อะมิโนโปรตีน: กุญแจสู่การเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช

การเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืชเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนซึ่งต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ หนึ่งในนั้นคือการมีโปรตีนอะมิโน อะมิโนโปรตีนเป็นกลุ่มของสารประกอบอินทรีย์ที่มีทั้งหมู่อะมิโนและคาร์บอกซิล มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช 18 ชนิด โดยเฉพาะอ้อย อะมิโนโปรตีนช่วยในการผลิตฮอร์โมนพืชซึ่งมีหน้าที่สร้างและขยายเซลล์เนื้อเยื่อ ฮอร์โมนเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของพืช ทำให้พวกมันเติบโตได้อย่างเต็มที่

อะมิโนโปรตีนยังจำเป็นในการสร้างคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นเม็ดสีเขียวที่ให้สีแก่พืช คลอโรฟิลล์จำเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งเป็นกระบวนการที่พืชสร้างอาหาร หากไม่มีอะมิโนโปรตีน พืชจะไม่สามารถสร้างคลอโรฟิลล์ได้เพียงพอ และการสังเคราะห์ด้วยแสงก็จะบกพร่อง

หนึ่งในวิธีทั่วไปในการใช้อะมิโนโปรตีนในการเกษตรคือการผสมกับน้ำฉีดพ่น ปริมาณที่แนะนำจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของพืชผล สำหรับผักแนะนำให้ใช้อัตราส่วน 10-20 มล. ของโปรตีนอะมิโนต่อน้ำ 20 ลิตร สำหรับนาข้าว พืชไร่ และไม้ผล แนะนำให้ใช้อัตราส่วน 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร หากใช้ระบบน้ำหยด แนะนำให้ใช้ อะมิโนโปรตีน 500 มล. ต่อ 1 ไร่ (1600 ตารางเมตร)

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าควรฉีดพ่นอะมิโนโปรตีนเดือนละสองครั้ง แต่ไม่ควรฉีดพ่นในช่วงระยะออกดอกของพืช การฉีดพ่นในระยะออกดอกอาจทำให้พืชเสียหายและขัดขวางการผลิตผลหรือดอกได้

นอกเหนือจากการส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืชแล้ว อะมิโนโปรตีนยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายประการ พวกมันสามารถปรับปรุงความต้านทานของพืชต่อศัตรูพืชและโรค เพิ่มความสามารถของพืชในการดูดซับสารอาหารจากดิน และเพิ่มความทนทานของพืชต่อแรงกดดันจากสิ่งแวดล้อม เช่น ภัยแล้งและอุณหภูมิที่สูงเกินไป

สรุปได้ว่า อะมิโนโปรตีนมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช โดยเฉพาะอ้อย มีส่วนสำคัญในการผลิตฮอร์โมนพืช ซึ่งส่งเสริมการสร้างและขยายเซลล์เนื้อเยื่อและการพัฒนาส่วนต่างๆ ของพืช อะมิโนโปรตีนสามารถนำไปใช้กับพืชได้ง่ายโดยผสมกับน้ำฉีดพ่นหรือใช้ในระบบน้ำหยด เมื่อใช้เป็นประจำ อะมิโนโปรตีนสามารถช่วยปรับปรุงผลผลิตและคุณภาพของพืช ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับเกษตรกรและชาวสวน

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

Maca alkaloids เป็นกลุ่มของอัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติซึ่งได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันและผสมผสานกันโดยใช้หลักการทางเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างยาฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพสูง ยาฆ่าแมลงนี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟในพืชเสาวรสโดยเฉพาะ สิ่งที่ทำให้อัลคาลอยด์ Maca มีลักษณะเฉพาะคือวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งจะป้องกันไม่ให้แมลงพัฒนาความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงเมื่อเวลาผ่านไป

มีการใช้สารเคมีกำจัดแมลงมานานหลายทศวรรษเพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืชและเพิ่มผลผลิตพืชผล อย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีเหล่านี้มากเกินไปทำให้แมลงเกิดการดื้อยา ทำให้ประสิทธิภาพลดลงเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ สารเคมีกำจัดแมลงยังสามารถทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

