[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ

กำจัดเพลี้ย เพลี้ยกระโดด แมลงศัตรูพืช เชื้อบิวเวอร์เรีย ผสม เชื้อเมธาไรเซียม บิวทาเร็กซ์ ปลอดภัยเพาะเชื้อจาก Lab 100%
กำจัดเพลี้ย เพลี้ยกระโดด แมลงศัตรูพืช เชื้อบิวเวอร์เรีย ผสม เชื้อเมธาไรเซียม บิวทาเร็กซ์ ปลอดภัยเพาะเชื้อจาก Lab 100%
กำจัดเพลี้ย เพลี้ยกระโดด แมลงศัตรูพืช เชื้อบิวเวอร์เรีย ผสม เชื้อเมธาไรเซียม บิวทาเร็กซ์ ปลอดภัยเพาะเชื้อจาก Lab 100%
Beauveria-Methharicium Mix: แนวทางปฏิวัติเพื่อต่อสู้กับเพลี้ยกระโดดในพืชทุกชนิด

การแนะนำ

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โลกได้เห็นความท้าทายด้านการเกษตรเพิ่มขึ้น รวมทั้งการบุกรุกของเพลี้ยกระโดด ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพืชผลต่างๆ ในการแสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยที่เรียกว่า "Beauveria-Methharicium Mix" วางตลาดภายใต้ชื่อแบรนด์ "Butarex" สารกำจัดศัตรูพืชชีวภาพที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้นำเสนอแนวทางที่มีแนวโน้มในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยกระโดดในพืชหลากหลายชนิด มอบความหวังให้กับเกษตรกรและอุตสาหกรรมการเกษตร

ทำความเข้าใจกับสารผสมบิวเวอเรีย-เมธาริเซียม

Beauveria-Methharicium Mix เป็นส่วนผสมที่เสริมฤทธิ์กันของสารควบคุมทางชีวภาพ 2 ชนิด ได้แก่ Beauveria bassiana และ Methharicium anisopliae เชื้อราทั้งสองชนิดนี้เป็นเชื้อราก่อโรคแมลงที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งมุ่งเป้าไปที่เพลี้ยกระโดด ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการสูญเสียผลผลิตอย่างมากในพืชหลากหลายชนิด การรวมกันของเชื้อราที่มีประโยชน์เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและให้วิธีแก้ปัญหาที่ทรงพลังกับศัตรูพืชที่น่ารำคาญเหล่านี้

บิวเวอเรีย บาสเซียน่า:
บิวเวอเรีย บาสเซียนาเป็นเชื้อราก่อโรคที่ก่อโรคในแมลงที่รู้จักกันดีซึ่งแพร่เชื้อไปยังเพลี้ยจักจั่นเมื่อสัมผัส เจาะทะลุโครงร่างภายนอกของพวกมันและฆ่าพวกมันในเวลาต่อมา เชื้อราชนิดนี้ได้รับการวิจัยอย่างกว้างขวางและนำไปใช้เป็นสารควบคุมทางชีวภาพสำหรับแมลงศัตรูพืชทางการเกษตรต่างๆ รวมทั้งเพลี้ยกระโดด

Methharicium anisopliae:
Methharicium anisopliae ซึ่งเป็นเชื้อราก่อโรคแมลงอีกชนิดหนึ่ง ช่วยเสริมการทำงานของ Beauveria bassiana โดยทำให้เพลี้ยจักจั่นติดเชื้อโดยการกินเข้าไป เชื้อราสร้างสปอร์ที่ยึดติดกับร่างกายของแมลง งอก และเติบโต ทำให้เกิดการตายในที่สุด

ผลเสริมฤทธิ์กัน

การผสมผสานระหว่าง Beauveria bassiana และ Methharicium anisopliae ในแบรนด์ Butarex ก่อให้เกิดผลเสริมฤทธิ์กันที่ขยายประสิทธิภาพแต่ละตัวในการต่อต้านเพลี้ยกระโดด การทำงานร่วมกันนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการควบคุมและกำจัดประชากรเพลี้ยจักจั่นได้สำเร็จ แม้ในกรณีที่พวกมันพัฒนาความต้านทานต่อสารเคมีกำจัดแมลงทั่วไป

ประโยชน์ของการใช้ส่วนผสมบิวเวอเรีย-เมธาริเซียม

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัย: ส่วนผสมของบิวเวอเรีย-เมธฮาริเซียมไม่เหมือนกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และแมลงที่มีประโยชน์ และไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายบนพืชผลหรือในดิน

สเปกตรัมกว้าง: ส่วนผสมนี้มุ่งเป้าไปที่เพลี้ยจักจั่นหลายสายพันธุ์ ทำให้เป็นโซลูชันอเนกประสงค์ที่ใช้ได้กับพืชผลหลายชนิดและสภาพแวดล้อม

ความต้านทานลดลง: เพลี้ยจักจั่นมีโอกาสน้อยในการพัฒนาความต้านทานต่อวิธีการควบคุมทางชีวภาพนี้ เนื่องจากกลไกการทำงานแบบคู่

เกษตรกรรมยั่งยืน: การบูรณาการส่วนผสมบิวเวอเรีย-เมธฮาริเซียมเข้ากับกลยุทธ์การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) ส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืนโดยลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

การประยุกต์ใช้และการดำเนินการ

การใช้ Beauveria-Methharicium Mix นั้นตรงไปตรงมา มีให้เลือกหลายสูตร เช่น แบบผงเปียก แบบเข้มข้นแบบน้ำ และแบบเม็ด ช่วยให้เกษตรกรเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดตามประเภทพืชผลและสภาพอากาศทางการเกษตร การติดตามจำนวนประชากรเพลี้ยจักจั่นอย่างสม่ำเสมอและการใช้ยาฆ่าแมลงชีวภาพอย่างทันท่วงทีในช่วงระยะแรกของการระบาดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

บทสรุป

Beauveria-Methharicium Mix วางตลาดในชื่อ Butarex แสดงถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านการจัดการศัตรูพืชอย่างยั่งยืน ด้วยส่วนผสมอันทรงพลังของ Beauveria bassiana และ Methharicium anisopliae สารกำจัดศัตรูพืชทางชีวภาพนี้จึงนำเสนอวิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยจักจั่นในพืชหลากหลายชนิด เกษตรกรสามารถปรับปรุงสุขภาพของพืชผล เพิ่มผลผลิต และมีส่วนร่วมในอนาคตเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น โดยการควบคุมพลังของเชื้อราก่อโรคแมลงตามธรรมชาติ

*** มาตรฐานการผลิต ***
✅ มาตรฐาน ห้อง LAB " ISO /IEC17025
✅ สกัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
✅ วิจัยและคิดค้นสูตรในห้องแล็บที่ได้
มาตรฐาน
✅ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
✅ สะดวก ใช้งานง่ายแค่ผสมน้ำพ่นได้เลย

