[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - ปุ๋ยทางใบ
315 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 31 หน้า, หน้าที่ 32 มี 5 รายการ

การใช้ปุ๋ยทางใบ เพื่อเสริมธาตุอาหารอย่างมีประสิทธิภาพในข้าว
การใช้ปุ๋ยทางใบ เพื่อเสริมธาตุอาหารอย่างมีประสิทธิภาพในข้าว
การใช้ปุ๋ยทางใบ เพื่อเสริมธาตุอาหารอย่างมีประสิทธิภาพในข้าว
บทนำ
ต้นข้าวต้องการธาตุอาหารครบถ้วนตลอดวงจรชีวิต เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพ การใส่ปุ๋ยทางดินเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากธาตุอาหารบางชนิดถูกตรึงในดินหรือสูญเสียจากการชะล้าง การใช้ ปุ๋ยทางใบ จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ FK-1 และ FK-3R ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของข้าวในแต่ละช่วง

ส่วนประกอบและบทบาทของธาตุอาหารใน FK-1
FK-1 สูตร 20-20-20 + ธาตุเสริม เหมาะสำหรับช่วงต้นฤดูปลูก ช่วยกระตุ้นการแตกกอและการตั้งต้นของข้าว

ธาตุหลักใน FK-1:

ไนโตรเจน (20%)
- ส่งเสริมการสร้างโปรตีนและคลอโรฟิลล์
- เร่งการแตกกอ ใบเขียวเข้ม การสังเคราะห์แสงดีขึ้น
- จำเป็นในช่วงเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ

ฟอสฟอรัส (20%)
- กระตุ้นการพัฒนาระบบรากให้แข็งแรง
- ส่งเสริมการสร้างพลังงาน (ATP) และการแบ่งเซลล์
- ช่วยให้ต้นข้าวตั้งตัวได้ดีและทนต่อสภาพแวดล้อม

โพแทสเซียม (20%)
- ควบคุมการเปิด-ปิดปากใบและการลำเลียงน้ำตาล
- เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับลำต้น
- แม้ไม่ใช่ช่วงสร้างเมล็ด แต่โพแทสเซียมช่วยเสริมโครงสร้างพืชแต่แรก

ธาตุเสริมใน FK-1:
- แมกนีเซียม
- เป็นแกนกลางของคลอโรฟิลล์
- ช่วยให้ข้าวสังเคราะห์แสงได้เต็มที่

ซิงค์ (สังกะสี)
- จำเป็นต่อการสังเคราะห์ฮอร์โมนพืช เช่น ออกซิน
- เร่งการแตกกอ การเจริญเติบโตของยอดอ่อน และการพัฒนาใบ

ส่วนประกอบและบทบาทของธาตุอาหารใน FK-3R
FK-3R สูตร 5-10-40 + ธาตุเสริม เหมาะสำหรับช่วงข้าวตั้งท้อง–ออกรวง ต้องการสารอาหารเพื่อสร้างดอกและเมล็ด

ธาตุหลักใน FK-3R:
- ไนโตรเจน (5%)
- ในปริมาณน้อย เพื่อไม่ให้ต้นข้าวแตกใบมากเกินไป
- รักษาความเขียวของต้นในช่วงใกล้เก็บเกี่ยว

ฟอสฟอรัส (10%)
- สนับสนุนการสร้างดอกและพัฒนารวง
- ช่วยเคลื่อนย้ายพลังงานไปยังส่วนของเมล็ด
- โพแทสเซียม (40%)

เน้นโพแทสเซียมสูงเป็นพิเศษ
- เร่งการอัดเมล็ดและเพิ่มน้ำหนักข้าว
- เพิ่มความต้านทานต่อโรคและความแห้งแล้ง
- ช่วยข้าวสุกเสมอกัน ลดปัญหาเมล็ดลีบ

ธาตุเสริมใน FK-3R:

แมกนีเซียม
- สนับสนุนการสร้างแป้งและน้ำตาล

ซิงค์
- กระตุ้นการสร้างเมล็ดและการแบ่งเซลล์ช่วงสุดท้าย
- ช่วยให้รวงข้าวสมบูรณ์ สม่ำเสมอ

กลยุทธ์การใช้ FK-1 และ FK-3R ร่วมกัน

การวางแผนการให้ปุ๋ยทางใบตามช่วงอายุข้าวเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มผลผลิต:
- ช่วง 15–30 วันหลังหว่าน/ปักดำ: ใช้ FK-1 เพื่อกระตุ้นการแตกกอและการพัฒนาราก
- ช่วงเริ่มตั้งท้อง–ออกรวง: ใช้ FK-3R เพื่อเร่งการสร้างเมล็ดและเพิ่มน้ำหนัก

การใช้ร่วมกันนี้ ช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมกับระยะพัฒนาการของต้นข้าว

สรุป
FK-1 และ FK-3R ไม่ใช่เพียงแค่ปุ๋ยทางใบทั่วไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการธาตุอาหารแบบแม่นยำ (Precision Fertilization) แต่ละสูตรถูกออกแบบตามความต้องการของข้าวในแต่ละช่วง ทำให้สามารถเพิ่มผลผลิตทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ สามารถติดต่อได้ที่
โทร: 090-592-8614
ไลน์ไอดี: @FarmKaset
อ่าน:141
การป้องกันกันกำจัดโรคพืช อย่างมีประสิทธิภาพ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคราสนิม โรคราต่างๆ
การป้องกันกันกำจัดโรคพืช อย่างมีประสิทธิภาพ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคราสนิม โรคราต่างๆ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1: ประโยชน์และวิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคพืช

บทนำ
การเกษตรสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดความเสียหายจากโรคพืช บทความวิชาการนี้นำเสนอการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชแพนน่อน (ที่มีสารออกฤทธิ์คือแมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ประสิทธิภาพของแพนน่อน (แมนโคเซป) ในการป้องกันกำจัดโรคพืช
แพนน่อน ซึ่งมีสารออกฤทธิ์สำคัญคือแมนโคเซป เป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืช (fungicide) ประเภทสัมผัส ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สามารถใช้ป้องกันกำจัดโรคพืชได้หลากหลายชนิด ได้แก่:

โรคใบจุด (Leaf spot diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ทำให้เกิดจุดบนใบพืช ส่งผลให้พื้นที่ในการสังเคราะห์แสงลดลง
โรคราสนิม (Rust diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Puccinia ทำให้เกิดแผลสีส้มหรือสีน้ำตาลบนใบพืช
โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Oomycetes ทำให้เกิดคราบขาวใต้ใบพืช
โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) - โรคที่ทำให้เกิดแผลยุบตัวบนผล ใบ และลำต้น
โรคใบไหม้ (Blight diseases) - โรคที่ทำให้ใบพืชเหี่ยวแห้งและตายอย่างรวดเร็ว
โรคผลเน่า (Fruit rot) - โรคที่ทำให้ผลไม้เน่าเสียก่อนเก็บเกี่ยว

แมนโคเซปมีความเหมาะสมในการใช้กับพืชหลายชนิด เช่น:

ข้าว - ป้องกันโรคไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae
ผัก - ป้องกันโรคราน้ำค้างและโรคใบจุดในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ และพืชผักอื่นๆ
ไม้ผล - ป้องกันโรคแอนแทรคโนสและโรคผลเน่าในมะม่วง ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ
มันฝรั่ง - ป้องกันโรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans
ยางพารา - ป้องกันโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora และ Colletotrichum

องค์ประกอบและประโยชน์ของปุ๋ยทางใบ FK-1
ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่:

ไนโตรเจน (N) - ช่วยในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น กระตุ้นการสร้างโปรตีนและคลอโรฟิลล์
ฟอสฟอรัส (P) - ช่วยในการออกดอก ติดผล และพัฒนาระบบราก มีบทบาทสำคัญในกระบวนการถ่ายทอดพลังงาน
โพแทสเซียม (K) - เพิ่มความแข็งแรงของพืช ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล และเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง
แมกนีเซียม (Mg) - เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง
ซิงค์ (Zn) - ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเติบโตและเอนไซม์ที่สำคัญ ส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีน

ประโยชน์ของการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1
การผสมแพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 และฉีดพ่นไปพร้อมกัน ให้ประโยชน์หลายประการต่อเกษตรกรและพืช ดังนี้:

1. เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ
การใช้สารป้องกันกำจัดโรคควบคู่กับการเสริมธาตุอาหารให้พืช เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ โดยแมนโคเซปจะช่วยป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อรา ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น

2. ประหยัดเวลาและลดต้นทุนการผลิต
การฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและปุ๋ยทางใบในคราวเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต เนื่องจาก:

ลดจำนวนครั้งในการฉีดพ่น
ประหยัดน้ำและเชื้อเพลิงที่ใช้ในการฉีดพ่น
ลดการสึกหรอของอุปกรณ์การเกษตร
ลดค่าแรงงานในการฉีดพ่น

3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช
ธาตุอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช ทำให้พืชแข็งแรงและต้านทานต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรคได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแมนโคเซปในการป้องกันกำจัดโรคพืช

4. เร่งการฟื้นตัวของพืชที่เริ่มแสดงอาการของโรค
หากพืชเริ่มแสดงอาการของโรค การได้รับทั้งสารป้องกันกำจัดโรคและธาตุอาหารพร้อมกัน จะช่วยให้พืชสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยแมนโคเซปจะช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ในขณะที่ธาตุอาหารจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย

5. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของสารป้องกันกำจัดโรค
ธาตุอาหารบางชนิดในปุ๋ยทางใบ FK-1 อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของแมนโคเซปเข้าสู่เนื้อเยื่อพืช ทำให้การป้องกันกำจัดโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อพืช ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

1. การทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมี
ก่อนนำแพนน่อนและปุ๋ยทางใบ FK-1 มาผสมกันเพื่อใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ ควรทำการทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมีในปริมาณน้อยก่อน เพื่อตรวจสอบว่าไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การตกตะกอน การแยกชั้น หรือการเกิดฟอง

2. อัตราส่วนการผสมที่เหมาะสม
ควรใช้อัตราส่วนการผสมตามที่ระบุไว้บนฉลากของทั้งสองผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปแล้ว:

แพนน่อน (แมนโคเซป): ใช้อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ปุ๋ยทางใบ FK-1: ใช้อัตรา 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
หมายเหตุ แกะกล่องมาจะผสมสองถุง ต้องใช้ทั้งสองถุงผสมกัน