การใช้มาคาอัลคาลอยด์เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแทนการใช้สารเคมีกำจัดแมลง อัลคาลอยด์ของ Maca ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับคุณสมบัติในการฆ่าแมลง และพบว่ามีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านศัตรูพืชหลากหลายชนิด รวมถึงเพลี้ยไฟด้วย นี่เป็นเพราะความสามารถในการรบกวนระบบประสาทของแมลงซึ่งนำไปสู่ความตาย

สิ่งที่ทำให้อัลคาลอยด์ Maca แตกต่างจากยาฆ่าแมลงอื่นๆ คือวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งแตกต่างจากสารเคมีกำจัดแมลงซึ่งมุ่งเป้าไปที่เส้นทางชีวเคมีเฉพาะในแมลง สารอัลคาลอยด์ Maca ส่งผลต่อกระบวนการทางสรีรวิทยาในวงกว้าง สิ่งนี้ทำให้แมลงพัฒนาความต้านทานต่อมาคาอัลคาลอยด์ได้ยากเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากพวกมันไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับผลกระทบที่ไม่เฉพาะเจาะจงของอัลคาลอยด์ได้

นอกจากนี้ Maca alkaloids ไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินหรือน้ำ ทำให้ปลอดภัยต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในพื้นที่การเกษตร ซึ่งการใช้สารเคมีกำจัดแมลงสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศโดยรอบ

โดยสรุป การใช้มาคาอัลคาลอยด์เป็นยาฆ่าแมลงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแทนยาฆ่าแมลงที่เป็นสารเคมี วิธีการดำเนินการที่ไม่เฉพาะเจาะจงทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านศัตรูพืชหลากหลายชนิด ในขณะที่ไม่มีพิษตกค้างทำให้ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ เนื่องจากความต้องการแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การใช้มาคาอัลคาลอยด์จึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะวิธีแก้ปัญหาตามธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสำหรับการควบคุมศัตรูพืช

การใช้มาคาอัลคาลอยด์ เกษตรกรควรผสมสารละลาย 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นพืชทุกๆ 3 วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันแนะนำให้ฉีดพ่นพืชทุกๆ 15-30 วัน วิธีการนี้สามารถป้องกันและควบคุมแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

การปลูกเสาวรสให้ได้ผลผลิตสูงสุด: บทบาทของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

เสาวรสหรือที่รู้จักกันในชื่อกรานาดิลลาเป็นผลไม้เมืองร้อนแสนอร่อยที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในหลายส่วนของโลก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ สีสันที่สดใส และคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้มันเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในน้ำผลไม้ สมูทตี้ ของหวาน และการทำอาหารอื่นๆ เสาวรสยังเป็นพืชที่มีคุณค่าสำหรับเกษตรกร เนื่องจากสามารถปลูกได้ในสภาพอากาศที่หลากหลายและมีรอบการเก็บเกี่ยวที่ค่อนข้างสั้น

หากคุณเป็นเกษตรกรผู้ปลูกเสาวรส คุณอาจสนใจเรียนรู้วิธีเพิ่มผลผลิตพืชผลและปรับปรุงคุณภาพผลไม้ของคุณ วิธีหนึ่งที่จะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้คือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบคุณภาพสูงอย่าง FK-1 ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกการปลูกเสาวรสและสำรวจประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

การปลูกเสาวรส: ภาพรวม

เสาวรสเป็นไม้เถาเลื้อยที่อยู่ในวงศ์ Passifloraceae มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ แต่ปัจจุบันได้รับการปลูกอย่างแพร่หลายในภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลีย เถาเสาวรสสามารถเติบโตได้ยาวถึง 20 ฟุต และต้องมีโครงสร้างรองรับ เช่น ระแนงบังตาหรือเสาเพื่อปีนขึ้นไป

