[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ

การรับมือกับโรคราแป้งในต้นพริก: วิธีป้องกันและการจัดการ
การรับมือกับโรคราแป้งในต้นพริก: วิธีป้องกันและการจัดการ
โรคราแป้งเป็นหนึ่งในโรคพืชที่สามารถทำให้ต้นพริกเสียหายได้ โรคนี้เกิดจากเชื้อราที่ชื่อว่า Oidium spp. ทำให้เกิดการเกิดสปอร์ในรูขุมของใบพืช ซึ่งสามารถกระจายไปยังพืชอื่นๆ ในบริเวณเดียวกันได้.

นอกจาก Oidium spp. แล้ว ยังมีเชื้อราชนิดอื่นที่ก่อให้เกิดโรคราแป้งในพริกได้ เช่น Erysiphe spp. Leveillula spp. และ Golovinomyces spp.

นอกจากนี้ ราแป้งสามารถเกิดขึ้นในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงและอากาศร้อน ซึ่งทำให้พืชมีความเสียหายมากขึ้น การปลูกพืชที่หนาแน่น การให้น้ำมากเกินไป และการมีการระบายน้ำที่ไม่ดีสามารถส่งเสริมการเกิดโรคราแป้งในพริกได้.

การจัดการโรคราแป้งในพริก:

การให้น้ำ: ควรเลือกเวลาให้น้ำในตอนเช้าหรือตอนเย็น เพื่อลดความชื้นในพื้นที่ในตอนกลางวันที่มีแสงแดดแรง

การให้อาหาร: ให้ปุ๋ยที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารที่สมบูรณ์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับพืช

การเลือกใช้พันธุ์ที่ทนทาน: การเลือกใช้พันธุ์พริกที่มีความทนทานต่อโรคราแป้ง

การใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช (Fungicides): หากการจัดการด้วยวิธีการอื่นไม่เพียงพอ คุณสามารถใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชที่มีประสิทธิภาพ โปรดอ่านฉลากของสารป้องกันกำจัดโรคพืชและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต.

การกำจัดใบที่มีโรค: หากพบใบที่มีโรค ควรทำลายใบนั้นๆเพื่อป้องกันการระบาดของโรค.

การดูแลรักษาพืชอย่างใส่ใจและการควบคุมสภาพแวดล้อมสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคราแป้งในต้นพริกได้.

.
ไอเอส เป็นสารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด โรคต้นพริก จากเชื้อราหลายชนิด
ไอเอส สามารถป้องกันกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในพืชทุกชนิดได้เช่นกัน
.
สั่งซื้อ ไอเอส ได้ที่ ลาซาด้า คลิก http://ไปที่..link.. .
หรือ โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset
.
อ่าน:3610
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค: ฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงดินสำหรับผักบุ้ง
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค: ฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงดินสำหรับผักบุ้ง
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค: ฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงดินสำหรับผักบุ้ง
การเกษตรภาคสมัยใหม่ต้องพึ่งพาทั้งประสบการณ์และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้ผลผลิตที่สมบูรณ์และยั่งยืน การใช้สารออกฤทธิ์ฮิวมิค แอซิด เช่นตัวที่มีชื่อเสียงว่า ฟาร์มิค จึงเป็นหนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมในการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตผักบุ้งและพืชผักอื่น ๆ ในสวนเกษตรของเรา

1. สารออกฤทธิ์ฮิวมิค แอซิด

ฮิวมิค คือสารที่ได้มาจากวัสดุชีวภาพ เช่น สิ่งมีชีวิตทั้งสิ้นทั้งปวง เช่น ออร์แกนิกซ์และแอมิโนแอซิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของความสมบูรณ์ของดิน ฮิวมิค แอซิดนั้นถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการฟื้นฟูระบบรากของพืช และให้ประสิทธิภาพในการใช้ธาตุอาหาร

2. ประโยชน์ของ ฟาร์มิค

ฟื้นฟูระบบราก: สารออกฤทธิ์ใน ฟาร์มิค ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากพืช ทำให้ระบบรากเสริมแข็งแรงและสามารถดูดน้ำและธาตุอาหารได้ดีมากขึ้น

ปรับปรุงโครงสร้างดิน: การใช้ ฟาร์มิค ช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่ดีและร่วนซุย เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน

ช่วยในการระบายน้ำ: สาร ฟาร์มิค ช่วยในการทำให้ดินระบายน้ำได้ดี ลดโอกาสในการเกิดน้ำขังที่อาจทำให้รากพืชเสียหาย

สร้างระบบรากฝอย: การใช้ ฟาร์มิค สามารถสร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง ช่วยในการยึดเกาะกับดินได้ดี และเพิ่มพื้นที่ที่รากสามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้มากขึ้น

3. การใช้ ฟาร์มิค ในการปลูกผักบุ้ง

การฉีดพ่น: สาร ฟาร์มิค สามารถใช้ในรูปแบบของน้ำหล่อเล็กน้อยหรือผงที่ละลายน้ำ เพื่อฉีดพ่นบนผักบุ้งในช่วงเตรียมดินหรือช่วงการเจริญเติบโต

อัตราการใช้: อัตราการใช้ ฟาร์มิค ขึ้นอยู่กับปริมาณดินและความต้องการของพืช ควรปรึกษาคำแนะนำจากผู้ผลิตหรือผู้เชี่ยวชาญ

การใช้ ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิด เป็นวิธีที่ดีเพื่อฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงโครงสร้างดินในการปลูกผักบุ้ง การดูแลรักษาดินในระดับที่ดีจะส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ทำให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนในการเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตรของเขา


📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3610
🎗โรคไวรัส ในพืชต่างๆ ไม่มีสารป้องกันกำจัดโดยตรง ให้ป้องกันกำจัดแมลงพาหะ และบำรุงพืชให้แข็งแรง
🎗โรคไวรัส ในพืชต่างๆ ไม่มีสารป้องกันกำจัดโดยตรง ให้ป้องกันกำจัดแมลงพาหะ และบำรุงพืชให้แข็งแรง
ในความเป็นจริงแล้ว การดูแล บำรุงพืช ให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง โดยการให้ ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม อย่างครบถ้วน ในสัดส่วนที่เหมาะสม เป็นการเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อโรคและแมลงไปด้วยในตัว เป็นเช่นเดียวกับ เด็กวัยเจริญเติบโต ที่ได้รับอาหารครบ 5 หมู่ บางคนยังทานวิตามินบำรุงด้วย ย่อมทำให้ ส่งเสริมการเจริญเติบโต มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย เหมือนเด็กที่ไม่สมบูรณ์ ขาดสารอาหาร

