เชื้อราไตรโคเดอร์มา (Trichoderma) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่นิยมใช้เป็นสารชีวภัณฑ์ในการป้องกันและกำจัดโรคพืช เช่น โรคราแป้ง โรคราแป้งเป็นโรคเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อพืชหลากหลายชนิดรวมถึงมะม่วง มีลักษณะเป็นผงแป้งสีขาวหรือสีเทาเคลือบผิวใบ ลำต้น และผลของพืชที่ติดเชื้อ

เชื้อราไตรโคเดอร์มามีประสิทธิภาพต่อโรคราแป้งเพราะสร้างเอนไซม์ที่สามารถทำลายผนังเซลล์ของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคได้ พวกเขายังผลิตสารประกอบที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราอื่น ๆ ทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยสำหรับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

Trichorex เป็นเชื้อราไตรโคเดอร์มายี่ห้อหนึ่งที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้กับมะม่วงโดยเฉพาะ เป็นสูตรน้ำที่มีความเข้มข้นสูงซึ่งสามารถนำไปใช้กับใบและผลของต้นมะม่วงได้ง่าย ขอแนะนำให้ใช้ Trichorex เมื่อสัญญาณแรกของโรคราแป้งหรือเป็นมาตรการป้องกัน เนื่องจากจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ในช่วงต้นของวงจรโรค

หากต้องการใช้ Trichorex เพียงผสมผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่แนะนำกับน้ำตามคำแนะนำบนฉลากแล้วนำไปใช้กับพืชที่ได้รับผลกระทบโดยใช้กระป๋องรดน้ำหรือขวดสเปรย์ สิ่งสำคัญคือต้องคลุมให้ทั่วทุกส่วนของพืช รวมถึงด้านล่างของใบ เนื่องจากเป็นจุดที่มักเกิดโรคราแป้ง สามารถใช้ Trichorex ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีดพ่นทุกๆ 7-14 วัน เพื่อป้องกันโรคราแป้งได้ดีที่สุด

สรุปได้ว่า เชื้อราไตรโคเดอร์มาโดยเฉพาะยี่ห้อ Trichorex เป็นวิธีการป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในมะม่วงที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย โหมดการทำงานตามธรรมชาติและการใช้งานที่ง่ายทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับผู้ปลูกมะม่วงที่ต้องการปกป้องพืชผลของตนจากโรคทั่วไปนี้

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ด้วงหนวดยาว
ตัวหนอนที่อาศัยอยู่ในดินเป็นเวลา 1-2 ปีหาที่อยู่อาศัยและกินน้ำมันเบนซิน ไร่อ้อยถูกทำลายตั้งแต่ระยะกล้าทำให้อ้อยไม่งอก เมื่ออ้อยอายุได้ 1-3 เดือน หนอนจะกัดกินท่อนต่อไป เหง้าที่อ้อยเจริญเติบโตอาจพบตัวอ่อนกัดกินตัวอย่างอ้อยซึ่งอาจสูงจากรากอ้อยเกิน 40 ซม. ทำให้อ้อยตายและทำให้ลำหักได้

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่าบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียม (ยี่ห้อบิวทาเร็กซ์) เป็นวิธีการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชที่มีหนวดยาวในต้นอ้อย Beauveria เป็นสกุลของเชื้อราที่ทราบกันดีว่าติดเชื้อและฆ่าแมลงบางชนิด และสามารถใช้เป็นสารควบคุมทางชีวภาพในการเกษตร เมธาริเซียมเป็นพืชชนิดหนึ่งในสกุลเมธาร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นศัตรูพืชของอ้อย การใช้เชื้อราทั้งสองชนิดนี้ผสมกันอาจช่วยควบคุมแมลงศัตรูพืชในไร่อ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้เชื้อราทั้งสองชนิดเพียงอย่างเดียว

