[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ

สารกำจัดศัตรูพืชอินทรีย์สำหรับควบคุม เพลี้ยไฟมังคุด : ประโยชน์ของการใช้ MAKA และ FK-1
สารกำจัดศัตรูพืชอินทรีย์สำหรับควบคุม เพลี้ยไฟมังคุด : ประโยชน์ของการใช้ MAKA และ FK-1
สารกำจัดศัตรูพืชอินทรีย์สำหรับควบคุม เพลี้ยไฟมังคุด : ประโยชน์ของการใช้ MAKA และ FK-1
เพลี้ยไฟมังคุด (Thrips mangiferae) เป็นศัตรูพืชทั่วไปที่สามารถทำลายต้นมังคุดและทำให้ผลผลิตลดลง แมลงขนาดเล็กเหล่านี้กินใบและดอกของต้นไม้ ทำให้พวกมันบิดเบี้ยวและแคระแกรน เพลี้ยไฟมังคุดสามารถทำลายต้นอ่อนได้

วิธีหนึ่งที่ได้ผลในการควบคุมเพลี้ยไฟมังคุดคือการใช้สารกำจัดศัตรูพืชอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำจากวัสดุธรรมชาติและปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมมากกว่ายาฆ่าแมลงสังเคราะห์

สารกำจัดศัตรูพืชอินทรีย์ชนิดนี้คือ MAKA ซึ่งทำจากส่วนผสมของสารสกัดจากพืชและน้ำมันหอมระเหย มาคา มีประสิทธิภาพในการควบคุมแมลงศัตรูพืชหลายชนิด รวมทั้งเพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน และไร อีกทั้งยังปลอดภัยสำหรับใช้กับพืชอาหาร จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับชาวสวนมังคุด

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ร่วมกับ MAKA ได้คือ FK-1 ซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหาร เช่น แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม รวมทั้งสารลดแรงตึงผิว การผสมผสานของสารอาหารและสารลดแรงตึงผิวนี้ช่วยบำรุงพืชและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ในขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันเพลี้ยและแมลงศัตรูพืชอื่นๆ

การใช้ MAKA และ FK-1 ร่วมกันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ยไฟในมังคุด ในขณะเดียวกันก็ช่วยบำรุงต้นและช่วยให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของเพลี้ย การรวมกันของทั้งสองผลิตภัณฑ์ยังสามารถช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิต

โดยรวมแล้ว การใช้สารกำจัดศัตรูพืชอินทรีย์ MAKA และปุ๋ย FK-1 สามารถเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการควบคุมเพลี้ยไฟมังคุด และปรับปรุงสุขภาพและผลผลิตของต้นมังคุด

สนใจ มาคา และ FK1 ช่องทางสั่งซื้อ

ลาซาด้า

FK-1 บนลาซาด้า ราคา 890 บาท http://ไปที่..link..

มาคา บนลาซาด้า ราคา 470 บาท http://ไปที่..link..

ช้อปปี้

FK-1 บนช้อปปี้ ราคา 890 บาท http://ไปที่..link..

มาคา บนช้อปปี้ ราคา 470 บาท http://ไปที่..link..

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
อ่าน:3563
ยาฆ่าหนอน ใน ฟักทอง และพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอกี้-บีที และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ยาฆ่าหนอน ใน ฟักทอง และพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอกี้-บีที และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ผลิตภัณฑ์กำจัดหนอน Aiki BT เป็นทางออกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการการควบคุมศัตรูพืชที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สกัดจากเอนไซม์ Bacillus thuringiensis (Bt) ซึ่งเป็นที่รู้จักจากคุณสมบัติในการฆ่าแมลง ด้วยการรวมประสิทธิภาพของ Bt สองสายพันธุ์ Kustaki และ Aizawai ผลิตภัณฑ์ควบคุมหนอน Aiki BT นำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับแมลงศัตรูพืชที่คุกคามผลผลิตของพืช

โหมดการทำงานหลักของผลิตภัณฑ์ควบคุมหนอน Aiki BT คือการปล่อยสารพิษจากผลึกโปรตีน โดยเฉพาะเดลต้า-เอนโดทอกซิน ซึ่งมีอยู่ในแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis สารพิษเหล่านี้มีความเฉพาะเจาะจงสูงและมุ่งเป้าหมายไปที่แมลงศัตรูพืชในวงแคบๆ เท่านั้น เมื่อถูกแมลงที่อ่อนแอกินเข้าไป พิษเหล่านี้จะทำให้กระเพาะเป็นพิษ ทำให้แมลงตายภายใน 24-48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สารพิษนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมถึงสัตว์นักล่าตามธรรมชาติ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปกป้องพืชผลโดยไม่ทำลายระบบนิเวศ

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของผลิตภัณฑ์ควบคุมหนอนไอกิบีทีคือประสิทธิภาพสูง การใช้ Bacillus thuringiensis สองสายพันธุ์ร่วมกันช่วยเพิ่มศักยภาพในการควบคุมศัตรูพืช ทำให้เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้สำหรับเกษตรกร นอกจากนี้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ควบคุมหนอนไอกิบีทีเป็นสารชีวภาพ จึงถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในระยะยาวต่อระบบนิเวศ นี่เป็นประโยชน์ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปกป้องพืชผลของตนโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อดีอีกประการของผลิตภัณฑ์ควบคุมเวิร์ม Aiki BT คือความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ ไม่มีสารเคมีอันตรายใด ๆ ทำให้ปลอดภัยต่อเด็กและสัตว์ นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นสารชีวภาพ จึงไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายในพืชผล ทำให้ปลอดภัยต่อการบริโภค

โดยสรุปแล้ว ผลิตภัณฑ์ควบคุมหนอนไอกิ บีที เป็นโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการควบคุมแมลงศัตรูพืช การใช้เอนไซม์ Bt และ delta-endotoxins ทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านแมลงศัตรูพืชบางชนิด ในขณะเดียวกันก็ปลอดภัยต่อผู้ล่าตามธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทำให้พวกเขาเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปกป้องพืชผลของตนโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
การจัดการเพลี้ยในต้นกล้วย: วิธีป้องกันและกำจัดเพลี้ยในสวนกล้วย
การจัดการเพลี้ยในต้นกล้วย: วิธีป้องกันและกำจัดเพลี้ยในสวนกล้วย
การจัดการเพลี้ยในต้นกล้วยสามารถทำได้หลายวิธีตามความรุนแรงของการติดเพลี้ยและสภาพแวดล้อมที่เพลี้ยทำการระบาด นี่คือบางวิธีที่คุณสามารถลองใช้:

การใช้น้ำฉีดล้าง: ใช้น้ำฉีดล้างเพลี้ยออกจากต้นกล้วย เฉพาะตอนยอดที่มีการระบาดมาก แต่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการระบาดในอนาคต

การใช้สารเคมี: สารเคมีที่มีประสิทธิภาพต่อการกำจัดเพลี้ยรวมถึงสารกลุ่มไดอะซินอน (neonicotinoids) หรือสารกลุ่มอินทรีย์เช่นน้ำส้มควันไม้หรือสบู่ที่มีสารสกัดจากพืช

การใช้ศัตรูธรรมชาติ: ใช้สัตว์ศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงพ่นน้ำหวาน หรือแตนเทียน ที่เป็นศัตรูของเพลี้ย

การใช้สารจากพืช: สารจากพืชบางประการมีความสามารถในการกำจัดเพลี้ย โดยใช้สารจากพืชที่มีกลิ่นเป็นพิเศษ เช่น พิเศษจากใบยาสูบหรือใบมะกรูด

การเสริมทางอาหาร: การให้ปุ๋ยที่สมบูรณ์และทำให้ต้นกล้วยเจริญเติบโตมีโอกาสที่จะต้านทานการระบาดของเพลี้ยได้มากขึ้น

อย่าลืมทำการตรวจสอบต้นกล้วยของคุณอย่างสม่ำเสมอและดูแลรักษาให้มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการระบาดของเพลี้ยด้วย เช่น การลดการสะสมขยะหรือซากพืชที่อาจเป็นที่อยู่ของเพลี้ย

.
มาคา เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด เพลี้ยในกล้วย
มาคา สามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ มาคา ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link..
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3562
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค - เทคโนโลยีเพื่อความรุ่งเรืองและปลอดภัยของลำไย
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค - เทคโนโลยีเพื่อความรุ่งเรืองและปลอดภัยของลำไย
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค - เทคโนโลยีเพื่อความรุ่งเรืองและปลอดภัยของลำไย
การเพิ่มผลผลิตของลำไยไม่เพียงแค่ต้องพัฒนาพันธุกรรมของพืชเอง แต่ยังต้องให้คำแนะนำในการจัดการดินและสารออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช การใช้เทคโนโลยีฮิวมิค แอซิดที่มีคุณภาพ เช่น ฮิวมิค แอซิดจากยี่ห้อฟาร์มิค จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อฟื้นฟูระบบรากของลำไย ปรับปรุงโครงสร้างดิน และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ธาตุอาหาร

1. ฮิวมิค แอซิดจากฟาร์มิค

ยี่ห้อฟาร์มิคเป็นตัวแทนของเทคโนโลยีฮิวมิค แอซิดที่ได้รับความไว้วางใจจากเกษตรกรทั่วโลก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของฟาร์มิคถูกพัฒนาขึ้นจากวิจัยและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งมีฤทธิ์ที่จะช่วยให้ลำไยเติบโตแข็งแรงและมีผลผลิตที่ดีมากขึ้น

2. สารออกฤทธิ์ของฮิวมิค แอซิด

สารออกฤทธิ์ของฮิวมิค แอซิดมีหลายประการที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลำไย ซึ่งรวมถึง:

ฟื้นฟูระบบราก: สารสกัดจากฮิวมัส (Humus) ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากลำไย ทำให้ระบบรากเสถียรและสามารถดูดธาตุอาหารได้มากขึ้น

ปรับปรุงโครงสร้างดิน: ฮิวมิค แอซิดมีฤทธิ์ที่ช่วยในการกระตุ้นกระบวนการทางชีวภาพในดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่ดีและมีสภาพพื้นที่ในการเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อลำไย

ช่วยในการระบายน้ำ: ฮิวมิค แอซิดช่วยลดปัญหาการขังน้ำในดิน ทำให้น้ำซึมผ่านดินได้ดีขึ้น ลำไยจึงไม่ต้องเผชิญกับปัญหาของการขังน้ำที่อาจทำให้รากเสียหาย

3. การใช้งานฮิวมิค แอซิดในการปลดปล่อยธาตุอาหาร

การใช้ฮิวมิค แอซิดจากฟาร์มิคเป็นวิธีที่ดีในการปลดปล่อยธาตุอาหารจากดินให้แก่ลำไย ซึ่งสารออกฤทธิ์จะช่วยลดการยึดติดของธาตุอาหารในดินและทำให้พืชสามารถนำธาตุอาหารไปใช้ได้มากขึ้น

4. สร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง

การให้ฮิวมิค แอซิดในลำไยช่วยในการสร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ ทำให้ลำไยสามารถดูดธาตุอาหารและน้ำได้มากมาย ทำให้พืชเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

5. การใช้ฮิวมิค แอซิดในการฉีดพ่น

การใช้ฮิวมิค แอซิดในลำไยผ่านการฉีดพ่นเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถผสมน้ำกับฮิวมิค แอซิดตามอัตราที่แนะนำ แล้วฉีดพ่นทางใบของลำไย เพื่อให้สารสามารถดูดซึมเข้าสู่พืชได้ดี


การใช้ฮิวมิค แอซิดจากยี่ห้อฟาร์มิคเป็นทางเลือกที่ดีในการปรับปรุงสภาพดินและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ธาตุอาหารสำหรับลำไย ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้งานที่ระบุไว้ในฉลากหรือคู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link.. .
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3562
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยอ่อน ศัตรูพืช สำหรับต้นถั่วฝักยาว
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยอ่อน ศัตรูพืช สำหรับต้นถั่วฝักยาว
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยอ่อน ศัตรูพืช สำหรับต้นถั่วฝักยาว
ถั่วฝักยาวเป็นพืชผักสวนครัวที่ได้รับความนิยมปลูกเพื่อบริโภคและจำหน่าย แต่ทว่าปัญหาใหญ่ที่มักพบเจอคือการระบาดของ เพลี้ยอ่อน แมลงศัตรูพืชตัวร้ายที่คอยดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นถั่วฝักยาว ส่งผลต่อการเจริญเติบโต ทำให้ใบเหลือง ผลผลิตด้อยคุณภาพ และอาจตายในที่สุด

บทความนี้จึงขอนำเสนอวิธีการป้องกันและกำจัดเพลี้ยอ่อนบนต้นถั่วฝักยาวด้วย INVET ผสมกับ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5

INVET คืออะไร

INVET คือชื่อการค้าของสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ชื่อสามัญว่า ไดโนเตฟูราน อยู่ในกลุ่มนีโอนิโคตินอยด์ ออกฤทธิ์แบบดูดซึม กำจัดแมลงได้หลายชนิด โดยเฉพาะเพลี้ยอ่อน

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 คืออะไร

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 เป็นปุ๋ยสูตรเร่งโต เร่งเขียว ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน (N) 30% ฟอสฟอรัส (P) 20% โพแทสเซียม (K) 5% และธาตุอาหารรองอื่นๆ ช่วยให้ต้นถั่วฝักยาวเจริญเติบโต แข็งแรง ใบเขียวชอุ่ม

วิธีการใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5

เตรียมอุปกรณ์: ถังผสม ยาฆ่าแมลง INVET ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก แว่นตา
ผสม INVET 20 กรัม กับน้ำ 20 ลิตร
ใส่ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 อัตรา 25 กรัม ลงในถังผสม คนให้เข้ากัน
ฉีดพ่นให้ทั่วต้นถั่วฝักยาว โดยเฉพาะบริเวณใต้ใบ ซึ่งเป็นจุดที่เพลี้ยอ่อนชอบอาศัยอยู่
ฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น แดดไม่ร้อนจัด
สวมอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งเมื่อใช้สารเคมี
เก็บรักษา INVET และปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ให้มิดชิด พ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง และอาหาร

ข้อควรระวัง

INVET เป็นสารเคมีอันตราย ควรอ่านฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
สวมอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งเมื่อใช้สารเคมี
ห้ามฉีดพ่นในบริเวณที่มีลมแรง
ห้ามฉีดพ่นบริเวณแหล่งน้ำ
ห้ามรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำระหว่างการฉีดพ่น
เก็บรักษา INVET และปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ให้มิดชิด พ้นมือเด็ก สัตว์เลี้ยง และอาหาร
ล้างมือและอาบน้ำให้สะอาดหลังการฉีดพ่น

ผลลัพธ์

การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยอ่อนบนต้นถั่วฝักยาว จะช่วยให้:

เพลี้ยอ่อนตาย
ต้นถั่วฝักยาวเจริญเติบโต แข็งแรง ใบเขียวชอุ่ม
ผลผลิตถั่วฝักยาวมีคุณภาพดี เพิ่มผลผลิต
ปลอดภัยต่อผู้ใช้เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

อัตราส่วนผสม อิทเวท ป้องกันกำจัดเพลี้ย
20กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร *ควรผสมฉีดพ่นไปพร้อมกับ สตาร์เฟอร์สูตร 30-20-5 เพื่อให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของเพลี้ยได้เร็ว และกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

อัตราส่วนผสมใช้ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ (ทุกสูตร)
อัตราส่วน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3562
ยากำจัดโรคใบจุด ใน ต้นกล้วย โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
ยากำจัดโรคใบจุด ใน ต้นกล้วย โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
ยากำจัดโรคใบจุด ใน ต้นกล้วย โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่กำจัดโรคใบจุดในต้นกล้วย

ต้นกล้วยไม่เพียงแต่เป็นพืชหลักสำหรับผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก แต่ยังเป็นแหล่งทำมาหากินของเกษตรกรจำนวนมากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม พืชเหล่านี้อ่อนแอต่อโรคต่างๆ โดยโรคใบจุดเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยและร้ายแรงที่สุด โรคใบจุดที่เกิดจากเชื้อราสามารถส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพและผลผลิตของต้นกล้วย แต่อย่ากลัวไป เพราะสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ล้ำสมัยที่เรียกว่า IS อยู่ที่นี่แล้วเพื่อช่วยชีวิต

IS ได้รับการพัฒนาผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ควบคุมและยับยั้งเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นวิธีที่เชื่อถือได้ในการต่อสู้กับโรคใบจุดในต้นกล้วย สิ่งที่ทำให้ IS แตกต่างคือส่วนประกอบจากธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งสกัดจากส่วนผสมออร์แกนิกที่คัดสรรมาอย่างดี สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้เป็นโซลูชันที่ยั่งยืน แต่ยังรับประกันความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมด้วย

เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง IS เกี่ยวข้องกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราและการเพิ่มจำนวนบนผิวใบพืช ด้วยการควบคุมสภาวะที่ผิวใบอย่างระมัดระวัง IS จะรบกวนกระบวนการเจริญเติบโตที่สำคัญของเชื้อรา ป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายและก่อให้เกิดความเสียหาย วิธีการที่ตรงเป้าหมายนี้มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดโรคใบจุดและฟื้นฟูสุขภาพของต้นกล้วย

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือการยึดเกาะกับผิวใบพืชที่เหนือกว่า สิ่งนี้ทำให้สามารถสร้างเกราะป้องกัน ป้องกันเชื้อราที่ก่อโรคจากการติดและเพิ่มจำนวนใบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแตกต่างจากการบำบัดด้วยสารเคมีทั่วไป ซึ่งมักถูกชะล้างด้วยฝนหรือเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว IS ยังคงอยู่อย่างมั่นคง ช่วยป้องกันการติดเชื้อราได้ยาวนานขึ้น

นอกจากนี้ IS ยังผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัย ผ่านการทดลองภาคสนามอย่างกว้างขวาง มันได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการควบคุมโรคใบจุด ลดอุบัติการณ์ของการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชให้แข็งแรงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะสารอินทรีย์ IS ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกษตรกรและคนงานเกษตร

การใช้ IS เป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ก่อให้เกิดประโยชน์มากมายแก่ชาวสวนกล้วย ด้วยการต่อสู้กับโรคใบจุดอย่างมีประสิทธิภาพ มันจึงปกป้องพืชผลและดำรงชีวิตของพวกเขา นอกจากนี้ IS ยังสนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืนโดยลดการพึ่งพาการบำบัดด้วยสารเคมีสังเคราะห์ ส่งเสริมแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในการปกป้องพืช

โดยสรุป IS เป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ก้าวล้ำซึ่งให้วิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสำหรับต่อสู้กับโรคใบจุดในต้นกล้วย พัฒนาขึ้นจากการวิจัยอย่างพิถีพิถันและใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด IS ควบคุมและยับยั้งเชื้อราโดยสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา คุณสมบัติการยึดเกาะที่เหนือกว่าช่วยให้มั่นใจได้ถึงการปกป้องที่ยาวนานบนผิวใบพืช และความปลอดภัยทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ ด้วย IS เกษตรกรสามารถจัดการโรคใบจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพลิดเพลินไปกับสวนกล้วยที่มีสุขภาพดีขึ้นในขณะที่ส่งเสริมแนวทางการทำการเกษตรแบบยั่งยืน

