หน้าแรก
บทความ
สินค้า
ตามสินค้า
ติดต่อเรา
Central Lab ห้องปฏิบัติการกลาง
iLab ตรวจดิน
รับจ้างผลิตปุ๋ยยาฯOEM
แอพผสมปุ๋ย
English
📱 ติดตั้งแอพมือถือ ฟาร์มเกษตร ฟรี!ไม่มีเงื่อนไข
(รวมแอพผสมปุ๋ย และแอพเกษตรอื่นๆไว้ในแอพนี้)
พิมพ์คำค้นหา หรือลองคลิกตัวอย่าง >
มันสำปะหลัง
,
ข้าว
,
อ้อย
,
ทุเรียน
,
กัญชา
,
ข้าวโพด
,
ปาล์ม
,
ยางพารา
,
อินทผลัม
,
โรคใบไหม้
,
ราสนิม
,
เพลี้ย
,
ยาแช่ท่อนพันธุ์
[sort by :
last post
|
top views
]
..
+ โพสเรื่องใหม่
|
^ เลือกหน้า
|
ค้นคำว่า - ทุเรียน
432 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 43 หน้า, หน้าที่ 44 มี 2 รายการ
กรุณากรอกหัวข้อ
พิมพ์คำว่า ฟาร์มเกษตร
พิมพ์คำว่า ฟาร์มเกษตร
การป้องกันกันกำจัดโรคพืช อย่างมีประสิทธิภาพ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคราสนิม โรคราต่างๆ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1: ประโยชน์และวิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคพืช
บทนำ
การเกษตรสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดความเสียหายจากโรคพืช บทความวิชาการนี้นำเสนอการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชแพนน่อน (ที่มีสารออกฤทธิ์คือแมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ประสิทธิภาพของแพนน่อน (แมนโคเซป) ในการป้องกันกำจัดโรคพืช
แพนน่อน ซึ่งมีสารออกฤทธิ์สำคัญคือแมนโคเซป เป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืช (fungicide) ประเภทสัมผัส ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สามารถใช้ป้องกันกำจัดโรคพืชได้หลากหลายชนิด ได้แก่:
โรคใบจุด (Leaf spot diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ทำให้เกิดจุดบนใบพืช ส่งผลให้พื้นที่ในการสังเคราะห์แสงลดลง
โรคราสนิม (Rust diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Puccinia ทำให้เกิดแผลสีส้มหรือสีน้ำตาลบนใบพืช
โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Oomycetes ทำให้เกิดคราบขาวใต้ใบพืช
โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) - โรคที่ทำให้เกิดแผลยุบตัวบนผล ใบ และลำต้น
โรคใบไหม้ (Blight diseases) - โรคที่ทำให้ใบพืชเหี่ยวแห้งและตายอย่างรวดเร็ว
โรคผลเน่า (Fruit rot) - โรคที่ทำให้ผลไม้เน่าเสียก่อนเก็บเกี่ยว
แมนโคเซปมีความเหมาะสมในการใช้กับพืชหลายชนิด เช่น:
ข้าว - ป้องกันโรคไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae
ผัก - ป้องกันโรคราน้ำค้างและโรคใบจุดในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ และพืชผักอื่นๆ
ไม้ผล - ป้องกันโรคแอนแทรคโนสและโรคผลเน่าในมะม่วง ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ
มันฝรั่ง - ป้องกันโรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans
ยางพารา - ป้องกันโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora และ Colletotrichum
องค์ประกอบและประโยชน์ของปุ๋ยทางใบ FK-1
ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่:
ไนโตรเจน (N) - ช่วยในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น กระตุ้นการสร้างโปรตีนและคลอโรฟิลล์
ฟอสฟอรัส (P) - ช่วยในการออกดอก ติดผล และพัฒนาระบบราก มีบทบาทสำคัญในกระบวนการถ่ายทอดพลังงาน
โพแทสเซียม (K) - เพิ่มความแข็งแรงของพืช ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล และเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง
แมกนีเซียม (Mg) - เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง
ซิงค์ (Zn) - ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเติบโตและเอนไซม์ที่สำคัญ ส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีน
ประโยชน์ของการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1
การผสมแพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 และฉีดพ่นไปพร้อมกัน ให้ประโยชน์หลายประการต่อเกษตรกรและพืช ดังนี้:
1. เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ
การใช้สารป้องกันกำจัดโรคควบคู่กับการเสริมธาตุอาหารให้พืช เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ โดยแมนโคเซปจะช่วยป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อรา ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น
2. ประหยัดเวลาและลดต้นทุนการผลิต
การฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและปุ๋ยทางใบในคราวเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต เนื่องจาก:
ลดจำนวนครั้งในการฉีดพ่น
ประหยัดน้ำและเชื้อเพลิงที่ใช้ในการฉีดพ่น
ลดการสึกหรอของอุปกรณ์การเกษตร
ลดค่าแรงงานในการฉีดพ่น
3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช
ธาตุอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช ทำให้พืชแข็งแรงและต้านทานต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรคได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแมนโคเซปในการป้องกันกำจัดโรคพืช
4. เร่งการฟื้นตัวของพืชที่เริ่มแสดงอาการของโรค
หากพืชเริ่มแสดงอาการของโรค การได้รับทั้งสารป้องกันกำจัดโรคและธาตุอาหารพร้อมกัน จะช่วยให้พืชสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยแมนโคเซปจะช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ในขณะที่ธาตุอาหารจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
5. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของสารป้องกันกำจัดโรค
ธาตุอาหารบางชนิดในปุ๋ยทางใบ FK-1 อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของแมนโคเซปเข้าสู่เนื้อเยื่อพืช ทำให้การป้องกันกำจัดโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อพืช ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:
1. การทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมี
ก่อนนำแพนน่อนและปุ๋ยทางใบ FK-1 มาผสมกันเพื่อใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ ควรทำการทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมีในปริมาณน้อยก่อน เพื่อตรวจสอบว่าไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การตกตะกอน การแยกชั้น หรือการเกิดฟอง
2. อัตราส่วนการผสมที่เหมาะสม
ควรใช้อัตราส่วนการผสมตามที่ระบุไว้บนฉลากของทั้งสองผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปแล้ว:
แพนน่อน (แมนโคเซป): ใช้อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ปุ๋ยทางใบ FK-1: ใช้อัตรา 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
หมายเหตุ แกะกล่องมาจะผสมสองถุง ต้องใช้ทั้งสองถุงผสมกัน
3. การผสมสารเคมี
ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของการใช้สารเคมี ควรปฏิบัติดังนี้:
เติมน้ำลงในถังพ่นประมาณครึ่งถัง
ละลายแพนน่อน (แมนโคเซป) ในน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน แล้วจึงเทลงในถังพ่น
คนให้เข้ากัน
เติมปุ๋ยทางใบ FK-1 ลงในถังพ่น
คนให้เข้ากันอีกครั้ง
เติมน้ำให้ได้ปริมาตรตามต้องการ
คนให้เข้ากันตลอดเวลาระหว่างการฉีดพ่น
4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่น
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น เมื่อแสงแดดไม่จัดและอุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดอาการไหม้ของใบพืช
5. ความถี่ในการฉีดพ่น
ความถี่ในการฉีดพ่นขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ระยะการเจริญเติบโต และความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปควรฉีดพ่นทุก 7-14 วัน หรือตามที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์
