[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3505 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 350 หน้า, หน้าที่ 351 มี 5 รายการ

แชมพู-ครีมอาบน้ำ อย.ชี้ไม่พบการปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง
แชมพู-ครีมอาบน้ำ อย.ชี้ไม่พบการปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง
อย. เผยไม่พบ แชมพู - ครีมอาบน้ำ ยี่ห้อจอห์นสันแอนด์จอน์หสันที่ขายในไทย มีสารปนเปื้อนมะเร็ง รวมถึงยาย้อมผมดำ ยี่ห้อเรฟลอน ไม่มีการนำเข้า หลังจีน-เวียดนาม สั่งเก็บออกจากชั้น ไม่นอนใจสั่งสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์ซ้ำ เฝ้าระวังเข้มด่านอาหารและยาทั่วประเทศ หวั่นสินค้าลักลอบเล็ดรอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ประเทศจีนและเวียดนาม มีการสั่งเก็บสินค้าประเภทแชมพูและครีมอาบน้ำ สำหรับเด็กของบริษัท จอห์นสันแอนด์จอน์หสัน เพราะมีสารไดออกซิน (Dioxin)_ สารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ปนเปื้อน และยาย้อมผมดำ ยี่ห้อเรฟลอน ซึ่งมีสารเมตะ - ฟีนิลีนไดแอมีน (m-phenylenediamine) ปนเปื้อน ออกจากชั้นจำหน่ายสินค้า เพราะเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งนั้น

ภก.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทดังกล่าว ที่นำมาขึ้นทะเบียนจำหน่ายในประเทศไทย พบว่า เป็นการนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย และไม่มีการรายงานว่าใช้สารไดออกซิน และฟอร์มาลดีไฮด์ ส่วนยาย้อมผมดำ ยี่ห้อเรฟลอน ไม่พบรายงานการนำเข้ามาในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สุ่มตรวจสินค้าที่จำหน่ายในประเทศอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย

ภก.วีรวรรณ กล่าวว่า สารไดออกซิน และ สารเมตะ - ฟีนิลีนไดแอมีน อยู่ในบัญชีสารต้องห้าม ไม่สามารถเติมลงในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ เพราะเป็นสารเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม ก่อให้เกิดมะเร็ง และมีผลต่อระบบสืบพันธุ์ รวมทั้งทำให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนัง ส่วนฟอร์มาลดีไฮด์ ถือเป็นสารควบคุมพิเศษ สามารถใช้เป็นวัตถุกันเสียได้ แต่ต้องเติมลงในผลิตภัณฑ์ตามที่กำหนด เช่นผลิตภัณฑ์ทั่วๆ ไป สามารถเติมได้ในปริมาณร้อยละ 0.2 ของปริมาณทั้งหมด และหากเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดฉีดพ่นในช่องปาก จะต้องไม่เกินร้อยละ 0.1 ของปริมาณทั้งหมด และเป็นสารชนิดหนึ่งที่อยู่ในยาทาเล็บ มีคุณสมบัติทำให้เล็บแข็ง แต่ก็สามารถทำลายเนื้อเยื่อที่สัมผัสได้ด้วย จึงเป็นสารที่ต้องจำกัดปริมาณให้อยู่ภายใต้การควบคุม

ที่ผ่านมา อย. มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอไม่ให้เติมสารต้องห้ามลงไป และมีข้อตกลงระดับอาเซียนในเรื่องการเฝ้าระวังอันตรายจากสารต่างๆ หากประเทศสมาชิกพบสารที่เป็นอันตรายในผลิตภัณฑ์ จะต้องรายการให้ประเทศสมาชิกทราบเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจากประเทศจีน และเวียดนาม แต่จะเฝ้าระวังสินค้าในกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะด่านอาหารและยาทั่วประเทศ เพื่อความปลอดภัย เพราะแชมพูเป็นสินค้าประเภทที่ต้องสัมผัสบ่อยครั้งโดยเฉพาะเป็นสินค้าสำหรับเด็ก จึงไม่ควรปล่อยให้เสี่ยงเกิดอันตรายในระยะยาวขึ้น ภก.วีรวรรณ กล่าว

ภก.วีรวรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกซื้อสินค้า อยากให้ผู้บริโภคเลือกสินค้าที่มีชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้า อย่างเสี่ยงซื้อสินค้าที่ไม่มีแหล่งที่มา เพราะอาจเสี่ยงกับสารที่เป็นอันตราย และไม่สามารถติดตามเอาผิดใครได้เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ส่วนของปลอมที่ลักลอบจำหน่าย อย.มีการสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ตรวจวิเคราะห์ หาสารเจือปน ที่อาจเป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรสังเกตฉลาก และเลือกซื้อสินค้าจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และสามารถตรวจสอบได้กับสายด่วน อย. 1556 หากไม่มั่นใจ


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ระวัง! เนื้อวัวดิบ อันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้
ระวัง! เนื้อวัวดิบ อันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้
เนื้อวัว เป็นเนื้อที่เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่าสามารถกินดิบได้ เพราะเนื้อวัวนั้นไม่มีพยาธิแบบเนื้อหมู เนื้อไก่ ซึ่งบ้านเราก็มีเมนูเนื้อวัวดิบอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น ลาบเนื้อวัว ซอยจุ๊ เมนูซาชิมิเนื้อวัวที่มีการหั่นจิ้มกับแจ่ว หลายคนก็อาจจะมีข้อสงสัยว่าตกลงแล้วการ กินเนื้อวัวดิบ นั้นปลอดภัยจริงเหมือนที่เคยเชื่อมาหรือไม่

Hello คุณหมอ จะพาทุกคนไปหาคำตอบของคำถามที่ว่า กินเนื้อวัวดิบปลอดภัยหรือไม่

เชื้อที่อาจปนเปื้อนมากับการกินเนื้อวัวดิบ
แม้ว่าการรับประทานเนื้อวัวดิบนั้นจะไม่มีความเสี่ยงเท่ากับการรับประทานเนื้อหมู เนื้อไก่ แต่เนื้อวัวดิบก็มีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายปนเปื้อนมาด้วย ไม่ว่าจะเป็น

ซาลโมเนลลา (Salmonella)
เป็นแบคทีเรียที่มักมีการปนเปื้อนมากับอาหาร ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยด้วยกัน 2 แบบคือ หนึ่งคือโรคระบบทางเดินอาหาร ซึ่งมักจะมีอาการอาเจียน ท้องร่วง สองคือมีไข้ ปวดหัว บางครั้งก็อาจจะมีผื่นขึ้น

เชื้อลิสทีเรีย (Listeria)
เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เป็นเชื้อที่มีความรุนแรงจนอาจทำให้เกิดอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ เชื้อลิสทีเรียเป็นเชื้อที่มักทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบประสาท อย่างเช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฝีในสมอง ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ติดเชื้อนี้จะติดผ่านการรับประทานอาหาร ผู้ที่ติดส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งอาการของผู้ที่ติดเชื้อชนิดนี้จะเพียงอาการไข้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือหากติดเชื้อรุนแรงอาจทำให้เกิดลำไส้อักเสบได้

เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ (Campylobacter)
เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์เป็นเชื้อที่สามารถพบได้ในทางเดินอาหารของสัตว์ เช่น วัว หมู ไก่ เป็ด แพะ แกะ แมว สัตว์น้ำเค็ม แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบเชื้อชนิดนี้ในทางเดินอาหารของวัวและไก่ ซึ่งหากมีการปรุงเนื้อสัตว์ไม่สุกหรือดื่มน้ำนมดิบ ก็อาจมีการปนเปื้อนของแบคทีเรียชนิดนี้มาได้ หากร่างกายได้รับเชื้อชนิดนี้อาจทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบ ซึ่งจะมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง มีไข้ บางครั้งอาจมีอาการถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย

เชื้ออีโคไล (E. coli)
เชื้ออีโคไลเป็นเชื้อที่สร้างสารพิษทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งคนนั้นสามารถติดเชื้อนี้ได้จากการรับประทานเนื้อดิบ เนื้อที่ปรุงไม่สุก หรือเนื้อที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ นอกจากติดโดยการรับประทานเนื้อดิบแล้วยังสามารถติดได้ผ่านการสัมผัสกับอุจจาระของสัตว์ที่มีเชื้อได้อีกด้วย โดยผู้ที่ได้รับเชื้อนี้ไปประมาณ 1-2 วัน จะมีอาการปวดท้อง เป็นตะคริว และมีอาการท้องร่วง บางครั้งอาจมีเลือดปน

วิธีการกินเนื้อวัวดิบอย่างปลอดภัย
เชื้อแบคทีเรียเป็นเชื้อโรคที่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และยังเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอาหารเป็นพิษ ซึ่งวิธีเก่าแก่สำหรับการรับประทานเนื้อดิบอย่างปลอดภัยคือ การรับประทานเนื้อดิบที่มีความสด ไม่ปล่อยทิ้งไว้นาน อย่างเช่น ในเลบานอน หากจะทำเมนู Kibbe จะต้องเชือดคอแกะแล้วนำเนื้อมาปรุงในทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณปลิดภัยสำหรับการบริโภคเนื้อดิบคือ เลือกซื้อในร้านที่มีความสะอาด ปลอดภัย มีมาตรฐานรับรอง เมื่อซื้อแล้ว ไม่ควรปล่อยทิ้งเนื้อไว้นอกตู้เย็นนานเกินไป ควรแช่ตู้เย็นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันการก่อตัวและการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แต่อย่างไรก็ตามการบริโภคเนื้อที่ปรุงสุกนั้นจะมีความปลอดภัยต่อสุขภาพมากที่สุด


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ทุเรียน ราชาแห่งไม้ผล เน้นตลาดส่งออก
ทุเรียน ราชาแห่งไม้ผล เน้นตลาดส่งออก
ทุเรียน จัดเป็นราชาไม้ผล ที่ใครๆ ต่างยกให้เป็นที่หนึ่ง มีความต้องการในการบริโภคสูง อีกทั้งมีตลาดรองรับทั้งภายในประเทศและตลาดส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันพื้นที่ปลูกทุเรียนทั่วประเทศ มีประมาณ 1_199_895.64 ไร่ (ข้อมูลระบบสารสนเทศการผลิตทางด้านการเกษตร วันที่ 22 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565)

โดยทุเรียนมีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2564 ประเทศไทยมีการส่งออกทุเรียนสูงถึง 925,855 ตัน (ข้อมูล:กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร ข่าว : มิถุนายน 65) โดยประเทศจีนเป็นตลาดหลัก ตามด้วย ฮ่องกง เวียดนาม ไต้หวัน มาเลเซีย และอีกหลาย ๆ ประเทศ

ทุเรียนเกรดส่งออก คุณภาพดี

ทุเรียนเกรดส่งออกจะแบ่งเป็น เกรดเอ บี และซี สำหรับทุเรียนที่ตกเกรดจะไม่สามารถส่งออกได้ จึงจำหน่ายภายในประเทศเท่านั้น ดังนั้นพี่น้องชาวสวนทั้งมือเก่าและมือใหม่ควรให้ความสำคัญเรื่องการจัดการและพัฒนาการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพดี เกรดเอ มีจำนวน 4-5 พูเต็ม ตรงตามสเปคทุเรียนส่งออก เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวสวนทุเรียน

สวนทุเรียนคุณภาพ ที่มีการจัดการอย่างมืออาชีพ

เทคนิคการปลูกทุเรียนให้ได้คุณภาพดี อย่างมืออาชีพ

1. สภาพดินที่เหมาะกับการปลูกทุเรียน

ทุเรียนเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขัง ดินที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกควรเป็นดินร่วนที่สามารถระบายน้ำได้ดี มีค่าความเป็นกรดด่าง(pH) ประมาณ 5.5 - 6.5 สำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตควรอยู่ในช่วง 25-30 องศาเซลเซียส โดยมีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศประมาณ 75 - 85 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ควรมีแหล่งน้ำที่เพียงพอในการเพาะปลูกตลอดปี การวางแปลงปลูกทุเรียน ระยะ 8x10 เมตร

2. การจัดเตรียมพื้นที่ และการดูแลต้นทุเรียนปลูกใหม่

การเตรียมพื้นที่ปลูกทุเรียนควรเริ่มจากการปรับพื้นที่ให้สม่ำเสมอ หรือมีความลาดเอียงเล็กน้อย เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี เนื่องจากต้นทุเรียนไม่ชอบน้ำขัง ส่วนระยะห่างระหว่างแถวที่เหมาะสมคือ 8X10 เมตร และระหว่างต้น (บนหลังเต่า) คือ 8X8 เมตร โดยการจัดระยะห่างแบบนี้ จะสามารถนำรถและเครื่องจักร รวมถึงเทคโนโลยีในการเพาะปลูกทางการเกษตรมาใช้ เพื่อทุ่นแรงและให้ง่ายต่อการทำงานมากยิ่งขึ้น