3. การผสมสารเคมี
ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของการใช้สารเคมี ควรปฏิบัติดังนี้:

เติมน้ำลงในถังพ่นประมาณครึ่งถัง
ละลายแพนน่อน (แมนโคเซป) ในน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน แล้วจึงเทลงในถังพ่น
คนให้เข้ากัน
เติมปุ๋ยทางใบ FK-1 ลงในถังพ่น
คนให้เข้ากันอีกครั้ง
เติมน้ำให้ได้ปริมาตรตามต้องการ
คนให้เข้ากันตลอดเวลาระหว่างการฉีดพ่น

4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่น
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น เมื่อแสงแดดไม่จัดและอุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดอาการไหม้ของใบพืช

5. ความถี่ในการฉีดพ่น
ความถี่ในการฉีดพ่นขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ระยะการเจริญเติบโต และความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปควรฉีดพ่นทุก 7-14 วัน หรือตามที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์

6. ข้อควรระวัง

ควรผสมและใช้ทันที ไม่ควรเก็บสารละลายที่ผสมแล้วไว้ข้ามคืน
สังเกตอาการของพืชหลังการฉีดพ่น หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้
ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ หน้ากาก และชุดป้องกัน ขณะผสมและฉีดพ่นสารเคมี
ไม่ควรฉีดพ่นในขณะที่มีลมแรง เพื่อป้องกันการปลิวของละอองสารเคมีไปยังพื้นที่ข้างเคียง

สรุป
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืชด้วยธาตุอาหารที่จำเป็น ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีทางการเกษตรควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากและหลักการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและมีความปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

คำสำคัญ
แพนน่อน_ แมนโคเซป_ ปุ๋ยทางใบ FK-1_ โรคพืช_ สารป้องกันกำจัดโรคพืช_ ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม_ แมกนีเซียม_ ซิงค์_ การจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ_ ราสนิม_ ราน้ำค้าง_ ใบจุด_ แอนแทรคโนส_ ใบไหม้_ ผลเน่า_ การป้องกันโรคพืช
อ่าน:132
ปุ๋ยทางใบ FK-1: พลังแห่งธาตุอาหารที่เปลี่ยนการเติบโตของพืชของคุณ!
ปุ๋ยทางใบ FK-1: พลังแห่งธาตุอาหารที่เปลี่ยนการเติบโตของพืชของคุณ!
ท่านเคยสังเกตไหมว่าพืชของท่านเติบโตช้า ใบเหลือง หรือออกดอกออกผลไม่สมบูรณ์? นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าพืชของท่านกำลังขาดธาตุอาหารที่จำเป็น! แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะปุ๋ยทางใบ FK-1 คือคำตอบที่ท่านรอคอย!

ส่วนประกอบมหัศจรรย์ที่ครบครัน

ปุ๋ยทางใบ FK-1 ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น:

ไนโตรเจน - ตัวช่วยสำคัญในการสร้างใบและลำต้นที่แข็งแรง กระตุ้นการเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ ทำให้พืชเขียวชอุ่มน่ามอง

ฟอสฟอรัส - เร่งการเจริญเติบโตของรากและการออกดอกออกผล เสริมความแข็งแรงให้ระบบรากและช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น

โพแทสเซียม - เพิ่มความต้านทานโรคและแมลง ช่วยให้พืชทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และเสริมคุณภาพของผลผลิต

แมกนีเซียม - องค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยให้กระบวนการสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้พืชสร้างอาหารได้มากขึ้น

ซิงค์ - กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพื่อการเติบโต ช่วยให้พืชสร้างโปรตีนและเอนไซม์ที่จำเป็น เร่งการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช

ทำไมปุ๋ยทางใบ FK-1 จึงเหนือกว่า?

เมื่อพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 ธาตุอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่พืชโดยตรงผ่านทางใบ ซึ่งเร็วกว่าการให้ปุ๋ยทางดินถึง 8-10 เท่า! นี่คือประโยชน์ที่คุณจะได้รับ:

การดูดซึมที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ - ธาตุอาหารเข้าสู่พืชโดยตรง ไม่สูญเสียไปกับดินหรือน้ำ

เห็นผลภายใน 24-48 ชั่วโมง - พืชจะเริ่มมีสีเขียวเข้มขึ้น แตกใบอ่อนใหม่ และมีความสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด

ใช้ได้กับพืชทุกชนิด - ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก ไม้ผล ไม้ดอก หรือพืชไร่ FK-1 ช่วยเพิ่มผลผลิตได้อย่างน่าทึ่ง

แก้ปัญหาการขาดธาตุอาหารได้ทันที - เมื่อพืชแสดงอาการขาดธาตุอาหาร การพ่น FK-1 จะช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว

ประโยชน์มหาศาลที่คุณเห็นได้ด้วยตาตัวเอง

เกษตรกรผู้ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ต่างยืนยันว่าได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง:

พืชผักเติบโตเร็วขึ้น 30-40% เก็บเกี่ยวได้เร็วกว่ากำหนด

ไม้ผลออกดอกสม่ำเสมอ ติดผลดกและมีคุณภาพสูง

พืชแข็งแรงต้านทานโรคและแมลงได้ดีขึ้น ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

สีและรสชาติของผลผลิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

วิธีการใช้ที่ง่ายและคุ้มค่า

การใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ทำได้ง่าย เพียงผสมน้ำตามอัตราที่แนะนำและพ่นให้ทั่วทั้งต้น โดยเฉพาะบริเวณใต้ใบซึ่งมีปากใบมากกว่า พ่นในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ปุ๋ยทางใบ FK-1 ใช้ได้กับทุกช่วงการเติบโตของพืช ตั้งแต่ระยะต้นกล้า ระยะเจริญเติบโต ระยะออกดอก และระยะติดผล โดยแต่ละช่วงจะได้รับประโยชน์ที่แตกต่างกัน

เปลี่ยนสวนของคุณให้เขียวชอุ่มและให้ผลผลิตเต็มที่

ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรมืออาชีพหรือเพียงแค่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยให้พืชของคุณเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ

อย่าปล่อยให้พืชของคุณขาดสารอาหารสำคัญอีกต่อไป! เริ่มใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 วันนี้ และสัมผัสความแตกต่างที่คุณจะเห็นได้ด้วยตาตัวเอง!
อ่าน:160
ดูแลพริกไทย ให้ธาตุอาหารถูกช่วงการเจริญเติบโต ส่งเสริมผลผลิตให้ดีขึ้น
ดูแลพริกไทย ให้ธาตุอาหารถูกช่วงการเจริญเติบโต ส่งเสริมผลผลิตให้ดีขึ้น
### การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn) ในการดูแลพริกไทยเพื่อให้เจริญเติบโตดี ผลผลิตสูง

**คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์:**

1. **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)** - ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก ทำให้รากแข็งแรง ดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ดี ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพริกไทย

2. **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)** - มีธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน-ฟอสฟอรัส-โพแทสเซียม) ในสัดส่วนที่เหมาะสม ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและต้นให้สมบูรณ์ และมีแมกนีเซียม (Mg) และสังกะสี (Zn) ที่ช่วยในการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ทำให้ใบเขียวเข้ม กระบวนการสังเคราะห์แสงดีขึ้น เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับพืช

### ช่วงเวลาการใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของพริกไทย

#### ระยะเริ่มต้นการเจริญเติบโต (1-3 เดือนแรก)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดินรอบโคนต้น ทุก 15-30 วัน ช่วยให้รากแข็งแรง และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร โดยใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นที่ใบ ทุก 15 วัน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบและลำต้นให้แข็งแรง สมบูรณ์

#### ระยะเติบโตเต็มที่ (4-6 เดือน)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดินรอบโคนต้น ทุก 30 วัน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมอาหารให้กับราก
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นที่ใบ ทุก 15 วัน เพื่อเสริมความเขียวและเพิ่มการสังเคราะห์แสงในต้นพริกไทย

#### ระยะก่อนการติดดอก (ช่วงเตรียมดอก)
- **ฮิวมิค FK**: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดลงดิน ทุก 15-30 วัน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้รากและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร ใช้อัตรา 25-50 กรัม/ถุง ฉีดพ่นเฉพาะใบและลำต้น ทุก 15 วัน ช่วยเพิ่มความเขียวเข้มของใบ กระตุ้นการเจริญเติบโตและเพิ่มโอกาสในการสร้างตาดอก

### คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่น **ปุ๋ยทางใบ FK-1** ขณะพริกไทยกำลังติดดอก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาดอกและผล

การดูแลพริกไทยด้วย **ฮิวมิค FK** และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1** ตามระยะที่เหมาะสมนี้ จะช่วยให้พริกไทยโตไว แข็งแรง ใบเขียวเข้ม สามารถให้ผลผลิตที่ดีและต่อเนื่อง
อ่าน:132
ดูแลสวนเงาะ ให้ได้ผลผลิตดีขึ้น ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะ และการปรับปรุงโครงสร้างดิน
ดูแลสวนเงาะ ให้ได้ผลผลิตดีขึ้น ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะ และการปรับปรุงโครงสร้างดิน
**การใช้ ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 ในการดูแลสวนเงาะ**

การใช้ปุ๋ย ฮิวมิค FK และ FK-1 เป็นวิธีช่วยให้สวนเงาะเติบโตได้สมบูรณ์และให้ผลผลิตดี โดยสามารถใช้ตามช่วงการเติบโตของเงาะเพื่อเสริมสร้างราก ลำต้น ใบ และผล

**คุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์**

- **ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)**: ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของระบบราก ดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทำให้พืชเติบโตแข็งแรง
- **ปุ๋ย FK-1 (สูตร 20-20-20 + Mg Zn)**: เป็นปุ๋ยทางใบที่เสริมสารอาหารหลัก (ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม) ร่วมกับสารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ที่ช่วยในการสังเคราะห์แสงของใบ ทำให้ใบเขียวเข้มและสุขภาพดีขึ้น

**คำแนะนำการใช้งานตามช่วงการเจริญเติบโตของเงาะ**

1. **ระยะต้นกล้าและเตรียมปลูก**
ใช้ฮิวมิค FK ในอัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้นทุก 15 วัน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก และให้รากแข็งแรง

2. **ระยะสร้างใบและลำต้น**
ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ผสมสองส่วน (ถุงแรก 20-20-20 และถุงที่สอง Mg + Zn) โดยใช้ในอัตราส่วน 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 15 วันเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น
*หมายเหตุ*: ไม่ควรฉีดพ่นช่วงที่เงาะเริ่มติดดอก เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อดอกที่อาจหลุดร่วงได้