***ปลอดภัยต่อคนและสิ่งแวดล้อม ***

-วิธีใช้-
*ผสมเชื้อ 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
**ฉีดพ่นช่วงเวลาแดดอ่อน
***ฉีด ใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น และโคนต้น
****ฉีดครั้งละ 3-7 วันแล้วแต่อาการ

ข้อแนะนำ
*****ไม่แน่นำไห้ฉีดร่วมกับสารกำจัดเชื้อรา ไตรโครเดอร์มา

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ยากำจัดโรคราสนิม ใน ถั่วฝักยาว โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
ยากำจัดโรคราสนิม ใน ถั่วฝักยาว โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
ยากำจัดโรคราสนิม ใน ถั่วฝักยาว โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์ปฏิวัติสำหรับโรคราสนิมในถั่วฝักยาว

โรคราสนิมอาจเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับชาวสวนและเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันส่งผลกระทบต่อพืชผลที่มีมูลค่าสูง เช่น ถั่วฝักยาว เชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคราสนิมเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น ทำให้เกิดรอยโรคคล้ายสนิมบนใบพืชที่ไม่น่าดูและสร้างความเสียหาย อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ปัญหาที่ก้าวล้ำรออยู่: IS สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่สกัดจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด

จากการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรได้คิดค้น IS เพื่อต่อสู้กับโรคราสนิมอย่างมีประสิทธิภาพ วัตถุประสงค์หลักคือการเลือกสารที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถควบคุมและยับยั้งเชื้อราได้ในขณะที่มั่นใจในความปลอดภัยของผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม หลังจากการทดสอบและวิเคราะห์อย่างเข้มงวด IS ได้กลายเป็นผู้นำในการต่อสู้กับโรคราสนิม

หนึ่งในกลไกหลักที่ IS จัดการกับโรคราสนิมคือการควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช เชื้อราต้องการเงื่อนไขเฉพาะเพื่อเติบโตและเพิ่มจำนวน และ IS ขัดขวางเงื่อนไขเหล่านี้ ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อเชื้อรา IS จึงหยุดการลุกลามของโรคราสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมสุขภาพของพืช

นอกจากนี้ IS ยังมีความสามารถพิเศษในการยึดติดกับพื้นผิวใบพืช ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับมัน ซึ่งแตกต่างจากสารต้านเชื้อราแบบดั้งเดิมที่อาจถูกชะล้างออกไปหรือเจือจางอย่างรวดเร็ว IS สร้างชั้นป้องกันที่ทนทานและใช้งานได้ยาวนาน คุณลักษณะเฉพาะนี้ช่วยให้แน่ใจว่าส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์ยังคงเข้มข้นอยู่บนใบพืช ต่อสู้กับเชื้อราอย่างต่อเนื่องและป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำ

สิ่งที่ทำให้ IS แตกต่างจากสารต้านเชื้อราที่ใช้สารเคมีทั่วไปคือองค์ประกอบอินทรีย์ มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด IS เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับเกษตรกรและชาวสวน การไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายช่วยลดความเสี่ยงของผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพสำหรับผู้ใช้ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มักเกี่ยวข้องกับสารฆ่าเชื้อราสังเคราะห์

นอกจากนี้ IS ยังมีส่วนช่วยให้สุขภาพโดยรวมและความกระฉับกระเฉงของถั่วฝักยาว โดยการควบคุมโรคราสนิม IS ช่วยให้พืชเปลี่ยนเส้นทางทรัพยากรของตนไปสู่การเจริญเติบโตและการพัฒนา ส่งผลให้ผลผลิตสูงขึ้นและคุณภาพของพืชผลดีขึ้น สารต้านเชื้อราอินทรีย์นี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันพืชจากความเสียหายที่เกิดจากการติดเชื้อรา

เมื่อใช้ IS สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานที่แนะนำโดยผู้ผลิต ปริมาณและเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของ IS และรับประกันผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการควบคุมโรคราสนิม นอกจากนี้ การบูรณาการ IS เข้ากับกลยุทธ์การจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการโดยรวมยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนในระยะยาว

โดยสรุป การพัฒนา IS แสดงถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านสารต้านเชื้อราอินทรีย์ ความสามารถในการควบคุมและยับยั้งโรคราสนิมในถั่วฝักยาวที่สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติล้วนเป็นอาวุธที่ทรงพลังสำหรับชาวไร่และชาวสวน ด้วยการสร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราและเพิ่มการยึดเกาะกับใบพืช IS จึงให้วิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคราสนิม การเปิดรับ IS เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การจัดการศัตรูพืชแบบครอบคลุม ไม่เพียงแต่ปกป้องพืชเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืนอีกด้วย ด้วย IS เราสามารถบอกลาโรคราสนิมและเพลิดเพลินไปกับพืชถั่วฝักยาวที่เจริญเติบโตและแข็งแรง

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ ศัตรูพืชสำหรับต้นกล้วยไม้
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ ศัตรูพืชสำหรับต้นกล้วยไม้
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ ศัตรูพืชสำหรับต้นกล้วยไม้
เพลี้ยไฟ เป็นศัตรูพืชตัวร้ายที่สร้างความเสียหายให้กับต้นกล้วยไม้ มักพบระบาดในช่วงฤดูร้อน เพลี้ยไฟจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อน ดอก และยอดอ่อน ทำให้ใบเหลือง ยุบ ผลิดอกน้อย และอาจตายในที่สุด

การป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ บนต้นกล้วยไม้ สามารถทำได้หลายวิธี หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพ คือ การใช้ INVET ผสมกับ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่น

INVET ชื่อสามัญ ไดโนเตฟูราน เป็นสารกำจัดแมลงชนิดดูดซึม ออกฤทธิ์กว้าง กำจัดแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด รวมถึงเพลี้ยไฟ มีประสิทธิภาพสูง ออกฤทธิ์เร็ว และยาวนาน

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ประกอบด้วยธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ช่วยให้พืชเจริญเติบโต ใบเขียว ออกดอก ออกผล

การผสม INVET กับ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5

เตรียมถังผสมขนาด 20 ลิตร
ใส่น้ำลงในถังผสมประมาณ 20 ลิตร
ใส่ INVET 20 กรัม
ใส่ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 25 กรัม
คนให้เข้ากันจนละลาย
เติมน้ำให้เต็มถัง

