[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - มันสำปะหลัง
177 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 17 หน้า, หน้าที่ 18 มี 7 รายการ

การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังด้วยปุ๋ยเคมีอินทรีย์: ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10 เปอร์เซ็นต์ อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส)
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังด้วยปุ๋ยเคมีอินทรีย์: ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10 เปอร์เซ็นต์ อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส)
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังด้วยปุ๋ยเคมีอินทรีย์: ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10 เปอร์เซ็นต์ อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส)
มันสำปะหลังเป็นพืชหลักในหลายส่วนของโลก และเกษตรกรพึ่งพาผลผลิตที่ดีเพื่อตอบสนองความต้องการแหล่งอาหารที่สำคัญนี้ การเลือกปุ๋ยที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในด้านสุขภาพและผลผลิตของต้นมันสำปะหลัง ในบทความนี้ เราจะมาทบทวนประโยชน์ของการใช้อินทรียวัตถุ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10% อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส) เป็นปุ๋ยสำหรับมันสำปะหลังที่ปลูกในสภาพดินทราย

ข้อดีหลักประการหนึ่งของการใช้ปุ๋ยเคมีคือสามารถให้สารอาหารเฉพาะที่เข้มข้นและเชื่อถือได้ซึ่งพืชต้องการสำหรับการเจริญเติบโต เพอร์เฟค เอส สูตร 16-3-3 มีอัตราส่วนที่สมดุลของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาพืชให้แข็งแรง การเพิ่มอินทรียวัตถุ 10% ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินและความพร้อมของธาตุอาหาร ทำให้พืชเข้าถึงธาตุอาหารที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

ดินทรายอาจเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับพืช เนื่องจากดินมีแนวโน้มที่จะมีสารอาหารต่ำและความสามารถในการกักเก็บความชื้น เมื่อใช้ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10% อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส) เกษตรกรจะมั่นใจได้ว่าต้นมันสำปะหลังได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต แม้ในสภาพดินที่ท้าทาย สารอินทรีย์ในปุ๋ยยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้สามารถกักเก็บน้ำและพัฒนารากได้ดีขึ้น

สรุปได้ว่า ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรา นกอินทรีคู่ สูตร 16-3-3 บวก 10% อินทรียวัตถุ (เพอร์เฟค เอส) เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตสูงสุดให้กับต้นมันสำปะหลังที่ปลูกในสภาพดินทราย สูตรสารอาหารที่สมดุลและการเติมอินทรียวัตถุสามารถช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินและความพร้อมของสารอาหาร ซึ่งนำไปสู่พืชที่มีสุขภาพดีและให้ผลผลิตมากขึ้น

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
อ่าน:2994
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้สูงสุดด้วย ปุ๋ยเม็ดอะมิโน วันเดอร์เขียว
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้สูงสุดด้วย ปุ๋ยเม็ดอะมิโน วันเดอร์เขียว
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้สูงสุดด้วย ปุ๋ยเม็ดอะมิโน วันเดอร์เขียว
การทำไร่มันสำปะหลังสามารถทำกำไรได้และยั่งยืน แต่ก็เหมือนกับพืชผลอื่นๆ ต้องมีการดูแลและการจัดการที่เหมาะสมจึงจะเจริญเติบโตได้ สิ่งสำคัญประการหนึ่งของการผลิตมันสำปะหลังคือการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม และการใช้ปุ๋ยให้ถูกประเภทสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในสุขภาพและผลผลิตของพืชของคุณ

ทางเลือกหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีสำหรับชาวไร่มันสำปะหลังจำนวนมากคือปุ๋ยเม็ดอะมิโน วันเดอร์เขียว ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครนี้ผลิตขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี 3T ซึ่งประกอบด้วยสามชั้น: ชั้นจุลินทรีย์ประสิทธิภาพสูง (T1) ชั้นสารอาหารที่ปลดปล่อยอย่างรวดเร็ว (T2) และชั้นสารอาหารที่ปลดปล่อยช้า (T3)

ประโยชน์หลักประการหนึ่งของวันเดอร์กรีนคือความสามารถในการปรับสมดุลของธาตุอาหารในดิน นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับมันสำปะหลัง ซึ่งต้องการสารอาหารในระดับเฉพาะ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เพื่อให้เติบโตอย่างเหมาะสม สารสกัดอะมิโนชนิดเม็ด วันเดอร์เขียว ประกอบด้วยกรดอะมิโนมากกว่า 18 ชนิด ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ในดินและปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของดิน

นอกจากการปรับสมดุลธาตุอาหารแล้ว ปุ๋ยเม็ดอะมิโน วันเดอร์เขียว ยังช่วยให้พืชทนต่อสภาวะแห้งแล้งได้ดีขึ้นอีกด้วย สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับชาวไร่มันสำปะหลังในภูมิภาคที่มีน้ำจำกัด

ปุ๋ยเม็ดอะมิโน วันเดอร์เขียว ยังสามารถช่วยให้ต้นมันสำปะหลังเติบโตอย่างแข็งแรง แตกหน่อจำนวนมากและใบสีเขียวเข้ม สิ่งนี้ไม่เพียงดูสวยงาม แต่ยังสามารถปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและผลผลิตของพืชอีกด้วย

โดยรวมแล้ว การใช้ปุ๋ยเม็ดอะมิโน วันเดอร์เขียว เป็นรองพื้นก่อนปลูกสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพและผลผลิตของมันสำปะหลังของคุณได้ เทคโนโลยี 3T อันเป็นเอกลักษณ์และสารสกัดจากอะมิโนชนิดเม็ดทำงานร่วมกันเพื่อปรับสมดุลของสารอาหารในดิน ทนต่อสภาวะแห้งแล้ง และช่วยให้พืชเติบโตแข็งแรงและให้ผลผลิตจำนวนมาก หากคุณต้องการเพิ่มศักยภาพของฟาร์มมันสำปะหลังของคุณ ให้ลองใช้ ปุ๋ยเม็ดอะมิโน วันเดอร์เขียว ดู

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
อ่าน:3036
เพิ่มผลผลิตสูงสุดด้วยปุ๋ย วันเดอร์ส้ม
เพิ่มผลผลิตสูงสุดด้วยปุ๋ย วันเดอร์ส้ม
ปุ๋ยวันเดอร์ส้ม คือการปฏิวัติเทคโนโลยี 3T ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับพืชหลากหลายชนิด รวมถึงยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย นาข้าว และพืชผล สูตรเฉพาะประกอบด้วยเม็ดปุ๋ยสามชั้นที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้สารอาหารแก่พืชอย่างสมดุลและยั่งยืน