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ยสำหรับข้าว ปุ๋ยเพิ่มผลผลิตข้าว ยาแก้โรคใบไหม้ เน่าคอรวง ยากำจัดเพลี้ยในนาข้าว
ปุ๋ยสำหรับข้าว ปุ๋ยเพิ่มผลผลิตข้าว ยาแก้โรคใบไหม้ เน่าคอรวง ยากำจัดเพลี้ยในนาข้าว
การให้ปุ๋ยข้าว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้น ต้องให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารเหมาะสม สอดคล้องกับช่วงอายุของการเจริญเติบโตของข้าว ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงข้าวเริ่มงอก ไปจนก่อนตั้งท้อง เราควรให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารที่เน้นไปทางส่งเสริมการเจริญเติบโต ส่งเสริมระบบราก เพื่อให้ดูดกินอาหารได้ดี และเพิ่มความเขียว เพื่อให้ต้นข้าวสังเคราะห์แสงได้ดี ทำให้ข้าวโตไวและแข็งแรง หากเราเน้นให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารที่เร่งกระบวนการเพิ่มผลผลิตในช่วงนี้ จะสิ้นเปลือง เพราะต้นข้าวจะไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

ในทางกลับกัน ในระยะข้าวตั้งท้อง ควรลดปริมาณการให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง และเพิ่มโพแตสเซียมให้มากขึ้น เพื่อที่จะส่งเสริมกระบวนการลำเลียงสะสมแป้งและน้ำตาล เพื่อให้ข้าวออกรวงได้ยาว มีเมล็ดเต็ม มีน้ำหนัก ส่งผลให้ผลผลิตข้าวมีคุณภาพ และได้ผลผลิตในปริมาณที่สูงขึ้น

ฉีดพ่นด้วย FK-1 สำหรับข้าวหลังปลูก ไปจนถึงก่อนข้าวตั้งท้อง สามารถฉีดพ่นได้ต่อเนื่องทุกๆ 7-15 วัน เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโต เร่งการแตกกอ เพิ่มความเขียวสมบูรณ์ แข็งแรงให้กับต้นข้าว

อัตราการใช้ FK-1 แกะกล่องออกมามี 2 ถุง ผสมตัวยาจากสองถุงใช้พร้อมกัน ถุงละ 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร หรือ 500กรัม ต่อน้ำ 200ลิตร

ใน FK-1 นั้นประกอบด้วย ธาตุหลัก Nitrogen(ไนโตรเจน) 20%_ Phosphorus(ฟอสฟอรัส) 20%_ Potassium(โพแตสเซียม) 20% และธาตุรอง Magnesium(แมกนีเซียม) พร้อมธาตุเสริม Zinc(สังกะสี) และ Sticking ‎agents (สารลดแรงตรึงผิว หรือสารจับใบนั่นเอง)

ข้าวเริ่มตั้งท้อง เปลียนมาฉีดพ่นด้วย FK-3R ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างจาก FK-1 ตรงที่ FK-3R นั้น เน้นธาตุโพแตสเซียมสูง 40 เปอร์เซ็นต์ โพแตสเซียมนี้ จะส่งเสริมกระบวนการลำเลียง เคลื่อนย้ายแป้งและน้ำตาล มาสะสมเป็นเมล็ดข้าว ข้าวที่เราปลูกนั้นจะมีรวงยาว เมล็ดเต็ม ได้ผลผลิตดี มีน้ำหนัก อัตราการใช้ FK-3R นั้น เป็นเช่นเดียวกันกับ FK-1 สามารถฉีดพ่นได้ต่อเนื่องทุกๆ 7-15 วัน ตามความเหมาะสมของผู้ปลูก

ยายับยังโรคข้าวต่างๆ ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา
โรคไหม้ โรคใบจุดสีน้ำตาล โรคใบขีดสีน้ำตาล โรคใบวงสีน้ำตาล โรคกาบใบแห้ง โรคกาบใบเน่า โรคเมล็ดด่าง โรคขอบใบแห้ง โรคใบแถบแดง โรคกล้าเน่า โรคลำต้นเน่า
ฉีดพ่นด้วย ไอเอส ในอัตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร หรือ 500ซีซี ต่อน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงที่มีการระบาด

ยากำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูข้าว
เพลี้ยไฟข้าว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยกระโดดหลังขาว เพลี้ยจักจั่นสีเขียว เพลี้ยจักจั่นปีกลายหยัก
ใช้ มาคา ยาอินทรีย์ สารอัลคาลอยด์ ป้องกัน กำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูข้าว ในอัตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร หรือ 500ซีซี ต่อน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงที่มีการระบาด

ยากำจัดหนอนต่างๆ ในนาข้าว
หนอนกอข้าว หนอนแมลงวันเจาะยอดข้าว หนอนกระทู้กล้า หนอนห่อใบข้าว หนอนปลอกข้าว หนอนกระทู้คอรวง
ใช้ ไอกี้-บีที สารชีวินทรีย์ ป้องกันกำจัดหนอน ในอัตราส่วน 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร หรือ 500กรัม ต่อน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงที่มีการระบาด
อ่าน:3562
โรคพืชที่เกิดจากสิ่งไม่มีชีวิต และ โรคพืช ที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต
โรคพืชที่เกิดจากสิ่งไม่มีชีวิต และ โรคพืช ที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต
ปัจจุบันปัญหาด้านเศรษฐกิจนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกที เนื่องจากจำนวนประชากรของโลกเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่เนื้อที่ทำการเกษตรมีจำกัด หรืออาจน้อยลง เพราะส่วนหนึ่งต้องนำมาใช้เป็นที่อยู่อาศัย เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นต้องใช้เนื้อที่ทางด้านการเกษตรที่มีอยู่ ในการเพาะปลูกพืชอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ที่ลดผลผลิตของพืช คือ ปัญหาศัตรูพืช ซึ่งหมายถึง โรคพืชและแมลง แมลงและสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคกับพืช เป็นสิ่งมีชีวิต ได้พยายามปรับตัว เพื่อต่อสู้วิธีการป้องกัน และกำจัดของมนุษย์ตลอดมา เพื่อความอยู่รอด การศึกษาด้านศัตรูพืชจึงต้องกระทำติดต่อตลอดไป เพื่อให้เข้าใจถึงวัฎจักรการเข้าทำลายพืชของแมลงและโรค และใช้วิธีที่เหมาะสมในการป้องกัน และกำจัด เพื่อแก้ปัญหาศัตรูพืชเหล่านี้ให้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งในที่นี้ จะกล่าวถึงเฉพาะด้านโรคพืช ถ้าจะมีใครสักคนถามว่า ความหมายของโรคพืชคืออะไร คงจะให้คำจำกัดความที่แน่นอนลงไปได้ยาก แต่ก็พอจะสรุปว่า เมื่อพืชแสดงอาการผิดปกติไปจากเดิม มีผลทำให้เกิดการสูญเสีย ในแง่การเจริญเติบโต และผลผลิตลดลง ไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือยาวก็ตาม ก็ถือว่า พืชเป็นโรคทั้งสิ้น ดังจะได้กล่าวถึง ในรายละเอียดของอาการที่ผิดปกติต่อไป

อาการใบเหลืองซีดของอ้อย เกิดเป็นหย่อมๆ เป็นลักษณะหนึ่งของการขาดธาตุอาหาร อาการใบเหลืองซีดของอ้อย เกิดเป็นหย่อมๆ เป็นลักษณะหนึ่ง ของการขาดธาตุอาหาร
ความเสียหายที่เกิดจากโรคพืช ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ ๓ ประการ คือ ความอ่อนแอของพืชต่อการเกิดโรค ความรุนแรงของเชื้อโรค และสภาพสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแก่ การเกิดโรค เช่น อุณหภูมิ ความชื้นสภาพ ความเป็นกรด และด่างของดิน ฯลฯ ในกรณีที่พืชอ่อนแอต่อโรคมาก เชื้อโรคมีความรุนแรงมากและสภาพแวดล้อมเหมาะสม ความเสียหาย จะเกิดขึ้นรุนแรง ในอดีต โรคไหม้ (blight) ของมันฝรั่งเคย ระบาดรุนแรง ทำให้ผลผลิตมันฝรั่งในประเทศไอร์แลนด์ลดต่ำลง จนไม่เพียงพอต่อความต้องการในการบริโภคของประชาชน ทำให้ประชาชนอดอาหาร ล้มตายเป็นจำนวนมาก ในประเทศไทย โรคพืชชนิดต่างๆ เช่น โรคใบสีส้มของข้าว โรคราน้ำค้างของ ข้าวโพด โรครากเน่าของทุเรียน ทำให้ผลผลิตของพืชลดลง คิดเป็นมูลค่าปีละหลายพันล้านบาท