ผลไม้มีขนาดเล็กและกลม มีผิวด้านนอกที่แข็งซึ่งมีสีตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีม่วงเข้ม เนื้อฉ่ำและเต็มไปด้วยเมล็ดเล็กๆ ที่กินได้และมีสารอาหารหนาแน่น ต้นเสาวรสมักจะปลูกจากการเพาะเมล็ดหรือการปักชำ และสามารถเริ่มออกผลได้ภายใน 6-12 เดือนหลังจากปลูก

เพื่อให้ได้ผลผลิตและคุณภาพสูงสุด ต้นเสาวรสต้องการการดูแลและบำรุงรักษาที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ การให้ปุ๋ย การตัดแต่งกิ่ง และการควบคุมศัตรูพืช นอกจากนี้ ต้นเสาวรสยังได้รับประโยชน์จากปุ๋ยที่สมดุลซึ่งมีสารอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี

FK-1 ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ: จุดเปลี่ยนของชาวสวนเสาวรส

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิตของพืช ประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสีที่สมดุล รวมทั้งสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยให้ปุ๋ยยึดเกาะกับพื้นผิวของพืชและปรับปรุงการดูดซึม

เมื่อใช้เป็นสเปรย์ทางใบ FK-1 สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วทางใบของต้นเสาวรส ทำให้พวกมันได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต สิ่งนี้สามารถส่งผลให้เติบโตเร็วขึ้น ขนาดผลใหญ่ขึ้น และเพิ่มความต้านทานต่อศัตรูพืชและโรค

หากต้องการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เพียงผสมถุง 50 กรัมสองถุงเข้าด้วยกันในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นให้ทั่วใบของต้นเสาวรสของคุณ อย่าลืมใส่ปุ๋ยในช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆ เมื่ออุณหภูมิเย็นลงและพืชมีโอกาสน้อยที่จะเกิดความเครียดจากความร้อน

บทสรุป

หากคุณเป็นเกษตรกรผู้ปลูกเสาวรสที่ต้องการเพิ่มผลผลิตสูงสุดและปรับปรุงคุณภาพผลไม้ของคุณ ให้พิจารณาใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวของสารอาหารที่จำเป็นและเทคโนโลยีสารลดแรงตึงผิว FK-1 สามารถช่วยให้ต้นเสาวรสของคุณบรรลุศักยภาพสูงสุดและผลิตผลไม้ที่อร่อยและอุดมด้วยสารอาหาร ทำไมต้องรอ? ลองใช้ FK-1 วันนี้และดูความแตกต่างที่สามารถทำได้ในการเพาะปลูกเสาวรสของคุณ

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

อะมิโนโปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืชชนิดต่างๆ โปรตีนเหล่านี้มีส่วนในการผลิตฮอร์โมนพืชซึ่งมีหน้าที่สร้างและขยายเซลล์เนื้อเยื่อในพืช ตัวอย่างเช่น หัวไชเท้าต้องอาศัยอะมิโนโปรตีนอย่างมากในการพัฒนาส่วนต่างๆ ของพวกมันและเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากอะมิโนโปรตีน สามารถผสมกับน้ำและฉีดพ่นบนพืชได้ นี่เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าพืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานที่แนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อพืช

สำหรับผักแนะนำให้ผสมอะมิโนโปรตีน 10-20 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร ส่วนผสมนี้สามารถใช้กับงานสเปรย์ สำหรับนาข้าว พืชไร่ และไม้ผล แนะนำให้ใช้ความเข้มข้นสูงกว่านี้ 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับงานสเปรย์

เพื่อการใช้งานที่แม่นยำยิ่งขึ้น สามารถผสมอะมิโนโปรตีนกับระบบน้ำหยดได้ แนะนำให้ใช้ปริมาณ 500 มล. ต่อไร่สำหรับวิธีนี้ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ควรฉีดพ่นอะมิโนโปรตีนบนพืชในช่วงออกดอก เนื่องจากอาจรบกวนกระบวนการทางธรรมชาติของพืชได้

