พิมพ์คำค้นหา หรือลองคลิกตัวอย่าง >
มันสำปะหลัง
,
ข้าว
,
อ้อย
,
ทุเรียน
,
กัญชา
,
ข้าวโพด
,
ปาล์ม
,
ยางพารา
,
อินทผลัม
,
โรคใบไหม้
,
ราสนิม
,
เพลี้ย
,
ยาแช่ท่อนพันธุ์
+ โพสเรื่องใหม่ |
^ เลือกหน้า |
All contents
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ
มันสำปะหลังราคาตกต่ำ 1.80 บาท ต่อ กก. ต้นปี 68นี้ กลางปีจะดีขึ้นไหม?
สถานการณ์มันสำปะหลังในปี 2568: ราคาตกต่ำ ผลกระทบ และแนวโน้มอนาคต
ในช่วงต้นปี 2568 เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อราคามันสำปะหลังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยราคาหัวมันสดอยู่ที่ประมาณ 1.80 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรจำนวนมากต้องหาทางปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
สาเหตุที่ทำให้ราคามันสำปะหลังตกต่ำ
ผลผลิตล้นตลาด
ในปี 2568 ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ส่งผลให้เกิดอุปทานล้นตลาด ทำให้ราคาปรับตัวลดลง
ความต้องการจากต่างประเทศลดลง
แม้ว่าจีนจะยังเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย แต่นโยบายการนำเข้าของจีนที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการสั่งซื้อลดลง
การแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้าน
ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและกัมพูชาเริ่มขยายการปลูกมันสำปะหลังมากขึ้น และเสนอราคาที่แข่งขันได้มากกว่า ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของไทยลดลง
มาตรการแก้ไขจากภาครัฐและแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร
ท่ามกลางวิกฤติราคามันสำปะหลังที่ลดลง รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการหลายประการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและกระตุ้นตลาด
การเจรจาขยายตลาดส่งออก
กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งเจรจากับจีนเพื่อเพิ่มปริมาณการนำเข้ามันสำปะหลังของไทย ล่าสุดมีข้อตกลงนำเข้ากว่า 1.68 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 5_314.95 ล้านบาท
ส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังในประเทศ
รัฐบาลกำลังผลักดันให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมเอทานอลเพิ่มการใช้มันสำปะหลังในกระบวนการผลิต เพื่อลดผลผลิตส่วนเกินในตลาด
โครงการประกันรายได้เกษตรกร
มีการพิจารณาปรับปรุงโครงการประกันรายได้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อช่วยลดความเดือดร้อนของเกษตรกร
แนวโน้มอนาคตของราคามันสำปะหลัง
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคามันสำปะหลังอาจเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงกลางปี 2568 หากมาตรการของรัฐบาลสามารถเพิ่มปริมาณการส่งออกได้สำเร็จ รวมถึงการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากจีน เช่น อินเดียและยุโรป
นอกจากนี้ เกษตรกรอาจต้องปรับตัวโดยการเพิ่มคุณภาพของผลผลิต หันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
ฮิวมิค FK: ทางเลือกใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง
หนึ่งในวิธีที่เกษตรกรสามารถใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต คือ การใช้ฮิวมิค FK ซึ่งเป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยปรับปรุงดิน เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร และทำให้พืชแข็งแรงขึ้น
✅ ช่วยเพิ่มผลผลิต – ฮิวมิค FK กระตุ้นการแตกรากและการดูดซึมสารอาหาร ทำให้ต้นมันสำปะหลังเจริญเติบโตได้ดีขึ้น และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง
✅ ลดต้นทุนปุ๋ยเคมี – ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ดีขึ้น ทำให้สามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ โดยไม่กระทบต่อคุณภาพผลผลิต
✅ เพิ่มความต้านทานต่อโรคและสภาพอากาศ – พืชที่แข็งแรงจากการใช้ฮิวมิค FK จะสามารถต้านทานโรคพืชและสภาพอากาศที่แปรปรวนได้ดีขึ้น ลดโอกาสสูญเสียผลผลิต
บทสรุป
ปี 2568 นับเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในไทย อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐและการปรับตัวของเกษตรกรเอง คาดว่าอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยยังคงมีอนาคตที่สดใสหากสามารถแก้ไขปัญหาการตลาดและการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากเกษตรกรต้องการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต ฮิวมิค FK เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับต้นมันสำปะหลัง และช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮิวมิค FK และวิธีการใช้งาน สามารถติดต่อผู้จัดจำหน่ายหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการฟาร์มของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน |
แนวโน้มข้าวคาร์บอนต่ำ กับตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก
แนวโน้มการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำกำลังเป็นที่สนใจในตลาดโลก เนื่องจากผู้บริโภคและนโยบายการค้าระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปกป้องสิ่งแวดล้อม การผลิตข้าวแบบดั้งเดิมที่มีน้ำขังในนาข้าวมักปล่อยก๊าซมีเทนในปริมาณสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ประเทศไทยในฐานะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ได้เริ่มส่งเสริมการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการไทยไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) โครงการนี้มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำนาโดยการส่งเสริมเทคโนโลยีและวิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเวียดนาม พบว่าเวียดนามมีการส่งเสริมการปลูกข้าวคาร์บอนต่ำอย่างจริงจังและมีเป้าหมายชัดเจน โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ เวียดนามมีเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวคาร์บอนต่ำให้ได้ 6.25 ล้านไร่ภายในปี 2030 ซึ่งคาดว่าจะผลิตข้าวคาร์บอนต่ำได้ประมาณ 6.3 ล้านตัน ขณะที่ไทยมีศักยภาพการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านตัน
นอกจากนี้ สหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของข้าวไทย มีแนวโน้มที่จะบังคับใช้เกณฑ์การค้าข้าวคาร์บอนต่ำในอนาคต หากไทยไม่ปรับตัว อาจต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก
ดังนั้น การเร่งพัฒนาการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำและการปรับปรุงเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลกและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
**ฮิวมิค FK กับการเพิ่มผลผลิตข้าวคาร์บอนต่ำ**
การใช้ **ฮิวมิค FK** สามารถช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวคาร์บอนต่ำได้โดยการปรับปรุงคุณภาพของดินและลดการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการเกษตร โดยมีแนวทางหลัก ๆ ดังนี้
---
### **1. เพิ่มอินทรียวัตถุและความอุดมสมบูรณ์ของดิน** - **ฮิวมิค FK** อุดมไปด้วย **ฮิวมิกแอซิด (Humic Acid) และฟุลวิกแอซิด (Fulvic Acid)** ซึ่งช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินสามารถกักเก็บน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น - ลดความเป็นกรดในดินและช่วยให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินเจริญเติบโตดีขึ้น
---
### **2. ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดต้นทุน และลดก๊าซเรือนกระจก** - การใช้ฮิวมิค FK ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์สามารถช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N₂O) - ดินที่มีฮิวมิคสูงสามารถดูดซับธาตุอาหารจากปุ๋ยได้ดีขึ้น ทำให้พืชนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียธาตุอาหารในดิน
---
### **3. เพิ่มการดูดซับคาร์บอนในดิน (Carbon Sequestration)** - ดินที่มีปริมาณอินทรียวัตถุสูงสามารถกักเก็บคาร์บอนในรูปของฮิวเมต (Humate) ทำให้การปลูกข้าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น - ลดการปล่อยก๊าซมีเทน (CH₄) จากดินเปียกที่เกิดจากการทำนาแบบดั้งเดิม
---
### **4. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของข้าว เพิ่มผลผลิต** - ฮิวมิค FK ช่วยกระตุ้นการแตกกอของข้าว ทำให้ได้รวงข้าวมากขึ้น - ช่วยให้ระบบรากพืชแข็งแรง ข้าวดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ทำให้เมล็ดข้าวเต็ม น้ำหนักดี - เพิ่มความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช ลดการใช้สารเคมี
---
### **5. ลดการใช้น้ำและส่งเสริมระบบการปลูกข้าวแบบยั่งยืน** - ดินที่ได้รับฮิวมิค FK สามารถอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ลดการใช้น้ำในการปลูกข้าว - ส่งเสริมการทำนาแบบ **"เปียกสลับแห้ง" (Alternate Wetting and Drying: AWD)** ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากนาข้าว
---
### **สรุป** การใช้ **ฮิวมิค FK** ในการปลูกข้าวคาร์บอนต่ำมีประโยชน์ทั้งในด้าน **การเพิ่มผลผลิต** และ **ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม** โดยช่วยปรับปรุงดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มความยั่งยืนของการผลิตข้าวในระยะยาว
|
ทุเรียนคาร์บอนต่ำ อนาคตทุเรียนไทย
ทุเรียนคาร์บอนต่ำกำลังเป็นที่สนใจในตลาดโลก เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ประเทศไทยได้เล็งเห็นโอกาสนี้และกำลังผลักดันทุเรียนคาร์บอนต่ำเป็น Soft Power ใหม่ของประเทศ
