะนำ.

การให้น้ำ: ควรให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการให้น้ำในปริมาณมากเกินไป.

การให้ปุ๋ย: ปรับปรุงการให้ปุ๋ยให้เหมาะสมและตามคำแนะนำ.

การตัดแต่งกิ่ง: ตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรคและที่มีอาการผลเน่าเพื่อลดการแพร่เชื้อ.

การใช้สารป้องกันกำจัดโรค: ใช้สารป้องกันกำจัดโรคที่มีประสิทธิภาพตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ.

การเก็บเกี่ยวผลผลิต: เก็บผลทุเรียนที่สุกเร็วเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ.

การควบคุมโรคผลเน่าในทุเรียนเกิดจากการนำเอามาตรการต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อลดโอกาสการระบาดของโรคนี้ในสวนทุเรียนของคุณ.

.
ไอเอส เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด โรคทุเรียน จากเชื้อราหลายชนิด
ไอเอส สามารถป้องกันกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ไอเอส ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

ยกระดับการเจริญเติบโตและคุณภาพของพืชสำหรับพืชทุกประเภท
.
ปุ๋ย Maxa ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับพืชหลากหลายชนิด องค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของมันผสมผสานสารอาหารรองและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืช.
ประโยชน์ของปุ๋ยแม็กซ่า
.
เพิ่มการผลิตคลอโรฟิลล์:
คลอโรฟิลล์ทำหน้าที่สังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นกระบวนการที่พืชเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานเคมี ปริมาณแมกนีเซียมของปุ๋ย Maxa ช่วยเพิ่มการผลิตคลอโรฟิลล์ ส่งผลให้ใบมีสุขภาพดีและมีชีวิตชีวามากขึ้น การผลิตคลอโรฟิลล์ที่เพิ่มขึ้นนี้นำไปสู่การสังเคราะห์ด้วยแสงที่ดีขึ้น ซึ่งหมายถึงพลังงานที่มากขึ้นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช
.
ใบสีเขียวเข้ม:
สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งของพืชที่แข็งแรงคือใบสีเขียวเข้ม สูตรที่อุดมด้วยสารอาหารของ Maxa Fertilizer ช่วยให้มั่นใจได้ว่าพืชของคุณจะมีใบเขียวชอุ่มและเป็นสีเขียวเข้ม ซึ่งไม่เพียงแต่สวยงามน่าชมเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงการดูดซึมสารอาหารที่แข็งแกร่งและการสังเคราะห์แสงที่เหมาะสมอีกด้วย
.
ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์:
สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ คุณภาพของผลผลิตเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง แพ็คเกจสารอาหารที่ครอบคลุมของ Maxa Fertilizer ช่วยในการผลิตผลไม้ ผัก และธัญพืชคุณภาพสูง ปริมาณสารอาหารที่เพิ่มขึ้นในพืชผลสามารถนำไปสู่รสชาติที่ดีขึ้น คุณค่าทางโภชนาการที่ดีขึ้น และมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้น
.
ปุ๋ยแม็กซ่า เหมาะสำหรับพืชทุกประเภท ทำให้เป็นทางเลือกที่หลากหลายสำหรับชาวสวน เกษตรกร และนักปลูกพืชสวน ไม่ว่าคุณจะมีไม้ประดับ ผัก หรือไม้ผล ปุ๋ย Maxa ก็สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของคุณได้
.
ควรพ่นไห้เป็นละอองเล็กๆพอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วน
ของพืช ทุกๆ 7-10 วัน
.
อัตราส่วนผสมใช้ แมกซ่า
อัตราส่วน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยแมกซ่า 25 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยแมกซ่า 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)
.
ใบรับแจ้งเลขที่ รส.2113264/2566(กรมวิชาการเกษตร)
ใช้ได้กับพืชทุกชนิด น้ำหนักสุทธิ 1 กก.ใช้ได้ 10 ไร่
.
💲ราคาสินค้า 250 บาท
✈จัดส่งฟรี kerry ด่วน เก็บเงินปลายทาง
.
📌สั่งซื้อ สอบถาม
» Line@ ID: @FarmKaset หรือคลิกแอดไลน์ http://ไปที่..link..
» Website: http://ไปที่..link..
» TikTok http://ไปที่..link..
» โทร 090-592-8614
.
🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้ มีข้อดีคือ มีการจัดโปรโมชั่น และเคมเปญ ต่อเนื่องจากทาง Shopee_ Lazada
.
» ซื้อกับช้อปปี้ที่ http://ไปที่..link..
.
» ซื้อกับลาซาด้าที่ http://ไปที่..link..
.
» ซื้อกับ TikTok ที่ http://ไปที่..link..