ชั้นแรกเรียกว่า T1 เป็นชั้นจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งมีแบคทีเรียและเชื้อราที่มีประโยชน์หลากหลายชนิด จุลินทรีย์เหล่านี้ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ ทำให้พืชเข้าถึงสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ T1 ยังช่วยยับยั้งโรคที่มากับดินและปรับปรุงโครงสร้างของดิน ช่วยให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิตมากขึ้น

ชั้นที่ 2 T2 เป็นชั้นที่ปลดปล่อยสารอาหารที่มีกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อพืช 18 ชนิด สารอาหารเหล่านี้พร้อมสำหรับพืช ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพวกมันในทันที

ชั้นที่สาม T3 เป็นสารอาหารที่ปลดปล่อยอย่างช้าๆ ซึ่งให้ปริมาณสารอาหารที่ยั่งยืนในระยะเวลาที่นานขึ้น สิ่งนี้ช่วยป้องกันการขาดสารอาหารและรักษาสภาวะการเจริญเติบโตที่เหมาะสมสำหรับพืช

โดยรวมแล้ว ปุ๋ยวันเดอร์ส้ม เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเกษตรกรและชาวสวนที่ต้องการเพิ่มผลผลิตสูงสุดและปรับปรุงสุขภาพของพืช การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของจุลินทรีย์ กรดอะมิโน และสารอาหารที่ปลดปล่อยออกมาอย่างช้าๆ ทำให้ได้รับสารอาหารที่สมดุลและยั่งยืน ช่วยให้พืชเติบโตและเข้าถึงศักยภาพสูงสุด

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
อ่าน:3142
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคใบไหม้ แอนแทรคโนส ในมันสำปะหลัง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคใบไหม้ แอนแทรคโนส ในมันสำปะหลัง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
โรคใบไหม้และโรคแอนแทรคโนสเป็นโรคที่พบบ่อย 2 โรคที่สามารถส่งผลกระทบต่อพืชมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและรายได้ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรจำนวนมากในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนทั่วโลก

โรคใบไหม้เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans ซึ่งสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในไร่มันสำปะหลังและทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก เชื้อราจะทำลายใบ ลำต้น และหัวของมันสำปะหลัง ทำให้เกิดรอยโรคที่มีน้ำขังจนดำคล้ำและเหี่ยวเฉาในที่สุด การทำลายในช่วงปลายอาจทำให้พืชเหี่ยวและตายได้

เพื่อควบคุมโรคใบไหม้ เกษตรกรสามารถใช้มันสำปะหลังพันธุ์ต้านทาน ปลูกพืชหมุนเวียน และใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดและทำลายวัสดุจากพืชที่ติดเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อรา

โรคแอนแทรกโนสเกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides ซึ่งสามารถโจมตีใบ ลำต้น และหัวของมันสำปะหลังได้เช่นกัน อาการของโรคแอนแทรคโนส ได้แก่ รอยโรคเล็กๆ สีน้ำตาลเข้มหรือสีดำบนใบ ลำต้น และหัว รวมถึงใบร่วงและตายก่อนเวลาอันควรของพืช

ในการควบคุมโรคแอนแทรคโนส เกษตรกรสามารถใช้มันสำปะหลังพันธุ์ต้านทาน ปลูกพืชหมุนเวียน และใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการให้น้ำเหนือศีรษะ ซึ่งสามารถแพร่กระจายเชื้อราได้ และปฏิบัติสุขอนามัยที่ดีโดยการกำจัดและทำลายวัสดุปลูกที่ติดเชื้อ

ทั้งโรคใบไหม้และโรคแอนแทรคโนสสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อผลผลิตมันสำปะหลัง แต่ด้วยการจัดการและมาตรการควบคุมที่เหมาะสม เกษตรกรสามารถช่วยปกป้องพืชผลของตนและลดการสูญเสียผลผลิตได้

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคราเน่า โคนเน่า ในมันสำปะหลัง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคราเน่า โคนเน่า ในมันสำปะหลัง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
โรครากเน่าเป็นโรคทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อพืชหลายชนิด รวมทั้งมันสำปะหลัง (Manihot esculenta) โรคนี้เกิดจากเชื้อราที่เข้าทำลายรากพืช ทำให้เนื้อเยื่อรากเสื่อมสภาพและตาย

อาการของโรครากเน่าในมันสำปะหลัง ได้แก่ ใบเหลืองและเหี่ยว การเจริญเติบโตของพืชลดลง และจุดเล็กๆ สีดำหรือสีน้ำตาลบนราก เมื่อโรคดำเนินไป รากอาจอ่อน เปลี่ยนสี และเน่าไปในที่สุด

การป้องกันและควบคุมโรครากเน่าโคนเน่าในมันสำปะหลังมีหลายวิธี มาตรการที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือการหลีกเลี่ยงการปลูกในดินที่มีน้ำขังได้ง่าย เนื่องจากความชื้นที่มากเกินไปอาจทำให้รากเน่าได้ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดีและหลีกเลี่ยงเครื่องมือที่ปนเปื้อน เนื่องจากเชื้อราที่ทำให้รากเน่าสามารถแพร่กระจายผ่านทางดินและน้ำได้

นอกจากนี้การใช้มันสำปะหลังพันธุ์ต้านทานและการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันโรครากเน่าได้ หากเกิดโรคขึ้นก็สามารถรักษาได้ด้วยสารฆ่าเชื้อรา อย่างไรก็ตาม สารเคมีเหล่านี้อาจไม่ได้ผลในการควบคุมระยะลุกลามของโรค ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องจับและรักษารากเน่าให้เร็วที่สุด

โดยรวมแล้วโรครากเน่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อผลผลิตมันสำปะหลังและสามารถลดผลผลิตพืชได้อย่างมาก การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมที่เหมาะสม จะสามารถจัดการกับโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปกป้องสุขภาพของต้นมันสำปะหลังของคุณ

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง



สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน
ปุ๋ยมันสำปะหลัง FK-1 และ FK-3C ส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?
ปุ๋ยมันสำปะหลัง FK-1 และ FK-3C ส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?
ปุ๋ยมันสำปะหลัง FK-1 และ FK-3C ส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?
เพื่อให้มันสำปะหลังเจริญเติบโตและให้ผลผลิตสูง จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยด้วยธาตุอาหารที่เหมาะสม ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม (NPK) เป็นสารอาหารที่จำเป็น 3 ชนิดที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของมันสำปะหลัง

ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช เนื่องจากเป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นสารสีที่ทำให้พืชมีสีเขียวและช่วยให้เปลี่ยนแสงแดดเป็นพลังงานผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง ไนโตรเจนยังมีส่วนร่วมในการสังเคราะห์กรดอะมิโนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโปรตีน หากไม่มีไนโตรเจนเพียงพอ ต้นมันสำปะหลังจะแคระแกร็นและใบเหลือง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตโดยรวมของพืชลดลง

ฟอสฟอรัสเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์แสงและการผลิตพลังงาน นอกจากนี้ยังช่วยให้พืชพัฒนารากและลำต้นที่แข็งแรง และมีส่วนร่วมในการสังเคราะห์ DNA และ RNA การขาดธาตุฟอสฟอรัสจะทำให้ต้นมันสำปะหลังเติบโตช้าและให้ผลผลิตลดลง

โพแทสเซียมเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับพืช เนื่องจากช่วยควบคุมการดูดซึมและการใช้สารอาหารอื่นๆ เช่น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส มันยังมีส่วนร่วมในการสังเคราะห์โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และช่วยควบคุมปริมาณน้ำของพืช การขาดโพแทสเซียมจะทำให้ใบของมันสำปะหลังเป็นสีเหลืองและกลายเป็นเนื้อตาย ทำให้ผลผลิตลดลง

โดยสรุปแล้ว ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นมันสำปะหลัง สารอาหารเหล่านี้ในระดับที่เพียงพอสามารถช่วยให้ต้นมันสำปะหลังเติบโตแข็งแรงและสมบูรณ์แข็งแรง และเพิ่มผลผลิตโดยรวมของพืชผลได้ การใช้ปุ๋ยที่มี NPK สมดุล เกษตรกรสามารถมั่นใจได้ว่าต้นมันสำปะหลังได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต

แมกนีเซียมและสังกะสี ที่มีบทบาทสำคัญ ต่อมันสำปะหลังเช่นกัน

มันสำปะหลังมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ และปัจจุบันปลูกในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนหลายแห่ง รวมถึงแอฟริกา เอเชีย และแคริบเบียน มันสำปะหลังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญเพราะทนแล้งและให้ผลผลิตสูง

ประโยชน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของแมกนีเซียมและสังกะสี ที่มีต่อมันสำปะหลังคือความสามารถในการปรับปรุงการเจริญเติบโต และพัฒนาการของพืช แมกนีเซียมเป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นสารสีที่ช่วยให้พืชเปลี่ยนแสงแดดเป็นพลังงานผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งหมายความว่าแมกนีเซียมมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่เหมาะสมของต้นมันสำปะหลัง ในทางกลับกัน สังกะสีมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์เอนไซม์และฮอร์โมน ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช

ประโยชน์อีกประการของแมกนีเซียมและสังกะสีที่มีต่อมันสำปะหลัง คือความสามารถในการปรับปรุงความต้านทานของพืชต่อศัตรูพืชและโรค แมกนีเซียมและสังกะสีมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยปกป้องต้นมันสำปะหลังจากการทำลายของศัตรูพืช และโรคต่างๆ สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและผลผลิตของพืช

นอกจากประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นมันสำปะหลังแล้ว แมกนีเซียมและสังกะสียังมีประโยชน์ต่อคุณภาพของหัวมันสำปะหลังอีกด้วย แมกนีเซียมและสังกะสีเป็นที่รู้จักกันในการปรับปรุงคุณค่าทางโภชนาการของหัวมันสำปะหลังโดยการเพิ่มปริมาณโปรตีนและไฟเบอร์ สิ่งนี้สามารถทำให้มันสำปะหลังเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นสำหรับผู้คนนับล้านที่พึ่งพามันเป็นอาหารหลัก

โดยสรุปแล้ว แมกนีเซียมและสังกะสีเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายสำหรับทั้งมนุษย์และพืช สำหรับมันสำปะหลัง แมกนีเซียมและสังกะสีสามารถปรับปรุงการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตของพืช เพิ่มความต้านทานต่อศัตรูพืชและโรค และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของรากของมัน ประโยชน์เหล่านี้ทำให้แมกนีเซียมและสังกะสีเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังและสำหรับผู้คนนับล้านที่อาศัยพืชชนิดนี้เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญ
อ่าน:3019
ขั้นตอนการให้ปุ๋ยมันสำปะหลัง ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการฉีดพ่นปุ๋ย FK คุณภาพสูง ในเวลาที่เหมาะสม
ขั้นตอนการให้ปุ๋ยมันสำปะหลัง ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการฉีดพ่นปุ๋ย FK คุณภาพสูง ในเวลาที่เหมาะสม
ขั้นตอนการให้ปุ๋ยมันสำปะหลัง ให้ได้ผลผลิตดี ด้วยการฉีดพ่นปุ๋ย FK คุณภาพสูง ในเวลาที่เหมาะสม
มันสำปะหลังต้องการธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการสร้างหัว สร้างแป้ง ใช้ปุ๋ย FK-1 ให้ถูกสูตร ในอัตราส่วนผสมที่ถูกต้อง ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ต้นมันสำปะหลังเติบโตสมบูรณ์ โดยแนะน้ำให้ใช้ปุ๋ย FK-1 และ ปุ๋ย FK-3C ฉีดพ่นดังนี้

ระยะแรกปลูกจนถึงมันสำปะหลังอายุไม่เกิน 3 เดือน หากมีการใช้ปุ๋ยเคมีแบบเม็ดเพื่อเร่งการเจริญเติบโตแล้วในระยะนี้ ฉีดพ่น ปุ๋ยทางใบ FK-1 หนึ่งครั้ง ในช่วงมันสำปะหลังอายุ 2-3 เดือน กรณีไม่ได้ใช้ปุ๋ยเม็ดเลย ให้ฉีดพ่น FK-1 เดือนละหนึ่งครั้งต่อเดือน ในเดือนที่ 1 เดือนที่ 2 และเดือนที่ 3

