การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1: ประโยชน์และวิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคพืช

บทนำ
การเกษตรสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดความเสียหายจากโรคพืช บทความวิชาการนี้นำเสนอการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชแพนน่อน (ที่มีสารออกฤทธิ์คือแมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ประสิทธิภาพของแพนน่อน (แมนโคเซป) ในการป้องกันกำจัดโรคพืช
แพนน่อน ซึ่งมีสารออกฤทธิ์สำคัญคือแมนโคเซป เป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืช (fungicide) ประเภทสัมผัส ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สามารถใช้ป้องกันกำจัดโรคพืชได้หลากหลายชนิด ได้แก่:

โรคใบจุด (Leaf spot diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ทำให้เกิดจุดบนใบพืช ส่งผลให้พื้นที่ในการสังเคราะห์แสงลดลง
โรคราสนิม (Rust diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Puccinia ทำให้เกิดแผลสีส้มหรือสีน้ำตาลบนใบพืช
โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Oomycetes ทำให้เกิดคราบขาวใต้ใบพืช
โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) - โรคที่ทำให้เกิดแผลยุบตัวบนผล ใบ และลำต้น
โรคใบไหม้ (Blight diseases) - โรคที่ทำให้ใบพืชเหี่ยวแห้งและตายอย่างรวดเร็ว
โรคผลเน่า (Fruit rot) - โรคที่ทำให้ผลไม้เน่าเสียก่อนเก็บเกี่ยว

แมนโคเซปมีความเหมาะสมในการใช้กับพืชหลายชนิด เช่น:

ข้าว - ป้องกันโรคไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae
ผัก - ป้องกันโรคราน้ำค้างและโรคใบจุดในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ และพืชผักอื่นๆ
ไม้ผล - ป้องกันโรคแอนแทรคโนสและโรคผลเน่าในมะม่วง ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ
มันฝรั่ง - ป้องกันโรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans
ยางพารา - ป้องกันโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora และ Colletotrichum

องค์ประกอบและประโยชน์ของปุ๋ยทางใบ FK-1
ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่:

ไนโตรเจน (N) - ช่วยในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น กระตุ้นการสร้างโปรตีนและคลอโรฟิลล์
ฟอสฟอรัส (P) - ช่วยในการออกดอก ติดผล และพัฒนาระบบราก มีบทบาทสำคัญในกระบวนการถ่ายทอดพลังงาน
โพแทสเซียม (K) - เพิ่มความแข็งแรงของพืช ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล และเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง
แมกนีเซียม (Mg) - เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง
ซิงค์ (Zn) - ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเติบโตและเอนไซม์ที่สำคัญ ส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีน

ประโยชน์ของการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1
การผสมแพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 และฉีดพ่นไปพร้อมกัน ให้ประโยชน์หลายประการต่อเกษตรกรและพืช ดังนี้:

1. เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ
การใช้สารป้องกันกำจัดโรคควบคู่กับการเสริมธาตุอาหารให้พืช เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ โดยแมนโคเซปจะช่วยป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อรา ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น

2. ประหยัดเวลาและลดต้นทุนการผลิต
การฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและปุ๋ยทางใบในคราวเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต เนื่องจาก:

ลดจำนวนครั้งในการฉีดพ่น
ประหยัดน้ำและเชื้อเพลิงที่ใช้ในการฉีดพ่น
ลดการสึกหรอของอุปกรณ์การเกษตร
ลดค่าแรงงานในการฉีดพ่น

3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช
ธาตุอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช ทำให้พืชแข็งแรงและต้านทานต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรคได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแมนโคเซปในการป้องกันกำจัดโรคพืช

4. เร่งการฟื้นตัวของพืชที่เริ่มแสดงอาการของโรค
หากพืชเริ่มแสดงอาการของโรค การได้รับทั้งสารป้องกันกำจัดโรคและธาตุอาหารพร้อมกัน จะช่วยให้พืชสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยแมนโคเซปจะช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ในขณะที่ธาตุอาหารจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย

5. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของสารป้องกันกำจัดโรค
ธาตุอาหารบางชนิดในปุ๋ยทางใบ FK-1 อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของแมนโคเซปเข้าสู่เนื้อเยื่อพืช ทำให้การป้องกันกำจัดโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อพืช ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

1. การทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมี
ก่อนนำแพนน่อนและปุ๋ยทางใบ FK-1 มาผสมกันเพื่อใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ ควรทำการทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมีในปริมาณน้อยก่อน เพื่อตรวจสอบว่าไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การตกตะกอน การแยกชั้น หรือการเกิดฟอง

2. อัตราส่วนการผสมที่เหมาะสม
ควรใช้อัตราส่วนการผสมตามที่ระบุไว้บนฉลากของทั้งสองผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปแล้ว:

แพนน่อน (แมนโคเซป): ใช้อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ปุ๋ยทางใบ FK-1: ใช้อัตรา 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
หมายเหตุ แกะกล่องมาจะผสมสองถุง ต้องใช้ทั้งสองถุงผสมกัน

3. การผสมสารเคมี
ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของการใช้สารเคมี ควรปฏิบัติดังนี้:

เติมน้ำลงในถังพ่นประมาณครึ่งถัง
ละลายแพนน่อน (แมนโคเซป) ในน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน แล้วจึงเทลงในถังพ่น
คนให้เข้ากัน
เติมปุ๋ยทางใบ FK-1 ลงในถังพ่น
คนให้เข้ากันอีกครั้ง
เติมน้ำให้ได้ปริมาตรตามต้องการ
คนให้เข้ากันตลอดเวลาระหว่างการฉีดพ่น

4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่น
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น เมื่อแสงแดดไม่จัดและอุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดอาการไหม้ของใบพืช

5. ความถี่ในการฉีดพ่น
ความถี่ในการฉีดพ่นขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ระยะการเจริญเติบโต และความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปควรฉีดพ่นทุก 7-14 วัน หรือตามที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์

6. ข้อควรระวัง

ควรผสมและใช้ทันที ไม่ควรเก็บสารละลายที่ผสมแล้วไว้ข้ามคืน
สังเกตอาการของพืชหลังการฉีดพ่น หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้
ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ หน้ากาก และชุดป้องกัน ขณะผสมและฉีดพ่นสารเคมี
ไม่ควรฉีดพ่นในขณะที่มีลมแรง เพื่อป้องกันการปลิวของละอองสารเคมีไปยังพื้นที่ข้างเคียง

สรุป
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืชด้วยธาตุอาหารที่จำเป็น ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีทางการเกษตรควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากและหลักการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและมีความปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

คำสำคัญ
แพนน่อน_ แมนโคเซป_ ปุ๋ยทางใบ FK-1_ โรคพืช_ สารป้องกันกำจัดโรคพืช_ ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม_ แมกนีเซียม_ ซิงค์_ การจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ_ ราสนิม_ ราน้ำค้าง_ ใบจุด_ แอนแทรคโนส_ ใบไหม้_ ผลเน่า_ การป้องกันโรคพืช

ใช้ แพนน่อน ผสมกับ ฮิวมิคFK ฉีดพ่นไปพร้อมกัน จะเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ และพืชจะดูดซึมตัวยาไปใช้งานได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้ว ฮิวมิคFK จะช่วยปรับปรุงดิน ทำให้พืชฟื้นตัวได้เร็ว กลับมาโตไว เขียวแข็งแรง ให้ผลผลิตดีดังเดิม ในระยะเวลาที่สั้นลง

อัตราผสม ฮิวมิคFK 10กรัม แพนน่อน 40กรัม ผสมกับน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่น หมายเหตุ 1ช้อนแกง จะหนักประมาณ 10กรัม

คุณสมบัติของ แพนน่อน ซึ่งมีชื่อสามัญว่า แมนโคเซป (Mancozeb) เป็นสารป้องกันเชื้อราในพืช โดยสามารถใช้รักษาและป้องกันโรคพืชต่าง ๆ ได้หลายชนิด ใช้ได้กับทุกพืช ยกตัวอย่างได้ดังนี้:

- โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose)

- โรคใบจุด (Leaf Spot)

- โรคราน้ำค้าง (Downy Mildew)

