พิมพ์คำค้นหา หรือลองคลิกตัวอย่าง >
มันสำปะหลัง
,
ข้าว
,
อ้อย
,
ทุเรียน
,
กัญชา
,
ข้าวโพด
,
ปาล์ม
,
ยางพารา
,
อินทผลัม
,
โรคใบไหม้
,
ราสนิม
,
เพลี้ย
,
ยาแช่ท่อนพันธุ์
+ โพสเรื่องใหม่ |
^ เลือกหน้า |
All contents
3582 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 2 รายการ
การบำรุงดูแลสวนปาล์มน้ำมันเพื่อเพิ่มผลผลิต ด้วยการใช้ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคและปุ๋ยทางใบ FK-1
การเพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพต้องอาศัยการดูแลบำรุงต้นปาล์มอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้สารอาหารและปุ๋ยที่เหมาะสม **ฮิวมิค FK** เสริมฟลูวิค และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn)** เป็นตัวช่วยสำคัญที่ให้ผลผลิตดีขึ้น และเสริมความแข็งแรงของต้นปาล์มให้เติบโตเต็มที่ ทนทานต่อโรคและแมลง
### คุณประโยชน์ของฮิวมิค FK และฟลูวิคต่อปาล์มน้ำมัน ฮิวมิค FK และฟลูวิคเป็นสารที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพของดิน เพิ่มการดูดซึมสารอาหารของราก และส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นปาล์ม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชื้นในดิน ทำให้ปาล์มทนแล้งได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ดินทรายหรือดินแน่น ช่วยให้รากเติบโตได้ดีขึ้นและเข้าถึงสารอาหารได้มากขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันมีคุณภาพและปริมาณที่เพิ่มขึ้น
### วิธีการใช้ฮิวมิค FK - **อัตราการผสม**: ใช้ฮิวมิค FK ในอัตรา **10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร** - **การใช้งาน**: ฉีดพ่นรอบโคนต้นปาล์ม หรือลงในบริเวณดินรอบต้น ช่วยเพิ่มความสามารถในการดูดซึมของราก
### ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn ปุ๋ย FK-1 สูตรนี้มีส่วนผสมหลักจากธาตุอาหารสำคัญที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน ได้แก่ไนโตรเจน (N)_ ฟอสฟอรัส (P)_ และโพแทสเซียม (K) ในอัตราส่วน 20-20-20 ซึ่งเหมาะกับการบำรุงใบและลำต้น อีกทั้งยังมีสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ (Mg + Zn) ที่ช่วยให้ใบเขียวสดและกระบวนการสังเคราะห์แสงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
#### ขั้นตอนการใช้ปุ๋ย FK-1 1. **แกะกล่องปุ๋ย FK-1** จะพบสองถุง: - **ถุงแรก**: ปุ๋ยสูตร 20-20-20 - **ถุงที่สอง**: สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ (Mg + Zn) 2. **อัตราการผสม**: ใช้ถุงละ **25-50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร** 3. ผสมปุ๋ยทั้งสองถุงเข้าด้วยกันในน้ำ คนให้ละลายจนเข้ากันดี 4. ฉีดพ่นทางใบปาล์มน้ำมันทุก 15-30 วัน เพื่อให้ปาล์มได้รับสารอาหารครบถ้วน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและต้น
### ตารางการบำรุงสวนปาล์มน้ำมัน เพื่อให้การบำรุงต้นปาล์มน้ำมันมีประสิทธิภาพ ควรมีการจัดตารางการบำรุงดังนี้: 1. **ช่วงเริ่มต้นฤดูฝน**: ใช้ฮิวมิค FK ฉีดพ่นรอบโคนต้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดี 2. **ทุก 15-30 วัน**: ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 ให้ต้นปาล์มได้รับสารอาหารครบถ้วน ช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต 3. **หลังฤดูฝน**: ใช้ฮิวมิค FK เพื่อฟื้นฟูสภาพดินให้สมบูรณ์พร้อมเข้าสู่ฤดูแล้ง ช่วยให้ต้นปาล์มยังคงความแข็งแรงและทนทาน
### สรุป การบำรุงดูแลสวนปาล์มน้ำมันด้วย **ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค** และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn** ช่วยเสริมการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพ ลดความเสี่ยงจากสภาวะอากาศและโรคต่าง ๆ |
การดูแลยางพาราตลอดปี ต้นยางพาราเติบโตแข็งแรง ปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น