**ความสำคัญของทุเรียนคาร์บอนต่ำในตลาดโลก:**
- **แนวโน้มผู้บริโภค:** ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ทุเรียนคาร์บอนต่ำมีโอกาสเติบโตในตลาดสากล
- **มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม:** หลายประเทศกำหนดมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การผลิตทุเรียนคาร์บอนต่ำจึงสอดคล้องกับมาตรการเหล่านี้
**การดำเนินการของประเทศไทย:**
- **การจัดทำคู่มือ:** กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำคู่มือการผลิตทุเรียนคาร์บอนต่ำ เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตทุเรียน
- **ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน:** มีการเตรียมทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เพื่อพัฒนาการผลิตพืชที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก citeturn0search5
**แนวโน้มในอนาคต:**
ด้วยความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ทุเรียนคาร์บอนต่ำมีศักยภาพในการขยายตลาดโลก การปรับตัวของเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยในการผลิตทุเรียนที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดสากล
### **บทบาทของฮิวมิค FK ในการส่งเสริมทุเรียนคาร์บอนต่ำ**
**1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี** ฮิวมิค FK เป็นสารอินทรีย์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน **เพิ่มการดูดซับธาตุอาหาร** และ **ลดการชะล้างธาตุอาหาร** ทำให้ **ต้นทุเรียนสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น** ซึ่งส่งผลให้เกษตรกร **ลดการใช้ปุ๋ยเคมี** ลงได้โดยไม่กระทบต่อผลผลิต
- **ผลลัพธ์:** ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตและการใช้ปุ๋ยเคมี - **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ปุ๋ยเคมีเป็นแหล่งปล่อย **ไนตรัสออกไซด์ (N₂O)** ซึ่งมีค่าศักยภาพเรือนกระจกสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 300 เท่า
---
**2. เพิ่มความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนในดิน** ฮิวมิค FK มีคุณสมบัติช่วยให้ดินมี **สารอินทรีย์มากขึ้น** ซึ่งช่วย **กักเก็บคาร์บอนในดิน** และ **ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สู่บรรยากาศ**
- **ผลลัพธ์:** เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ทำให้สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ดีขึ้น - **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ดินที่มีฮิวมิกสูงสามารถช่วยกักเก็บ **คาร์บอนอินทรีย์ในดิน (Soil Organic Carbon_ SOC)** ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อน
---
**3. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากและระบบนิเวศดิน** ฮิวมิค FK **ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากทุเรียน** ทำให้ต้นแข็งแรงและสามารถดูดซึมสารอาหารจากดินได้ดีขึ้น ส่งผลให้ ✅ ต้นทุเรียนมี **ภูมิต้านทานที่ดีขึ้น** ✅ ระบบรากช่วย **รักษาความชื้นและลดการพังทลายของดิน**
- **ผลลัพธ์:** ลดการใช้น้ำและสารเคมีปรับปรุงดิน - **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ลดการใช้น้ำและพลังงานในกระบวนการผลิต
---
**4. ลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในฟาร์ม** การใช้ฮิวมิค FK **ช่วยลดปริมาณปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดิน** ลดความเสี่ยงของ **สารเคมีตกค้างในสิ่งแวดล้อม** และลดของเสียจากฟาร์มทุเรียน
- **ผลลัพธ์:** ส่งเสริมระบบการเกษตรยั่งยืน (Sustainable Agriculture) - **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ลดของเสียจากการเกษตร ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
---
### **สรุป: ฮิวมิค FK กับการส่งเสริมทุเรียนคาร์บอนต่ำ** ✅ **ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี** → ลดการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ ✅ **ช่วยกักเก็บคาร์บอนในดิน** → ลดคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ✅ **ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารของต้นทุเรียน** → ลดการใช้ทรัพยากร ✅ **ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน** → ส่งเสริมการเกษตรยั่งยืน
🌱 **ฮิวมิค FK จึงมีบทบาทสำคัญต่อแนวคิด "ทุเรียนคาร์บอนต่ำ"** และเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถพัฒนาทุเรียนให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 🌏💚 |
ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค คืออะไร ช่วยเพิ่มผลผลิตพืชอย่างไร ทำไมเกษตรกรหันมาใช้กันเยอะจัง?
