ค้นข้อมูล
สินค้า
ตามสินค้า
ติดต่อเรา
Central Lab ห้องปฏิบัติการกลาง
iLab ตรวจดิน
รับจ้างผลิตปุ๋ยยาฯOEM
แอพผสมปุ๋ย
English
รวมเว็บแอพเกษตร พัฒนาโดยฟาร์มเกษตร
อัพเดททุกวันที่..
พิมพ์คำค้นหา หรือลองคลิกตัวอย่าง >
มันสำปะหลัง
,
ข้าว
,
อ้อย
,
ทุเรียน
,
กัญชา
,
ข้าวโพด
,
ปาล์ม
,
ยางพารา
,
อินทผลัม
,
โรคใบไหม้
,
ราสนิม
,
เพลี้ย
,
ยาแช่ท่อนพันธุ์
[sort by :
last post
|
top views
]
..
+ โพสเรื่องใหม่
|
^ เลือกหน้า
|
ค้นคำว่า - ทุเรียน
432 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 43 หน้า, หน้าที่ 44 มี 2 รายการ
กรุณากรอกหัวข้อ
พิมพ์คำว่า ฟาร์มเกษตร
พิมพ์คำว่า ฟาร์มเกษตร
การป้องกันกันกำจัดโรคพืช อย่างมีประสิทธิภาพ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคราสนิม โรคราต่างๆ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1: ประโยชน์และวิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคพืช
บทนำ
การเกษตรสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดความเสียหายจากโรคพืช บทความวิชาการนี้นำเสนอการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชแพนน่อน (ที่มีสารออกฤทธิ์คือแมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ประสิทธิภาพของแพนน่อน (แมนโคเซป) ในการป้องกันกำจัดโรคพืช
แพนน่อน ซึ่งมีสารออกฤทธิ์สำคัญคือแมนโคเซป เป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืช (fungicide) ประเภทสัมผัส ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สามารถใช้ป้องกันกำจัดโรคพืชได้หลากหลายชนิด ได้แก่:
โรคใบจุด (Leaf spot diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ทำให้เกิดจุดบนใบพืช ส่งผลให้พื้นที่ในการสังเคราะห์แสงลดลง
โรคราสนิม (Rust diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Puccinia ทำให้เกิดแผลสีส้มหรือสีน้ำตาลบนใบพืช
โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Oomycetes ทำให้เกิดคราบขาวใต้ใบพืช
โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) - โรคที่ทำให้เกิดแผลยุบตัวบนผล ใบ และลำต้น
โรคใบไหม้ (Blight diseases) - โรคที่ทำให้ใบพืชเหี่ยวแห้งและตายอย่างรวดเร็ว
โรคผลเน่า (Fruit rot) - โรคที่ทำให้ผลไม้เน่าเสียก่อนเก็บเกี่ยว
แมนโคเซปมีความเหมาะสมในการใช้กับพืชหลายชนิด เช่น:
ข้าว - ป้องกันโรคไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae
ผัก - ป้องกันโรคราน้ำค้างและโรคใบจุดในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ และพืชผักอื่นๆ
ไม้ผล - ป้องกันโรคแอนแทรคโนสและโรคผลเน่าในมะม่วง ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ
มันฝรั่ง - ป้องกันโรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans
ยางพารา - ป้องกันโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora และ Colletotrichum
องค์ประกอบและประโยชน์ของปุ๋ยทางใบ FK-1
ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่:
ไนโตรเจน (N) - ช่วยในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น กระตุ้นการสร้างโปรตีนและคลอโรฟิลล์
ฟอสฟอรัส (P) - ช่วยในการออกดอก ติดผล และพัฒนาระบบราก มีบทบาทสำคัญในกระบวนการถ่ายทอดพลังงาน
โพแทสเซียม (K) - เพิ่มความแข็งแรงของพืช ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล และเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง
แมกนีเซียม (Mg) - เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง
ซิงค์ (Zn) - ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเติบโตและเอนไซม์ที่สำคัญ ส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีน
ประโยชน์ของการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1
การผสมแพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 และฉีดพ่นไปพร้อมกัน ให้ประโยชน์หลายประการต่อเกษตรกรและพืช ดังนี้:
1. เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ
การใช้สารป้องกันกำจัดโรคควบคู่กับการเสริมธาตุอาหารให้พืช เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ โดยแมนโคเซปจะช่วยป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อรา ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น
2. ประหยัดเวลาและลดต้นทุนการผลิต
การฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและปุ๋ยทางใบในคราวเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต เนื่องจาก:
ลดจำนวนครั้งในการฉีดพ่น
ประหยัดน้ำและเชื้อเพลิงที่ใช้ในการฉีดพ่น
ลดการสึกหรอของอุปกรณ์การเกษตร
ลดค่าแรงงานในการฉีดพ่น
3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช
ธาตุอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช ทำให้พืชแข็งแรงและต้านทานต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรคได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแมนโคเซปในการป้องกันกำจัดโรคพืช
4. เร่งการฟื้นตัวของพืชที่เริ่มแสดงอาการของโรค
หากพืชเริ่มแสดงอาการของโรค การได้รับทั้งสารป้องกันกำจัดโรคและธาตุอาหารพร้อมกัน จะช่วยให้พืชสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยแมนโคเซปจะช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ในขณะที่ธาตุอาหารจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
5. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของสารป้องกันกำจัดโรค
ธาตุอาหารบางชนิดในปุ๋ยทางใบ FK-1 อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของแมนโคเซปเข้าสู่เนื้อเยื่อพืช ทำให้การป้องกันกำจัดโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อพืช ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:
1. การทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมี
ก่อนนำแพนน่อนและปุ๋ยทางใบ FK-1 มาผสมกันเพื่อใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ ควรทำการทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมีในปริมาณน้อยก่อน เพื่อตรวจสอบว่าไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การตกตะกอน การแยกชั้น หรือการเกิดฟอง
2. อัตราส่วนการผสมที่เหมาะสม
ควรใช้อัตราส่วนการผสมตามที่ระบุไว้บนฉลากของทั้งสองผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปแล้ว:
แพนน่อน (แมนโคเซป): ใช้อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ปุ๋ยทางใบ FK-1: ใช้อัตรา 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
หมายเหตุ แกะกล่องมาจะผสมสองถุง ต้องใช้ทั้งสองถุงผสมกัน
3. การผสมสารเคมี
ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของการใช้สารเคมี ควรปฏิบัติดังนี้:
เติมน้ำลงในถังพ่นประมาณครึ่งถัง
ละลายแพนน่อน (แมนโคเซป) ในน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน แล้วจึงเทลงในถังพ่น