6. ข้อควรระวัง
ควรผสมและใช้ทันที ไม่ควรเก็บสารละลายที่ผสมแล้วไว้ข้ามคืน
สังเกตอาการของพืชหลังการฉีดพ่น หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้
ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ หน้ากาก และชุดป้องกัน ขณะผสมและฉีดพ่นสารเคมี
ไม่ควรฉีดพ่นในขณะที่มีลมแรง เพื่อป้องกันการปลิวของละอองสารเคมีไปยังพื้นที่ข้างเคียง
สรุป
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืชด้วยธาตุอาหารที่จำเป็น ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีทางการเกษตรควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากและหลักการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและมีความปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม
คำสำคัญ
แพนน่อน_ แมนโคเซป_ ปุ๋ยทางใบ FK-1_ โรคพืช_ สารป้องกันกำจัดโรคพืช_ ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม_ แมกนีเซียม_ ซิงค์_ การจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ_ ราสนิม_ ราน้ำค้าง_ ใบจุด_ แอนแทรคโนส_ ใบไหม้_ ผลเน่า_ การป้องกันโรคพืช
อ่าน:287
สิ่งที่ "ฮิวมิค" ให้กับต้นทุเรียนได้ แต่ปุ๋ยทั่วไปให้ไม่ได้
1. **ปรับปรุงดินระยะยาว**
- ฮิวมิคช่วยฟื้นฟูโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำดี ระบายอากาศได้ เหมาะกับรากทุเรียนที่ต้องการดินโปร่ง
- ปุ๋ยเคมีทั่วไปมักทำให้ดินเสื่อมสภาพและแข็งตัวในระยะยาว
2. **เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมปุ๋ย**
- ฮิวมิคทำหน้าที่จับแร่ธาตุอาหารไว้ในดิน ป้องกันการสูญเสียจากการชะล้าง และช่วยให้รากทุเรียนดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่
- ปุ๋ยทั่วไปให้ธาตุอาหารโดยตรง แต่ไม่ช่วยรักษาหรือเสริมการดูดซึมในระยะยาว
3. **กระตุ้นการเจริญเติบโตของราก**
- ฮิวมิคส่งเสริมการแตกแขนงของรากฝอย ทำให้ระบบรากทุเรียนแข็งแรง ดูดน้ำและอาหารได้ดีกว่า
- ปุ๋ยทั่วไปไม่มีคุณสมบัติกระตุ้นระบบรากโดยตรงแบบนี้
4. **เสริมภูมิคุ้มกันต้นทุเรียน**
- ฮิวมิคช่วยให้ต้นไม้ทนต่อสภาวะเครียด เช่น โรคพืช ดินเค็ม น้ำแห้ง หรือสารพิษตกค้าง
- ปุ๋ยทั่วไปเน้นเรื่องการให้ธาตุอาหารอย่างเดียว ไม่ช่วยเรื่องเสริมความทนทานของต้น
5. **ส่งเสริมจุลินทรีย์ดีในดิน**
- ฮิวมิคเป็นอาหารของจุลินทรีย์มีประโยชน์ในดิน ช่วยให้ระบบนิเวศในดินสมบูรณ์
- ปุ๋ยเคมีบางชนิดทำลายจุลินทรีย์ดี และทำให้ดินเสื่อมโทรม
---
**สรุปสั้นมาก:**
> ฮิวมิคช่วยสร้างดินดี รากแข็งแรง ต้นทุเรียนดูดซึมอาหารเก่ง มีภูมิคุ้มกันสูง — สิ่งที่ปุ๋ยเคมีทั่วไปให้ไม่ได้
อ่าน:337
สถานการณ์ทุเรียนไทยปี 2568: โอกาสทางการค้าและปัญหาภายในประเทศที่ต้องจับตา
ในปี 2568 ทุเรียนไทยยังคงเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มีความสำคัญทั้งในด้านการส่งออกและตลาดภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทายไม่น้อย ทั้งด้านปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันจากต่างประเทศ รวมถึงปัญหาหลายประการภายในประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ
## 📈 ปริมาณผลผลิตเพิ่มสูง – โอกาสและความท้าทาย
ภาคตะวันออกของไทยคาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดประมาณ 1_045_410 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 56.89% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศที่เหมาะสมและการขยายพื้นที่ปลูกที่ต่อเนื่อง
แม้จะดูเป็นโอกาสที่ดี แต่การมีผลผลิตจำนวนมากอาจนำไปสู่ “ภาวะผลผลิตล้นตลาด” หากการกระจายผลผลิตไม่ดีพอ หรือเกิดอุปสรรคในการส่งออก โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างจีน
## ปัญหาการส่งออก: สารตกค้าง-การแข่งขันสูง
ในช่วงต้นปี 2568 มีกรณีพบสารย้อมสี Basic Yellow 2 (BY2) ในทุเรียนส่งออกไปยังประเทศจีน ทำให้ทางการจีนเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลไทยได้เร่งออกมาตรการควบคุม เช่น การตรวจสารตกค้าง การสุ่มตรวจสวน และสร้างระบบ QR Traceability เพื่อความโปร่งใส
นอกจากนั้น ไทยยังเผชิญการแข่งขันจากผู้ส่งออกรายอื่น เช่น มาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งสามารถส่งทุเรียนพันธุ์ดีในราคาที่แข่งขันได้ โดยคาดว่าการแข่งขันนี้อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ส่งออกทุเรียนไทยประมาณ 1.7-5.7 หมื่นล้านบาทในช่วงปี 2568-2573
## 🧩 ปัญหาทุเรียนภายในประเทศ: ความท้าทายที่ต้องร่วมกันแก้
แม้การส่งออกจะมีความสำคัญ แต่ปัญหาภายในประเทศก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาเช่นกัน:
### 1. ราคาตกจากผลผลิตล้นตลาด
ผลผลิตทุเรียนจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันอาจทำให้ราคาหน้าสวนตกลงอย่างหนัก โดยเฉพาะหากทุเรียนบางส่วนสุกเกินหรือเสียหายจากการจัดเก็บไม่เหมาะสม
### 2. การใช้สารเคมีไม่เหมาะสม
บางพื้นที่มีการใช้สารเร่งการสุกหรือสารตกแต่งเปลือก เช่น การย้อมสี ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และกระทบต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยทั้งในและต่างประเทศ
### 3. ระบบขนส่งและกระจายสินค้าไม่ทั่วถึง
ยังขาดแคลนระบบขนส่งห้องเย็น คลังพักผลไม้ที่ทันสมัย หรือศูนย์กลางกระจายสินค้าในบางจังหวัด ส่งผลให้ทุเรียนบางล็อตเสียหายก่อนถึงตลาดปลายทาง
### 4. ปัญหาการปลอมแปลงสายพันธุ์
มีการร้องเรียนจากผู้บริโภคในประเทศว่า ทุเรียนที่ซื้อไม่ตรงสายพันธุ์ที่ระบุ เช่น ซื้อมูซังคิงแต่ได้หมอนทอง หรือขายทุเรียนอ่อนเป็นทุเรียนแก่
### 5. ขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยว
หลายพื้นที่เผชิญปัญหาแรงงานไม่เพียงพอในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตหล่นเสียหาย หรือเก็บไม่ทัน
### 6. ความเสี่ยงจากสภาพอากาศ
ฝนที่ตกผิดฤดู ลมพายุ หรือภาวะแห้งแล้ง ล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณของผลผลิต
## 🔎 ทางออกและแนวโน้มในอนาคต
แม้จะมีปัญหาและความท้าทายหลายด้าน แต่ทุเรียนไทยยังคงมีศักยภาพในตลาดโลก โดยเฉพาะหากเกษตรกรสามารถผลิตทุเรียนคุณภาพสูง ปลอดสาร และปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด
การพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยว การแปรรูป และระบบโลจิสติกส์ รวมถึงการส่งเสริมตลาดภายในประเทศให้เข้มแข็ง จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างเสถียรภาพระยะยาวให้กับ “ราชาแห่งผลไม้” ของไทย
---
# ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตทุเรียน ด้วย ฮิวมิค FK
## ✔️ **Value-Oriented (ให้คุณค่า): ปลูกทุเรียนให้คุ้มค่าทุกต้นทุน**
ในยุคที่ต้นทุนเกษตรเพิ่มสูง ทั้งปุ๋ยเคมี ค่าแรง และค่าขนส่ง การเลือกใช้ **ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของดินและรากต้นทุเรียน** จึงเป็นทางออกที่คุ้มค่า
**ฮิวมิค FK** คือสารปรับปรุงดินที่มีส่วนผสมของฮิวมิก แอซิด จากธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำดี รากเดินลึก พร้อมรับสารอาหารได้อย่างเต็มที่
🌿 **ผลลัพธ์ที่เกษตรกรทุเรียนหลายรายยืนยัน:**
- ลดต้นทุนปุ๋ยเคมีลงได้กว่า 30%
- ทุเรียนติดลูกดี ต้นไม่โทรมหลังให้ผลผลิต
- ดินฟื้นตัวไว หลังเจอฝนตกหนักหรือน้ำท่วม
---
## ✔️ **Personalization (ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม): สำหรับเกษตรกรทุเรียนโดยเฉพาะ**
ไม่ว่าคุณจะปลูก **หมอนทอง_ ชะนี_ พวงมณี หรือก้านยาว** – ฮิวมิค FK ก็สามารถปรับสูตรการใช้ให้เหมาะสมกับ:
- **ช่วงอายุของต้น:** ตั้งแต่ลงปลูกใหม่ – ผลผลิตปีที่ 10
- **สภาพดิน:** ดินเหนียว ดินทราย ดินลูกรัง
- **ฤดูกาลและเป้าหมาย:** เร่งฟื้นต้น – เร่งราก – เพิ่มขนาดผล
📌 ตัวอย่างการใช้:
- *ต้นเล็ก:* 10กรัม หรือประมาณ 1 ช้องแกง ต่อน้ำ 20 ลิตร ราดโคนเดือนละ 1-2 ครั้ง
- *ต้นให้ผลผลิต:* ใช้ร่วมกับปุ๋ยเกล็ด/ปุ๋ยอินทรีย์ กระตุ้นการกินปุ๋ย ดูดซึมไวขึ้น
---
ฮิวมิคFK เป็นหนึ่งในสินค้าขายดี จากฟาร์มเกษตร ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และใช้ได้ผลกับพืชทุกชนิด
---
## 🔚 สรุป: ทางเลือกใหม่ของเกษตรกรทุเรียนยุคใหม่
✅ ลดต้นทุน ✔️ เพิ่มผลผลิต
✅ บำรุงดิน ✔️ ฟื้นฟูราก
✅ ใช้คู่กับปุ๋ยเดิมได้ ไม่ต้องเปลี่ยนระบบ
อ่าน:513
ทุเรียนคาร์บอนต่ำ อนาคตทุเรียนไทย
ทุเรียนคาร์บอนต่ำกำลังเป็นที่สนใจในตลาดโลก เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ประเทศไทยได้เล็งเห็นโอกาสนี้และกำลังผลักดันทุเรียนคาร์บอนต่ำเป็น Soft Power ใหม่ของประเทศ
**ความสำคัญของทุเรียนคาร์บอนต่ำในตลาดโลก:**
- **แนวโน้มผู้บริโภค:** ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ทุเรียนคาร์บอนต่ำมีโอกาสเติบโตในตลาดสากล
- **มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม:** หลายประเทศกำหนดมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การผลิตทุเรียนคาร์บอนต่ำจึงสอดคล้องกับมาตรการเหล่านี้
**การดำเนินการของประเทศไทย:**
- **การจัดทำคู่มือ:** กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำคู่มือการผลิตทุเรียนคาร์บอนต่ำ เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตทุเรียน
- **ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน:** มีการเตรียมทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เพื่อพัฒนาการผลิตพืชที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก citeturn0search5
**แนวโน้มในอนาคต:**
ด้วยความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ทุเรียนคาร์บอนต่ำมีศักยภาพในการขยายตลาดโลก การปรับตัวของเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยในการผลิตทุเรียนที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดสากล
### **บทบาทของฮิวมิค FK ในการส่งเสริมทุเรียนคาร์บอนต่ำ**
**1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี**
ฮิวมิค FK เป็นสารอินทรีย์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน **เพิ่มการดูดซับธาตุอาหาร** และ **ลดการชะล้างธาตุอาหาร** ทำให้ **ต้นทุเรียนสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น** ซึ่งส่งผลให้เกษตรกร **ลดการใช้ปุ๋ยเคมี** ลงได้โดยไม่กระทบต่อผลผลิต
- **ผลลัพธ์:** ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตและการใช้ปุ๋ยเคมี
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ปุ๋ยเคมีเป็นแหล่งปล่อย **ไนตรัสออกไซด์ (N₂O)** ซึ่งมีค่าศักยภาพเรือนกระจกสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 300 เท่า
---
**2. เพิ่มความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนในดิน**
ฮิวมิค FK มีคุณสมบัติช่วยให้ดินมี **สารอินทรีย์มากขึ้น** ซึ่งช่วย **กักเก็บคาร์บอนในดิน** และ **ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สู่บรรยากาศ**
- **ผลลัพธ์:** เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ทำให้สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ดีขึ้น
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ดินที่มีฮิวมิกสูงสามารถช่วยกักเก็บ **คาร์บอนอินทรีย์ในดิน (Soil Organic Carbon_ SOC)** ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อน
---
**3. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากและระบบนิเวศดิน**
ฮิวมิค FK **ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากทุเรียน** ทำให้ต้นแข็งแรงและสามารถดูดซึมสารอาหารจากดินได้ดีขึ้น ส่งผลให้
✅ ต้นทุเรียนมี **ภูมิต้านทานที่ดีขึ้น**
✅ ระบบรากช่วย **รักษาความชื้นและลดการพังทลายของดิน**
- **ผลลัพธ์:** ลดการใช้น้ำและสารเคมีปรับปรุงดิน
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ลดการใช้น้ำและพลังงานในกระบวนการผลิต
---
**4. ลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในฟาร์ม**
การใช้ฮิวมิค FK **ช่วยลดปริมาณปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดิน** ลดความเสี่ยงของ **สารเคมีตกค้างในสิ่งแวดล้อม** และลดของเสียจากฟาร์มทุเรียน
- **ผลลัพธ์:** ส่งเสริมระบบการเกษตรยั่งยืน (Sustainable Agriculture)
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ลดของเสียจากการเกษตร ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
---
### **สรุป: ฮิวมิค FK กับการส่งเสริมทุเรียนคาร์บอนต่ำ**
✅ **ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี** → ลดการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์
✅ **ช่วยกักเก็บคาร์บอนในดิน** → ลดคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ
✅ **ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารของต้นทุเรียน** → ลดการใช้ทรัพยากร
✅ **ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน** → ส่งเสริมการเกษตรยั่งยืน
🌱 **ฮิวมิค FK จึงมีบทบาทสำคัญต่อแนวคิด "ทุเรียนคาร์บอนต่ำ"** และเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถพัฒนาทุเรียนให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 🌏💚
อ่าน:264
ทุเรียนกำลังออกดอก ใช้ฮิวมิค FK ผสมน้ำราดลงโคน หรือฉีดพ่นลงดิน ไหนดีกว่ากัน?
การปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิตดี ต้องอาศัยการดูแลในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะช่วงที่ทุเรียนกำลังออกดอก ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการเพิ่มโอกาสการติดผลที่มีคุณภาพ หนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่เกษตรกรนิยมใช้คือ **ฮิวมิค FK** แต่การใช้งานระหว่าง **ผสมน้ำราดโคนต้น** หรือ **ฉีดพ่นลงดินทั่วบริเวณ** แบบไหนจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า? มาดูคำแนะนำในบทความนี้กัน
---
### **ฮิวมิค FK คืออะไร และช่วยอะไรบ้างในช่วงออกดอกของทุเรียน?**
ฮิวมิค FK คือสารอินทรีย์ที่มีกรดฮิวมิกและฟุลวิก (Humic Acid & Fulvic Acid) ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารของราก กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช และช่วยให้รากแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ทุเรียนออกดอก ฮิวมิค FK จะช่วยรักษาความชื้นในดิน เพิ่มอัตราการติดดอก และลดการร่วงของดอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
---
### **วิธีใช้ฮิวมิค FK แบบผสมน้ำราดโคนต้น**
- **ข้อดี**:
1. การราดโคนต้นช่วยส่งสารอาหารตรงสู่รากของทุเรียน
2. รากสามารถดูดซึมฮิวมิกได้ทันที
3. เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีดินแข็งหรือมีโครงสร้างดินไม่ดี
- **ข้อควรระวัง**:
- ปริมาณน้ำที่ใช้ราดควรเหมาะสม ไม่มากจนดินแฉะเกินไป
- ควรราดในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงการระเหย
---
### **วิธีใช้ฮิวมิค FK แบบฉีดพ่นลงดินทั่วบริเวณ**
- **ข้อดี**:
1. การฉีดพ่นช่วยให้สารฮิวมิกกระจายทั่วพื้นที่รากฝอย
2. เพิ่มพื้นที่การดูดซึมของธาตุอาหารในดิน
3. ลดปัญหารากที่อยู่ชั้นบนขาดความชื้น