สำหรับทุเรียนปลูกใหม่ เมื่อเตรียมแปลงเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้ปลูกแบบยกโคก เพื่อช่วยให้ต้นทุเรียนที่พึ่งลงปลูกใหม่โตเร็ว การปลูกแบบยกโคกคือ การพูนดินขึ้นให้สูงกว่าระนาบ จะช่วยให้รากของต้นทุเรียนอยู่ที่ดินชั้นบนๆ เมื่อใส่ปุ๋ยลงไปจะช่วยให้รากดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญจะช่วยให้น้ำระบายได้ดี ไม่ท่วมขังบริเวณโคนต้น ที่เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

นอกจากนี้ควรเตรียมวางแผนเรื่องระบบน้ำ ไปพร้อมกับการเตรียมพื้นที่ลงปลูก เพื่อง่ายต่อการจัดการ ส่วนในขั้นตอนการเลือกต้นกล้าทุเรียน ควรเลือกต้นที่มีระบบรากดี ไม่ขดงอหรืออยู่ในถุงเพาะชำเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ต้นทุเรียนโตช้า และควรสร้างร่มเงาหรือพรางแสงให้ต้นทุเรียนปลูกใหม่ โดยเฉพาะในช่วงทุเรียนระยะต้นเล็กไม่ให้รับแสงมากจนเกินไป

สำหรับการบำรุงทุเรียนปลูกใหม่ ช่วงอายุระหว่าง 1-3 ปี แนะนำใส่ปุ๋ย สูตร 16-16-16 อัตรา 500 กรัม ต่อ 1 ต้น ใส่เดือนละครั้ง โดยสามารถใส่ปุ๋ยในอัตราที่เพิ่มขึ้น ตามการเจริญเติบโตของลำต้น และทรงพุ่ม เพื่อบำรุงให้ต้นทุเรียนสมบูรณ์

การบำรุงทุเรียนตามระยะการเจริญเติบโต

ขั้นตอนการบำรุงต้นทุเรียนทางดิน ให้ ทุเรียน ได้คุณภาพดี เกรดเอ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิต

ระยะฟื้นต้นหลังเก็บผลผลิต และทำชุดใบให้ต้นทุเรียนสมบูรณ์

หลังจากเก็บผลผลิตทุเรียนเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการฟื้นต้นให้สมบูรณ์ เนื่องจากต้นทุเรียนจะถูกดึงธาตุอาหารต่างๆ ไปใช้ในการเลี้ยงผล จึงจำเป็นต้องบำรุงต้นให้กลับมาสมบูรณ์ ก่อนเข้าสู่ระยะทำใบชุดแรก โดยจะทำใบทั้งหมด 3 ชุด โดยแต่ละชุด ใช้เวลาประมาณ 45 วัน เพื่อให้ต้นทุเรียนให้สมบูรณ์ที่สุด แนะนำใส่ปุ๋ย สูตร 16-16-16 อัตรา 1.5-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ทุกๆ 20-30 วัน เม็ดปุ๋ยละลายง่าย ช่วยฟื้นต้นได้ไว และทำให้ใบกว้าง ใบเขียวเข้มและเขียวนาน

ระยะสะสมอาหารในต้นทุเรียน

การบำรุงระยะที่ 2 เป็นระยะที่ต้นทุเรียนสะสมอาหาร โดยต้นจะสะสมอาหารไว้ เมื่อสภาพอากาศมีอุณภูมิที่เหมาะสม ความชื้นที่พอดี ต้นก็จะแตกตาดอก ถือเป็นช่วงสำคัญของการทำสวนทุเรียน จึงควรเน้นบำรุงธาตุฟอสฟอรัส(P) และธาตุโพแทสเซียม(K) พร้อมกันในระยะนี้ โดยแนะนำใส่ปุ๋ยสูตร 9-25-25 อัตรา 1.5-2 กิโลกรัม/ต้น ความถี่ทุกๆ 15-20 วัน เพื่อช่วยสะสมอาหาร เพิ่มความสมบรูณ์ของต้น ในการสร้างตาดอก และออกดอกที่สมบูรณ์ต่อไป

ระยะติดดอกของต้นทุเรียน

หลังจากที่ต้นแตกตาดอก ก็จะเข้าสู่ช่วงการติดดอกทุเรียน จะมีการเจริญเติบโตและพัฒนาหลายระยะในช่วงดอก เป็นช่วงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ อาจเกิดปัญหาดอกร่วง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ติดดอกไม่สมบูรณ์ พรืออากาศแปรปรวน แนะนำใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 9-25-25 อัตรา 1.5-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ทุกๆ 15-20 วัน เพื่อสะสมอาหาร ให้ต้นทุเรียน มีความสมบูรณ์ เพิ่มความแข็งแรง ให้ดอกทุเรียนมีการพัฒนาและเจริญเติบโตได้ดี

ระยะทุเรียนติดผลเล็ก (อายุ 30 วัน)

หลังจากที่ดอกทุเรียนมีการผสมเกสรเรียบร้อย ดอกทุเรียนจะเหลือแต่เกสรตัวเมียที่ติดอยู่ที่ต้น ปลายเกสรจะเริ่มแห้งเหมือนไหม้ หรือที่เรียกว่าดอกทุเรียนระยะหางแย้ จะเข้าสู่การติดผลเล็ก และจะพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนถึงระยะผลไข่ไก่ แนะนำเริ่มบำรุงเมื่อทุเรียนอายุ 30 วัน โดยใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-24 อัตรา 1.5-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ทุกๆ 15 วัน เพื่อช่วยบำรุงผลทุเรียนให้สมบูรณ์

ระยะทุเรียนขยายผล (อายุ 45-90 วัน)

ผลทุเรียนจะมีการเจริญเติบโตและพัฒนาใหญ่ขึ้นตามลำดับ จนเข้าสู่ระยะกระป๋องนม ต้องเร่งการบำรุงโดยเน้นการขยายผล สร้างเนื้อ เบ่งพู ให้ทุเรียนมีคุณภาพ แนะนำใส่ปุ๋ยย สูตร 15-9-20 อัตรา 1.5-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ทุกๆ 15 วัน เพื่อพัฒนาให้เป็นทุเรียนเกรดเอ ได้ไซด์ ทรงสวย พูเต็มต่อไป

ระยะทุเรียนก่อนเก็บเกี่ยว (อายุ 90-120 วัน)

การบำรุงช่วงสุดท้ายก่อนทำการเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นช่วงที่เน้นการบำรุงเพื่อเพิ่มคุณภาพให้ทุเรียน แนะนำใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 13-13-24 อัตรา 1.5-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ทุกๆ 15 วัน เพื่อช่วยเรื่องรสชาติที่อร่อย การเข้าสีสวย พูเต็ม ได้น้ำหนักดี ตามที่ตลาดต้องการ

การปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิตเกรดเอ เน้นตลาดส่งออกเพื่อเพิ่มมูลค่านั้น ต้องมีการดูแลและเอาใจใส่ทุกขั้นตอนที่สำคัญ ตั้งแต่การเตรียมแปลง การดูแลต้นทุเรียนปลูกใหม่ ตลอดจนการบำรุงธาตุอาหารทางดินให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อให้ต้นได้นำไปเลี้ยงลูกทุเรียนได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ทุเรียนเกรดเอ คุณภาพดี ตามที่ตลาดส่งออกต้องการ


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
รู้หรือยัง! การขอ อย. ขั้นตอนและหลักฐานที่สำคัญ
รู้หรือยัง! การขอ อย. ขั้นตอนและหลักฐานที่สำคัญ
การทำธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับ เรื่องของกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดก็ตามจะต้องมีกฏหมายและมีมาตรฐานของธุรกิจนั้นๆที่ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้เข้ามาหากำไรจากการขายสินค้าและบริการที่ไม่มีคุณภาพอันจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะในหมวดหมู่ของอาหารเราจะคุ้นหูและรู้จักกันดีกับหน่วยงานที่เรียกว่าสำนักคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขผู้มีหน้าที่ให้การรับรองแก่สินค้าประเภทอาหารในลักษณะของเครื่องหมาย อย.

คำถามคือว่าแล้วจำเป็นแค่ไหนที่หากเราจะทำธุรกิจอาหารขึ้นมาจะต้องขออนุญาติทุกครั้งไปหรือไม่ และเพื่อให้ทุกคนเข้าใจในเรื่องนี้ตรงกันจะพาทุกท่านไปดูทีละขั้นตอนกับบทนิยมแห่งคำว่าอาหารไปจนถึงขั้นตอนการขอใบอนุญาต เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินธุรกิจของทุกคน นิยามคำว่าอาหารตามพระราชบัญญัติ อาหาร ในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 หมายถึง วัตถุทุกชนิดที่คนกิน ดื่ม หรือนำเข้าสู่ร่างการ แต่ ไม่รวมถึงยา วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หรือยาเสพติดให้โทษ

นอกจากนี้อาหารยังรวมถึงวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหาร วัตถุเจือปนอาหาร สี เครื่องปรุงแต่งกลิ่นรสด้วย โดยปัจจุบันนี้ประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ ได้รวมตัวกันเป็นชมรมหรือสหกรณ์ นำวัตถุดิบที่ได้จากการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อบริโภคหรือจำหน่ายเป็นการช่วยลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ เช่น เครื่องดื่มทำจากผลไม้ท้องถิ่น เครื่องดื่มจากสมุนไพร กะปิ น้ำปลา ขนมหวาน อาหารขบเคี้ยว เป็นต้น

ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะต้องสะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพหรือมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ผู้ผลิตอาจต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายต่อไปซึ่งก็มีคำถามตามมาอีกว่าอ้าว! แล้วอาหารแบบไหนละที่ต้องขออนุญาตในการผลิต โดยในที่นี้ได้แบ่งไว้เป็น 2 หมวดหลักๆคือ 1.กลุ่มอาหารที่ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. อาหารกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ไม่แปรรูปหรือถ้าแปรรูปก็จะใช้กระบวนการผลิตง่าย ๆ ในชุมชน ผู้บริโภคจะต้องนำมาปรุงหรือผ่านความร้อนก่อนบริโภค อาหารกลุ่มนี้ผู้ผลิตที่มีสถานที่ผลิตไม่เข้าข่าย โรงงาน (ใช้อุปกรณ์หรือเครื่องจักรต่ำกว่า 5 แรงม้า หรือคนงานน้อยกว่า 7คน) สามารถผลิตจำหน่ายได้โดยไม่ต้องมาขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แต่ต้องแสดงฉลากอาหารที่ถูกต้องไว้ด้วย 2.กลุ่มอาหารที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. อาหารกลุ่มนี้เป็นอาหารที่มีการแปรรูปเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรืออาหารสำเร็จรูปแล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้บริโภคในระดับต่ำ ปานกลางหรือสูง แล้วแต่กรณี ได้แก่

อาหารที่ต้องมีฉลาก อาหารกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน หรืออาหารควบคุมเฉพาะ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องขออนุญาตสถานที่ผลิตอาหารและขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร หรือจดทะเบียนอาหาร หรือแจ้งรายละเอียดของอาหารแต่ละชนิดแล้วแต่กรณี ได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

เอกสารสำคัญที่ต้องจัดเตรียมเพื่อขอจัดตั้งโรงงาน/สถานที่ผลิต สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจ สำเนาทะเบียนบ้านผู้มีอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (เฉพาะกรณีเป็นนิติบุคลล) สำเนา ภพ.20 (เฉพาะกรณีเป็นนิติบุคคล) สำเนาทะเบียนบ้านของร้าน หรือบริษัท (กรณีที่อยู่ดังกล่าว ไม่ตรงกับที่อยู่ผู้มีอำนาจ) แผนที่ตั้งของร้าน หรือบริษัท แผนผังภายในร้าน หรือบริษัท ระบุ สถานที่ผลิต_ บรรจุ_ เก็บสินค้า ให้ชัดเจน สินค้าตัวอย่างพร้อม ฉลาก ภาพจาก goo.gl/aLQjA8 อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตผลิตอาหาร ใช้คนงานตั้งแต่ 7 -19 คน โดยไม่ใช้เครื่องจักร จนถึงเครื่องจักรไม่ถึง 5 แรงม้า (เข้าข่ายโรงงาน) 3_000 บาท ใช้คนงานตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป โดยไม่ใช้เครื่องจักรจนถึงเครื่องจักรไม่ถึง 5 แรงม้า (เข้าข่ายโรงงาน) 5_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 5- 91 แรงม้า 6_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 10 -24 แรงม้า 7_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 25 – 49 แรงม้า 8_000 บาท ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ 50 แรงม้า ขึ้นไป 10_000 บาท