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

มันสำปะหลังต้องการธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการสร้างหัว สร้างแป้ง ใช้ปุ๋ย FK-1 ให้ถูกสูตร ในอัตราส่วนผสมที่ถูกต้อง ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ต้นมันสำปะหลังเติบโตสมบูรณ์ โดยแนะน้ำให้ใช้ปุ๋ย FK-1 และ ปุ๋ย FK-3C ฉีดพ่นดังนี้

ระยะแรกปลูกจนถึงมันสำปะหลังอายุไม่เกิน 3 เดือน หากมีการใช้ปุ๋ยเคมีแบบเม็ดเพื่อเร่งการเจริญเติบโตแล้วในระยะนี้ ฉีดพ่น ปุ๋ยทางใบ FK-1 หนึ่งครั้ง ในช่วงมันสำปะหลังอายุ 2-3 เดือน กรณีไม่ได้ใช้ปุ๋ยเม็ดเลย ให้ฉีดพ่น FK-1 เดือนละหนึ่งครั้งต่อเดือน ในเดือนที่ 1 เดือนที่ 2 และเดือนที่ 3

ระยะมันสำปะหลังลงหัวสะสมอาหาร มีอายุ 4 เดือนขึ้นไป หากมีการใช้ปุ๋ยเม็ดสูตรเร่งหัว (สูตรที่มีโพแตสเซียมสูง เช่น 13-13-21 หรือ 0-0-60) ให้ฉีดพ่น ปุ๋ยทางใบ FK-3C ที่เป็นสูตรสำหรับเร่งหัว เพิ่มเปอร์เซ็นต์แป้งในมันสำปะหลัง 1 ครั้ง ในช่วงเดือนที่ 4-6 ช่วงเดือนใดก็ได้ สำหรับกรณีที่ไม่ได้ใช้ปุ๋ยเม็ดเพื่อบำรุงหัวมันสำปะหลังเลย ให้ฉีดพ่น FK-3C ปุ๋ยเร่งหัวมันสำปะหลัง เพิ่มเปอร์เซ็นแป้ง ในเดือนที่ 4 หนึ่งครั้ง เดือนที่ 5 หนึ่งครั้ง และเดือนที่ 6 อีกหนึ่งครั้ง เพื่อช่วนส่งเสริมกระบวนการสะสมแป้งและน้ำตาล มันสำปะหลังจะมีหัวใหญ่ น้ำหนักดี มีเปอร์เซ็นต์แป้งสูง

เพลี้ยหอยเป็นแมลงปากดูดขนาดเล็กที่มีรูปร่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแต่ละสายพันธุ์ ต้นพืชที่เป็นเป้าหมายและช่วงเวลาในการแพร่ระบาดก็ต่างกันด้วย เหตุที่เรียกว่าเพลี้ยหอยเพราะมีจุดร่วมหนึ่งเหมือนกัน นั่นคือมีเกราะหุ้มลำตัวคล้ายเปลือกหอย แต่ก็ยังแยกเป็นแบบเกราะแข็งกับเกราะอ่อนอีก ส่วนมากเพลี้ยหอยจะไม่ได้มีเกราะมาตั้งแต่แรกเริ่ม ต้องผ่านการลอกคราบและเริ่มดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นพืชเสียก่อน

1. เพลี้ยหอยเกราะอ่อน
เป็นเพลี้ยหอยที่มีรูปร่างคล้ายไข่ไก่สีชมพูอมส้ม ขนาดประมาณ 2.5-3.0 มิลลิเมตร เพศเมียจะมีแผ่นไขมันสีขาวปกคลุมทั่วตัว แต่เพศผู้จะลำตัวสีเข้มกว่าเล็กน้อยและมีปีกบางใส ในฤดูขยายพันธุ์เพลี้ยหอยเกราะอ่อนสามารถวางไข่ได้ครั้งละ 600-2000 ฟอง ที่ต้องวางไข่มากขนาดนี้เพราะตัวอ่อนใช้เวลานานกว่าจะโตเต็มวัย ส่วนมากพบการระบาดในลำไย ลิ้นจี่และเงาะ