คนให้เข้ากัน
เติมปุ๋ยทางใบ FK-1 ลงในถังพ่น
คนให้เข้ากันอีกครั้ง
เติมน้ำให้ได้ปริมาตรตามต้องการ
คนให้เข้ากันตลอดเวลาระหว่างการฉีดพ่น
4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่น
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น เมื่อแสงแดดไม่จัดและอุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดอาการไหม้ของใบพืช
5. ความถี่ในการฉีดพ่น
ความถี่ในการฉีดพ่นขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ระยะการเจริญเติบโต และความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปควรฉีดพ่นทุก 7-14 วัน หรือตามที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์
6. ข้อควรระวัง
ควรผสมและใช้ทันที ไม่ควรเก็บสารละลายที่ผสมแล้วไว้ข้ามคืน
สังเกตอาการของพืชหลังการฉีดพ่น หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้
ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ หน้ากาก และชุดป้องกัน ขณะผสมและฉีดพ่นสารเคมี
ไม่ควรฉีดพ่นในขณะที่มีลมแรง เพื่อป้องกันการปลิวของละอองสารเคมีไปยังพื้นที่ข้างเคียง
สรุป
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืชด้วยธาตุอาหารที่จำเป็น ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีทางการเกษตรควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากและหลักการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและมีความปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม
คำสำคัญ
แพนน่อน_ แมนโคเซป_ ปุ๋ยทางใบ FK-1_ โรคพืช_ สารป้องกันกำจัดโรคพืช_ ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม_ แมกนีเซียม_ ซิงค์_ การจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ_ ราสนิม_ ราน้ำค้าง_ ใบจุด_ แอนแทรคโนส_ ใบไหม้_ ผลเน่า_ การป้องกันโรคพืช
อ่าน:89
สิ่งที่ "ฮิวมิค" ให้กับต้นทุเรียนได้ แต่ปุ๋ยทั่วไปให้ไม่ได้
1. **ปรับปรุงดินระยะยาว**
- ฮิวมิคช่วยฟื้นฟูโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำดี ระบายอากาศได้ เหมาะกับรากทุเรียนที่ต้องการดินโปร่ง
- ปุ๋ยเคมีทั่วไปมักทำให้ดินเสื่อมสภาพและแข็งตัวในระยะยาว
2. **เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมปุ๋ย**
- ฮิวมิคทำหน้าที่จับแร่ธาตุอาหารไว้ในดิน ป้องกันการสูญเสียจากการชะล้าง และช่วยให้รากทุเรียนดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่
- ปุ๋ยทั่วไปให้ธาตุอาหารโดยตรง แต่ไม่ช่วยรักษาหรือเสริมการดูดซึมในระยะยาว
3. **กระตุ้นการเจริญเติบโตของราก**
- ฮิวมิคส่งเสริมการแตกแขนงของรากฝอย ทำให้ระบบรากทุเรียนแข็งแรง ดูดน้ำและอาหารได้ดีกว่า
- ปุ๋ยทั่วไปไม่มีคุณสมบัติกระตุ้นระบบรากโดยตรงแบบนี้
4. **เสริมภูมิคุ้มกันต้นทุเรียน**
- ฮิวมิคช่วยให้ต้นไม้ทนต่อสภาวะเครียด เช่น โรคพืช ดินเค็ม น้ำแห้ง หรือสารพิษตกค้าง
- ปุ๋ยทั่วไปเน้นเรื่องการให้ธาตุอาหารอย่างเดียว ไม่ช่วยเรื่องเสริมความทนทานของต้น
5. **ส่งเสริมจุลินทรีย์ดีในดิน**
- ฮิวมิคเป็นอาหารของจุลินทรีย์มีประโยชน์ในดิน ช่วยให้ระบบนิเวศในดินสมบูรณ์
- ปุ๋ยเคมีบางชนิดทำลายจุลินทรีย์ดี และทำให้ดินเสื่อมโทรม
---
**สรุปสั้นมาก:**
> ฮิวมิคช่วยสร้างดินดี รากแข็งแรง ต้นทุเรียนดูดซึมอาหารเก่ง มีภูมิคุ้มกันสูง — สิ่งที่ปุ๋ยเคมีทั่วไปให้ไม่ได้
อ่าน:194
สถานการณ์ทุเรียนไทยปี 2568: โอกาสทางการค้าและปัญหาภายในประเทศที่ต้องจับตา
ในปี 2568 ทุเรียนไทยยังคงเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มีความสำคัญทั้งในด้านการส่งออกและตลาดภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทายไม่น้อย ทั้งด้านปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันจากต่างประเทศ รวมถึงปัญหาหลายประการภายในประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ
## 📈 ปริมาณผลผลิตเพิ่มสูง – โอกาสและความท้าทาย
ภาคตะวันออกของไทยคาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดประมาณ 1_045_410 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 56.89% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศที่เหมาะสมและการขยายพื้นที่ปลูกที่ต่อเนื่อง
แม้จะดูเป็นโอกาสที่ดี แต่การมีผลผลิตจำนวนมากอาจนำไปสู่ “ภาวะผลผลิตล้นตลาด” หากการกระจายผลผลิตไม่ดีพอ หรือเกิดอุปสรรคในการส่งออก โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างจีน
## ปัญหาการส่งออก: สารตกค้าง-การแข่งขันสูง
ในช่วงต้นปี 2568 มีกรณีพบสารย้อมสี Basic Yellow 2 (BY2) ในทุเรียนส่งออกไปยังประเทศจีน ทำให้ทางการจีนเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลไทยได้เร่งออกมาตรการควบคุม เช่น การตรวจสารตกค้าง การสุ่มตรวจสวน และสร้างระบบ QR Traceability เพื่อความโปร่งใส
นอกจากนั้น ไทยยังเผชิญการแข่งขันจากผู้ส่งออกรายอื่น เช่น มาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งสามารถส่งทุเรียนพันธุ์ดีในราคาที่แข่งขันได้ โดยคาดว่าการแข่งขันนี้อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ส่งออกทุเรียนไทยประมาณ 1.7-5.7 หมื่นล้านบาทในช่วงปี 2568-2573
## 🧩 ปัญหาทุเรียนภายในประเทศ: ความท้าทายที่ต้องร่วมกันแก้
แม้การส่งออกจะมีความสำคัญ แต่ปัญหาภายในประเทศก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาเช่นกัน:
### 1. ราคาตกจากผลผลิตล้นตลาด
ผลผลิตทุเรียนจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันอาจทำให้ราคาหน้าสวนตกลงอย่างหนัก โดยเฉพาะหากทุเรียนบางส่วนสุกเกินหรือเสียหายจากการจัดเก็บไม่เหมาะสม
### 2. การใช้สารเคมีไม่เหมาะสม
บางพื้นที่มีการใช้สารเร่งการสุกหรือสารตกแต่งเปลือก เช่น การย้อมสี ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และกระทบต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยทั้งในและต่างประเทศ
### 3. ระบบขนส่งและกระจายสินค้าไม่ทั่วถึง
ยังขาดแคลนระบบขนส่งห้องเย็น คลังพักผลไม้ที่ทันสมัย หรือศูนย์กลางกระจายสินค้าในบางจังหวัด ส่งผลให้ทุเรียนบางล็อตเสียหายก่อนถึงตลาดปลายทาง
### 4. ปัญหาการปลอมแปลงสายพันธุ์
มีการร้องเรียนจากผู้บริโภคในประเทศว่า ทุเรียนที่ซื้อไม่ตรงสายพันธุ์ที่ระบุ เช่น ซื้อมูซังคิงแต่ได้หมอนทอง หรือขายทุเรียนอ่อนเป็นทุเรียนแก่
### 5. ขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยว
หลายพื้นที่เผชิญปัญหาแรงงานไม่เพียงพอในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตหล่นเสียหาย หรือเก็บไม่ทัน
### 6. ความเสี่ยงจากสภาพอากาศ
ฝนที่ตกผิดฤดู ลมพายุ หรือภาวะแห้งแล้ง ล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณของผลผลิต
## 🔎 ทางออกและแนวโน้มในอนาคต
แม้จะมีปัญหาและความท้าทายหลายด้าน แต่ทุเรียนไทยยังคงมีศักยภาพในตลาดโลก โดยเฉพาะหากเกษตรกรสามารถผลิตทุเรียนคุณภาพสูง ปลอดสาร และปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด
การพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยว การแปรรูป และระบบโลจิสติกส์ รวมถึงการส่งเสริมตลาดภายในประเทศให้เข้มแข็ง จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างเสถียรภาพระยะยาวให้กับ “ราชาแห่งผลไม้” ของไทย
---
# ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตทุเรียน ด้วย ฮิวมิค FK
## ✔️ **Value-Oriented (ให้คุณค่า): ปลูกทุเรียนให้คุ้มค่าทุกต้นทุน**
ในยุคที่ต้นทุนเกษตรเพิ่มสูง ทั้งปุ๋ยเคมี ค่าแรง และค่าขนส่ง การเลือกใช้ **ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของดินและรากต้นทุเรียน** จึงเป็นทางออกที่คุ้มค่า
**ฮิวมิค FK** คือสารปรับปรุงดินที่มีส่วนผสมของฮิวมิก แอซิด จากธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำดี รากเดินลึก พร้อมรับสารอาหารได้อย่างเต็มที่
🌿 **ผลลัพธ์ที่เกษตรกรทุเรียนหลายรายยืนยัน:**
- ลดต้นทุนปุ๋ยเคมีลงได้กว่า 30%
- ทุเรียนติดลูกดี ต้นไม่โทรมหลังให้ผลผลิต
- ดินฟื้นตัวไว หลังเจอฝนตกหนักหรือน้ำท่วม
---
## ✔️ **Personalization (ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม): สำหรับเกษตรกรทุเรียนโดยเฉพาะ**
ไม่ว่าคุณจะปลูก **หมอนทอง_ ชะนี_ พวงมณี หรือก้านยาว** – ฮิวมิค FK ก็สามารถปรับสูตรการใช้ให้เหมาะสมกับ:
- **ช่วงอายุของต้น:** ตั้งแต่ลงปลูกใหม่ – ผลผลิตปีที่ 10
- **สภาพดิน:** ดินเหนียว ดินทราย ดินลูกรัง
- **ฤดูกาลและเป้าหมาย:** เร่งฟื้นต้น – เร่งราก – เพิ่มขนาดผล
📌 ตัวอย่างการใช้:
- *ต้นเล็ก:* 10กรัม หรือประมาณ 1 ช้องแกง ต่อน้ำ 20 ลิตร ราดโคนเดือนละ 1-2 ครั้ง
- *ต้นให้ผลผลิต:* ใช้ร่วมกับปุ๋ยเกล็ด/ปุ๋ยอินทรีย์ กระตุ้นการกินปุ๋ย ดูดซึมไวขึ้น
---
ฮิวมิคFK เป็นหนึ่งในสินค้าขายดี จากฟาร์มเกษตร ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และใช้ได้ผลกับพืชทุกชนิด
---
## 🔚 สรุป: ทางเลือกใหม่ของเกษตรกรทุเรียนยุคใหม่
✅ ลดต้นทุน ✔️ เพิ่มผลผลิต
✅ บำรุงดิน ✔️ ฟื้นฟูราก
✅ ใช้คู่กับปุ๋ยเดิมได้ ไม่ต้องเปลี่ยนระบบ
อ่าน:264
ทุเรียนคาร์บอนต่ำ อนาคตทุเรียนไทย
ทุเรียนคาร์บอนต่ำกำลังเป็นที่สนใจในตลาดโลก เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ประเทศไทยได้เล็งเห็นโอกาสนี้และกำลังผลักดันทุเรียนคาร์บอนต่ำเป็น Soft Power ใหม่ของประเทศ
**ความสำคัญของทุเรียนคาร์บอนต่ำในตลาดโลก:**
- **แนวโน้มผู้บริโภค:** ผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ทุเรียนคาร์บอนต่ำมีโอกาสเติบโตในตลาดสากล
- **มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม:** หลายประเทศกำหนดมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การผลิตทุเรียนคาร์บอนต่ำจึงสอดคล้องกับมาตรการเหล่านี้
**การดำเนินการของประเทศไทย:**
- **การจัดทำคู่มือ:** กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำคู่มือการผลิตทุเรียนคาร์บอนต่ำ เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตทุเรียน
- **ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน:** มีการเตรียมทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เพื่อพัฒนาการผลิตพืชที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก citeturn0search5
**แนวโน้มในอนาคต:**
ด้วยความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ทุเรียนคาร์บอนต่ำมีศักยภาพในการขยายตลาดโลก การปรับตัวของเกษตรกรและผู้ประกอบการไทยในการผลิตทุเรียนที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดสากล
### **บทบาทของฮิวมิค FK ในการส่งเสริมทุเรียนคาร์บอนต่ำ**
**1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี**
ฮิวมิค FK เป็นสารอินทรีย์ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน **เพิ่มการดูดซับธาตุอาหาร** และ **ลดการชะล้างธาตุอาหาร** ทำให้ **ต้นทุเรียนสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น** ซึ่งส่งผลให้เกษตรกร **ลดการใช้ปุ๋ยเคมี** ลงได้โดยไม่กระทบต่อผลผลิต
- **ผลลัพธ์:** ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตและการใช้ปุ๋ยเคมี
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ปุ๋ยเคมีเป็นแหล่งปล่อย **ไนตรัสออกไซด์ (N₂O)** ซึ่งมีค่าศักยภาพเรือนกระจกสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 300 เท่า
---
**2. เพิ่มความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนในดิน**
ฮิวมิค FK มีคุณสมบัติช่วยให้ดินมี **สารอินทรีย์มากขึ้น** ซึ่งช่วย **กักเก็บคาร์บอนในดิน** และ **ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สู่บรรยากาศ**
- **ผลลัพธ์:** เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ทำให้สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ดีขึ้น
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ดินที่มีฮิวมิกสูงสามารถช่วยกักเก็บ **คาร์บอนอินทรีย์ในดิน (Soil Organic Carbon_ SOC)** ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อน
---
**3. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากและระบบนิเวศดิน**
ฮิวมิค FK **ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากทุเรียน** ทำให้ต้นแข็งแรงและสามารถดูดซึมสารอาหารจากดินได้ดีขึ้น ส่งผลให้
✅ ต้นทุเรียนมี **ภูมิต้านทานที่ดีขึ้น**
✅ ระบบรากช่วย **รักษาความชื้นและลดการพังทลายของดิน**
- **ผลลัพธ์:** ลดการใช้น้ำและสารเคมีปรับปรุงดิน
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ลดการใช้น้ำและพลังงานในกระบวนการผลิต
---
**4. ลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในฟาร์ม**
การใช้ฮิวมิค FK **ช่วยลดปริมาณปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดิน** ลดความเสี่ยงของ **สารเคมีตกค้างในสิ่งแวดล้อม** และลดของเสียจากฟาร์มทุเรียน
- **ผลลัพธ์:** ส่งเสริมระบบการเกษตรยั่งยืน (Sustainable Agriculture)
- **เชื่อมโยงกับแนวคิดคาร์บอนต่ำ:** ลดของเสียจากการเกษตร ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
---
### **สรุป: ฮิวมิค FK กับการส่งเสริมทุเรียนคาร์บอนต่ำ**
✅ **ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี** → ลดการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์
✅ **ช่วยกักเก็บคาร์บอนในดิน** → ลดคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ
✅ **ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารของต้นทุเรียน** → ลดการใช้ทรัพยากร
✅ **ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน** → ส่งเสริมการเกษตรยั่งยืน
🌱 **ฮิวมิค FK จึงมีบทบาทสำคัญต่อแนวคิด "ทุเรียนคาร์บอนต่ำ"** และเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถพัฒนาทุเรียนให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 🌏💚
อ่าน:214
ทุเรียนกำลังออกดอก ใช้ฮิวมิค FK ผสมน้ำราดลงโคน หรือฉีดพ่นลงดิน ไหนดีกว่ากัน?
การปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิตดี ต้องอาศัยการดูแลในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะช่วงที่ทุเรียนกำลังออกดอก ซึ่งเป็นช่วงสำคัญในการเพิ่มโอกาสการติดผลที่มีคุณภาพ หนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่เกษตรกรนิยมใช้คือ **ฮิวมิค FK** แต่การใช้งานระหว่าง **ผสมน้ำราดโคนต้น** หรือ **ฉีดพ่นลงดินทั่วบริเวณ** แบบไหนจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า? มาดูคำแนะนำในบทความนี้กัน
---
### **ฮิวมิค FK คืออะไร และช่วยอะไรบ้างในช่วงออกดอกของทุเรียน?**
ฮิวมิค FK คือสารอินทรีย์ที่มีกรดฮิวมิกและฟุลวิก (Humic Acid & Fulvic Acid) ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารของราก กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช และช่วยให้รากแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ทุเรียนออกดอก ฮิวมิค FK จะช่วยรักษาความชื้นในดิน เพิ่มอัตราการติดดอก และลดการร่วงของดอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
---
### **วิธีใช้ฮิวมิค FK แบบผสมน้ำราดโคนต้น**
- **ข้อดี**:
1. การราดโคนต้นช่วยส่งสารอาหารตรงสู่รากของทุเรียน
2. รากสามารถดูดซึมฮิวมิกได้ทันที
3. เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีดินแข็งหรือมีโครงสร้างดินไม่ดี
- **ข้อควรระวัง**:
- ปริมาณน้ำที่ใช้ราดควรเหมาะสม ไม่มากจนดินแฉะเกินไป
- ควรราดในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงการระเหย
---
### **วิธีใช้ฮิวมิค FK แบบฉีดพ่นลงดินทั่วบริเวณ**
- **ข้อดี**:
1. การฉีดพ่นช่วยให้สารฮิวมิกกระจายทั่วพื้นที่รากฝอย
2. เพิ่มพื้นที่การดูดซึมของธาตุอาหารในดิน
3. ลดปัญหารากที่อยู่ชั้นบนขาดความชื้น
- **ข้อควรระวัง**:
- หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นในช่วงแดดจัด เพราะสารอาจระเหยเร็วเกินไป
- ใช้หัวพ่นที่กระจายตัวได้ดี เพื่อให้สารซึมลึกถึงราก
---
### **แบบไหนดีกว่ากัน?**
คำตอบขึ้นอยู่กับ **สภาพพื้นที่และโครงสร้างดิน**
1. หากพื้นที่ปลูกเป็นดินแข็งและมีความสามารถในการอุ้มน้ำต่ำ แนะนำให้ **ราดโคนต้น**
2. หากพื้นที่ปลูกเป็นดินร่วนหรือดินที่มีโครงสร้างดินดีอยู่แล้ว การ **ฉีดพ่นทั่วบริเวณ** จะช่วยให้สารอาหารกระจายตัวได้ดีขึ้น
---
### **คำแนะนำเพิ่มเติม**
- ใช้ฮิวมิค FK ผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วนที่แนะนำบนฉลาก
- ควรใช้งานในช่วงเช้าหรือเย็น
- ควบคู่กับการให้น้ำที่เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดิน
---
### **สรุป**
ไม่ว่าจะเลือกใช้ **ฮิวมิค FK** แบบราดโคนต้นหรือฉีดพ่นลงดิน ทั้งสองวิธีมีข้อดีในตัวเอง ขึ้นอยู่กับสภาพดินและความต้องการของต้นทุเรียน หากต้องการเพิ่มโอกาสในการติดดอกและลดปัญหาดอกร่วง การใช้ฮิวมิค FK อย่างเหมาะสมจะช่วยส่งเสริมผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
---
#ฮิวมิคFK #ทุเรียนออกดอก #การดูแลทุเรียน #ฮิวมิก #เกษตรอินทรีย์ #ฮิวมิคสำหรับทุเรียน #การใช้ฮิวมิค #ดินดีผลผลิตเยี่ยม #เกษตรกร #เคล็ดลับปลูกทุเรียน
อ่าน:168
ทำไม? ฮิวมิคFK จึงจำเป็น และมีประโยชน์กับพืชทุกชนิด
**ฮิวมิค FK** (Humic FK) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์กับพืชทุกชนิด เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพดินและเสริมการเจริญเติบโตของพืช โดยมีเหตุผลดังนี้:
### 1. **ปรับปรุงโครงสร้างของดิน**
- ฮิวมิค FK ช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำและอากาศในดิน ทำให้รากพืชได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
- ช่วยลดการจับตัวเป็นดินแข็ง (Compact Soil) โดยเฉพาะในดินเหนียวและดินทราย
### 2. **เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน**
- เป็นแหล่งของคาร์บอนอินทรีย์ (Organic Carbon) ที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายธาตุอาหาร
- ช่วยจับธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำให้พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่ายขึ้น
### 3. **เสริมการเจริญเติบโตของพืช**
- ช่วยกระตุ้นการพัฒนาระบบราก ทำให้รากพืชแข็งแรงและสามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น
- มีผลต่อการเร่งการแบ่งเซลล์ (Cell Division) และการสร้างคลอโรฟิลล์ ส่งผลให้พืชโตเร็วและให้ผลผลิตสูงขึ้น
### 4. **ลดผลกระทบจากสภาวะแวดล้อม**
- ช่วยพืชทนต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อม เช่น ความแห้งแล้ง ดินเค็ม และดินเป็นกรด
- ลดการสูญเสียธาตุอาหารจากการชะล้างหรือการระเหย