สำหรับกรณีไม่เข้าข่ายโรงงาน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น (ฟรี) หลักฐานสำคัญเพื่อใช้ขอรับเลขสารบบอาหาร (อย.) ใบจดทะเบียนอาหาร/แจ้งรายละเอียดอาหาร (แบบ สบ.5) จำนวน 2 ฉบับ สำเนาการได้รับอนุญาตตั้งสถานที่ผลิต ใบรับรองสถานที่ผลิตอาหารที่เทียบเท่าเกณฑ์ Primary GMP ภาพจาก goo.gl/kh2tba สรุป 4 ขั้นตอนการขอเครื่องหมาย อย. จัดเตรียมสถานที่ผลิตอาหารให้ได้ตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP: GOOD MANUFACTURING PRACTICE) จัดเตรียมเอกสารโดยติดต่อขอข้อมูลได้ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอที่เป็นที่ตั้งของสถานที่ผลิตอาหารทุกแห่ง ยื่นเอกสารขออนุญาตตั้งสถานที่ผลิตอาหาร พร้อมนัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อตรวจสถานที่ ยื่นขอเอกสารอนุญาตขอรับเลขสารบบ 13 หลัก (เลข อย.) ตามแต่ชนิดของผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่ม ได้แก่ อาหารควบคุมเฉพาะ_ อาหารที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน และอาหารที่ต้องมีฉลาก สถานที่ยื่นคำขออนุญาต

ในกรณีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ (0ne stop service center )สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรณีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นคำขอ ณ สำนักงานสาธารณสุขในจังหวัดนั้นๆ นี่คือเรื่องพื้นฐานในทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่สันทัดในการเดินเอกสารก็มีหลายบริษัทที่เข้าทำหน้าที่รับดำเนินการแทน แต่เราก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายทางที่ดีเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากทำเองก็จะช่วยลดต้นทุนได้ดีกว่าสำคัญคือสินค้าเรามีคุณภาพสถานที่ผลิตได้มาตรฐานทุกอย่างก็ผ่านอนุมัติง่ายและเร็วแน่นอน แต่สำหรับท่านใดที่มองว่าอยากเริ่มธุรกิจแบบที่ไม่ต้องยุ่งยากไม่ต้องขอจดทะเบียนให้วุ่นวายก็อาจจะเลือกลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ซึ่งเรามีให้เลือกมากมายตามความต้องการของทุกท่าน

ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ตรวจสอบได้อย่างไร? ผลิตภัณฑ์กัญชา ที่เป็น กัญชาถูกกฎหมาย
ตรวจสอบได้อย่างไร? ผลิตภัณฑ์กัญชา ที่เป็น กัญชาถูกกฎหมาย
ตรวจสอบได้อย่างไร? ผลิตภัณฑ์กัญชา ที่เป็น กัญชาถูกกฎหมาย
เมื่อ กัญชา และ กัญชง ถูกปลดล็อคออกจากทะเบียนยาเสพติด จากนี้ไปเราน่าจะเห็นผลิตที่มาจากกัญชาหลากหลายชนิด

แม้ในวันนี้ผู้ปลูกกัญชาจะไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องจดแจ้งผ่านระบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ปลูกกัญ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ถึงเช่นนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการผลิต ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากกัญชาและกัญชง ก็ยังต้องมีการขออนุญาตขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพรกัญชา ที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบอยู่เช่นเดิม

สำหรับผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ก็ย้ำเตือนว่า ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาที่ลักลอบผลิตหรือนำเข้าเนื่องจากมีความเสี่ยงอันตรายด้านสุขภาพ และการได้รับกัญชาจากแหล่งที่ผิดกฎหมายอาจถูกดำเนินคดีอาญาได้ดังนั้นจึงควร ตรวจสอบผลิตภัณฑ์กัญชา ที่จะใช้ก่อน

ทั้งนี้เพราะผลิตภัณฑ์กัญชาที่ลักลอบผลิตหรือนำเข้าส่วนใหญ่ไม่ทราบแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ไม่ได้ระบุสถานที่ผลิต ไม่ได้ระบุความเข้มข้นหรือปริมาณสารออกฤทธิ์ที่ชัดเจน การผลิตไม่เป็นไปตามหลักการผลิตที่ดี ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ อีกทั้งอาจปนเปื้อนสารกำจัดศัตรูพืช โลหะหนัก เชื้อรา จุลินทรีย์ หรือสารปนเปื้อนอื่นๆ ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์กัญชาที่ถูกกฎหมายซึ่งมีมาตรฐานการผลิตเป็นไปตามข้อกำหนดที่เข้มงวด และมีความสม่ำเสมอในทุกรุ่นการผลิต

วิธีตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์กัญชา
ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตและจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย จะมี 2D Barcode กำกับบนฉลากที่ติดอยู่บนภาชนะบรรจุ และมีรหัสบ่งชี้ที่เป็นหมายเลขของแต่ละหน่วยภาชนะบรรจุที่ไม่ซ้ำกันเลยเรียกว่า Serial Number

ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตถูกกฎหมายหรือไม่ โดยการสแกน 2D Barcode ผ่านทาง Smartphone โดย ดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น gs1 smartbar ทั้งระบบ IOS และ Androids ซึ่งหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายระบบจะแสดงรูปภาพและข้อมูลรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ หากเป็นผลิตภัณฑ์ไม่ถูกต้องตาม กฎหมาย ระบบจะแสดงข้อมูลเป็นสีแดง กรุณาแจ้งสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยาเพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

แนะใช้ กัญชาทางการแพทย์
นอกจากนี้ เฟสบุ๊คกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ยังให้คำแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์เพื่อความปอลดภัยของผู้ป่วยได้แก่

1.รักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ก่อน

2.ไม่ใช้หากอายุน้อย แนะนำอายุมากกว่า 25 ปี

3.ใช้กัญชาอัตราส่วน CBD: THC สูง

4.ไม่ใช้กัญชาสังเคราะห์

5.ไม่ใช้การสูบแบบเผาไหม้

6.หากสูบ ไม่อัดควันเข้าปอด

7.ใช้อย่างระวัง

8.งดขับรถ

9.งดใช้ หากในครอบครัวมีประวัติจิตเวช

10. หลีกเลี่ยงการใช้ หากมีปัจจัยเสี่ยง


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ขุมทรัพย์ใหม่ กัญชา-กัญชง ต่อยอดนวัตกรรมสินค้าธุรกิจไทยยุคโควิด
ขุมทรัพย์ใหม่ กัญชา-กัญชง ต่อยอดนวัตกรรมสินค้าธุรกิจไทยยุคโควิด
หลังจากพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับที่ 7 พ.ศ. 2562 ที่ผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 62 โดยได้เปิดช่องให้กัญชา และพืชกระท่อม นำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และปลดล็อกให้นำส่วนต่างๆ ของกัญชาและกัญชง ยกเว้นช่อดอกและเมล็ดไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้โดยไม่ถือว่าเป็นยาเสพติด ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.63 นั้น

ได้สร้างความชุ่มฉ่ำใจให้ธุรกิจหลากหลาย ที่กำลังตระเตรียมนำสารสกัดจากกัญชาและกัญชงไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ คึกคัก ร้อนแรงถึงขนาดที่ว่าบริษัทไหน แบรนด์ใด โดยเฉพาะที่กระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกข่าวการลงทุนพัฒนาสินค้าเกี่ยวกับกัญชา กัญชง ราคาหุ้นในตลาดฯ ก็จะปรับตัวขึ้นในทันที

ข้อมูลล่าสุดจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุ ขณะนี้มีผู้ประกอบการยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตร และอนุสิทธิบัตร ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชงแล้ว 31 คำขอ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ 6 คำขอ_ ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร ที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ 4 คำขอ_ เวชภัณฑ์ที่มีสารสกัดเป็นสารออกฤทธิ์ 3 คำขอ_ เครื่องจักรและกรรมวิธีการสกัดจากกัญชา 11 คำขอ_ อุปกรณ์หรือชุดทดสอบสารสกัดจากกัญชา 3 คำขอ_ ผลิตภัณฑ์ปล่อยสารระเหยจากกัญขา 2 คำขอ และผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้านที่มีกัญชงเป็นองค์ประกอบ 2 คำขอ โดยล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับจดทะเบียนและออกอนุสิทธิบัตรไปแล้ว 2 คำขอ คือ กระถางผ้าเพาะปลูก และชุดเครื่องจักรสกัดน้ำมันกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

อย่างไรก็ตาม นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมอาหารสำเร็จรูป เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มหลายราย เริ่มทยอยยื่นคำขอจดสิทธิบัตรอาหารและเครื่องดื่มต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว แต่กว่าจะผลิตอาหารและเครื่องดื่มออกขายได้จริง ต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ออกระเบียบเกี่ยวกับการกำหนดปริมาณของสารในกัญชาและกัญชง ที่จะใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม เพราะผู้บริโภคแต่ละคน สามารถรับสารที่ให้ความเมาในกัญชาและกัญชงได้ไม่เท่านั้น บางคนรับได้นิดเดียวก็เมาแล้ว แต่บางคนรับได้มากกว่า อย.จึงต้องกำหนดปริมาณการใช้ให้ชัดเจน

แต่กัญชงน่าจะนำมาทำอาหารและเครื่องดื่มได้ง่ายกว่ากัญชา เพราะมีปริมาณสารที่ให้ความเมาน้อยกว่ากัญชา สำหรับการใช้ใบสด ขณะนี้ เริ่มเห็นร้านอาหาร ร้านเบเกอร์รี่ ร้านขนม นำใบกัญชามาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่มบ้างแล้ว คาดว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และน่าจะทำให้มูลค่าตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีพืช 2 ชนิดนี้เป็นส่วนผสม เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากมูลค่าตลาดรวมอาหารและเครื่องดื่มในประเทศ

ข้อมูลจากบริษัท สเปเชียลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (SNP) ผู้ผลิตสารสกัดสมุนไพรที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ระบุ กัญชาและกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะกัญชง ซึ่งปัจจุบันมีการปลดล็อกเปิดโอกาสให้เอกชนสามารถขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองได้

สเปเชียลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ ให้ข้อมูลว่า กัญชง (Hemp) สามารถนำมาใช้ประโยชนได้ทุกส่วนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้มากมายหลากหลาย เริ่มตั้งแต่อุตสาหกรรมสิ่งทอที่นำเส้นใยมาผลิตเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และยังสามารถนำไปใช้ใน อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ผลิตเยื่อกระดาษ วัสดุหีบห่อ ไบโอพลาสติก ทำอิฐหรือคอนกรีตสำหรับงานก่อสร้าง ทำส่วนประกอบรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ อาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพและความงาม เป็นต้น

นอกจากนั้น น้ำมันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) ยังสามารถใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม บำรุงสุขภาพ เนื่องจากในน้ำมันเมล็ดกัญชง มีโอเมก้า 3_ 6 และ 9 ซึ่งช่วยซ่อมแซมผิวและเสริมสร้างเกราะป้องกันให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

โอเมก้าในน้ำมันกัญชงยังช่วยลดการอักเสบของผิวได้ ลดการเกิดของสิว ช่วยปรับการสร้างน้ำมันของผิว ช่วยลดร้ิวรอยเหี่ยวย่น ชะลอวัย โดยสามารถนำมาผลิตเป็นเครื่องสำอางกัญชง สบู่น้ำมันเมล็ดกัญชง แชมพูน้ำมันเมล็ดกัญชง โลชั่นบำรุงผิว ลิปบาล์ม เซรั่มลดเลือนริ้วรอย เจลแต้มสิว และครีมรักษาโรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น

นอกจากประโยชนด้านความงามแล้ว น้ำมันจากเมล็ดกัญชง ยังสามารถนำมาปรุงอาหาร และใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากน้ำมันจากเมล็ดกัญชง มีโอเมก้า - 6 สูงมาก เทียบได้กับ Chia Seed หรือ Flax Seed นอกจากนั้นยังมีโอเมก้า -3_ linoleic acid และ oleic acid รวมไปถึงสารในกลุ่มวิตามินที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งวิตามินอีและโอเมก้า รวมไปถึงโปรตีน จึงสามารถนำไปทำเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น คุกกี้ ขนมปัง เบียร์ ไวน์ ซอส น้ำมันพืช ชีส เนย นม ไอศกรีม น้ำมันสลัด เต้าหู้ โปรตีนเกษตร

