“ทุเรียนไทยราคาตกเพราะอะไร?...
                    
                    
                    
                        
                            👤
                            โดย: JANE FK
                        
                        
                            📅
                            2025-10-17 12:03:38
                        
                        
                            🌐
                            125.25.182.164
                        
                     
                    
                    
                        “ทุเรียนไทยราคาตกเพราะอะไร? เจาะลึกปัญหาจริงในสวนที่เกษตรกรมองข้าม”
บทนำ
“ทุเรียน” ถูกขนานนามว่า *ราชาแห่งผลไม้ไทย* และเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้หลักให้เกษตรกรภาคตะวันออกและภาคใต้ของไทยมาหลายสิบปี แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกษตรกรจำนวนมากเริ่มเผชิญปัญหา “ราคาทุเรียนตกต่ำ” ทั้งในตลาดในประเทศและตลาดส่งออก โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกัน บทความนี้จะวิเคราะห์เชิงลึกถึง “สาเหตุแท้จริง” ที่อยู่เบื้องหลังราคาทุเรียนตก ทั้งปัจจัยภายในสวนที่เกษตรกรมักมองข้าม และปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อโครงสร้างตลาด เพื่อให้เกษตรกรสามารถวางแผนรับมือได้อย่างยั่งยืน
1. ผลผลิตล้นตลาด – ปัญหาหลักที่เกิดจาก “การปลูกซ้ำซ้อน”
จากข้อมูลของ **กรมส่งเสริมการเกษตร (2567)** พบว่า พื้นที่ปลูกทุเรียนทั่วประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 15% ต่อปี โดยเฉพาะในจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราด และนครศรีธรรมราช ทำให้ช่วงเดือนพฤษภาคม–กรกฎาคมของทุกปี ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันมากเกินความต้องการ ส่งผลให้ราคาหน้าสวนลดลงเฉลี่ย 20–40%
> 💡 *แนวทางแก้ไข:* การวางแผนกระจายช่วงเก็บเกี่ยวโดยใช้เทคนิคชะลอการออกดอก เช่น การควบคุมปริมาณน้ำ หรือการใช้ฮอร์โมนช่วยควบคุมการออกดอก จะช่วยลดการกระจุกตัวของผลผลิตในช่วงเวลาเดียวกันได้
2. คุณภาพผลผลิตไม่สม่ำเสมอ – ปัญหาที่ตลาดต่างประเทศไม่ยอมรับ
ตลาดหลักของทุเรียนไทย เช่น จีน เวียดนาม และมาเลเซีย ให้ความสำคัญกับ “ความสม่ำเสมอของคุณภาพ” โดยเฉพาะปริมาณเนื้อ ความสุก และกลิ่นหอม แต่ในความเป็นจริง ทุเรียนจากสวนต่าง ๆ ยังมีคุณภาพไม่คงที่ เนื่องจากการดูแลต้น การให้ปุ๋ย และการเก็บเกี่ยวไม่ตรงตามมาตรฐาน
> 📚 งานวิจัยของ **มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2566)** ระบุว่า สาเหตุหลักของความไม่สม่ำเสมอมาจากการใช้ปุ๋ยสูตรเดียวตลอดฤดู และการเก็บเกี่ยวก่อนผลแก่เต็มที่เพื่อรีบจำหน่าย ซึ่งกระทบต่อคุณภาพในสายตาผู้บริโภคต่างประเทศ
3. ปัญหาการใช้แรงงานและต้นทุนการผลิตสูง
ทุเรียนเป็นพืชที่ต้องใช้แรงงานฝีมือสูง ทั้งการตัดแต่ง การผสมเกสร และการเก็บเกี่ยว ปัจจุบันแรงงานเกษตรขาดแคลนและค่าแรงเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อปี ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อไร่สูงขึ้น ขณะที่ราคาหน้าสวนกลับไม่สอดคล้องกับต้นทุนจริง