3. **ระยะเพิ่มคุณภาพผล**
เมื่อเงาะเริ่มเข้าสู่ระยะการพัฒนาของผล สามารถใช้ฮิวมิค FK อัตรา 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร รดบริเวณโคนต้นทุก 15-20 วัน เพื่อช่วยให้ผลผลิตมีน้ำหนักดีและได้ขนาด

4. **ระยะเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว**
หลังเก็บเกี่ยว ใช้ฮิวมิค FK และ FK-1 ในอัตราที่แนะนำ เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของต้น และเสริมสร้างการเตรียมตัวสำหรับฤดูถัดไป
อ่าน:254
การปลูกฟักทอง ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการให้ ปุ๋ยยาฯ ที่เหมาะสม
การปลูกฟักทอง ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการให้ ปุ๋ยยาฯ ที่เหมาะสม
ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค) และปุ๋ยทางใบ FK-1 ช่วยดูแลและส่งเสริมการเจริญเติบโตของฟักทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้ควรดำเนินตามระยะการเจริญเติบโตของฟักทอง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี โตไว และสมบูรณ์แข็งแรง การใช้ฮิวมิคFK ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและสารอาหาร ทำให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 มีธาตุอาหารหลัก (N-P-K 20-20-20) และสารเสริมการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ซึ่งช่วยในการสังเคราะห์แสงและกระตุ้นการเจริญเติบโตโดยรวม

### ช่วงเวลาการใช้ตามระยะการเจริญเติบโตของฟักทอง

1. **ระยะเริ่มปลูก (ช่วงแรกที่มีใบจริง)**
- **ฮิวมิคFK**: ใช้ 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของรากและเตรียมดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโตของต้นฟักทอง
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ผสมทั้งสองถุง (N-P-K 20-20-20 และ Mg+Zn) ในอัตรา 25-50 กรัม ถุงละต่อน้ำ 20 ลิตร ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของใบและต้น

2. **ระยะเจริญเติบโตทางใบและลำต้น (ช่วงใบสมบูรณ์)**
- **ฮิวมิคFK**: ฉีดพ่นต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์เพื่อเสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของลำต้นและใบ ทำให้ต้นฟักทองแข็งแรงและพร้อมที่จะให้ผลผลิต

3. **ระยะพัฒนาเถาและสะสมพลังงาน (ก่อนเริ่มติดดอก)**
- **ฮิวมิคFK**: ใช้ตามเดิม ทุก 2 สัปดาห์ ช่วยบำรุงรากให้มีการสะสมพลังงาน
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ใช้ต่อเนื่องทุก 10-15 วันเพื่อสะสมสารอาหารสำหรับช่วงติดผล ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงติดดอก

4. **ระยะผลอ่อนจนถึงเก็บเกี่ยว**
- **ฮิวมิคFK**: ฉีดพ่นในช่วงที่จำเป็นเพื่อเสริมความแข็งแรงของต้นและราก ไม่ควรฉีดพ่นในช่วงที่มีดอกหรือผลเล็ก
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1**: ใช้เป็นระยะ ๆ เพื่อให้ผลฟักทองโตไว สมบูรณ์ และมีคุณภาพสูง ควรเว้นช่วงการฉีดพ่นในระยะติดดอกเพื่อไม่รบกวนการผสมเกสร

การใช้งานอย่างสม่ำเสมอและระมัดระวังในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตจะช่วยให้ฟักทองมีความสมบูรณ์และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
อ่าน:198
เพิ่มผลผลิต สับปะรด ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโตของสับปะรด
เพิ่มผลผลิต สับปะรด ด้วยการให้ปุ๋ยตามระยะการเจริญเติบโตของสับปะรด
การใช้ **ฮิวมิคFK** (เสริมฟลูวิค) และ **ปุ๋ยทางใบ FK-1** (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn) ช่วยเพิ่มผลผลิตและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของต้นสับปะรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยพืชในเรื่องการดูดซึมธาตุอาหาร เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบราก ใบ และลำต้น ทำให้พืชแข็งแรงและทนต่อโรคได้ดีขึ้น โดยการใช้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถแบ่งตามช่วงเวลาการเจริญเติบโตของสับปะรด ดังนี้:

### ช่วงเวลาการใช้
1. **ระยะต้นอ่อนและรากเริ่มเติบโต (1-3 เดือนแรก)**
- ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยฉีดพ่นรอบๆ โคนต้นทุก 2 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากและเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร

2. **ระยะการเจริญเติบโตของใบและลำต้น (4-8 เดือน)**
- ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกเดือน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบรากและการดูดซึมแร่ธาตุในดิน
- ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมถุงแรก (สูตร 20-20-20) 25-50 กรัม และถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) 25-50 กรัม เข้าด้วยกันในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น ช่วยให้สับปะรดมีใบเขียว แข็งแรง และสามารถสร้างอาหารได้ดี

3. **ระยะก่อนติดดอก (9-12 เดือน)**
- ใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อบำรุงระบบรากให้พร้อมรับธาตุอาหารสำคัญที่ช่วยในการสร้างผล
- ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมถุงแรก (สูตร 20-20-20) 25-50 กรัม และถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg + Zn) 25-50 กรัม ในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุกเดือน เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของต้นสับปะรดให้พร้อมสำหรับการสร้างผลในอนาคต