- **ข้อควรระวัง**:
- หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงแดดจัด เพราะสารอาจระเหยเร็วเกินไป
- ใช้หัวพ่นที่กระจายตัวได้ดี เพื่อให้สารซึมลึกถึงราก
---
### **แบบไหนดีกว่ากัน?**
คำตอบขึ้นอยู่กับ **สภาพพื้นที่และโครงสร้างดิน**
1. หากพื้นที่ปลูกเป็นดินแข็งและมีความสามารถในการอุ้มน้ำต่ำ แนะนำให้ **ราดโคนต้น**
2. หากพื้นที่ปลูกเป็นดินร่วนหรือดินที่มีโครงสร้างดินดีอยู่แล้ว การ **ฉีดพ่นทั่วบริเวณ** จะช่วยให้สารอาหารกระจายตัวได้ดีขึ้น
---
### **คำแนะนำเพิ่มเติม**
- ใช้ฮิวมิค FK ผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วนที่แนะนำบนฉลาก
- ควรใช้งานในช่วงเช้าหรือเย็น
- ควบคู่กับการให้น้ำที่เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดิน
---
### **สรุป**
ไม่ว่าจะเลือกใช้ **ฮิวมิค FK** แบบราดโคนต้นหรือฉีดพ่นลงดิน ทั้งสองวิธีมีข้อดีในตัวเอง ขึ้นอยู่กับสภาพดินและความต้องการของต้นทุเรียน หากต้องการเพิ่มโอกาสในการติดดอกและลดปัญหาดอกร่วง การใช้ฮิวมิค FK อย่างเหมาะสมจะช่วยส่งเสริมผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
---
#ฮิวมิคFK #ทุเรียนออกดอก #การดูแลทุเรียน #ฮิวมิก #เกษตรอินทรีย์ #ฮิวมิคสำหรับทุเรียน #การใช้ฮิวมิค #ดินดีผลผลิตเยี่ยม #เกษตรกร #เคล็ดลับปลูกทุเรียน
อ่าน:213
ทำไม? ฮิวมิคFK จึงจำเป็น และมีประโยชน์กับพืชทุกชนิด
**ฮิวมิค FK** (Humic FK) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์กับพืชทุกชนิด เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพดินและเสริมการเจริญเติบโตของพืช โดยมีเหตุผลดังนี้:
### 1. **ปรับปรุงโครงสร้างของดิน**
- ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและอากาศในดิน ทำให้รากพืชได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
- ช่วยลดการจับตัวเป็นดินแข็ง (Compact Soil) โดยเฉพาะในดินเหนียวและดินทราย
### 2. **เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน**
- เป็นแหล่งของคาร์บอนอินทรีย์ (Organic Carbon) ที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายธาตุอาหาร
- ช่วยจับธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำให้พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่ายขึ้น
### 3. **เสริมการเจริญเติบโตของพืช**
- ช่วยกระตุ้นการพัฒนาระบบราก ทำให้รากพืชแข็งแรงและสามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น
- มีผลต่อการเร่งการแบ่งเซลล์ (Cell Division) และการสร้างคลอโรฟิลล์ ส่งผลให้พืชโตเร็วและให้ผลผลิตสูงขึ้น
### 4. **ลดผลกระทบจากสภาวะแวดล้อม**
- ช่วยพืชทนต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อม เช่น ความแห้งแล้ง ดินเค็ม และดินเป็นกรด
- ลดการสูญเสียธาตุอาหารจากการชะล้างหรือการระเหย
### 5. **เหมาะกับพืชทุกชนิด**
- ใช้ได้กับพืชทุกประเภท เช่น
- พืชผล: ข้าว_ ข้าวโพด_ มันสำปะหลัง_ อ้อย
- พืชผัก: ผักชี_ คะน้า_ แตงกวา
- ไม้ผล: ทุเรียน_ มะม่วง_ ส้ม
- พืชสวนและไม้ดอก: กุหลาบ_ กล้วยไม้_ ดาวเรือง
### สรุป
**ฮิวมิค FK** มีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน เพิ่มธาตุอาหาร และเสริมความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชทุกชนิดเติบโตได้ดีขึ้น ทนต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
---
#ฮิวมิคFK #ประโยชน์ของฮิวมิค #เพิ่มผลผลิตพืช #เกษตรอินทรีย์ #ปรับปรุงดิน #พืชโตไว #เกษตรกรไทย
อ่าน:186
ฮิวมิค (Humic substances) มีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของทุเรียนในหลายด้าน
ฮิวมิค (Humic substances) เป็นสารอินทรีย์ที่เกิดจากการสลายตัวของพืชและสัตว์ในดิน ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของทุเรียนในหลายด้าน โดยฮิวมิคมีคุณสมบัติที่สำคัญในการปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมพืช ดังนี้:
### 1. **ปรับปรุงโครงสร้างดิน**
ฮิวมิคช่วยเพิ่มความโปร่งและการระบายน้ำในดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของรากทุเรียน ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสของรากกับธาตุอาหารในดิน
### 2. **เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ**
ฮิวมิคช่วยให้ดินเก็บรักษาน้ำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งหรือพื้นที่ที่มีความชื้นต่ำ ส่งผลให้ทุเรียนสามารถรับน้ำได้อย่างเพียงพอ ช่วยลดความเครียดจากการขาดน้ำ
### 3. **เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร**
ฮิวมิคมีความสามารถในการจับและปล่อยธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืช เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำให้ทุเรียนได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการออกดอกติดผล
### 4. **กระตุ้นการเจริญเติบโตของราก**
ฮิวมิคกระตุ้นการพัฒนาของรากฝอย ช่วยให้รากทุเรียนแผ่ขยายและดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อความแข็งแรงของต้นและผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
### 5. **เพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง**
ดินที่มีฮิวมิคสูงช่วยสร้างสมดุลในระบบนิเวศของดิน ทำให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งช่วยลดการระบาดของโรคและแมลงที่เป็นศัตรูพืช
### 6. **ส่งเสริมการออกดอกและผลผลิต**
การใช้ฮิวมิคอย่างเหมาะสมช่วยปรับปรุงคุณภาพของดอกและผล เช่น ขนาดของผลทุเรียน เนื้อสัมผัส และรสชาติ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาด
### การใช้งานฮิวมิคในสวนทุเรียน
- **รูปแบบการใช้:** ฮิวมิคสามารถใช้ได้ในรูปของผงละลายน้ำ หรือฮิวมิคเหลว
- **วิธีการใช้:** ผสมฮิวมิคในน้ำแล้วฉีดพ่นบริเวณโคนต้น หรือใช้ร่วมกับระบบน้ำหยด
- **ปริมาณที่เหมาะสม:** ใช้ตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร
### สรุป
ฮิวมิคเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณภาพดิน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก และช่วยเพิ่มผลผลิตของทุเรียน การใช้ฮิวมิคอย่างเหมาะสมและต่อเนื่องสามารถช่วยให้เกษตรกรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและผลกำไรได้อย่างยั่งยืน
อ่าน:222
วิเคราะห์ตลาดทุเรียน แนวโน้มปี 2568
ตลาดทุเรียนในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกทุเรียนอันดับหนึ่งของโลก คาดว่าจะส่งออกได้ถึง 1.04 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 57% จากปีก่อนหน้า โดยตลาดหลักยังคงเป็นจีน ซึ่งจะนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้น 95% จากปี 2563 ส่วนตลาดใหม่ที่น่าจับตามอง ได้แก่ เกาหลีใต้และไต้หวัน ที่มีการนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้นกว่า 50%.
ด้านราคา ทุเรียนหมอนทอง ที่ขายในประเทศคาดว่าจะเฉลี่ยประมาณ 144 บาท/กก. ในปี 2568 ส่วนราคาส่งออกไปจีนอาจพุ่งถึง 379 บาท/กก. หากการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 15%.
อย่างไรก็ตาม ตลาดทุเรียนต้องเผชิญความท้าทายจากคู่แข่ง เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม ที่เพิ่มศักยภาพการผลิตและส่งออกมากขึ้น แม้ยังไม่สามารถเทียบกับไทยได้ในด้านคุณภาพและมาตรฐาน.
กลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ส่งออก คือการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย และตะวันออกกลาง เพื่อกระจายความเสี่ยง และพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดโลก.