โรคพืช แบ่งออกได้เป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ

๑. โรคพืชที่เกิดจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต

สิ่งไม่มีชีวิตที่สามารถทำให้เกิดอาการผิดปกติแก่พืชได้แก่

๑.๑ ปุ๋ย

พืชที่ขาดธาตุอาหาร หรือได้รับธาตุอาหารมากเกินไป หรือภาษาทางการเกษตร ที่เรามักจะคุ้นเคยเรียกว่า พืชขาดปุ๋ย หรือได้รับปุ๋ยมากเกินไป ปกติธาตุอาหารเหล่านี้ มักมีอยู่ในดิน เพียงพอต่อความต้องการของพืช แต่บางกรณี สภาพความเป็นกรดเป็นด่างของดินที่ไม่เหมาะสม ทำให้ธาตุอาหารต่างๆ เหล่านี้ เปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่พืชไม่สามารถดูดนำมาใช้ได้ หรือบางครั้ง เราปลูกพืชซ้ำที่เดิมเป็นเวลานาน โดยไม่มีการปรับดินให้ปุ๋ย จึงทำให้ดินบริเวณนั้นขาดแคลนธาตุอาหาร และพืชแสดงอาการเป็นโรคขาดธาตุอาหารให้เห็น อาการที่เกิดจากธาตุอาหารนี้ ส่วนใหญ่สังเกตได้ที่ใบอ่อน และใบแก่ โดยจะมีอาการเปลี่ยนสี ใบมีขนาดเล็กลง ม้วนขึ้น หรืองดลง ตลอดจนการเจริญเติบโต และการให้ผลผลิตผิดปกติ ตัวอย่างกรณีให้ปุ๋ยมากเกินไป อาจทำให้ต้นพืชเหี่ยวเฉาตาย หรือใบงามจนเกินไป และไม่ออกรวง เช่น ข้าวเป็นโรคเฝือใบ เนื่องจากได้รับธาตุไนโตรเจนมากเกินไป หรือกล้วยไม้ พวกหวายมาดามตัดดอก มีการบำรุง และเร่งการออกดอก ด้วยปุ๋ยสูตรชนิดต่างๆ โดยมิให้ต้นไม้มีการพักตัว ปรากฏว่า ดอกมาดามที่ตัดจากต้นเหล่านี้มีคุณภาพเลวลง โดยมีระยะการบานไม่ทน เหี่ยวเฉา และหลุดร่วงง่าย ทำให้เสียมาตรฐานคุณภาพไม้ตัดดอก และนำมาซึ่งปัญหาการตลาดระหว่างประเทศต่อไป
อาการก้นเน่าของมะเขือเทศ เกิดจากการขาดธาตุแคลเซียม
อาการก้นเน่าของมะเขือเทศ
เกิดจากการขาดธาตุแคลเซียม ส่วนอาการพืช เนื่องจากขาดธาตุอาหาร พบได้บ่อยครั้ง เช่น โรคอ้อยขาดธาตุเหล็ก ทำให้เกิดอาหารใบเหลืองซีด ส้มที่ขาดธาตุสังกะสี หรือที่เรียกว่า ใบแก้วของส้ม ใบที่ยอดอ่อนจะเรียวเล็ก และชี้ขึ้น หรือโรคก้นเน่าของมะเขือเทศ ซึ่งเกิดจากการขาดธาตุแคลเซียม เป็นต้น
๑.๒ ดินที่มีสภาพความเป็นกรด เป็นด่างมากเกินไป

โดยปกติสภาพความเป็นกรดด่างของดิน มิใช่ตัวควบคุมการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง แต่มีผลทางอ้อมต่อพืช ในการนำธาตุอาหารในดินมาใช้ หรือในแง่การเจริญเติบโต และอยู่ร่วมกันของเชื้อจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งจะมีผลช่วยให้พืชมีการเจริญเติบโตดี หรือผิดปกติไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของดินและพืชแต่ละชนิด เรามักได้ยินคำว่า ดินเปรี้ยว ทำให้พืชมีขนาดเล็ก การเจริญเติบโตช้า อันเนื่องมาจากความเป็นกรดหรือด่างมากเกินไป ทำให้พืชไม่สามารถใช้ธาตุอาหารบางชนิดได้ หรือมีการเสริมให้เชื้อโรคในดินบางชนิดระบาดรุนแรงขึ้น เช่น โรคเหี่ยวของมะเขือเทศ และพืชบางชนิด ซึ่งเกิดจากเชื้อราฟิวซาเรียม (Fusarium sp.) จะแสดงอาการโรครุนแรงมาก ในดินกรด หรือค่อนข้างไปทางกรด ในทางตรงกันข้าม เชื้อราเวอร์ติซิลเลียม (Verticillium sp.) ซึ่งทำให้เกิดอาการเหี่ยวของมะเขือเทศเช่นเดียวกัน จะทำให้เป็นโรครุนแรงในสภาพดินด่าง เป็นต้น
อาการเหี่ยวของพริก เกิดจากเชื้อราฟิวซาเรียม
อาการเหี่ยวของพริก เกิดจากเชื้อราฟิวซาเรียม
๑.๓ วิธีการทางเขตกรรม

วิธีการนี้มีหลายกรณี เนื่องจากการเพาะปลูก จำเป็นต้องมีการเตรียมดินฆ่าเชื้อในแปลงปลูกที่เคยเป็นโรคมาก่อน หรืออุปกรณ์ในการเพาะกล้า และย้ายปลูก บางครั้งฤทธิ์ตกค้างของสารเคมีบางชนิดยังคงอยู่ และทำให้เกิดอาการผิดปกติกับพืชได้ การกำจัดวัชพืช หรือการใช้ปุ๋ยซึ่งมีวิธีต่างๆ กันอาจกระทบกระเทือนระบบราก และทำให้เกิดอาการเหี่ยวเฉา การยึดพืชกับเครื่องปลูก หรือสิ่งยึดเกาะ หากไม่แข็งแรงพอจะทำให้ระบบรากสั่นคลอน เนื่องจากกระแสลม หรือแรงกระทำอื่นๆ ทำให้รากไม่ยึดเกาะดิน หรือเครื่องปลูก อาจทำให้พืชเหี่ยวเฉา หรือถึงแห้งตายได้ มักจะเกิดกับกล้วยไม้ และการปลูกพวกกิ่งตอนต่างๆ
อาการใบไหม้ของส้มเกิดจากการใส่ปุ๋ยแล้วขาดการรดน้ำ
อาการใบไหม้ของส้มเกิดจากการใส่ปุ๋ย แล้วขาดการรดน้ำ
๑.๔ แสงแดดหรืออากาศที่ร้อนจัดเกินไป

มีพืชบางชนิด ที่ไม่สามารถทนความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ เช่น พวกพืชอวบน้ำ ใบหนา เมื่อมีหยดน้ำเกาะติดบนใบพืชและถูกแสงอาทิตย์ส่องนานๆ จะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นถูกทำลายเป็นเซลล์ตาย สีน้ำตาลหรือสีดำ และอ่อนแอต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรคอื่นๆ เช่น เชื้อรา เชื้อบัคเตรี ฯลฯ นอกจากนี้ในโรงเรือนที่อบ หรือการขนส่งจำนวนมากๆ ในสภาพอากาศร้อนจัด มักทำให้พืชได้รับการกระทบกระเทือนมีอาการตายนิ่ง สลัดใบทิ้ง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต หรืออาจถึงแห้งตาย มักเกิดขึ้นกับพืชทุกชนิด
๑.๕ ความชื้นมากหรือน้อยเกินไป

ความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเจริญเติบโตของพืช แต่ถ้าความชื้นมากเกินไป ก็มักจะช่วยส่งเสริมการเกิดโรคได้มากขึ้น เช่น การบรรจุไม้ตัดดอกส่งต่างประเทศ จะต้องมีกรรมวิธีการบรรจุที่ถูกต้อง ช่อไม้ดอกจะต้องแห้งปราศจากหยดน้ำบริเวณกลีบดอก ทั้งนี้เพื่อลดปัญหาดอกเน่า จากการเข้าทำลายของเชื้อบางชนิด ในขณะที่มีการขนส่งไปยังตลาดในระยะทางไกลๆ หรือหากปลูกพืชแช่อยู่ในดิน หรือบริเวณที่ปลูกที่น้ำขัง การระบายน้ำไม่ดี ก็มักจะทำให้ระบบรากเน่า หรือเชื้อโรคในดินเข้าทำลายระบบรากได้ง่าย แต่ถ้าความชื้นน้อยเกินไป ก็จะมีผลโดยตรงกับการเจริญของพืช ต้นพืชจะเหี่ยวเฉา และโตช้า อาการใบไหม้ของไม้ประดับเกิดจากการใส่ปุ๋ยมากและอากาศร้อนจัด
อาการใบไหม้ของไม้ประดับเกิดจากการใส่ปุ๋ยมากและอากาศร้อนจัด
๒. โรคที่เกิดจากสิ่งที่มีชีวิต

มีเชื้อโรคหลายชนิด ที่ทำให้พืชเป็นโรค เชื้อแต่ละชนิดมีคุณสมบัติการเข้าทำลายพืช และการแพร่ระบาดโรคแตกต่างกันไป จึงขอกล่าวถึงเชื้อแต่ละชนิดพอเป็นสังเขป ดังต่อไปนี้

๒.๑ เชื้อรา

เป็นเชื้อที่พบว่า ทำให้เกิดโรคแก่พืชมากที่สุด และทำให้เกิดอาการประเภทต่างๆ บนพืชมากที่สุดด้วย เช่น ใบเป็นแผลจุด ใบไหม้ ใบติด ใบเหี่ยว รากเน่า โคนเน่า ผลเน่า เมล็ดเน่า ต้นกล้าเน่า หรือแห้งตายทั้งต้น เชื้อราส่วนใหญ่มีการแพร่ระบาดโรคด้วยส่วนที่เรียกว่า สปอร์ (spore) โดยมี น้ำ ลม หรือสิ่งมีชีวิตเป็นตัวนำ หรืออาจติดไปกับส่วนของพืชและดินที่เป็นโรค เชื้อราบางชนิดพักตัวอยู่ในส่วนของพืชและดินเป็นเวลานานนับปี มีความสามารถในการเข้าทำลายพืชได้ทั้งทางแผล ช่องเปิดธรรมชาติ หรือเข้าทำลายเนื้อเยื่อพืชโดยตรงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อรา

อาการใบไหม้เป็นวงซ้อนของใบกล้วยไม้ซึ่งเกิดจากเชื้อรา เข้าทำลายซ้ำเติมบริเวณที่ถูกแดดเผา อาการใบไหม้เป็นวงซ้อนของใบกล้วยไม้ซึ่งเกิดจากเชื้อรา เข้าทำลายซ้ำเติมบริเวณที่ถูกแดดเผา
เชื้อราแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ ๔ กลุ่มด้วยกันคือ

