พิมพ์คำค้นหา หรือลองคลิกตัวอย่าง >
มันสำปะหลัง
,
ข้าว
,
อ้อย
,
ทุเรียน
,
กัญชา
,
ข้าวโพด
,
ปาล์ม
,
ยางพารา
,
อินทผลัม
,
โรคใบไหม้
,
ราสนิม
,
เพลี้ย
,
ยาแช่ท่อนพันธุ์
+ โพสเรื่องใหม่ |
^ เลือกหน้า |
All contents
3582 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 2 รายการ
ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2568 ดีไหม ราคามันสำปะหลังเป็นอย่างไร
ในปี 2568 การปลูกมันสำปะหลังยังคงมีโอกาสที่ดี โดยราคามันสำปะหลังในตลาดมีการปรับตามคุณภาพและความต้องการในแต่ละพื้นที่ รายละเอียดราคาล่าสุดสำหรับมันสดและมันเส้น มีดังนี้:
ราคามันสำปะหลังสด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นครราชสีมา):
มันสดเชื้อแป้ง 30%: 2.60-3.10 บาท/กก.
มันสดเชื้อแป้ง 25%: 2.25-2.60 บาท/กก.
ภาคกลาง: มันสดอาจมีราคาต่ำกว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนการขนส่งไปยังโรงงาน
ราคามันเส้น
โกดังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา: 6.30-6.35 บาท/กก. ราคานี้เป็นราคามันเส้นที่พร้อมสำหรับการส่งออกและมีคุณภาพสูง ซึ่งสะท้อนความต้องการในตลาดต่างประเทศที่ยังคงเติบโต
ปัจจัยที่ต้องพิจารณา
ฤดูกาลเก็บเกี่ยว: ราคามันสำปะหลังจะลดลงในช่วงผลผลิตมาก (มกราคม-มีนาคม) และเพิ่มขึ้นเมื่อผลผลิตลดลง (ปลายปี)
คุณภาพผลิตภัณฑ์: การรักษาคุณภาพของมันสดและมันเส้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ราคาสูง
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำติดตามผ่านกรมการค้าภายในหรือสมาคมผู้ผลิตมันสำปะหลังในภูมิภาคที่เกี่ยวข้องครับ
|
วิเคราะห์ตลาดทุเรียน แนวโน้มปี 2568
ตลาดทุเรียนในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกทุเรียนอันดับหนึ่งของโลก คาดว่าจะส่งออกได้ถึง 1.04 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 57% จากปีก่อนหน้า โดยตลาดหลักยังคงเป็นจีน ซึ่งจะนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้น 95% จากปี 2563 ส่วนตลาดใหม่ที่น่าจับตามอง ได้แก่ เกาหลีใต้และไต้หวัน ที่มีการนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้นกว่า 50%.
ด้านราคา ทุเรียนหมอนทอง ที่ขายในประเทศคาดว่าจะเฉลี่ยประมาณ 144 บาท/กก. ในปี 2568 ส่วนราคาส่งออกไปจีนอาจพุ่งถึง 379 บาท/กก. หากการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 15%.
อย่างไรก็ตาม ตลาดทุเรียนต้องเผชิญความท้าทายจากคู่แข่ง เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม ที่เพิ่มศักยภาพการผลิตและส่งออกมากขึ้น แม้ยังไม่สามารถเทียบกับไทยได้ในด้านคุณภาพและมาตรฐาน.
กลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ส่งออก คือการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย และตะวันออกกลาง เพื่อกระจายความเสี่ยง และพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดโลก.