**การบำรุงดูแลต้นยางพาราตลอดปี เพื่อการเติบโตอย่างสมบูรณ์และเพิ่มปริมาณน้ำยางด้วยการใช้ ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค และปุ๋ยทางใบ FK-1**
การดูแลต้นยางพาราเพื่อให้เจริญเติบโตได้ดีนั้น จำเป็นต้องมีการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้สารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งจะช่วยให้ต้นยางพาราโตไว แข็งแรง มีปริมาณน้ำยางเพิ่มขึ้น สามารถใช้ **ฮิวมิค FK** เสริมฟลูวิคและ **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์)** เป็นการบำรุงที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและกระตุ้นการสร้างน้ำยางในต้นยางพาราได้ตลอดทั้งปี
### ประโยชน์ของฮิวมิค FK และฟลูวิค ฮิวมิค FK และฟลูวิค เป็นสารบำรุงดินและพืชที่มีประโยชน์มากมาย ช่วยปรับโครงสร้างของดินให้เหมาะสมในการเจริญเติบโต เพิ่มอัตราการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ราก และกระตุ้นการสร้างน้ำยาง โดยเฉพาะในดินที่มีปัญหา โครงสร้างดินที่แน่นเกินไป การใช้ฮิวมิค FK และฟลูวิคจะช่วยปรับสภาพให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
### วิธีการใช้ฮิวมิค FK - **อัตราการผสม**: ใช้ฮิวมิค FK ในอัตรา **10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร** - **การใช้งาน**: ฉีดพ่นบริเวณดินรอบโคนต้นยาง โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องการบำรุงเป็นพิเศษ เช่น ช่วงเริ่มฤดูฝนและหลังฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่รากจะดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด
### ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ (Mg + Zn) การใช้ปุ๋ยทางใบเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ต้นยางพาราได้รับสารอาหารครบถ้วน FK-1 สูตรนี้ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักอย่างไนโตรเจน (N)_ ฟอสฟอรัส (P)_ และโพแทสเซียม (K) ซึ่งมีอัตราส่วน 20-20-20 ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของใบและลำต้น พร้อมทั้งมีสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg + Zn ที่ส่งเสริมการสังเคราะห์แสงและช่วยให้ใบเขียวสด
#### ขั้นตอนการใช้ปุ๋ย FK-1 1. **แกะกล่องปุ๋ย FK-1** แล้วคุณจะพบสองถุง คือ - **ถุงแรก**: ปุ๋ยสูตร 20-20-20 - **ถุงที่สอง**: สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ (Mg + Zn) 2. **อัตราการผสม**: ใช้ **ถุงละ 25-50 กรัม ผสมในน้ำ 20 ลิตร** 3. ผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันในน้ำ และคนให้ละลายจนเนื้อปุ๋ยเข้ากันดี 4. ฉีดพ่นทางใบยางพาราทุก 15-30 วัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารทางใบ และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตตลอดทั้งปี
### ตารางการบำรุงยางพาราตลอดปี การบำรุงยางพาราควรทำเป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งปี เพื่อให้ต้นยางได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยสามารถจัดการบำรุงได้ดังนี้ 1. **ต้นฤดูฝน**: ฉีดพ่นฮิวมิค FK บริเวณโคนต้นเพื่อกระตุ้นการเติบโตของรากและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหาร 2. **ทุก 15-30 วัน**: ใช้ปุ๋ย FK-1 ฉีดพ่นทางใบ เพื่อบำรุงการเจริญเติบโตและเพิ่มการผลิตน้ำยาง 3. **หลังฤดูฝน**: บำรุงด้วยฮิวมิค FK