อ่าน:1594
5 พืชเศรษฐกิจไทย ที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด
5 พืชเศรษฐกิจไทยที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุดในปี 2566 (มูลค่าเป็นเงินบาท) ได้แก่:
1. ผลไม้ - มูลค่าส่งออกประมาณ 248_500 ล้านบาท (คิดเป็น 25.9% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด) โดยทุเรียนเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนยอดขาย โดยเฉพาะในตลาดจีน
2. ข้าว - มูลค่าส่งออกประมาณ 184_200 ล้านบาท (19.2%) ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวคุณภาพสูง เช่น ข้าวหอมมะลิ ไปยังตลาดโลก
3. มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ - มูลค่าส่งออกประมาณ 132_500 ล้านบาท (13.8%) ส่วนใหญ่ส่งไปยังจีนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงาน
4. ยางพารา - มูลค่าส่งออกประมาณ 130_400 ล้านบาท (13.6%) โดยเน้นตลาดในเอเชีย เช่น จีน และมาเลเซีย
5. น้ำตาลทราย (จากอ้อย) - มูลค่าส่งออกประมาณ 120_000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลผลิตสำคัญที่มีตลาดหลักในประเทศอาเซียนและเอเชียใต้
ตัวเลขมูลค่าเงินบาทคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 2566
อ่าน:550
บำรุงทุเรียนเล็ก ส่งเสริมผลผลิตทุเรียนใหญ่ ฮิวมิคFK
การใช้ ฮิวมิค FK เสริมด้วย ฟลูวิค อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยบำรุงต้นทุเรียนเล็กและส่งเสริมผลผลิตทุเรียนที่เริ่มออกผลได้หลายด้านดังนี้:
1. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก – ฮิวมิคและฟลูวิคช่วยกระตุ้นการพัฒนาระบบรากให้แข็งแรงและแพร่ขยายได้ดีขึ้น ทำให้ต้นทุเรียนเล็กมีรากที่สามารถดูดซับน้ำและธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของต้นทุเรียนในระยะเริ่มต้น
2. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับธาตุอาหาร – ฟลูวิคช่วยเพิ่มการดูดซับธาตุอาหารที่จำเป็นให้กับทุเรียน เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ช่วยให้ต้นทุเรียนได้รับสารอาหารที่เหมาะสม ส่งผลให้ต้นมีการเจริญเติบโตแข็งแรงและเตรียมพร้อมสำหรับการออกผลในอนาคต
3. ช่วยสร้างความทนทานต่อสภาพแวดล้อม – การใช้ฮิวมิคและฟลูวิคอย่างสม่ำเสมอช่วยเสริมความทนทานให้กับต้นทุเรียนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ความร้อนจัดหรือความแห้งแล้ง ทำให้ต้นทุเรียนสามารถเจริญเติบโตได้ดีแม้ในช่วงที่อากาศไม่เหมาะสม
4. เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลทุเรียน – สำหรับต้นทุเรียนที่เริ่มออกผลแล้ว การใช้ฮิวมิคและฟลูวิคช่วยในการบำรุงผลให้สมบูรณ์ ผลทุเรียนมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักดี รสชาติหวานอร่อย และมีคุณภาพสูง
5. ลดการหลุดร่วงของผลอ่อน – การใช้ฮิวมิคและฟลูวิคสามารถช่วยลดการหลุดร่วงของผลอ่อน ช่วยให้ต้นทุเรียนสามารถพยุงผลผลิตจนถึงระยะเก็บเกี่ยวได้ดีขึ้น
6. ปรับปรุงโครงสร้างดิน – ฮิวมิคช่วยปรับโครงสร้างของดินให้ดีขึ้น ดินมีการถ่ายเทอากาศได้ดีและมีการอุ้มน้ำสูง ทำให้ต้นทุเรียนได้รับความชื้นและอากาศที่เพียงพอ ส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาของผลทุเรียน
การใช้ฮิวมิค FK และฟลูวิคอย่างต่อเนื่องจึงช่วยให้ต้นทุเรียนเล็กแข็งแรงและส่งเสริมผลผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพสูง เพิ่มผลผลิตได้ในระยะยาว
อ่าน:196
432 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 43 หน้า, หน้าที่ 44 มี 2 รายการ
|
-Page 1 of 44
-|
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
7
|
8
|
9
|
10
|
11
|
12
|
13
|
14
|
15
|
16
|
17
|
18
|
19
|
20
|
21
|
22
|
23
|
24
|
25
|
26
|
27
|
28
|
29
|
30
|
31
|
32
|
33
|
34
|
35
|
36
|
37
|
38
|
39
|
40
|
41
|
42
|
43
|
44
|
แอพผสมปุ๋ย
แอพพรุ่งนี้พ่นปุ๋ยยาฯได้ไหม
แอพเช็คปุ๋ยยาฯคู่นี้ผสมกันได้ไหม
แอพแปลงอัตราผสมปุ๋ยยาฯฉีดพ่น
แอพพยากรณ์โรคและศัตรูพืช
แอพพืชเป็นโรคอะไร
แอพคำนวณเงินกู้ ธกส.
แอพภาพถ่ายดาวเทียมที่ดินฉัน
แอพวัดพื้นที่ฟาร์ม
แอพคำนวณทุนกำไรปลูกพืช
แอพเดือนไหนปลูกผักอะไรได้
แอพแปลงหน่วยเกษตร
โทรศัพท์
📞 090-592-8614
ไลน์ไอดี
💬 @FarmKaset
🌾 ผลิตภัณฑ์เกษตรครบวงจร 🌾
จากเริ่มปลูก สู่การเก็บเกี่ยว ด้วยสินค้าคุณภาพ
🌱 ขั้นตอนที่ 1: เริ่มต้นและเร่งการเจริญเติบโต
สำหรับพืชที่เพิ่งปลูกหรือต้องการเร่งโต เร่งราก เร่งใบเขียว
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
ช่วยให้พืชมีรากแข็งแรง ใบเขียวแกร่ง และเติบโตเร็ว เป็นฐานที่ดีสำหรับการพัฒนาในขั้นตอนต่อไป
⭐ เอฟเค-1 (FK-1) - ตัวหลักเริ่มต้น
สูตรพิเศษสำหรับการเริ่มต้น ฟื้นฟูพืชที่อ่อนแอ เร่งการเจริญเติบโต เร่งระบบราก และกระตุ้นการออกดอก
✨ ประโยชน์เด่น:
• เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งราก
• ฟื้นฟูพืชที่เสียหาย
• เร่งดอก เหมาะสำหรับทุกพืช
💰 1กล่อง (2กิโลกรัม) ราคา : 890 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-1:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
TikTok
Line
+
🚀 สตาร์เฟอร์ 30-20-5 + ฮิวมิคFK - เร่งต้น เร่งใบ
สูตรไนโตรเจนสูง เหมาะสำหรับช่วงต้นของการเจริญเติบโต เร่งใบเขียว เร่งต้นแข็งแรง
✨ ประโยชน์เด่น:
• ไนโตรเจนสูง เร่งใบเขียวเข้ม
• เร่งการเจริญเติบโตในช่วงแรก
• ผสมสูตรเองได้ตามต้องการ
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคแอซิดช่วยเพิ่มการดูดซับไนโตรเจนได้ 2-3 เท่า ทำให้ใบเขียวเข้มและโตเร็วกว่าปกติ ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้ทุกครั้ง
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์:
Lazada
Shopee
🛒 สั่งซื้อฮิวมิค:
Lazada
Shopee
💎 ฮิวมิคFK - ตัวช่วยเสริมพื้นฐาน
สารฮิวมิคแอซิดธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับปุ๋ย ปรับปรุงดิน ทำให้พืชแข็งแรงขึ้น
✨ ประโยชน์เด่น:
• เพิ่มการดูดซับปุ๋ย 2-3 เท่า
• ปรับปรุงโครงสร้างดิน
• ใช้ได้ทุกพืช ผสมกับปุ๋ยอื่นได้
💰 ขนาด 500g: 190 บาท | 1kg: 250 บาท
💧 1kg ผสมน้ำได้ถึง 2,000 ลิตร
🛒 สั่งซื้อฮิวมิค:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
TikTok
Line
🌸 ขั้นตอนที่ 2: เร่งดอก เร่งผล และเพิ่มผลผลิต
เมื่อพืชโตแข็งแรงแล้ว ก็ถึงเวลาเพิ่มขนาดผล น้ำหนัก และคุณภาพ
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
กระตุ้นการออกดอก ขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก และปรับปรุงคุณภาพผลผลิต เพื่อผลตอบแทนสูงสุด
+
🌺 สตาร์เฟอร์ 10-40-10 + ฮิวมิคFK - เร่งราก เร่งดอก
สูตรฟอสฟอรัสสูง เหมาะสำหรับช่วงเร่งดอก ช่วยให้รากแข็งแรง ดอกออกเยอะ คุณภาพดี
✨ ประโยชน์เด่น:
• ฟอสฟอรัสสูง เร่งดอก เร่งราก
• เพิ่มการติดผล ลดการร่วง
• เสริมความแข็งแรงของราก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยให้ฟอสฟอรัสถูกดูดซับง่ายขึ้น เร่งการเจริญเติบโตของราก และกระตุ้นการออกดอกได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์:
Lazada
Shopee
⭐ FK-3 - ขยายผล เพิ่มน้ำหนัก (สำหรับผลไม้)
สูตรเฉพาะสำหรับพืชออกผล ช่วยขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก และปรับปรุงคุณภาพผลผลิต
✨ ประโยชน์เด่น:
• ขยายขนาดผลไม้ เพิ่มน้ำหนัก
• เพิ่มความหวาน ปรับปรุงรสชาติ
• ใช้ได้กับผลไม้ทุกชนิด
💰 1ชุด (2กิโลกรัม) ราคา : 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
TikTok
Line
+
🍯 สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK - เพิ่มผลผลิต เร่งแป้ง
สูตรโพแทสเซียมสูง เร่งการสร้างแป้ง น้ำตาล ขยายขนาดผล เหมาะสำหรับช่วงเก็บเกี่ยว
✨ ประโยชน์เด่น:
• โพแทสเซียมสูง เร่งแป้ง สร้างน้ำตาล
• ขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก
• ปรับปรุงคุณภาพและรสชาติ
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยส่งโพแทสเซียมเข้าสู่ผลได้เร็วขึ้น เพิ่มความหวาน แป้ง และน้ำหนักผลมากกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้ทุกครั้ง
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์:
Lazada
Shopee
🌾 ขั้นตอนที่ 3: สูตรเฉพาะทางสำหรับพืชเศรษฐกิจ
สูตรพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผลไม้ ข้าว อ้อย และมันสำปะหลัง
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
ใช้สูตรที่ปรับแต่งมาเฉพาะสำหรับพืชแต่ละชนิด เพื่อผลผลิตและคุณภาพที่ดีที่สุด รวมถึงการใช้ FK-1 ร่วมด้วย
+
🍇 FK-1 + FK-3 - สำหรับผลไม้ทุกชนิด
ชุดคู่สำหรับผลไม้ทุกชนิด เริ่มด้วย FK-1 เพื่อฟื้นฟูและเร่งโต ตามด้วย FK-3 เพื่อขยายผลและเพิ่มน้ำหนัก
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งราก
• FK-3: ขยายผล เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มความหวาน
• เหมาะกับผลไม้ทุกชนิด
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: ใช้หลังปลูก 1-4 สัปดาห์ และเมื่อต้องการฟื้นฟูพืช
FK-3: ใช้เมื่อผลเริ่มติด ช่วงผลอ่อน ก่อนเก็บเกี่ยว 2-4 สัปดาห์
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-1:
Lazada
Shopee
🛒 สั่งซื้อ FK-3:
Lazada
Shopee
+
🌾 FK-1 + FK-3R - เฉพาะสำหรับข้าว (Rice)
ชุดคู่สำหรับข้าว เริ่มด้วย FK-1 เพื่อเร่งโตและแข็งแรง ตามด้วย FK-3R เพื่อรวงยาว เมล็ดเต็ม
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งแตกกอ
• FK-3R: รวงยาว เมล็ดเต็ม น้ำหนัก 1,000 เมล็ดสูง
• เพิ่มผลผลิตต่อไร่
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังหว่าน 15-45 วัน และเมื่อข้าวใบเหลือง
FK-3R: ช่วงตั้งท้อง ออกรวง และก่อนข้าวสุก 2-3 สัปดาห์
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3R: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3R:
Lazada
Shopee
+
🎯 FK-1 + FK-3S - เฉพาะสำหรับอ้อย (Sugarcane)
ชุดคู่สำหรับอ้อย เริ่มด้วย FK-1 เพื่อเร่งโตและแตกหน่อ ตามด้วย FK-3S เพื่อลำสูง ความหวาน CCS สูง
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งแตกหน่อ ลำแข็งแรง
• FK-3S: ลำสูง ปล้องยาว เพิ่มค่า CCS
• น้ำหนักต่อลำเพิ่มขึ้น
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังปลูก 1-3 เดือน และเมื่ออ้อยใบเหลือง
FK-3S: อายุ 6-10 เดือน และก่อนตัด 2-3 เดือน
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3S: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3S:
Lazada
Shopee
+
🥔 FK-1 + FK-3C - เฉพาะสำหรับมันสำปะหลัง (Cassava)
ชุดคู่สำหรับมันสำปะหลัง เริ่มด้วย FK-1 เพื่อต้นแข็งแรง ตามด้วย FK-3C เพื่อหัวมันดก โตใหญ่ แป้งสูง
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต ต้นแข็งแรง ทนแล้ง
• FK-3C: หัวมันดก โตใหญ่ เปอร์เซ็นต์แป้งสูง
• น้ำหนักต่อต้นเพิ่มขึ้นมาก
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังปลูก 1-4 เดือน และเมื่อมันใบเหลือง
FK-3C: อายุ 6-10 เดือน และก่อนขุด 2-3 เดือน
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3C: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3C:
Lazada
Shopee
🛡️ ขั้นตอนที่ 4: ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช
ป้องกันโรคพืช แมลงศัตรูพืช และวัชพืช เพื่อผลผลิตที่สมบูรณ์
+
🐛 ไทอะมีทอกแซม + ฮิวมิคFK - กำจัดแมลงปากดูด
สารอินทรีย์ป้องกันกำจัดเพลี้ยทุกชนิด แมลงปากดูด หนอนชอนใบ และโล่ปลาดาว
✨ ป้องกันศัตรูพืช:
• เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไก่แจ้
• แมลงปากดูดทุกชนิด
• หนอนชอนใบ โล่ปลาดาว
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการติดผิวใบ ทำให้สารกำจัดแมลงทำงานได้นานขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชหลังถูกแมลงทำลาย ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 ไทอะมีทอกแซม 100g: 69 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อไทอะมีทอกแซม:
Lazada
Shopee
+
🍄 แพนน่อน + ฮิวมิคFK - กำจัดโรคเชื้อรา
สารป้องกันกำจัดโรคพืชจากเชื้อราหลายชนิด เหมาะสำหรับทุกพืช ใช้ได้ตลอดปี
✨ ป้องกันโรคพืช:
• ใบไหม้ ใบจุด ใบติด กิ่งแห้ง
• ราน้ำค้าง ราสนิม ไปทอปธอร่า
• แอนแทรคโนส กุ้งแห้ง
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเสริมความแข็งแรงให้พืช ทำให้ต้านทานโรคได้ดีขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชที่เสียหายจากโรคเร็วกว่า ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 แพนน่อน 1kg: 390 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อแพนน่อน:
Lazada
Shopee
+
⚡ อินเวท + ฮิวมิคFK - เคมีกำจัดเพลี้ยแรงแล้ว
สารเคมีประสิทธิภาพสูง กำจัดเพลี้ยทุกชนิด ใช้ได้ทุกพืช สำหรับการระบาดหนัก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยลดความเครียดของพืชจากสารเคมี และช่วยฟื้นฟูพืชหลังการฉีดพ่นให้แข็งแรงเร็วขึ้น ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 อินเวท: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้ออินเวท:
Lazada
Shopee
+
💚 แม็กซ่า + ฮิวมิคFK - สร้างภูมิต้านทาน
สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ประกอบด้วยแมกนีเซียม ซิงค์ เร่งเขียว สร้างภูมิต้านทานโรค
✨ ประโยชน์เด่น:
• เร่งใบเขียวเข้ม เพิ่มคลอโรฟิลล์
• สร้างภูมิต้านทานโรค
• เสริมแมกนีเซียม ซิงค์
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มการดูดซับแมกนีเซียมและซิงค์ ทำให้ใบเขียวเข้มกว่า และสร้างภูมิต้านทานได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 แม็กซ่า: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อแม็กซ่า:
Lazada
Shopee
🎁 ขั้นตอนที่ 5: ชุดโปรโมชั่นสุดคุ้ม
แพ็คเกจคู่ที่ประหยัดและได้ผลดี รวมถึงสินค้ายอดนิยมจาก Lazada
🔥 โปรฯเล็กยอดฮิต - บำรุง + ป้องกัน
ชุดคู่สุดคุ้ม FKT 250cc + ไอเอส 250cc ทั้งบำรุงและป้องกันโรค ในราคาเดียว
✨ ได้ 2 ประโยชน์:
• FK ธรรมชาตินิยม: บำรุงฟื้นฟู
• ไอเอส: ป้องกันโรคราต่างๆ
• ผสมน้ำได้รวม 100 ลิตร
💰 ราคาพิเศษ : 499 บาท
(ปกติ 740 บาท ประหยัด 241 บาท!)