2. เพลี้ยหอยข้าวตอก
เพลี้ยหอยข้าวตอกจะมีขนาดลำตัวประมาณ 5 มิลลิเมตร ผิวรอบนอกมีชั้นไขมันปกคลุมทำให้ดูเหมือนเมล็ดข้าวตอก กรมวิชาการเกษตรให้ข้อมุลว่าเพลี้ยหอยข้าวตอกตัวเมียจะวางไข่หลายพันฟองเพื่อเพิ่มจำนวนตัวอ่อนที่เป็นสีสนิม จากนั้นตัวอ่อนจะหาตำแหน่งดูดกินน้ำเลี้ยงพร้อมสร้างชั้นไขมันคลุมตัวเอง ไม่เคลื่อนที่ไปไหนอีก พบว่าระบาดมากในลำไยและลิ้นจี่

3. เพลี้ยหอยเกล็ด
แม้ว่าเพลี้ยหอยเกล็ดจะเข้าทำลายพืชหลายชนิด แต่จากสถิติพบว่าระบาดในมันสำปะหลังและทุเรียนมากเป็นพิเศษ รูปร่างของเพลี้ยหอยเกล็ดจะคล้ายกับเปลือกหอยขนาดเล็กที่เป็นเกล็ดสีขาวนูน ขึ้นปกคลุมทั่วต้นพืช เพลี้ยจะเคลื่อนที่ได้แค่ช่วงตัวอ่อนระยะแรกเท่านั้น หลังผ่านการลอกคราบก็จะทิ้งคราบเก่าสะสมไปเรื่อยๆ พร้อมกับแผ่ขยายเป็นวงกว้างปิดพื้นผิวของต้นพืชจนหมด

4. เพลี้ยหอยสีเขียว
เพลี้ยหอยสีเขียวที่โตเต็มวัยแล้วจะมีสีเขียวอ่อนอมเหลือง ลำตัวเป็นรูปไข่ ท้องแบนหลังโป่ง และมีเกราะแข็งหุ้มอยู่ชั้นนอกสุด หลังจากดูดกินน้ำเลี้ยงได้แล้วก็จะขับถ่ายของเหลวมาปกคลุมต้นพืชจนไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ จากข้อมูลในเอกสารวิชาการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่าเพลี้ยชนิดนี้เป็นศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายให้ต้นกาแฟสูงมาก แต่ก็มีศัตรูตามธรรมชาติอยู่ด้วย เช่น แตนเบียน ด้วงเต่าสีส้ม เป็นต้น

5. เพลี้ยหอยสีแดง
นี่คือเพลี้ยหอยเกราะอ่อนอีกชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย ลำตัวเป็นทรงกลมเหมือนโล่สีน้ำตาลแดง เมื่อโตเต็มวัยแล้วจะมีเพียงแค่ตัวผู้เท่านั้นที่มีปีก เป็นกลุ่มเพลี้ยที่เน้นเข้าทำลายพืชตระกูลส้มโดยเฉพาะ สายพันธุ์พืชที่พบปัญหาได้บ่อยคือส้มโอ ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง และมะนาว

ลักษณะการทำลาย
รูปแบบการสร้างความเสียหายของเพลี้ยหอยทุกชนิดจะคล้ายคลึงกับเพลี้ยอ่อน คือเจาะเซลล์พืชเพื่อดูดกินน้ำเลี้ยงจนต้นพืชนั้นเสื่อมโทรม ในระยะแรกอาจจะเป็นการเสียรูปทรงของใบอ่อน สีใบเหลืองซีดและเหี่ยวย่น บางส่วนอาจหลุดจากขั้วไป นอกจากนี้เพลี้ยหอยบางชนิดยังสามารถปล่อยของเหลวที่ทำให้เกิดเชื้อราเกาะติดที่ผิวนอกของต้นพืชได้ด้วย

Beauveria mix Methharicium หรือที่รู้จักในชื่อยี่ห้อ Butarex เป็นสารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพที่ใช้ในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยหอย เป็นส่วนผสมของเชื้อรา Beauveria bassiana และแบคทีเรีย Metarhizium anisopliae จุลินทรีย์ทั้งสองนี้เป็นที่รู้จักในการติดเชื้อและฆ่าแมลงศัตรูพืชได้หลากหลายชนิด