๒.๑.๑ ไฟโคไมซิทิส (phycomycets) เรามักเรียก เชื้อราในกลุ่มนี้ว่า ราชั้นต่ำ หรือราน้ำ มีลักษณะที่สำคัญคือ เส้นเชื้อราไม่มีผนังเซลล์กั้นด้านขวาง เรียกว่า โคโนไซติก ไฮฟีหรืออะเซพเทต ไฮฟี (coenocytic hyphae หรือ aseptate hyphae) ขยายพันธุ์ทั้งแบบไม่ใช้เพศโดยสร้างโซโอสปอร์ หรือสปอร์ที่มีหางในถุงหุ้มโซโอสปอร์ (zoosporangium) และแบบใช้เพศโดยผสมระหว่างเส้นใยที่มีลักษณะและเพศต่างกัน ให้สปอร์ผนังหนาผิวเรียบ เรียกว่า โอโอสปอร์ (oospore) หรืออาจเกิดจากการผสมระหว่างเส้นใยที่มีลักษณะและเพศต่างกัน แต่ต่างเพศกันให้สปอร์ผนังหนาขรุขระ เรียกว่า ไซโกสปอร์ (zygospore) สปอร์เหล่านี้จะแพร่ระบาดโดยลมพัดพาไป หรือว่ายน้ำไป เชื้อราในกลุ่มนี้ ทำให้เกิดโรคที่สำคัญกับพืชเศรษฐกิจหลายชนิด เช่น โรคราน้ำค้างของข้างโพด เกิดจากเชื้อสเคลอโรสปอรา ซอร์ไจ (Scherospora sorghi) โรคราน้ำค้างขององุ่น เกิดจากเชื้อพลาสโมพารา วิทิโคลา (Plasmopara viticola) โรครากเน่าของทุเรียนเกิดจากเชื้อไฟทอฟทอรา (Phytophthora sp.) เป็นต้น

อาการจุดสนิมของดอกกล้วยไม้ที่เกิดจากเชื้อรา มีอาการรุนแรงเมื่อมีความชื้นสูง เข้าทำลายซ้ำเติมบริเวณที่ถูกแดดเผา อาการจุดสนิมของดอกกล้วยไม้ที่เกิดจากเชื้อรา มีอาการรุนแรงเมื่อมีความชื้นสูง
๒.๑.๒ แอสโคไมซิทิส (ascomycets) เป็นเชื้อราที่เส้นใยมีผนังกั้น (septate hyphae) ขยายพันธุ์ทั้งแบบไม่มีเพศ โดยสร้างสปอร์เรียกว่า โคนิเดีย (conidia) และแบบใช้เพศโดยผสมระหว่างเส้นใยที่มีลักษณะและเพศต่างกัน จะเกิดแอสโคสปอร์ (ascospore) ในถุงหุ้มสปอร์ (ascus) ถุงหุ้มสปอร์นี้อยู่ในกลุ่มเส้นใยซึ่งประสานตัวกัน มีผนังหนาสีดำ เรียกว่า ฟรุตติงบอดี (fruiting) คนโทปากเปิด (perithecium) และรูปถ้วยแชมเปญ (apothecium) ส่วนของฟรุตติงบอดีนี้ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อเกิดบนพืชเป็นโรคโดยจะเห็นเป็นจุดสีดำๆ เชื้อราในกลุ่มนี้ ทำให้เกิดโรคที่สำคัญ เช่น โรคราแป้งขาวขององุ่น กุหลาบ เป็นต้น
กลุ่มเส้นใยของเชื้อราที่เจริญบนอาหารเลี้ยงเชื้อ
กลุ่มเส้นใยของเชื้อรา
ที่เจริญบนอาหารเลี้ยงเชื้อ ๒.๑.๓ เบสิดิโอไมซิทิส (basidiomycetes) เป็น เชื้อราที่เส้นใยมีผนังกั้น ขยายพันธุ์ทั้งแบบไม่มีเพศโดยสร้าง สปอร์เรียกว่า โคนิเดีย และแบบมีเพศ โดยผสมระหว่างเส้นใยที่ มีลักษณะและเพศต่างกันเกิดสปอร์ เรียกว่า เบสิดิโอสปอร์ (basidiospore) ซึ่งอาจเกิดอยู่ในฟรุตติงบอดี หรือเกาะติดอยู่บน เส้นใยที่มีรูปร่างคล้ายกระบอง เรียกว่า เบสิเดียม (Basidium) เชื้อราในกลุ่มนี้ ทำให้เกิดโรคพืชต่างๆ ที่สำคัญ เช่น โรคสนิม ของพืช โรคเขม่าดำของข้าวโพด เกิดจากเชื้อยูสติลาโก เมย์ดิส (ustilago maydis) โรคเขม่าดำหรือแส้ดำ ของอ้อย เกิดจากเชื้อ ยูสติลาโก ไซตามิเนีย (Ustilago scitaminea) เป็นต้น
๒.๑.๔ ฟังไจอิมเปอร์เฟกไท หรือ ดิวเทอโรไมซิทิส (fungi imperfecti of deuteromycetes) เป็นเชื้อราที่เส้นใยมีผนังกั้น นิยมจัดให้เป็นเชื้อราในกลุ่มชั่วคราว เพราะปกติจะไม่พบการสืบพันธุ์แบบมีเพศ แต่เมื่อใดที่พบการสืบพันธุ์แบบมีเพศของเชื้อราในกลุ่มนี้ ก็จะจัดย้ายเชื้อรานี้เข้าอยู่ในพวกแอสโคไมซิทิส หรือ เบสิดิโอไมซิทิส (ตามลักษณะของสปอร์ที่เกิดจากการสืบพันธุ์แบบมีเพศ) ส่วนการสืบพันธุ์แบบไม่ใช้เพศจะมีการสร้างสปอร์ที่เรียกว่า โคนิเดีย เกิดจากก้านสปอร์เรียกว่า โคนิดิโอฟอร์ (conidiophore) หรือบรรจุอยู่ในฟรุตติงบอดี ที่มีรูปร่างหลายแบบ คือ ทรงกลมปิด เรียก พิกนิเดีย (pycnidia) รูปจาน เรียก อาเซอร์วูลัส (acervulus) สปอโรโดเชียม (sporodochium) และซินนีมาตา (synnemata) ฟรุตติงบอดีเหล่านี้สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า และนำมาช่วยในการวินิจฉัยโรคได้บางครั้ง การแพร่ระบาดของราในกลุ่มนี้ มักเกิดขึ้น โดยเชื้อปลิวไปกับลม หรือติดไปกับส่วนของพืชและดินที่มีพืชเป็นโรค เชื้อราในกลุ่มนี้ เป็นสาเหตุของโรคพืช และดินที่มีพืชเป็นโรค เชื้อราในกลุ่มนี้เป็นสาเหตุของโรคพืชที่สำคัญหลายชนิด เช่น โรคใบจุด ใบไหม้ต่างๆ และรากเน่า เกิดจากเชื้อราหลายชนิด เช่น ฟิวราเรียม แอลเทอนาเรีย คอลลีโททริเชียม โกลโอสปอเรียม เซอร์โคสปอรา เซอร์วูาลาเรีย และสเคลอโรเชียม เป็นต้น

๒.๒ บัคเตรี (Bacteria)

จัดเป็นพืชเซลล์เดียวที่มีขนาดเล็กมาก ต้องใช้กล้องขยายอย่างน้อย ๑_๐๐๐ เท่า และถ้าจะให้เห็นชัดจะต้องย้อมสีด้วย มีรูปร่างแตกต่างกันแล้วแต่ชนิด คือ รูปกลม (spherical or coccus) รูปแท่ง (rod shape or bacillus) และรูปเกลียว (spiral or apirillum) บัคเตรีมีทั้งประโยชน์และโทษ พวกที่เป็นสาเหตุของโรคพืชจะมีรูปร่างเป็นแท่ง (rod shape) ไม่มีการสร้างสปอร์ ส่วนใหญ่เป็นพวกแกรมลบ (gram negative) คือย้อมสีติดสีแดงเป็นแอโรบิคบัคเตรี (Aerobic bacteria) คือ ต้องใช้ออกซิเจนในการเจริญเติบโต ส่วนใหญ่ไม่ทำลายเซลลูโลส และไม่ย่อยแป้ง มักมีชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในดิน เมื่อปลูกพืช มันก็จะเข้าทำลายพืชชอบสภาพเป็นกรดน้อยๆ และความชื้นสูง แพร่ระบาดได้ดีโดยไปกับน้ำ ลม เศษพืชที่เป็นโรค คุณสมบัติดังกล่าวนี้คือ บัคเตรีในสกุลซูโดโมนัส แซนโทโมนัส เออร์วิเนีย อะโกรแบคทีเรียม โคริเนเบคทีเรียม และสเตร็พโทไมซิส

รูปร่างและหางของเชื้อบัคเตรี : หางเดี่ยวที่ขั้วใดขั้วหนึ่งของเซลล์ (Monotrichous) รูปร่างและหางของเชื้อบัคเตรี : หางเดี่ยวที่ขั้วใดขั้วหนึ่งของเซลล์ (Monotrichous)
๒.๓ ไวรัส (virus)

เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กที่สุด ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดา (light microscope) ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (electron microscope) ซึ่งมีกำลังขยายสูงจึงจะสามารถมองเห็นได้ ไวรัสประกอบด้วยโปรตีน (protein) และกรดนิวคลิอิก (nucleic acid) ซึ่งกรดนิวคลิอิกนี้จะต้องเป็นชนิดอาร์เอ็นเอ หรือ ดีเอ็นเอ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ไวรัสพืชส่วนใหญ่จะประกอบด้วยโปรตีน และกรดนิวคลิอิกชนิดอาร์เอ็นเอไวรัสทวีจำนวนได้เฉพาะในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต เช่น เซลล์พืช เป็นต้น และมีคุณสมบัติ ทำให้พืชแสดงอาการผิดปกติ หรือเกิดโรคกับพืชนั่นเอง อาการส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นได้แก่ ใบเปลี่ยนสี เปลี่ยนรูปร่าง พืชแคระแกร็น ไวรัสพืชมีรูปร่างได้หลายแบบ ได้แก่
กลุ่มไวรัสพืช
กลุ่มไวรัสพืช
๒.๓.๑ ท่อนสั้น (short rod) ซึ่งมีทั้งท่อนตรงสั้น หัวท้ายตัด ได้แก่ ไวรัสที่ทำให้เกิดใบด่างกับยาสูบคือ เชื้อโทแบคโค โมเสค หรือทีเอ็มวี (Tobacco mosaic virus_ TMV) หรือเชื้อท่อนสั้น หัวท้ายมน (bacilliform) และไวรัสที่ทำให้เกิดโรคใบสีส้มของข้าง เป็นต้น

๒.๓.๒ รูปกลม (sphaerical) มีตั้งแต่รูปกลมขนาดเล็กลงจนถึงขนาดใหญ่ เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด เช่น โรคใบด่างของแตง ใบด่างของพิทูเนีย เป็นต้น

๒.๓.๓ ท่อนยาวคด (fleaxeous rod) มีขนาดความยาวแตกต่างกัน และเป็นกลุ่มที่มีไวรัสต่างชนิดจำนวนมาก เช่น ไวรัสทำให้เกิดโรคยอดบิด ใบด่างของกล้วยไม้ตระกูลต่างๆ และพวกที่มีความยาวมากที่สุด ได้แก่ ไวรัสทริสเทซา (tristeza) ทำให้เกิดโรคกับส้มซึ่งมีระบาดทั่วไปในเขตที่มีการปลูกส้ม รวมทั้งในประเทศไทยด้วย
โรคจู๋ของข้าว
โรคจู๋ของข้าว การเข้าทำลายพืชของไวรัสต้องอาศัยแผล ซึ่งอาจเกิดจากการเสียดสีกัน ของต้นไม้ ในธรรมชาติหรือคนและสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะแมลงเป็นตัวทำ ไวรัสไม่สามารถเข้าทำลายพืชโดยตรงด้วยตัวเอง เหมือนเชื้อราบางชนิด ด้วยเหตุนี้แมลงจึงเป็นพาหะสำคัญที่ทำให้เกิดโรคไวรัสพืชระบาดได้กว้างขวาง รวดเร็ว และยากลำบากต่อการป้องกัน และกำจัด ตัวอย่างของโรคไวรัสที่สำคัญๆ ในประเทศไทยได้แก่ โรคจู๋ของข้าว โรคใบสีส้มของข้าว โรคใบด่างของพืชหลายชนิด เช่น พริก ยาสูบ แตง ถั่วต่างๆ ฯลฯ
ไวรัสจัดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพืช และเสียหายมาก ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างของต่างประเทศ ที่มีการศึกษาทางด้านนี้มาก เช่น มันฝรั่งซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวยุโรปมีไวรัสหลายชนิดเข้าทำลาย และทำให้ผลผลิตลดลงอย่างต่ำที่สุดประมาณ ๑๐-๑๕ เปอร์เซ็นต์ พืชชนิดอื่นๆ ได้แก่ ผักและผลไม้ เช่น ส้ม ในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิลมีไวรัสทริสเทซาระบาด โดยมีแมลงเพลี้ยอ่อนเป็นตัวนำโรค ภายในเวลา ๑๒ ปี ทำให้ไร่ส้มเสียหายและตายประมาณ ๖ ล้านต้น (ประมาณ ๗๕ เปอร์เซ็นต์ ของส้มที่ปลูก) ในประเทศกานา (Ghana) จำเป็นต้องโค่นต้นโกโก้จำนวนกว่า ๑๐๐ ล้านต้นทิ้งในปี ค.ศ. ๑๙๔๕ เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคยอดบวมของโกโก้ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสที่แมลงเพลี้ยแป้งเป็นตัวนำ ส่วนองุ่นผลผลิตลดลงประมาณ ๑๐-๑๕ เปอร์เซ็นต์ อันเป็นผลจากการทำลายของไวรัสเกรพไวน์แฟนลีด (grapevine fanleaf) ซึ่งแพร่ระบาด โดยมีไส้เดือนฝอยเป็นตัวนำ และติดไปกับส่วนขยายพันธุ์จากต้นเป็นโรค ตัวอย่างเหล่านี้เป็นข้อเตือนใจ ที่เราควรจะได้ศึกษาถึงปัญหาโรคไวรัสในบ้านเรา เพื่อเตรียมการป้องกันเกิดปัญหารุนแรงแก่พืชผลของเราต่อไป
๔. ไมโคพลาสมา (Mycoplasma)

เชื้อนี้ทำให้เกิดโรคกับพืช โดยอาศัยอยู่ในท่อน้ำท่ออาหารของพืช เชื้อมีขนาดเล็กกว่าบัคเตรี แต่ใหญ่กว่าไวรัส ไม่มีผนังเซลล์จึงมีรูปร่างไม่แน่นอน ไมโคพลาสมาบางชนิดสามารถเลี้ยงได้ในอาหารเลี้ยงเชื้อพิเศษ มีการแพร่ระบาด โดยมีแมลงบางชนิดเป็นพาหะ เช่น เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน และถ่ายทอดโรคได้ โดยต้นฝอยทอง (dodder) หรือการติดตาเทียบกิ่ง ลักษณะอาการส่วนใหญ่ที่พืชแสดง เนื่องจากการเข้าทำลายของเชื้อไมโคพลาสมา ได้แก่ ส่วนของพืชที่มีสีเขียว เปลี่ยนเป็นสีเหลือง (yellows) หรือขาว (white leaf) แตกเป็นพุ่ม (witches broom) บริเวณจุดเจริญต่างๆ เช่น ยอดหรือตา ส่วนที่เจริญเป็นดอกมีลักษณะคล้ายใบเป็นกระจุก (phyllody) ลักษณะอื่นๆ คือ ต้นแคระแกร็นและไม่เจริญเติบโต โรคทีสำคัญที่เกิดจากเชื้อไมโคพลาสมาที่พบในประเทศไทย ได้แก่ โรคกรีนนิงของส้ม โรคพุ่มไม้กวาดของลำไย โรคใบขาวของอ้อย เป็นต้น เชื้อไมโคพลาสมา
เชื้อไมโคพลาสมา
๕. ไส้เดือนฝอย (Nematode)

เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลำตัวไม่แบ่งเป็นปล้องมีเพศแยกจากกันซึ่งเป็นลักษณะต่างจากไส้เดือนธรรมดา เรามักพบได้ทั่วไป ทั้งในดิน น้ำจืด น้ำเค็ม หรือแม้แต่ในร่างกายของคนและสัตว์ เช่น พยาธิต่างๆ ไส้เดือนฝอยที่ทำให้เกิดโรคกับพืช มีขนาดค่อนข้างเล็กประมาณ ๐.๒-๒ มิลลิเมตร มักเข้าทำลายรากพืชทำให้เกิดอาการรากปม รากเป็นแผล บางชนิดทำลายดอก เมล็ดต้นหรือหน่อ ไส้เดือนฝอยบางชนิดเป็นพาหะนำโรคไวรัสพืชและเป็นตัวการแพร่ระบาดโรค โรคที่สำคัญ ได้แก่ โรครากปมของมะเขือ พริก พืชตระกูลแตง เป็นต้น ลักษณะการเข้าทำลายพืชของไส้เดือนฝอยรากปม คือ เข้าดูดกินน้ำเลี้ยง บริเวณเซลล์รากพืช และปล่อยเอนไซม์มาละลายผนังเซลล์ ทำให้เกิดเซลล์ขนาดใหญ่ หรือปล่อยฮอร์โมนมากระตุ้นให้เซลล์มีการแบ่งตัวมากผิดปกติ จึงทำให้พืชแสดงอาการรากบวมโต หรือเป็นปุ่มปม บางครั้งทำให้ปลายรากกุด ส่วนอาการที่แสดงบนต้นพืชคือ เหี่ยวเฉา แคระแกร็น ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผลผลิตลดน้อย ไส้เดือนฝอยรากปมนี้มีพืชอาศัยเป็นจำนวนมาก ประมาณกว่า ๒_๕๐๐ ชนิด
นอกจากเชื้อต่างๆ ดังกล่าวที่ทำให้เกิดโรคกับพืชแล้วยังมีสิ่งมีชีวิตชั้นสูง คือ พวกมีดอก แต่มีลักษณะบางอย่างไม่สมบูรณ์ เช่น กาฝาก ฝอยทอง ซึ่งนอกจากจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืช ทำให้พืชเกิดอาการผิดปกติ และการเจริญเติบโตลดน้อยลงแล้ว บางชนิดยังเป็นตัวถ่ายทอดโรค และทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค เช่น ต้นฝอยทองบางชนิดเป็นตัวถ่ายทอดโรค ที่เกิดจากเชื้อไมโคพลาสมา เป็นต้น

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..
โรคมะเขือเทศ ใบจุดวง ใบไหม้ แอนแทรคโนส โรคต่างๆจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส1 หยุดโรค + FK-1 ฟื้นฟู โตไว ผลผลิตดี
โรคมะเขือเทศ ใบจุดวง ใบไหม้ แอนแทรคโนส โรคต่างๆจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส1 หยุดโรค + FK-1 ฟื้นฟู โตไว ผลผลิตดี
โรคใบจุดวง ในมะเขือเทศ เกิดจากเชื้อรา Alternaria Solani จะพบจุดสีน้ำตาลเล็กๆ บนใบ และเจริญเป็นวงสีน้ำตาลโตขึ้น ที่ผลมะเขือเทศ จะมีอาการบริเวณขั้วผลเป็นแผลสีน้ำตาลดำ