วิธีการฉีดพ่น

ฉีดพ่นให้ทั่วใบ ลำต้น และใต้ใบ โดยเฉพาะบริเวณที่มีเพลี้ยไฟ
ฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น อากาศไม่ร้อนจัด
ฉีดพ่น 2-3 ครั้ง ห่างกัน 7-10 วัน

ข้อควรระวัง

สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตา และเสื้อผ้าหนา เมื่อผสมและฉีดพ่น
ห้ามฉีดพ่นในขณะที่มีลมแรง
ห้ามฉีดพ่นในแหล่งน้ำ
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
อ่านฉลากก่อนใช้ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ข้อดีของการใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5

กำจัดเพลี้ยไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยให้ต้นกล้วยไม้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง
ใบเขียว ฟู ออกดอกดก
เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของต้นกล้วยไม้
ใช้สะดวก ประหยัดเวลา

การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟ ช่วยให้เกษตรกรและผู้ปลูกกล้วยไม้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีคุณภาพดี

อัตราส่วนผสม อิทเวท ป้องกันกำจัดเพลี้ย
20กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร *ควรผสมฉีดพ่นไปพร้อมกับ สตาร์เฟอร์สูตร 30-20-5 เพื่อให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของเพลี้ยได้เร็ว และกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

อัตราส่วนผสมใช้ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ (ทุกสูตร)
อัตราส่วน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..
อ่าน:3571
โรคใบจุดมันสำปะหลัง โรคราแป้ง โรคราต่างๆในมันสำปะหลัง เร่งป้องกันกำจัด ด้วย เมทาแลกซิล
โรคใบจุดมันสำปะหลัง โรคราแป้ง โรคราต่างๆในมันสำปะหลัง เร่งป้องกันกำจัด ด้วย เมทาแลกซิล
## โรครา: ภัยร้ายทำลายมันสำปะหลัง ป้องกันและฟื้นฟูได้ด้วย เมทาแลคซิล และ ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5

**มันสำปะหลัง** พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย เผชิญภัยคุกคามจาก **โรคราต่างๆ** โรคพืชที่สร้างความเสียหายร้ายแรง บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับโรคราต่างๆ วิธีการป้องกัน และวิธีการฟื้นฟูต้นมันสำปะหลังด้วย **เมทาแลคซิล** และ **ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5**

**โรคราที่พบในมันสำปะหลัง**

* **โรคราใบจุด** เกิดจากเชื้อรา Cercospora henningsii
* **โรคราแป้ง** เกิดจากเชื้อรา Erysiphe polygoni
* **โรครากเน่า** เกิดจากเชื้อรา Phytophthora spp.

**อาการ**

* **โรคราใบจุด**: ใบมีจุดสีน้ำตาล ขยายวงกว้าง แห้งตาย
* **โรคราแป้ง**: ใบมีราสีขาว คล้ายแป้ง
* **โรครากเน่า**: ต้นเหี่ยว ใบเหลือง รากเน่า

**สภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การเกิดโรค**

* อุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส
* ความชื้นสูง
* ฝนตกชุก

**วิธีป้องกัน**

1. เลือกพันธุ์มันสำปะหลังที่ต้านทานโรค
2. ปลูกมันสำปะหลังในแปลงที่มีการระบายน้ำดี
3. หลีกเลี่ยงการให้น้ำมากเกินไป
4. เก็บกวาดเศษซากพืชที่เป็นโรค นำไปเผาทำลาย
5. หมุนเวียนการปลูกพืช

**วิธีการกำจัด**

1. ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรค
2. **เมทาแลคซิล**: สารป้องกันกำจัดโรคกลุ่มอะมิด โปรโมเตอร์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา

**วิธีการใช้เมทาแลคซิล**

1. ผสมเมทาแลคซิลกับน้ำตามอัตราส่วนที่แนะนำ
2. ฉีดพ่นลงบนต้นมันสำปะหลัง
3. ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน

**การฟื้นฟูต้นมันสำปะหลัง**

1. **ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5**: ปุ๋ยสูตรเร่งโต ช่วยให้ต้นมันสำปะหลังฟื้นตัว
2. ธาตุอาหารเสริม: แมกนีเซียม แคลเซียม โบรอน
3. สารฮิวมัส: ช่วยปรับสภาพดิน

**การป้องกันและกำจัด โรคราต่างๆ** เป็นสิ่งที่เกษตรกรควรให้ความสำคัญ การใช้ **เมทาแลคซิล** ร่วมกับ **ปุ๋ย สตาร์เฟอร์ สูตร 30-20-5** จะช่วยให้มันสำปะหลังของคุณปลอดภัยจากโรคราต่างๆ และ ฟื้นตัวกลับมามีผลผลิตที่ดี

**หมายเหตุ** ข้อมูลนี้เป็นเพียงการแนะนำเบื้องต้น เกษตรกรควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนนำไปใช้


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset
อ่าน:3571
โรคเมล็ดด่างข้าว
โรคเมล็ดด่างข้าว
โรคข้าวเมล็ดด่าง มีสาเหตุเกิดจากเชื้อรา พบการระบาดในระยะออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวลักษณธเมล็ดลีบ ทั้งนี้โรคเมล็ดด่างเป็นโรคร้ายแรงโรคหนึ่งพบได้เป็นประจำทุกฤดู โดยเฉพาะเมื่อข้าวกำลังออกรวงแล้วฝนตกความชื้นในนาค่อนข้างสูงและข้าวต้นเตี้ยที่ใช้ปุ๋ยสูง ลักษณะอาการเมล็ดลีบเป็นบางส่วน บนเมล็ดเต็มส่วนใหญ่จะมีแผลเป็นจุดสีน้ำตาล-ดำ บางส่วนก็มีลายสีน้ำตาล และบางพวกมีสีเทา หรือสีปนชมพู ทั้งนี้ เพราะมีเชื้อราหลายชนิดที่สามารถเข้าทำลายและทำให้เกิดอาการแตกต่างกันไป การเข้าทำลายของเชื้อรามักจะเกิดในช่วงที่ดอกข้าวผสมแล้วอยู่ในช่วงเป็นน้ำนมและกำลังจะสุก หลังจากนั้นประมาณเกือบเดือน (ใกล้เก็บเกี่ยว) อาการเมล็ดด่างจะปรากฏเด่นชัด โรคนี้สามารถแพร่กระจายไปกับลม และติดไปกับเมล็ด และอาจทำให้เชื้อราแพร่กระจายในยุ้งฉางได้

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..