เพลี้ยเป็นกลุ่มแมลงหลายชนิดที่สามารถกินพืชได้หลากหลายชนิด มักเรียกกันว่า เหาพืช เพราะพวกมันดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้เกิดความเสียหายและลดการเติบโต เพลี้ยอ่อนมีลักษณะร่างกายที่อ่อนนุ่มและมี โล่ หรือ เปลือก ที่ปกคลุมร่างกาย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเพลี้ยทุกตัวจะมีเกราะกำบัง และบางชนิดต้องผ่านกระบวนการลอกคราบก่อนที่จะสร้างเพลี้ยขึ้นมา

Beauveria mix Methharicium มีประสิทธิภาพต่อเพลี้ยหลายชนิด แต่พืชเป้าหมายและระยะเวลาของการระบาดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเพลี้ยชนิดใดชนิดหนึ่ง สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการศัตรูพืชหรือผู้เชี่ยวชาญด้านพืชเพื่อพิจารณาการใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมที่เหมาะสมสำหรับการรบกวนเฉพาะ

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link..

แพทย์แผนไทย แนะ 3 สมุนไพร เพิ่มความจำ บำรุงสมอง ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ พร้อมวิธีลดความเสี่ยงแบบง่ายๆ

โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นโรคที่พบมากในผู้สูงอายุ จากการศึกษาวิจัยพบว่า เกิดจากการสะสมของ amyloid plaques ในเซลล์สมอง ส่งผลให้สารสื่อประสาทอะเซติลโคลีนลดลง ซึ่งมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน ปัจจัยด้านพันธุกรรม และมักเป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน และการเข้าสังคม
โดยอาการเริ่มต้น คือ การถามคำถามเดิมซ้ำๆ เริ่มคิดอะไรที่ซับซ้อนไม่ได้ มีความลังเล ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องง่ายๆได้ มีความวิตกกังวลมากขึ้น ตื่นตกใจง่าย และอาจมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงได้

น.พ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้แนะนำสมุนไพร 3 ชนิด ที่สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ได้แก่

-บัวบก
สมุนไพรที่ไม่ได้มีดีแค่แก้ช้ำใน ยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย ที่สำคัญ สารสกัดจากบัวบก สามารถเพิ่มความจำและปรับสภาพอารมณ์ในผู้สูงอายุที่มีภาวะความจำเสื่อมเล็กน้อย รวมถึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กพิการทางสมองได้

-พรมมิ หรือ ผักมิ
มักนำมารับประทานเป็นผักลวกและจิ้มน้ำพริก ในตำราอายุรเวทของอินเดีย กล่าวไว้ว่า พรมมิ มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความจำ บำรุงสมอง ส่วนข้อมูลทางเภสัชวิทยา พบว่า พรมมิ มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของความจำ การตัดสินใจ ช่วยปกป้องเซลล์สมอง มีฤทธิ์ต้านความจำเสื่อม ช่วยใน เรื่องการนอนหลับ และลดความวิตกกังวลได้

-กลีบบัวแดง
เป็นสมุนไพรที่มีรสหอมเย็น ที่มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ จากการศึกษาวิจัย พบว่า กลีบบัวแดงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกลุ่มกันของโปรตีนเบต้าอะมัยลอยด์ ซึ่งมีผลช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อม ทั้งชนิดความจำระยะสั้นและความจำระยะยาวได้ กลีบบัวแดง สามารถนำมาชงเป็นชาดื่มได้ โดยการนำกลีบบัวแดง ผสมกับเกสรทั้ง 5 ได้แก่ มะลิ_ พิกุล_ บุนนาค_ สารภี และเกสรบัวหลวง หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ในอัตราส่วน 1:1 ชงในน้ำร้อน ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน

วิธีลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
-ควรงดสูบบุหรี่
-งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
-ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
-ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..