พืชต่างๆ หากได้รับแต่ปุ๋ยเชิงเดียว ที่มีแต่ ไนโตรเจน (N) หรือให้เฉพาะปุ๋ยที่มีเฉพาะธาตุหลัก ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม (N P K) เปรียบเทียบแล้วก็คล้ายกับ เด็กที่ทานเฉพาะอาหารอย่างเดียวซ้ำๆ ก็คือ อิ่ม โตขึ้นได้ แต่มีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง เมื่อเป็นโรค ก็ให้ยารักษา ก็อาจจะหายช้า หรือไม่หาย ถึงแม้หาย ก็เจ็บป่วยซ้ำอยู่บ่อยๆ เจ็บป่วยออดๆแอดๆ แต่หากในขณะที่รักษาให้เริ่มฟื้นตัวแล้ว ลองบำรุง ให้อาหารจนครบ 5 หมู่ ทานอาหารเสริมที่เป็นประโยชน์บ้าง และปรับพฤติกรรมการทานอาหาร เด็กคนนั้นก็จะกลายเป็น คนที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงได้ ในทางด้านพืชนั้น อย่างที่กล่าวข้างต้น เรามักจะให้ปุ๋ยทั่วไป ที่ประกอบด้วยเฉพาะ N P K แต่ในความเป็นจริงแล้ว อีกหลายธาตุ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต จำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างคลอโรฟิลล์ สังเคราะห์แสง และบางธาตุ ก็ส่งเสริมให้พืช นำธาตุอาหารหลัก ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างธาตุอาหารพืช ที่จำเป็นเช่น แคลเซียม (ca) แมกนีเซียม (Mg) สังกะสี (Zn) และยังมีอีกหลายธาตุ ซึ่งหากพืชที่ปลูกอยู่ ไม่เคยได้รับ และวันนึงได้รับ จะส่งผลให้พืชโตขึ้น และแข็งแรงขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจาก ธาตุที่พืชไม่เคยได้รับเหล่านี้ เมื่อได้รับลงไป จะช่วยปลดปล่อยธาตุหลัก ที่พืชได้รับอยู่ตลอด แต่นำไปใช้ไม่ได้ ไปกระตุ้นให้พืช นำไปใช้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งใน FK-1 จะประกอบไปด้วยทั้ง ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่ครบถ้วน นอกจากจะเป็นให้ธาตุอาหารพืชที่จำเป็นโดยตรงแล้ว ยังกระตุ้นให้พืช นำทุกธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ในดิน ไปใช้ได้อย่างเต็มที่

โรคไวรัส ที่เกิดกับพืชต่างๆ

ในที่นี้ประกอบด้วย โรคใบหงิกเหลือง โรคใบด่างเรียวเล็ก โรคใบด่าง และโรคเหี่ยวลาย สามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของพืชต่างๆ เช่น โรคไวรัสมะละกอ มะละกอใบด่าง โรคไวรัสด่างวงแหวนมะละกอ โรคใบด่างเรียวเล็กในมะเขือเทศ โรคมะเขือเทศเหี่ยวลาย โรคไวรัสใบด่างเหลืองในถั่ว ในพืชตระกูลถั่ว โรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลัง โรคไวรัสใบด่างแตง ในพืชตระกูลแตง โรคไวรัสใบด่างผักกาด โรคไวรัสใบด่างแคระข้าวโพด และยังมีโรคไวรัสใบด่าง ในพืชอื่นๆอีกหลายพืช

กรณีโรคใบหงิกเหลือง จะพบใบยอดและใบอ่อนหดย่นหงิกสีเหลือง ขอบใบม้วนงอ ยอดเป็นพุ่ม ใบแตกใหม่เล็ก ต้นแคระแกร็น ไม่ติดผล หรือติดผลน้อยมาก ส่วนโรคใบด่างเรียวเล็ก มักพบใบด่างสีเขียวเข้มสลับสีเขียวอ่อน ม้วนงอ ต่อมาใบเรียวเล็กกว่าปกติ หากรุนแรงมาก ใบจะเรียวเล็กเหลือแต่เส้นกลางใบ ต้นชะงักการเจริญเติบโต ไม่ติดผล หรือมีผลเล็ก ถ้าเกิดโรคในระยะกล้า จะทำให้ต้นแคระแกร็น ไม่ติดผล

สำหรับโรคใบด่าง จะมีใบด่างสีเขียวเข้มสลับสีเขียวอ่อนหรือสีเหลือง ใบอ่อนหดย่นเป็นคลื่นมีขนาดเล็กกว่าปกติ และใบยอดที่ปลายกิ่งบิดเกลียว ต้นชะงักการเจริญเติบโต ติดผลน้อย ผลด่าง หากเกิดโรคในระยะกล้า ต้นแคระแกร็น ใบเล็กและลดรูป ในส่วนของโรคเหี่ยวลาย มักพบใบมีแผลเนื้อเยื่อตายสีน้ำตาลเข้มหรือดำกระจายทั่วทั้งใบ หรือเกิดรอยด่างสีเหลือง ใบยอดด่างและยอดสั้น ใบอ่อนแห้งตายจากปลายใบเข้าหาโคนใบ ใบแก่มีสีเหลืองขนาดเล็กกว่าปกติ ตามแนวยาวของลำต้นและก้านใบมีรอยขีดสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลเสียรูปทรง ผิวผลพบเนื้อเยื่อตายเป็นวง กรณีรุนแรง กิ่งและลำต้นเปลี่ยนเป็นสีดำ เหี่ยวเฉา และตายในที่สุด

ในพื้นที่ที่พบการระบาดของโรคนี้ ให้เกษตรกรหมั่นตรวจและกำจัดวัชพืชในแปลงและรอบแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดแหล่งสะสมเชื้อไวรัสและแมลงพาหะ ถ้าพบต้นที่เป็นโรคให้ถอนแล้วนำไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที ควรทำความสะอาดอุปกรณ์การเกษตรเมื่อใช้กับต้นที่เป็นโรคก่อนนำกลับมาใช้ใหม่ หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อยแล้ว ให้เก็บเศษซากพืชส่วนที่หลงเหลือในแปลงไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก หากพบโรคในแปลงที่จะปลูกฤดูถัดไป ไม่ควรปลูกพืชอาศัยของเชื้อใกล้แปลงปลูก เช่น ขึ้นฉ่าย ยาสูบ งา กะเพราขาว ตำลึง หงอนไก่ บานไม่รู้โรย ทานตะวัน พืชตระกูลแตง พืชตระกูลถั่ว และพืชตระกูลมะเขือ อีกทั้งควรเลือกใช้กล้าพันธุ์พืชที่ต้านทานโรค แข็งแรง และปลอดโรคมาปลูก