|
5 พืชเศรษฐกิจไทย ที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด
5 พืชเศรษฐกิจไทยที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุดในปี 2566 (มูลค่าเป็นเงินบาท) ได้แก่:
1. ผลไม้ - มูลค่าส่งออกประมาณ 248_500 ล้านบาท (คิดเป็น 25.9% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด) โดยทุเรียนเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนยอดขาย โดยเฉพาะในตลาดจีน
2. ข้าว - มูลค่าส่งออกประมาณ 184_200 ล้านบาท (19.2%) ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวคุณภาพสูง เช่น ข้าวหอมมะลิ ไปยังตลาดโลก
3. มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ - มูลค่าส่งออกประมาณ 132_500 ล้านบาท (13.8%) ส่วนใหญ่ส่งไปยังจีนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงาน
4. ยางพารา - มูลค่าส่งออกประมาณ 130_400 ล้านบาท (13.6%) โดยเน้นตลาดในเอเชีย เช่น จีน และมาเลเซีย
5. น้ำตาลทราย (จากอ้อย) - มูลค่าส่งออกประมาณ 120_000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลผลิตสำคัญที่มีตลาดหลักในประเทศอาเซียนและเอเชียใต้
ตัวเลขมูลค่าเงินบาทคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 2566
|
การปลูกหอมแดง ให้ผลผลิตดี ใช้ ฮิวมิคFK ตามระยะการเจริญเติบโต
**ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) กับการดูแลหอมแดง**
ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและเพิ่มความแข็งแรงให้กับหอมแดงในทุกระยะการเจริญเติบโต โดยมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้:
### คุณสมบัติของฮิวมิค FK ที่ช่วยดูแลหอมแดง 1. **กระตุ้นการแตกราก** ฟลูวิคในฮิวมิค FK ช่วยกระตุ้นการพัฒนาของระบบราก ทำให้รากยาว แข็งแรง และสามารถดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ดีขึ้น 2. **เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร** ช่วยปรับปรุงการดูดซึมธาตุอาหาร โดยเฉพาะไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ส่งผลให้หอมแดงเติบโตอย่างสมบูรณ์ 3. **ปรับปรุงโครงสร้างดิน** ช่วยปรับปรุงสภาพดินให้ร่วนซุย และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในชั้นหน้าดิน 4. **เพิ่มความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช** หอมแดงมีความแข็งแรงมากขึ้น สามารถต้านทานโรคและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดี
### วิธีการใช้ฮิวมิค FK ตามระยะการเจริญเติบโตของหอมแดง - **ระยะเตรียมดิน (ก่อนปลูก)** - ใช้ฮิวมิค FK ในการรดดินหรือผสมกับน้ำเพื่อเตรียมดินก่อนปลูก - ช่วยปรับปรุงสภาพดิน เพิ่มการแตกรากตั้งแต่เริ่มปลูก
- **ระยะเริ่มปลูก (อายุ 7-15 วัน)** - ผสมฮิวมิค FK ในอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร - รดหรือพ่นบริเวณโคนต้น ช่วยกระตุ้นการแตกรากและส่งเสริมการเจริญเติบโต
- **ระยะเจริญเติบโต (อายุ 30-45 วัน)** - ผสมฮิวมิค FK ในอัตราเดิม และรดหรือพ่นทุก 7-10 วัน - ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร และส่งเสริมการขยายหัวหอมแดงให้ใหญ่ขึ้น
- **ระยะก่อนเก็บเกี่ยว (อายุ 60-75 วัน)** - ใช้ฮิวมิค FK ต่อเนื่องทุก 7-10 วัน - ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของหัวและคุณภาพของผลผลิต
การใช้งานฮิวมิค FK อย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ จะช่วยให้หอมแดงเติบโตแข็งแรง หัวใหญ่ สมบูรณ์ และมีผลผลิตที่มีคุณภาพสูง. |
การปลูกกระเทียม ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการดูแลให้ ฮิวมิคFK ตามระยะ
ฮิวมิค FK มีส่วนผสมของกรดฮิวมิคและฟลูวิคที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของกระเทียมในทุกระยะ โดยมีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้: 1. **ปรับปรุงโครงสร้างดิน:** ช่วยเพิ่มความโปร่งของดิน ทำให้รากกระเทียมเจริญเติบโตได้ดี 2. **ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหาร:** เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม 3. **กระตุ้นการแตกราก:** ทำให้รากพืชแข็งแรงและสามารถหาอาหารได้ดีขึ้น 4. **เพิ่มความต้านทานโรค:** ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันพืช ทำให้กระเทียมแข็งแรง 5. **ส่งเสริมผลผลิต:** กระตุ้นการเจริญเติบโตของหัวกระเทียมให้ใหญ่และสมบูรณ์
**ช่วงเวลาการใช้ฮิวมิค FK ตามระยะการเจริญเติบโตของกระเทียม** - **ระยะเริ่มปลูก (1-15 วันหลังปลูก):** ใช้ฮิวมิค FK อัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดหรือพ่นลงดินบริเวณโคนต้น ช่วยกระตุ้นการแตกรากและเพิ่มความแข็งแรงของต้นอ่อน - **ระยะเจริญเติบโตทางลำต้น (30-45 วันหลังปลูก):** ใช้ฮิวมิค FK อัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดหรือพ่นลงดิน ช่วยให้กระเทียมเติบโตอย่างสมบูรณ์ - **ระยะสร้างหัว (60-75 วันหลังปลูก):** ใช้ฮิวมิค FK อัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดหรือพ่นลงดิน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาหัวกระเทียมให้ใหญ่และสมบูรณ์ - **ระยะก่อนเก็บเกี่ยว (90 วันขึ้นไป):** งดการใช้ฮิวมิค FK เพื่อป้องกันการสะสมความชื้นส่วนเกินในดิน
**หมายเหตุ:** - ควรฉีดพ่นหรือรดในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด - ไม่แนะนำให้ฉีดพ่นในช่วงที่กระเทียมเริ่มติดดอกหรือในสภาพดินที่มีน้ำขัง
การใช้ฮิวมิค FK อย่างเหมาะสมจะช่วยให้กระเทียมเจริญเติบโตดี หัวใหญ่ น้ำหนักดี และเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ! |