🛒 สั่งซื้อโปรพิเศษ:
Lazada
Shopee
🏆 #1 ขายดี
+
🌟 ไอเอส + ฮิวมิคFK - ยอดขายอันดับ 1 บน Lazada
สินค้าขายดีที่สุดในหมวดโรคพืช ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ โรคราต่างๆ ได้ผลจริง
✨ ทำไมขายดี:
• ได้ผลจริง ราคาไม่แพง
• ป้องกันโรคได้หลายชนิด
• ใช้ง่าย ปลอดภัย
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเสริมภูมิต้านทานธรรมชาติให้พืช ทำให้ป้องกันโรคได้ยาวนานขึ้น และลดการใช้สารเคมีลงได้ ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 ไอเอส 1L: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อไอเอส:
Lazada
Shopee
+
🦗 มาคา + ฮิวมิคFK - กำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูพืช
สารอินทรีย์ป้องกันกำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูพืช ใช้ได้ทุกพืช ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
✨ ประโยชน์เด่น:
• กำจัดเพลี้ยทุกชนิด
• แมลงศัตรูพืชต่างๆ
• ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มการติดผิวใบของสารอินทรีย์ ทำให้ได้ผลนานขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชหลังถูกแมลงทำลายเร็วกว่า ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 มาคา 1L: 470 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อมาคา:
Lazada
Shopee
+
🌿 FK ธรรมชาตินิยม + ฮิวมิคFK
ปุ๋ยธรรมชาติ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค
✨ ปุ๋ยธรรมชาติ ปลอดภัย:
• พืชทุกชนิด โตไว ใบเขียว ทนแล้ง
• ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย
• เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับธาตุอาหารธรรมชาติ ทำให้พืชแข็งแรงและทนแล้งได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 FK-T 1L: 890 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-T:
Lazada
Shopee
+
💊 เมทาแลคซิล + ฮิวมิคFK - เคมีป้องกันโรค ราต่างๆในพืช
สารเคมีประสิทธิภาพสูง ป้องกันกำจัดโรคพืช โรคใบไหม้ ใบจุด ราน้ำค้าง ราสนิม โรคจากเชื้อราทุกชนิด
✨ ประโยชน์เด่น:
• แก้ปัญหาโรครุนแรง
• ได้ผลเร็ว ครอบคลุมโรคหลายชนิด
• สำหรับการระบาดหนัก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยลดความเครียดจากสารเคมี และเร่งการฟื้นฟูพืชหลังการรักษาโรค ทำให้พืชแข็งแรงเร็วขึ้น ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 เมทาแลคซิล: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อเมทาแลคซิล:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
TikTok
Line
+
🌿 คาร์รอน + ฮิวมิคFK - กำจัดหญ้า คุมวัชพืช
ยากำจัดหญ้าและวัชพืช ครอบคลุมทั้งใบแคบและใบกว้าง ได้ผลดี ราคาประหยัด
✨ ประโยชน์เด่น:
• กำจัดหญ้าใบแคบ ใบกว้าง
• คุมวัชพืชได้ยาวนาน
• ประหยัด ได้ผลดี
⚠️ หมายเหตุพิเศษ:
หลังฉีดกำจัดวัชพืช ใช้ฮิวมิคช่วยฟื้นฟูดินและเสริมความแข็งแรงให้พืชหลัก ป้องกันการกลับมาของวัชพืช ใช้แยกเวลา 3-7 วันหลังฉีดคาร์รอน
💰 คาร์รอน: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อคาร์รอน:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
Line
🎯 สรุปขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนแนะนำ:
🌱
เริ่มต้น:
เลือกใช้ FK-1 หรือ สตาร์เฟอร์ 30-20-5 + ฮิวมิคFK
🌸
เร่งดอกผล:
เลือกใช้ FK-3 (หรือ FK-3R/3S/3C) หรือ สตาร์เฟอร์ 10-40-10 + ฮิวมิคFK
🛡️
ป้องกัน:
ไทอะมีทอกแซม หรือ แพนน่อน หรือ แม็กซ่า + ฮิวมิคFK
🍯
เก็บเกี่ยว:
สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK
💎 สำคัญที่สุด:
ใช้ ฮิวมิคFK ผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นทุกครั้ง จะได้ผลดีขึ้น 2-3 เท่า
💡
เคล็ดลับ:
เริ่มด้วยโปรโมชั่นขนาดเล็ก → หากได้ผลแล้วค่อยซื้อเพิ่ม
💡 คำแนะนำสำหรับมือใหม่
🔰 แนะนำเริ่มต้น:
โปรฯเล็กยอดฮิต (499 บาท) + ฮิวมิคFK (250 บาท) = ทดลองในงบ 750 บาท
🌾 เกษตรกรข้าว:
FK-1 + FK-3R + ไอเอส + ฮิวมิคFK
🎯 เกษตรกรอ้อย:
FK-1 + FK-3S + แม็กซ่า + ฮิวมิคFK
🥔 เกษตรกรมันฯ:
FK-1 + FK-3C + ฮิวมิคFK
🍇 เกษตรกรผลไม้:
FK-1 + FK-3 + สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK
⚠️ หมายเหตุ:
คาร์รอน ไม่ผสมกับผลิตภัณฑ์อื่น ใช้แยกเวลา แล้วค่อยใช้ฮิวมิคฟื้นฟูพืช
📞 ติดต่อสอบถาม คำแนะนำการใช้
โทรศัพท์
📞 090-592-8614
ไลน์ไอดี
💬 @FarmKaset
🌟 ทีมงานพร้อมให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ ปรึกษาปัญหาพืช และแนะนำสูตรที่เหมาะสม
📅 เวลาทำการ: 9:00-17:00 น.
💎
พิเศษ:
ปรึกษาการใช้ ฮิวมิคFK คู่กับผลิตภัณฑ์อื่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
⏰
คำแนะนำเวลา:
ช่วงเวลาการใช้ FK-1 และ FK-3 ชุดต่างๆ ตามพืชแต่ละชนิด
🌾
FarmKaset
- ผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพ เพื่อเกษตรกรไทย 🌾
📍
ส่งทั่วประเทศ
🚚
จัดส่งเร็ว
💯
ได้ผลจริง
🏆
ขายดี #1 บน Lazada
💎 จุดเด่นใหม่:
ฮิวมิคFK เพิ่มประสิทธิภาพทุกผลิตภัณฑ์ 2-3 เท่า
© 2025 FarmKaset - สงวนลิขสิทธิ์ | 🔗
ระบบคำนวณการผสมปุ๋ย
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025
ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ
คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย
เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด
|
ปุ๋ยทุเรียน
|
ปุ๋ยมันสำปะหลัง
|
ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย
|
ปุ๋ยนาข้าว
|
ปุ๋ยยางพารา
|
ปุ๋ยมะพร้าว
|
ปุ๋ยข้าวโพด
|
ปุ๋ยปาล์ม
|
ปุ๋ยสับปะรด
|
ปุ๋ยถั่วเหลือง
|
ปุ๋ยพริกไทย
|
ปุ๋ยกาแฟ
|
ปุ๋ยมะนาว
|
ปุ๋ยส้ม
|
ปุ๋ยลำไย
|
ปุ๋ยลิ้นจี่
|
ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง
|
ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว
|
ปุ๋ยมังคุด
|
ปุ๋ยมันฝรั่ง
|
ปุ๋ยหอมหัวใหญ่
|
ปุ๋ยกระเทียม
|
ปุ๋ยหอมแดง
|
ปุ๋ยมะเขือเทศ
|
ปุ๋ยกล้วยไม้
|
ปุ๋ยอินทผลัม
|
ปุ๋ยน้อยหน่า
|
ปุ๋ยชมพู่
|
ปุ๋ยเงาะ
|
ปุ๋ยมะม่วง
|
ปุ๋ยมะขาม
|
ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้
|
ทุเรียนใบติด
|
มันสำปะหลังใบไหม้
|
โรคอ้อยใบไหม้
|
ข้าวใบไหม้
|
ยางพาราใบไหม้
|
โรคมะพร้าวใบไหม้
|
โรคราน้ำค้างข้าวโพด
|
ปาล์มใบไหม้
|
โรคสับปะรด
|
โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง
|
พริกไทยใบไหม้
|
โรคกาแฟใบไหม้
|
ราสนิมมะนาว
|
ส้มใบไหม้
|
ลำไยใบไหม้
|
ลิ้นจี่ใบไหม้
|
หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้