และฟลูวิค เพื่อฟื้นฟูสภาพดินและเตรียมความพร้อมของต้นยางพาราก่อนเข้าฤดูแล้ง
### สรุป การบำรุงต้นยางพาราตลอดปีโดยใช้ **ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค** และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1 สูตร 20-20-20 พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn** เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตและปริมาณน้ำยาง ทำให้ต้นยางพาราแข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อม |
มูลค่าการตลาดของ ถั่วเขียว
ปัจจุบันประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการผลิตและส่งออกถั่วเขียวและผลิตภัณฑ์ในระดับโลก แม้ถั่วเขียวส่วนใหญ่ที่ผลิตในประเทศจะถูกใช้ภายใน เช่น อุตสาหกรรมขนมหวาน_ วุ้นเส้น_ และเพาะถั่วงอก แต่ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์_ มาเลเซีย_ ฮ่องกง_ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย
อย่างไรก็ตาม การผลิตถั่วเขียวในประเทศยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ต้องนำเข้าในบางส่วน ขณะเดียวกันภาครัฐและเอกชนก็พยายามผลักดันการส่งออกด้วยการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ถั่วเขียวผิวมันและถั่วเขียวผิวดำ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดและการส่งออกถั่วเขียวในไทยสามารถดูได้จาก [ศูนย์วิจัยกสิกรไทย] และ [กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ] |
การดูแลไร่อ้อย ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว และการเพิ่มผลผลิต
สามารถทำได้โดยใช้ **ฮิวมิค FK** เสริม **ฟลูวิค** ร่วมกับปุ๋ยทางใบ เช่น **FK-1** และ **FK-3S** การทำงานร่วมกันนี้จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของอ้อยในทุกช่วงอายุ เพิ่มความแข็งแรงของระบบราก การพัฒนาของใบ และการสะสมสารอาหารที่จำเป็น ทำให้อ้อยเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มปริมาณผลผลิตได้
### ขั้นตอนการดูแลไร่อ้อยในแต่ละระยะด้วยการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ
1. **ระยะเริ่มปลูกและการตั้งต้น** - **ฮิวมิค FK และฟลูวิค**: ฉีดพ่นร่วมกับปุ๋ยทางใบตั้งแต่เริ่มปลูกเพื่อปรับสภาพดินให้เหมาะสมสำหรับการงอกของราก ฟลูวิคจะช่วยให้รากดูดซึมแร่ธาตุได้ดีขึ้น เสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรงตั้งแต่ต้น - **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20)**: ใช้ในช่วงนี้เพื่อเพิ่มไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของต้นและใบ ทำให้ใบมีสีเขียวสดใสและสังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น โดยมีแมกนีเซียม (Mg) และสังกะสี (Zn) ที่ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์
2. **ระยะเติบโตและสะสมสารอาหาร** - ใช้ **ฮิวมิค FK ผสมฟลูวิค** และ **ปุ๋ย FK-1** ต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและการพัฒนาของใบและลำต้น ซึ่งจะทำให้ลำต้นแข็งแรงและเพิ่มอัตราการเติบโต - การใช้สารอาหารที่มีสมดุลช่วยให้ต้นอ้อยดูดซึมแร่ธาตุที่จำเป็นในการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่
3. **ระยะพัฒนาเนื้ออ้อยและสะสมความหวาน** - เปลี่ยนมาใช้ **ปุ๋ยทางใบ FK-3S (สูตร 5-10-40)** ผสมกับ **ฮิวมิค FK และฟลูวิค** สูตรนี้มีโพแทสเซียม (K) สูง ซึ่งช่วยในการสะสมความหวานและการพัฒนาของลำต้นอ้อย ทำให้อ้อยมีน้ำหนักและเพิ่มคุณภาพของผลผลิต โดยเฉพาะการสะสมของน้ำตาลในช่วงก่อนการเก็บเกี่ยว - แมกนีเซียมและสังกะสีใน FK-3S จะช่วยให้การสังเคราะห์แสงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พืชสามารถสร้างพลังงานที่จำเป็นต่อการพัฒนาเนื้ออ้อย