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ฉีดพ่นพืชด้วยอะมิโนโปรตีนเดือนละสองครั้ง สิ่งนี้จะช่วยให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการใช้อย่างเหมาะสม อะมิโนโปรตีนสามารถช่วยให้พืชพัฒนาเนื้อเยื่อที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี ซึ่งนำไปสู่ผลผลิตที่สูงขึ้นและผลผลิตที่ดีต่อสุขภาพ

สรุปได้ว่า อะมิโนโปรตีนมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืชหลายชนิด รวมทั้งหัวไชเท้า สามารถผสมกับน้ำและฉีดพ่นบนพืชได้ง่ายเพื่อให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตแข็งแรงและมีสุขภาพดี การปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานที่แนะนำจะช่วยให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและผลผลิตที่สูงขึ้น

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

อะมิโนโปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช พวกมันมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนพืชที่กระตุ้นการเจริญเติบโตและการขยายตัวของเซลล์เนื้อเยื่อ ผักบุ้งเป็นพืชปีนเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกที่บานสะพรั่งสวยงาม เป็นเพียงหนึ่งในพืช 18 ชนิดที่ได้รับประโยชน์จากการเสริมโปรตีนอะมิโน

อะมิโน-โปรตีนทำงานโดยกระตุ้นการแบ่งตัวและการยืดตัวของเซลล์ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาส่วนต่างๆ ของพืช ส่งผลให้การเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นและมีรูปร่างที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ อะมิโนโปรตีนยังสามารถเพิ่มความสามารถของพืชในการดูดซึมและใช้สารอาหารอื่นๆ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตและการพัฒนาที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

วิธีหนึ่งที่ใช้บ่อยที่สุดในการใช้อะมิโนโปรตีนคือการผสมกับน้ำแล้วฉีดเป็นสเปรย์ สำหรับผัก อัตราส่วนที่แนะนำคืออะมิโนโปรตีน 10-20 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร ส่วนนาข้าว พืชไร่ และไม้ผล แนะนำให้ใช้ความเข้มข้นสูงกว่านี้ 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร สำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น เมื่อใช้ระบบน้ำหยด แนะนำให้ใช้อะมิโนโปรตีน 500 มล. ต่อพื้นที่ 1 ไร่

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ควรฉีดพ่นอะมิโนโปรตีนในช่วงระยะออกดอกของพืช เนื่องจากอาจรบกวนการเจริญเติบโตตามธรรมชาติและกระบวนการพัฒนา ทางที่ดีควรฉีดพ่นอะมิโนโปรตีนเดือนละสองครั้งในช่วงระยะการเจริญเติบโตของพืชเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

นอกเหนือจากการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชที่ดีแล้ว อะมิโนโปรตีนยังสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตของพืชผลและคุณภาพของพืชโดยรวมอีกด้วย ด้วยการให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาพืช โปรตีนอะมิโนสามารถช่วยให้เกษตรกรและชาวสวนผลิตพืชผลที่อุดมสมบูรณ์และมีสุขภาพดีขึ้นได้

สรุปได้ว่า อะมิโนโปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช พวกมันสามารถช่วยกระตุ้นการแบ่งตัวและการยืดตัวของเซลล์ ส่งผลให้พืชสมบูรณ์แข็งแรงขึ้น ผสมอะมิโนโปรตีนกับน้ำและใช้เป็นสเปรย์ เกษตรกรและชาวสวนสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชที่ดีและเพิ่มผลผลิตพืชผล อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานที่แนะนำและหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงระยะออกดอกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

พืชมีความสำคัญต่อโลกของเราเนื่องจากพวกมันให้ออกซิเจนที่เราหายใจและเป็นอาหารที่เรากิน หากไม่มีพวกเขา สิ่งมีชีวิตบนโลกก็จะไม่มีอยู่จริง พืชต้องการสารอาหารบางชนิดในการเจริญเติบโตและเจริญเติบโต หนึ่งในนั้นคือกรดอะมิโน กรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีนและมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช ในบทความนี้จะกล่าวถึงกรดอะมิโนจำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด ที่ช่วยในการผลิตฮอร์โมนพืชในแตงกวา ทำให้เกิดการสร้างและขยายเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของพืชให้เจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

กรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด ได้แก่ อะลานีน อาร์จินีน แอสพาราจีน กรดแอสปาร์ติก ซีสเทอีน กรดกลูตามิก กลูตามีน ไกลซีน ฮิสทิดีน ไอโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไทโอนีน ฟีนิลอะลานีน โพรลีน ซีรีน ธรีโอนีน และวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตของพืช และต้องจัดหาผ่านทางดินหรือด้วยวิธีอื่นๆ

แตงกวาเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากกรดอะมิโน กรดอะมิโนช่วยในการผลิตฮอร์โมนพืชที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของแตงกวา ฮอร์โมนที่สร้างจากกรดอะมิโนในแตงกวาทำให้เกิดการสร้างและขยายเซลล์เนื้อเยื่อ ส่งผลให้ส่วนต่างๆ ของพืชเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่

หากต้องการใช้กรดอะมิโนในการเจริญเติบโตของพืชสามารถผสมน้ำฉีดพ่นได้ สำหรับผักควรใช้ 10-20 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร สำหรับนาข้าว พืชไร่ และไม้ผล ควรใช้ 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร หากใช้ระบบน้ำหยด ควรผสม 500 มล. ต่อ 1 ไร่

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าควรฉีดพ่นกรดอะมิโนเดือนละ 2 ครั้ง แต่ไม่ควรฉีดพ่นในช่วงที่พืชออกดอก ในช่วงที่พืชออกดอก การใช้กรดอะมิโนอาจทำให้ดอกร่วง ซึ่งอาจทำให้ผลผลิตลดลงได้

โดยสรุป กรดอะมิโนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช และกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด ได้แก่ อะลานีน อาร์จินีน แอสพาราจีน กรดแอสปาร์ติก ซีสเตอีน กรดกลูตามิก กลูตามีน ไกลซีน ฮิสทิดีน ไอโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไทโอนีน ฟีนิลอะลานีน โพรลีน ซีรีน ธรีโอนีน และวาลีน เมื่อใช้อย่างถูกวิธี กรดอะมิโนสามารถช่วยในการสร้างฮอร์โมนพืชในแตงกวา ทำให้เกิดการสร้างและขยายเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของพืชให้เติบโตได้อย่างเต็มที่ หากต้องการใช้กรดอะมิโนในการเจริญเติบโตของพืช สามารถผสมกับน้ำฉีดพ่นได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ใช้กรดอะมิโนในช่วงที่พืชออกดอก

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

เช่นเดียวกับมนุษย์ พืชต้องการสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการพัฒนา ในบรรดาสารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้ กรดอะมิโนมีบทบาทสำคัญในชีวิตของพืช กรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีนที่จำเป็นต่อการทำงานต่างๆ ในพืช รวมถึงการผลิตฮอร์โมนและการพัฒนาเนื้อเยื่อ ในบทความนี้เราจะพูดถึงกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด โดยมุ่งเน้นที่กรดอะมิโนเหล่านี้สามารถช่วยการเจริญเติบโตของสตรอเบอรี่ได้อย่างไร

มีกรดอะมิโน 20 ชนิดที่สร้างโปรตีนจากพืช แต่มีเพียง 18 ชนิดเท่านั้นที่ถือว่าจำเป็น กรดอะมิโนเหล่านี้พืชไม่สามารถสังเคราะห์ได้ และต้องได้รับจากแหล่งภายนอก เช่น ดินหรือปุ๋ย กรดอะมิโนจำเป็น 18 ชนิด ได้แก่ อะลานีน อาร์จินีน แอสพาราจีน กรดแอสปาร์ติก ซีสเตอีน กรดกลูตามิก ลูตามีน ไกลซีน ฮิสทิดีน ไอโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไทโอนีน ฟีนิลอะลานีน โพรลีน ซีรีน ธรีโอนีน และวาลีน