ส่วนในอุตสาหกรรมการเกษตร สามารถนำไปทำเป็นปุ๋ย อาหารสัตว์ หรือผลิตเป็นพลังงานชีวมวลในรูปแบบต่างๆ เช่น ถ่านไม้ แอลกอฮอล์ น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ขณะที่แกนของต้นกัญชง มีคุณสมบัติดูดซับกลิ่น น้ำ หรือน้ำมัน จึงมีการปลูกต้นกัญชงเพื่อดูดซับกัมมันตภาพรังสีอีกด้วย

กัญชง(Hemp)ต่างจากกัญชา(Marijuana)ตรงที่กัญชงมีสาร CBD (Cannabidiol)สูง แต่มีสารออกฤทธิ์กระตุ้นประสาทหรือสารเสพติด(Tetrahydrocannabinol:THC)น้อยมาก ขณะที่ในช่อดอกกัญชามีค่า THC ประมาณ 1-10% แต่ในกัญชงมีค่า THCประมาณ 0.3%

CBD ไม่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท การบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มี CBD จึงไม่ทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มและจิตใจเลื่อนลอย CBD ยังถูกนำมาใช้ในการรักษาโรค บรรเทาอาการเจ็บป่วย ต่างๆ เช่น ทำให้ผู้ป่วยอยากอาหารมากขึ้น ลดความวิตกกังวล ทำให้หลับได้ดี บรรเทาอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบและระงับอาการคลื่นไส อ้าเจียน โดย CBD นั้น สกัดมาจากต้นกัญชงเพศเมีย

สเปเชียลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ เปิดเผยผลการวิจัยว่า CBD มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์มากมาย สาร CBD จะมีฤทธิ์ในการต้านและลดอาการปวด ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง รวมถึงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย จึงสามารถนำไปใช้กับผู้ที่มีอาการเครียด ซึมเศร้า วิตกกังวล ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอน ผู้ที่มีอาการอักเสบในร่างกาย ไมเกรน รวมทั้งผู้มีปัญหาเรื่องผิวหนัง สามารถลดอาการแพ้ ผื่นแดง สะเก็ดเงิน นอกจากนั้นยังช่วยผู้ที่มีอาการลมชัก ผู้ที่ต้องการเลิกเหล้า

เครื่องสำอางแบรนด์ไทย-เทศคึกคัก
ในระดับโลก บิ๊กแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำหลากหลายแบรนด์ ต่างออกผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจากกัญชา-กัญชง เร่ิมจากเอสเต ลอเดอร์ (Estee Lauder) ซึ่งเปิดตัวมาสก์หน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดกัญชง ภายใต้แบรนด์ออริจินส์ (Origins) เมื่อปลายปี 2561 ขณะที่ลอรีอัล (Loreal) วางจำหน่ายโลชั่น ครีมนวดผม ลิปบาล์ม มอยส์เจอไรเซอร์ เช่นเดียวกับคีลส์ (Kiehl’s) วางจำหน่ายน้ำมันบำรุงผิวหน้า ด้วยสรรพคุณลดรอยแดงและรักษาความชุ่มชื้น

ส่วนในประเทศไทย น.ส.นันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดู เดย์ ดรีม จำกัด(มหาชน)ผู้หรือ DDD ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สเนลไวท์ อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมเลอซาช่าและยาสีฟันสปาร์คเคิล เปิดเผยว่า ดูเดย์ดรีมมองการเปิดตัวสินค้าจากน้ำมันเมล็ดกัญชงอย่างเร็วภายในกลางปีนี้ แต่ทั้งหมดทั้งปวง ต้องมีความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะดีที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง จึงจะไม่รีบร้อนหากยังไม่พร้อมเต็มที่ และจำเป็นต้องผ่านการอนุมัติจากภาครัฐให้ถูกต้องครบถ้วน

โดยเบื้องต้นผลิตภัณฑ์ที่น่าจะเปิดตัวได้เป็นกลุ่มแรก ๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งจะครอบคลุมทั่วร่างกายทั้งผิวหน้า ผิวตัว ผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผม ครอบคลุมทุกโปรดักส์ไลน์ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โดยเชื่อว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้อย่างแน่นอน ด้วยสรรพคุณที่หลากหลายของน้ำมันเมล็ดกัญชง ซึ่งช่วยลดการอักเสบได้ดี

ด้านนายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY เปิดเผยว่า มีแผนจะพัฒนา 4 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดจากกัญชง คือ 1. Whitening Gel Cream : ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเพื่อความขาวกระจ่างใส 2. Dietary Supplement for Sleep Well Plus Omega : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยในการนอนหลับและคลายเครียด 3. Organic Tea : ผลิตภัณฑ์ชากัญชงช่วยในการผ่อนคลายและลดความเครียดวิตกกังวล 4. Organic Tea Plus Detox ผลิตภัณฑ์ชาชงช่วยดีท็อกของเสียที่ตกค้างในระบบดูดซึมสารอาหาร เตรียมผลักดันออกจำหน่ายสู่ตลาดทั้งใน และ ต่างประเทศ ภายในช่วงครึ่งหลังปี 2564

ขณะที่ นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า กำลังพัฒนาแบรนด์สินค้าใหม่ในหลากหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยนำกัญชงมาเป็นวัตถุดิบ วางเป้าหมายเปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากกัญชงหลากหลายรายการ ที่ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มีความโดดเด่นและแตกต่าง ภายในปีนี้

ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม เป็นอีกหนึ่งเซกเตอร์ที่มีความเคลื่อนไหวต่อการเปิดเสรีกัญชา-กัญชงอย่างมาก เริ่มจาก นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO) เปิดเผยว่า คาดว่าจะออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำผลไม้ ที่มีส่วนผสมของกัญชงได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้

ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างรอประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการให้อนุญาตให้นำส่วนผสมของกัญชงมาใส่ในอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นรูปแบบสำเร็จรูปหรือแบบปิดฝาก่อน อย่างไรก็ตามในส่วนของส่วนผสมในเครื่องดื่ม ที่มีการจำหน่ายหน้าร้านสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากกฏหมายอนุญาตแล้ว ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะประเดิมเปิดสาขาแรก ที่ร้าน Squeeze สาขาเซ็นทรัลเวิร์ล

บริษัทยังมีแผนดำเนินการธุรกิจกัญชงในส่วนต้นน้ำและกลางน้ำเพิ่มเติมในอนาคต โดยขออนุญาตในการปลูกและสร้างโรงสกัด ซึ่งมีพื้นที่รองรับในการปลูกกัญชงได้ประมาณ 5_000 ไร่ รวมถึงมีแผนที่จะจัดตั้งโรงสกัดเป็นของตนเอง หลังจากปัจจุบันเครื่องสกัดของบริษัทมีกำลังการผลิตเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตามเบื้องต้นปริมาณการใช้ส่วนผสมของกัญชงยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย ส่งผลให้บริษัทใช้วิธีการรับซื้อวัตถุดิบจากพันธมิตรมาเป็นส่วนผสมในการไปผลิตผลิตภัณฑ์แทนไปก่อน

ด้านบทวิเคราะห์ของบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุ บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน)หรือ OSP เจ้าตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง M-150 มีการศึกษาการใช้กัญชงตั้งแต่ปี 2562 ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มและสินค้าของใช้ส่วนบุคคล โดยมีหลายโครงการและมีความพร้อมในการผลิต แต่ยังรอข้อกฎหมายที่มีความชัดเจน ซึ่งอาจเป็นปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

นายชินวิทย์ เลิศบรรณพงษ์ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE กล่าวยอมรับว่ามีความสนใจเกี่ยวกับการปลดล็อกกัญชง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายธุรกิจในส่วนนี้ ทั้งในเรื่องของการสารสกัดซีบีดี (Cannabidiol :CBD) จากเมล็ดกัญชง_ และส่วนต่างๆ ที่ไม่ใช่ยาเสพติด แต่ต้องศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มและไม่ใช่เครื่องดื่ม

ส่วนการจะเข้าไปขออนุญาตนั้น บริษัทยังอยู่ในการพิจารณา ทั้งนี้หากบริษัทมีซัพพลายกับผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตแล้ว ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องมีการขอใบอนุญาตอีก หากบริษัทดำเนินการในส่วนนี้สำเร็จ ก็จะเป็นส่วนมาช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทในอนาคต

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เจ้าของตู้เติมเงิน บุญเติม เปิดเผยว่า สนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาให้บริการด้านธุรกิจปลายน้ำ ซึ่งอาจจะใส่วัตถุดิบดังกล่าวในเครื่องดื่มขายผ่านตู้อัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูเงื่อนไขจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ถึงการทำธุรกิจปลายน้ำก่อน

การเอาส่วนผสมกัญชงมาใส่ในเครื่องดื่มอัตโนมัติ ในทางปฎิบัติเราทำได้ทันทีอยู่แล้ว แต่เราต้องขอรอดูความชัดเจนของเงื่อนไข อย.ก่อน ซึ่งตอนนี้เรามาโฟกัสในเรื่องการขยายจุดติดตั้ง และขยายตลาดตู้อัตโนมัติก่อน

อาหาร-ซอสปรุงรสกัญชงเกาะขบวน
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า  กำลังมองหาโอกาสการร่วมลงทุน ในธุรกิจส่วนประกอบโปรตีนทางเลือก (ingredient alternative protein) และอาหารทางการแพทย์ (Medical food) รวมทั้งศึกษาธุรกิจกัญชง ศึกษาน้ำมันจากกัญชง เมื่อกฎหมายมีความชัดเจน โดยอาจเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทูน่าในน้ำมันกัญชง

สำหรับปีนี้บริษัทวางงบลงทุน 6_000-6_500 ล้านบาท เป็นการลงทุนปกติ และลงทุนธุรกิจใหม่ แบ่งเป็น โครงการโปรตีนจากพืช 800 ล้านบาท โรงงานอาหารสำเร็จรูป 1_000 ล้านบาท และโครงการห้องเย็น

นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้ผลิตซอสปรุงรสยี่ห้อ Exotic เปิดเผยว่า ได้ทำการศึกษาตลาดและพัฒนาสูตรนำกัญชงมาผลิตซอสปรุงรส จับกระแสตลาดโลก ปัจจุบันสูตรผสมแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ แต่อยู่ระหว่างรอข้อกฎหมายชัดเจน จึงคาดว่าซอสกัญชงจะเข้ามาผลักดันมาร์จิ้นของบริษัทฯ ให้สูงขึ้นได้ และเป็นโอกาสขยายตลาดไปทั่วโลก

ขณะที่ นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทเตรียมรับรู้รายได้จากการออกผลิตภัณฑ์กัญชง-กัญชา เพิ่มเข้ามา โดยคาดว่าตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป บริษัทจะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับกัญชง-กัญชา ประมาณ 8 สินค้า ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ในปีนี้ได้ประมาณ 600-800 ล้านบาท โดยกลุ่มกัญชง-กัญชา เป็นสินค้าใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในแผนงาน ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ จาก 8 SKU ประมาณปีละ 2_000 ล้านบาท  

บริษัทร่วมมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำศึกษาและคิดค้นสูตรเพื่อนำกัญชงมาพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทั้งในส่วนของสกินแคร์_เครื่องดื่ม และอาหารเสริม รวมถึงมีการพูดคุยกับพันธมิตรที่เป็นผู้ปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์_โรงสกัด และผู้ผลิตไว้เรียบร้อยแล้ว บริษัทมีความพร้อมทั้งการผลิตและการจำหน่ายในทันทีหลังจากกระทรวงสาธารณสุขประกาศปลดล็อคกัญชงให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด โดยจะจัดจำหน่ายผ่าน อาร์เอส มอลล์ แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้า

ธุรกิจน้ำมัน-น้ำตาล-มือถือยังอดใจไม่ไหว
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทได้เจรจากับพันธมิตรที่ได้ยื่นขอใบอนุญาตทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว รวมถึงไปถึงขอความร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนเพื่อปลูกกัญชงมารองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

โดยคาดว่าจะสามารถออกผลิตภัณฑ์จากกัญชงเพื่อจัดจำหน่ายได้ในปลายไตรมาส 2 - 3 ของปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะถูกนำไปวางจำหน่ายในร้านค้าในเครือของบริษัท ทั้งร้านค้าปลีก ร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่ม เช่น MAX Mart _ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ร้านคอฟฟี่เวิลด์ เป็นต้น ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ

นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด(มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างหารือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อทำธุรกิจกัญชง ซึ่งบริษัทมีที่ดินอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวนมาก สามารถใช้ปลูกกัญชงได้ โดยขณะนี้มีการศึกษาตั้งแต่ต้นทางเพาะเมล็ดพันธุ์ ปลูก และสกัดน้ำมันกัญชง แต่กระบวนการยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาเท่านั้น