- โรคราแป้ง (Powdery Mildew)

- โรคใบไหม้ (Blight)

- โรคใบไหม้สายพันธุ์ปลาย (Late Blight)

- โรคสแคป (Scab)

- โรคผลเน่า (Fruit Rot)

- โรคกาบใบไหม้ (Sheath Blight)

- โรคใบจุดตากบ (Frog-eye Spot)

แมนโคเซปเป็นสารที่ใช้กันแพร่หลายในการป้องกันโรคจากเชื้อราในพืชหลายชนิด เช่น ผัก ผลไม้ และพืชสวน

ประโยชน์ : ใช้ในการป้องกันโรคกาบใบแห้ง ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา Rhizoctonia solani (Thanatephorus cucumeris)

วิธีใช้ อัตรา 40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้ง พ่นครั้วแรกเมื่อการระบาดของโรค และครั้งที่ 2 หลังจากพ่นครั้งแรก 10 วัน

วิธเก็บรักษา : ต้องเก็บแพนน่อน ในภาชะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ไห้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งแและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ

คำเตือน : แพนน่อน เป็นวัตถุอันตราย ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันมิไห้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ใช้ต้องปฏิบัติดังนี้ 1.ห้าม ดื่มน้ำ ในขณะปฏิบัติงาน ห้าม เทสารที่เหลือหรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสาร ลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบริเวณไกล้เคียง เมื่อใช้สารหมดแล้ว ห้าม ใช้ไฟเผาภาชนะที่บรรจุ หรือนำกลับมาใช้อีก ห้าม เด็กและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณกำลังฉีดพ่นสาร 2.ขณะผสม ต้อง สวมถุงมือยาง และหน้ากากเพื่อป้องกันมิไห้สารเข้มข้นถูกผิวหนัง และ กระเด็นเข้าตา การผสมให้ใช้ไม้กวน ขณะพ่นสาร ต้องอยู่เหนือลมเสมอ และควรสวมถึงมือยาง และหน้ากาก ต้องล้างมือ และหน้า ไห้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า และซักชุดที่สวมทำงานไห้สะอาด ภาชนะบรรจุเมื่อใช้หมดแล้วไห้กลั้วล้างด้วยน้ำ 3 ครั้ง และรวมเอาน้ำไปใช้ผสมฉีดพ่นสาร กำจัดภาชนะบรรจุโดยการทำลายและฝังดิน หรือรวมทิ้งในที่ปลอดภัย 3.ระวัง อย่าไห้เข้า ปาก ตา จมูก หรือถูกผิวหนังและเสื้อผ้า 4.การใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราโรคพืช ซึ่งอยู่ในหมายเลขกลุ่มเดียวกัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจก่อไห้เกิดความต้านทานของเชื้อราสาเหตุของโรคพืช 5. เป็นพิษต่อปลา และสัตว์น้ำอื่นๆ ต้องระวังการชะล้างลงสู่แหล่งน้ำ 6. ห้ามเก็บเกี่ยว ภายใน 30 วัน หลังพ่นสารครั้งสุดท้าย

อาการเกิดพิษ : หากเข้าตาทำไห้เกิดการระคายเคือง หากสัมผัสผิวหนังอาจมีอาการคัน เป็นผื่นบวมแดง

การแก้พิษเบื้องต้น : 1.ถ้าเกิดพิษเนื่องจากการสูดดม รีบน้ำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่ใช้ และให้พักผ่อนในที่ที่มีอากาศ

ถ่ายเทสะดวก หากอาการไม่ทุเลา รีบไปพบแพทย์ 2. ถ้าเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากนาน 15 นาที หากอาการไม่ทุเลา รีบไปพบแพทย์ 3.ถ้าถูกผิดหนังให้ล้างออกด้วยสบู่และน้ำจนสะอาด ถ้าเปื้อนเสื้อผ้าให้รีบอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที 4.ถ้าหากเข้าปากให้รีบบ้วนน้ำ ล้างปาก หากกลืนกิน ห้ามทำให้อาเจียน และห้าม ให้น้ำ เครื่องดื่ม หรืออาการใดๆทั้งสิ้น รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันทีพร้อมภาชนะบรรจุและฉลาก