ในบรรดากรดอะมิโนเหล่านี้ มีกรดอะมิโนบางชนิดที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของสตรอว์เบอร์รี ตัวอย่างเช่น กลูตามีนจำเป็นสำหรับการผลิตไซโตไคนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชที่ส่งเสริมการแบ่งเซลล์และเพิ่มจำนวนเซลล์โดยการให้กลูตามีนแก่พืช เราสามารถกระตุ้นการสร้างใหม่และเพิ่มจำนวนเซลล์เนื้อเยื่อในสตรอเบอร์รี่ ซึ่งนำไปสู่พืชที่ใหญ่และแข็งแรง

กรดอะมิโนที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งสำหรับการเจริญเติบโตของสตรอเบอรี่คือฮิสทิดีน ฮิสทิดีนมีส่วนในการผลิตเอทิลีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนพืชที่กระตุ้นการสุกของผลไม้ โดยการให้ฮิสทิดีนแก่พืช เราสามารถกระตุ้นการพัฒนาของผลสตรอเบอรี่ได้ สิ่งนี้นำไปสู่ผลเบอร์รี่ที่หวานและอร่อยยิ่งขึ้น

การใช้กรดอะมิโนเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของสตรอเบอรี่ สามารถผสมน้ำฉีดพ่นหรือเติมลงในระบบน้ำหยด ปริมาณจะขึ้นอยู่กับชนิดของพืชผลและขนาดของพื้นที่ปลูก สำหรับผัก 10-20 มล. แนะนำให้ใช้ต่อน้ำ 20 ลิตร ข้าว พืชไร่ และไม้ผล แนะนำให้ใช้ 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร หากใช้ระบบน้ำหยดแนะนำให้ใช้ปริมาณ 500 มล. ต่อ 1 ไร่

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ควรใช้สเปรย์กรดอะมิโนในช่วงระยะออกดอกของพืช เนื่องจากสเปรย์สามารถรบกวนการผสมเกสรและลดจำนวนผลไม้ที่พืชผลิตได้ ควรใช้สเปรย์กรดอะมิโนเดือนละสองครั้งโดยเริ่มที่ระยะการเจริญเติบโตของพืช

โดยสรุป กรดอะมิโนมีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช เราสามารถส่งเสริมการผลิตฮอร์โมนพืชโดยการให้กรดอะมิโนที่จำเป็น 18 ชนิดแก่พืช กระตุ้นการสร้างและขยายเซลล์เนื้อเยื่อ และพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของพืชให้เติบโตอย่างเต็มที่ หากคุณกำลังปลูกสตรอเบอร์รี่ พิจารณาใช้สเปรย์กรดอะมิโนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาของผลเบอร์รี่ที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..

Maca Alkaloids: อนาคตของการควบคุมศัตรูพืชในการเกษตร

เกษตรกรรมเป็นส่วนสำคัญของอารยธรรมมนุษย์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และมีการพัฒนาไปตามกาลเวลาพร้อมกับการกำเนิดของเทคโนโลยีสมัยใหม่ หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่ภาคการเกษตรต้องเผชิญคือการควบคุมศัตรูพืช เดิมทีเกษตรกรพึ่งพาสารเคมีในการควบคุมแมลงศัตรูพืช แต่การใช้สารเคมีเหล่านี้เป็นเวลานานทำให้แมลงดื้อยา ส่งผลให้ประสิทธิภาพของสารเคมีลดลง

อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ปัญหาใหม่ในการควบคุมสัตว์รบกวน โดยมาในรูปของ Maca alkaloids อัลคาลอยด์ที่สกัดจากธรรมชาติเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันด้วยหลักการเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อรวมเอาอัลคาลอยด์เข้มข้นที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช เพลี้ยอ่อน และเพลี้ยแป้งในลิ้นจี่ และยังสามารถยับยั้งการดื้อยาที่เกิดจากการใช้สารเคมีเป็นเวลานาน