4. **ระยะก่อนการเก็บเกี่ยว** - ควรหยุดการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อให้อ้อยสะสมความหวานในลำต้นให้เต็มที่ ฮิวมิค FK และฟลูวิคที่ยังคงอยู่ในดินจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน เตรียมความพร้อมสำหรับการปลูกในรอบต่อไป
การใช้ **ฮิวมิค FK** เสริม **ฟลูวิค** ร่วมกับ **FK-1** และ **FK-3S** ตลอดช่วงการปลูกนี้ จะช่วยให้ต้นอ้อยเจริญเติบโตแข็งแรง มีคุณภาพผลผลิตดี เพิ่มน้ำหนักและความหวานในลำต้น |
ปุ๋ย สำหรับนาข้าว ดูแลตลอดช่วงอายุ เพิ่มผลผลิตข้าว
การเพิ่มผลผลิตข้าวโดยการใช้ **ฮิวมิค FK** เสริม **ฟลูวิค** ร่วมกับปุ๋ยทางใบ เช่น **FK-1** และ **FK-3R** ตลอดช่วงการปลูกข้าว จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ต้นข้าวและส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อใช้ฮิวมิคและฟลูวิคร่วมกัน จะช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน ทำให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และส่งเสริมการเจริญเติบโตตั้งแต่เริ่มปลูก
### ขั้นตอนการฉีดพ่นปุ๋ยและการใช้งานในแต่ละระยะการปลูกข้าว
1. **ระยะเริ่มต้นหลังปลูก** - ใช้ **ฮิวมิค FK ผสมฟลูวิค** ฉีดพ่นร่วมกับ **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20)** เพื่อกระตุ้นการงอกและการตั้งตัว โดยสารฟลูวิคจะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารในดิน และ FK-1 จะให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของใบและลำต้น แมกนีเซียม (Mg) และสังกะสี (Zn) จะเสริมสร้างคลอโรฟิลล์ เพิ่มการสังเคราะห์แสงและความเขียวของใบ ทำให้ต้นข้าวแข็งแรง
2. **ระยะเติบโตและขยายตัว** - ยังคงฉีดพ่น **ฮิวมิค FK และฟลูวิค** ร่วมกับ **FK-1** เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง FK-1 ที่มีไนโตรเจนในปริมาณสูงจะช่วยให้ใบเขียวสดใสและเติบโตได้ดีขึ้น ส่วนฟอสฟอรัสจะช่วยกระตุ้นระบบราก ทำให้ต้นข้าวสามารถรับน้ำและธาตุอาหารจากดินได้ดีขึ้น
3. **ระยะสร้างรวงและเติมเมล็ดข้าว** - เปลี่ยนไปใช้ **ปุ๋ยทางใบ FK-3R (สูตร 5-10-40)** ผสมกับ **ฮิวมิค FK และฟลูวิค** โดย FK-3R ที่มีโพแทสเซียมในปริมาณสูงจะช่วยในการพัฒนาและเพิ่มขนาดของเมล็ด ทำให้เมล็ดมีน้ำหนักและความสมบูรณ์ พร้อมสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ที่ช่วยให้การสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ต้นข้าวสะสมสารอาหารในเมล็ดได้ดีขึ้น
4. **ระยะก่อนการเก็บเกี่ยว** - ลดการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ เพื่อให้ต้นข้าวสะสมพลังงานในเมล็ดอย่างเต็มที่ พร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยว ฮิวมิคและฟลูวิคที่ยังอยู่ในดินจะช่วยรักษาสภาพดินให้คงความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ดินพร้อมสำหรับการปลูกครั้งต่อไป
การใช้ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 และ FK-3R ตามขั้นตอนนี้จะช่วยให้ข้าวมีการเจริญเติบโตที่ดีและเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
การปลูกมันสำปะหลัง ดูแลให้ได้ผลผลิตดี
การใช้ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคควบคู่กับปุ๋ยทางใบ FK-1 และ FK-3C สามารถช่วยเพิ่มผลผลิตของมันสำปะหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากฮิวมิคและฟลูวิคช่วยเสริมคุณภาพของดิน เพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร และส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 และ FK-3C จะช่วยให้ต้นมันสำปะหลังได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นตลอดช่วงอายุ ดังนี้:
1. ช่วงต้นการเจริญเติบโต (1-3 เดือน): ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 (20-20-20 Mg Zn) เพื่อให้ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่สมดุลกัน ช่วยในการพัฒนารากและใบ รวมถึงการเติบโตของพืชอย่างเต็มที่ ช่วยให้ต้นแข็งแรงและพร้อมสำหรับการผลิตหัวมันที่ดี
2. ช่วงกลางการเจริญเติบโต (3-6 เดือน): ยังคงใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นหลัก แต่ควรเริ่มเพิ่มการใช้ฮิวมิค FK เพื่อเสริมให้ดินมีความสมบูรณ์มากขึ้น ทำให้รากสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาหัวมันสำปะหลัง
3. ช่วงท้ายของการเจริญเติบโต (6-9 เดือน): เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยทางใบ FK-3C (5-10-40 Mg Zn) ซึ่งมีโพแทสเซียมสูง ช่วยเพิ่มน้ำหนักหัวมันและพัฒนาคุณภาพของผลผลิตได้ดี
การใช้ฮิวมิค FK ร่วมกับปุ๋ยทางใบตลอดช่วงอายุจะช่วยปรับสภาพดิน ลดความเป็นกรด และช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของมันสำปะหลัง ทำให้ได้ผลผลิตที่ดี
|
ดูแลมังคุดให้ได้ผลผลิตสูง ตลอดช่วงอายุ
การดูแลมังคุดเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงโดยใช้ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค ร่วมกับปุ๋ยสตาร์เฟอร์สามารถทำได้ตามช่วงอายุของพืชโดยใช้ปุ๋ยแต่ละสูตรให้เหมาะสม ดังนี้
1. ช่วงการเจริญเติบโตเริ่มต้น (ต้นเล็ก - ก่อนออกดอก) ใช้ปุ๋ย สูตร 30-20-5 เพื่อเสริมการเจริญเติบโตทางใบและลำต้น เพราะมีไนโตรเจนสูง ช่วยให้พืชมีใบแข็งแรง พร้อมสำหรับการสร้างตาดอก นอกจากนี้ยังเพิ่มฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค เพื่อกระตุ้นรากและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร
2. ช่วงการเจริญเติบโตของดอก (ช่วงติดดอก) ใช้ปุ๋ย สูตร 10-40-10 เพราะมีฟอสฟอรัสสูง ช่วยในการสร้างดอกและเสริมให้ดอกสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เสริมฮิวมิค FK และฟลูวิค เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงและช่วยให้ต้นสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมรับช่วงติดผล
3. ช่วงการเจริญเติบโตของผล (ช่วงผลแก่) ใช้ปุ๋ย สูตร 15-5-30 เน้นโพแทสเซียมสูง เพื่อเพิ่มความหวานและคุณภาพของผลมังคุด ทำให้ผลโตและมีรสชาติดีขึ้น การเสริมฮิวมิค FK และฟลูวิคในช่วงนี้ยังช่วยให้ผลไม้มีสีสวยและลดปัญหาการหลุดร่วง
การใช้ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคร่วมกับปุ๋ยในแต่ละช่วงอายุของพืชจะช่วยให้มังคุดได้รับธาตุอาหารที่เหมาะสม และส่งผลให้ได้ผลผลิตสูงตามต้องการ
|
ไทยส่งออกมังคุด ปีละ หมื่นเจ็ดพันล้าน!
ในปี 2566 ไทยส่งออกมังคุดไปยังตลาดโลกได้มากถึง 248_612 ตัน คิดเป็นมูลค่า 502.24 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 17_192 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 25.6% จากปีก่อน โดยประเทศผู้นำเข้ามังคุดไทยที่สำคัญคือ จีน ซึ่งคิดเป็นกว่า 93.73% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด รองลงมาเป็นเวียดนาม (3.33%) และมีตลาดอื่น ๆ เช่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และฮ่องกง แต่ในปริมาณที่น้อยกว่ามาก .
สำหรับช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม - สิงหาคม) ไทยสามารถส่งออกมังคุดได้อีก 247_274 ตัน คิดเป็นมูลค่า 427.28 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15_425 ล้านบาท โดยจีนยังคงเป็นตลาดหลักที่มีส่วนแบ่ง 90.83% ตามด้วยเวียดนาม 5.09% และเกาหลีใต้ 1.68% .
