พืชเศรษฐกิจใหม่ปี 2568: “ถั่วลิสงไทย” กำลังกลับมาฮิตอีกครั้ง

🔍 บทนำ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการเกษตรไทยเริ่มหันกลับมาสนใจ “**ถั่วลิสงไทย (Thai Peanut)**” อีกครั้ง หลังจากที่เคยถูกมองว่าเป็นพืชรองในระบบเศรษฐกิจการเกษตร แต่ในปี **พ.ศ. 2568** กระแสของ **พืชโปรตีนพลังงานสูงและวัตถุดิบแปรรูปสุขภาพ** ทำให้ถั่วลิสงกลับมาเป็นดาวรุ่งอีกครั้ง ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ต้นทุนการผลิตต่ำ และมีตลาดปลายทางที่กว้าง ทั้งตลาดบริโภคภายในประเทศและตลาดส่งออก โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และอินเดียที่ต้องการถั่วลิสงคุณภาพสูงจากไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (กรมส่งเสริมการเกษตร, 2567)

🌱 ศักยภาพทางเศรษฐกิจของถั่วลิสงไทย

ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก., 2567) ระบุว่า พื้นที่ปลูกถั่วลิสงในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า **12%** เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น จังหวัดเชียงใหม่ แพร่ เพชรบูรณ์ และชัยภูมิ ซึ่งมีสภาพดินร่วนปนทรายเหมาะกับการปลูกถั่วลิสงมากที่สุด

ราคาถั่วลิสงแห้งเกรดส่งออกในปี 2568 มีแนวโน้มอยู่ที่ **35–42 บาท/กิโลกรัม** สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 18% ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดแปรรูป เช่น ถั่วอบเกลือ น้ำมันถั่วลิสง และผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช (Plant-based Protein) ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคสายสุขภาพ

🧬 คุณค่าทางโภชนาการและงานวิจัยที่สนับสนุน

ถั่วลิสงเป็นพืชตระกูลถั่วที่ให้โปรตีนสูง (มากกว่า 25%) และมีไขมันชนิดดี (Unsaturated Fatty Acids) โดยเฉพาะกรดโอเลอิก ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด งานวิจัยจาก **มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (Kasetsart University, 2566)** พบว่า

> “การบริโภคถั่วลิสงวันละ 30 กรัม สามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ถึง 14% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้บริโภคถั่วเปลือกแข็ง”

นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น **เรสเวอราทรอล (Resveratrol)** ที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์และเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ถั่วลิสงถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารเสริมและ Functional Food มากขึ้น

🧩 โอกาสในตลาดแปรรูปและส่งออก

อุตสาหกรรมแปรรูปถั่วลิสงไทยเริ่มพัฒนาไปในหลายทิศทาง เช่น

* ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ: ถั่วอบไร้น้ำมัน ถั่วลิสงบดออร์แกนิก
* อุตสาหกรรมโปรตีนทางเลือก: แปรรูปเป็นแป้งถั่วลิสงและโปรตีนผง (Peanut Protein Powder)
* ตลาดต่างประเทศ: ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต้องการถั่วลิสงไทยพันธุ์เปลือกบางคุณภาพสูง เช่น พันธุ์ขอนแก่น 60 และพันธุ์เชียงใหม่ 60

จากรายงานของ **กรมการค้าต่างประเทศ (2567)** ไทยส่งออกถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์แปรรูปกว่า **12,000 ตันต่อปี** มูลค่ากว่า **800 ล้านบาท** โดยตลาดหลักอยู่ในเอเชียตะวันออกและตะวันออกกลาง

🧑‍🌾 แนวโน้มการผลิตและนวัตกรรมใหม่ในปี 2568

เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้เข้ามาช่วยให้เกษตรกรปลูกถั่วลิสงได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น

* ระบบให้น้ำหยดอัจฉริยะ (Smart Drip Irrigation)
* โดรนพ่นปุ๋ยและสารชีวภัณฑ์ควบคุมโรคแมลง
* พันธุ์ถั่วลิสงทนแล้ง ทนโรคไวรัสใบด่าง พัฒนาโดยกรมวิชาการเกษตร

เกษตรกรรุ่นใหม่เริ่มรวมกลุ่มจัดตั้ง “วิสาหกิจชุมชนถั่วลิสงไทย” เพื่อแปรรูปและขายตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพิ่มมูลค่าผลผลิตได้มากกว่า 40% เมื่อเทียบกับการขายแบบดิบ

📊 สรุปและข้อเสนอเชิงนโยบาย

ถั่วลิสงไทยไม่เพียงแต่เป็นพืชที่สร้างรายได้ระยะสั้น แต่ยังเป็น **“พืชยุทธศาสตร์ใหม่”** ที่สามารถเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอาหารสุขภาพ พลังงานชีวภาพ และตลาดส่งออกได้ หากภาครัฐสนับสนุนในด้านพันธุ์ดี การตลาด และเทคโนโลยีการแปรรูปอย่างต่อเนื่อง ไทยมีศักยภาพที่จะเป็น **ศูนย์กลางการผลิตถั่วลิสงคุณภาพของอาเซียน** ได้ในไม่ช้า

🔖 เอกสารอ้างอิง (References)

1. กรมส่งเสริมการเกษตร. (2567). *รายงานสถานการณ์พืชเศรษฐกิจปี 2567*. กรุงเทพฯ: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.
2. สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.). (2567). *แนวโน้มการผลิตและการตลาดพืชเศรษฐกิจของไทย ปี 2568.*
3. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2566). *ผลของการบริโภคถั่วลิสงต่อสุขภาพและการลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs).*
4. กรมการค้าต่างประเทศ. (2567). *สถิติการส่งออกสินค้ากลุ่มถั่วและผลิตภัณฑ์แปรรูป ปี 2567.*

#ถั่วลิสงไทย #พืชเศรษฐกิจใหม่2568 #ปลูกถั่วลิสงสร้างรายได้ #ตลาดถั่วลิสง #เกษตรกรไทยยุคใหม่ #พืชโปรตีนเพื่อสุขภาพ #แปรรูปถั่วลิสง #แนวโน้มเกษตร2568 #ThaiPeanut #เกษตรทำเงิน