|
กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย
|
โรคใบจุดมังคุด
|
มันฝรั่งใบใหม้
|
โรคหอมเลื้อย
|
โรคใบจุดกระเทียม
|
โรคหอมแดง
|
ราแป้งมะเขือเทศ
|
โรคจุดสนิมกล้วยไม้
|
อินทผลัมใบไหม้
|
น้อยหน่าดอกร่วง
|
ชมพู่ใบไหม้
|
เงาะใบไหม้
|
มะม่วงใบไหม้
|
ราแป้งมะขาม
|
โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด
|
เพลี้ยทุเรียน
|
เพลี้ยมันสำปะหลัง
|
เพลี้ยอ้อย
|
เพลี้ยข้าว
|
เพลี้ยยางพารา
|
เพลี้ยมะพร้าว
|
เพลี้ยข้าวโพด
|
เพลี้ยปาล์มน้ำมัน
|
เพลี้ยสับปะรด
|
เพลี้ยถั่วเหลือง
|
เพลี้ยพริกไทย
|
เพลี้ยกาแฟ
|
เพลี้ยมะนาว
|
เพลี้ยส้ม
|
เพลี้ยลำไย
|
เพลี้ยลิ้นจี่
|
เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง
|
เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว
|
เพลี้ยมังคุด
|
เพลี้ยมันฝรั่ง
|
เพลี้ยหอมหัวใหญ่
|
เพลี้ยกระเทียม
|
เพลี้ยหอมแดง
|
เพลี้ยมะเขือเทศ
|
เพลี้ยกล้วยไม้
|
เพลี้ยอินทผาลัม
|
เพลี้ยน้อยหน่า
|
เพลี้ยชมพู่
|
เพลี้ยเงาะ
|
เพลี้ยมะม่วง
|
เพลี้ยมะขาม
|
เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้
|
โรคทุเรียน
|
โรคมันสำปะหลัง
|
โรคอ้อย
|
โรคข้าว
|
โรคยางพารา
|
โรคมะพร้าว
|
โรคข้าวโพด
|
โรคปาล์ม
|
โรคสับปะรด
|
โรคถั่วเหลือง
|
พริกไทยใบไหม้
|
โรคกาแฟ
|
โรคมะนาว
|
โรคส้ม
|
โรคลำไย
|
โรคลิ้นจี่
|
โรคหน่อไม้ฝรั่ง
|
โรคกระเจี๊ยบเขียว
|
โรคมังคุด
|
โรคมันฝรั่ง
|
โรคหอม
|
โรคกระเทียม
|
โรคหอมแดง
|
โรคมะเขือเทศ
|
โรคกล้วยไม้
|
โรคอินทผาลัม
|
โรคน้อยหน่า
|
โรคชมพู่
|
โรคเงาะ
|
โรคมะม่วง
|
โรคมะขาม
|
โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด
|
เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน
|
เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง
|
เพลี้ยอ้อย
|
เพลี้ยศัตรูข้าว
|
เพลี้ยแป้งยางพารา
|
เพลี้ยศัตรูมะพร้าว
|
เพลี้ยข้าวโพด
|
เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน
|
เพลี้ยแป้งสับปะรด
|
เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง
|
เพลี้ยแป้งพริกไทย
|
เพลี้ยแป้งกาแฟ
|
เพลี้ยไฟมะนาว
|
เพลี้ยไฟส้ม
|
เพลี้ยแป้งลำไย
|
เพลี้ยแป้งลิ้นจี่
|
เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง
|
เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว
|
เพลี้ยไฟมังคุด
|
เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง
|
เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่
|
เพลี้ยไฟกระเทียม
|
เพลี้ยไฟหอมแดง
|
เพลี้ยมะเขือเทศ
|
เพลี้ยไฟกล้วยไม้
|
เพลี้ยแป้งอินทผาลัม
|
เพลี้ยแป้งน้อยหน่า
|
เพลี้ยไฟชมพู่
|
เพลี้ยแป้งเงาะ
|
เพลี้ยจักจั่นมะม่วง
|
เพลี้ยมะขาม
|
เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช
|
กำจัดหนอนทุเรียน
|
กำจัดหนอนมันสำปะหลัง
|
กำจัดหนอนกออ้อย
|
กำจัดหนอนในนาข้าว
|
กำจัดหนอนในสวนยางพารา
|
กำจัดหนอนมะพร้าว
|
กำจัดหนอนข้าวโพด
|
กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน
|
กำจัดหนอนสับปะรด
|
กำจัดหนอนถั่วเหลือง
|
กำจัดหนอนพริกไทย
|
กำจัดหนอนกาแฟ
|
กำจัดหนอนมะนาว
|
กำจัดหนอนส้ม
|
กำจัดหนอนลำไย
|
กำจัดหนอนลิ้นจี่
|
กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง
|
กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว
|
กำจัดหนอนมังคุด
|
กำจัดหนอนมันฝรั่ง
|
กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่
|
กำจัดหนอนกระเทียม
|
กำจัดหนอนหอมแดง
|
กำจัดหนอนมะเขือเทศ
|
กำจัดหนอนกล้วยไม้
|
กำจัดหนอนอินทผาลัม
|
กำจัดหนอนน้อยหน่า
|
กำจัดหนอนชมพู่
|
กำจัดหนอนเงาะ
|
กำจัดหนอนมะม่วง
|
กำจัดหนอนมะขาม
|
กำจัดหนอนพริก
กำจัดเชื้อรา กะหล่ำ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/09/16 10:18:51 - Views: 3513
การป้องกันกำจัด ยางพาราใบร่วง หรือ โรคเชื้อราไฟทอฟธอร่า ในยางพารา
Update: 2566/03/06 14:21:48 - Views: 3649
แก้ทุเรียนเล็กใบไหม้ ใบแห้ง ยอดไหม้ ใบเหลือง เพราะโรคจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส
Update: 2564/05/07 12:21:17 - Views: 6457
โรคราแป้ง ที่เกิดกับ แตงกวา
Update: 2564/08/09 05:45:36 - Views: 4136
ผักคะน้า กล้าเน่า
Update: 2564/04/27 17:07:08 - Views: 3841
มะยงชิดใบไหม้ โรครามะปรางหวาน ใบจุดสีน้ำตาล ใบเหี่ยว แก้ด้วย ไอเอส
Update: 2564/04/26 00:48:24 - Views: 5952
โรคผักบุ้ง โรคราสนิมขาวผักบุ้ง ผักบุ้งใบไหม้ ใบเหลือง จุดเหลือง โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/11 22:07:25 - Views: 4394
การป้องกันและกำจัด โรคราสนิมในอ้อย ด้วยสารอินทรีย์
Update: 2566/01/07 07:59:52 - Views: 3560
โรคดอกรัก ใบไหม้ ราน้ำค้าง ราสนิม ใบจุด ขาดธาตุอาหาร ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม #ดอกรักใบไหม้ #ปุ๋ยดอกรัก
Update: 2564/11/03 03:38:11 - Views: 3535
การจัดการกับเพลี้ยในต้นมะกรูด: วิธีป้องกันและกำจัด
Update: 2566/11/14 12:13:18 - Views: 3985
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคดอกเน่า ในดอกดาวเรือง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
Update: 2565/12/28 09:47:49 - Views: 3534
ลิ้นจี่ โตไว ใบเขียว เร่งราก เร่งดอก ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์
Update: 2567/04/01 14:53:38 - Views: 3823
การควบคุมโรคเชื้อราในมะขามหวานอย่างมีประสิทธิภาพ
Update: 2566/05/04 09:41:13 - Views: 3622
แตงกวา ผลเน่า ใบจุด ใบไหม้ ราสนิม กำจัดเชื้อราในพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T
Update: 2566/04/26 13:05:58 - Views: 3531
ใส่ปุ๋ยแล้ว ควรให้ฮิวมิคเพิ่ม ดีไหม เพราะอะไร?
Update: 2568/04/29 09:54:30 - Views: 324
โรคผลแตกในลำไย : ไขปัญหาเชื้อรา
Update: 2566/05/17 11:39:59 - Views: 3518
ผลกระทบต่อสุขภาพ จากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
Update: 2564/08/12 22:06:31 - Views: 5221
มันสำปะหลังอินทรีย์ จ.อุบลราชธานี พืชยกระดับรายได้เกษตรกร มีตลาดรองรับ
Update: 2564/05/03 15:16:55 - Views: 3586
ถาพนกที่ ฟาร์มเกษตร
Update: 2563/05/31 09:22:42 - Views: 3544
เงาะ ผลใหญ่ ผลดก ขยายขนาด เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์ สตาร์เฟอร์ 0-0-60
Update: 2567/04/12 11:49:44 - Views: 3601
GA4 © FarmKaset.ORG |
สถาบันอนุญาโตตุลาการ
: 2022