### 5. **เหมาะกับพืชทุกชนิด**
- ใช้ได้กับพืชทุกประเภท เช่น
- พืชผล: ข้าว_ ข้าวโพด_ มันสำปะหลัง_ อ้อย
- พืชผัก: ผักชี_ คะน้า_ แตงกวา
- ไม้ผล: ทุเรียน_ มะม่วง_ ส้ม
- พืชสวนและไม้ดอก: กุหลาบ_ กล้วยไม้_ ดาวเรือง
### สรุป
**ฮิวมิค FK** มีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงคุณภาพดิน เพิ่มธาตุอาหาร และเสริมความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชทุกชนิดเติบโตได้ดีขึ้น ทนต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
---
#ฮิวมิคFK #ประโยชน์ของฮิวมิค #เพิ่มผลผลิตพืช #เกษตรอินทรีย์ #ปรับปรุงดิน #พืชโตไว #เกษตรกรไทย
อ่าน:146
ฮิวมิค (Humic substances) มีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของทุเรียนในหลายด้าน
ฮิวมิค (Humic substances) เป็นสารอินทรีย์ที่เกิดจากการสลายตัวของพืชและสัตว์ในดิน ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของทุเรียนในหลายด้าน โดยฮิวมิคมีคุณสมบัติที่สำคัญในการปรับปรุงคุณภาพดินและส่งเสริมพืช ดังนี้:
### 1. **ปรับปรุงโครงสร้างดิน**
ฮิวมิคช่วยเพิ่มความโปร่งและการระบายน้ำในดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของรากทุเรียน ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสของรากกับธาตุอาหารในดิน
### 2. **เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ**
ฮิวมิคช่วยให้ดินเก็บรักษาน้ำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งหรือพื้นที่ที่มีความชื้นต่ำ ส่งผลให้ทุเรียนสามารถรับน้ำได้อย่างเพียงพอ ช่วยลดความเครียดจากการขาดน้ำ
### 3. **เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร**
ฮิวมิคมีความสามารถในการจับและปล่อยธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืช เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ทำให้ทุเรียนได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการออกดอกติดผล
### 4. **กระตุ้นการเจริญเติบโตของราก**
ฮิวมิคกระตุ้นการพัฒนาของรากฝอย ช่วยให้รากทุเรียนแผ่ขยายและดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อความแข็งแรงของต้นและผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
### 5. **เพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง**
ดินที่มีฮิวมิคสูงช่วยสร้างสมดุลในระบบนิเวศของดิน ทำให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งช่วยลดการระบาดของโรคและแมลงที่เป็นศัตรูพืช
### 6. **ส่งเสริมการออกดอกและผลผลิต**
การใช้ฮิวมิคอย่างเหมาะสมช่วยปรับปรุงคุณภาพของดอกและผล เช่น ขนาดของผลทุเรียน เนื้อสัมผัส และรสชาติ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาด
### การใช้งานฮิวมิคในสวนทุเรียน
- **รูปแบบการใช้:** ฮิวมิคสามารถใช้ได้ในรูปของผงละลายน้ำ หรือฮิวมิคเหลว
- **วิธีการใช้:** ผสมฮิวมิคในน้ำแล้วฉีดพ่นบริเวณโคนต้น หรือใช้ร่วมกับระบบน้ำหยด
- **ปริมาณที่เหมาะสม:** ใช้ตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร
### สรุป
ฮิวมิคเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณภาพดิน ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก และช่วยเพิ่มผลผลิตของทุเรียน การใช้ฮิวมิคอย่างเหมาะสมและต่อเนื่องสามารถช่วยให้เกษตรกรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและผลกำไรได้อย่างยั่งยืน
อ่าน:181
วิเคราะห์ตลาดทุเรียน แนวโน้มปี 2568
ตลาดทุเรียนในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกทุเรียนอันดับหนึ่งของโลก คาดว่าจะส่งออกได้ถึง 1.04 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 57% จากปีก่อนหน้า โดยตลาดหลักยังคงเป็นจีน ซึ่งจะนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้น 95% จากปี 2563 ส่วนตลาดใหม่ที่น่าจับตามอง ได้แก่ เกาหลีใต้และไต้หวัน ที่มีการนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้นกว่า 50%.
ด้านราคา ทุเรียนหมอนทอง ที่ขายในประเทศคาดว่าจะเฉลี่ยประมาณ 144 บาท/กก. ในปี 2568 ส่วนราคาส่งออกไปจีนอาจพุ่งถึง 379 บาท/กก. หากการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 15%.
อย่างไรก็ตาม ตลาดทุเรียนต้องเผชิญความท้าทายจากคู่แข่ง เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม ที่เพิ่มศักยภาพการผลิตและส่งออกมากขึ้น แม้ยังไม่สามารถเทียบกับไทยได้ในด้านคุณภาพและมาตรฐาน.
กลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรและผู้ส่งออก คือการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย และตะวันออกกลาง เพื่อกระจายความเสี่ยง และพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดโลก.