สิ้นค้าจากเรา

ไอเอส สารอินทรีย์ป้องกันและยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ฉีดพ่นก่อนข้าวออกรวง ป้องกันกันโรคข้าว ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา
ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ ..ทานตะวัน..
ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ ..ทานตะวัน..
ชื่อสมุนไพร ทานตะวัน
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ชอนตะวัน(ภาคกลาง) _ บัวตอง _ บัวผัด (ภาคเหนือ) _ทานหวัน (ภาคใต้)_ ดอกกินตะเวน (ภาคอีสาน) หมากปังเจิญ (ไทยใหญ่) _ เซี่ยงยื่อขุย (จีนกลาง) _ เหี่ยวหยิกขุย (จีนแต้ติ๋ว)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Helianthus annuus Linn.
ชื่อสามัญ Sunflower _ Sunchoke
วงศ์ ASTERACEAE

ถิ่นกำเนิดทานตะวัน
ทานตะวันเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลางโดยเชื่อกันว่ามีการปลูกในประเทศ เม็กซิโก ตั้งแต่ 2600 ปี ก่อนคริสตกาลแล้ว แต่ก็มีข้อมูลในบางแหล่งระบุว่า ทานตะวันมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทางตะวันตก ของสหรัฐอเมริกา โดยชาวอินเดียนแดงได้เก็บเมล็ดมาบริโภคเป็นเวลานานมากแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 300 - 400 ปีที่ผ่านมา ชาวยุโรปได้นำทานตะวันไปปลูกเป็นไม้ดอก ในยุโรป

จากนั้นทานตะวันจึงได้แพร่กระจายพันธุ์ไปยัง เขตอบอุ่นและเขตร้อนทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยเชื่อกันว่าทานตะวันเข้ามาในประเทศในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยชาวฝรั่งเศสนำมาปลูก และในปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในแถบภาคกลางบริเวณจังหวัด ลพบุรี และเพชรบูรณ์ เป็นต้น

ประโยชน์และสรรพคุณทานตะวัน
1.ช่วยขับปัสสาวะ
2.แก้ไอ
3.แก้ขับหนองใน ฝีฝักบัว
4.แก้ไข้หวัด
5.ใช้ลดไขมันในเส้นเลือด
6.แก้พิษแมลงป่อง
7.แก้อาการปวดท้องเสียดแน่นหน้าอก
8.แก้ฟกช้ำ
9.เป็นยาระบาย
10.ขับพยาธิไส้เดือน
11.ช่วยขับลม
12.ช่วยทำให้ตาสว่าง
13.แก้วิงเวียน
14.แก้อาการปวดหัว
15.แก้ปวดฟัน
16.แก้ปวดท้องโรคกระเพาะ
17.แก้ปวดประจำเดือน
18.แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
19.ใช้แก้โรคหืด
20.แก้เบาหวาน
21.แก้อาการหูอื้อ
22.ช่วยขับเสมหะ

ลักษณะทั่วไปทานตะวัน

ทานตะวันจัดเป็นไม้ล้มลุก สูง 2-4 เมตร ลำต้นตั้งตรงเป็นแกนแข็ง มีขนสากแข็งสีขาวปกคลุม โดยส่วนใหญ่ลำต้นจะไม่มีแขนง แต่บางพันธุ์ก็อาจมีการแตกแขนง ส่วนขนาดของลำต้นจะขึ้นอยู่กับพันธุ์และสภาพแวดล้อม รากเป็นระบบรากแก้วหยั่งลึกลงไปประมาณ 1-2.5 เมตร และมีรากแขนงแผ่ขยายไปด้านข้างยาวได้ถึง 1.5 เมตร เพื่อช่วยค้ำจุนลำต้น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับกันตรงข้ามใบเป็นรูปกลมรึหรือรูปไข่ โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีขนแข็งสากทั้งสองด้าน ก้านใบยาว โดยขนานของใบจะกว้างประมาณ 8-25 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร ส่วนสีของใบอาจเป็นสีเขียวอ่อน เขียว หรือเขียวเข้ม แล้วแต่ละพันธุ์ ซึ่งทานตะวัน 1 ต้นอาจมีใบได้ 8-70 ใบ เลยทีเดียว ดอก ออกเป็นดอกเดียวบริเวณปลายยอดลำต้น โดยเป็นรูปจานขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 6-37 เซนติเมตร (ซึ่งขึ้นกับพันธุ์และสภาพแวดล้อม) ดอกมีลักษณะเป็นแบบช่อดอกประกอบด้วยดอกย่อยเป็นจำนวนมาก ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

ดอกย่อยที่อยู่รอบนอกจากดอก เป็นดอกที่ไม่มีเพศ (เป็นหมัน) มีกลีบดอกสีเหลืองส้ม
ดอกย่อยที่อยู่ในจานดอก เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้ที่พร้อมจะผสมได้ก่อนเกสรตัวเมีย ซึ่งกลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายแหลมมีสีเหลืองสด ส่วนด้านในคือช่อดอก มีลักษณะเป็นจาน ประกอบไปด้วยดอกขนาดเล็กจำนวนมาก กลางดอกมีเกสรสีน้ำตาลอมสีม่วงและภายในมีผลจำนวนมาก โดยในแต่ละจากดอกจะมีดอกย่อยอยู่ประมาณ 700 – 3000 ดอก
ผลเป็นรูปกลมรีและแบนนูน ด้านหนึ่งมน อีกด้านหนึ่งแหลม ผลมีขนาดประมาณ 6-17 มิลลิเมตร มีเปลือกหุ้มผลแข็ง เปลือกผลเป็นสีเทาเข้มหรือสีดำและเป็นลายในแนวตั้ง ภายในผลมีเมล็ดสีเหลืองอ่อน 1 เมล็ด ลักษณะรียาว

การขยายพันธุ์ทานตะวัน

ทานตะวันสามารถขยายพันธุ์ได้โดยวิธีการใช้เมล็ด โดยมีการดังนี้ ก่อนอื่นควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่จะนำไปปลูกโดยควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่แก่จัดและเลือกจากต้นพันธุ์ที่แข็งแรงไม่มีโรค จากนั้นควรเตรียมดินในแปลงปลูกโดยไถดอนให้ลึกประมาณ 30 เซนติเมตรหรือลึกกว่านั้น เพราะว่าการไถดินลึกจะช่วยทำลายการอัดแน่นของดินในชั้นไถพรวน ทำให้น้ำซึมลงในดินชั้นล่างได้มากขึ้น และควรกำลัดวัชพืชในแปลงให้สะอาด และไถย่อยดินครั้งสุดท้ายให้ร่วนซุย และหลังจากเตรียมดินเสร็จแล้ว ควรทำร่องสำหรับหยอดเมล็ด โดยให้มีความห่างละร่อง 70-75 เซนติเมตร และให้หลุมปลูกในร่องห่างกัน 25-30 เซนติเมตรแล้วจึงทำการปลูกโดยหยอดเมล็ดลงไปหลุมละ 2 เมล็ด แล้วกลบดินโดยให้เมล็ดอยู่ลึก 5-8 เซนติเมตร จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มและหมั่นคอยรดน้ำตลอด เมื่อพืชงอกได้ 10 วัน หรือมีใบจริง 2-4 คู่ให้ถอนแยกเหลือไว้เฉพาะต้นที่แข็งแรงเพียงหลุมละ 1 ต้น