การเกษตรในปัจจุบันได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถเพิ่มผลผลิตได้อย่างยั่งยืน และการใช้ **ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค** เป็นหนึ่งในวิธีการที่เกษตรกรเริ่มนำมาใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพดินและช่วยให้พืชเติบโตได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนในการใช้ปุ๋ยเคมีที่อาจมีผลเสียต่อดินในระยะยาว
### ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค คืออะไร?
**ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค** เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานฮิวมิคแอซิด (Humic Acid) และฟลูวิคแอซิด (Fulvic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย สามารถอุ้มน้ำได้ดีขึ้น และช่วยให้รากพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น ส่งผลให้พืชเติบโตแข็งแรงและมีผลผลิตสูง
### ประโยชน์ของฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค
1. **ปรับปรุงคุณภาพดิน**: ช่วยให้ดินมีโครงสร้างที่ดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ และลดการกัดกร่อนของดิน 2. **เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร**: ฟลูวิคแอซิดช่วยให้ธาตุอาหารในดินสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะธาตุอาหารที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ 3. **เสริมสร้างรากพืช**: ช่วยให้รากพืชแข็งแรงขึ้นและเพิ่มพื้นที่การดูดซึมสารอาหารจากดิน 4. **ช่วยเพิ่มผลผลิต**: พืชที่ได้รับสารฮิวมิคFK เสริมฟลูวิคจะเติบโตได้ดี มีผลผลิตสูง และสามารถต้านทานโรคและแมลงได้ดีขึ้น 5. **ลดการใช้ปุ๋ยเคมี**: เมื่อดินได้รับการปรับปรุงคุณภาพแล้ว การใช้ปุ๋ยเคมีจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้
### ทำไมเกษตรกรถึงเริ่มใช้ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค?
1. **การเพิ่มผลผลิต**: ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิคช่วยให้พืชมีการเจริญเติบโตที่ดีและสามารถเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. **ความยั่งยืนในระยะยาว**: การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยลดปัญหาดินเสื่อมสภาพ และยังช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้ยาวนานขึ้น 3. **ลดต้นทุนการเกษตร**: ด้วยการใช้ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค เกษตรกรสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมี และเพิ่มผลผลิตได้ในระยะยาว ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
### สรุป
**ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค** เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพดิน และเพิ่มผลผลิตพืชอย่างยั่งยืน ไม่เพียงแต่ช่วยให้พืชเติบโตแข็งแรง แต่ยังช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีและรักษาสภาพดินให้ดีขึ้นในระยะยาว
### Hashtags #ฮิวมิคFK #เสริมฟลูวิค #เกษตรยั่งยืน #เพิ่มผลผลิต #คุณภาพดิน #ฟลูวิคแอซิด #ฮิวมิคแอซิด #เกษตรกร #ปุ๋ยธรรมชาติ #การเกษตร #พืชผลดี #ลดต้นทุน #ดินร่วนซุย |
เพิ่มผลผลิต ผักสลัด ผักกาดหอม คะน้า ผักชี ได้ถึง 15-20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อใช้ ฮิวมิคFK อย่างถูกต้อง!