ดูแลพริกไทย ให้ธาตุอาหารถูกช่วงการเจริญเติบโต ส่งเสริมผลผลิตให้ดีขึ้น
### การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn) ในการดูแลพริกไทยเพื่อให้เจริญเติบโตดี ผลผลิตสูง
**คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์:**
1. **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)** - ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก ทำให้รากแข็งแรง ดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ดี ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพริกไทย
2. **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)** - มีธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน-ฟอสฟอรัส-โพแทสเซียม) ในสัดส่วนที่เหมาะสม ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและต้นให้สมบูรณ์ และมีแมกนีเซียม (Mg) และสังกะสี (Zn) ที่ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ทำให้ใบเขียวเข้ม กระบวนการสังเคราะห์แสงดีขึ้น เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับพืช
### ช่วงเวลาการใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของพริกไทย
#### ระยะเริ่มต้นการเจริญเติบโต (1-3 เดือนแรก) - **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดินรอบโคนต้น ทุก 15-30 วัน ช่วยให้รากแข็งแรง และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร - **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร โดยใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นที่ใบ ทุก 15 วัน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบและลำต้นให้แข็งแรง สมบูรณ์
#### ระยะเติบโตเต็มที่ (4-6 เดือน) - **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดินรอบโคนต้น ทุก 30 วัน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมอาหารให้กับราก - **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นที่ใบ ทุก 15 วัน เพื่อเสริมความเขียวและเพิ่มการสังเคราะห์แสงในต้นพริกไทย
#### ระยะก่อนการติดดอก (ช่วงเตรียมดอก) - **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดิน ทุก 15-30 วัน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้รากและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม - **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นเฉพาะใบและลำต้น ทุก 15 วัน ช่วยเพิ่มความเขียวเข้มของใบ กระตุ้นการเจริญเติบโตและเพิ่มโอกาสในการสร้างตาดอก
### คำแนะนำเพิ่มเติม ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่น **ปุ๋ยทางใบ FK-1** ขณะพริกไทยกำลังติดดอก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาดอกและผล
การดูแลพริกไทยด้วย **ฮิวมิค FK** และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1** ตามระยะที่เหมาะสมนี้ จะช่วยให้พริกไทยโตไว แข็งแรง ใบเขียวเข้ม สามารถให้ผลผลิตที่ดีและต่อเนื่อง |
ดูแลสวนเงาะ ให้ได้ผลผลิตดีขึ้น ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะ และการปรับปรุงโครงสร้างดิน
**การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 ในการดูแลสวนเงาะ**
การใช้ปุ๋ย ฮิวมิค FK และ FK-1 เป็นวิธีช่วยให้สวนเงาะเติบโตได้สมบูรณ์และให้ผลผลิตดี โดยสามารถใช้ตามช่วงการเติบโตของเงาะเพื่อเสริมสร้างราก ลำต้น ใบ และผล
**คุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์**
- **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)**: ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของระบบราก ดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทำให้พืชเติบโตแข็งแรง - **ปุ๋ย FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)**: เป็นปุ๋ยทางใบที่เสริมสารอาหารหลัก (ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม) ร่วมกับสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ที่ช่วยในการสังเคราะห์แสงของใบ ทำให้ใบเขียวเข้มและสุขภาพดีขึ้น
**คำแนะนำการใช้งานตามช่วงการเจริญเติบโตของเงาะ**
1. **ระยะต้นกล้าและเตรียมปลูก** ใช้ฮิวมิค FK ในอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้นทุก 15 วัน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก และให้รากแข็งแรง