อ่าน:494
5 พืชเศรษฐกิจไทย ที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุด
5 พืชเศรษฐกิจไทยที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุดในปี 2566 (มูลค่าเป็นเงินบาท) ได้แก่:
1. ผลไม้ - มูลค่าส่งออกประมาณ 248_500 ล้านบาท (คิดเป็น 25.9% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด) โดยทุเรียนเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนยอดขาย โดยเฉพาะในตลาดจีน
2. ข้าว - มูลค่าส่งออกประมาณ 184_200 ล้านบาท (19.2%) ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวคุณภาพสูง เช่น ข้าวหอมมะลิ ไปยังตลาดโลก
3. มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ - มูลค่าส่งออกประมาณ 132_500 ล้านบาท (13.8%) ส่วนใหญ่ส่งไปยังจีนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงาน
4. ยางพารา - มูลค่าส่งออกประมาณ 130_400 ล้านบาท (13.6%) โดยเน้นตลาดในเอเชีย เช่น จีน และมาเลเซีย
5. น้ำตาลทราย (จากอ้อย) - มูลค่าส่งออกประมาณ 120_000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลผลิตสำคัญที่มีตลาดหลักในประเทศอาเซียนและเอเชียใต้
ตัวเลขมูลค่าเงินบาทคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 2566
อ่าน:343
บำรุงทุเรียนเล็ก ส่งเสริมผลผลิตทุเรียนใหญ่ ฮิวมิคFK
การใช้ ฮิวมิค FK เสริมด้วย ฟลูวิค อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยบำรุงต้นทุเรียนเล็กและส่งเสริมผลผลิตทุเรียนที่เริ่มออกผลได้หลายด้านดังนี้:
1. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก – ฮิวมิคและฟลูวิคช่วยกระตุ้นการพัฒนาระบบรากให้แข็งแรงและแพร่ขยายได้ดีขึ้น ทำให้ต้นทุเรียนเล็กมีรากที่สามารถดูดซับน้ำและธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของต้นทุเรียนในระยะเริ่มต้น
2. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับธาตุอาหาร – ฟลูวิคช่วยเพิ่มการดูดซับธาตุอาหารที่จำเป็นให้กับทุเรียน เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ช่วยให้ต้นทุเรียนได้รับสารอาหารที่เหมาะสม ส่งผลให้ต้นมีการเจริญเติบโตแข็งแรงและเตรียมพร้อมสำหรับการออกผลในอนาคต
3. ช่วยสร้างความทนทานต่อสภาพแวดล้อม – การใช้ฮิวมิคและฟลูวิคอย่างสม่ำเสมอช่วยเสริมความทนทานให้กับต้นทุเรียนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ความร้อนจัดหรือความแห้งแล้ง ทำให้ต้นทุเรียนสามารถเจริญเติบโตได้ดีแม้ในช่วงที่อากาศไม่เหมาะสม
4. เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลทุเรียน – สำหรับต้นทุเรียนที่เริ่มออกผลแล้ว การใช้ฮิวมิคและฟลูวิคช่วยในการบำรุงผลให้สมบูรณ์ ผลทุเรียนมีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักดี รสชาติหวานอร่อย และมีคุณภาพสูง
5. ลดการหลุดร่วงของผลอ่อน – การใช้ฮิวมิคและฟลูวิคสามารถช่วยลดการหลุดร่วงของผลอ่อน ช่วยให้ต้นทุเรียนสามารถพยุงผลผลิตจนถึงระยะเก็บเกี่ยวได้ดีขึ้น
6. ปรับปรุงโครงสร้างดิน – ฮิวมิคช่วยปรับโครงสร้างของดินให้ดีขึ้น ดินมีการถ่ายเทอากาศได้ดีและมีการอุ้มน้ำสูง ทำให้ต้นทุเรียนได้รับความชื้นและอากาศที่เพียงพอ ส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาของผลทุเรียน
การใช้ฮิวมิค FK และฟลูวิคอย่างต่อเนื่องจึงช่วยให้ต้นทุเรียนเล็กแข็งแรงและส่งเสริมผลผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพสูง เพิ่มผลผลิตได้ในระยะยาว
อ่าน:163
432 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 43 หน้า, หน้าที่ 44 มี 2 รายการ
|
-Page 1 of 44
-|
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
7
|
8
|
9
|
10
|
11
|
12
|
13
|
14
|
15
|
16
|
17
|
18
|
19
|
20
|
21
|
22
|
23
|
24
|
25
|
26
|
27
|
28
|
29
|
30
|
31
|
32
|
33
|
34
|
35
|
36
|
37
|
38
|
39
|
40
|
41
|
42
|
43
|
44
|
โทร
090-592-8614
ไลน์ไอดี
@FarmKaset
กลุ่มสินค้าขายดีมาก
ฮิวมิคFK ใช้ได้ทุกพืช ช่วยพืชโตไว เขียวแข็งแรง สามารถผสมปุ๋ยยาฯต่างๆ เพิ่มการดูดซับปุ๋ยยาฯได้ดีขึ้น
อัตราผสม 10กรัม (1ช้อนแกง) ต่อน้ำ 20ลิตร 1กก. ผสมน้ำได้ถึง 2000ลิตร
ขนาด 500 กรัม
ราคา : 190 บาท
ขนาด 1 กิโลกรัม
ราคา : 250 บาท
สั่งซื้อได้ที่ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
ป้องกันกำจัด เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไก่แจ้ เพลี้ย แมลงปากดูดต่างๆ และ หนอนชอนใบ โล่ปลาดาว ไทอะมีทอกแซม
อัตราผสม 10กรัม (1ช้อนแกง) ต่อน้ำ 20ลิตร 100 กรัม ผสมน้ำได้ถึง 200ลิตร
ขนาด 100 กรัม
ราคา : 69 บาท
สั่งซื้อได้ที่ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน ใช้ได้ทุกพืช สารป้องกันกำจัดโรคพืช โรคเชื้อราหลายชนิด เช่น ใบไหม้ ใบจุด ใบติด กิ่งแห้ง ราน้ำค้าง ราสนิม ไปทอปธอร่า แอนแทรคโนส กุ้งแห้ง
อัตราผสม 40กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร 1กก. ผสมน้ำได้ถึง 500ลิตร
ขนาด 1 กิโลกรัม
ราคา : 390 บาท
สั่งซื้อได้ที่ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)
เอฟเค-1
ฟื้นฟูพืช เร่งโตเร่งใบเร่งเขียว เร่งระบบราก เร่งดอก 1กล่อง (2กิโลกรัม)
ราคา : 890 บาท
สั่ง FK-1 กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
FK-3 1ชุด (2กิโลกรัม)
พืชออกผลทุกชนิด ขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก
ราคา : 950 บาท
สั่ง FK-3 กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
FK-3S 1ชุด (2กิโลกรัม)
อ้อยย่างปล้องสูง ลำโต เพิ่มค่าความหวาน CCS น้ำหนักดี
ราคา : 950 บาท
สั่ง FK-3S กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
FK-3R 1ชุด (2กิโลกรัม)
ข้าวรวงยาว เมล็ดเต็ม น้ำหนักดี
ราคา : 950 บาท
สั่ง FK-3R กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
FK-3C 1ชุด (2กิโลกรัม)
มันสำปะหลังหัวดก โต น้ำหนักดี เปอร์เซ็นต์แป้งสูง
ราคา : 950 บาท
สั่ง FK-3C กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า
โปรฯเล็กยอดฮิต ป้องกันกำจัดราต่างๆ+ฟื้นฟูบำรุง FKT 250ซีซี + ไอเอส 250ซีซี (ผสมน้ำได้ 100ลิตร)
ราคา : 499 บาท