ส่วนบริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ ผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมทุนกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์ม ซึ่งเกี่ยวข้องการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชงและ/หรือกัญชาของรักจังฟาร์ม วังน้ำเขียว ซึ่งรายละเอียดของการร่วมทุน คือทางกลุ่มวิสาหกิจรักจังฟาร์มจะจัดตั้งบริษัท กัญช์ยารักษ์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชงและ/หรือกัญชา

โรงพยาบาลสบช่องเร่งต่อยอดธุรกิจ
นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) กับศูนย์วิจัยยาเสพติด วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสนับสนุนการเพาะปลูก วิจัย สกัด และตรวจวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพระดับ Medical Grade สามารถนำไปใช้ทางการแพทย์และจำหน่ายเชิงพาณิชย์ และยังส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านการศึกษาพืชกัญชงและกัญชาเพิ่มมากขึ้น

โดยพร้อมสนับสนุนด้านการจัดหาเทคโนโลยีในการจัดตั้งโรงสกัดสารจากกัญชาที่มีมาตรฐานในระดับการแพทย์ เพื่อนำไปสู่การออกใบรับรองมาตรฐานระดับ Medical Grade และการจัดหาเทคโนโลยีด้านการผสมสารสกัดจากพืชกัญชง กัญชา และการพัฒนาเวชภัณฑ์ยาเพื่อใช้ทางการแพทย์ รวมถึงดูแลด้านการตลาด และการจัดจำหน่าย

ขณะที่นายธีรพันธ์ ดิษยบุตร รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัทโรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับการสกัดกัญชง-กัญชา ว่าจะมีส่วนไหนนำมาใช้ได้ หรือมีเหตุผลทางวิชาการ หรืองานวิจัยรองรับหากมีข้อมูลที่ชัดเจน และเชื่อถือได้ โรงพยาบาลก็มีความพร้อมแน่นอน


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
กรมปศุสัตว์ เดินหน้า Animal Welfare สู่สินค้าปศุสัตว์มาตรฐานอาหารปลอดภัย
กรมปศุสัตว์ เดินหน้า Animal Welfare สู่สินค้าปศุสัตว์มาตรฐานอาหารปลอดภัย
ไทยตั้งเป้าหมายในการเป็น ครัวของโลก กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานที่อยู่เบื้องหลังการเดินหน้าผลักดันเป้าหมายนี้สู่ความสำเร็จ

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายังคงมีคำถามเกี่ยวกับสินค้าเกษตรปศุสัตว์ วันนี้ นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดคำตอบทุกประเด็นคำถาม โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ที่กรมปศุสัตว์มีกฎหมายควบคุมทั้งในสัตว์เลี้ยงและสัตว์ที่ใช้เป็นอาหารของมนุษย์

ยกตัวอย่างในการเลี้ยงไก่ไข่ ที่มีมาตรฐานฟาร์ม GAP เป็นหลักปฏิบัติสำหรับเกษตรกร ซึ่งโดยปกติแม้จะเลี้ยงไก่ในกรง แต่ก็มีข้อกำหนดว่าต้องเลี้ยงได้กี่ตัวต่อกรง เพื่อให้ไก่อยู่สบายไม่แออัด ขณะเดียวกัน กรมปศุสัตว์เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ในการเลี้ยงไก่ไข่แบบไม่ใช้กรงหรือ Cage Free ซึ่งเป็นรูปแบบการเลี้ยงที่กำลังเป็นที่นิยมและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับหลักสวัสดิภาพสัตว์ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเลี้ยงไก่นอกกรงตับ ภายใต้ระบบการปฏิบัติที่ดีทางการเกษตรสำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ 5 ประการ ได้แก่ อิสระจากความหิวกระหาย อิสระจากความไม่สบายกาย อิสระจากความเจ็บปวดและโรคภัย อิสระจากความกลัวและไม่พึงพอใจ และอิสระในการแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ นับเป็นการยกระดับมาตรฐานที่นำไปสู่มาตรฐานอาหารปลอดภัยให้กับคนไทย และผลักดันการพัฒนาสินค้าปศุสัตว์ทำให้ Cage Free egg เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภค

ที่ผ่านมาพบว่ามี NGOs บางกลุ่ม ที่พยายามบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ไข่ ด้วยการผลิตคลิปวีดีโอโดยใช้ภาพประกอบเป็น ภาพไก่ไข่ที่แออัดในกรงแคบๆ มีภาพไก่ที่อ่อนแอหรือมีปัญหาสุขภาพ รวมทั้งกระบวนการเลี้ยงที่โบราณไม่ต่ำกว่า 20-30 ปี แล้วนำมาแชร์ต่อๆกัน สร้างความเข้าใจผิดแก่สังคม และส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมไก่ไข่ ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันว่าการเลี้ยงไก่ไข่ในปัจจุบันนั้นมุ่งเน้นมาตรฐานฟาร์มและความปลอดภัยในอาหารเป็นสำคัญ

ขณะที่การเลี้ยงไก่เนื้อมีมาตรฐานฟาร์มและการดูแลสวัสดิภาพสัตว์กำกับอยู่ โดยมีข้อกำหนดว่าต้องเลี้ยงกี่ตารางเมตรต่อตัว เพื่อให้มีพื้นที่ให้ไก่ได้อยู่อาศัยกว้างขวาง มีระบบการจัดการแสงสว่างและชั่วโมงการพักผ่อนที่เหมาะสมประมาณ 6-8 ชั่วโมง เหมือนกับคน และมีเวลากิน เวลานอน มีเวลาเล่นคุ้ยเขี่ย ภายใต้การเลี้ยงในโรงเรือนปิดเพื่อป้องกันโรค ซึ่งเป็นหนึ่งในการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ และการที่ไก่อยู่ในโรงเรือนปรับอากาศได้ หรือที่เรียกว่าโรงเรือนอีแวป ที่มีอุณหภูมิเหมาะสมกับไก่ในแต่ละช่วงวัย ทำให้อยู่สบาย กินอาหารได้ดี เติบโตได้ตามความสามารถของสายพันธุ์ เมื่อไก่ไม่เครียด ไม่ป่วย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา เมื่อได้อายุไก่จะถูกขนส่งด้วยระบบรถที่ดูแลเป็นพิเศษ ไก่ต้องไม่ร้อน ไม่มีการทารุณสัตว์ การเข้าเชือดต้องทำให้สลบแบบนุ่มนวล เนื้อไก่ที่บริโภคต้องมาจากการฆ่าที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค

ส่วนเรื่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมนในสัตว์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ย้ำว่าในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อ ไม่มีการใช้ฮอร์โมนเพื่อเร่งการเจริญเติบโต มานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยมีกฎหมายควบคุม และกรมปศุสัตว์มีการตรวจมาโดยตลอด ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าถ้ากินไก่แล้วจะทำให้มีฮอร์โมนเอสโตรเจนมาก ทำให้หน้าอกโต เรื่องนี้ขอย้ำว่า ไม่มีจริง และปัญหาส่วนใหญ่เกิดจาก Junk Food จำพวกอาหารทานด่วน อาหารทอด ที่เป็นตัวเพิ่มไขมันในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะอ้วน

สำหรับการเลี้ยงหมูก็อยู่ภายใต้มาตรฐานฟาร์มเช่นกัน โดยมีการคุ้มครองและดูแลสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ฒเลี้ยง และปัจจุบันผู้ประกอบการฟาร์มหมูรายใหญ่ของไทย ได้พัฒนาการเลี้ยงและยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ ด้วยการเปลี่ยนการเลี้ยงแม่หมูแบบยืนซอง เป็นการเลี้ยงแบบรวมกลุ่ม หรือคอกขังรวมแทน

เรื่องการควบคุมโรค นับว่าเป็นความสำเร็จที่เห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการป้องกันโรคไข้หวัดนกที่ระบาดหนักในช่วงปี 2547 โดยไทยไม่พบการแพร่ระบาดของโรคนี้มาตั้งแต่ปี 2551 เท่ากับไม่เกิดโรคนี้ต่อเนื่องกันมากกว่า 12 ปี ถือว่าดีที่สุดระดับโลก จากมาตรการที่วางไว้ในด้านการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันอย่างดี มีปศุสัตว์อำเภอและเจ้าหน้าที่อาสาปศุสัตว์เข้าดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างใกล้ชิด

ที่สำคัญคือการป้องกันโรคในสุกร อย่างโรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ หรือ ASF ในสุกร ที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย เพราะอุตสาหกรรมหมูในประเทศหลายประเทศ ทั้งจีน เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ต่างได้รับผลกระทบจากโรคนี้ แต่ไทยเรายังคงสถานะปลอดโรค แม้โรคนี้ไม่มีวัคซีน ไม่มียารักษา แต่ไทยก็สามารถป้องกัน ASF ได้ตั้งแต่ปี 2561 เรียกว่า "เอาอยู่" มาสองปีกว่า เพราะทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันโรคอย่างเข้มแข็ง โดยกรมปศุสัตว์ร่วมกับภาคเอกชนในการดำเนินการด้านการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดมาตลอด เมื่อหมูไทยปลอดภัยปลอดเชื้อโรค ASF ทำให้เป็นที่ต้องการของหลายประเทศ แต่ไทยมีการดูแลเรื่องการผลิตหมูอย่างเพียงพอกับการบริโภค มีการจำกัดการส่งออก ไม่ให้มีผลกระทบต่อคนไทย

ความสามารถในการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ ที่นำเงินตราเข้าประเทศถึงปีละ 2 แสนกว่าล้านบาท และก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในอาเซียนในด้านการส่งออก เป็นภาพสะท้อนมาตรฐานการผลิตของไทยที่เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก โดยมีสินค้าสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ คือเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ ที่ไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีคู่ค้าสำคัญคือสหภาพยุโรป (EU) กับญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัยทางอาหาร และสวัสดิภาพสัตว์ ภารกิจทั้งหมดของกรมปศุสัตว์ นอกจากจะเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของผู้บริโภค ความอยู่รอดของผู้ผลิตแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจที่ดีของไทย จากการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลก เพื่อเป้าหมาย ครัวของโลก ที่ยั่งยืน


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้ไทย ส่งออกต่างประเทศ
น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้ไทย ส่งออกต่างประเทศ
ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยพืชผลทางการเกษตร ทั้งผักและผลไม้นานาชนิดที่ผลิดอก ออกผลให้คนไทยได้บริโภคกันตลอดทั้งปี และด้วยข้อจำกัดในการเก็บรักษาทำให้พืชผลทางการเกษตรมีมากเกิน จนบริโภคหรือจัดจำหน่ายไม่ทัน เกิดความเสียหาย เหล่านี้ได้กลายเป็นข้อดีที่นักธุรกิจรุ่นใหม่อย่าง วราภรณ์ วังวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเตอร์ดริ๊งส์ จำกัด มองเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจ เกิดแนวคิดแปรรูปผลไม้สดเป็นน้ำผลไม้บรรจุกระป๋องส่งออกต่างประเทศมานานกว่า 12 ปี

วราภรณ์ วังวิวัฒน์ เล่าถึงจุดก่อเกิด อินเตอร์ดริ๊งส์ ว่า บริษัท อินเตอร์ดริ๊งส์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือของบริษัท มโนห์ราอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด ผู้ผลิตข้าวเกรียบขายในเมืองไทย และส่งออกไปต่างประเทศ โดย อินเตอร์ดริ๊งส์ ดำเนินธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้บรรจุกระป๋องส่งออกต่างประเทศเป็นหลัก

แนวคิดในการทำธุรกิจส่งออกน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง มาจากการที่เราดูแลในส่วนงานด้านตลาดส่งออกให้บริษัท มโนห์ราอุตสาหกรรมอาหาร ทำให้มีเครือข่ายกลุ่มลูกค้าต่างประเทศส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ถือเป็นข้อได้เปรียบของเรา เพราะการผลิตสินค้าขึ้นมาสักอย่างไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะขายให้ใคร หรือหาลูกค้าจากที่ไหน ตรงจุดนี้สิที่ยาก แต่มโนห์ราอยู่ในตลาดมานานกว่า 54 ปี จึงรู้จักลูกค้าพอสมควร ดังนั้นเราแค่นำเสนอสินค้าที่ทำให้กับลูกค้าแต่ละประเทศที่เรามีพอร์ตอยู่เท่านั้นเอง