4. **ระยะขยายผล (หลังติดผลจนถึงก่อนเก็บเกี่ยว)**
- งดการฉีดพ่นในระยะติดดอก เพื่อลดโอกาสที่สารเคมีจะกระทบต่อการพัฒนาของดอกและการติดผล
- หลังจากติดผลแล้ว ให้กลับมาใช้ฮิวมิคFK 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร และปุ๋ยทางใบ FK-1 ในอัตราส่วนผสมเดิม (ทั้งสูตร 20-20-20 และสารสังเคราะห์คลอโรฟิล) ทุก 2-3 สัปดาห์ เพื่อบำรุงผลให้เติบโตสมบูรณ์และให้เนื้อแน่น

### คุณประโยชน์จากการใช้ฮิวมิคFK และปุ๋ย FK-1
- **ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค)** ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของระบบราก ทำให้ต้นพืชดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้อย่างเต็มที่ เสริมสร้างความแข็งแรงและช่วยให้พืชสามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ ได้ดี
- **ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20)** ช่วยเพิ่มธาตุอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโต โดยเฉพาะ N-P-K ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างใบและลำต้นที่แข็งแรง ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีตลอดฤดูกาล
อ่าน:248
การดูแลมะพร้าวให้โตไว สมบูรณ์ และมีผลผลิตดีด้วยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1
การดูแลมะพร้าวให้โตไว สมบูรณ์ และมีผลผลิตดีด้วยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1
การดูแลมะพร้าวอย่างต่อเนื่องด้วยปุ๋ยฮิวมิคFK และปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยให้ต้นมะพร้าวเจริญเติบโตได้เร็วและมีผลผลิตดี โดยเลือกใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามวงจรการเจริญเติบโตของมะพร้าว

คุณสมบัติของปุ๋ย:

1. ฮิวมิคFK (เสริมฟลูวิค): ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและสารอาหารในดิน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ทำให้ต้นมะพร้าวสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ


2. ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): ปุ๋ยสูตรสมดุล (20-20-20) ที่เสริมด้วยแมกนีเซียมและสังกะสี ช่วยในการสังเคราะห์แสง เพิ่มความเขียวสดของใบ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้น



ช่วงเวลาการใช้ปุ๋ย:

ช่วงต้นฤดูกาลเติบโต: ใช้ ฮิวมิคFK ผสมในอัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น เพื่อปรับปรุงดินให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโต และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหาร

ช่วงเร่งการเจริญเติบโต: ใช้ ปุ๋ยทางใบ FK-1 โดยผสมส่วนผสมสองถุง (สูตร 20-20-20 และสารคลอโรฟิล Mg Zn) อัตราส่วน 25-50 กรัม ต่อถุง ในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ เพื่อกระตุ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มความเขียวสดให้ใบ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงติดดอก

ช่วงหลังจากมะพร้าวติดผล: ใช้ ฮิวมิคFK ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยให้รากดูดซึมสารอาหารได้ดี และทำให้ผลเจริญเติบโตเต็มที่

ช่วงเตรียมพร้อมก่อนเข้าฤดูฝน: ใช้ ฮิวมิคFK เพื่อปรับสภาพดินให้พร้อมรองรับน้ำฝน ช่วยให้ดินไม่แน่นเกินไป และเพิ่มการอุ้มน้ำ

ช่วงฟื้นฟูหลังฤดูฝน: ใช้ ปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อเสริมสร้างความเขียวสดให้ใบและซ่อมแซมใบที่อาจเสียหายจากสภาพอากาศหนัก ช่วยให้ต้นฟื้นตัวเร็วขึ้น


อัตราการผสม

ฮิวมิคFK: 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณโคนต้น

ปุ๋ยทางใบ FK-1:

ถุงแรก (สูตร 20-20-20): 25-50 กรัม

ถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn): 25-50 กรัม
ผสมทั้งสองถุงในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบ



อ่าน:309
การใช้ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อการเจริญเติบโตของพืชผักผลไม้นานาชนิด
การใช้ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อการเจริญเติบโตของพืชผักผลไม้นานาชนิด
การใช้ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชผักผลไม้หลากหลายชนิด โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นและมีการพัฒนาที่สมบูรณ์ในทุกช่วงของการเจริญเติบโต ทั้งนี้การใช้งานต้องทำตามคำแนะนำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์

1. ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)

ช่วยเสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรง เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร

ช่วยเพิ่มความสามารถของดินในการเก็บกักน้ำ

เพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์ราก ช่วยให้รากดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพิ่มความทนทานของพืชต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป



2. ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิล Mg Zn)

ประกอบด้วยไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ที่ช่วยในการเจริญเติบโตอย่างสมดุลทั้งส่วนใบ ลำต้น และราก

มีสารเสริมคลอโรฟิลล์ (Mg และ Zn) ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์แสง ทำให้พืชมีสีเขียวสดใส และเจริญเติบโตได้ดี

เพิ่มความแข็งแรงให้พืช สามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านโรคและแมลงต่าง ๆ