อัลคาลอยด์ของ Maca ทำงานโดยมีวิธีการออกฤทธิ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งป้องกันแมลงไม่ให้ปรับตัวเข้ากับการดื้อยาโดยไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ สิ่งนี้ทำให้ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้และผู้บริโภคและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ Maca alkaloids ยังพบว่ามีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมสัตว์รบกวน และมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานกว่าสารเคมีทั่วไป

ประโยชน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของการใช้ Maca alkaloids คือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พวกมันไม่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ ซึ่งหมายความว่าเกษตรกรสามารถใช้มันได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะสร้างความเสียหายระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของการเกษตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น อัลคาลอยด์ของ Maca จึงเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมแทนสารเคมีแบบดั้งเดิม ซึ่งทราบกันดีว่ามีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อดีอีกประการของการใช้ Maca alkaloids คือปลอดภัยต่อการบริโภคของมนุษย์ สารเคมีแบบดั้งเดิมอาจเป็นอันตรายต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค เนื่องจากสารเคมีเหล่านี้ทิ้งสารพิษตกค้างบนพืชผล อัลคาลอยด์ Maca ไม่มีปัญหานี้ และไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของเกษตรกรหรือผู้บริโภค

โดยสรุป Maca alkaloids เป็นวิธีการแก้ปัญหาการควบคุมแมลงศัตรูพืชในการเกษตรแบบใหม่และเป็นนวัตกรรมใหม่ ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อการบริโภคของมนุษย์ และมีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมแมลงศัตรูพืช เกษตรกรสามารถหันมาใช้เทคโนโลยีใหม่นี้และได้รับประโยชน์จากการควบคุมสัตว์รบกวนโดยปราศจากผลกระทบด้านลบที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีแบบดั้งเดิม อนาคตของการควบคุมศัตรูพืชในภาคการเกษตรมาถึงแล้ว และดูเหมือนว่าจะมีความหวังด้วย Maca alkaloids

การใช้มาคาอัลคาลอยด์ เกษตรกรควรผสมสารละลาย 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นพืชทุกๆ 3 วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันแนะนำให้ฉีดพ่นพืชทุกๆ 15-30 วัน วิธีการนี้สามารถป้องกันและควบคุมแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

การปลูกลิ้นจี่ให้ได้ผลผลิตสูงสุด: ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1

ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดจากต้นลิ้นจี่ ผู้ปลูกต้องใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมและใช้วิธีการเพาะปลูกที่ถูกต้อง ในบทความนี้จะกล่าวถึงประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในการปลูกลิ้นจี่เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุด

ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิภาพสูง ประกอบด้วย ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว สารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นลิ้นจี่ ตัวอย่างเช่น ไนโตรเจนมีความจำเป็นต่อการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และการเจริญเติบโตของใบ ลำต้น และกิ่งก้าน ในทางกลับกัน ฟอสฟอรัสส่งเสริมการพัฒนาของราก การออกดอก และการติดผล โพแทสเซียมจำเป็นสำหรับการควบคุมออสโมรี การดูดซึมน้ำ และการดูดซึมคาร์บอน ในขณะที่แมกนีเซียมจำเป็นต่อการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์และการกระตุ้นเอนไซม์ ในขณะที่สังกะสีมีความสำคัญต่อเมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรตและการควบคุมฮอร์โมนการเจริญเติบโต

เมื่อใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด เมื่อแกะกล่องออกมา ปุ๋ยจะมี 2 ถุง น้ำหนักถุงละ 1 กก. ต้องผสมสองถุงเพื่อใช้พร้อมกัน ในการเตรียมปุ๋ย ให้ผสมถุง 50 กรัมใบแรกกับถุง 50 กรัมใบที่สองในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นให้ทั่วต้นลิ้นจี่