ฮิวมิคเอฟเค (Humic FK) เป็นสารอินทรีย์ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับพืชผักสลัด คะน้า ผักกาดหอม ผักชี และผักอื่น ๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยในด้านต่าง ๆ ดังนี้:
1. ส่งเสริมระบบรากแข็งแรง
ฮิวมิคช่วยให้รากพืชแตกแขนงมากขึ้น ดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ดีขึ้น
เพิ่มพื้นที่ผิวของรากในการดูดน้ำและสารอาหาร ส่งผลให้พืชโตเร็วและสมบูรณ์
2. ปรับปรุงโครงสร้างดิน
ทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย และอุ้มน้ำได้ดีขึ้น
ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งเป็นตัวช่วยย่อยธาตุอาหารที่พืชต้องการ
3. เพิ่มการดูดซึมสารอาหาร
ช่วยให้พืชสามารถดูดซึมไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมได้ดีขึ้น
ลดการสูญเสียธาตุอาหารในดิน
4. ลดความเครียดของพืช
พืชสามารถปรับตัวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น ร้อนจัดหรือหนาวจัด
ลดอาการชะงักของพืชหลังการย้ายปลูก
5. เพิ่มผลผลิตและคุณภาพ
ผักสลัด ผักกาดหอม และคะน้าจะมีใบเขียวสด ใหญ่ น้ำหนักดี
ผักชีและผักใบเล็กจะมีกลิ่นหอม รากแน่น และอายุเก็บรักษานานขึ้น
วิธีการใช้ฮิวมิค FK กับผัก:
1. การเตรียมดิน
ผสมฮิวมิคกับดินก่อนปลูกในอัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อปรับปรุงคุณภาพดิน
2. การละลายน้ำรดหรือพ่นทางใบ
ผสมฮิวมิค FK 10-20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
รดบริเวณโคนต้นหรือพ่นทางใบทุก 7-10 วัน
3. ระยะเวลาใช้
ใช้ตั้งแต่ช่วงเตรียมดินจนถึงช่วงการเจริญเติบโตของพืช
ผลลัพธ์ที่ได้:
ผักมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วขึ้น 20-30%
ผลผลิตเพิ่มขึ้น 15-20%
คุณภาพผักดีขึ้นและขายได้ราคาสูง
|
ทุเรียนกำลังออกดอก ใช้ฮิวมิค FK ผสมน้ำราดลงโคน หรือฉีดพ่นลงดิน ไหนดีกว่ากัน?
การปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิตดี ต้องอาศัยการดูแลในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะช่วงที่ทุเรียนกำลังออกดอก ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการเพิ่มโอกาสการติดผลที่มีคุณภาพ หนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่เกษตรกรนิยมใช้คือ **ฮิวมิค FK** แต่การใช้งานระหว่าง **ผสมน้ำราดโคนต้น** หรือ **ฉีดพ่นลงดินทั่วบริเวณ** แบบไหนจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า? มาดูคำแนะนำในบทความนี้กัน
---
### **ฮิวมิค FK คืออะไร และช่วยอะไรบ้างในช่วงออกดอกของทุเรียน?** ฮิวมิค FK คือสารอินทรีย์ที่มีกรดฮิวมิกและฟุลวิก (Humic Acid & Fulvic Acid) ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารของราก กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช และช่วยให้รากแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ทุเรียนออกดอก ฮิวมิค FK จะช่วยรักษาความชื้นในดิน เพิ่มอัตราการติดดอก และลดการร่วงของดอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
---
### **วิธีใช้ฮิวมิค FK แบบผสมน้ำราดโคนต้น** - **ข้อดี**: 1. การราดโคนต้นช่วยส่งสารอาหารตรงสู่รากของทุเรียน 2. รากสามารถดูดซึมฮิวมิกได้ทันที 3. เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีดินแข็งหรือมีโครงสร้างดินไม่ดี
- **ข้อควรระวัง**: - ปริมาณน้ำที่ใช้ราดควรเหมาะสม ไม่มากจนดินแฉะเกินไป - ควรราดในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงการระเหย
---
### **วิธีใช้ฮิวมิค FK แบบฉีดพ่นลงดินทั่วบริเวณ** - **ข้อดี**: 1. การฉีดพ่นช่วยให้สารฮิวมิกกระจายทั่วพื้นที่รากฝอย 2. เพิ่มพื้นที่การดูดซึมของธาตุอาหารในดิน 3. ลดปัญหารากที่อยู่ชั้นบนขาดความชื้น
- **ข้อควรระวัง**: - หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงแดดจัด เพราะสารอาจระเหยเร็วเกินไป - ใช้หัวพ่นที่กระจายตัวได้ดี เพื่อให้สารซึมลึกถึงราก