ช่วงเวลาการใช้เพื่อให้พืชเจริญเติบโตได้รวดเร็ว สมบูรณ์ และให้ผลผลิตดี

1. ระยะเริ่มต้น (หลังปลูก)

ฮิวมิค FK: ใช้ในช่วงแรกของการเจริญเติบโตเพื่อกระตุ้นระบบราก

ปุ๋ยทางใบ FK-1: ฉีดพ่นหลังการเจริญเติบโตได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ช่วยให้พืชเริ่มสะสมธาตุอาหารสำคัญ



2. ระยะการเติบโต (ช่วงขยายลำต้นและใบ)

ฮิวมิค FK: ฉีดพ่นทุกๆ 15 วัน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของรากอย่างต่อเนื่อง

ปุ๋ยทางใบ FK-1: ฉีดพ่นทุกๆ 15 วันเพื่อเพิ่มการสังเคราะห์แสง ช่วยให้พืชเขียวเข้มแข็งแรง



3. ระยะก่อนการออกดอก

ฮิวมิค FK: ใช้เหมือนเดิมเพื่อให้ระบบรากสมบูรณ์ เตรียมพร้อมในการสะสมพลังงานสำหรับการออกดอกและติดผล

ปุ๋ยทางใบ FK-1: ควรหยุดการใช้ปุ๋ยทางใบขณะติดดอกเพื่อป้องกันการหลุดร่วงของดอก



4. ระยะติดผลและขยายผล

ฮิวมิค FK: ใช้ต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ผลมีคุณภาพดีและมีขนาดใหญ่

ปุ๋ยทางใบ FK-1: หลังติดผลแล้ว สามารถกลับมาฉีดพ่นได้ทุกๆ 15 วัน เพื่อเพิ่มน้ำหนักและความแข็งแรงของผล




อัตราส่วนการผสม

ฮิวมิค FK: ใช้อัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

ปุ๋ยทางใบ FK-1:

ถุงที่หนึ่ง (สูตร 20-20-20) ใช้อัตราส่วน 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

ถุงที่สอง (สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg + Zn) ใช้อัตราส่วน 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร

ผสมทั้งสองถุงเข้าด้วยกันแล้วใช้พร้อมกันในน้ำ 20 ลิตร



อ่าน:158
การดูแลสวนพริก ให้ได้ผลผลิตดี
การดูแลสวนพริก ให้ได้ผลผลิตดี
ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค) และ ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg Zn)

การดูแลพริกให้เติบโตแข็งแรงและให้ผลผลิตดี จำเป็นต้องมีการบำรุงและใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้องตลอดช่วงอายุการเจริญเติบโต โดยเฉพาะการเสริมธาตุอาหารที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับต้น เพิ่มการเจริญเติบโตของใบ ดอก และผล ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิต ในการนี้ ฮิวมิค FK และ FK-1 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารและกระตุ้นกระบวนการสังเคราะห์แสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์

1. ฮิวมิค FK (เสริมฟลูวิค)
ฮิวมิค FK มีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการดูดซึมธาตุอาหารและน้ำ รวมทั้งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก ซึ่งจะทำให้พริกมีการเติบโตแข็งแรงตั้งแต่ต้น


2. ปุ๋ยทางใบ FK-1 (สูตร 20-20-20 + สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ Mg Zn)
ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นสูตรสมดุล (NPK 20-20-20) ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชทุกส่วน โดยเฉพาะในส่วนของใบและลำต้น นอกจากนี้สารเสริมคลอโรฟิลล์ Mg และ Zn ยังช่วยเสริมการสังเคราะห์แสง เพิ่มการเจริญเติบโต และความแข็งแรงของต้นพริก



ตารางการใช้ฮิวมิค FK และ FK-1 ในการบำรุงพริก

การใช้ปุ๋ยในช่วงเวลาต่าง ๆ มีดังนี้

ระยะต้นกล้า (อายุ 7-14 วัน)

ฮิวมิค FK: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นรอบๆ โคนต้น ช่วยกระตุ้นการสร้างรากและการเจริญเติบโตของต้น

FK-1: งดใช้ในช่วงนี้


ระยะแตกกิ่งใบ (อายุ 21-30 วัน)

ฮิวมิค FK: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นรอบๆ โคนต้น ช่วยเสริมสร้างรากและโครงสร้างต้นให้แข็งแรง

FK-1: ผสมทั้งสองถุง (สูตร 20-20-20 และ Mg Zn) ถุงละ 25-50 กรัม ในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วัน ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของใบและลำต้น


ระยะก่อนติดดอก (อายุ 35-40 วัน)

ฮิวมิค FK: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นรอบโคนต้นเพื่อเตรียมความพร้อมของต้นพืช

FK-1: ผสมทั้งสองถุง ถุงละ 25-50 กรัม ในน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วัน ช่วยสร้างโครงสร้างต้นให้แข็งแรงและเตรียมพร้อมเข้าสู่ระยะติดดอกและออกผล


ระยะติดผล (หลังจากดอกบานและเริ่มเห็นผลเล็กๆ)

ฮิวมิค FK: ผสม 10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นรอบโคนต้นทุก 10-15 วัน เพื่อรักษาความแข็งแรงของต้น