การจัดการกับเพลี้ยในต้นดอกลีลาวดีสามารถทำได้ด้วยวิธีต่างๆ ทั้งทางธรรมชาติและการใช้สารเคมี ต่อไปนี้คือบางวิธีที่คุณสามารถลองใช้:

การใช้น้ำส้มควันไม้ (Neem oil): น้ำส้มควันไม้เป็นสารที่มีคุณสมบัติกำจัดเพลี้ยและป้องกันการทำลายของเชื้อราได้ดี คุณสามารถฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้ตรงลงบนใบและต้นของลีลาวดี ทำให้เพลี้ยไม่สามารถทำลายพืชได้.

การใช้สารป้องกันกำจัดแมลงที่เป็นธรรมชาติ: สารเคมีบางประการที่ทำจากสารสกัดจากพืช หรือจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติที่ช่วยในการควบคุมเพลี้ย ตัวอย่างเช่น สารบาซิลลัสไตล์ (Bacillus thuringiensis) ที่สามารถช่วยในการควบคุมหนอน.

การใช้สารเคมี: หากการใช้วิธีธรรมชาติไม่เพียงพอ คุณสามารถพิจารณาการใช้สารเคมีที่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โปรดอ่านฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต.

การตรวจสอบและตัดแต่ง: ตรวจสอบต้นดอกลีลาวดีอย่างสม่ำเสมอและตัดแต่งใบที่มีการทำลายออก เพื่อลดการเพาะพันธุ์ของเพลี้ย.

การใช้น้ำ: การใช้น้ำฉีดพ่นหรือฉีดน้ำตามปกติสามารถช่วยล้างออกเพลี้ยจากต้นดอกลีลาวดีได้.

การจัดการกับเพลี้ยต้องทำอย่างสม่ำเสมอและตลอดเวลาเพื่อป้องกันการระบาดของแมลงที่อาจทำลายพืชของคุณ.

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในต้นดอกลีลาวดี
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.

เชื้อราไตรโคเดอร์มา ตรา Trichorex ทางออกของเชื้อราสำหรับโรคเชื้อราในฤดูหนาว

เมื่อฤดูหนาวใกล้เข้ามา ชาวสวนและเกษตรกรต้องเผชิญกับความท้าทายร่วมกัน: การโจมตีของโรคเชื้อราต่างๆ ที่สามารถสร้างความหายนะให้กับพืชของพวกเขา โรคราแป้ง โรคราน้ำค้าง คอเน่า และโรคแอนแทรคโนสเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโรคเชื้อราที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญและแม้กระทั่งนำไปสู่การสูญเสียพืชผล อย่างไรก็ตาม ด้วยโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น เชื้อราไตรโคเดอร์มายี่ห้อ Trichorex การจัดการและป้องกันโรคเหล่านี้กลายเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Trichorex เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเชื้อรา Trichoderma ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีถึงคุณสมบัติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเชื้อโรคพืชหลายชนิด รวมถึงเชื้อที่ทำให้เกิดโรคราแป้ง โรคราน้ำค้าง คอเน่า และโรคแอนแทรคโนส วิธีแก้ปัญหาทางธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้นำเสนอทางเลือกแทนการใช้สารเคมีฆ่าเชื้อรา ช่วยให้ผู้ปลูกมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคเชื้อราในขณะที่ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Trichorex คือความสามารถในการทำหน้าที่เป็นสารควบคุมทางชีวภาพ เมื่อนำไปใช้กับดินหรือใบไม้ เชื้อราไตรโคเดอร์มาจะสร้างความสัมพันธ์ทางชีวภาพกับพืช โดยสร้างเกราะป้องกันที่ป้องกันไม่ให้เชื้อราก่อโรคแพร่เชื้อสู่โฮสต์ กลไกนี้ไม่เพียงช่วยป้องกันการเกิดโรค แต่ยังช่วยในการกำจัดการติดเชื้อราที่มีอยู่

โรคราแป้งซึ่งเป็นโรคเชื้อราในฤดูหนาวที่พบได้ทั่วไปโดยมีลักษณะเป็นแป้งสีขาวเคลือบบนใบและลำต้น สามารถควบคุมได้ยากเป็นพิเศษ Trichorex พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการต่อสู้กับโรคนี้ ยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของสปอร์ของโรคราแป้ง การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ขัดขวางการพัฒนาของเชื้อรา ทำให้อัตราการติดเชื้อลดลงและพืชแข็งแรงขึ้น

ในทำนองเดียวกัน โรคราน้ำค้างซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในฤดูหนาว สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากมายต่อพืชผล เช่น องุ่น ผักกาดหอม และแตงกวา ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา เช่น Trichorex นำเสนอวิธีแก้ปัญหาเชิงรุกเพื่อป้องกันการติดเชื้อราน้ำค้าง ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ทางชีวภาพกับพืช Trichorex ช่วยเพิ่มกลไกการป้องกันตามธรรมชาติของพืช ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นต่อการโจมตีของโรคราน้ำค้าง