Beauveria mix Methharicium เป็นสารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพที่รวมเชื้อรา 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Metarhizium anisopliae เพื่อป้องกันและกำจัดเพลี้ยในผักกาดขาว สารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพนี้วางตลาดภายใต้ชื่อแบรนด์ Butarex และใช้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติแทนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม

เพลี้ยเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปสำหรับชาวไร่ผักกาดขาว เนื่องจากพวกมันกินน้ำเลี้ยงของพืชและทำให้ใบ ลำต้น และตาเสียหายอย่างมาก สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ลดผลผลิตและคุณภาพของพืชผลเท่านั้น แต่ยังทำให้พืชอ่อนแอต่อโรคและแมลงศัตรูพืชอื่นๆ อีกด้วย สารเคมีกำจัดศัตรูพืชสามารถมีประสิทธิภาพในการควบคุมเพลี้ย แต่ก็มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ด้วย

Beauveria ผสม Methharicium ทำงานโดยการติดเชื้อเพลี้ยด้วยสปอร์ของเชื้อราและสปอร์ของเชื้อราทั้งสองชนิด สปอร์ของเชื้อราจะเข้าสู่ตัวเพลี้ยผ่านทางช่องเปิดตามธรรมชาติ เช่น ปาก เกลียว หรือบาดแผล และเติบโตภายในตัวแมลงทำให้พวกมันตาย จากนั้นเพลี้ยที่ติดเชื้อจะปล่อยเศษเชื้อราออกสู่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น แพร่เชื้อไปยังเพลี้ยตัวอื่น ส่งผลให้จำนวนเพลี้ยลดลง ลดความเสียหายต่อพืชผักกาดขาว

การใช้บิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมมีข้อดีหลายประการเหนือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ประการแรก เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ประการที่สอง มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานและมีความเสถียรภายใต้อุณหภูมิและความชื้นที่หลากหลาย ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บและใช้งาน สุดท้ายนี้ มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมเพลี้ย และแสดงให้เห็นว่าสามารถลดจำนวนเพลี้ยได้มากถึง 90%

สรุปได้ว่าบิวเวอเรียผสมเมธาริเซียมเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยแทนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในผักกาดขาวปลี สารกำจัดศัตรูพืชทางชีวภาพนี้สามารถช่วยเกษตรกรปกป้องพืชผลของพวกเขาและปรับปรุงคุณภาพผลผลิตของพวกเขา ในขณะที่ลดผลกระทบด้านลบของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิมที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

เชื้อบิวเวอร์เรีย + เมธาไรเซียม
เป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการคัดสรรจุลินทรีย์ 2 ชนิดมี คุณสมบัติโดดเด่นมาผสมผสานใช้ในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วงหนวดยาว ด้วงมะพร้าว ปลวก เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไรแดง แมลงหวี่ขาว และหนอน เป็นต้น

บิวทาเร็กซ์ : ใช้อย่างไร?
1. ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณ กิ่ง ก้าน ใบ หรือบริเวณที่แมลงระบาด
2. ฉีดพ่นได้ทุก 7-10 วัน

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา และ ยากำจัดเชื้อรา หากต้องการใช้ร่วมควรเว้น ระยะฉีดพ่น 7-10 วัน *

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย บิวทาเร็กซ์..
ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช
เชื้อดีที่สุดสำหรับชาวเกษตรกร
ปริมาณเชื้อที่ดีและได้ผล
ให้อาหารเฉพาะของเชื้อแต่ละตัว

เชื้อจะไปเติบโตในแมลง ปกคลุมตัวแมลง ทำให้แมลงแห้งตายในที่สุด
ปลอดภัยไม่มีสารเคมี
แมลงดื้อยา ใช้ได้ต่อเนื่อง
เป็นยาเย็น ใช้ได้ทุกพืช และทุกช่วงอายุของพืช

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้าhttp://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