โรคแอนแทรคโนสมะเขือเทศ พบจุดแผลบริเวณผล มีลักษณะยุบลงไป พบจุดดำบนใบมะเขือเทศ และจุดบนผลสุก แพร่กระจายได้รวดเร็ว ต้องรีบป้องกันกำจัด

โรคมะเขือเทศใบไหม้ เหี่ยว แห้ง มีสาเหตุจากเชื้อรา แพร่กระจายได้รวดเร็ว

การป้องกันกำจัด โรคราต่างๆ
1. หมั่นตรวจสอบแปลงและป้องกันกำจัดตั้งแต่เริ่มพบโรค
2. กำจัดวัชพืช
3. งดให้น้ำในช่วงเย็น
4. ฉีดพ่น ไอเอส และ FK-1 ในอัตราส่วนที่แนะนำ สามารถผสม ฉีดพ่นไปพร้อมกันได้

ไอเอส ใช้ได้กับพืชทุกชนิด ไอเอส สารอินทรีย์ ป้องกันกำจัดโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้ ใบจุดสีน้ำตาล กิ่งแห้ง โรคใบติด โรคราน้ำค้าง ราสนิม แอนแทรคโนส ไฟธอปโทร่า หรือ โรคต่างๆ ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ใช้ไอเอส หยุดโรค และ FK-1 ธาตุหลัก N-P-K ธาตุรอง ธาตุเสริม Mg_ Zn สำหรับบำรุงให้แข็งแรง โตไว ผลผลิตดี สร้างภูมิคุ้มกันโรค

ตัวอย่างเชื้อรา สาเหตุโรคพืชต่างๆ
#Pyricularia_oryzae สาเหตุ โรคไหม้คอรวง ข้าวเน่าคอรวง
#Phytophthora_spp. #Sclerotium_spp. สาเหตุ โรครากเน่า โคนเน่า
#Capnodium_sp. #Meliola_sp. สาเหตุ โรคราดำ
#Maravaria_pterocarpi (ราสนิมพะยูง)
#Olivea_teetonae (ราสนิมสัก)
#Cercospora_sp. #Macrophoma_sp. สาเหตุ โรคใบจุด
#Alternaria_sp. #Phyllachora_sp. สาเหตุ โรคใบจุดนูนดำ
#Pestalotropsis_sp. สาเหตุ โรคใบไหม้
#Oidium_sp. #Uncinula_tectonas สาเหตุ โรคราแป้ง
#Verticillium_sp. #Fumsarium_spp. #Selerotium_sp. สาเหตุ โรคเหี่ยว

✅ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
✅ฉีดพ่นต่อเนื่องไม่อันตราย
✅ใช้ได้กับพืชทุกชนิด

ข้อมูลและอัตราผสมใช้
🍂 ไอเอส อัตตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ทุก 5-7 วัน (2 ครั้ง)
🌿 FK-1 แกะกล่องมาจะมีสองถุง ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สองเป็นสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง ถุงละ 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร

🎯 สามารถผสม FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกับ ไอเอส ได้เลย
🎯 ควรฉีดพ่นช่วยเช้าก่อนแดดออก หรือ ช่วงเย็น หลังแดดร่มลมตก ไม่ควรฉีดพ่นตอนแดดร้อนจัด

🍂ข้อมูลจำเพาะ ไอเอส

สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อรา สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี “การควบคุมด้วยประจุไฟฟ้า (Ion Control)” โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อรา อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้ใช้และผู้บริโภค
*การใช้ ไอเอส ในช่วงรักษาโรคพืชจากเชื้อรา กรณีลูกค้าใช้ปุ๋ยหมัก ที่หมักเอง ใช้น้ำหมักต่างๆ ให้เลิกใช้ทันที เนื่องจากอาจเป็นการเติมเชื้อโรคเข้าไปเรื่อยๆขณะทำการรักษา (80% ของการเกิดโรคพืช และล้อแมลง มีสาเหตุจากการใช้กากน้ำตาล การหมักปุ๋ย การทำน้ำหมักใช้เอง อย่างไม่ถูกวิธี หรือไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง)

🌿ข้อมูลจำเพาะ FK-1

ธาตุรอง และธาตุเสริม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบการปลูกพืช ซึ่งปุ๋ยทั่วๆไป ไม่เคยเติมธาตุเหล่านี้ ซึ่งธาตุรองธาตุเสริมที่ขาด จะกลายเป็นข้อจำกัดการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจาก "พืชจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด" ตามกฎ Liebig s law of the minimum ปุ๋ยตรา FK ประกอบด้วย ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เกิดอาการขาดธาตุ ซึ่งบางอย่าง เป็นธาตุที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถให้ได้

เมื่อพืช ได้รับธาตุอาหารที่ขาดไป ธาตุอาหารพืชต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในดิน ที่พืชไม่เคยดูดกินไปใช้ประโยชน์ได้ ก็สามารถนำไปใช้ได้ เนื่องจาก ธาตุบางตัว เป็นตัวนำพาธาตุอื่นๆ เช่น

- ขาดธาตุ แมกนีเซียม (ใส่ปุ๋ยเยอะ ฉีดทางใบก็เยอะ แต่พืชก็ยังเหลือง ไม่สมบูรณ์) ธาตุแมกนีเซียม [Mg] เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของคลอโรฟิลล์ และก็มีความสำคัญในกระบวนการสร้างATPโดยทำหน้าที่เป็นโคแฟกเตอร์ (enzyme cofactor).
การขาดแมกนีเซียม อาจทำให้เกิดอาการเหลืองระหว่างเส้นใบ (interveinal chlorosis).

- ขาดธาตุ สังกะสี (พืชชะงักการเจริญเติบโต เพราะขาดสังกะสี) ธาตุสังกะสี [Zn] เป็นส่วนสำคัญสำหรับเอนไซม์หลายชนิดและเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการถอดรหัสพันธุกรรม (DNA transcription).
การขาดสังกะสี โดยทั่วไปแล้วจะทำให้การเติบโตของใบชะงักงัน

การฉีดพ่น FK-1 ที่มีครบทั้ง ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม จึงช่วยบำรุง ฟื้นฟู ส่งเสริมการเจริญเติบโต การแตกยอด ใบ เสริมสร้างความสมบูรณ์ แข็งแรง ตลอดจนผลผลิตที่ดีขึ้น

☎โทร 090-592-8614

🆗ไลน์ไอดี FarmKaset คลิกลิงค์เพื่อแอดไลน์ http://www.farmkaset..link..

🎖สั่งซื้อผ่านหน้าเว็บฟาร์มเกษตรโดยตรง (เลือกแยกซื้อได้)
http://www.farmkaset..link..

🎗ซื้อกับ Shopee http://www.farmkaset..link..

🎗ซื้อกับ Lazada http://www.farmkaset..link..
ปุ๋ยอัญชัน บำรุงอัญชัน ด้วย ปุ๋ยน้ำสำหรับอัญชัน ปลูกเยอะใช้ FK-1 ปลูกน้อยใช้ FKธรรมชาตินิยม
ปุ๋ยอัญชัน บำรุงอัญชัน ด้วย ปุ๋ยน้ำสำหรับอัญชัน ปลูกเยอะใช้ FK-1 ปลูกน้อยใช้ FKธรรมชาตินิยม
ปุ๋ยทางใบ สำหรับฉีดพ่น บำรุงอัญชัน เสริมสร้างความสมบูร์ แข็งแรง แก้ปัญหาต้นแคระ โตช้า ใบเหลือง ขาดธาตุ ฉีดพ่น ปุ๋ย FK เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มความสมบูรณ์ สังเคราะห์แสงได้ดี แตกยอดใบ ติดดอก ออกผล

ปลูกน้อย ใช้ FKธรรมชาตินิยม ปลูกเยอะ ใช้ FK-1

FKธรรมชาตินิยม และ FK-1 เป็นอาหารพืชทางใบ สำหรับเลี้ยง ดูแล พืชพันธุ์นานาชนิด ส่งเสริมการเจริญเติบโต เสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรง ด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่ประกอบอยู่ในผลิตภัณฑ์

อัตราส่วนการใช้

FKธรรมชาตินิยม ผสม 1 ฝา ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

FK-1 แกะกล่องออกมา มีสองถุง ต้องใช้พร้อมกัน ถุงแรก 50กรัม ถุงที่สอง 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร คนให้แตกตัวละลายเข้ากับน้ำ ฉีดพ่นทางใบ (ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สอง เป็นธาตุเสริม และสารจับใบ)

เคมีธาตุอาการพืช เป็น อาหารพืชโดยตรง ไม่ได้อันตรายเหมือน ยาเคมี ที่เป็นสารเคมีอันตราย ซึ่งหลายครั้งถูกเข้าใจผิดไปอย่างมาก เนื่องจาก เคมีธาตุอาหารพืชนั้น เป็นธาตุอาหารโดยตรง ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตพืชได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูง

ยกตัวอย่างเคมีธาตุอาหารพืช ที่จำเป็นอย่างมาก ต่อการเจริญเติบโตของพืช
ธาตุ N หรือ ไนโตรเจน
ธาตุ P หรือ ฟอสฟอรัส
ธาตุ K หรือ โพแตสเซียม
ธาตุ Mg หรือ แมกนีเซียม
ธาตุ Zn หรือ ซิงค์ หรือ สังกะสี
และยังมีอีกหลายธาตุ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช

---
ข้อมูล FKธรรมชาตินิยม

อาหารเสริมเพืชทางใบ ซึ่งประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง และธาตุเสริม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบการปลูกพืช หากไม่เคยเติมธาตุเหล่านี้ ซึ่งธาตุรองธาตุเสริมที่ขาด จะกลายเป็นข้อจำกัดการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจาก "พืชจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด" ตามกฎ Liebig s law of the minimum_ FKธรรมชาตินิยม ประกอบด้วย ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เกิดอาการขาดธาตุ ซึ่งบางอย่าง เป็นธาตุที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถให้ได้