คำแนะนำสำหรับแพทย์ : 1.รักษาตามอาการ 2.หากกลืนกินเข้าไปจำนวนมาก และยังไม่ท้องเสียหรืออาเจียนออกมาภายใน 1 ชั่วโมงไห้ผู้ป่วยกิน activated charcoal 25 g. ผสมน้ำ 300 ml. และ sorbitol 70% 1-2 ml /kg น้ำหนักตัว (เด็กต่ำกว่า 12 ปี ลดขนาดเป็น sorbitol 35% 1.5-2.3 ml /kg น้ำหนักตัว)

ผลิตภัณฑ์ สารปรับปรุงดิน ฮิวมิค FK เสริมฟลูวิค สารออกฤทธิ์ : สารออกฤทธิ์ : ฮิวมิค แอซิด (humic acid).......85% WP

คุณสมบัติ : ฮิวมิค FK ประกอบด้วย ฮิวมิค แอซิด และ ฟลูวิค แอซิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบของอินทรีย์ในดินที่มีคุณสมบัติในการปรับโครงสร้างดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช

ประโยชน์ ฮิวมิค FK

ช่วยปรับโครงสร้างดิน ทำไห้ดินร่วน ระบายน้ำดี

ปรับความเป็น กรด-ด่าง เนื่องจากไส่ปุ๋ยเคมีเป็นเวลานาน

เป็นหัวเชื้ออาหารพืช เพื่อช่วยการเจริญเติบโตของพืช

เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับปุ๋ย และดูดซึมสารเคมีต่างๆ

ช่วยไห้พืชดูดกินปุ๋ยทั้งทางรากและทางใบ

ช่วยฟื้นฟูและสร้างระบบรากฝอย

อัตราการใช้

ราดดิน : ดินเหนียว ใช้อัตรา 2-3 กก.ต่อไร่ ดินทราย ใช้อัตรา 1-2 กก.ต่อไร่ ผสมน้ำราดหรือฉีดพ่นบริเวณโคนต้นหรือทรงพุ่ม

ผสมน้ำฉีดพ่น : ใช้ 10-20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 15 วัน ได้ทุกระยะของพืช ใช้ผสมสารเคมีอื่นๆ ใช้ 10-20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม และเพิ่มฤทธิ์สารเคมี

คลุกปุ๋ยเม็ด : ใช้ 1 กก. คลุกปุ๋ยเม็ด 50 กก. คลุกไห้เข้ากันแล้วนำไปหว่าน

วิธีการเก็บรักษา : ต้องเก็บ ฮิวมิค FK ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ไห้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากอาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยงและเปลวไฟ

อาการเกิดพิษและวิธีการแก้พิษเบื้องต้น : ถ้าเข้าตาหรือ ถูกผิดหนังและเสื้อผ้า ไห้รีบ ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากๆ อย่างน้อย 15 นาที หากอาการไม่ทุเลารีบพบแพทย์

ข้อควรระวัง : อย่าไห้สารเข้าตา ปาก สัมผัสผิวหนัง หรือสูดดม รับปะทานอาหาร หรือเครื่องดื่มระหว่างปฏิบัติงาน

ไอเอส: ยาป้องกันกำจัดโรคสตอเบอร์รี่จากเชื้อรา ด้วยเทคนิคอีออนคอลโทรล

สตอเบอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยวหวาน ทานอร่อย เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน แต่การปลูกสตอเบอร์รี่ให้เจริญงอกงาม ปราศจากโรคพืชนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย โรคพืชที่พบได้บ่อยในสตอเบอร์รี่ เช่น โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรครากเน่า โรคราน้ำค้าง โรคแอนแทรคโนส ล้วนเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา ส่งผลต่อสุขภาพของต้น และผลผลิต

ไอเอส ยาป้องกันกำจัดโรคสตอเบอร์รี่จากเชื้อรา มาพร้อมเทคนิค อีออนคอลโทรล สารอินทรีย์ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ช่วยจัดการกับโรคพืชเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลไกการออกฤทธิ์ของไอเอส:

เทคนิคอีออนคอลโทรล: ทำงานโดยดัดแปลงโครงสร้างโมเลกุลของสารอินทรีย์ธรรมชาติ ให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อราสูง โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้
ฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา: ไอเอส ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ
กระตุ้นภูมิคุ้มกัน: ช่วยให้ต้นสตอเบอร์รี่สร้างกลไกป้องกันตัวเองจากโรคพืชได้ดียิ่งขึ้น

ประโยชน์ของไอเอส:

ป้องกันและกำจัดโรคสตอเบอร์รี่จากเชื้อราได้อย่างกว้างขวาง
ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ไม่ทิ้งสารพิษตกค้าง
ช่วยให้ต้นสตอเบอร์รี่แข็งแรง เจริญเติบโตดี
ผลผลิตดี มีคุณภาพ

การใช้ไอเอส:

ผสมไอเอสกับน้ำในอัตราส่วนที่แนะนำ
ฉีดพ่นไอเอสบนต้นสตอเบอร์รี่เป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเกิดโรค
ควรฉีดพ่นไอเอสในช่วงเช้าหรือเย็น

นอกจากไอเอสแล้ว FK-ธรรมชาตินิยม ยังเป็นปุ๋ยที่ช่วยเร่งฟื้นฟูต้นสตอเบอร์รี่จากโรคพืช และส่งเสริมการเจริญเติบโต

การใช้ FK-ธรรมชาตินิยม:

ผสม FK-ธรรมชาตินิยมกับน้ำในอัตราส่วนที่แนะนำ
รด FK-ธรรมชาตินิยมลงดินบริเวณโคนต้นสตอเบอร์รี่
รด FK-ธรรมชาตินิยมบนใบสตอเบอร์รี่

การใช้ไอเอสควบคู่กับ FK-ธรรมชาตินิยม จะช่วยให้ต้นสตอเบอร์รี่ของคุณแข็งแรง ปราศจากโรคพืช และให้ผลผลิตดี

หมายเหตุ:

ควรอ่านฉลากก่อนใช้
เก็บไอเอสและ FK-ธรรมชาตินิยมให้พ้นมือเด็ก
เก็บไอเอสและ FK-ธรรมชาตินิยมในที่แห้งและอากาศถ่ายเทสะดวก

ไอเอสและ FK-ธรรมชาตินิยม ตัวช่วยให้คุณปลูกสตอเบอร์รี่ได้อย่างมั่นใจ ปราศจากโรคพืช และเก็บเกี่ยวผลผลิตที่สดอร่อย

ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อราสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อราอีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้

💦อัตราผสมใช้ ไอเอส
» ไอเอส 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
» ฉีดพ่นทางใบ
» ระยะรักษา ทุก 2-3 วันต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง
» ระยะป้องกันทุก 15-30 วัน

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า:http://ไปที่..link..

ไอเอส: ยารักษาโรคผักคะน้า ปลอดภัยด้วยเทคนิคอีออนคอลโทรล
ปัญหาโรคพืชในผักคะน้า

เกษตรกรผู้ปลูกผักคะน้า มักประสบปัญหาร้ายแรงจากโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด โรคเหล่านี้สร้างความเสียหายต่อใบ ลำต้น และราก ทำให้ผลผลิตเสียหายและสูญเสียรายได้

โรคพืชที่พบได้บ่อยในผักคะน้า ได้แก่

โรคใบจุด: ใบมีจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ ขยายใหญ่ขึ้นจนทำให้ใบแห้งและร่วง
โรคใบไหม้: ใบมีสีน้ำตาลไหม้ ขยายใหญ่ขึ้นจนทำให้ใบแห้งและตาย
โรคราน้ำค้าง: ใบมีจุดสีขาวชื้นๆ พัฒนาเป็นแผลสีน้ำตาล ทำให้ใบแห้งและตาย
โรคเน่าคอดิน: ลำต้นบริเวณโคนเน่า ทำให้ต้นพืชตาย
โรคเหี่ยวโรครา: ต้นพืชเหี่ยวเฉา ใบเหลือง ตาย
ไอเอส: ยารักษาโรคผักคะน้า ปลอดภัยด้วยเทคนิคอีออนคอลโทรล