|
ปลูกองุ่น ใช้ ฮิวมิคFK แต่ละช่วงอายุ
การผสมฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคพร้อมกับปุ๋ยทางใบในแต่ละช่วงอายุขององุ่น จะช่วยเสริมธาตุอาหารที่จำเป็นได้อย่างเหมาะสม และช่วยเพิ่มผลผลิตให้ดีขึ้น นี่คือตัวอย่างสูตรปุ๋ยที่ใช้ได้ในแต่ละช่วง:
1. ระยะเริ่มต้นปลูก (การเจริญเติบโตของต้น)
ปุ๋ยทางใบ: สูตร 20-20-20 หรือ 30-10-10 เพื่อเน้นการเจริญเติบโตของลำต้นและใบ
ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค: ผสมฮิวมิค FK เสริมฟลูวิคในอัตราตามคำแนะนำ แล้วฉีดพ่นร่วมกับปุ๋ยทางใบทุก 15-20 วัน
วิธีใช้: ฉีดพ่นหรือรดโคนต้น เพื่อส่งเสริมการสร้างระบบรากที่แข็งแรง และเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารจากดิน
2. ระยะสะสมอาหาร (ก่อนการออกดอก)
ปุ๋ยทางใบ: สูตร 15-30-15 เพื่อเสริมฟอสฟอรัส ช่วยการสะสมพลังงานและเตรียมต้นให้ออกดอก
ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค: ผสมกับปุ๋ยทางใบทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็น
วิธีใช้: ฉีดพ่นที่ใบและรดโคนต้น เพื่อช่วยสะสมอาหารสำหรับการออกดอกอย่างเต็มที่
3. ระยะออกดอกและติดผล
ปุ๋ยทางใบ: สูตร 10-52-10 หรือ 12-24-12 เพื่อเสริมฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมในการกระตุ้นการออกดอก และเพิ่มการติดผล
ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค: ผสมกับปุ๋ยทางใบ และฉีดพ่นที่ใบทุก 2 สัปดาห์ ช่วยบำรุงให้ดอกและผลแข็งแรง
วิธีใช้: ฉีดพ่นที่ใบเพื่อป้องกันการหลุดร่วงของดอกและเพิ่มการติดผล
4. ระยะขยายขนาดผล
ปุ๋ยทางใบ: สูตร 13-13-21 หรือ 0-0-50 เพื่อเสริมโพแทสเซียม ให้ผลมีขนาดใหญ่ขึ้น รสชาติหวาน และสีสวย
ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค: ผสมกับปุ๋ยทางใบทุก 2 สัปดาห์ และฉีดพ่นที่ใบและผล
วิธีใช้: ฉีดพ่นที่ใบและผล เพื่อช่วยเพิ่มขนาดผล ความหวาน และสีขององุ่นให้ได้คุณภาพดี
5. ระยะก่อนเก็บเกี่ยว
ปุ๋ยทางใบ: สูตร 0-0-50 หรือ 0-52-34 เน้นโพแทสเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยรักษาคุณภาพของผลและเพิ่มความหวาน
ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค: ผสมกับปุ๋ยทางใบในอัตราที่เหมาะสม ฉีดพ่นทุก 1-2 สัปดาห์ จนถึงระยะก่อนเก็บเกี่ยว
วิธีใช้: ฉีดพ่นที่ผลเพื่อรักษาความแข็งแรงและความหวานของผล
|
ไทยเรา เป็นผู้ส่งออก องุ่น อับดับที่เท่าไรของโลก?
ปัจจุบัน ไทยยังไม่ได้เป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกองุ่นรายใหญ่ในระดับโลก โดยในปีล่าสุด ไทยอยู่ในลำดับที่ประมาณ 47 สำหรับการส่งออกองุ่นสด มูลค่าการส่งออกองุ่นจากไทยในปีที่แล้วอยู่ราว ๆ 1.985 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่ายังมีมูลค่าต่ำเมื่อเทียบกับประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ เช่น เปรู เนเธอร์แลนด์ และอิตาลี ที่มีมูลค่าการส่งออกสูงมากกว่าหลายเท่า |
|
|
|
กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3,
นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)
กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอส3ลิตร กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งมาคากับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอกี้-บีทีกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งFK-T 250ซีซี กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง
สั่ง อินเวท กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง เมทาแลคซิล กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง คาร์รอน กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่งกับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|
สั่ง แม็กซ่า กับ |
ลาซาด้า |
ช้อปปี้
|