เมื่อพืช ได้รับธาตุอาหารที่ขาดไป ธาตุอาหารพืชต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในดิน ที่พืชไม่เคยดูดกินไปใช้ประโยชน์ได้ ก็สามารถนำไปใช้ได้ เนื่องจาก ธาตุบางตัว เป็นตัวนำพาธาตุอื่นๆ จึงทำให้พืช ใช้ประโยชน์ จากการปลดปล่อยธาตุอาหารเดิมที่มีอยู่ รวมกับธาตุอาหารที่ได้รับเข้าไปใหม่ ได้อย่างเต็มที่

---
ข้อมูล FK-1

ปุ๋ยน้ำตรา FK ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์การใช้งาน แตกต่างกับปุ๋ยโดยทั่วไป ซึ่งปุ๋ย FK ถูกออกแบบมา เพื่อบำรุงพืชโดยตรง ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงดินหรือเพิ่มจุลินทรีย์ให้กับดิน เพื่อให้ดินดูแลพืช ซึ่งวิธีปรับปรุงดินนี้จะทำให้พืชตอบสนองได้ช้า และอาจจะไม่ได้ผลผลิตดีในรอบการปลูกปัจจุบัน การใช้ปุ๋ยน้ำ FK นั้นจึงเป็นการป้อน ธาตุหลัก(Primary nutrient) ธาตุรอง(Secondary nutrient) ธาตุเสริม(Micronutrient) ให้กับพืชโดยตรง

FK-1 คือปุ๋ยน้ำความเข้มข้นสูง ในรูปแบบผงละลายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ในหนึ่งกล่อง 2 กิโลกรัม ประกอบด้วย สองถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม (ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง ผสมกัน ถุงแรก 50กรัม ถุงที่สอง 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร)

คุณสมบัติ FK-1

ประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแตสเซียม อย่างละ 20% ซึ่งนับว่าเป็นธาตุหลักที่สูงมาก เมื่อเทียบกับปุ๋ยในท้องตลาดทั่วไป จึงเรียกได้ว่า FK-1 คือปุ๋ยที่มีความเข้มข้นสูง นอกจากนั้นแล้ว ยังมีธาตุรองและธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช คลอบคุมถึงบางธาตุ ที่เกิดขึ้นเองไม่ได้ซึ่งถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบปลูก

FK Fertilizer - ประสิทธิภาพ

FK-1 เป็นปุ๋ยความเข้มข้นสูง สูตร 20-20-20 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป เป็นเหตุผลที่ทำให้ในช่วงวันที่ 1-7 ปุ๋ยตรา FK1 มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าปุ๋ยเคมีโดยเฉลี่ย

ปุ๋ย FK ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหา (FK Fertilizer is designed to solve this problem)

ธาตุรอง และธาตุเสริม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบการปลูกพืช ซึ่งปุ๋ยทั่วๆไป ไม่เคยเติมธาตุเหล่านี้ ซึ่งธาตุรองธาตุเสริมที่ขาด จะกลายเป็นข้อจำกัดการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจาก "พืชจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด" ตามกฎ "Law of the minimum" ปุ๋ยตรา FK ประกอบด้วย ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เกิดอาการขาดธาตุ ซึ่งบางอย่าง เป็นธาตุที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถให้ได้

การใช้งาน
ผสมปุ๋ยบัวแก้ว 50 กรัม และ F1 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ผสมปุ๋ยบัวแก้ว 500 กรัม และ F1 500 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร
ฉีดพ่นพืชที่ปลูก ทุกๆ 7-30 วัน ตามความเหมาะสม

ข้อควรระวัง (สำคัญมาก)
ต้องฉีดพ่นในช่วงเวลาที่ไม่มีแดดจัด มิฉะนั้นอาจทำให้เกิดอาหารใบลวกได้ เช่นฉีดพ่นให้เสร็จสิ้น ก่อน 6 โมงเช้า หรือทำการฉีดพ่นหลัง 5 โมงเย็น หลังจากที่แดดร่มแล้ว หรือฉีดพ่นได้ทั้งวัน ในวันที่แน่ใจว่าแดดไม่แรง

Law of the Minimum (กฎต่ำสุด)
ไม่ว่าจะให้ปุ๋ยมากแค่ไหน พืชจะโตได้เท่ากับ ธาตุหลัก ธาตุรอง ที่ไม่เคยให้กับพืชและดิน ธาตุอาหารที่มีอยู่น้อยที่สุด จะจำกัดการโตของพืชเป็นข้อบกพร่องเล็กๆ ที่ทำให้ดูเหมือนว่า ใส่ปุ๋ยไปมากเท่าไร ก็ยังไม่ได้ผล

ปุ๋ยตรา FK จากฟาร์มเกษตร เราตระหนักถึงเรื่อง Law of the Minimum หรือ กฎต่ำสุด จึงออกแบบปุ๋ยตรา FK ใน 1 กล่อง ให้ประกอบด้วย สองถุง ด้านใน คือ ปุ๋ยธาตุหลักหนึ่งถุง และ F1 ธาตุรอง ธาตุเสริม อีกหนึ่งถุง ที่ผ่านการคำนวณสัดส่วนเพื่อผสมใช้ไปพร้อมกันได้อย่างลงตัว เพื่อนำพาพืชของท่าน ให้เจริญเติบโต ด้วยธาตุหลัก ธาตุรองที่ครบถ้วน และไม่เคยได้ถูกเติมเต็ม จากการใช้ปุ๋ยทั่วๆไปตามท้องตลาด ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารต่างๆมากมาย และเติมเต็มส่วนที่ขาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

---


การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ
|-Page 160 of 359-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 | 359 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ตัวช่วยให้แครอทของคุณหัวใหญ่ ผลผลิตดก เพิ่มคุณภาพ
Update: 2567/03/12 11:43:43 - Views: 3535
ยากำจัดโรคราน้ำค้าง ใน ผักคะน้า โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/06 10:01:05 - Views: 3496
โรคดอกรัก ใบไหม้ ราน้ำค้าง ราสนิม ใบจุด ขาดธาตุอาหาร ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม #ดอกรักใบไหม้ #ปุ๋ยดอกรัก
Update: 2564/11/03 03:38:11 - Views: 3499
ปุ๋ยฝรั่ง ยาแก้ฝรั่งใบไหม้ โรคราฝรั่ง ยากำจัดเพลี้ยฝรั่ง ยากำจัดหนอนฝรั่ง #ปุ๋ยฝรั่ง #ยาฯฝรั่ง
Update: 2564/10/25 23:26:51 - Views: 3497
🎗โรคมะเขือเทศ ไวรัสมะเขือเทศ ไม่มีสารป้องกันกำจัดโดยตรง ให้ป้องกันกำจัดแมลงพาหะ
Update: 2564/06/19 08:29:17 - Views: 4097
ปุ๋ยสำหรับข้าวโพด และ ยาสำหรับข้าวโพด แก้ข้าวโพดใบไหม้ เพลี้ย หนอนต่างๆ
Update: 2564/10/26 01:52:08 - Views: 3499
ต่อสู้กับโรคราแป้งในใบตำลึงด้วยสารอินทรีย์
Update: 2566/05/17 09:24:12 - Views: 3510
มะยงชิดใบไหม้ โรครามะปรางหวาน ใบจุดสีน้ำตาล ใบเหี่ยว แก้ด้วย ไอเอส
Update: 2564/04/26 00:48:24 - Views: 5681
ยากำจัดหนอนมังคุด หนอนชอนใบมังคุด หนอนกินใบมังคุด หนอนต่างๆ ใช้ ไอกี้-บีที
Update: 2564/10/09 05:04:34 - Views: 3647
กำจัด โรคราแป้ง ในต้นทุเรียน แก้ปัญหาโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ไอเอส สารอินทรีย์คุณภาพสูง จาก FK ขนาด 250 ซีซี
Update: 2566/05/23 11:26:10 - Views: 3515
ปุ๋ยน้ำบำรุงลำไย ปุ๋ยลำไย ปุ๋ยน้ำลำไย ปุ๋ยสำหรับลำไย ปลูกเยอะใช้ FK-1 ปลูกน้อยใช้ FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/10/16 11:55:31 - Views: 3489
ผักชีใบไหม้ ใบเหลือง ใบจุด โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/08 04:04:35 - Views: 4731
หนอนชอนใบฟักเขียว พืชตระกูลฟัก ยากำจัดหนอนฟักเขียว ฟักแฟง ฟักต่างๆ หนอนต่างๆ ใช้ ไอกี้-บีที
Update: 2564/10/04 10:47:38 - Views: 3601
วันนี้ที่ฟาร์มเกษตร เปลี่ยนน้ำปลาคาร์ฟ พบลูกปลาคาร์ฟ ที่เกิดเองจำนวนมาก
Update: 2567/06/08 08:01:46 - Views: 10118
10 ขั้นตอนง่าย สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง
Update: 2565/11/15 12:15:46 - Views: 3497
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคราน้ำค้าง ในกะเพรา ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
Update: 2566/01/20 13:10:59 - Views: 3598
วิถีชาวบ้าน การหาปลาด้วยการ ยกยอหาปลา ทำกับหลายๆคน
Update: 2563/05/05 10:15:42 - Views: 3645
ด้วงเต่าแตงแดง หรือแมลงเต่าแตง ใช้ยาอะไรกำจัดกันคะ
Update: 2564/06/08 01:04:01 - Views: 3816
โรคราแป้งในตำลึง และผักต่างๆ : POWDERY MILDEW DISEASE [ ไอเอส + FK-1 ]
Update: 2564/08/09 04:58:26 - Views: 4566
โรคพืช
Update: 2564/08/12 22:09:57 - Views: 3994
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022