ระยะมันสำปะหลังลงหัวสะสมอาหาร มีอายุ 4 เดือนขึ้นไป หากมีการใช้ปุ๋ยเม็ดสูตรเร่งหัว (สูตรที่มีโพแตสเซียมสูง เช่น 13-13-21 หรือ 0-0-60) ให้ฉีดพ่น ปุ๋ยทางใบ FK-3C ที่เป็นสูตรสำหรับเร่งหัว เพิ่มเปอร์เซ็นต์แป้งในมันสำปะหลัง 1 ครั้ง ในช่วงเดือนที่ 4-6 ช่วงเดือนใดก็ได้ สำหรับกรณีที่ไม่ได้ใช้ปุ๋ยเม็ดเพื่อบำรุงหัวมันสำปะหลังเลย ให้ฉีดพ่น FK-3C ปุ๋ยเร่งหัวมันสำปะหลัง เพิ่มเปอร์เซ็นแป้ง ในเดือนที่ 4 หนึ่งครั้ง เดือนที่ 5 หนึ่งครั้ง และเดือนที่ 6 อีกหนึ่งครั้ง เพื่อช่วนส่งเสริมกระบวนการสะสมแป้งและน้ำตาล มันสำปะหลังจะมีหัวใหญ่ น้ำหนักดี มีเปอร์เซ็นต์แป้งสูง
อ่าน:3029
ปุ๋ยน้ำ สำหรับ มันสำปะหลัง FK-1 ประสิทธิภาพสูง มันสำปะหลังโตไว ใบเขียว แข็งแรง ต้านทานต่อโรค
ปุ๋ยน้ำ สำหรับ มันสำปะหลัง FK-1 ประสิทธิภาพสูง มันสำปะหลังโตไว ใบเขียว แข็งแรง ต้านทานต่อโรค
ปุ๋ยน้ำ สำหรับ มันสำปะหลัง FK-1 ประสิทธิภาพสูง มันสำปะหลังโตไว ใบเขียว แข็งแรง ต้านทานต่อโรค
ปุ๋ยน้ำ FK-1 ให้ธาตุอาหารพืชครบถ้วน เต็มที่ตามที่มันสำปะหลังต้องการใช้ ในระยะส่งเสริมการเจริญเติบโต แตกยอดเขียว ทรงพุ่มหนา โตไว มีความสมบูรณ์แข็งแรง ประกอบด้วย ไนโตรเจน ที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต ฟอสฟอรัส ช่วยเสริมสร้างระบบรากให้แข็งแรง หาอาหารได้ดีขึ้น และโพแตสเซียม ที่ส่งเสริมผลผลิต ราคา 890 บาท ใช้ได้ในพื้นที่ 5 ไร่
อ่าน:3008
พืชเศรษฐกิจ สินค้าสร้างรายได้ในครัวเรือนและประเทศ
พืชเศรษฐกิจ สินค้าสร้างรายได้ในครัวเรือนและประเทศ
พืชเศรษฐกิจ สินค้าสร้างรายได้ในครัวเรือนและประเทศ
ด้วยพื้นที่ของประเทศไทยมีความเหมาะสมในด้านการเกษตรจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า พืช คือสิ่งที่ทำให้คนไทยมีอาหารเลี้ยงปากท้องและยังสร้างรายได้กับครัวเรือน ต่อยอดไปจนถึงการสร้างรายได้ให้ประเทศจนกลายเป็น พืชเศรษฐกิจ ที่เกษตรกรจำนวนมากยึดถือเป็นอาชีพ จึงอยากนำเสนอให้กับผู้ที่สนใจหรือคนที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อโอกาสในการสร้างประโยชน์ต่อตัวเองและประเทศชาติต่อไปในอนาคต

มารู้จักกับพืชเศรษฐกิจของไทย
อย่างที่กล่าวไปว่าพืชถือเป็นปัจจัยสำคัญในการหล่อเลี้ยงชีวิตให้กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งไม่ใช่แค่การบริโภคเท่านั้น แต่เมื่อปลูกในปริมาณมากขึ้นก็ย่อมสร้างรายได้ให้กับเกษตรมากตามไปด้วย ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันมีพืชเศรษฐกิจที่ส่งเสริมอาชีพ ทำเงินให้กับคนในประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ไม่ใช่หมายถึงการส่งออกพืชเหล่านั้นแบบสด ๆ เพียงอย่างเดียว แต่หลายชนิดยังถูกนำมาแปรรูปเพื่อสร้างประโยชน์และเม็ดเงินได้อีกมากมาย

พืชเศรษฐกิจเหล่านี้ไม่ใช่แค่การบริโภคของคนเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการถูกนำไปเลี้ยงสัตว์และทำประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดด้วย นี่คือความโชคดีของประเทศไทยด้วยพื้นที่และสภาพอากาศเหมาะสมจึงสามารถปลูกพืชต่าง ๆ ได้หลากหลายชนิดในแบบที่หลายประเทศไม่เคยทำได้ แหล่งรายได้หลักจึงมักมาจากประเทศพัฒนาแล้วแต่ขาดแคลนด้านการผลิตจึงต้องอาศัยการนำเข้านั่นเอง มารู้จักกับพืชเศรษฐกิจของไทยให้มากขึ้น พร้อมเรียนรู้เรื่องราวอื่น ๆ ไปพร้อมกันได้เลย มีสิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้อีกมากทีเดียว

พืชเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อย่างที่กล่าวไปว่าหนึ่งในรายได้ที่ช่วยสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้นมาจาก พืชเศรษฐกิจ ดังนั้นบรรดาพืชที่จะกล่าวถึงนี้ยังคงถูกขนานนามให้เป็นพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันเหมือนเดิม พร้อมทั้งยังทำเงินให้กับเกษตรกรและประเทศอย่างต่อเนื่อง จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ข้าว
ข้าว คือ อาหารหลักของคนไทยและผู้คนอีกจำนวนมาก จึงต้องยอมรับว่ายังคงเป็นพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ได้รับความต้องการจากประเทศคู่ค้ามหาศาลในแต่ละปี โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวที่ถูกยกย่องว่าดีสุดของโลกอย่าง ข้าวหอมมะลิ ด้วยรสสัมผัสอันเนียนนุ่ม บวกกับรสชาติที่มีความหวานในตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากใครที่ได้ทานต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย ซึ่งจริง ๆ แล้วข้าวอันถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของเมืองไทยนั้นไม่ได้มีแค่ข้าวหอมมะลิเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วย เช่น ข้าวเหนียว ข้าวหอม ข้าวขาวพื้นแข็ง เป็นต้น ซึ่งพันธุ์ข่าวที่ถูกส่งออกมากที่สุดได้แก่ ข้าวขาวพื้นแข็ง คิดเป็นเกือบ 50% ของข้าวพันธุ์อื่น ๆ โดยกลุ่มประเทศที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ในการส่งออกข้าวของประเทศไทยคือ จีน และสหรัฐฯ แม้ในปัจจุบันจะมีคู่แข่งรายสำคัญอย่างเวียดนามที่ส่งออกข้าวได้มากกว่า แต่ด้วยคุณภาพจึงต้องยอมรับในด้านของความพึงพอใจที่ผู้บริโภคมีนั้น ข้าวของประเทศไทยยังคงเป็นที่ชื่นชอบ