---
### **แบบไหนดีกว่ากัน?** คำตอบขึ้นอยู่กับ **สภาพพื้นที่และโครงสร้างดิน** 1. หากพื้นที่ปลูกเป็นดินแข็งและมีความสามารถในการอุ้มน้ำต่ำ แนะนำให้ **ราดโคนต้น** 2. หากพื้นที่ปลูกเป็นดินร่วนหรือดินที่มีโครงสร้างดินดีอยู่แล้ว การ **ฉีดพ่นทั่วบริเวณ** จะช่วยให้สารอาหารกระจายตัวได้ดีขึ้น
---
### **คำแนะนำเพิ่มเติม** - ใช้ฮิวมิค FK ผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วนที่แนะนำบนฉลาก - ควรใช้งานในช่วงเช้าหรือเย็น - ควบคู่กับการให้น้ำที่เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดิน
---
### **สรุป** ไม่ว่าจะเลือกใช้ **ฮิวมิค FK** แบบราดโคนต้นหรือฉีดพ่นลงดิน ทั้งสองวิธีมีข้อดีในตัวเอง ขึ้นอยู่กับสภาพดินและความต้องการของต้นทุเรียน หากต้องการเพิ่มโอกาสในการติดดอกและลดปัญหาดอกร่วง การใช้ฮิวมิค FK อย่างเหมาะสมจะช่วยส่งเสริมผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
---
#ฮิวมิคFK #ทุเรียนออกดอก #การดูแลทุเรียน #ฮิวมิก #เกษตรอินทรีย์ #ฮิวมิคสำหรับทุเรียน #การใช้ฮิวมิค #ดินดีผลผลิตเยี่ยม #เกษตรกร #เคล็ดลับปลูกทุเรียน |
ฮิวมิค FK เหมาะกับการใช้งานอย่างไร? ฉีดพ่นทางใบ หรือฉีดพ่นลงดิน หรือผสมน้ำรดลงดิน แบบไหนดีที่สุด?
ฮิวมิค FK เป็นสารปรับปรุงดินและช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชที่มีคุณสมบัติหลากหลาย สามารถใช้งานได้หลายวิธีตามความเหมาะสมของพืชและสภาพแวดล้อม โดยแต่ละวิธีมีข้อดีเฉพาะตัว ดังนี้:
### **1. การฉีดพ่นทางใบ** - **ข้อดี:** - ช่วยให้พืชดูดซึมสารอาหารได้เร็ว เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการการบำรุงอย่างเร่งด่วน - เสริมสร้างความเขียวของใบและกระตุ้นการสังเคราะห์แสง - **เหมาะสำหรับ:** พืชที่มีอาการขาดสารอาหารเฉียบพลัน หรือในช่วงที่ต้องการกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบ
### **2. การฉีดพ่นลงดิน** - **ข้อดี:** - ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและธาตุอาหาร - กระตุ้นจุลินทรีย์ในดินให้ทำงานดีขึ้น ช่วยให้รากพืชแข็งแรง - **เหมาะสำหรับ:** การฟื้นฟูดินเสื่อมสภาพหรือเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในระยะยาว
### **3. การผสมน้ำรดลงดิน** - **ข้อดี:** - ช่วยให้ฮิวมิคกระจายตัวทั่วถึงในระบบราก - เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะสำหรับการบำรุงรากและโครงสร้างดินโดยตรง - **เหมาะสำหรับ:** พืชที่ต้องการการบำรุงรากโดยเฉพาะ เช่น พืชสวน ไม้ผล หรือพืชที่ต้องการการฟื้นฟู
### **แบบไหนดีที่สุด?** ขึ้นอยู่กับ **เป้าหมาย** และ **ชนิดพืช** - หากต้องการฟื้นฟูดินในระยะยาว: **ฉีดพ่นลงดินหรือผสมน้ำรดลงดิน** จะให้ผลดี - หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว: **ฉีดพ่นทางใบ** จะช่วยเสริมพืชได้อย่างรวดเร็ว
**คำแนะนำเพิ่มเติม:** - ควรใช้ฮิวมิค FK ร่วมกับการดูแลพืชอย่างเหมาะสม เช่น การให้น้ำและธาตุอาหาร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด - ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด
**#ฮิวมิคFK #ปรับปรุงดิน #เพิ่มผลผลิต #สารอาหารพืช #เกษตรอินทรีย์ #พืชงอกงาม #เกษตรกรไทย** |
ทำไม? ฮิวมิคFK จึงจำเป็น และมีประโยชน์กับพืชทุกชนิด
**ฮิวมิค FK** (Humic FK) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์กับพืชทุกชนิด เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพดินและเสริมการเจริญเติบโตของพืช โดยมีเหตุผลดังนี้:
### 1. **ปรับปรุงโครงสร้างของดิน** - ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและอากาศในดิน ทำให้รากพืชได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ - ช่วยลดการจับตัวเป็นดินแข็ง (Compact Soil) โดยเฉพาะในดินเหนียวและดินทราย
### 2. **เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน** - เป็นแหล่งของคาร์บอนอินทรีย์ (Organic Carbon) ที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายธาตุอาหาร - ช่วยจับธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำให้พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่ายขึ้น
### 3. **เสริมการเจริญเติบโตของพืช** - ช่วยกระตุ้นการพัฒนาระบบราก ทำให้รากพืชแข็งแรงและสามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น - มีผลต่อการเร่งการแบ่งเซลล์ (Cell Division) และการสร้างคลอโรฟิลล์ ส่งผลให้พืชโตเร็วและให้ผลผลิตสูงขึ้น
### 4. **ลดผลกระทบจากสภาวะแวดล้อม** - ช่วยพืชทนต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อม เช่น ความแห้งแล้ง ดินเค็ม และดินเป็นกรด - ลดการสูญเสียธาตุอาหารจากการชะล้างหรือการระเหย
### 5. **เหมาะกับพืชทุกชนิด** - ใช้ได้กับพืชทุกประเภท เช่น - พืชผล: ข้าว_ ข้าวโพด_ มันสำปะหลัง_ อ้อย - พืชผัก: ผักชี_ คะน้า_ แตงกวา - ไม้ผล: ทุเรียน_ มะม่วง_ ส้ม - พืชสวนและไม้ดอก: กุหลาบ_ กล้วยไม้_ ดาวเรือง
### สรุป **ฮิวมิค FK** มีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน เพิ่มธาตุอาหาร และเสริมความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชทุกชนิดเติบโตได้ดีขึ้น ทนต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
---
#ฮิวมิคFK #ประโยชน์ของฮิวมิค #เพิ่มผลผลิตพืช #เกษตรอินทรีย์ #ปรับปรุงดิน #พืชโตไว #เกษตรกรไทย |
กลไกการทำงานของฮิวมิค FK ในการเพิ่มผลผลิตข้าว
### กลไกการทำงานของฮิวมิค FK ในการเพิ่มผลผลิตข้าว
**ฮิวมิค FK** เป็นสารอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบหลักจากกรดฮิวมิก (Humic Acid) และกรดฟุลวิก (Fulvic Acid) ซึ่งสกัดมาจากแหล่งอินทรีย์ธรรมชาติ เช่น ลีโอนาร์ไดต์ (Leonardite) โดยมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและปรับปรุงคุณภาพของดินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะใน **การทำนาข้าว** ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มผลผลิตได้จากกลไกดังนี้:
---
### **1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน** ฮิวมิค FK มีความสามารถในการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินโดย: - เพิ่มการจับตัวของเม็ดดิน ทำให้ดินโปร่ง ระบายอากาศได้ดี - เพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำและธาตุอาหารในดิน ทำให้ต้นข้าวสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างต่อเนื่อง - ลดความเป็นกรด-ด่างของดิน ทำให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของข้าว
---
### **2. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร** - กรดฮิวมิกช่วยกระตุ้นรากข้าวให้แข็งแรงและขยายตัวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ดูดซึมธาตุอาหารในดินได้มากขึ้น - ช่วยจับธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำให้พืชได้รับสารอาหารที่เพียงพอสำหรับการสร้างผลผลิต
---
### **3. กระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นข้าว** - กระตุ้นการแบ่งเซลล์และขยายขนาดเซลล์ ทำให้ต้นข้าวโตเร็ว แข็งแรง และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม - ช่วยกระตุ้นการสร้างคลอโรฟิลล์ในใบ ส่งผลให้ข้าวสังเคราะห์แสงได้ดี และสร้างพลังงานเพียงพอสำหรับการสร้างเมล็ด
---
### **4. เพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง** - ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของต้นข้าว ลดความเสี่ยงจากโรคและแมลงศัตรูพืช - ทำให้ต้นข้าวสามารถเติบโตในสภาวะที่มีความเครียด เช่น ภัยแล้งหรือสภาพดินที่มีความเค็มสูง
---
### **5. เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดข้าว** - ช่วยเพิ่มจำนวนรวงข้าวและน้ำหนักเมล็ด ทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น - เพิ่มความสมบูรณ์ของเมล็ด ลดอัตราเมล็ดลีบ - ช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดี เหมาะสำหรับการบริโภคและการแปรรูป
---