นอกจากนี้การที่ มโนห์รา เป็น snack ข้าวเกรียบ ซึ่งมีน้ำหนักเบา เราจึงอยากหาสินค้าที่ขายไปพร้อมกันได้ เพื่อเฉลี่ยน้ำหนัก รวมถึงเงินต้นทุนต่อหน่วยของค่าขนส่งในการส่งออก ความคิดเรื่องการทำน้ำผลไม้บรรจุกระป๋องจึงเกิดขึ้น การที่เราถนัดในไลน์อาหารอยู่แล้ว จึงถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารไปด้วยเลย อีกทั้งการขายผลไม้ที่เป็นวัตถุดิบสดๆ เมื่อรวมกับการขนส่งด้วยแล้วราคาค่อนข้างแพง เราคิดว่าการดื่มน้ำผลไม้จากกระป๋องน่าจะดีกว่า รสชาติอาจไม่เหมือนที่ดื่มจากผลสด ๆ แต่ในรูปแบบกระป๋องจะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย ต้นทุน และการเก็บรักษา รวมถึงอายุของสินค้าที่สามารถอยู่ได้เป็นปี คุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้สามารถนำเสนอต่อลูกค้าได้ง่ายกว่า

สินค้าตัวแรกที่ทำคือ น้ำมะพร้าวผสมเนื้อมะพร้าวกับน้ำมะพร้าวธรรมดา ที่เลือกทำน้ำมะพร้าว เพราะโรงงานของเราอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นแหล่งที่มีวัตถุดิบประเภทมะพร้าวเยอะมาก หลังจากนั้นก็เริ่มขยายไลน์ทำน้ำสับปะรด น้ำฝรั่ง น้ำลิ้นจี่ น้ำผลไม้รวม น้ำมะขาม น้ำส้ม โดยแตกไลน์ออกไปเรื่อยๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ เราคำนึงถึงแหล่งวัตถุดิบด้วย เพราะหากไล่มา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีลิ้นจี่ ฝรั่ง ส่วนเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ก็มีสับปะรด ถือเป็นข้อดีและข้อได้เปรียบของเราในเรื่องของโลจิสติกส์ และวัตถุดิบคุณภาพที่นำมาผลิตในโรงงาน

ช่วงแรกๆ เราส่งออก 100% ทำเป็น OEM (Original Equipment Manufacturer) คือรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ก่อน ประมาณ 4-5 ปี เพื่อให้โรงงานเป็นที่รู้จัก และลูกค้าเกิดความมั่นใจว่าเราเป็นผู้ผลิตตัวจริงที่อยู่ในเมืองไทย ขณะเดียวกันก็ทำแบรนด์ของตัวเองคู่ขนานกันไปด้วย ภายใต้ชื่อ C-Light และ COCO PLUS เหตุผลที่ต้องสร้างแบรนด์คู่ขนานไปกับการทำ OEM เพราะ ต้องสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัท ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือ การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง คนจะรับประทานหรือซื้อสินค้า แบรนด์ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่า ทุกครั้งที่หยิบแบรนด์นี้ขึ้นมา สินค้าจะมีคุณภาพ อร่อย และคุ้มกับเงินที่เขาเสีย เฉพาะแบรนด์ C-Light ตอนนี้มีหลายซีรี่ส์มาก หลักๆ เป็นน้ำผลไม้ และ Milk Drinks เช่น Melon Milk _Almond Milk_ Chocolate Milk_ Banana_ Rose Milk Drinks_ Strawberry Milk Drinks เป็นต้น

ปัจจุบันบริษัทยังรับทำ OEM อยู่ และมีสินค้ามากกว่า 40 รายการ (SKUs) อาทิ น้ำมะพร้าว มีตั้งแต่ 20% ไปจนถึง100% ขึ้นอยู่กับลูกค้าที่มาจ้างผลิตว่าอยากได้น้ำอะไร มีงบเท่าไหร่ สินค้าของอินเตอร์ดริ๊งส์ส่งออกต่างประเทศประมาณ 95% อีก 5% คือการรับจ้างผลิตให้ลูกค้าในประเทศ

เจาะตลาดต่างประเทศในกลุ่มอเมริกา และ UAE ผ่านงานแสดงสินค้าระดับโลก

การไปออกงานแสดงสินค้ากับหน่วยงานภาครัฐในต่างประเทศ ทำให้เรารู้ข้อมูลของกลุ่มลูกค้าที่จะนำสินค้าไปขายได้ก่อนว่าประเทศไหน กลุ่มไหนของแต่ละทวีป ที่มีกำลังซื้อในเรื่องของน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง เพื่อที่เราจะสามารถเลือกกลุ่มที่จะอยู่ได้ชัดเจนขึ้น สินค้าของเราจะอยู่ในกลุ่ม Beverage ลูกค้าที่เดินมางานแสดงสินค้า (Exhibition Show) เราก็จะได้แนะนำบริษัท อินเตอร์ดริ๊งส์ ให้ลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายว่า เราเป็นใคร ผลิตอะไร มีสินค้าอะไรมานำเสนอบ้าง อย่างเช่น กลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งมีกำลังซื้อและบริโภคน้ำผลไม้บรรจุกระป๋องในปริมาณมาก เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีของสดน้อย ภูมิอากาศร้อน การหาผลไม้สดมารับประทานจึงเป็นเรื่องยาก ราคาแพง และคุณภาพไม่ดีเหมือนบ้านเรา เราจึงนำเสนอ Process Food ด้วยบรรจุภัณฑ์สวยงามเรียบร้อย ลักษณะนี้จะง่ายในการเข้าถึงผู้บริโภค และราคาไม่แพงด้วย

ในการไปออกงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศ ต้องทำการบ้านพอสมควร ต้องมีการวางแผนและคุยกันในทีมก่อนว่า เราจะไปขายอะไร ขายเท่าไหร่ ขายอย่างไร ในทางกลับกันไม่ใช่แค่การขายอย่างเดียว ต้องเก็บข้อมูลกลับมาด้วยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคของแต่ละประเทศเป็นอย่างไร ตอนนี้เทรนด์ในต่างประเทศขายอะไร กินอะไรกัน และมีสินค้าอะไรใหม่ๆ ในตลาดบ้าง หรือ การออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นอย่างไร สีสันสดใส สวยหรือไม่ เหล่านี่คือสิ่งที่เราต้องใส่ใจ ต้องเก็บข้อมูลต่างๆ แล้วนำกลับมาคุยกับทีมมาร์เก็ตติ้ง และ ทีม R&D(Research and development) ก่อน เพื่อหาข้อสรุปว่าซีรี่ส์แรกจะผลิตเครื่องดื่มอะไรออกไปขาย โดยหลักๆ บริษัทจะเน้นเรื่องการใช้พืชผลทางการเกษตรจากเกษตรกรที่ปลูกในเมืองไทย 100% เป็นอันดับแรก

ช่วงแรกเริ่มทำตลาดต่างประเทศ 2 กลุ่มคือสหรัฐอเมริกา และ ในกลุ่มของ GCC (Gulf Countries Cooperation) หรือกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ มี 6 ประเทศ ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทยในตะวันออกกลาง ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE)_ บาห์เรน_ ซาอุดีอาระเบีย_ คูเวต _กาตาร์ และโอมานโดยงานแรกไปกับกรมส่งเสริมการส่งออกเป็นงาน Gulfood มีลูกค้าในแต่ละประเทศมาดูงานเยอะมาก ถือเป็นตลาดแรกๆ ที่เราไปขายสินค้า สินค้าที่นำไปออกงานแสดงสินค้ามีน้ำมะพร้าว น้ำสัปปะรด น้ำฝรั่ง น้ำลิ้นจี่ เป็นต้น ซึ่งน้ำมะพร้าวได้รับการตอบรับที่ดีมาก

สิ่งสำคัญที่ต้องนำเสนอ คือ ทำไมเขาต้องซื้อของเรา ราคาดีมั้ย คุณภาพดีหรือเปล่า ระยะเวลาในการผลิตส่งสินค้าตรงเวลามั้ย ดีไซน์สวยมั้ย แล้วผ่านกฏระเบียบการนำเข้าของแต่ละประเทศหรือเปล่า เช่น จะขายแบรนด์ C-Light จะขายได้เลยต้องเอาสินค้าตัวอย่างไปให้ลูกค้าชิมก่อน พอเป็นที่รู้จักว่าสินค้าของเราคืออะไร สร้าง Awareness ต่อเนื่องมั้ย ต้องคิดหมด มีสินค้าแนะนำแจกมั้ย เหมือนทำตลาดในเมืองไทย แต่เป็นการทำตลาดต่างประเทศที่ต้องใช้เวลา

การทำการตลาดช่วงปีแรก ใช่ว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ดังนั้นต้องออกงานแสดงสินค้าตลอด ออกหลายๆ ปี เพื่อตอกย้ำว่าเรายังอยู่ตรงนี้ ยังเป็นผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ และเป็นผู้ผลิตที่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีสินค้าที่พัฒนาใหม่ๆ คุณจ่ายเงินซื้อสินค้าของเรา คุณได้รับของแน่นอน และได้รับของดีมีคุณภาพด้วย

ภูมิอากาศ ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และกฎระเบียบในการนำเข้าสินค้า คือปัญหาสำคัญในการทำตลาดส่งออกต่างประเทศ

ปัญหาที่เจอ ในประเทศคือเรื่องของวัตถุดิบพืชผลทางการเกษตรที่ค่อนข้างผันผวน ขึ้นอยู่กับฝน ฟ้า อากาศ ผลผลิตจะออกมากน้อยแค่ไหน ราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่ เป็นเรื่องของการบริหารจัดการวัตถุดิบสด ถือเป็นความท้าทายของทุกโรงงาน รวมถึงความผันผวนของราคาบรรจุภัณฑ์ ซึ่งบริษัทเราใช้กระป๋องเหล็กในการบรรจุน้ำผลไม้ ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งมีผู้ผลิตไม่กี่รายที่ผลิตเหล็กในลักษณะสัมผัสอาหาร

สิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจไปต่อได้ อย่างแรกคือ บริษัทต้องมีทุนหมุนเวียน รวมถึงมีการคาดการณ์เกี่ยวกับปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น น้ำท่วม ฝนตก ความแห้งแล้ง ซึ่งทีมงานของเราคุ้นชินกับสิ่งเหล่านี้ เพราะทำข้าวเกรียบมโนห์รามานาน รู้จักและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์พอสมควร รวมถึงการรับออเดอร์ลูกค้า ต้องดูว่าออเดอร์ต่อเนื่องแค่ไหน ถ้าออเดอร์ต่อเนื่องมากๆ ก็ง่ายในการบริหารจัดการวัตถุดิบ เพราะการบริหารวัตถุดิบจะสอดคล้องกับการรับออเดอร์

ส่วนต่างประเทศเริ่มแรกที่ทำน้ำผลไม้ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบสดบ้าง แต่สามารถบริหารจัดการได้ เมื่อแตกกลุ่มสินค้าใหม่ออกมามีปัจจัยการผลิตที่เราคาดไม่ถึงเกิดขึ้น เราถามข้อมูลจากลูกค้าไม่ละเอียดพอก็ส่งผลถึงการผลิต ดังนั้นอินเตอร์ดริ๊ง์จึงให้ความสำคัญกับวิทยาศาสตร์การอาหารมาก เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีหลากหลาย ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ความยากอีกอย่างของการส่งสินค้าไปต่างประเทศคือ เรื่องกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของส่วนผสมของสินค้า เช่น อะไรใส่ได้ อะไรใส่ไม่ได้ ส่วนผสมอะไรอนุญาตหรืออะไรไม่อนุญาต เพราะแต่ละประเทศมีกฎหมายด้านการกระทรวงสาธารณสุขที่ต่างกัน

วางกลยุทธ์ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จผ่านทฤษฏี หิว

กลยุทธ์ทางการตลาดส่วนใหญ่จะใช้ทฤษฎี หิว คือ ถ้าคนหิว ก็กระหายอยากทำงาน และถ้าเราหิวตลอดเวลาก็เปรียบได้กับเราอยากได้ออเดอร์อยู่ตลอด พยายามขยายช่องทางในการขายที่ไม่ใช่จมอยู่กับประเทศหลักๆ ประเทศเดียว เกิดวันหน้ามีปัญหาแล้วประเทศนั้นไม่สั่งซื้อสินค้าของเรา เราก็ตาย แต่ทฤษฎี “หิว” นี้ก็ต้องสื่อสารกับทางโรงงานว่าหากเรารับออเดอร์มา โรงงานผลิตสินค้าให้ลูกค้าได้ทันท่วงทีมั้ย เราต้องการทำอะไร ทิศทางลมของแมนเนจเมนท์ปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง เวลาไปออกงานแสดงสินค้าต้องดูกลุ่มเป้าหมายว่า แต่ละกลุ่มต้องการขายอะไร และอย่าหยุดที่จะหาลูกค้าป้อนโรงงานอยู่เรื่อยๆ ออเดอร์เล็กๆ น้อยๆ เก็บให้หมด เพราะวันนี้เล็กวันหน้าไม่ได้หมายความว่าจะเล็กเสมอไป