ยางพารา
หากบอกว่านี่คือพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญรองลงมาจากข้าวคงไม่ใช่เรื่องผิดนัก แม้ว่าราคาในประเทศจะมีปรับขึ้น-ลงตามความเหมาะสม แต่ด้วยปัจจุบันการน้ำยางยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเพื่อนำไปทำสิ่งต่าง ๆ ให้มนุษย์ได้ใช้งานมากมาย อาทิ ยางรถยนต์ ส่วนผสมในการทำยางมะตอยเทพื้น ยางกันรั่วซึม ถุงยางอนามัย และอื่น ๆ อีกมาก ผลิตภัณฑ์ยางพาราของไทยนั้นมีการส่งออกทั้งแบบน้ำยางดิบและผ่านการแปรรูปมาแล้ว จึงส่งผลถึงการสร้างรายได้ที่หลากหลาย ในอดีตการปลูกยางมักปลูกกันแถบภาคใต้ ทว่าปัจจุบันได้มีการพัฒนาและปรับพื้นที่ในภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือในการปลูกยางพารากันมากขึ้น สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรมากตามไปด้วย การที่ยางพาราถูกจัดให้เป็นพืชเศรษฐกิจลำดับที่ 2 ต่อจากข้าว เพราะ ประเทศไทยยังคงถูกยกให้เป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลกมาร่วม 30 ปี โดยคิดเป็นเกือบ ๆ 30% ของยางพาราทั้งหมดที่ใช้งานกันในทุกประเทศ

อ้อย
พืชเศรษฐกิจในปัจจุบันที่กำลังมีความต้องการสูงมาก ๆ ในต่างประเทศ ซึ่งการส่งออกอ้อยนั้นไม่ได้หมายถึงการส่งออกไปแบบสด ๆ เพียงอย่างเดียว แต่มีการนำไปแปรรูปเป็นน้ำตาลทรายเพื่อใช้ปรุงอาหาร รวมถึงมีการนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนต่าง ๆ (น้ำตาลทรายจะถูกส่งออกมากที่สุด) เมื่อเทียบกันในระดับโลกแล้ว ประเทศไทยมีการสร้างรายได้จากอ้อยมากเป็นอันดับ 2 รองเพียงแค่บราซิลประเทศเดียวเท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าพืชเศรษฐกิจกลุ่มนี้ยังคงมีความสำคัญต่อการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและประเทศมากจริง ๆ ในอดีตการปลูกอ้อยมักกระจายตามแถบพื้นที่ราบลุ่มและทนแล้งในระดับหนึ่ง เช่น นครสวรรค์ อุดรธานี นครราชสีมา กาญจนบุรี กำแพงเพชร แต่ทุกวันนี้มีเกษตรกรที่หันมาปลูกไร่อ้อยกันมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากได้ราคาดี ดูแลง่าย เก็บเกี่ยวรวดเร็ว ไม่ต้องรอนานเหมือนกับพืชหลาย ๆ ชนิดอีกด้วย

มันสำปะหลัง
พืชอีกชนิดที่ถูกยกให้เป็นผลิตภัณฑ์สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยมากในลำดับต้น ๆ ปกติแล้วมันสำปะหลังจะไม่ได้ถูกนำไปใช้ประกอบอาหารของคน แต่จะถูกนำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์เนื่องจากมีคุณค่าโภชนาการสูง อีกทั้งยังมีการนำไปแปรรูปเพิ่มเติมกลิ่นให้กับอาหารมีความน่าทานมากขึ้น_ ผลิตเป็นน้ำมันเอทานอลเพื่อใช้งานแทนที่พลังงานจากน้ำมันดิบ นั่นส่งผลให้พืชเศรษฐกิจตัวนี้มีความต้องการในตลาดโลกสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่ประเทศทางแถบยุโรปรวมถึงสหรัฐฯ เองต่างก็เป็นคู่ค้ารายสำคัญเกี่ยวกับการสร้างเม็ดเงินให้ประเทศอีกด้วย ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้พืชชนิดนี้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจมาจากพื้นที่อันมีแสนอุดมสมบูรณ์ในเมืองไทย จึงปลูกมันสำปะหลังได้ง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก ได้ผลผลิตดี เป็นไปตามความคาดหวังของเกษตรกร หากลองไปพื้นที่ตามต่างจังหวัดจะสังเกตว่ามีพืชชนิดนี้ปลูกอยู่เยอะมาก ๆ

ปาล์มน้ำมัน
การส่งออกของพืชชนิดนี้จะผ่านการแปรรูปให้กลายเป็นน้ำมันปาล์มเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ปลูกเป็นอย่างดี ซึ่งทางภาครัฐเองให้ความสำคัญกับผลผลิตชนิดนี้พอสมควร เนื่องจากเมื่อเกษตรกรจำนวนมากเลือกปลูก พอผ่านการแปรรูปแล้วปรากฏว่าของล้นตลาดจนต้องเร่งระบายออกไม่ให้ราคาตกมากเกินไปนัก ซึ่งถ้ามองในมุมของเกษตรกร เมื่อเกิดความต้องการเยอะ ผลผลิตของพวกเขาก็ขายได้รวดเร็วมากขึ้น มีราคาดีกว่าการปล่อยเอาไว้ให้ราคาตก แม้ในบรรดาพืชเศรษฐกิจทั้งหมดที่กล่าวมานี้ปาล์มน้ำมันอาจไม่ใช่พืชที่สร้างรายได้จากจำนวนเงินมหาศาลมากนัก แต่ทั้งนี้ก็ยังถือว่าเป็นพืชที่คนไทยนิยมปลูก เพราะให้ผลผลิตดี ดูแลไม่ยาก ที่สำคัญยังสามารถนำเอาไว้ใช้ในประเทศได้อีกด้วย ยิ่งเมื่อรัฐมีนโยบายที่ใส่ใจมากขึ้นก็เท่ากับโอกาสสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

พืชเศรษฐกิจ มีกี่ประเภท
หลังจากการรู้จักกับบรรดาพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันของไทยกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาต่อกันที่พืชเศรษฐกิจ มีกี่ประเภทกันบ้าง โดยปกติจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของการปลูกหรือการเกิดขึ้น ดังนี้