เชื้อไวรัสโรคพืช ยังไม่มีสารป้องกันกำจัดโดยตรง

ป้องกันกำจัดได้ โดยการกำจัดแมลงพาหะ เช่น แมลงหวี่ขาว และเพลี้ยต่างๆ และ บำรุงพืชให้เจริญเติบโต แข็งแรง เพื่อสร้างภูมิต้านทานต่อโรคและแมลงให้สูงขึ้น

🦗 ฉีดพ่น มาคา สารอินทรีย์ กำจัด เพลี้ย แมลงหวี่ขาว และแมลงจำพวกปากดูดต่างๆ ในอัตตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ทุก 5-7 วัน (2 ครั้ง)

🌿 ฉีดพ่น FK-1 เพื่อบำรุงพืช ให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ โตไว ผลผลิตดี [FK-1 แกะกล่องมาจะมีสองถุง ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สองเป็นสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง ถุงละ 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร]

🎯 สามารถผสม FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกับ ไอเอส
🎯 ควรฉีดพ่นช่วยเช้าก่อนแดดออก หรือ ช่วงเย็น หลังแดดร่มลมตก ไม่ควรฉีดพ่นตอนแดดร้อนจัด

🔤ทักแชทได้เลยค่ะ

☎โทร 090-592-8614

🆗ไลน์ไอดี FarmKaset คลิกลิงค์เพื่อแอดไลน์ http://www.farmkaset..link..
🎖คลิกลิงค์เพื่อสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บ http://www.farmkaset..link..
🦗ข้อมูล มาคา

มาคา เป็นยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ แมลงจำพวกปากดูดต่างๆ กำจัดแมลงศัตรูพืช
สกัดจากพืช_ 100% จากธรรมชาติ ปลอดสารพิษ ปลอดภัยต่อทั้งผู้ใช้และผู้บริโภค
*การใช้มาคากำจัด เพลี้ย และแมลงศัตรูพืช กรณีลูกค้าใช้ปุ๋ยหมัก ที่หมักเอง ใช้น้ำหมักต่างๆ ให้เลิกใช้ทันที เนื่องจากอาจเป็นการเติมเชื้อโรคเข้าไปเรื่อยๆขณะทำการรักษา (80% ของการเกิดโรคพืช และล้อแมลง มีสาเหตุจากการใช้กากน้ำตาล การหมักปุ๋ย การทำน้ำหมักใช้เอง อย่างไม่ถูกวิธี หรือไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง)

🌿ข้อมูล FK-1

ธาตุรอง และธาตุเสริม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบการปลูกพืช ซึ่งปุ๋ยทั่วๆไป ไม่เคยเติมธาตุเหล่านี้ ซึ่งธาตุรองธาตุเสริมที่ขาด จะกลายเป็นข้อจำกัดการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจาก "พืชจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด" ตามกฎ Liebig's law of the minimum ปุ๋ยตรา FK ประกอบด้วย ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เกิดอาการขาดธาตุ ซึ่งบางอย่าง เป็นธาตุที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถให้ได้

เมื่อพืช ได้รับธาตุอาหารที่ขาดไป ธาตุอาหารพืชต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในดิน ที่พืชไม่เคยดูดกินไปใช้ประโยชน์ได้ ก็สามารถนำไปใช้ได้ เนื่องจาก ธาตุบางตัว เป็นตัวนำพาธาตุอื่นๆ เช่น

- ขาดธาตุ แคลเซียม (ใส่ปุ๋ยเยอะ แต่พืชเอาไปใช้ได้น้อย ถ้าขาดแคลเซียม) ธาตุแคลเซียม [Ca] ทำหน้าที่ในการควบคุมการเคลื่อนย้ายของสารอาหารต่างๆเข้าสู่พืช และยังทำหน้าที่เกี่ยวกับการทำงานของเอนไซม์พืชหลายชนิด
การขาดแคลเซียม มีผลทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต เพราะพืชไม่สามารถนำสารอาหารในดินที่มีอยู่ไปใช้งานได้

- ขาดธาตุ แมกนีเซียม (ใส่ปุ๋ยเยอะ ฉีดทางใบก็เยอะ แต่พืชก็ยังเหลือง ไม่สมบูรณ์) ธาตุแมกนีเซียม [Mg] เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของคลอโรฟิลล์ และก็มีความสำคัญในกระบวนการสร้างATPโดยทำหน้าที่เป็นโคแฟกเตอร์ (enzyme cofactor).
การขาดแมกนีเซียม อาจทำให้เกิดอาการเหลืองระหว่างเส้นใบ (interveinal chlorosis).

- ขาดธาตุ สังกะสี (พืชชะงักการเจริญเติบโต เพราะขาดสังกะสี) ธาตุสังกะสี [Zn] เป็นส่วนสำคัญสำหรับเอนไซม์หลายชนิดและเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการถอดรหัสพันธุกรรม (DNA transcription).
การขาดสังกะสี โดยทั่วไปแล้วจะทำให้การเติบโตของใบชะงักงัน

การฉีดพ่น FK-1 ที่มีครบทั้ง ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม จึงช่วยบำรุง ฟื้นฟู ส่งเสริมการเจริญเติบโต การแตกยอด ใบ เสริมสร้างความสมบูรณ์ แข็งแรง ตลอดจนผลผลิตที่ดีขึ้น
อ่าน:3610
5 เคล็ดลับ เลือกข้าวหอมมะลิยังไงให้ได้ข้าวที่หุงแล้วหอม สวย ขึ้นหม้อ
5 เคล็ดลับ เลือกข้าวหอมมะลิยังไงให้ได้ข้าวที่หุงแล้วหอม สวย ขึ้นหม้อ
https://pixabay.com/photos/rice-food-eat-staple-food-grainy-960625/
ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวขึ้นชื่อของไทยที่ดังไปไกลถึงต่างประเทศ เป็นข้าวที่คนไทยนิยมกินกันมากเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยเอกลักษณ์ที่ นุ่ม หอม แต่เคยสงสัยกันมั้ยว่า ทำไมเวลาไปซื้อป้ายเขียนว่าข้าวหอมมะลิเหมือนกัน แต่เวลาหุงออกมาดันไม่เหมือนกัน แล้วจะต้องเลือกข้าวหอมมะลิยังไง ถึงจะดี ข้าวหุงออกมาหอม สวย วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก

เลือกจากลักษณะของข้าวและบรรจุภัณฑ์
เลือกที่เมล็ดข้าวมีผิวเรียบ แข็ง แห้ง ไม่มีรอยแตก สวยงาม ไม่จับกันเป็นก้อน ขนาดเล็กใหญ่เท่ากันหรือไม่ต่างกัน ไม่มีสีสันที่ผิดปกติ สีขาวใส สะอาด ไม่มีสิ่งแปลกปลอม เช่น ทราย และแมลง ไม่มีกลิ่นอับชื้น เหม็นหืน ถ้าเป็นข้าวถุง ควรเลือกถุงที่บรรจุปิดสนิทไม่ฉีกขาดระบุสถานที่ผลิตและราคาจำหน่ายชัดเจน

เลือกตามอายุของข้าวหอมมะลิ
หลายคนน่าจะเคยสงสัยว่า ซื้อข้าวยี่ห้อเดียวกัน แต่ทำไมเวลาหุงออกมาถึงไม่เหมือนกัน อาจเป็นเพราะอายุข้าวไม่เท่ากัน ทำให้เวลาหุงออกมาได้ข้าวสุกที่ไม่เหมือนกัน จะมีข้าวใหม่กับข้าวเก่า ซึ่งทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกัน ข้าวสารใหม่ สีเมล็ดจะเป็นสีขาวน้ำนม เวลาหุงจะมีกลิ่นหอมชัด มีความนุ่มมาก ต้องระวังถ้าหุงไม่เป็นอาจแฉะได้ แต่ถ้าเป็นข้าวเก่าเมล็ดจะออกแดงๆ แต่ข้าวเก่าไม่ได้แปลว่าไม่ดี เป็นข้าวที่นิยมทานกันตามปกติ เวลาหุงจะขึ้นหม้อเมล็ดเรียงตัวสวย แค่จะหอมและนิ่มน้อยกว่า ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

เลือกข้าวหอมมะลิตามฤดูกาล
การทำนาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฤดูกาล นั่นคือข้าวนาปีและข้าวนาปรัง ข้าวทั้งสองฤดูกาลมีความแตกต่างกัน ข้าวนาปี เป็นข้าวที่ผลิตตามฤดูกาล จะออกตามวันและเดือนที่ค่อนข้างตายตัว ข้าวที่ได้จึงหอม นุ่มกว่า เพราะจะโตตามฤดูกาลส่วนข้าวนาปรัง เป็นข้าวที่ถูกปลูกนอกฤดูกาล เป็นข้าวที่เก็บเกี่ยวตามอายุ ไม่ว่าจะปลูกเดือนไหนพอครบอายุครบประมาณ 3 เดือน ก็จะเก็บเกี่ยวได้เลย จะหาซื้อได้ง่ายกว่า

เลือกซื้อข้าวหอมมะลิตามสายพันธุ์ http://www.nanapanagri.com/th/tanyatip-inter-trade ข้าวหอมมะลิในบ้านเรามีหลากหลายสายพันธุ์มากๆ ถึงจะเป็นข้าวหอมมะลิเหมือนกัน แต่รสชาติและรสสัมผัสแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจุดเด่นของสายพันธุ์นั้นๆ เช่น
ข้าวหอมมะลิ 105 : มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย เวลาหุงเสร็จจะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ
ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา : เมล็ดข้าวจะมีลักษณะยาว เรียว เมื่อหุงแล้วจะมีกลิ่นหอมและนุ่ม
ข้าวหอมมะลิปทุมเทพ : เป็นข้าวที่มีความหอมและนุ่มเป็นพิเศษ

เลือกซื้อข้าวหอมมะลิจากชาวนาโดยตรง
การซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง นอกจากจะเป็นการช่วยชาวนาแล้ว จะได้ซื้อในราคาที่ถูกด้วย ข้าวที่ได้มีความอร่อยและหอมกว่าข้าวถุงที่ถูกเก็บไว้นาน แต่มักจะเป็นข้าวที่ยังไม่ถูกคัด เรื่องความสวยงามอาจลดน้อยลง

ความหอม นุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ข้าวหอมมะลิกลายเป็นข้าวที่หลายๆ บ้านนิยม นอกจากเคล็ดลับบอกไว้ การเลือกข้าวที่เชื่อถือได้ คุณภาพสูงอย่าข้าวสารและธัญพืชตรา ธัญญทิพย์ http://www.nanapanagri.com/th/tanyatip-inter-trade ก็เป็นอีกเคล็ดลับเช่นเดียวกัน เพราะมีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน สะอาด ปลอดภัย ปราศจากสิ่งเจือปน มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สำคัญมีบริการจัดส่งผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าด้วยบริการที่สะดวกรวดเร็ว





อ่าน:3610
หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด (Fall Armyworm)
หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด (Fall Armyworm)
หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด (Fall Armyworm)
หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด (Fall armyworm : Spodoptera frugiperda JE Smith) เป็นศัตรูสำคัญของข้าวโพด เดิมระบาดในทวีปอเมริกา ระบาดสู่แอฟริกาในปี 2559 และกลางปี 2561 มีรายงานการระบาดในอินเดีย ปลายปี 2561 เริ่มพบระบาดในประเทศไทย

วงจรชีวิตของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด ใช้เวลา 30-40 วัน เมื่อผสมพันธุ์แล้ว ผีเสื้อเพศเมียจะวางไข่ในเวลากลางคืน โดยวางไข่เป็นกลุ่ม ประมาณ 100-200 ฟอง มีขนปกคลุมไข่ ผีเสื้อเพศเมียหนึ่งตัววางไข่ได้ประมาณ 1_500-2_000 ฟอง ระยะไข่ 2-3 วัน หนอนมี 6 วัย ระยะหนอน 14-22 วัน หนอนที่โตเต็มที่มีขนาดลำตัวยาว 3.2-4.0 เซนติเมตร จะทิ้งตัวลงดินเพื่อเข้าดักแด้ ระยะดักแด้ 7-13 วัน จึงเป็นตัวเต็มวัย มีชีวิต 10-21 วัน สามารถบินเคลื่อนย้ายระหว่างแปลง และอพยพระยะไกลระหว่างประเทศ หรือภูมิภาคได้