การดูแลลูกค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่ เรายังคงใช้นโยบายเดิมคือ ดูแลแบบเท่าเทียมกัน ลูกค้าเดิมต้องดูแลรักษาให้ดี ลูกค้าใหม่ก็ต้องใส่ใจสร้างให้เค้าเติบโต ภายภาคหน้าลูกค้าก็จะสั่งซื้อสินค้าของเราอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราพยายามจะใช้ทฤษฏี “หิว” หาเรื่อยๆ ไม่ทิ้งลูกค้าเก่า พร้อมกับขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ รวมถึงในส่วนของการจัดการในโรงงานก็ต้องพยายามปรับให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น

แนะ SMEsไทยคิดจะทำตลาดส่งออกสินค้าต้องมีใจรักและอดทน

รักจะทำโรงงานต้องมีใจอดทน ทำด้วยความสนุก สนุกกับการทำงาน คิดว่าทุกอย่างคือความท้าทาย ถ้าไม่อย่างนั้นจะท้อแท้และเหนื่อย ไม่ใช่เห็นคนอื่นรวยแล้วอยากจะทำบ้าง แบบนั้นเหนื่อย ขอให้ใจรัก รักที่จะทำ ประเด็นสำคัญคือ คู่ค้าที่ดีที่คอยให้การสนับสนุนทั้งคู่ค้าที่เป็นลูกค้า และคู่ค้าที่คอยซัพพอร์ตเรื่องเงินทุน เพราะ SMEs ส่วนใหญ่ใช้เงินหมุนเวียน มีเงินของตัวเองส่วนหนึ่ง และต้องได้รับการสนับสนุนอีกส่วนหนึ่งจากทางธนาคาร เพื่อให้เดินไปด้วยกันได้ จึงจะสามารถทำให้วงกลมเศรษฐกิจของประเทศไทยหมุนได้ เพราะฐานของประเทศจริงๆ คือ SMEs ซึ่งตอนนี้มีอยู่เยอะมาก


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
สมุนไพรที่ไม่ควรมองข้าม มะขาม
สมุนไพรที่ไม่ควรมองข้าม มะขาม
มะขามถูกใช้มานานในรูปแบบสมุนไพร ด้านความงาม หลากยุคหลายสมัย และยังถือเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมมาก รวมไปถึงเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำอาหาร

1.มะขามเพื่อผิวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ
ประโยชน์จากผลมะขามในด้านผิวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติเนื่องจากในมะขามมีค่าความเป็นกรด หรือเรียกว่า กรดทาร์ทาริก(tartaric acid) ในรูปแบบ AHA(Alpha hydroxyl acids) ที่ช่วยให้กันผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพที่ตกค้างบนผิวออก ขจัดความมันส่วนเกินบริเวณรูขุมขน พร้อมกระตุ้นให้เกิดเซลล์ใหม่ที่ทำให้ผิวใสและเนียนนุ่มมากขึ้น จึงนิยมมากในการนำมะขามเปียกมาขัดตามร่างกายตั้งแต่โบราณ หรือนำไปผสมขัดพร้อมใยบวบเพื่อขัดผิวโดยเน้นบริเวณผิวที่หนาอย่าง ส้นเท้า ศอก และเข่า เป็นต้น

2.มะขามเพื่อทุกสภาพผิว
สามารถใช้เป็นสารละลายธรรมชาติได้ดี เนื่องจากมะขามมีค่าค่อนไปทางความความกรด การใช้มะขามสำหรับผิวบอบบาง หรือ ผิวอื่นๆ จึงมักมีการผสมผสานพืชชนิด อื่นลงไปเพื่อให้เกิดตำรับในการดูแลผิวที่แตกต่างตามสภาพผิว เช่น

3. มาส์คมะขามตำรับคนผิวสิว
นำน้ำมะขามมาผสมเป็นมาส์คพอกสิว โดยโบราณนิยมนำมาผสมกับผงดินสอพอง โดยที่ดินสอพอง หรือ มาร์ล(marl) มีองค์ประกอบหลักเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต(CO3) นิยมนำมาใช้มากตั้งแต่โบราณ ตอนพอกรู้สึกได้ถึงความเย็น สบายผิว โบราณเลยนิยมนำมาทำเป็นผงมาร์ค หรือ ผงประคบผิวสิว ด้วยค่าความเป็นกรมของมะขามเมื่อผสมผสานกับดินสอพองจะเกิดฟองฟู่กระจายตามผิวได้ที่ต้องการ

4. มะขามหมักผม
หลายคนมีปัญหาเส้นผมมัน หนังศีรษะ สกปรก มีกลิ่นง่าย สูตรโบราณเลยนิยมนำเอามะขามเปียกมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วกรองจนเหลือแต่น้ำมะขามเปียก แล้วนำไปหมักผมก่อนการสระผม น้ำมะขามเปียกจะช่วยย่อยสลายสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนหนังศรีษะและความมันต่าง บนเส้นผมออกไป จึงทำให้เส้นผมสะอาด ขจัดกลิ่นบนเส้นผมหลังจากการสระผม


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
ปลูกฝรั่งกิมจู 30 ไร่ วางแผนการตลาด ทำผลผลิตออกตลอดทั้งปี ฟันรายได้หลายแสนบาทต่อเดือน
ปลูกฝรั่งกิมจู 30 ไร่ วางแผนการตลาด ทำผลผลิตออกตลอดทั้งปี ฟันรายได้หลายแสนบาทต่อเดือน
ฝรั่ง ผลไม้ยอดนิยมตลอดกาล อาจจะมีช่วงเวลาที่ถูกบ้าง เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ ราคาฝรั่งก็เช่นกัน

คุณวราภรณ์ ขุนพิทักษ์ ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์เมืองสมุทรสาคร อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ที่ 7 ตำบลคลองจินดา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม หญิงเก่งผู้ยึดมั่นอาชีพเป็นเกษตรกรทำสวนฝรั่งมานานกว่า 20 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทำมามีการสะสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ จนสามารถคาดการณ์การตลาดได้อย่างแม่นยำ เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ แม้แต่สถานการณ์โควิด-19 ที่ธุรกิจทุกอย่างต้องหยุดชะงักลง แต่ก็ไม่สามารถหยุดยอดขายของเธอคนนี้ได้ คิดหาทางออกได้อย่างทันท่วงที สามารถสร้างรายได้จากการปลูกฝรั่งเดือนละกว่า 300_000 บาท

คุณวราภรณ์ เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ปลูกฝรั่งมานานกว่า 20 ปี ว่า ตนเริ่มต้นปลูกฝรั่งครั้งแรกบนพื้นที่เพียง 1 ไร่ และได้มีการขยายพื้นที่ปลูกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกฝรั่ง จำนวน 30 ไร่ แบ่งปลูกเป็น 3 แปลง และกำลังที่จะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีกเป็นแปลงที่ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น โดยเลือกปลูกฝรั่งกิมจูเป็นหลัก เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ทานง่าย ถูกใจผู้บริโภคทุกระดับ สามารถส่งขายได้ทั้งตลาดโรงงาน ตลาดห้างโมเดิร์นเทรด และตลาดสดในชุมชนทั่วไป ด้วยจุดเด่นของฝรั่งกิมจูที่มีรสชาติหวาน กรอบ เนื้อฟู ประโยชน์สูง รวมไปถึงผลตอบแทนทางด้านรายได้ เพราะฝรั่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย ให้ผลผลิตเร็ว เพียง 8 เดือน อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนสูง ได้เงินไว และถ้าหากมีการวางแผนการปลูกที่ดีแล้ว เกษตรกรสามารถทำผลผลิตให้ออกได้ตลอดทั้งปี สร้างรายได้เข้ากระเป๋าได้ทุกวัน

เทคนิคการปลูก ให้มีผลผลิตออกตลอดทั้งปี
ก่อนที่จะไปถึงเทคนิคขั้นตอนการปลูก คุณวราภรณ์ บอกว่า ต้องอธิบายให้เกษตรกรเข้าใจตรงกันก่อนว่า พืชผักผลไม้ทุกชนิดมีราคาขึ้น-ลง แล้วแต่ช่วงฤดูกาลถือเป็นเรื่องปกติ มีช่วงราคาถูก-แพง ในรอบปี ฝรั่งก็เป็นเช่นเดียวกันกับผลไม้ชนิดอื่นที่พอถึงฤดูกาลที่ผลผลิตออกมามากมายพร้อมกัน ราคาก็จะถูกลงมา ซึ่งจากประสบการณ์ที่คลุกคลีอยู่ในวงการฝรั่งมานานกว่า 20 ปี สามารถบอกได้เลยว่าช่วงไหนราคาฝรั่งจะถูกหรือแพง คือฝรั่งจะมีราคาถูกให้สังเกตง่ายๆ ก็ช่วงเวลาที่โรงเรียนปิดเทอม หรือช่วงที่เงาะออก ส่วนช่วงที่ฝรั่งมักมีราคาแพง จะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีผลไม้ชนิดไหนออกสู่ตลาด อย่างช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ในช่วงนี้ผลผลิตจะมีราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 30-40 บาท กับอีกช่วงคือเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับหลายเทศกาล ดังนั้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วตนจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ให้มีผลผลิตออกมาชนกับสวนอื่น ด้วยการวางแผนก่อนผลิตล่วงหน้าว่า จะให้ผลผลิตเก็บได้ในช่วงไหนก็ให้นับย้อนกลับไป 5 เดือน แล้วโน้มกิ่งให้ฝรั่งแตกยอดใหม่ เพื่อที่จะให้ผลผลิต หรือนับจากการห่อผล 3 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวได้ และฝรั่งจะเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ก็จะต้องโน้มกิ่งต้นเดือนมีนาคมนั่นเอง

เตรียมแปลงปลูก
เทคนิคการปลูก ฝรั่ง เป็นพืชที่ปลูกซ้ำที่แล้วจะไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นการเตรียมดินปลูกในแต่ละครั้งจำเป็นต้องเตรียมดินใหม่ทั้งหมด จะปลูกซ้ำหน้าดินเดิม หรือปลูกร่องเดิมไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราที่เป็นสาเหตุหลักทำให้ฝรั่งยืนต้นตายได้ ซึ่งข้อดีผู้ที่ปลูกฝรั่งจะรู้ดี เพราะฉะนั้นการเตรียมดินใหม่ที่ถูกต้องจำเป็นต้องมีการไถยกร่องปรับหน้าดิน ตากดินทิ้งไว้ 2-3 เดือน แล้วไถ นำรถตีดินเข้ามาตีหน้าดินอีกรอบเพื่อให้ดินละเอียดขึ้น แล้วเตรียมขุดหลุมปลูกด้วยกิ่งตอน เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะถ้าปลูกโดยใช้กิ่งชำราคาจะสูงกว่า ที่สวนจะทำกิ่งพันธุ์เอง จึงเลือกใช้กิ่งตอน และประเด็นสำคัญที่สุดคือการปลูกด้วยกิ่งตอนจะช่วยลดปัญหาการเกิดเชื้อราจากแกลบดำได้ เพราะฉะนั้นหากใช้กิ่งตอนปลูกจะไม่ค่อยประสบกับปัญหายืนต้นตาย ที่นับเป็นปัญหาหลักที่เกษตรกรหลายคนถอดใจ

ระยะห่างระหว่างต้น ที่สวนจะใช้วิธีการปลูกแบบยกร่องสวน เนื่องจากเป็นเขตที่ลุ่ม ขนาดร่อง 2 เมตร บนร่องปลูก 2 แถว แบบสลับฟันปลา ระยะปลูก ประมาณ 1.5 เมตร ซึ่งข้อดีของการปลูกแบบสลับฟันปลา คือ 1. จะได้จำนวนต้นเพิ่มขึ้น 2. หากมีอาการยืนต้นตายในต้นที่มีอายุ 2 ปีไปแล้ว เมื่อตัดต้นทิ้งไปจะทำให้แปลงดูไม่โล่งจนเกินไป

ระบบน้ำ ใช้เรือรดน้ำตามร่องสวน หากปลูกโดยใช้กิ่งตอนช่วงแรกจะรดน้ำทุกวัน หลังจากนั้นเมื่อพ้นเดือนแรกไปแล้ว ให้รดน้ำลงมาเหลือเป็นวันเว้นวัน หากวันไหนฝนตกก็ให้งดน้ำ