บาซิลลัส ตรา เบสเร็กซ์ เป็นน้ำยาที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและกำจัดหนอนกอดอกในต้นลำไย ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Bacillus thuringiensis นี้ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อกำหนดเป้าหมายไปที่ตัวอ่อนของหนอนเจาะดอก ซึ่งเป็นศัตรูพืชที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อพืชผลลำไยหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ตรวจสอบ

หนอนเจาะดอกเป็นศัตรูพืชทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อต้นลำไยในช่วงฤดูออกดอก ตัวอ่อนของศัตรูพืชชนิดนี้กินดอกไม้และผลอ่อนของต้นไม้ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากและทำให้ผลผลิตของพืชลดลง สารกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิมอาจมีประสิทธิภาพในการควบคุมหนอนเจาะดอก แต่ก็สามารถส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสายพันธุ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่เป้าหมายได้เช่นกัน

ในทางกลับกัน Baserex ของ Bacillus เป็นวิธีแก้ปัญหาทางธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเป้าไปที่ตัวอ่อนของหนอนเจาะดอกโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์นี้มีสายพันธุ์ของ Bacillus thuringiensis ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งผลิตสารพิษที่เป็นอันตรายต่อตัวอ่อนของผีเสื้อกลางคืนและผีเสื้อหลายชนิด รวมถึงหนอนเจาะดอกด้วย

เมื่อนำไปใช้กับต้นลำไย บาซิลลัส ยี่ห้อ Baserex ทำงานโดยทำให้ลำไส้ของหนอนเจาะดอกติดเชื้อแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis สิ่งนี้นำไปสู่การทำลายลำไส้ของตัวอ่อนและทำให้ศัตรูพืชตายในที่สุด บาซิลลัสยี่ห้อ Baserex แตกต่างจากยาฆ่าแมลงแบบดั้งเดิม มีความเฉพาะเจาะจงสูงในการดำเนินการ โดยกำหนดเป้าหมายเฉพาะหนอนเจาะดอกและแมลงศัตรูพืชอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ไม่ทำลายแมลงที่มีประโยชน์อื่นๆ

ตราบาซิลลัส Baserex ยังปลอดภัยต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ไม่มีผลตกค้างและสลายตัวอย่างรวดเร็วในสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นทางออกที่ดีสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์และการทำเกษตรแบบยั่งยืนอื่นๆ

โดยรวมแล้ว Bacillus ยี่ห้อ Baserex เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับชาวสวนลำไยที่กำลังมองหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการป้องกันและกำจัดหนอนเจาะดอกในพืชผลของตน รูปแบบการทำงานที่เป็นธรรมชาติและเฉพาะเจาะจงทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและยั่งยืนแทนสารกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ**

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

อะมิโนโปรตีนมีความจำเป็นต่อพืชเนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนพืช ซึ่งมีหน้าที่ในกระบวนการทางสรีรวิทยาต่างๆ เช่น การเจริญเติบโต พัฒนาการ และการตอบสนองต่อความเครียด ผักกาดหอมเป็นผักใบเขียว เป็นพืชประเภทหนึ่งที่ต้องการโปรตีนอะมิโนจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและการพัฒนา

เมื่ออะมิโนโปรตีนถูกส่งไปยังต้นผักกาดหอม พวกมันมีส่วนช่วยในการผลิตฮอร์โมนพืช เช่น ออกซิน ไซโตไคนิน และจิบเบอเรลลิน ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างและขยายเซลล์ในผักกาดหอม ฮอร์โมนเหล่านี้ช่วยส่งเสริมการแบ่งเซลล์ การยืดตัว และการสร้างความแตกต่าง ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาของใบ ลำต้น และราก

การใช้อะมิโนโปรตีนในการเลี้ยงผักกาดทำได้โดยผสมน้ำแล้วฉีดพ่นให้พืช เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ผสมอะมิโนโปรตีน 10-20 มล. กับน้ำ 20 ลิตรสำหรับพืชผักกาดหอม สำหรับนาข้าว พืชไร่ และไม้ผล แนะนำให้ใช้ความเข้มข้นสูงกว่านี้ 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร

นอกจากการฉีดพ่นแล้วยังสามารถผสมอะมิโนโปรตีนกับระบบน้ำหยดได้อีกด้วย สำหรับสิ่งนี้ควรผสมอะมิโนโปรตีน 500 มล. กับน้ำ 1 ไร่ และควรผสมมากถึงสองครั้งต่อเดือนในช่วงฤดูปลูก สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าควรหลีกเลี่ยงการใช้อะมิโนโปรตีนในช่วงออกดอก

การใช้อะมิโนโปรตีนในการเลี้ยงผักกาดสามารถให้ประโยชน์หลายประการแก่เกษตรกร ประการแรก มันสามารถปรับปรุงผลผลิตและคุณภาพของผักกาดหอมโดยส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี ประการที่สอง สามารถลดการใช้ปุ๋ยสังเคราะห์และยาฆ่าแมลง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ ประการสุดท้าย สามารถเพิ่มความต้านทานของต้นผักกาดหอมต่อความเครียดจากสิ่งแวดล้อม เช่น ความแห้งแล้ง ความร้อน และความเย็น

โดยสรุปแล้ว อะมิโนโปรตีนมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของผักกาดหอม โดยมีส่วนช่วยในการผลิตฮอร์โมนพืช การใช้อะมิโนโปรตีนในการเลี้ยงผักกาดสามารถทำได้โดยการฉีดพ่นบนพืชหรือผสมกับระบบน้ำหยด ด้วยการใช้อะมิโนโปรตีน เกษตรกรสามารถปรับปรุงผลผลิตและคุณภาพของพืชผลของพวกเขา ในขณะที่ลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

ท้าวเวสสุวรรณ สลักบนแผ่นเหล็กน้ำพี้

พลังของเหล็กน้ำพี้:

ตามความเชื่อ แร่เหล็กน้ำพี้จัดอยู่ในตระกูลเหล็กไหล มีพลังในตัว มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ทุกๆ อณู สามารถป้องกันคุณไสยและสิ่งเลวร้ายที่มองไม่เห็นด้วยตาดำได้ แผ่นเหล็กน้ำพี้นี้ ได้จากการตีขึ้นรูปในลักษณะเดียวกันกับการตีใบดาบเหล็กน้ำพี้ จึงเป็นเนื้อเหล็กน้ำพี้ ชนิดเดียวกับใบดาบแร่เหล็กน้ำพี้ มิได้เป็นการนำเอาผงมวลสารเหล็กน้ำพี้มาขึ้นรูป

พุทธคุณของท้าวเวสสุวรรณ:

ด้านโชคลาภ: เชื่อกันว่า ผู้ที่บูชา ค้าขายดี ทรัพย์สมบัติมั่นคง ป้องกันมนต์ดำ ป้องกันสิ่งชั่วร้าย

ด้านอำนาจ: ท้าวเวสสุวรรณเป็นหนึ่งในจาตุมหาราช ผู้คุ้มครองและดูแลโลกมนุษย์ เชื่อกันว่าการ
บูชาจะช่วยเสริมอำนาจ บารมี

ด้านป้องกัน: ท้าวเวสสุวรรณเป็นผู้ปกครองเหล่ายักษ์ เชื่อกันว่าการบูชาจะช่วยป้องกันภัยอันตราย ภูตผีปีศาจ

ท้าวเวสสุวรรณ สลักบนแผ่นเหล็กน้ำพี้ เป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโชคลาภ อำนาจ บารมี และป้องกันภัยอันตราย

ข้อควรระวัง:

ควรบูชาด้วยความเคารพศรัทธา
ไม่ควรนำไปอวดอ้างหรือลวงลวงผู้อื่น
ไม่ควรนำไปใช้ในทางที่ผิด


คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ:

อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ
มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ
ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา
ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง
พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ

การสวดมนต์:

สวดมนต์บทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
สวดมนต์บทอาฏานาฏิยปริตร
สวดมนต์บทคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ

การทำบุญ:

ทำบุญตักบาตร
ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา
ทำบุญบริจาคทาน