4. การพึ่งพาตลาดจีนมากเกินไป
กว่า 90% ของทุเรียนไทยถูกส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งหมายความว่าหากจีนลดการนำเข้าหรือเข้มงวดมาตรการตรวจสอบ เช่น การตรวจสารตกค้าง หรือการรับรอง GAP ราคาทุเรียนในประเทศจะตกทันที
> 🔍 *กรณีศึกษา:* ในปี 2567 จีนเข้มงวดเรื่อง “การตรวจสารเคมีตกค้าง” ทำให้ทุเรียนหลายล็อตถูกชะลอการนำเข้า ราคาหน้าสวนในจันทบุรีลดลงกว่า 25% ภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์
5. ขาดการรวมกลุ่มและการบริหารจัดการหลังเก็บเกี่ยว
เกษตรกรรายย่อยจำนวนมากขายผลผลิตแยกกัน ทำให้ไม่มีอำนาจต่อรองราคา และขาดระบบคัดเกรดที่มีมาตรฐาน ขณะที่ประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม มีการรวมกลุ่มสหกรณ์ส่งออกที่เข้มแข็งและใช้ระบบคัดเกรดเดียวกันทั้งประเทศ ส่งผลให้ได้ราคาดีกว่าในตลาดจีน
6. การตลาดออนไลน์และแบรนด์ทุเรียนไทยยังไม่แข็งแรง
แม้ทุเรียนไทยจะมีชื่อเสียงระดับโลก แต่ในเชิง “แบรนด์” ยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร มีการขายผ่านพ่อค้าคนกลางเป็นหลัก ทำให้เกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์โดยตรง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเริ่มสร้างแบรนด์เฉพาะถิ่น เช่น “ทุเรียนหลงลับแล” หรือ “หมอนทองเบตง” ที่ได้รับความนิยมในตลาดพรีเมียม
7. ภาวะโลกร้อนและโรคพืชระบาด
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้ทุเรียนติดดอกไม่พร้อมกัน และมีอัตราร่วงสูงกว่าเดิม โรคที่พบมากคือ “โรครากเน่า–โคนเน่า” ซึ่งทำให้ผลผลิตเสียหายเฉลี่ย 10–15% ต่อปี
8. แนวทางฟื้นฟูราคาทุเรียนไทยอย่างยั่งยืน
* กระจายช่วงเก็บเกี่ยว ด้วยเทคนิคชะลอหรือเร่งการออกดอก
* ยกระดับมาตรฐาน GAP และ GMP ในทุกสวน
* สร้างแบรนด์ทุเรียนเฉพาะถิ่น (Local Brand)
* เพิ่มช่องทางขายออนไลน์และตลาดพรีเมียม
* ลดการพึ่งพาตลาดจีน ด้วยการขยายตลาดใหม่ เช่น เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรป
สรุป
ราคาทุเรียนไทยตกไม่ได้เกิดจาก “ตลาดโลกไม่ต้องการ” แต่เกิดจาก “โครงสร้างการผลิตและการตลาดที่ยังไม่ยั่งยืน” เกษตรกรจำเป็นต้องปรับมุมมองจาก “ปลูกแล้วขาย” เป็น “ปลูกให้ตรงตลาด” โดยอาศัยข้อมูล วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาช่วยตัดสินใจ เพื่อให้ทุเรียนไทยกลับมารุ่งอีกครั้งในตลาดโลก
เอกสารอ้างอิง
* กรมส่งเสริมการเกษตร. (2567). *รายงานสถานการณ์ทุเรียนไทยปี 2567*.
* มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2566). *การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพผลผลิตทุเรียนส่งออกของไทย*.
* กระทรวงพาณิชย์. (2567). *สถิติการส่งออกผลไม้ไทยและแนวโน้มตลาดจีน*.
* FAO. (2024). *Global Durian Market Report*.
#ทุเรียนไทยราคาตก #ราคาทุเรียน2568 #ปัญหาทุเรียนล้นตลาด #ทุเรียนส่งออกจีน #เกษตรกรไทยต้องรู้ #ราคาทุเรียนวันนี้ #เทคนิคปลูกทุเรียนให้ได้ราคา #ตลาดทุเรียนโลก #ทุเรียนคุณภาพดี #DurianThailand
                    
                    
                    
	
                        