ผลผลิตเต็มต้น
ฝรั่งจะเริ่มเก็บได้เมื่ออายุ 8 เดือน หลังปลูก โดยในรอบ 1 ปี จะทำชุดใหญ่ 3 ชุด โดยชุดที่จะมีราคาแพงที่สุด จะเป็นชุดที่เก็บเกี่ยวเดือนสิงหาคม-กันยายน ซึ่งเป็นฝรั่งที่จะต้องโน้มกิ่งในช่วงต้นเดือนมีนาคม การโน้มกิ่งฝรั่งจะทำให้ฝรั่งแตกยอดพร้อมกับออกดอกบนกิ่งที่โน้ม โดยการปักไม้ไผ่รวกให้รอบทรงพุ่ม เลือกกิ่งที่ยาว โน้มลงมาแล้วใช้เชือกยึด ผูกติดกับไม้ไผ่รวก ตัดปลายกิ่งออก แล้วยอดใหม่จะแตกออกมา รอให้เก็บเกี่ยวผลผลิตอีกครั้ง

ปุ๋ย จะดูแลให้ฝรั่งต้นสมบูรณ์ตลอดทั้งปี โดยหลังจากโน้มกิ่งแล้ว จะใส่ปุ๋ย 25-7-7 เพื่อเร่งยอดบำรุงต้น หลังจากนั้น อีก 15 วัน ใส่ 16-16-16 เมื่อผลโตขนาดเท่าผลส้มจะเปลี่ยนมาใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมีอัดเม็ด ที่มีธาตุอาหารแคลเซียม แมกนีเซียม เป็นส่วนประกอบ ซึ่งจะทำให้ฝรั่งผิวสวย ฝรั่งผิวออกขาว ไม่เขียว และรสชาติหวาน กรอบ เนื้อฟู ทางใบพ่นน้ำส้มควันไม้อย่างต่อเนื่องทุก 7-10 วัน เพื่อช่วยในด้านการเจริญเติบโต ความสมบูรณ์ของต้น และยังช่วยกันแมลงอีกด้วย แคลเซียม-โบรอน พ่นประจำไม่ให้ขาด จะช่วยทั้งเรื่องเพิ่มความสมบูรณ์ของดอก เพิ่มการติดผลดก ขั้วเหนียว ผลกรอบ รสชาติหวาน และช่วงใกล้เก็บเกี่ยวเสริมน้ำตาลทางด่วนเพื่อเพิ่มรสชาติช่วยอีกแรง

ฝรั่ง 30 ไร่ สามารถทำผลผลิตให้ออกขายได้ทุกวัน วันละ 80-100 ลัง น้ำหนักประมาณ 18 กิโลกรัม ต่อลัง ถือว่าผลผลิตโดยรวมอยู่ในจำนวนที่เยอะ และในผลผลิตจำนวนนี้เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งหมด เนื่องด้วยฝรั่งของที่สวนสามารถทำให้รสชาติคงที่สม่ำเสมอเท่ากันตลอดฤดูกาล คือ มีผิวสวย รสชาติหวาน กรอบ เนื้อฟู และที่สำคัญจะคัดแต่ของดีๆ ส่งเท่านั้น ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้รับซื้อ ใช้ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นสำคัญ เนื่องจากที่สวนทำการตลาดเองทั้งหมดโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ผลผลิตลูกไหน หรือลังไหนไม่ดีจะไม่ส่งให้ลูกค้าอย่างแน่นอน และอีกเรื่องที่สำคัญ คือความสม่ำเสมอ พยายามทำผลผลิตอย่าให้ขาด เพื่อไม่ให้เสียพ่อค้าแม่ค้าเจ้าประจำไป เพราะถ้าเมื่อใดที่ผลผลิตขาดไปแม้แต่ครั้งเดียว อาจทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่รับซื้อประจำหายไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นการวางแผนการผลิตถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และที่สวนวราภรณ์ยึดมั่นสิ่งนี้มาตลอด ทำให้ทุกวันนี้ฝรั่งกิมจูของที่สวนมีผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยสามารถแบ่งเป็นตลาดหลักได้ ดังนี้

ตลาดโรงงาน จะรับซื้อฝรั่งที่มีลักษณะ กรอบ แข็ง กดไม่ลง ผิวอมเขียว เพื่อนำไปเข้ากระบวนการตัดแต่งต่อไป
ตลาดห้างแม็คโคร จะรับซื้อฝรั่งที่มีลักษณะรสชาติหวาน กรอบ เนื้อฟู พร้อมทาน
ตลาดสดทั่วไป จะรับซื้อฝรั่งที่มีลักษณะเหมือนกับตลาดห้าง คือ รสชาติหวาน กรอบ เนื้อฟู พร้อมทาน
ตลาดออนไลน์ เป็นตลาดที่เกิดขึ้นมาเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดขึ้นมา ทำให้การค้าขายยากขึ้น ตลาดปิด จึงต้องมีการระบายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งถือว่าเป็นไปได้สวย เพราะสามารถทำยอดขายออนไลน์ได้วันละไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม
รายได้ จากพื้นที่ปลูกฝรั่ง จำนวน 30 ไร่ วางแผนตัดฝรั่งขายทุกวันจันทร์-ศุกร์ 1 เดือน ทำรายได้กว่า 300_000 บาท ขายเองทั้งหมด โดยไม่ผ่านพ่อค้าแม่ค้าคนกลาง

ฝรั่งถึงจะล้นตลาด แต่จะล้นแค่ระยะเวลาสั้นๆ คือบางคนเห็นราคาถูก ตัดทิ้งเลยนะ แต่จริงๆ พี่จะบอกว่าพอหมดช่วงล้นปุ๊บ มันจะกลายเป็นช่วงขาดตลาดทันที จากราคา 6 บาท ขึ้นไป 30 บาท เพราะฉะนั้นถ้าเราอดทนรอให้ผ่านพ้นช่วงผลผลิตล้นตลาดไปได้ เราก็กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งก็จะเป็นแบบนี้ทุกปี และอีกเรื่องสำคัญคืออยากเน้นให้สำหรับเกษตรกรที่มีพื้นที่ปลูกไม่มาก ให้ทำตลาดเอง ปลูกเอง ขายเองตามตลาดนัด ตามหมู่บ้านใกล้เคียง เพราะจากประสบการณ์ที่พี่เคยเจอมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ฝรั่งราคาถูกมาก ทั้งพ่อค้าตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง เขาตีให้ราคากิโลกรัม 6 บาท ตอนนั้นพี่มี 30 ไร่ แล้วพี่คิดว่าพี่อยู่ไม่ไหวแน่กับราคา 6 บาท และประกอบกับที่ช่วงนั้นฝรั่งที่สวนกำลังตัดวันละเป็น 100 ลัง พี่ก็ตัดสินใจเลิกส่งพ่อค้าในตลาดใหญ่ไปก่อน แล้วเริ่มต้นโพสต์เฟซบุ๊กขายเอง พยายามเข้าไปโพสต์ขายในหลายๆ กลุ่ม เพื่อให้แม่ค้ามาซื้อ ส่วนที่เหลือพี่ออกไปขายเองตามตลาดนัด เข้าไปขอพื้นที่ขายตามกรม กอง ต่างๆ จากขายให้ตลาดใหญ่กิโลกรัมละ 6 บาท แต่พอมาขายเองขายได้กิโลละ 35 บาท 3 โล 100 บาท พี่ถึงได้อยู่ผ่านพ้นช่วงนั้นมาได้ พี่วราภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
3505 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 350 หน้า, หน้าที่ 351 มี 5 รายการ
|-Page 216 of 351-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 |


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
โรงงานรับจ้างผลิตปุ๋ย OEM/ODM เป็นแบรนด์สินค้าของคุณ ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยเม็ด ไตรโคเดอร์มา บิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม จุลินทรีย์ย่อยสลาย ยาปราบฯ สารปรับสภาพดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ปุ๋ยเคมี ทำได้ทุกชนิด
เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท
ปุ๋ยยาฯ จุลินทรีย์ต่างๆ ปุ๋ยน้ำต่างๆ ปุ๋ยน้ำอะมิโน ไตรโคฯ ประเภทน้ำ ประเภทผง บรรจุขวด บรรจุซอง ทุกชนิด ฯลฯ
เริ่มต้นเพียง 45,000 บาท
ปุ๋ยเม็ดทุกชนิด บรรจุกระสอบ 50 กิโลกรัม บิ๊กแบ็ค 1 ตันเพื่อส่งออก กระสอบ 25 กิโลกรัม ทำได้ทุกชนิด ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สารปรับสภาพดิน อะมิโนเม็ดสกัด ฮิวมิค ฯลฯ
โทร 090-592-8614
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
การเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง
Update: 2563/06/12 10:28:31 - Views: 3372
โรคมะม่วง มะม่วงใบไหม้ แอนแทรคโนสมะม่วง ใบจุดมะม่วง โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/11 23:47:43 - Views: 3561
ความสัมพันธ์ลับ ระหว่างหนอนผีเสื้อกับมด
Update: 2564/08/12 22:24:06 - Views: 3137
โรคทุเรียน โรคกิ่งแห้งในทุเรียน โรคทุเรียนใบไหม้ ใบติด อาการทุเรียนใบร่วง ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และทำให้ผลผลิตตกต่ำ ป้องกัน กำจัด ได้อย่างไร
Update: 2566/11/06 06:34:48 - Views: 371
การป้องกัน กำจัด โรคแอนแทรคโนสในทุเรียน
Update: 2563/11/27 08:49:56 - Views: 5138
ป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้ง ศัตรูพืชหน้าร้อน ด้วย INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5
Update: 2567/02/21 13:48:02 - Views: 123
โรคทุเรียนกิ่งแห้ง มีสาเหตุจากเชื้อรา โรคทุเรียนโคนเน่า ทุเรียนผลเน่า โรคใบติดทุเรียน ก็เช่นกัน แก้ด้วย ไอเอส ฉีดพ่นให้ทั่วแปลง
Update: 2563/07/09 10:00:20 - Views: 3481
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าด้วงกุหลาบ ในสวนปาล์ม และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/01/27 09:59:11 - Views: 4169
การจัดการและป้องกันหนอนในต้นฝรั่ง: วิธีการแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย
Update: 2566/11/10 10:36:16 - Views: 369
ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบสำหรับอ้อย
Update: 2564/08/27 22:13:46 - Views: 3348
สูตรกำจัดหนอน กำจัดหนอนลำไย กำจัดหนอนลิ้นจี่
Update: 2564/08/17 00:32:54 - Views: 3224
ยากำจัดโรคช่อดอกแห้ง ใน เงาะ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/05 15:54:02 - Views: 7225
ปุ๋ยทุเรียน คุณภาพสูง ทดแทนปุ๋ยเม็ด ยาแก้ ทุเรียนใบไหม้ โรคใบติด เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ยทุเรียน หนอน
Update: 2565/05/02 06:04:58 - Views: 3036
ส้ม ใบไหม้ ใบเหลือง ใบจุด ราสีชมพู รากเน่า โคนเน่า โรคเมลาโนส โรคราต่างๆ ป้องกันและกำจัดด้วย ไอเอส และเร่งฟื้นฟู ด้วย ปุ๋ย FK-T
Update: 2567/03/21 11:57:49 - Views: 102
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 เป็นตัวช่วยที่ทำให้มะเขือเทศของคุณมีผลผลิตที่ดก ผลใหญ่ สวยงาม และมีคุณภาพดี
Update: 2567/03/06 14:54:55 - Views: 105
ยาแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง เร่งราก ป้องกันโรค เพิ่มเปอร์เซ็นต์งอก 430บาท กู๊ดโซ๊ค
Update: 2562/10/02 14:06:41 - Views: 3072
อาการผิดปกติของมันสำปะหลังที่เกิดจากสารกำจัดวัชพืช
Update: 2564/08/10 12:00:51 - Views: 3050
กำจัดเชื้อราโรคพืช ใบไหม้ ราเน่า ผลเน่า ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
Update: 2565/12/10 13:48:45 - Views: 3517
กำจัดเพลี้ย ไรแดง แมลงศัตรูพืช เชื้อบิวเวอร์เรีย ผสม เชื้อเมธาไรเซียม บิวทาเร็กซ์ ปลอดภัยเพาะเชื้อจาก Lab 100%
Update: 2566/07/25 10:56:38 - Views: 518
การควบคุมศัตรูพืชไม่มีวิธีการใดดีท่ีสุด ต้องใช้หลักการผสมผสาน
Update: 2564/03/10 22:01:08 - Views: 3554
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022