ประโยชน์ของปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 ในการปลูกลิ้นจี่มีมากมาย ประการแรก ปุ๋ยจะถูกดูดซับอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยต้นลิ้นจี่ ช่วยให้เจริญเติบโตและพัฒนาได้เร็วขึ้น ประการที่สอง ธาตุอาหารในปุ๋ยนั้นพร้อมสำหรับต้นไม้ ส่งเสริมการเจริญเติบโต การออกดอก และผล ประการที่สาม สารลดแรงตึงผิวในปุ๋ยช่วยให้แน่ใจว่าสารอาหารเกาะติดกับใบ ลดความเสี่ยงของการสูญเสียสารอาหารเนื่องจากฝนหรือลม ประการที่สี่ ปุ๋ยใช้ง่าย ใช้ได้ตลอดฤดูปลูก

สรุปได้ว่า ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK-1 เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ปลูกลิ้นจี่ที่ต้องการให้ต้นได้ผลผลิตสูงสุด โดยการให้สารอาหารที่จำเป็น เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ปุ๋ยจะส่งเสริมการเจริญเติบโต การออกดอก และผล สารลดแรงตึงผิวในปุ๋ยช่วยให้แน่ใจว่าธาตุอาหารเกาะติดกับใบ ลดความเสี่ยงของการสูญเสียธาตุอาหาร เพื่อให้ได้ผลสูงสุด ผู้ปลูกลิ้นจี่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างระมัดระวัง และใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอตลอดฤดูปลูก

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

อะมิโนโปรตีนมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตของพืชหลายชนิด สารประกอบสำคัญเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนพืช ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการทำงานที่สำคัญหลายอย่างภายในพืช รวมถึงการเจริญเติบโต พัฒนาการ และการสืบพันธุ์

พืชชนิดหนึ่งที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้อะมิโนโปรตีนคือมะเขือยาว อะมิโนโปรตีนสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างและการขยายตัวของเซลล์เนื้อเยื่อในมะเขือยาว ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแรงมากขึ้นและสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้นสำหรับพืช

นอกจากประโยชน์สำหรับมะเขือยาวแล้ว อะมิโนโปรตีนยังมีประโยชน์สำหรับพืชอื่นๆ อีกหลากหลายชนิด เช่น ข้าว พืชไร่ในที่ดอน และไม้ผล เมื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการให้ปุ๋ยตามปกติ อะมิโนโปรตีนสามารถช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของพืชเหล่านี้ ซึ่งนำไปสู่ผลผลิตที่ดีขึ้นและผลิตผลที่มีคุณภาพสูงขึ้น

การใช้อะมิโนโปรตีนนั้นค่อนข้างง่าย หากต้องการนำไปใช้กับพืชของคุณ เพียงผสมกับน้ำแล้วฉีดพ่นลงบนพืชโดยใช้ขวดสเปรย์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ปริมาณของอะมิโนโปรตีนที่คุณควรใช้จะขึ้นอยู่กับชนิดของพืชที่คุณปลูก เช่นเดียวกับขนาดของพื้นที่ปลูกของคุณ

สำหรับผัก หลักการที่ดีคือใช้อะมิโนโปรตีนระหว่าง 10-20 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร สำหรับนาข้าว พืชไร่ และไม้ผล คุณอาจต้องใช้มากกว่านี้เล็กน้อย โดยทั่วไปคือระหว่าง 20-40 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร หากคุณใช้ระบบน้ำหยด คุณสามารถผสมอะมิโนโปรตีน 500 มล. กับน้ำต่อพื้นที่ปลูกทุกๆ 1 ไร่

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ควรฉีดพ่นอะมิโนโปรตีนบนพืชในช่วงออกดอก ทั้งนี้เนื่องจากฮอร์โมนที่ผลิตโดยอะมิโนโปรตีนสามารถรบกวนกระบวนการทางธรรมชาติของพืช ซึ่งอาจนำไปสู่การลดผลผลิตหรือผลเสียอื่นๆ

โดยรวมแล้ว การใช้อะมิโนโปรตีนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของพืชของคุณ การผสมผสานองค์ประกอบที่สำคัญเหล่านี้เข้ากับระบบการปฏิสนธิของคุณ คุณสามารถช่วยให้แน่ใจว่าพืชผลของคุณแข็งแรงและให้ผลผลิตมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์โดยรวมที่ดีขึ้นสำหรับฟาร์มหรือสวนของคุณ

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..