การปฏิบัติธรรม:

นั่งสมาธิ
รักษาศีล
ฟังธรรม

การขอพร:

ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากท้าวเวสสุวรรณ
บอกชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด
บอกความปรารถนา
บอกจำนวนครั้งที่สวดมนต์

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อและประเพณี ไม่ได้เป็นการชี้นำหรือบังคับให้ผู้อ่านศรัทธา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ

* เสริมดวงชะตา มั่งคั่ง ร่ำรวย
* ค้าขายดี กิจการเจริญรุ่งเรือง
* ป้องกันภัยอันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย
* ป้องกันคุณไสย มนต์ดำ ภูตผีปีศาจ

รายละเอียดวัตถุมงคล

* วัสดุ : แผ่นเหล็กน้ำพี้
* ลวดลาย : ท้าวเวสสุวรรณ
* ขนาด : กว้าง 25 มม. สูง 40 มม. หนา 5 มม.
* น้ำหนัก : 43 กรัม

สนใจเช่าบูชา

ลาซาด้า http://ไปที่..link..
.
ช้อปปี้ http://ไปที่..link..

ดาวเรืองเป็นไม้ดอกที่ได้รับความนิยมปลูกทั้งเพื่อความสวยงามและประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ทว่าดาวเรืองก็มักถูกคุกคามจากโรคพืชต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคเน่าดำ โรคราน้ำค้าง สนิม และโรคเชื้อราอื่นๆ โรคเหล่านี้สร้างความเสียหายต่อต้นดาวเรือง ลดผลผลิต และอาจทำให้ต้นตายได้

การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5

การผสม Metalaxyl ซึ่งเป็นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคเชื้อรา กับ Starfer Fertilizer 30-20-5 ปุ๋ยสูตรเร่งโต เร่งเขียว เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในต้นดาวเรือง

ประโยชน์ของการใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5

ควบคุมโรคเชื้อราได้อย่างครอบคลุม : การผสมผสานนี้สามารถจัดการกับโรคเชื้อราหลายชนิดได้พร้อมกัน
เพิ่มสารอาหาร : ปุ๋ย Starfer Fertilizer 30-20-5 ช่วยให้ต้นดาวเรืองได้รับสารอาหารที่จำเป็น ส่งเสริมการเจริญเติบโต
เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม : การผสม Metalaxyl กับปุ๋ยช่วยให้ต้นดาวเรืองดูดซึมสารเคมีได้ดีขึ้น
เพิ่มผลผลิต : การป้องกันโรคเชื้อราช่วยให้ต้นดาวเรืองมีสุขภาพดี เพิ่มผลผลิต
ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย : การผสมสารเคมีและปุ๋ยเข้าด้วยกันช่วยลดจำนวนครั้งในการฉีดพ่น

วิธีการใช้

ผสม Metalaxyl 50 กรัม กับ Starfer Fertilizer 30-20-5 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่นให้ทั่วใบและลำต้น โดยฉีดพ่นทุก 7-10 วัน
ฉีดพ่นตอนเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นตอนแดดจัด

ข้อควรระวัง

สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก และแว่นตา เมื่อผสมและฉีดพ่น
เก็บ Metalaxyl และ Starfer Fertilizer 30-20-5 ให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ห้ามฉีดพ่น Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 บนแหล่งน้ำ
เก็บขวด Metalaxyl และ Starfer Fertilizer 30-20-5 ให้มิดชิดหลังใช้งาน

การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในต้นดาวเรือง ช่วยให้ต้นดาวเรืองมีสุขภาพดี เพิ่มผลผลิต และช่วยให้เกษตรกรประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

อัตราส่วนผสม เมทาแลกซิล ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ และโรคพืชต่างๆจากเชื้อรา
50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร *ควรผสมฉีดพ่นไปพร้อมกับ สตาร์เฟอร์สูตร 30-20-5 เพื่อให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของโรคพืชได้เร็ว และกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

อัตราส่วนผสมใช้ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ (ทุกสูตร)
อัตราส่วน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..