ไอเอส คือ ยาป้องกันกำจัดโรคผักคะน้าที่ผลิตจากสารอินทรีย์ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ พัฒนาด้วยเทคนิคอีออนคอลโทรล (Ion Control Technology) ซึ่งใช้ประโยชน์จากประจุไฟฟ้าเพื่อกำจัดเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคพืช

ประสิทธิภาพของไอเอส

ป้องกันและรักษาโรคพืชในผักคะน้าที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคใบไหม้ โรคราน้ำค้าง โรคเน่าคอดิน โรคเหี่ยวโรครา
กระตุ้นการเจริญเติบโตของต้นผักคะน้า
เพิ่มผลผลิต

วิธีใช้ไอเอส

ผสมไอเอสกับน้ำตามอัตราที่แนะนำบนฉลาก
ฉีดพ่นไอเอสให้ทั่วใบ ลำต้น และโคนต้นผักคะน้า
ฉีดพ่นไอเอสเป็นประจำ ทุก 5-7 วัน

FK-ธรรมชาตินิยม: ปุ๋ยเร่งฟื้นฟูและส่งเสริมการเจริญเติบโต

FK-ธรรมชาตินิยม คือ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตจากธรรมชาติ 100% ช่วยเร่งฟื้นฟูต้นผักคะน้าจากโรคพืชและส่งเสริมการเจริญเติบโต

ประสิทธิภาพของ FK-ธรรมชาตินิยม

ฟื้นฟูต้นผักคะน้าที่อ่อนแอจากโรคพืช
เร่งการเจริญเติบโตของต้นผักคะน้า
เพิ่มผลผลิต

วิธีใช้ FK-ธรรมชาตินิยม

รดน้ำ FK-ธรรมชาตินิยมให้ทั่วแปลงปลูกผักคะน้า
รดน้ำ FK-ธรรมชาตินิยมเป็นประจำ ทุก 7-10 วัน

การใช้ไอเอสควบคู่กับ FK-ธรรมชาตินิยม

เกษตรกรสามารถใช้ไอเอสควบคู่กับ FK-ธรรมชาตินิยมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดโรคพืชและส่งเสริมการเจริญเติบโตของผักคะน้า

ผลลัพธ์

การใช้ไอเอสและ FK-ธรรมชาตินิยมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เกษตรกรสามารถป้องกันกำจัดโรคพืชในผักคะน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้ที่ดีขึ้น

หมายเหตุ

อ่านฉลากก่อนใช้
เก็บให้พ้นมือเด็ก
เก็บในที่แห้งและเย็น

ไอเอสและ FK-ธรรมชาตินิยม: ทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกผักคะน้า

ไอเอสและ FK-ธรรมชาตินิยม เป็นทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกผักคะน้าที่ต้องการป้องกันกำจัด

ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อราสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อราอีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้

💦อัตราผสมใช้ ไอเอส
» ไอเอส 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
» ฉีดพ่นทางใบ
» ระยะรักษา ทุก 2-3 วันต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง
» ระยะป้องกันทุก 15-30 วัน

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ไอเอส: ยาป้องกันกำจัดโรคข้าวโพดที่เกิดจากเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยีอีออนคอลโทรล

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดหลายท่านคงเคยประสบปัญหาโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อผลผลิตได้อย่างมาก โรคเหล่านี้มักพบได้ทั่วไป เช่น โรคกาบใบไหม้ โรคใบจุด โรคราน้ำค้าง โรคราสนิม และโรคราต่างๆ

ในวันนี้ ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ ไอเอส ยาป้องกันกำจัดโรคข้าวโพดที่เกิดจากเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี อีออนคอลโทรล ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ มาพร้อมกับ FK-ธรรมชาตินิยม ปุ๋ยที่ช่วยเร่งฟื้นฟูต้นข้าวโพด จากโรคพืช และส่งเสริมการเจริญเติบโต

คุณสมบัติของไอเอส
มีประสิทธิภาพสูง ในการป้องกันกำจัดโรคข้าวโพดที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคกาบใบไหม้ โรคใบจุด โรคราน้ำค้าง โรคราสนิม และโรคราต่างๆ
ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ด้วยเทคโนโลยีอีออนคอลโทรล ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ 100% ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้ใช้
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในดินและน้ำ
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับต้นข้าวโพด ช่วยให้พืชแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดียิ่งขึ้น
กระตุ้นการเจริญเติบโต ของต้นข้าวโพด ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี ออกดอก ออกฝัก ผลผลิตดก