ลักษณะการทำลาย
ผีเสื้อหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด เริ่มวางไข่บนต้นข้าวโพด ตั้งแต่ข้าวโพดงอก อายุ 3-4 วัน โดยพบกลุ่มไข่ทั้งด้านบนใบ ใต้ใบ และที่ลำต้น หลังจากฟักจากไข่ หนอนขนาดเล็กจะรวมกลุ่มกัดกินผิวใบ เริ่มเห็นรอยทำลายสีขาวที่ผิวใบเมื่อข้าวโพดอายุ 6-7 วัน (10-11 วันหลังปลูก) ลักษณะเป็นจุดหรือเป็นแถบสีขาว หนอนตัวเล็กที่เพิ่งฟักสามารถกระจายไปยังต้นข้างเคียงโดยปลิวไปกับลม หนอนวัย 3-6 เป็นระยะที่ทำความเสียหายมาก กัดกินอยู่ในยอดข้าวโพด ทำให้ใบขาดเป็นรู เว้าแหว่ง ยอดกุด ระยะก่อนที่ดอกตัวผู้จะโผล่หนอนจะกัดกินเกสรตัวผู้ หลังจากใบยอดคลี่ทั้งหมด ดอกตัวผู้โผล่พ้นใบที่หุ้มอยู่ หนอนจะย้ายไปที่ฝัก กัดกินไหม และเจาะเปลือกหุ้มฝักเข้าไปกัดกินภายในฝัก

ปกติหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด จะทำลายใบ อยู่ในยอดข้าวโพด ในกรณีที่อากาศร้อนจัด ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน (เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน) อุณหภูมิ 36-41 องศา หรือ ในช่วงที่มีอากาศร้อน แห้งแล้ง ฝนทิ้งช่วง สภาพดังกล่าวนี้ หนอนที่มีอายุประมาณ 5 วัน มักจะหลบอาศัยใต้ผิวดิน กัดกินเนื้อเยื่อเจริญส่วนโคนต้น ทำให้เกิดอาการยอดเหี่ยว (dead heart) ต้นตาย ต้นข้าวโพดที่ยอดตายบางต้นมักจะมีการแตกหน่อข้าง ถ้าดินมีสภาพเปียก แฉะ หรือ ถ้าช่วงที่มีอากาศเย็นตอนที่ปลูกข้าวโพดฤดูแล้งหลังนา หนอนมักจะไม่ลงมาทำลายใต้ดินบริเวณโคนต้น มักไม่พบอาการยอดเหี่ยว หรือพบน้อย การคลุกเมล็ดด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงก่อนปลูก สามารถลดปัญหาการลงมาเจาะที่โคนต้นได้เมื่อเทียบกับการไม่คลุกเมล็ด

การปลูกข้าวโพดในฤดูฝน หากมีการกระจายของฝนดี ฝนตกต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ความรุนแรงในการระบาดของหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดจะลดลง ฝนที่ตกหนักจะชะกลุ่มไข่ หรือ หนอนขนาดเล็กที่เพิ่งฟัก หรือทำให้หนอนที่อยู่ในดินซึ่งกำลังจะเข้าดักแด้ รวมทั้งดักแด้ที่อยู่ในดินมีชีวิตรอดน้อยลง ทำให้สามารถเว้นระยะห่างในการพ่นสารและลดจำนวนครั้งในการพ่นสารลงได้ อย่างไรก็ตามควรมีการติดตามสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ

ช่วงที่ต้องมีการป้องกันกำจัดหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดคือระยะตั้งแต่ข้าวโพดงอกจนถึงอายุประมาณ 30-43 วัน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการระบาดสูงที่สุด และเป็นช่วงที่ข้าวโพดฟื้นตัวได้ หลังจากช่วงนี้ไปแล้วการระบาดลดลงตามธรรมชาติ (Oliveira et al._ 1995) ประกอบกับศัตรูธรรมชาติเริ่มมีปริมาณมากขึ้น การป้องกันกำจัดในช่วงดังกล่าวจะลดปริมาณหนอนที่จะเข้าทำลายในระยะติดฝักซึ่งเป็นระยะที่ข้าวโพดต้นสูง การพ่นสารทำได้ยาก ไม่ปลอดภัย และไม่มีประสิทธิภาพในการกำจัดหนอนที่เจาะอยู่ในฝัก

ในข้าวโพด พบว่าผีเสื้อหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด มาวางไข่บนใบข้าวโพดอย่างต่อเนื่อง โดยจะวางไข่มากในช่วง ระยะ 3 สัปดาห์แรกหลังจากข้าวโพดงอก เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด จึงควรหมั่นสำรวจแปลงหลังจากข้าวโพดงอก สังเกตกลุ่มไข่ และรอยทำลายสีขาวที่ผิวใบ เมื่อพบต้นถูกทำลาย จนมีรอยกัดขาดเป็นรู ป้องกันกำจัดตามคำแนะนำของสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร เน้นพ่นสารลงในกรวยยอด

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..
กรมปศุสัตว์ เดินหน้า Animal Welfare สู่สินค้าปศุสัตว์มาตรฐานอาหารปลอดภัย
กรมปศุสัตว์ เดินหน้า Animal Welfare สู่สินค้าปศุสัตว์มาตรฐานอาหารปลอดภัย
ไทยตั้งเป้าหมายในการเป็น ครัวของโลก กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานที่อยู่เบื้องหลังการเดินหน้าผลักดันเป้าหมายนี้สู่ความสำเร็จ

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายังคงมีคำถามเกี่ยวกับสินค้าเกษตรปศุสัตว์ วันนี้ นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดคำตอบทุกประเด็นคำถาม โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ที่กรมปศุสัตว์มีกฎหมายควบคุมทั้งในสัตว์เลี้ยงและสัตว์ที่ใช้เป็นอาหารของมนุษย์

ยกตัวอย่างในการเลี้ยงไก่ไข่ ที่มีมาตรฐานฟาร์ม GAP เป็นหลักปฏิบัติสำหรับเกษตรกร ซึ่งโดยปกติแม้จะเลี้ยงไก่ในกรง แต่ก็มีข้อกำหนดว่าต้องเลี้ยงได้กี่ตัวต่อกรง เพื่อให้ไก่อยู่สบายไม่แออัด ขณะเดียวกัน กรมปศุสัตว์เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ในการเลี้ยงไก่ไข่แบบไม่ใช้กรงหรือ Cage Free ซึ่งเป็นรูปแบบการเลี้ยงที่กำลังเป็นที่นิยมและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับหลักสวัสดิภาพสัตว์ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเลี้ยงไก่นอกกรงตับ ภายใต้ระบบการปฏิบัติที่ดีทางการเกษตรสำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ 5 ประการ ได้แก่ อิสระจากความหิวกระหาย อิสระจากความไม่สบายกาย อิสระจากความเจ็บปวดและโรคภัย อิสระจากความกลัวและไม่พึงพอใจ และอิสระในการแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ นับเป็นการยกระดับมาตรฐานที่นำไปสู่มาตรฐานอาหารปลอดภัยให้กับคนไทย และผลักดันการพัฒนาสินค้าปศุสัตว์ทำให้ Cage Free egg เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภค

ที่ผ่านมาพบว่ามี NGOs บางกลุ่ม ที่พยายามบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ไข่ ด้วยการผลิตคลิปวีดีโอโดยใช้ภาพประกอบเป็น ภาพไก่ไข่ที่แออัดในกรงแคบๆ มีภาพไก่ที่อ่อนแอหรือมีปัญหาสุขภาพ รวมทั้งกระบวนการเลี้ยงที่โบราณไม่ต่ำกว่า 20-30 ปี แล้วนำมาแชร์ต่อๆกัน สร้างความเข้าใจผิดแก่สังคม และส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมไก่ไข่ ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันว่าการเลี้ยงไก่ไข่ในปัจจุบันนั้นมุ่งเน้นมาตรฐานฟาร์มและความปลอดภัยในอาหารเป็นสำคัญ

ขณะที่การเลี้ยงไก่เนื้อมีมาตรฐานฟาร์มและการดูแลสวัสดิภาพสัตว์กำกับอยู่ โดยมีข้อกำหนดว่าต้องเลี้ยงกี่ตารางเมตรต่อตัว เพื่อให้มีพื้นที่ให้ไก่ได้อยู่อาศัยกว้างขวาง มีระบบการจัดการแสงสว่างและชั่วโมงการพักผ่อนที่เหมาะสมประมาณ 6-8 ชั่วโมง เหมือนกับคน และมีเวลากิน เวลานอน มีเวลาเล่นคุ้ยเขี่ย ภายใต้การเลี้ยงในโรงเรือนปิดเพื่อป้องกันโรค ซึ่งเป็นหนึ่งในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ และการที่ไก่อยู่ในโรงเรือนปรับอากาศได้ หรือที่เรียกว่าโรงเรือนอีแวป ที่มีอุณหภูมิเหมาะสมกับไก่ในแต่ละช่วงวัย ทำให้อยู่สบาย กินอาหารได้ดี เติบโตได้ตามความสามารถของสายพันธุ์ เมื่อไก่ไม่เครียด ไม่ป่วย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา เมื่อได้อายุไก่จะถูกขนส่งด้วยระบบรถที่ดูแลเป็นพิเศษ ไก่ต้องไม่ร้อน ไม่มีการทารุณสัตว์ การเข้าเชือดต้องทำให้สลบแบบนุ่มนวล เนื้อไก่ที่บริโภคต้องมาจากการฆ่าที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค

ส่วนเรื่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมนในสัตว์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ย้ำว่าในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อ ไม่มีการใช้ฮอร์โมนเพื่อเร่งการเจริญเติบโต มานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยมีกฎหมายควบคุม และกรมปศุสัตว์มีการตรวจมาโดยตลอด ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าถ้ากินไก่แล้วจะทำให้มีฮอร์โมนเอสโตรเจนมาก ทำให้หน้าอกโต เรื่องนี้ขอย้ำว่า ไม่มีจริง และปัญหาส่วนใหญ่เกิดจาก Junk Food จำพวกอาหารทานด่วน อาหารทอด ที่เป็นตัวเพิ่มไขมันในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะอ้วน

สำหรับการเลี้ยงหมูก็อยู่ภายใต้มาตรฐานฟาร์มเช่นกัน โดยมีการคุ้มครองและดูแลสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ฒเลี้ยง และปัจจุบันผู้ประกอบการฟาร์มหมูรายใหญ่ของไทย ได้พัฒนาการเลี้ยงและยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ ด้วยการเปลี่ยนการเลี้ยงแม่หมูแบบยืนซอง เป็นการเลี้ยงแบบรวมกลุ่ม หรือคอกขังรวมแทน

เรื่องการควบคุมโรค นับว่าเป็นความสำเร็จที่เห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการป้องกันโรคไข้หวัดนกที่ระบาดหนักในช่วงปี 2547 โดยไทยไม่พบการแพร่ระบาดของโรคนี้มาตั้งแต่ปี 2551 เท่ากับไม่เกิดโรคนี้ต่อเนื่องกันมากกว่า 12 ปี ถือว่าดีที่สุดระดับโลก จากมาตรการที่วางไว้ในด้านการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันอย่างดี มีปศุสัตว์อำเภอและเจ้าหน้าที่อาสาปศุสัตว์เข้าดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างใกล้ชิด

ที่สำคัญคือการป้องกันโรคในสุกร อย่างโรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ หรือ ASF ในสุกร ที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย เพราะอุตสาหกรรมหมูในประเทศหลายประเทศ ทั้งจีน เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ต่างได้รับผลกระทบจากโรคนี้ แต่ไทยเรายังคงสถานะปลอดโรค แม้โรคนี้ไม่มีวัคซีน ไม่มียารักษา แต่ไทยก็สามารถป้องกัน ASF ได้ตั้งแต่ปี 2561 เรียกว่า "เอาอยู่" มาสองปีกว่า เพราะทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันโรคอย่างเข้มแข็ง โดยกรมปศุสัตว์ร่วมกับภาคเอกชนในการดำเนินการด้านการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดมาตลอด เมื่อหมูไทยปลอดภัยปลอดเชื้อโรค ASF ทำให้เป็นที่ต้องการของหลายประเทศ แต่ไทยมีการดูแลเรื่องการผลิตหมูอย่างเพียงพอกับการบริโภค มีการจำกัดการส่งออก ไม่ให้มีผลกระทบต่อคนไทย

ความสามารถในการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ที่นำเงินตราเข้าประเทศถึงปีละ 2 แสนกว่าล้านบาท และก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในอาเซียนในด้านการส่งออก เป็นภาพสะท้อนมาตรฐานการผลิตของไทยที่เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก โดยมีสินค้าสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ คือเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ ที่ไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีคู่ค้าสำคัญคือสหภาพยุโรป (EU) กับญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัยทางอาหาร และสวัสดิภาพสัตว์ ภารกิจทั้งหมดของกรมปศุสัตว์ นอกจากจะเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของผู้บริโภค ความอยู่รอดของผู้ผลิตแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจที่ดีของไทย จากการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลก เพื่อเป้าหมาย ครัวของโลก ที่ยั่งยืน