โรคคอเน่าเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราที่ส่งผลกระทบต่อโคนพืช นำไปสู่การเน่าเปื่อยและการตายของพืชในที่สุด อาจเป็นข้อกังวลอย่างมากสำหรับเกษตรกร Trichorex ช่วยต่อสู้กับคอเน่าโดยตั้งรกรากบริเวณรากและสร้างเกราะป้องกันที่ป้องกันการเข้ามาและการเจริญเติบโตของเชื้อโรค กลไกการป้องกันที่แข็งแกร่งนี้สนับสนุนสุขภาพของพืช ลดความเสี่ยงของการเน่าคอ และเพิ่มผลผลิตพืชผลโดยรวม

โรคแอนแทรกโนสเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราอีกชนิดหนึ่งที่มักพบในฤดูหนาว ส่งผลกระทบต่อพืชหลากหลายชนิด รวมทั้งผลไม้ ผัก และไม้ประดับ คุณสมบัติที่เป็นปฏิปักษ์ของ Trichorex ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคแอนแทรคโนส ปกป้องพืชจากการติดเชื้อ และลดความรุนแรงของอาการ ด้วยการให้สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาของแอนแทรคโนส Trichorex ช่วยรักษาการเจริญเติบโตของพืชแม้ในช่วงเดือนที่อากาศหนาวเย็น

นอกจากประสิทธิภาพในการต่อต้านโรคเชื้อราบางชนิดแล้ว Trichorex ยังมีข้อดีอื่นๆ อีกหลายประการ ปลอดภัยต่อการใช้งานทั้งต่อพืชและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายหรือผลพลอยได้ที่เป็นพิษ ผลิตภัณฑ์นี้ใช้งานง่ายและสามารถรวมเข้ากับแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่มีอยู่ได้โดยไม่ต้องดัดแปลงอะไรมากมาย นอกจากนี้ Trichorex ยังสนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืนด้วยการส่งเสริมวิธีธรรมชาติในการจัดการโรคและลดการพึ่งพาสารเคมีสังเคราะห์

เชื้อราไตรโคเดอร์มาตรา Trichorex เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในฤดูหนาว คุณสมบัติที่เป็นปฏิปักษ์ตามธรรมชาติ ควบคู่ไปกับธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ปลูกที่ต้องการรักษาพืชให้แข็งแรงและเพิ่มผลผลิต ด้วยการใช้พลังของเชื้อราไตรโคเดอร์มา ชาวสวนและเกษตรกรสามารถจัดการกับโรคราแป้ง โรคราน้ำค้าง คอเน่า โรคแอนแทรคโนส และโรคเชื้อราอื่นๆ ได้อย่างมั่นใจ มั่นใจได้ถึงความเป็นอยู่ที่ดีของพืชผลแม้ในช่วงเดือนที่อากาศหนาวเย็น

*** มาตรฐานการผลิต ***
✅ มาตรฐาน ห้อง LAB " ISO /IEC17025
✅ สกัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
✅ วิจัยและคิดค้นสูตรในห้องแล็บที่ได้
มาตรฐาน
✅ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
✅ สะดวก ใช้งานง่ายแค่ผสมน้ำพ่นได้เลย

***ปลอดภัยต่อคนและสิ่งแวดล้อม ***

-วิธีใช้-
*ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
**ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กิโล

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

โรคเมลาโนสหรือโรคราน้ำหมากในต้นส้มเป็นโรคที่ทำให้ใบพืชเกิดอาการผิดปกติและมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของต้นพืชได้ โรคนี้เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Phyllosticta citricarpa หรือ Guignardia citricarpa และมักจะระบาดมากในสภาพอากาศที่ชื้นและอุณหภูมิสูง.

อาการของโรคเมลาโนสในต้นส้มประกอบไปด้วย:

จุดสีน้ำตาล: เริ่มต้นด้วยการเกิดจุดสีน้ำตาลเล็กๆ บนใบที่ทำให้ใบดูไม่สมบูรณ์.

การขยายพันธุ์: จุดนี้จะขยายพันธุ์และขยายพื้นที่ของโรคไปทั่วทั้งใบ.

รอยด่างสีน้ำตาลและขอบใบแห้ง: ระหว่างการเจริญเติบโต โรคนี้จะทำให้รอยด่างเพิ่มขึ้นและขอบใบเริ่มแห้ง.

การร่วงใบ: ในระยะท้ายของโรค ใบอาจร่วงลงมาจากต้น.

การป้องกันและควบคุมโรคเมลาโนสในต้นส้มรวมถึงการดูแลและการให้ปุ๋ยให้พืชสมบูรณ์ การให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม และการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช (fungicides) ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตร. การเก็บเกี่ยวใบที่ติดโรคและทำลายเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อราก็เป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ.

ควรตรวจสอบสภาพทางการเกษตรในพื้นที่ที่คุณปลูกส้มเพื่อเข้าใจถึงสภาพแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อการระบาดของโรคนี้และตัดสินใจในการป้องกันและควบคุมตามความเหมาะสม.

.
ไอเอส เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด โรคต้นส้ม จากเชื้อราหลายชนิด
ไอเอส สามารถป้องกันกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ไอเอส ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.