สำหรับการเก็บเกี่ยวทานตะวัน จะมีอายุการเก็บเกี่ยวแตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก ซึ่งวิธีการเก็บเกี่ยวนั้นให้สังเกตจากด้านหลังของจานดอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นช่วงการสร้างน้ำมันในเมล็ดจะเริ่มลดลง และจะหยุดสร้างน้ำมันเมื่อจานดอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จึงเริ่มเก็บเกี่ยวได้ หลังจากเก็บเกี่ยวให้นำไปผึ่งแดดจัดๆ 1-2 แดด โดยแขวนให้หัวห้อยลงและหมั่นกลับช่อดอก เพื่อให้ดอกแห้งอย่างสม่ำเสมอ

องค์ประกอบทางเคมี

มีผลการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีจากส่วนต่างๆ ของทานตะวันพบว่า ทั้งต้นพบมีสาร Earotenoids_ Glycocoll_ Seopoline Heliangine_ Quercimeritin_ Phospholipid Methionine_ Cryptoxanthin_ Tocopherol _Globulin ดอก พบสาร quercimeritrin_ triterpenoid saponins_ helianthoside A_ B_ C เป็นต้น กรดอินทรีย์ ได้แก่ oleanolic acid และ echinocystic acid อับเรณูของดอกส่วนใหญ่มี ß-sitosterol ในเมล็ดพบโปรตีน _ ออกไซด์คาร์บอเนต และน้ำมัน โดยในน้ำมันพบสาร Phospholipid_ Linolenic acid_ Glycerol oil_ Phosphatide_ และ B-Sitosterol ใบ พบสาร neochlorogenic acid_ isochlorogenic acid _chlorogenic acid _ 3-o-feruloylquinic acid_ 4-o-caffeoylquinic acid_ caffeic acid_ scopoline heliangine dicarboxylic acid tricarboxylic acid citric acid malic acid fumaric acid เปลือกเมล็ด พบสาร cellulose_ lignin_ pentosan ราก พบสาร cytokinin _ kinetin ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือน zeatin แกนของต้น พบสาร chlorogenicacid_ scopo nine_ 4-o-caffeoylquinic acid_ neochlorogenic acid

นอกจากนี้ในเมล็ดทานตะวันยังมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดทานตะวันแห้ง ต่อ 100 กรัม

พลังงาน 490กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 38.6กรัม
โปรตีน 16.7กรัม
ไขมัน 32.8กรัม
ใยอาหาร 3.7กรัม
วิตามินเอ 50 หน่วยสากล
วิตามินบี 1 1.480 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.07มิลลิกรัม
วิตามินบี 2.4มิลลิกรัม
วิตามินบี 5 1.130 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 1.345 มิลลิกรัม
วิตามินบี 9 227 ไมโครกรัม
วิตามินซี 1.4 มิลลิกรัม
วิตามินอี 35.17 มิลลิกรัม
แคลเซียม 92มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 5.8มิลลิกรัม
ธาตุแมกนีเซียม 325 มิลลิกรัม
ธาตุแมงกานีส 1.950 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 632มิลลิกรัม
ธาตุโพแทสเซียม 645 มิลลิกรัม
โครงสร้างทานตะวัน

ที่มา : Wikipedia

รูปแบบและขนาดวิธีใช้

ใช้ขับปัสสาวะ โดยใช้แกนต้น 15 กรัม ต้มน้ำกิน หรือรากสด 15- 30 กรัม คั้นน้ำแล้วผสมกับน้ำผึ้งกินแก้อาการช่วยขับปัสสาวะขุ่นขาว ขับปัสสาวะ ให้ใช้แกนกลางลำต้น ยาวประมาณ 60 ซม. (หรือประมาณ 15 กรัม ) และรากต้นจุ้ยขึ้งฉ่ายราว 60 กรัม ใช้ต้มคั้นเอาน้ำ หรือใช้ผสมกับน้ำผึ้งรับประทาน แก้อาการบิดมูกเลือด ให้ใช้เม็ดประมาณ 30 กรัม ใส่น้ำตาลเล็กน้อย ต้มน้ำนานราว 60 นาที แล้วใช้ดื่ม แก้นิ่วในทางเดินปัสสาวะ นิ่วในไต ใช้แกนต้นยาว 2 ฟุต ต้มน้ำ กินวันละครั้ง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ติดต่อกัน หรือใช้รากสด 30 กรัม ต้มน้ำกิน แก้อาการปวดหัว ตาลาย ใช้ฐานรองดอกที่แห้งแล้ว ประมาณ 25- 30 กรัม นำมาตุ๋น กับไข่ 1 ฟอง รับประทานหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง ใช้ปวดท้องน้อยก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน ใช้ฐานรองดอก 30- 60 กรัม ต้มน้ำแล้วเติมน้ำตาลแดง 30 กรัมกิน ลดความดันโลหิต ให้ใช้ใบสด 60 กรัม (แห้ง 30 กรัม ) และโถวงู่ฉิกสด 60 กรัม (แห้ง 30 กรัม ) นำมาต้มเอาน้ำรับประทาน แก้ไอกรน ให้ใช้แกนกลางลำต้นโขลกให้ละเอียด แล้วนำมาผสมกับน้ำตาล ทรายขาว ชงด้วยน้ำร้อนรับประทาน ขับพยาธิไส้เดือน ให้ใช้รากสดประมาณ 30 กรัม เติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อย ต้มน้ำรับประทาน แก้อาการปวดฟัน ให้ใช้ดอกที่แห้งแล้ว ประมาณ 25 กรัม นำมาสูบเหมือนยาสูบ หรือใช้ฐานรองดอก 1 อัน พร้อมรากเก๋ากี้ นำมาตุ๋นกับไข่รับประทานก็ได้ ฝีฝักบัว ฝีเป็นหนองมาก ใช้ฐานรองดอกคั่ว บดเป็นผงผสม น้ำมันงาทา แผลมีเลือดออก ใช้แกนต้นตำพอก แก้ไอ คั่วเมล็ดให้เหลืองทำเป็นยาชงดื่ม หูอื้อ ใช้เปลือกเมล็ด 10-15 กรัม ต้มน้ำกิน


การศึกษาทางเภสัชวิทยา

มีผลการศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาจากส่วนต่างๆ ของทานตะวันหลายฉบับทั่วในประเทศไทยและต่างประเทศ พบว่ามีฤทธิ์ต่างๆ ดังนี้