### วิธีการใช้ฮิวมิค FK ในการทำนาข้าว 1. **ช่วงเตรียมดิน**: ผสมฮิวมิค FK กับน้ำแล้วฉีดพ่นลงบนพื้นที่นา เพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน 2. **ช่วงปลูกข้าว**: ฉีดพ่นฮิวมิค FK ในอัตราส่วนที่เหมาะสมในช่วงที่ต้นข้าวเริ่มแตกกอ 3. **ช่วงข้าวตั้งท้อง**: ใช้ฮิวมิค FK เพื่อเพิ่มธาตุอาหารและกระตุ้นการสร้างเมล็ด
---
### สรุป **ฮิวมิค FK** ช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวด้วยการปรับปรุงคุณภาพดิน เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร และกระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นข้าว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช ส่งผลให้ข้าวมีผลผลิตสูงขึ้น คุณภาพดีขึ้น และเกษตรกรสามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีได้ในระยะยาว
---
#### คำแนะนำการใช้งาน: ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือศึกษาวิธีใช้งานจากฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการทำนาข้าวของคุณ
#ฮิวมิคFK #ทำนาข้าว #เพิ่มผลผลิตข้าว #เกษตรอินทรีย์ #ปรับปรุงดิน #ข้าวไทยคุณภาพ #ปุ๋ยฮิวมิค |
ฮิวมิค FK มีประสิทธิภาพในการ เพิ่มผลผลิตมะเขือเทศได้อย่างไร?
ฮิวมิค FK มีประสิทธิภาพในการเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศได้ดีเนื่องจากคุณสมบัติสำคัญดังนี้: 1. **กระตุ้นการพัฒนาของระบบราก** ฮิวมิค FK ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินให้เหมาะสม ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากมะเขือเทศ ทำให้รากสามารถดูดซึมธาตุอาหารและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2. **ปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน** ฮิวมิค FK มีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ซึ่งช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และความสามารถของดินในการเก็บรักษาน้ำและธาตุอาหาร 3. **เพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร** ฮิวมิค FK มีคุณสมบัติช่วยจับธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ให้อยู่ในรูปที่พืชดูดซึมได้ง่าย ส่งผลให้มะเขือเทศเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์ 4. **ช่วยลดความเครียดของพืช** ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาวะแห้งแล้งหรือความชื้นในดินต่ำ ทำให้มะเขือเทศสามารถเติบโตได้ดีแม้ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย 5. **ส่งเสริมการออกดอกและการติดผล** การได้รับธาตุอาหารอย่างเพียงพอจากการใช้ฮิวมิค FK ทำให้มะเขือเทศมีการพัฒนาดอกและผลที่สมบูรณ์ เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต หากใช้ควบคู่กับการจัดการปุ๋ยและน้ำอย่างเหมาะสม ฮิวมิค FK จะช่วยเพิ่มผลผลิตมะเขือเทศทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ! |
|
|
|
กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3,
นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)
กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอส3ลิตร กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งมาคากับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอกี้-บีทีกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งFK-T 250ซีซี กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง
สั่ง อินเวท กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง เมทาแลคซิล กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง คาร์รอน กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง แม็กซ่า กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|