FK-1: งดการใช้ขณะต้นพริกติดดอก



อ่าน:164
315 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 31 หน้า, หน้าที่ 32 มี 5 รายการ
|-Page 1 of 32-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ยาแก้โรคแคงเกอร์ ในมะนาว ยากำจัดเพลี้ย กำจัดหนอน สำหรับมะนาว แก้โรครากเน่า และ ปุ๋ย สำหรับมะนาว
Update: 2563/06/30 21:47:57 - Views: 3845
ยาแก้โรคเน่า ทานตะวันงอก ต้นอ่อนทานตะวัน โรคทานตะวันอ่อน ที่เกิดจากเชื้อราต่างๆ
Update: 2563/06/25 09:41:19 - Views: 3671
ยาแก้เพลี้ย ใน ผักกวางตุ้ง ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ กวางตุ้งดอกฮ่องกง ยากำจัดหนอน ยาแก้โรคใบไหม้ โรคราต่างๆ และ ปุ๋ย สำหรับ ผัก กวางตุ้ง
Update: 2563/06/25 08:51:38 - Views: 5651
แก้โรคและแมลง กะหล่ำดาว เพลี้ยกะหล่ำดาว ยาแก้กะหล่ำดาวใบไหม้ และโรคราต่างๆ ปุ๋ยกะหล่ำดาว
Update: 2563/06/24 08:53:49 - Views: 3468
แก้บร็อคโคลี่ใบไหม้ ราน้ำค้าง โรคต่างๆจากเชื้อรา ยากำจัดหนอนบร็อคโคลี่ ยาแก้เพลี้ยบร็อคโคลี่ ปุ๋ย สำหรับ บร็อคโคลี่
Update: 2563/06/24 07:36:48 - Views: 3642
EP01 ทำเกษตร ง่ายจริงหรือ ? - Podcast ฟาร์มเกษตร
Update: 2563/06/23 14:49:18 - Views: 3522
ยาแก้โรคสนิมขาว โรคราขาวในผักบุ้ง ยากำจัดหนอนผักบุ้ง ยากำจัดเพลี้ยผักบุ้ง และปุ๋ยเร่งโต สำหรับผักบุ้ง
Update: 2564/08/11 06:10:56 - Views: 3834
ยากำจัดเพลี้ยอ่อนคะน้า ยากำจัดหนอนในคะน้า ยาป้องกันกำจัด โรคคะน้าเน่าคอดิน โรคราน้ำค้างในคะน้า และปุ๋ยสำหรับเพิ่มผลผลิตคะน้า
Update: 2563/06/19 20:22:23 - Views: 3675
ยารักษาโรค ยาปราบแมลงศัตรูพืช สำหรับต้นหอม ปุ๋ยสำหรับหอมแดง หอมแบ่ง หอมหัวใหญ่
Update: 2563/06/19 08:34:56 - Views: 4175
ปุ๋ยสำหรับข้าว ปุ๋ยเพิ่มผลผลิตข้าว ยาแก้โรคใบไหม้ เน่าคอรวง ยากำจัดเพลี้ยในนาข้าว
Update: 2563/06/18 17:22:27 - Views: 3556
ปุ๋ยสำหรับอ้อย เพื่อบำรุงผลผลิต การแก้โรคอ้อย ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ป้องกันกำจัดเพลี้ย ในไร่อ้อย
Update: 2563/06/18 17:25:32 - Views: 5008
การปลูกมันสำปะหลัง การให้ปุ๋ยมันสำปะหลังตามช่วงอายุ การแก้โรคใบไหม้มันสำปะหลัง และกำจัดแมลงศัตรูพืช
Update: 2564/08/27 23:34:58 - Views: 3550
พิรุณ 2 เป็นพันธุ์มันสำปะหลังที่มีลักษณะพิเศษ เป็นได้ทั้งพันธุ์รับทาน และพันธุ์อุตสาหกรรม
Update: 2563/06/17 10:25:52 - Views: 3551
เพลี้ยจักจั่นสีเขียว (green rice leafhopper) การป้องกัน และกำจัด
Update: 2563/06/16 12:31:15 - Views: 4075
ยางพาราใบร่วง โรคเชื้อราไฟทอปโทร่า ยางพารา ใช้ยาอะไรแก้ดี..
Update: 2563/06/16 09:15:50 - Views: 3674
เลี้ยงหมูป่า รายได้เดือนละแสนกว่าบาท หนุ่มพะเยา เพาะเลี้ยงหมูป่าเป็นอาชีพเสริม
Update: 2563/06/15 20:11:28 - Views: 3978
โรคแก้วมังกร ลำต้นจุดสีน้ำตาล เกิดจากเชื้อรา Dothiorella sp.
Update: 2563/06/15 15:09:36 - Views: 3543
3 หลักปฏิบัติ กำจัด โรคใบด่างมันสำปะหลัง โดย กรมส่งเสริมการเกษตร
Update: 2563/06/15 10:14:35 - Views: 3505
งดปลูกมันสำปะหลัง พันธุ์ 89 เนื่องจากอ่อนแอต่อโรค แนะนำโดย กรมวิชาการเกษตร
Update: 2563/06/15 09:58:28 - Views: 3769
มันสำปะหลังใบไหม้ โรคใบไหม้มันสำปะหลัง มีอาการใบจุดเหลี่ยมฉ่ำน้ำ ใบไหม้ และใบเหี่ยว มียางไหล ยอดแห้ง ยอดเหี่ยว
Update: 2563/06/14 13:33:53 - Views: 3683
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022