ฤทธิ์ลดไขมันในเลือด มีการศึกษาถึงการทดลองในการลดไขมันในเลือดของเมล็ดทานตะวันในหนูขาวทดลอง โดยได้ทำการทดลองนานถึง 9 สัปดาห์ ด้วยการกระตุ้นให้หนูขาวเป็นเบาหวาน โดยให้ Alloxan แล้วจึงทำการป้อน น้ำมันดอกทานตะวัน ผลการทดลองพบว่าหนูทดลองมีปริมาณไขมันในเลือดมีระดับลดลง

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาทางคลินิกในการลดไขมันในเลือดของน้ำมันเมล็ดทานตะวันในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนจำนวน 14 คน โดยทำการทดลอง 28 วัน ซึ่งแบ่งกลุ่มการทดลองออกเป็น 3กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มควบคุม ส่วนกลุ่มที่สองให้น้ำมันมะกอกผสมกับน้ำมันเมล็ดทานตะวัน และกลุ่มสามคือกลุ่มที่ให้อาหารไขมันสูง ภายหลังการทดลองพบว่ากลุ่มที่สองมีระดับคอเลสเตอรอลลดลงแตกต่างจากกลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ฤทธิ์ลดความดันโลหิต มีการศึกษาทดลองฤทธิ์ลดความดันโลหิตโดยใช้สารสกัดน้ำจากดอกทานตะวันทดลองกับกระต่ายด้วยวิธีการฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ พบว่าจะทำให้ความดันโลหิตต่ำและกระตุ้นการหายใจ นอกจากนี้เมื่อนำมาหยอดลงบริเวณใบหูของกระต่ายก็ว่าทำให้เส้นเลือดขยายตัวขึ้น และยังทำให้การบีบตัวของลำไส้เล็กเพิ่มขึ้นอีกด้วย

และยังมีการทดลองทางคลินิก โดยใช้ฐานรองดอกแห้ง 45 กรัม บดเป็นผง และทำเป็นยาน้ำเชื่อม 100 มล. ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง จำนวน 10 ราย โดยให้กินครั้งละ 20 มล. วันละ 3 ครั้ง ผลปรากฏว่าหลังจากรักษาแล้ว 2 เดือนแล้ว สังเกตอาการพบว่าอาการดีขึ้น 4 ราย ดีขึ้นเล็กน้อย 4 ราย ไม่ได้ผล 2 ราย (รายหนึ่งแพ้ยาทำให้โรคกำเริบ แต่ภายหลังมีอาการดีขึ้น) สำหรับรายที่ได้ผล ความดันโลหิตจะเริ่มลดลงภายใน 1 สัปดาห์ และไม่มีอาการข้างเคียง

นอกจากนี้ทานตะวันยังมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาต่างๆ อีกเช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยังยั้งมะเร็ง ขับปัสสาวะและกลีบของดอกทานตะวันยังมีสาร triterpene glycosides ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในหนูทดลองได้อีกด้วย

การศึกษาทางพิษวิทยา

มีรายงานการทดสอบความเป็นพิษพบว่าสารสกัดของทานตะวันจากส่วนที่อยู่เหนือดินด้วย 50% เอทานอล มีค่า LD50มากกว่า 1.0 กรัมต่อกิโลกรัมเมื่อทำการฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูถีบจักร ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยสูง

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

ในการใช้ทานตะวันเป็นสมุนไพรควรระมัดระวังในการใช้เช่นเดียวกันกับการใช้สมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยควรใช้ในปริมาณที่พอดีที่ได้ระบุไว้ในตำรับ ตำรายาต่างๆ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือใช้ติดต่อกันนานจนเกินไปเพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นประจำ ก่อนจะใช้ทานตะวันเป็นสมุนไพรสำหรับบำบัดรักษาโรคต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ข้อมูลรูปภาพจาก http://ไปที่..link..
อ่าน:3571
โรค แครอทใบไหม้
โรค แครอทใบไหม้
โรคต้นใบไหม้แห้ง ในแครอท เชื้อราสาเหตุ Cercospora (Cercospora blight)_ Alternaria (Alternaria blight)

Cercospora ที่เป็นสาเหตุโรคต้นใบไหม้แห้งของแครอทคือ Cercospora carotae เชื้อนี้จะเข้าทำลายและก่อให้เกิดอาการกับต้นแครอทได้ทุกส่วนที่อยู่เหนือดินไม่ว่าจะเป็น ต้น กิ่ง ใบ ก้านใบ และดอก บนใบ แผลจะมีลักษณะค่อนข้างกลม สีนํ้าตาลเทา หรือดำ เมื่อเป็นมากๆ เนื้อใบจะถูกทำลายทำให้เกิดอาการเหี่ยวแห้งกลายเป็นสีดำทั้งใบ บนกิ่งก้านและก้านใบแผลจะมีลักษณะยาวรี ขอบสีเข้ม ตอนกลางซีดจาง สำหรับดอกหากถูกเชื้อเข้าทำลายในระยะที่ดอกยังอ่อนจะแห้งตายทั้งดอก ถ้าเป็นดอกที่ผสมติดฝักแล้ว เชื้อราก็จะเข้าทำลายฝักต่อไปแต่จะไม่ทำอันตรายเมล็ดที่มี ภายในฝักนั้นแต่อย่างไร เพียงแต่เส้นใยจะไปอาศัยเกาะพักตัวอยู่ตามเปลือกและผิวของเมล็ดดังกล่าวเพื่อข้ามฤดู และใช้เมล็ดนั้นเป็น seed-borne ต่อไป

Alternaria เป็นราอีกชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคต้นและใบไหม้แห้งกับพืชผักต่างๆ ได้แพร่หลาย เช่น เดียวกับเชื้อ Cercospora ชนิดที่ทำลายแครอทนั้น ได้แก่ Alternaria dauci

การแพร่ระบาด

การแพร่ระบาดที่จัดว่าสำคัญและดีที่สุดของโรคนี้ เกิดจากเชื้อที่ติดอยู่กับเมล็ดในลักษณะของ seed-borne ดังกล่าวแล้ว ส่วนราพวกที่เกาะกินอยู่บนต้นพืชเมื่อพืชตายก็จะติดอยู่กับเศษซากที่เป็นโรคและถูกปล่อยทิ้งอยู่ตามดินแปลงปลูก พวกนี้ต่อมาจะรวมตัวกันสร้าง stroma เกิดเป็นจุดสีดำเล็กๆ ขึ้นตามบริเวณแผลที่เป็นอยู่เดิม บน stroma นี้ ก็จะเป็นที่เกิดของสปอร์หรือโคนีเดียอีกทีหนึ่ง สปอร์พวกนี้ทำหน้าที่แพร่ระบาดก่อให้เกิดโรคกับพืชในฤดูปลูกต่อไป โดยปลิวไปตามลม นํ้า หรือติดไปกับสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ต่างๆ ที่ไปถูกต้องสัมผัสเข้า เมื่อตกลงบนพืช และสิ่งแวดล้อมเหมาะสม เช่น ได้รับความชื้นพอเพียงอากาศอบอุ่น (19- 28∘ซ.) ก็จะงอกเจริญเติบโตเป็นเส้นใยจากนั้นก็จะเข้าไปใน โดยผ่านทางช่อง stomata ก่อให้เกิดโรคและสร้างสปอร์ เพื่อใช้ในการแพร่ระบาดต่อไปได้อีกภายใน 2-3 วัน ใบอ่อนของแครอทจะถูกเชื้อทำลายและเสียหายได้ง่ายกว่าใบแก่