(ปกติ 740บาท)
สั่งกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
ไอเอส {ป้องกันกำจัดโรคพืช โรคใบไหม้ โรคราต่างๆ} 1ขวด (1000ซีซี)
ราคา : 450 บาท
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
ไอเอส3ลิตร {ป้องกันกำจัดโรคพืช โรคใบไหม้ โรคราต่างๆ} แกลลอน3ลิตร
ราคา : 900 บาท
สั่งไอเอส3ลิตร กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
มาคา {ป้องกันกำจัด เพลี้ย แมลงศัตรูพืช} 1ขวด (1000ซีซี)
ราคา : 470 บาท
สั่งมาคากับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
ไอกี้-บีที {ป้องกันกำจัดหนอนต่างๆ} 1กระปุก (500กรัม)
ราคา : 490 บาท
สั่งไอกี้-บีทีกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม 1 ลิตร
ราคา : 890 บาท
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม 1ขวด (250ซีซี)
ราคา : 490 บาท
สั่งFK-T 250ซีซี กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
ไอเอส {ป้องกันกำจัดโรคพืช โรคใบไหม้ โรคราต่างๆ} 1ขวด (250ซีซี) 250บาท
สั่งไอเอสกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
โปรฯ FKT 1ลิตร + ไอเอส 1ลิตร
ราคา : 970 บาท
(ปกติ 1340บาท)
สั่งกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
โปรฯ FKT 1ลิตร + มาคา
ราคา : 980 บาท
(ปกติ 1360บาท)
สั่งกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
โปรฯ FKT 1ลิตร + ไอกี้-บีที
ราคา : 990 บาท
(ปกติ 1380บาท)
สั่งกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง
อินเวท ป้องกันกำจัดเพลี้ย ทุกชนิด ใช้ได้ทุกพืช
ราคา : 250 บาท
สั่ง อินเวท กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
เมทาแลคซิล ป้องกันกำจัดโรคพืช โรคใบไหม้ ใบจุด ราน้ำค้าง ราสนิม โรคจากเชื้อราทุกชนิด ใช้ได้ทุกพืช
ราคา : 450 บาท
สั่ง เมทาแลคซิล กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
คาร์รอน กำจัดหญ้า คุมหญ้า กำจัดวัชพืชทั้งใบแคบ และใบกว้าง
ราคา : 450 บาท
สั่ง คาร์รอน กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
แอดไลน์สั่งซื้อ
กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย
สตาร์เฟอร์ 30-20-5 เร่งต้น เร่งโตไว เร่งใบเขียว ใช้ได้กับทุกพืช
ราคา : 250 บาท
สั่งกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
แอพฯผสมสตาร์เฟอร์เป็นสูตรต่างๆตามต้องการ
สตาร์เฟอร์ 10-40-10
เร่งราก เร่งดอก ใช้ได้กับทุกพืช
ราคา : 250 บาท
สั่งกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
แอพฯผสมสตาร์เฟอร์เป็นสูตรต่างๆตามต้องการ
สตาร์เฟอร์ 15-5-30 เพิ่มผลผลิต เร่งแป้ง สร้างน้ำตาล ขยายขนาดผล ใช้ได้กับทุกพืช
ราคา : 250 บาท
สั่งกับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
แอพฯผสมสตาร์เฟอร์เป็นสูตรต่างๆตามต้องการ
แม็กซ่า สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ประกอบด้วย แมกนีเซียม ซิงค์ เร่งเขียว สร้างภูมิต้านทาน ใช้ได้ทุกพืช
ราคา : 250 บาท
สั่ง แม็กซ่า กับ |
ลาซาด้า
|
ช้อปปี้
สั่งกับ
TikTok
|
แอดไลน์สั่งซื้อ
บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.
ให้บริการตรวจวิเคราะห์
☑
ตรวจฉลากโภชนาการ
☑
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
☑
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
☑
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
☑
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
☑
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
☑
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
☑
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
☑
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
☑
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด
|
ปุ๋ยทุเรียน
|
ปุ๋ยมันสำปะหลัง
|
ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย
|
ปุ๋ยนาข้าว
|
ปุ๋ยยางพารา
|
ปุ๋ยมะพร้าว
|
ปุ๋ยข้าวโพด
|
ปุ๋ยปาล์ม
|
ปุ๋ยสับปะรด
|
ปุ๋ยถั่วเหลือง
|
ปุ๋ยพริกไทย
|
ปุ๋ยกาแฟ
|
ปุ๋ยมะนาว
|
ปุ๋ยส้ม
|
ปุ๋ยลำไย
|
ปุ๋ยลิ้นจี่
|
ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง
|
ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว
|
ปุ๋ยมังคุด
|
ปุ๋ยมันฝรั่ง
|
ปุ๋ยหอมหัวใหญ่
|
ปุ๋ยกระเทียม
|
ปุ๋ยหอมแดง
|
ปุ๋ยมะเขือเทศ
|
ปุ๋ยกล้วยไม้
|
ปุ๋ยอินทผลัม
|
ปุ๋ยน้อยหน่า
|
ปุ๋ยชมพู่
|
ปุ๋ยเงาะ
|
ปุ๋ยมะม่วง
|
ปุ๋ยมะขาม
|
ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้
|
ทุเรียนใบติด
|
มันสำปะหลังใบไหม้
|
โรคอ้อยใบไหม้
|
ข้าวใบไหม้
|
ยางพาราใบไหม้
|
โรคมะพร้าวใบไหม้
|
โรคราน้ำค้างข้าวโพด
|
ปาล์มใบไหม้
|
โรคสับปะรด
|
โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง
|
พริกไทยใบไหม้
|
โรคกาแฟใบไหม้
|
ราสนิมมะนาว
|
ส้มใบไหม้
|
ลำไยใบไหม้
|
ลิ้นจี่ใบไหม้
|
หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้
|
กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย
|
โรคใบจุดมังคุด
|
มันฝรั่งใบใหม้
|
โรคหอมเลื้อย
|
โรคใบจุดกระเทียม
|
โรคหอมแดง
|
ราแป้งมะเขือเทศ
|
โรคจุดสนิมกล้วยไม้
|
อินทผลัมใบไหม้
|
น้อยหน่าดอกร่วง
|
ชมพู่ใบไหม้
|
เงาะใบไหม้
|
มะม่วงใบไหม้
|
ราแป้งมะขาม
|
โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด
|
เพลี้ยทุเรียน
|
เพลี้ยมันสำปะหลัง
|
เพลี้ยอ้อย
|
เพลี้ยข้าว
|
เพลี้ยยางพารา
|
เพลี้ยมะพร้าว
|
เพลี้ยข้าวโพด
|
เพลี้ยปาล์มน้ำมัน
|
เพลี้ยสับปะรด
|
เพลี้ยถั่วเหลือง
|
เพลี้ยพริกไทย
|
เพลี้ยกาแฟ
|
เพลี้ยมะนาว
|
เพลี้ยส้ม
|
เพลี้ยลำไย
|
เพลี้ยลิ้นจี่
|
เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง
|
เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว
|
เพลี้ยมังคุด
|
เพลี้ยมันฝรั่ง
|
เพลี้ยหอมหัวใหญ่
|
เพลี้ยกระเทียม
|
เพลี้ยหอมแดง
|
เพลี้ยมะเขือเทศ
|
เพลี้ยกล้วยไม้
|
เพลี้ยอินทผาลัม
|
เพลี้ยน้อยหน่า
|
เพลี้ยชมพู่
|
เพลี้ยเงาะ
|
เพลี้ยมะม่วง
|
เพลี้ยมะขาม
|
เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้
|
โรคทุเรียน
