สัญญาณความเครียดในพืชที่ดูได้ด้วยตาเปล่า
พืชเครียดตอนเช้า...
👤
โดย: Admin
📅
2025-10-26 08:41:40
🌐
125.27.140.92
สัญญาณความเครียดในพืชที่ดูได้ด้วยตาเปล่า
พืชเครียดตอนเช้า = ระบบราก
พืชเครียดตอนบ่าย = ระบบน้ำ–คายน้ำ
การสังเกตอาการเครียดของพืช ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือวัดเสมอไป แค่ดู “เวลา” ที่ใบเริ่มแสดงอาการ ก็สามารถแยกได้ว่า ปัญหาเกิดจาก “ราก” หรือ “การคายน้ำ” ซึ่งส่งผลกับการตัดสินใจแก้ไขในแปลงทันที
---
**1) พืชเครียดตอนเช้า**
ใบห่อ ใบตก ใบแผ่ไม่นิ่ง ตั้งแต่ช่วงเช้า หรือก่อน 9 โมง
แม้อากาศยังเย็น แดดยังไม่แรง
แสดงว่าปัญหาไม่ได้มาจากแสงหรืออากาศ
แต่เกิดที่ระบบราก
สาเหตุหลักมีสองแบบ
– ราก “เดินไม่ได้” (จากดินแน่น ดินอัดตัว ขาดอากาศ)
– ราก “เดินแต่ไม่กิน” (pH ดินไม่เหมาะ แร่ธาตุจับตัว พืชดูดไม่ได้)
ในภาษาวิชาการ พืชกำลังอยู่ในภาวะ *low root hydraulic conductivity*
คือ “รากยังอยู่ แต่ส่งน้ำขึ้นยอดได้ช้า”
ผลตามมา
– ใบเหลือง แม้ใส่ปุ๋ยแล้ว
– ยอดใหม่ออกได้ช้า
– โครงสร้างต้นไม่สมดุล แตกยอดแหลมแต่ไม่อวบ
หัวใจของการแก้
**แก้ดินก่อนปุ๋ย**
เปิดโครงสร้างดิน เพิ่มอากาศในดิน และเพิ่มอินทรียวัตถุให้ดินหายใจได้
---
**2) พืชเครียดตอนบ่าย**
ใบสลดตอนเที่ยงหรือบ่าย โดยเฉพาะช่วงอุณหภูมิสูง
แต่ฟื้นกลับมาเองตอนเย็นหรือรุ่งเช้า
แบบนี้เรียกว่า “ภาวะคายน้ำสูงกว่าการดูดน้ำ”
ระบบรากยังทำงานได้ แต่
– แดดจัดเกิน
– ความชื้นอากาศต่ำ
– อัตราการคายน้ำ (transpiration) สูง
– หรือดินชื้นไม่พอช่วงกลางวัน
เป็นสัญญาณว่า “พืชต้องปรับสมดุลน้ำ” ไม่ใช่เพิ่มปุ๋ย
แนวแก้ที่ตรงจุด
– ให้น้ำเป็นรอบลึก แต่ไม่ถี่ เพื่อให้ความชื้นถึงชั้นรากลึก
– ลดการเปิดใบอ่อนเกินจำเป็น (งดเร่งไนโตรเจนช่วงร้อนจัด)
– คลุมดินหรือเสริมอินทรียวัตถุเพื่อลดการระเหยหน้าแปลง
---
**3) อาการที่ชวนสับสน — พืชดูดีแต่ไม่โต**
พืชใบเขียว ยอดสวย แต่ “ไม่ขยายขนาด”
เกิดจากการที่รากดูดน้ำได้ปานกลาง แต่แร่ธาตุบางชนิดไม่เคลื่อน
เช่น Mg หรือ Zn
ทำให้การสังเคราะห์แสงทำได้ แต่การใช้พลังงานสร้างมวลหรือหัวทำได้น้อย
กรณีนี้ต้องมองที่ “ความลึกของราก + pH ดิน” เป็นหลัก
---
**วิธีประเมินแบบใช้งานจริงในแปลง**
ตอนเช้า (07:00–09:00) → ดู “ใบตั้งหรือใบตก”
ตอนบ่าย (13:00–15:00) → ดู “การสลดแล้วฟื้นหรือไม่”
ตารางความหมายแบบจำง่าย
เช้าเครียด → รากมีปัญหา
บ่ายเครียด → น้ำและการคายน้ำไม่สมดุล
เครียดทั้งวัน → ระบบรากและน้ำมีปัญหาพร้อมกัน ต้องแก้ดินก่อน
---
**เหมาะอย่างยิ่งกับพืช 3 กลุ่มนี้**
– มันสำปะหลัง (รากสะสม)
– อ้อย (ระบบลำต้นพึ่งน้ำและ Mg สูง)
– ไม้ผล (คายน้ำสูงในฤดูแล้ง และมีช่วงกระตุ้นตาดอก)
เพราะพืชกลุ่มนี้ “ไม่ตอบสนองต่อปุ๋ยทันที” แต่ตอบสนองต่อ “รากและน้ำ”
---
**อ้างอิง**
Taiz & Zeiger. Plant Physiology. Sinauer Associates.
Kramer & Boyer (1995). Water Relations of Plants and Soils.
Lynch, J.P. (2013). Roots of the Second Green Revolution.
---
#สัญญาณพืชเครียด #ระบบราก #คายน้ำ #จัดการน้ำในแปลง #มันสำปะหลัง #อ้อย #ไม้ผล #วิชาการเกษตร #เกษตรกรไทย