มันสำปะหลังช่วงแล้ง: ทำไมต้นชะงัก หัวไม่โต...
👤
โดย: Admin
📅
2025-10-24 07:46:24
🌐
118.172.195.123
มันสำปะหลังช่วงแล้ง: ทำไมต้นชะงัก หัวไม่โต และวิธีบำรุงให้ฟื้นแรงอีกครั้ง
ในฤดูแล้งหรือช่วงดินขาดความชื้น เกษตรกรมักพบปัญหา “มันสำปะหลังไม่ลงหัว ใบเหลือง รากฝอยหาย” ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของพืช เมื่อดินและอากาศมีอุณหภูมิสูง รากดูดน้ำและธาตุอาหารลดลงอย่างชัดเจน
---
#🔬 1. กลไกของมันสำปะหลังในช่วงแล้ง
เมื่ออุณหภูมิดินสูงกว่า 30°C และความชื้นต่ำกว่า 60% ของความจุอุ้มน้ำในดิน
→ รากฝอยของมันสำปะหลังจะหยุดขยายตัวทันที เพราะเซลล์รากสูญเสียน้ำเร็ว
→ การดูดธาตุอาหารจำพวกไนโตรเจน (N), แมกนีเซียม (Mg), และโพแทสเซียม (K) ลดลง
→ ใบเริ่มเหลืองซีด และการสังเคราะห์แสง (photosynthesis rate) ลดลงกว่า 30–50%
เมื่อแสงยังมีมากแต่พืชดูดอาหารได้น้อย ระบบจะเปลี่ยนพลังงานที่ได้จากแสงมาเป็น “การคงสภาพ” มากกว่าการ “สร้างหัว”
---
🌿 2. ผลกระทบต่อการสร้างหัวมันสำปะหลัง
ในสภาพดินแข็งและแห้ง
* เซลล์บริเวณโคนรากที่ใช้สร้างหัว (root storage tissue) ไม่สามารถขยายตัวได้
* การเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากใบลงหัว (translocation) ลดลง
* หัวที่เริ่มสร้างแล้วจะ “หยุดขยาย” กลายเป็นหัวเล็กหรือผิวขรุขระ
หากสภาพนี้ยืดเยื้อ 3–4 สัปดาห์ หัวที่ควรโตจะกลายเป็น “หัวซังกะตาย” แม้ต้นยังไม่เหี่ยว
---
💧 3. ฟื้นระบบรากให้กลับมาทำงาน ด้วยอินทรีย์สารที่เหมาะสม
หัวใจสำคัญในช่วงนี้คือ “ฟื้นการทำงานของราก” ก่อนคิดจะเร่งใบหรือเร่งหัว
เพราะถ้ารากไม่กลับมาทำงาน ธาตุอาหารใดๆ ที่ใส่ลงไปจะสูญเปล่าทันที
ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะในเชิงวิทยาศาสตร์ เพราะ
* กรดฮิวมิคช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน และกระตุ้นการแตกของรากฝอยใหม่
* ฟลูวิคกรด (โมเลกุลขนาดเล็กกว่า) แทรกซึมเข้าเซลล์รากได้ง่าย ช่วยเร่งการดูดธาตุอาหาร
* ช่วยปรับสมดุล pH ดินให้อยู่ในระดับที่จุลินทรีย์ดีทำงานได้ดีขึ้น
ผลคือ รากที่เคยหยุดนิ่งกลับมาดูดอาหารได้อีกครั้งภายใน 7–10 วัน
---
🌾 4. เสริมการสร้างอาหารและการลงหัวด้วย FK-1
หลังจากรากเริ่มกลับมาทำงาน การพ่น **FK-1** จะช่วยเสริมกระบวนการสังเคราะห์แสงและการสร้างแป้งให้เต็มที่
เนื่องจาก FK-1 ประกอบด้วย
* ไนโตรเจน (N) ช่วยให้ใบฟื้นเขียว เพิ่มคลอโรฟิลล์
* ฟอสฟอรัส (P) ช่วยส่งพลังงานไปยังส่วนหัว
* โพแทสเซียม (K) เร่งการขยายหัวและเพิ่มเปอร์เซ็นต์แป้ง
* แมกนีเซียม (Mg) เสริมคลอโรฟิลล์ ใบเขียวเข้ม สังเคราะห์แสงดีขึ้น
* สังกะสี (Zn) ช่วยให้เอนไซม์สร้างคาร์โบไฮเดรตทำงานสมบูรณ์
พ่น FK-1 ช่วงเช้าแดดอ่อน (7.00–9.00 น.) สัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยให้ต้นดูดธาตุทางใบได้เต็มประสิทธิภาพ
---
🌳 5. แนวทางบำรุงฟื้นต้นอย่างต่อเนื่อง
* รดหรือพ่น **ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค** รอบโคน ทุก 10–15 วัน ช่วยให้ดินเย็นและรากกระตุ้นต่อเนื่อง
* พ่น **FK-1** ทุก 7 วัน ช่วงแดดอ่อน เพื่อเพิ่มการสังเคราะห์แสงและสะสมอาหารลงหัว
* หากอากาศร้อนจัด ควรคลุมโคนด้วยฟางแห้งหรือเศษหญ้าเพื่อลดการระเหยน้ำ
---
🔬 สรุปทางวิชาการ
* ดินแห้งและอุณหภูมิสูง → รากหยุดขยาย → การดูดอาหารลดลง → หัวไม่โต
* ฮิวมิคFK เสริมฟลูวิค → ฟื้นราก เพิ่มการดูดอาหาร
* FK-1 → เร่งการสังเคราะห์แสง สร้างแป้ง และเพิ่มการลงหัว
การใช้ร่วมกันจึงเป็น “การบำรุงครบระบบ” ทั้งทางรากและทางใบ
---
📚 อ้างอิง
* ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น (2564). *การเจริญเติบโตของมันสำปะหลังภายใต้สภาวะขาดน้ำ*. กรมวิชาการเกษตร.
* Taiz, L. & Zeiger, E. (2015). *Plant Physiology and Development*. Sinauer Associates.
* Howeler, R. (2011). *The Cassava Handbook*. CIAT – International Center for Tropical Agriculture.
---
#มันสำปะหลัง #แล้งนี้หัวไม่ฝ่อ #ฟื้นรากฟื้นต้น #ฮิวมิคFKเสริมฟลูวิค #FK1 #ฟาร์มเกษตร #เพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง #บำรุงรากมัน #เกษตรวิทยาศาสตร์ #อินทรีย์บำรุงดิน