พืชไร่
เป็นประเภทของพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญในลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย เพราะจากทั้ง 5 ชนิดที่กล่าวมาก่อนหน้าล้วนเป็นพืชไร่ทั้งสิ้น จุดเด่นของพืชเศรษฐกิจประเภทนี้คือ ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องมีขั้นตอนใด ๆ เพื่อป้องกันการเสียหายมากนัก ปลูกได้ดีในพื้นที่ลุ่มดอน มีน้ำเข้าถึงง่าย แต่อาจต้องใช้พื้นที่ในปริมาณมากเพื่อให้เกิดผลผลิตในแบบที่คาดหวังเอาไว้ ปกติแล้วมักปลูกแบบพืชฤดูกาลเดียว คือ ใช้พื้นที่เดียวแต่ปลูกพืชหลาย ๆ อย่างตามแต่ฤดูกาล เช่น ช่วงหน้าฝนทำนา หลังหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวก็จะเปลี่ยนเป็นไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง ไร่ถั่ว เป็นต้น ทั้งนี้หากแยกกลุ่มของพืชไร่ออกมาสามารถแบ่งย่อยได้คือ

กลุ่มธัญพืช เช่น ถั่วประเภทต่าง ๆ_ ข้าวโพด_ ข้าวโอ๊ต_ ข้าวสาลี
กลุ่มพืชน้ำมัน เช่น ปาล์มน้ำมัน_ อ้อย
กลุ่มพืชน้ำตาล เช่น อ้อย
กลุ่มพืชเส้นใย เช่น ฝ้าย_ ปอ_ ป่าน_ กล้วย_ มะพร้าว
กลุ่มพืชหัว เช่น มันสำปะหลัง_ มันแกว_ มันเทศ_ เผือก
กลุ่มพืชอาหารสัตว์ เช่น มันสำปะหลัง_ หญ้ากีนี
กลุ่มพืชออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เช่น ชา_ กาแฟ_ ยาสูบ
พืชสวน
เป็นประเภทของพืชเศรษฐกิจที่มีความหลากหลาย ไม่จำกัดพื้นที่ว่าจะมีขนาดเท่าไหร่ สามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย ซึ่งแบ่งย่อยออกได้ดังนี้

กลุ่มพืชผัก มักใช้ในการประกอบอาหารจากส่วนต่าง ๆ ของผลผลิตไม่ว่าจะเป็นใบ_ ดอก_ ราก_ ต้น_ เมล็ด
กลุ่มพืชผล หรือ ผลไม้ ส่วนใหญ่จะใช้จากผลเป็นหลัก มักเป็นกลุ่มพืชที่มีอายุยืน ใช้เวลานาน หลายชนิดจึงมีราคาแพง
กลุ่มไม้ดอก ไม้ประดับ เป็นพืชเศรษฐกิจกลุ่มใหม่ที่กำลังมาแรงมาก นำไปใช้งานในด้านการประดับตกแต่งเป็นส่วนใหญ่
ไม้เศรษฐกิจในปัจจุบันกลุ่มนี้ถือว่าต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อไม่เกิดปัญหาเรื่องการบุกรุกป่า หรือการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งบรรดาไม้เศรษฐกิจที่ยังได้รับความนิยม เช่น ไม้ยางพารา_ ไม้เต็ง_ ไม้รัง_ ไม้มะฮอกกานี_ ไม้ไผ่_ ไม้ยูคาลิปตัส รวมถึงการถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
พืชเศรษฐกิจในอนาคต
แม้ว่าพืชเศรษฐกิจในปัจจุบันที่กล่าวถึงไปจะยังคงเป็นหัวใจหลักในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่ก็มีพืชอีกหลายชนิดที่ถูกมองว่าจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต โดยขอยกตัวอย่างดังนี้

พริกชี้ฟ้า
ปลูกง่าย ให้ผลผลิตรวดเร็วทันใจ เพียงแค่ 2-3 เดือน ก็สามารถทำเงินได้ทันที นอกจากการขายหรือส่งออกแบบสด ๆ แล้ว ยังแปรรูปเป็นอย่างอื่นได้ เช่น ซอสพริก_ พริกแห้ง_ พริกป่น เป็นต้น

ไผ่กิมซุง
หรือไผ่ตงลืมแล้ง พืชเศรษฐกิจในอนาคตที่คาดว่ามีโอกาสนำมาทดแทนยางพารา เพราะสามารถทำประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น การเก็บหน่อขายสด แปรรูป_ การนำไปทำเป็นเชื้อเพลิง รวมถึงประโยชน์ในด้านประมง

แมคคาเดเมีย
กลายเป็นพืชที่ได้รับความนิยมสูงทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ส่งผลให้มีเกษตรกรจำนวนมากหันมาปลูกมากขึ้น เพราะนอกจากส่งผลผลิตสด ๆ แล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นอย่างอื่นได้ เช่น น้ำมัน_ สบู่

โกโก้
พืชเศรษฐกิจที่ถูกมองว่าในอนาคตจะสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันผลผลิตที่ได้จำหน่ายในประเทศ 80% และส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน 20%

เรื่องราวเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้น่าจะช่วยเพิ่มแนวคิดหรือแนวทางดี ๆ ในการต่อยอดเพื่อสร้างโอกาสในการทำรายได้ให้กับตนเอง รวมถึงยังเป็นการสร้างเม็ดเงินให้เข้ามาภายในประเทศมากขึ้นอีกด้วย



ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
พืชเศรษฐกิจ ทานตะวัน ที่มากกว่าความสวยงาม !!
พืชเศรษฐกิจ ทานตะวัน ที่มากกว่าความสวยงาม !!
จากสภาพความเสื่อมโทรมและการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ที่ได้สร้างความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวโพด ทั้งด้านราคา ปริมาณ และคุณภาพที่ลดลงเกือบทุกๆ ปี ทำให้เกษตรกรในหลายพื้นที่หันมาปลูกพืชเสริมอย่างทานตะวันหลังเก็บเกี่ยวพืชหลัก จนทานตะวันกลายเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่สร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดลพบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี

นอกจากทานตะวันจะสามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรแล้ว ความสวยงามของทุ่งดอกทานตะวันที่ชูช่อบานสะพรั่งสู้กับพระอาทิตย์ในหลายๆ พื้นที่ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดลพบุรีจนทุกวันนี้

ทุ่งดอกทานตะวัน จังหวัดลพบุรี เป็นแห่งแรกที่ได้รับการโปรโมตให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งมีแหล่งปลูกจะกระจายอยู่ทั่วไปในเขตอำเภอเมือง อำเภอพัฒนานิคม อำเภอชัยบาดาล ในทุกปีดอกทานตะวันจะบานสะพรั่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก

ทานตะวันเป็นพืชทนแล้งที่เกษตรกรนิยมปลูกหลังจากข้าวโพด เมล็ดทานตะวันจะมีสารอาหารที่มีคุณค่า นิยมใช้สกัดทำน้ำมันปรุงอาหารหรืออบแห้ง เพื่อรับประทานหรือใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง และนอกจากนี้ ยังสามารถนำมาเลี้ยงผึ้งและเก็บเอาน้ำหวานจากรังผึ้งที่สร้างจากเกสรดอกทานตะวันเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง

ต้นทานตะวันเริ่มออกดอก
คุณดาหวัน ห้องกระจก อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 9 ตำบลโคกตูม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เป็นเกษตรกรคนหนึ่งที่ปลูกทานตะวันเสริมจากพืชหลัก ในทุกปีช่วงเดือนเมษายน ถึงสิงหาคม หลังจากปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คุณดาหวันจะปรับพื้นที่และเตรียมดินเพื่อปลูกพืชรุ่นที่สองอย่างทานตะวันบนพื้นที่ 280 ไร่

การมองหาพืชรุ่นที่สองมาปลูกต่อจากพืชหลักในช่วงนั้นหาได้ยาก เพราะด้วยข้อจำกัดของสภาพแวดล้อมและสภาพพื้นที่ แหล่งน้ำ อีกทั้งกำลังแรงงานที่ใช้ในการดูแลก็มีน้อย ทำให้พืชที่จะนำมาปลูกได้ในตอนนั้นต้องเป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก

คุณดาหวัน เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นเกษตรกรยึดอาชีพเกษตรกรรมมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ พืชที่ปลูกคือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พอหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวโพดแล้วก็ไม่ได้ปลูกพืชอะไรต่อ ทำให้พื้นที่ก็ว่างเปล่าอยู่หลายเดือนกว่าฤดูกาลปลูกข้าวโพดจะมาถึง ทำให้ต้องหาพืชรุ่นสองมาปลูกต่อจากข้าวโพด

ครั้นจะปลูกอ้อยกับมันก็ไม่มีความรู้ในการดูแล มีเพียงแต่ทานตะวันที่เห็นเพื่อนเกษตรกรด้วยกันนำเข้ามาปลูกในพื้นที่และได้เข้ามาแนะนำให้ปลูกในทุกๆ ปีของเดือนตุลาคมหลังจากที่เก็บเกี่ยวข้าวโพดแล้ว

เริ่มรายแรก ปลูกเป็นเครือข่าย

หลังจากที่ได้รับคำแนะนำและเรียนรู้การปลูกและการดูแลทานตะวันจากเพื่อนแล้ว หลังเก็บเกี่ยวข้าวโพดเสร็จคุณดาหวันก็ตัดสินใจนำทานตะวันมาปลูกในพื้นที่เป็นรายแรกๆ ของชุมชน หลังจากที่ได้เห็นและเรียนรู้จากการได้เห็นและสัมผัสมา

การเตรียมพื้นที่ปลูก อันดับแรกเราจะใช้รถไถผาล 2 ไถก่อนครั้งแรก พอไถเสร็จเรียบร้อยก็จะหว่านเมล็ดพันธุ์ และสำหรับการหว่านเมล็ดพันธุ์นั้นเราจะต้องหว่านเผื่อไว้เพื่อป้องกันเมล็ดพันธุ์ไปตกติดอยู่ในลำต้นข้าวโพดที่ไถไปกับดิน ซึ่งจะทำให้เมล็ดไม่สามารถงอกได้ ทำให้เราต้องหว่านเผื่อไว้ ซึ่งวิธีนี้เราจะต้องใช้เมล็ดพันธุ์ในการหว่านโดยประมาณ 1.3-1.5 กิโลกรัม ต่อไร่

แต่ถ้าหากมีเวลาในการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก จะใช้วิธีการหยอดลงหลุมโดยวิธีนี้จะต้องเตรียมพื้นที่ปลูกให้เป็นแถวก่อน หลังจากนั้น ก็จะใช้รถไถเล็กหยอดเมล็ดพันธุ์ลงไป 1-2 เมล็ด ต่อหลุม ซึ่งการปลูกวิธีนี้จะทำให้ต้นทานตะวันขึ้นตรงกันเป็นแถว ดูเรียบร้อย และที่สำคัญวิธีการหยอดลงหลุมจะใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 8 ขีด ต่อไร่ ซึ่งน้อยกว่าการหว่าน

พันธุ์ทานตะวันที่ปลูกเป็นพันธุ์อาร์ตูเอล เป็นพันธุ์ที่มีน้ำหนักดี แต่ให้น้ำมันน้อย แต่ที่ผ่านมาจะปลูกพันธุ์จัมโบ้ ซึ่งจะให้ปริมาณน้ำมันเยอะกว่าสายพันธุ์อื่นที่ปลูกมา แต่สำหรับปีนี้ได้รับแจกเมล็ดพันธุ์จากหน่วยงานของรัฐจึงนำมาปลูก ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ทางหนึ่ง เพราะแต่ละปีการปลูกทานตะวันแต่ละรอบนั้นจะต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ที่มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 400 บาทใหม่ทุกครั้ง เพราะเราไม่สามารถเก็บเมล็ดจากต้นมาทำเป็นพันธุ์ปลูกต่อได้ คุณดาหวัน กล่าว

ดูแลให้ปุ๋ย ผลผลิตงดงาม

คุณดาหวัน เล่าต่อว่า หลังจากที่ปลูกจนต้นทานตะวันเจริญเติบโตขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วก็จะให้ปุ๋ยทางใบเสริม แต่หากช่วงที่ไม่มีเวลาก็ปล่อยให้ธรรมชาติดูแลเอง

ส่วนเรื่องการดูแลทานตะวันนั้น คุณดาหวัน บอกว่า มีการดูแลที่เหมือนกันทุกๆ สายพันธุ์ หากได้รับน้ำในปริมาณที่พอดี ก็จะทำให้ดอกและต้นสวยสมบูรณ์ดี แต่หากได้น้ำมากจนเกินไป ก็จะทำให้ต้นแคระแกร็น ซึ่งตั้งแต่ที่ปลูกมาก็ไม่พบปัญหาอะไรที่รุนแรง โรคและแมลงก็มีน้อย