2. **ระยะสร้างใบและลำต้น** ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ผสมสองส่วน (ถุงแรก 20-20-20 และถุงที่สอง Mg + Zn) โดยใช้ในอัตราส่วน 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 15 วันเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น *หมายเหตุ*: ไม่ควรฉีดพ่นช่วงที่เงาะเริ่มติดดอก เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อดอกที่อาจหลุดร่วงได้
3. **ระยะเพิ่มคุณภาพผล** เมื่อเงาะเริ่มเข้าสู่ระยะการพัฒนาของผล สามารถใช้ฮิวมิค FK อัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดบริเวณโคนต้นทุก 15-20 วัน เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีน้ำหนักดีและได้ขนาด
4. **ระยะเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว** หลังเก็บเกี่ยว ใช้ฮิวมิค FK และ FK-1 ในอัตราที่แนะนำ เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของต้น และเสริมสร้างการเตรียมตัวสำหรับฤดูถัดไป |
การปลูกฟักทอง ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการให้ ปุ๋ยยาฯ ที่เหมาะสม
ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค) และปุ๋ยทางใบ FK-1 ช่วยดูแลและส่งเสริมการเจริญเติบโตของฟักทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้ควรดำเนินตามระยะการเจริญเติบโตของฟักทอง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี โตไว และสมบูรณ์แข็งแรง การใช้ฮิวมิคFK ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและสารอาหาร ทำให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 มีธาตุอาหารหลัก (N-P-K 20-20-20) และสารเสริมการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ซึ่งช่วยในการสังเคราะห์แสงและกระตุ้นการเจริญเติบโตโดยรวม
### ช่วงเวลาการใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของฟักทอง
1. **ระยะเริ่มปลูก (ช่วงแรกที่มีใบจริง)** - **ฮิวมิคFK**: ใช้ 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของรากและเตรียมดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโตของต้นฟักทอง - **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุง (N-P-K 20-20-20 และ Mg+Zn) ในอัตรา 25-50 กรัม ถุงละต่อน้ำ 20 ลิตร ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของใบและต้น
2. **ระยะเจริญเติบโตทางใบและลำต้น (ช่วงใบสมบูรณ์)** - **ฮิวมิคFK**: ฉีดพ่นต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์เพื่อเสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร - **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของลำต้นและใบ ทำให้ต้นฟักทองแข็งแรงและพร้อมที่จะให้ผลผลิต
3. **ระยะพัฒนาเถาและสะสมพลังงาน (ก่อนเริ่มติดดอก)** - **ฮิวมิคFK**: ใช้ตามเดิม ทุก 2 สัปดาห์ ช่วยบำรุงรากให้มีการสะสมพลังงาน - **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ใช้ต่อเนื่องทุก 10-15 วันเพื่อสะสมสารอาหารสำหรับช่วงติดผล ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงติดดอก
4. **ระยะผลอ่อนจนถึงเก็บเกี่ยว** - **ฮิวมิคFK**: ฉีดพ่นในช่วงที่จำเป็นเพื่อเสริมความแข็งแรงของต้นและราก ไม่ควรฉีดพ่นในช่วงที่มีดอกหรือผลเล็ก - **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ใช้เป็นระยะ ๆ เพื่อให้ผลฟักทองโตไว สมบูรณ์ และมีคุณภาพสูง ควรเว้นช่วงการฉีดพ่นในระยะติดดอกเพื่อไม่รบกวนการผสมเกสร
การใช้งานอย่างสม่ำเสมอและระมัดระวังในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตจะช่วยให้ฟักทองมีความสมบูรณ์และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ |
เพิ่มผลผลิต สับปะรด ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโตของสับปะรด
การใช้ **ฮิวมิคFK** (เสริมฟลูวิค) และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1** (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn) ช่วยเพิ่มผลผลิตและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของต้นสับปะรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยพืชในเรื่องการดูดซึมธาตุอาหาร เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบราก ใบ และลำต้น ทำให้พืชแข็งแรงและทนต่อโรคได้ดีขึ้น โดยการใช้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถแบ่งตามช่วงเวลาการเจริญเติบโตของสับปะรด ดังนี้:
### ช่วงเวลาการใช้ 1. **ระยะต้นอ่อนและรากเริ่มเติบโต (1-3 เดือนแรก)** - ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยฉีดพ่นรอบๆ โคนต้นทุก 2 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากและเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร
2. **ระยะการเจริญเติบโตของใบและลำต้น (4-8 เดือน)** - ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกเดือน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบรากและการดูดซึมแร่ธาตุในดิน - ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมถุงแรก (สูตร 20-20-20) 25-50 กรัม และถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) 25-50 กรัม เข้าด้วยกันในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ช่วยให้สับปะรดมีใบเขียว แข็งแรง และสามารถสร้างอาหารได้ดี