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
การป้องกันและกำจัดโรคใบเหลืองในอ้อย ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ด้วยสารอินทรีย์ ไอเอส
การป้องกันและกำจัดโรคใบเหลืองในอ้อย ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ด้วยสารอินทรีย์ ไอเอส
โรคใบเหลืองเป็นปัญหาทั่วไปของชาวไร่อ้อย เนื่องจากอาจทำให้ผลผลิตและคุณภาพของพืชลดลงอย่างมาก โรคนี้เกิดจากเชื้อราที่ขึ้นบนใบพืชทำให้ใบเหลืองและตายได้ อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ไขปัญหานี้ที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ: การใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส เพื่อกำจัดเชื้อราและป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดเพิ่มเติม

สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ทำงานโดยสร้างสภาพแวดล้อมบนใบพืชที่ไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคการควบคุมไอออน ซึ่งจะเปลี่ยนค่า pH และคุณสมบัติทางเคมีอื่นๆ ของใบไม้เพื่อให้ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา

หากต้องการใช้สารอินทรีย์ ไอเอส เพื่อป้องกันและกำจัดโรคใบเหลือง เพียงผสมกับ FK-1 แล้วฉีดพ่นลงบนพืชที่ได้รับผลกระทบ FK-1 เป็นสารเร่งการเจริญเติบโตของพืชที่มีสารอาหารหลายชนิด ได้แก่ แมกนีเซียม สังกะสี ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม รวมทั้งสารลดแรงตึงผิวเพื่อช่วยให้ส่วนผสมเกาะติดใบ

สารประกอบอินทรีย์ของ ไอเอส ไม่เพียงแต่กำจัดโรคเท่านั้น แต่ FK-1 ยังช่วยเร่งการงอกใหม่ของพืชโดยการบำรุงและส่งเสริมการเจริญเติบโต ซึ่งหมายความว่าพืชที่ได้รับการบำบัดไม่เพียงแต่จะฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดจากโรคเท่านั้น แต่ยังสามารถให้ผลผลิตที่ดีขึ้นอีกด้วย

โดยรวมแล้ว การใช้สารประกอบอินทรีย์ ไอเอส ร่วมกับ FK-1 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ในการป้องกันและกำจัดโรคใบเหลืองในอ้อย ทำให้มั่นใจได้ว่าพืชผลยังคงแข็งแรงและให้ผลผลิต

เลื่อนลงด้านล่างอีกนิด เพื่อเลือกซื้อปุ๋ยยาฯ นะคะ
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค ฟื้นระบบราก ปลดปล่อยธาตุอาหารไห้กับพืช ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยไห้ดินร่วยซุย ระบายน้ำดี สร้างระบบรากฝอย สำหรับฉีดพ่น ต้นข้าวโพด
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค ฟื้นระบบราก ปลดปล่อยธาตุอาหารไห้กับพืช ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยไห้ดินร่วยซุย ระบายน้ำดี สร้างระบบรากฝอย สำหรับฉีดพ่น ต้นข้าวโพด
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค ฟื้นระบบราก ปลดปล่อยธาตุอาหารไห้กับพืช ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยไห้ดินร่วยซุย ระบายน้ำดี สร้างระบบรากฝอย สำหรับฉีดพ่น ต้นข้าวโพด
ในการเพิ่มผลผลิตและรักษาคุณภาพของพืชในวงการเกษตรยุคใหม่นี้ เทคโนโลยีสารออกฤทธิ์ฮิวมิคได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการจัดการที่เหมาะสมกับธรรมชาติ และยังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนต่อการปลอดภัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในบทความนี้เราจะพูดถึงสารออกฤทธิ์ฮิวมิคแบรนด์ที่เชื่อถือได้ คือ ฟาร์มิค และการนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงคุณภาพดินในการเพิ่มผลผลิตของต้นข้าวโพด.

1. ฮิวมิค แอซิด: สารออกฤทธิ์ที่ทำให้พืชเจริญเติบโต
ฮิวมิค แอซิดเป็นสารออกฤทธิ์ที่ได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น กรดฮิวมิคและแอซิด ที่มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นกระบวนการเรียนรู้และเจริญเติบโตของพืช ซึ่งส่งผลให้พืชมีระบบรากที่แข็งแรงและสามารถดูดธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

2. ปลดปล่อยธาตุอาหารให้กับพืช
การใช้ฮิวมิค แอซิดจากแบรนด์ฟาร์มิคช่วยในการปลดปล่อยธาตุอาหารให้กับพืชอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างเซลล์และเพิ่มความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แปลกปลอมได้.

3. ปรับปรุงโครงสร้างดิน
การใช้ฮิวมิค แอซิดช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน โดยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่ดีและมีการถ่ายเทสารอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของพืช.

4. ช่วยไห้ดินร่วงซุยและระบายน้ำดี
ฮิวมิค แอซิดยังมีคุณสมบัติที่ช่วยในการรักษาความชื้นในดิน ทำให้ดินรังสีน้ำดีและมีการระบายน้ำได้ดี ซึ่งช่วยป้องกันการสะสมน้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบรากของพืช.

5. สร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง
การใช้ฮิวมิค แอซิดจากฟาร์มิคช่วยในการสร้างระบบรากฝอยที่แข็งแรง ที่สามารถดูดน้ำและธาตุอาหารจากดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยในการป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคราก.

6. การใช้เป็นสารฉีดพ่นสำหรับต้นข้าวโพด
สารออกฤทธิ์ฮิวมิค แอซิดจากฟาร์มิคสามารถนำมาใช้เป็นสารฉีดพ่นที่เสริมสร้างสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตของต้นข้าวโพด ช่วยให้ต้นข้าวโพดมีความแข็งแรงและสามารถต้านต่อสภาพอากาศและโรคพืชได้ดีขึ้น.


การใช้ฮิวมิค แอซิดจากแบรนด์ฟาร์มิคเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน โดยช่วยฟื้นฟูระบบรากและปรับปรุงคุณภาพดิน ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อการเพิ่มผลผลิตและส่งเสริมการปลูกข้าวโพดให้มีคุณภาพที่ดีตลอดฤดู.

ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมนี้ เกษตรกรสามารถปลูกข้าวโพดอย่างปลอดภัยและเป็นระบบ ทำให้เกิดผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นเสริมสร้างต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม.