ประโยชน์เพิ่มเติมของ FK-ธรรมชาตินิยม
ช่วยเร่งฟื้นฟูต้นข้าวโพด จากโรคพืช
ส่งเสริมการเจริญเติบโต ของต้นข้าวโพด
เพิ่ม ปริมาณ ธาตุอาหาร ในดิน
ช่วยให้ พืช ดูดซึม ธาตุอาหาร ได้ดีขึ้น
เพิ่ม ผลผลิต ของ ข้าวโพด

การใช้ไอเอส ร่วมกับ FK-ธรรมชาตินิยม จะช่วยให้เกษตรกร
ปลูกข้าวโพด ได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาโรคพืช
ได้ผลผลิตข้าวโพด ที่ มี คุณภาพ ดี

ไอเอส ยาป้องกันกำจัดโรคข้าวโพดที่เกิดจากเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยีอีออนคอลโทรล ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ช่วยให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดได้อย่างมั่นใจ ได้ผลผลิตดี มีรายได้เพิ่มขึ้น

ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อราสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อราอีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้

💦อัตราผสมใช้ ไอเอส
» ไอเอส 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
» ฉีดพ่นทางใบ
» ระยะรักษา ทุก 2-3 วันต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง
» ระยะป้องกันทุก 15-30 วัน

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ไอเอส ยาป้องกันกำจัดโรคต้นกะหล่ำปลี ต่างๆที่เกิดจากเชื้อรา ปลอดภัยด้วยเทคนิค อีออนคอลโทรล

กะหล่ำปลีเป็นผักยอดนิยมที่ปลูกง่าย แต่ก็มักถูกคุกคามจากโรคต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้าง ใบจุด ราสนิมขาว เน่าคอดิน โรคเน่าดำ โรคราต่างๆ โรคเหล่านี้สร้างความเสียหายต่อผลผลิต ส่งผลต่อทั้งคุณภาพและปริมาณ

ไอเอส เป็นยาป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ประกอบด้วย 2 เทคโนโลยีล้ำสมัย:

เทคนิค อีออนคอลโทรล: เทคโนโลยีชีวภาพที่ใช้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราโดยไม่ต้องใช้สารเคมี

FK-ธรรมชาตินิยม: ปุ๋ยอินทรีย์ที่ช่วยเร่งฟื้นฟูต้นกะหล่ำปลี จากโรคพืช และส่งเสริมการเจริญเติบโต

จุดเด่นของไอเอส

ปลอดภัยต่อผู้ใช้ สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม
ไม่ทิ้งสารพิษตกค้างในผัก
มีประสิทธิภาพสูง ยับยั้งเชื้อราได้หลากหลายชนิด
ช่วยให้ต้นกะหล่ำปลีฟื้นฟูจากโรคได้เร็ว
ส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มผลผลิต

ไอเอส เป็นทางเลือกใหม่สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกกะหล่ำปลีปลอดภัย ไร้สารเคมี

ข้อควรระวัง

เก็บไอเอสให้พ้นมือเด็ก
สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อใช้
ห้ามรับประทาน

ด้วยไอเอส เกษตรกรสามารถปลูกกะหล่ำปลีได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย ไร้สารเคมี ผลผลิตดี

ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อราสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อราอีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้

💦อัตราผสมใช้ ไอเอส
» ไอเอส 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
» ฉีดพ่นทางใบ
» ระยะรักษา ทุก 2-3 วันต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง
» ระยะป้องกันทุก 15-30 วัน

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ปกป้องผลผลิตข้าวโพดของคุณด้วย ไอเอส ยาป้องกันกำจัดโรคจากเชื้อรา 100% อินทรีย์
ไอเอส เป็นสุดยอดนวัตกรรมใหม่ล่าสุดสำหรับการดูแลรักษาต้นข้าวโพด ด้วยเทคนิค อีออนคอลโทรล ที่ใช้สารอินทรีย์ 100% ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ไอเอส มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในข้าวโพดหลากหลายชนิด เช่น