3. **ระยะก่อนติดดอก (9-12 เดือน)** - ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อบำรุงระบบรากให้พร้อมรับธาตุอาหารสำคัญที่ช่วยในการสร้างผล - ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมถุงแรก (สูตร 20-20-20) 25-50 กรัม และถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) 25-50 กรัม ในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุกเดือน เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของต้นสับปะรดให้พร้อมสำหรับการสร้างผลในอนาคต
4. **ระยะขยายผล (หลังติดผลจนถึงก่อนเก็บเกี่ยว)** - งดการฉีดพ่นในระยะติดดอก เพื่อลดโอกาสที่สารเคมีจะกระทบต่อการพัฒนาของดอกและการติดผล - หลังจากติดผลแล้ว ให้กลับมาใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร และปุ๋ยทางใบ FK-1 ในอัตราส่วนผสมเดิม (ทั้งสูตร 20-20-20 และสารสังเคราะห์คลอโรฟิล) ทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อบำรุงผลให้เติบโตสมบูรณ์และให้เนื้อแน่น
### คุณประโยชน์จากการใช้ฮิวมิคFK และปุ๋ย FK-1 - **ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค)** ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของระบบราก ทำให้ต้นพืชดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้อย่างเต็มที่ เสริมสร้างความแข็งแรงและช่วยให้พืชสามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ ได้ดี - **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20)** ช่วยเพิ่มธาตุอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโต โดยเฉพาะ N-P-K ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างใบและลำต้นที่แข็งแรง ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีตลอดฤดูกาล |
การดูแลมะพร้าวให้โตไว สมบูรณ์ และมีผลผลิตดีด้วยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1
การดูแลมะพร้าวอย่างต่อเนื่องด้วยปุ๋ยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้เร็วและมีผลผลิตดี โดยเลือกใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามวงจรการเจริญเติบโตของมะพร้าว
คุณสมบัติของปุ๋ย:
1. ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค): ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและสารอาหารในดิน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ทำให้ต้นมะพร้าวสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): ปุ๋ยสูตรสมดุล (20-20-20) ที่เสริมด้วยแมกนีเซียมและสังกะสี ช่วยในการสังเคราะห์แสง เพิ่มความเขียวสดของใบ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้น
ช่วงเวลาการใช้ปุ๋ย:
ช่วงต้นฤดูกาลเติบโต: ใช้ ฮิวมิคFK ผสมในอัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น เพื่อปรับปรุงดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโต และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร
ช่วงเร่งการเจริญเติบโต: ใช้ ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมส่วนผสมสองถุง (สูตร 20-20-20 และสารคลอโรฟิล Mg Zn) อัตราส่วน 25-50 กรัม ต่อถุง ในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ เพื่อกระตุ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มความเขียวสดให้ใบ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงติดดอก
ช่วงหลังจากมะพร้าวติดผล: ใช้ ฮิวมิคFK ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดี และทำให้ผลเจริญเติบโตเต็มที่
ช่วงเตรียมพร้อมก่อนเข้าฤดูฝน: ใช้ ฮิวมิคFK เพื่อปรับสภาพดินให้พร้อมรองรับน้ำฝน ช่วยให้ดินไม่แน่นเกินไป และเพิ่มการอุ้มน้ำ
ช่วงฟื้นฟูหลังฤดูฝน: ใช้ ปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อเสริมสร้างความเขียวสดให้ใบและซ่อมแซมใบที่อาจเสียหายจากสภาพอากาศหนัก ช่วยให้ต้นฟื้นตัวเร็วขึ้น
อัตราการผสม
ฮิวมิคFK: 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น
ปุ๋ยทางใบ FK-1:
ถุงแรก (สูตร 20-20-20): 25-50 กรัม
ถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): 25-50 กรัม ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ
|
|
|
|
กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3,
นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)
กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอส3ลิตร กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งมาคากับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอกี้-บีทีกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งFK-T 250ซีซี กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง
สั่ง อินเวท กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง เมทาแลคซิล กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง คาร์รอน กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง แม็กซ่า กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|