ทานตะวันจะใช้ระยะเวลาประมาณ 60-65 วัน โดยเฉลี่ยในการสร้างลำต้น ดอก จนสมบูรณ์ถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยใช้แรงงานคนหรือเครื่องจักรกล ซึ่งที่นิยมใช้จะเป็นเครื่องจักรกลมากกว่าแรงงานคน เพราะว่าเครื่องจักรกลในขณะที่เก็บเกี่ยวอยู่นั้น เครื่องก็จะทำการสีไปพร้อมๆ กัน เราไม่ต้องนำดอกทานตะวันไปผ่านกระบวนการสีอีกครั้ง แต่สำหรับแรงงานคนเราต้องนำดอกทานตะวันที่เก็บไปผ่านกระบวนการสีอีกครั้งหนึ่งถึงจะนำไปสกัดเป็นน้ำมัน ซึ่งต้องเสียเงินทั้งจ้างแรงงานและจ้างสี ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง

ปริมาณผลผลิตที่ได้ของดอกทานตะวันอยู่ที่ 250 กิโลกรัม ต่อไร่ จำหน่ายออกไปกิโลกรัมละ 16-17 บาท ซึ่งหากพูดถึงกำไรก็จะได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากน้ำดี ไม่มีโรคแมลงที่ยากที่จะแก้ไข ไม่พบกับปัญหาภัยธรรมชาติ แต่หากปีไหนที่มีปัญหาก็จะได้กำไรลงน้อยลง ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

วันนี้ทานตะวันมีน้อยลงทุกปี เนื่องจากเกษตรกรเริ่มหันไปสนใจกับมันสำปะหลัง อ้อย และปลูกข้าวโพดรุ่นสองซึ่งมีผลตอบแทนที่ดีกว่าทานตะวัน คุณดาหวัน กล่าวทิ้งท้าย


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
อ่าน:2964
177 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 17 หน้า, หน้าที่ 18 มี 7 รายการ
|-Page 7 of 18-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
โรงงานรับจ้างผลิตปุ๋ย OEM/ODM เป็นแบรนด์สินค้าของคุณ ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยเม็ด ไตรโคเดอร์มา บิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม จุลินทรีย์ย่อยสลาย ยาปราบฯ สารปรับสภาพดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ปุ๋ยเคมี ทำได้ทุกชนิด
เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท
ปุ๋ยยาฯ จุลินทรีย์ต่างๆ ปุ๋ยน้ำต่างๆ ปุ๋ยน้ำอะมิโน ไตรโคฯ ประเภทน้ำ ประเภทผง บรรจุขวด บรรจุซอง ทุกชนิด ฯลฯ
เริ่มต้นเพียง 45,000 บาท
ปุ๋ยเม็ดทุกชนิด บรรจุกระสอบ 50 กิโลกรัม บิ๊กแบ็ค 1 ตันเพื่อส่งออก กระสอบ 25 กิโลกรัม ทำได้ทุกชนิด ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สารปรับสภาพดิน อะมิโนเม็ดสกัด ฮิวมิค ฯลฯ
โทร 090-592-8614
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
การผลิต ไวน์มะพร้าวน้ำหอม เพิ่มมูลค่าการขายมะพร้าวให้สูงขึ้น
Update: 2565/11/16 14:53:19 - Views: 3136
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคราแป้ง ในกัญชา กัญชง ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
Update: 2566/01/21 09:48:20 - Views: 3426
โป๊ยเซียน การปลูก การเลี้ยง และการดูแลรักษา
Update: 2564/09/04 02:56:30 - Views: 3277
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาเพลี้ยจักจั่น ในมะม่วง และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/01/28 10:29:07 - Views: 3090
กำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ใน ข้าวโพด เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเชื้อรา ไตรโครเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/19 12:00:21 - Views: 2985
ไอกี้-บีที สารชีวินทรีย์ป้องกันกำจัดหนอน ในมะเขือม่วงมะเขือเปราะ
Update: 2566/10/27 20:54:14 - Views: 206
การป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราในผลฝรั่งอย่างมีประสิทธิภาพ
Update: 2566/05/04 09:51:31 - Views: 3178
สารกำจัดศัตรูพืชอินทรีย์สำหรับควบคุม เพลี้ยไฟมังคุด : ประโยชน์ของการใช้ MAKA และ FK-1
Update: 2565/12/18 10:23:37 - Views: 3411
คู่มือเบื้องต้นสำหรับการ ป้องกันและกำจัดโรคในสวนยางพารา ที่มีสาเหตุจากเชื้อราต่างๆ
Update: 2566/04/29 14:56:01 - Views: 13222
โรคเมล็ดด่างข้าว
Update: 2564/09/03 11:35:47 - Views: 3076
พืชเศรษฐกิจ ทานตะวัน ที่มากกว่าความสวยงาม !!
Update: 2565/11/14 14:52:09 - Views: 2964
การจัดการและป้องกันหนอนในต้นฝรั่ง: วิธีการแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย
Update: 2566/11/10 10:36:16 - Views: 370
ส้มโอ รากเน่า โคนเน่า ใบจุดสนิม ราดำ ราสีชมพู ยาฆ่าเชื้อรา ใน พืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T
Update: 2566/04/07 12:13:31 - Views: 7798
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ยอ่อน ในพุทรา และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/03 14:51:06 - Views: 3013
กล้วยไม้ยอดเน่า ดอกสนิม กำจัดโรคกล้วยไม้ จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/04 09:55:35 - Views: 3174
การใช้งาน เว็บแอพ ผสมปุ๋ย
Update: 2566/01/25 07:06:26 - Views: 3016
ผักบุ้ง ใบไหม่ ใบเหลือง ใบจุด กำจัดโรคผักบุ้ง จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/20 11:05:13 - Views: 3110
โรคอ้อย โรคราน้ำค้างในอ้อย ความงอกลดลง พบแผลทางยาวสีเหลืองบนใบ ใบฉีกขาดเป็นฝอย
Update: 2564/02/23 03:49:40 - Views: 3129
การรักษาและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อราในต้นเชอร์รี: วิธีการดูแลและป้องกันโรคในสวนผลไม้
Update: 2566/11/24 09:21:38 - Views: 369
มะนาว ราดำ รากเน่าโคนเน่า ใบไหม้ ยาฆ่าเชื้อราในพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T
Update: 2566/04/20 10:53:20 - Views: 7437
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022