การป้องกันกำจัด

1. หลีกเลี่ยงการปลูกแครอทซํ้าลงในดินหรือแปลงที่เคยเกิดโรคมาก่อนหรือปลูกพืชอย่างอื่นสลับเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี

2. เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ที่สะอาดปราศจากเชื้อ หากไม่แน่ใจควรนำเมล็ดมาแช่ในน้ำอุ่น 50°ซ. นาน 15-20 นาที หรือแช่เมล็ดด้วย ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ในอัตรส่วน 20ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร

3. เมื่อเกิดโรคขึ้นกับแครอทในแปลงปลูกให้ทำการ ฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ ยับยั้งโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา ในอัตตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ทุก 5-7 วัน

4. ฉีดพ่น FK-1 เพื่อบำรุงพืช ให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ โตไว ผลผลิตดี

[FK-1 แกะกล่องมาจะมีสองถุง ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สองเป็นสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง ถุงละ 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร]

* สามารถผสม FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกับ ไอเอส
* ควรฉีดพ่นช่วยเช้าก่อนแดดออก หรือ ช่วงเย็น หลังแดดร่มลมตก ไม่ควรฉีดพ่นตอนแดดร้อนจัด

# http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3571
ยาป้องกันกำจัด รักษา โรคแอนแทรคโนสในกาแฟ
ยาป้องกันกำจัด รักษา โรคแอนแทรคโนสในกาแฟ
โรคแอนแทรคโนสกาแฟ สาเหตเกิดจากเชื้อรา Glomerella cingulataแบบใช้เพศ (teleemorph) หรือเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides แบบไม่..
อ่านที่ http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3571
กำจัดหนอน ใน ต้นข้าว เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดหนอน ใน ต้นข้าว เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
บาซิลลัส: บาซิลลัสสำหรับป้องกันและกำจัดหนอนในต้นข้าว

ข้าวเป็นอาหารหลักของประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และการผลิตข้าวมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ต้นข้าวมักถูกแมลงศัตรูพืชและโรคต่างๆ โจมตี ซึ่งอาจทำให้ผลผลิตและคุณภาพลดลงอย่างมาก ศัตรูพืชที่สร้างความเสียหายให้กับต้นข้าวมากที่สุดชนิดหนึ่งคือ หนอนเจาะลำต้นข้าว ซึ่งเป็นหนอนชนิดหนึ่งที่เจาะเข้าไปในลำต้นของต้นข้าว ทำให้เกิดความเสียหายและทำให้ผลผลิตลดลง

เพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ แบรนด์ Basirix ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า Basilisk บาซิลลัสที่ป้องกันและกำจัดหนอนในต้นข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ประสบปัญหาในการควบคุมการรบกวนของศัตรูพืชในพืชผลของตน

บาซิลิสก์เป็นบาซิลลัสที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งมีเป้าหมายที่หนอนเจาะลำต้นข้าวและหนอนสายพันธุ์อื่นๆ ที่เข้าทำลายต้นข้าว ผลิตภัณฑ์นี้ทำงานโดยการติดเชื้อเวิร์มด้วยแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคที่เรียกว่าแบคทีเรียเหี่ยว โรคนี้ส่งผลต่อระบบประสาทของหนอนทำให้เบื่ออาหารและตายในที่สุด กระบวนการนี้ปลอดภัยสำหรับมนุษย์และสัตว์ ทำให้บาซิลิสก์เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนสำหรับการควบคุมสัตว์รบกวน

การใช้บาซิลิสก์นั้นตรงไปตรงมาและใช้งานง่าย เกษตรกรสามารถผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำแล้วฉีดพ่นบนต้นข้าวโดยใช้อุปกรณ์ฉีดพ่นแบบดั้งเดิม บาซิลิสก์ยังเข้ากันได้กับสารกำจัดศัตรูพืชชนิดอื่น ทำให้เป็นส่วนประกอบที่ยอดเยี่ยมสำหรับกลยุทธ์การควบคุมศัตรูพืชที่มีอยู่

ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของบาซิลิสก์คือเอฟเฟกต์ที่ติดทนนาน เมื่อนำไปใช้กับพืชแล้ว ผลิตภัณฑ์จะยังคงออกฤทธิ์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ ช่วยป้องกันเวิร์มและแมลงศัตรูพืชอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง คุณสมบัตินี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้งานบ่อยครั้ง ช่วยประหยัดเวลาและเงินของเกษตรกร

นอกจากนี้ บาซิลิสก์ยังได้รับการทดสอบอย่างครอบคลุมในภูมิภาคและภูมิอากาศต่างๆ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดการรบกวนของหนอนในต้นข้าว ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการอนุมัติตามกฎข้อบังคับในหลายประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยและประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์

กล่าวโดยสรุป บาซิลิสก์เป็นวิธีแก้ปัญหาที่แปลกใหม่สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ประสบปัญหาในการควบคุมการแพร่ระบาดของศัตรูพืชในพืชผลของตน วิธีการควบคุมศัตรูพืชที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยผลที่ยาวนานและประสิทธิภาพที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว บาซิลิสก์จึงเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าสำหรับการรับประกันผลผลิตและคุณภาพของพืชผล ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมีส่วนสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารของโลก

อะมิโนโปรตีนจำเป็นต่อพืช 18 ชนิด ช่วนในการส้รางฮอร์โมนพืช โตไว ผลใหญ่
แข็งแรง ทนแล้ง ทนโรค ทำไห้เกิดการสร้างและขยายขนาดของเซลล์เนื้อเยื่อ
และพัฒนาส่วนต่างๆของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ
ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง
แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค
หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง
ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบ ไปพร้อมกัน
พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช
จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
อ่าน:3571
การป้องกันและกำจัดโรค ยางตายยอด ยางยอดแห้ง ใบแห้ง ตายจากยอด หรือโรค ดายแบ็ค ในยางพารา
การป้องกันและกำจัดโรค ยางตายยอด ยางยอดแห้ง ใบแห้ง ตายจากยอด หรือโรค ดายแบ็ค ในยางพารา



ยางพารา มีความอ่อนไหวต่อโรคต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก โรคที่พบได้บ่อยที่สุดชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่อยางคือโรคตายจากยอด หรือ โรคดายแบ็ค มีลักษณะยอดใบแห้ง ใบตายจากยอดลงมา ซึ่งเกิดจากเชื้อราที่ก่อโรค.

