ใบเหลืองไม่ใช่ขาดปุ๋ยเสมอไป การแยก “คลอโรซิสจากธาตุอาหาร”...

ใบเหลืองไม่ใช่ขาดปุ๋ยเสมอไป การแยก “คลอโรซิสจากธาตุอาหาร” vs “คลอโรซิสจากแสง” ในพืช

ในภาคเกษตร เรามักเชื่อว่า “ใบเหลือง” = “พืชขาดปุ๋ย” แต่ในทางสรีรวิทยาพืช ใบเหลืองอาจไม่ได้เกิดจากการขาดธาตุอาหารเสมอไป บางครั้งเกิดจาก **แสงไม่เพียงพอ** หรือพืชไม่สามารถใช้พลังงานแสงเพื่อสร้างคลอโรฟิลล์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเรียกว่า **คลอโรซิสจากแสง (Light-induced chlorosis)**
ดังนั้น การแก้ปัญหาจึงต้องเริ่มจาก “วิเคราะห์สาเหตุ” ไม่ใช่ “เพิ่มปุ๋ยทุกครั้งที่เห็นใบเหลือง”

---

**1) คลอโรซิสจากการขาดธาตุอาหาร (Nutrient Deficiency Chlorosis)**

ลักษณะสังเกต
– ใบเหลืองแบบมีลักษณะเฉพาะตามชนิดธาตุที่ขาด
– รูปแบบการเหลืองจะมี “ตำแหน่งจำเพาะ”
– ส่วนใหญ่เกิดแม้แสงเพียงพอ
– ถ้าแก้ด้วยการให้ธาตุอาหารที่ถูกต้อง อาการมักดีขึ้น

ตัวอย่างอาการ
ไนโตรเจน
– เหลืองทั้งใบ โดยเฉพาะใบแก่ก่อน เพราะ N เคลื่อนย้ายได้
แมกนีเซียม
– เหลืองระหว่างเส้นใบ ใบยังเห็นเส้นเขียวชัด โดยเริ่มที่ใบแก่
เหล็ก (Fe)
– เหลืองที่ใบอ่อนก่อน เพราะ Fe เคลื่อนย้ายได้น้อย
สังกะสี (Zn)
– ใบเล็ก กิ่งสั้น ขอบใบผิดรูป ร่วมกับใบเหลืองบางส่วน

แกนสำคัญของอาการกลุ่มนี้คือ
**ระบบราก “ดูดได้” แต่ธาตุอาหาร “ไม่พอ” หรือ “เคลื่อนย้ายภายในต้นผิดสมดุล”**

---

**2) คลอโรซิสจากแสง (Light or Shade-induced Chlorosis)**

เกิดขึ้นเมื่อ

* พืชได้รับแสงน้อยกว่าปริมาณแสงชดเชย (light compensation point)
* ยอดถูกบังในเรือนปลูกที่แน่น
* อากาศเย็น หรือมีเมฆมากนานหลายวัน ทำให้อัตราการสังเคราะห์แสงลดลง
* หรือมีการเจริญทางกิ่งมากจนใบซ้อน ใบชั้นล่างขาดแสงเรื้อรัง

ลักษณะสังเกต
– เหลืองแบบ “จางทั่วใบ” ไม่ได้มีลวดลายจำเพาะ
– ใบไม่เหี่ยว แต่บางลง
– เส้นใบไม่เขียวเด่นเหมือนกรณีขาด Mg หรือ Fe
– ใกล้ยอดและใบอ่อนมักได้รับผลชัด

แก่นสำคัญของกลุ่มนี้คือ
**พืช “มีปุ๋ยเพียงพอ” แต่ “สร้างคลอโรฟิลล์ไม่ได้เต็มที่” เพราะพลังงานแสงไม่ถึง**

---

**วิธีแยกความต่างแบบภาคสนามง่ายๆ**

ถามตัวเอง 3 ข้อ

1. จุดที่เหลืองเริ่มจากใบแก่ หรือใบอ่อนก่อน?
– ถ้าใบแก่ → มักเป็น N หรือ Mg
– ถ้าใบอ่อน → มักเป็น Fe หรือ Zn

2. เหลืองมี “ลายระหว่างเส้นใบ” หรือเหลืองเรียบทั้งใบ?
– มีลายแยกเส้นใบชัด → ขาดธาตุ
– เหลืองจางเรียบ → อาจเป็นปัญหาแสง

3. แปลงมีร่มเงา ใบซ้อน หรือช่วงนั้นเมฆมากหลายวันหรือไม่?
– ถ้าใช่ → แสงต่ำ คือ ตัวต้องสงสัยอันดับแรก

สำคัญมาก
**หากจ่ายปุ๋ยเพิ่มตอนเป็นคลอโรซิสจากแสง → ไม่หาย และอาจยิ่งทำให้พืชแตกยอดอ่อนเพิ่ม → ใบยิ่งบาง และยิ่งเหลือง**

---

**แนวทางแก้ไขที่ตรงกับสาเหตุ**

กรณีขาดธาตุ
– เติมธาตุอาหารเฉพาะให้ถูกตัวและถูกอัตรา
– เน้นปรับ pH ดินให้อยู่ในช่วงที่ธาตุถูกดูดได้ (5.5–6.5 สำหรับพืชสวนส่วนใหญ่)
– พิจารณาโครงสร้างดินและอินทรียวัตถุ

กรณีแสงไม่พอ
– เปิดทรงพุ่ม ลดความหนาแน่นของใบ
– เว้นระยะปลูกให้ไม่บังแสงกันเอง
– หลีกเลี่ยงการเร่งแตกใบในฤดูแสงอ่อน (ปลายฝน–ต้นหนาว)

---

**อ้างอิง**

Taiz L, Zeiger E. (2010). *Plant Physiology.* Sinauer Associates.
Marschner P. (2012). *Marschner’s Mineral Nutrition of Higher Plants.* Academic Press.
Raven JA, Beardall J, Sánchez-Baracaldo P. (2017). *The evolution of chlorophyll synthesis pathways.* Journal of Experimental Botany.

---

#ใบเหลือง #ธาตุอาหารพืช #คลอโรซิส #สังเคราะห์แสง #ปรับปรุงดิน #วิชาการเกษตร #เกษตรกรไทย #ปลูกพืชให้ได้ผล
รูปภาพประกอบ
🌟 แนะนำ ปุ๋ย ยาปราบฯ คุณภาพดี
ผลผลิตเพิ่ม ราคาประหยัด! คลิกเลย!
← กลับหน้าบทความ
👁️ ผู้เยี่ยมชมทั้งหมด: 269601