|
โรคมันสำปะหลัง
|
โรคอ้อย
|
โรคข้าว
|
โรคยางพารา
|
โรคมะพร้าว
|
โรคข้าวโพด
|
โรคปาล์ม
|
โรคสับปะรด
|
โรคถั่วเหลือง
|
พริกไทยใบไหม้
|
โรคกาแฟ
|
โรคมะนาว
|
โรคส้ม
|
โรคลำไย
|
โรคลิ้นจี่
|
โรคหน่อไม้ฝรั่ง
|
โรคกระเจี๊ยบเขียว
|
โรคมังคุด
|
โรคมันฝรั่ง
|
โรคหอม
|
โรคกระเทียม
|
โรคหอมแดง
|
โรคมะเขือเทศ
|
โรคกล้วยไม้
|
โรคอินทผาลัม
|
โรคน้อยหน่า
|
โรคชมพู่
|
โรคเงาะ
|
โรคมะม่วง
|
โรคมะขาม
|
โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด
|
เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน
|
เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง
|
เพลี้ยอ้อย
|
เพลี้ยศัตรูข้าว
|
เพลี้ยแป้งยางพารา
|
เพลี้ยศัตรูมะพร้าว
|
เพลี้ยข้าวโพด
|
เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน
|
เพลี้ยแป้งสับปะรด
|
เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง
|
เพลี้ยแป้งพริกไทย
|
เพลี้ยแป้งกาแฟ
|
เพลี้ยไฟมะนาว
|
เพลี้ยไฟส้ม
|
เพลี้ยแป้งลำไย
|
เพลี้ยแป้งลิ้นจี่
|
เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง
|
เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว
|
เพลี้ยไฟมังคุด
|
เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง
|
เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่
|
เพลี้ยไฟกระเทียม
|
เพลี้ยไฟหอมแดง
|
เพลี้ยมะเขือเทศ
|
เพลี้ยไฟกล้วยไม้
|
เพลี้ยแป้งอินทผาลัม
|
เพลี้ยแป้งน้อยหน่า
|
เพลี้ยไฟชมพู่
|
เพลี้ยแป้งเงาะ
|
เพลี้ยจักจั่นมะม่วง
|
เพลี้ยมะขาม
|
เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช
|
กำจัดหนอนทุเรียน
|
กำจัดหนอนมันสำปะหลัง
|
กำจัดหนอนกออ้อย
|
กำจัดหนอนในนาข้าว
|
กำจัดหนอนในสวนยางพารา
|
กำจัดหนอนมะพร้าว
|
กำจัดหนอนข้าวโพด
|
กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน
|
กำจัดหนอนสับปะรด
|
กำจัดหนอนถั่วเหลือง
|
กำจัดหนอนพริกไทย
|
กำจัดหนอนกาแฟ
|
กำจัดหนอนมะนาว
|
กำจัดหนอนส้ม
|
กำจัดหนอนลำไย
|
กำจัดหนอนลิ้นจี่
|
กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง
|
กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว
|
กำจัดหนอนมังคุด
|
กำจัดหนอนมันฝรั่ง
|
กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่
|
กำจัดหนอนกระเทียม
|
กำจัดหนอนหอมแดง
|
กำจัดหนอนมะเขือเทศ
|
กำจัดหนอนกล้วยไม้
|
กำจัดหนอนอินทผาลัม
|
กำจัดหนอนน้อยหน่า
|
กำจัดหนอนชมพู่
|
กำจัดหนอนเงาะ
|
กำจัดหนอนมะม่วง
|
กำจัดหนอนมะขาม
|
กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025
ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ
คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย
เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
การใช้ปุ๋ยทางใบ เพื่อเสริมธาตุอาหารอย่างมีประสิทธิภาพในข้าว
Update: 2568/05/01 09:15:58 - Views: 38
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยอ่อน ในมะม่วงหิมพานต์ และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/16 14:39:24 - Views: 3512
กำจัดแมลงโรคและแมลงศัตรูพืช ในดอกกล้วยไม้ และ พืชทุกชนิด ไตรโครเร็กซ์ และ บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/01 13:39:29 - Views: 3504
เติมพลังให้ลำไยด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO: เร่งการออกดอกและเร่งรากอย่างมีประสิทธิภาพ
Update: 2567/02/12 14:04:16 - Views: 3567
มะนาวใบไหม้ ใบเหลือง ขอบใบแห้ง เพราะโรคที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ใช้ ไอเอส
Update: 2564/08/03 02:58:39 - Views: 4864
โรคเชื้อราต่างๆในแก้วมังกร โรคไหม้ ราจุดสนิม เป็นแผลจุดสีน้ำตา โรคแก้วมังกรต่างๆ ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา
Update: 2564/02/09 04:35:41 - Views: 3643
ยาแก้โรคราน้ำค้างแตงโม โรคแตงโมเถาเหี่ยว ยารักษาโรคแตงโม โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/24 03:47:43 - Views: 3673
ยาป้องกันกำจัด รักษา โรคแอนแทรคโนสในกาแฟ
Update: 2564/08/28 21:46:14 - Views: 3565
โรคราแป้ง ในเงาะ
Update: 2564/03/22 22:18:06 - Views: 3988
แม่หอบ เหมือนปู ผสมกุ้ง แต่ไม่ใช่ทั้งสอง สัตว์ดึกดำบรรพ์ 16 ล้านปี ที่พบได้ในประเทศไทย ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว
Update: 2565/08/05 17:13:37 - Views: 3874
แนวโน้มข้าวคาร์บอนต่ำ กับตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก
Update: 2568/03/18 14:17:39 - Views: 227
ยากำจัดโรคราน้ำค้าง ใน ผักกาดขาวปลี โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/02 10:18:15 - Views: 3467
กำจัดเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน พุทรา และพืช ทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2566/04/06 11:44:12 - Views: 3505
กำจัดเชื้อรา มะเขือเทศ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/01 10:54:30 - Views: 3568
มันสำปะหลัง ใบไหม้ ใบเหลือง โรคแอนแทรคโนส โรคเชื้อราต่างๆ ป้องกันและกำจัดด้วย ไอเอส และ เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเชื้อรา ด้วย FK-T
Update: 2567/03/16 14:20:23 - Views: 3725
โรคเชื้อราใน เมล่อน แคนตาลูป ยาแก้แคนตาลูปใบไหม้ ยารักษาโรคใบจุดแคนตาลูป โรคราต่างๆ ใช้ ไอเอส + FKธรรมชาตินิยม
Update: 2564/09/23 21:03:41 - Views: 3781
เตือนภัย!! สวนแตงไทย ใบไหม้ ผลเน่า โรคต้นแตกยางไหล สร้างความเสียหายได้มาก จัดการได้อย่างไร ??
Update: 2566/11/03 14:30:34 - Views: 3612
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนแมลงวันทอง ใน น้อยหน่า และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/09 12:23:38 - Views: 3517
ความรู้ด้านการเกษตร ดอกทานตะวันสีแดง
Update: 2565/11/14 13:48:43 - Views: 3563
6 บริษัทไทย ติดอันดับสุดยอด 200 บริษัท ประจำปี 2555 โดย Forbes Asia
Update: 2565/11/14 06:50:43 - Views: 3613
GA4 © FarmKaset.ORG |
สถาบันอนุญาโตตุลาการ
: 2022