ไอเอส ทำงานโดยเทคนิคการควบคุมไอออน ไอเอส เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในพืช ทำงานโดยการควบคุมระดับ pH ของสภาพแวดล้อมของพืช ทำให้ไม่เอื้ออำนวยต่อเชื้อราที่ก่อโรค อัตราผสมที่แนะนำสำหรับ ไอเอส คือ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร สามารถนำน้ำยานี้ไปฉีดพ่นต้นยางเพื่อป้องกันการเกิดโรคยางตายยอดได้.

ในการใช้ ไอเอส ให้ผสม 50 ซีซี ในน้ำ 20 ลิตร แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นฉีดน้ำยาลงบนต้นยางจนทั่วใบ แนะนำให้ใช้สารละลายในตอนเช้าหรือตอนบ่ายเมื่ออากาศเย็นและแห้ง.

นอกจาก ไอเอส แล้ว ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK1 ยังสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุดให้กับต้นยางได้อีกด้วย FK1 มีธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นยาง นอกจากนี้ยังมีสารลดแรงตึงผิวซึ่งช่วยให้สารอาหารซึมผ่านเนื้อเยื่อของพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

เมื่อแกะกล่อง FK1 ออกมาจะพบสองถุง ต้องผสมใช้พร้อมกัน อัตราการผสมที่แนะนำสำหรับ FK1 คือ 50 กรัมของถุงแรกและ 50 กรัมของถุงที่สองต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วคนให้ละลายในน้ำ จากนั้นฉีดน้ำยาลงบนต้นยางให้คลุมใบยางให้หมด หมายเหตุ สามารถผสม ไอเอส ลงไปด้วย 50 ซีซี เพื่อฉีดพ่นไปพร้อมกัน เพื่อป้องกันกำจัดโรคพืช และบำรุงเพื่อเพิ่มผลผลิตไปในตัว.

การใช้ ไอเอส และ FK1 ทำให้ชาวสวนยางสามารถป้องกันและกำจัดโรคยางตายยอดได้ในขณะที่ส่งเสริมผลผลิตสูงสุดให้กับต้นยาง สิ่งสำคัญคือต้องใช้สารละลายเหล่านี้เป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าต้นยางมีสุขภาพแข็งแรงและมีชีวิตชีวา ด้วยการดูแลและการจัดการที่เหมาะสม ชาวสวนยางสามารถได้รับผลผลิตและผลกำไรสูงจากยางพารา

http://ไปที่..link..

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงล่างอีกนิดนะคะ
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ
|-Page 145 of 359-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 | 359 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ยารักษาโรค ไฟทอปธอร่า Phytophthora ใช้ได้กับพืชทุกชนิด (1ลิตร ผสมน้ำได้ 400ลิตร)
Update: 2564/08/16 07:37:01 - Views: 3702
โรคราดำกาแฟ มีต้นเหตุจาก เพลี้ย และ เชื้อราสาเหตุ แคบโนเดียม ใช้ มาคา + ไอเอส + FK-1
Update: 2564/08/09 04:42:06 - Views: 3926
มะเขือเทศ โตไว ใบเขียว เร่งราก เร่งดอก ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์
Update: 2567/03/28 15:42:59 - Views: 3669
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนกระทู้ ใน กล้วย และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/28 14:20:06 - Views: 3545
โรคใบไหม้ในหน้าวัว และโรคใบไหม้ใน สาวน้อยปะแป้ง
Update: 2563/11/16 07:16:11 - Views: 4291
โบรชัวร์ ยาอินทรีย์ ยาแก้โรคพืช และกำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูพืช จาก ฟาร์มเกษตร
Update: 2563/06/17 21:54:44 - Views: 3540
ประโยชน์ของการปลูกพืชหมุนเวียนในการเกษตร
Update: 2566/01/05 08:34:29 - Views: 3720
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคราดำ ในมะนาว ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
Update: 2565/12/21 10:03:36 - Views: 3756
โรคแก้วมังกรลำต้นจุด และโรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส1 หยุดโรค + FK-1 ฟื้นฟู บำรุง สร้างภูมิคุ้มกันโรค 1ชุด ใช้ได้ 5ไร่
Update: 2564/07/09 08:57:36 - Views: 3558
วิธีปลูกกระชาย สมุนไพรมากสรรพคุณ ทำอาหารได้หลายเมนู
Update: 2564/08/12 00:22:50 - Views: 3502
ทุเรียนใบไหม้ มีสาเหตุมาจากโรคเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส ราฝ่อ หยุดลุกลาม
Update: 2563/10/28 14:21:37 - Views: 5186
มาคา สารอินทรีย์ ป้องกันกำจัด เพลี้ย แมลงศัตรูพืช ใช้ได้กับพืชทุกชนิด
Update: 2566/09/26 09:38:49 - Views: 3503
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคเน่าดำ ใน ถั่วเหลือง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
Update: 2566/01/16 13:51:45 - Views: 3532
เพลี้ยไฟ (rice thrips)
Update: 2564/08/21 22:22:12 - Views: 3690
ยากำจัดโรคใบไหม้ ราสีม่วง ใน หอมหัวใหญ่ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/09 14:00:37 - Views: 3506
แนวโน้มปาล์มน้ำมันในประเทศไทย ปี 2568 (2025)
Update: 2567/11/25 11:56:31 - Views: 1159
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยไฟ ในกระเจี๊ยบ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/15 13:01:12 - Views: 3495
มันสำปะหลัง ใบไหม้ ใบจุด รากเน่าโคนเน่า หัวเน่าแห้ง หัวเน่าดำ เน่าคอดิน โรคราต่างๆกำจัดด้วย ไอเอส และเร่งฟื้นฟู ด้วย ปุ๋ย FK-T
Update: 2567/04/02 10:58:48 - Views: 3730
วิธีการและเคล็ดลับในการดูแลดาวเรือง : ป้องกันและรักษาโรคดอกเน่าในดอกดาวเรือง
Update: 2566/11/08 09:38:24 - Views: 3522
การจัดการและป้องกันหนอนเจาะผลทุเรียน
Update: 2566/11/20 10:25:00 - Views: 3731
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022