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อฟาร์มิค ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
.
อ่าน:3609
กำจัดเชื้อรา ฟักทอง ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
กำจัดเชื้อรา ฟักทอง ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน

ฟักทองเป็นโรคจากเชื้อรา
สำหรับฟักทองที่เป็นโรคจากเชื้อรา ส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นได้จากเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตว่าจะมีกลุ่มของเส้นใยเชื้อราบริเวณผิวอาจเกิดจากปัจจัยหลายสาเหตุ เช่นช่วงใกล้เก็บเกี่ยวมีความชื้นสูง ทำให้ง่ายต่อเชื้อราสาเหตุโรคบางชนิดเข้าทำลายจากบาดแผลธรรมชาติ รอยกัดของแมลง หรือบาดแผลในช่วงเก็บเกี่ยว ยิ่งหลังการเก็บเกี่ยวแล้วนำไปเก็บไว้ในที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการแพร่กระจายเชื้อราแล้วนั้นอาจจะทำให้ผลผลิตที่ส่วนอื่นๆ ที่ยังปกติได้รับผลกระทบได้ ซึ่งโรคที่เกิดจากเชื้อราในฟักทองจะมีด้วยกันหลายโรคเลย เช่น โรคราน้ำค้าง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา Pseudoperonospora cubensis

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย 'การควบคุมประจุไฟฟ้า' สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
แก้โรคมอนสเตอร่า ใบเหลือง ใบจุด ใบไหม้ ขาดธาตุอาหาร ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม #ปุ๋ยมอนสเตอร่า #มอนสเตอร่าใบไหม้



ไอเอส สารอินทรีย์ ป้องกัน กำจัด ยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ โรคใบไหม้ ใบจุด ยอดแห้ง ราสนิม ราน้ำค้าง แอนแทรคโนส ไฟทอปโธร่า

และ FKธรรมชาตินิยม ฟื้นฟู แก้ต้นโทรม รากพืชไม่กินปุ๋ย อาการใบซีด ใบเหลือง ต้นแคระ อาการขาดธาตุอาหารของพืช

http://www.farmkaset..link..

อัตราส่วนผสม

*สำหรับท่านที่พ่นด้วย ฟ็อกกี้ ขนาด 1-2ลิตร
ใช้ฝา FKธรรมชาตินิยมตวงประมาณ 2ฝา ทั้งไอเอส และ FK

*สำหรับท่านที่ใช้ถัง 16-20ลิตร
ใช้ไอเอส 50ซีซี และ FKธรรมชาตินิยม 50ซีซี ต่อน้ำ 16-20ลิตร

*สามารถผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันได้

ทั้งอาการใบไหม้ และใบเหลือง เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดได้จากโรค และการขาดธาตุอาหารพืชที่จำเป็น รวมถึงการให้น้ำ และการได้รับแสงแดด ซึ่งการพิจารณาสาเหตุนั้น ต้องสังเกตุอาการ และแก้ปัญหาทีละจุด

การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3609
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ
|-Page 103 of 359-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 | 359 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ลิ้นจี่ โตไว ใบเขียว เร่งราก เร่งดอก ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์
Update: 2567/04/01 14:53:38 - Views: 3769
โรคราแป้งในตำลึง และผักต่างๆ : POWDERY MILDEW DISEASE [ ไอเอส + FK-1 ]
Update: 2564/08/09 04:58:26 - Views: 4565
องุ่น ผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์ สตาร์เฟอร์ 0-0-60
Update: 2567/04/19 11:33:04 - Views: 3987
น้อยหน่า ใบไหม้ ดอกร่วง โรคมัมมี่ โรคแอนแทรคโนส กำจัดเชื้อราในพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T
Update: 2566/04/12 11:09:19 - Views: 3514
พริก ใบไหม้ ใบจุด รากเน่า โคนเน่า แอนแทรคโนส โรคราต่างๆ ป้องกันกำจัดด้วย ไอเอส และเร่งฟื้นฟู ด้วย ปุ๋ย FK-T
Update: 2567/04/20 15:38:34 - Views: 3761
คำนิยม - ขอบคุณลูกค้าจาก เลิงนกทา จ.ยโสธร ใช้ ปุ๋ยระเบิดหัวมันสำปะหลัง FK-3C ถ่ายคลิบมาให้ดู
Update: 2564/08/14 03:10:18 - Views: 3489
ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2568 ดีไหม ราคามันสำปะหลังเป็นอย่างไร
Update: 2567/11/21 07:24:40 - Views: 607
การปลูกมันสำปะหลัง การให้ปุ๋ยมันสำปะหลังตามช่วงอายุ การแก้โรคใบไหม้มันสำปะหลัง และกำจัดแมลงศัตรูพืช
Update: 2564/08/27 23:34:58 - Views: 3557
การดูแลยางพาราตลอดปี ต้นยางพาราเติบโตแข็งแรง ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น
Update: 2567/11/06 09:41:37 - Views: 399
ปุ๋ยเร่งผลฝรั่ง ปุ๋ยฝรั่ง ผลโต น้ำหนักดี คุณภาพสูง ให้ ธาตุ โพแทสเซียม ถึง 40% สำหรับเร่งผลโดยเฉพาะ
Update: 2565/02/10 00:52:46 - Views: 3511
ยารักษาโรคพืช กำจัดโรคถอดฝักดาบ ใน ต้นข้าว โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด(ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/05/31 15:22:57 - Views: 3533
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 ทางเลือกใหม่สำหรับการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของส้ม
Update: 2567/03/05 10:19:29 - Views: 3594
โรคใบไหม้ลีลาวดี ลั่นทม เกิดจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม #ลีลาวดีใบไหม้ #ลั่นทมใบไหม้
Update: 2564/10/30 03:05:48 - Views: 3510
ธนาคารน้ำใต้ดินคืออะไร?
Update: 2564/08/30 10:24:36 - Views: 3565
โรคใบจุดของกล้วยหอมทอง
Update: 2564/08/19 11:31:48 - Views: 3804
วิธีปลูกทุเรียนอย่างละเอียด ตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว
Update: 2564/05/31 08:12:06 - Views: 7108
น้ำท่วม หากต้องการความช่วยเหลือจากทหาร โทรประสานงานได้ที่ นพค.51
Update: 2562/09/01 09:45:15 - Views: 3564
คำนิยม - ลูกค้า มาคา คอมเม้นในโพสสินค้า
Update: 2562/09/25 14:08:43 - Views: 3592
โรคกุ้งแห้ง หรือ โรคแอนแทรคโนสในพริก
Update: 2564/08/28 21:38:15 - Views: 3726
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค - เทคโนโลยีเพื่อความรุ่งเรืองและปลอดภัยของลำไย
Update: 2567/02/13 09:53:58 - Views: 3562
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022