โรคใบไหม้
โรคราน้ำค้าง
โรคใบจุด
โรคราน้ำค้างในเมล็ดข้าวโพด
ใบเหลือง
รากเน่า
โรคราต่างๆ

จุดเด่นของ ไอเอส

ปลอดภัย: ผลิตจากสารอินทรีย์ 100% ไร้สารเคมีตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม
มีประสิทธิภาพสูง: กำจัดเชื้อราได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ป้องกันโรคพืชได้หลากหลายชนิด
ฟื้นฟูต้นโทรม: ช่วยให้ต้นข้าวโพดฟื้นฟูจากโรคพืช เติบโตแข็งแรง เพิ่มผลผลิต
ใช้สะดวก: ละลายน้ำง่าย พ่นง่าย ไม่ทิ้งคราบ

ไอเอส มาพร้อมสูตรพิเศษ FK-ธรรมชาตินิยม เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ช่วยเร่งฟื้นฟูต้นข้าวโพดหลังจากเผชิญโรคพืช ส่งเสริมการเจริญเติบโต ช่วยให้ต้นข้าวโพดแข็งแรง ใบเขียว ออกดอกออกผลดี เพิ่มผลผลิต

ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อราสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับ
ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบ
พืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อราอีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้

💦อัตราผสมใช้ ไอเอส
» ไอเอส 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
» ฉีดพ่นทางใบ
» ระยะรักษา ทุก 2-3 วันต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง
» ระยะป้องกันทุก 15-30 วัน

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้:http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

ดาวเรืองเป็นไม้ดอกที่ได้รับความนิยมปลูกทั้งเพื่อความสวยงามและประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ทว่าดาวเรืองก็มักถูกคุกคามจากโรคพืชต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคเน่าดำ โรคราน้ำค้าง สนิม และโรคเชื้อราอื่นๆ โรคเหล่านี้สร้างความเสียหายต่อต้นดาวเรือง ลดผลผลิต และอาจทำให้ต้นตายได้

การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5

การผสม Metalaxyl ซึ่งเป็นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคเชื้อรา กับ Starfer Fertilizer 30-20-5 ปุ๋ยสูตรเร่งโต เร่งเขียว เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในต้นดาวเรือง

ประโยชน์ของการใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5

ควบคุมโรคเชื้อราได้อย่างครอบคลุม : การผสมผสานนี้สามารถจัดการกับโรคเชื้อราหลายชนิดได้พร้อมกัน
เพิ่มสารอาหาร : ปุ๋ย Starfer Fertilizer 30-20-5 ช่วยให้ต้นดาวเรืองได้รับสารอาหารที่จำเป็น ส่งเสริมการเจริญเติบโต
เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึม : การผสม Metalaxyl กับปุ๋ยช่วยให้ต้นดาวเรืองดูดซึมสารเคมีได้ดีขึ้น
เพิ่มผลผลิต : การป้องกันโรคเชื้อราช่วยให้ต้นดาวเรืองมีสุขภาพดี เพิ่มผลผลิต
ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย : การผสมสารเคมีและปุ๋ยเข้าด้วยกันช่วยลดจำนวนครั้งในการฉีดพ่น

วิธีการใช้

ผสม Metalaxyl 50 กรัม กับ Starfer Fertilizer 30-20-5 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่นให้ทั่วใบและลำต้น โดยฉีดพ่นทุก 7-10 วัน
ฉีดพ่นตอนเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นตอนแดดจัด

ข้อควรระวัง

สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก และแว่นตา เมื่อผสมและฉีดพ่น
เก็บ Metalaxyl และ Starfer Fertilizer 30-20-5 ให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ห้ามฉีดพ่น Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 บนแหล่งน้ำ
เก็บขวด Metalaxyl และ Starfer Fertilizer 30-20-5 ให้มิดชิดหลังใช้งาน

การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราต่างๆ ในต้นดาวเรือง ช่วยให้ต้นดาวเรืองมีสุขภาพดี เพิ่มผลผลิต และช่วยให้เกษตรกรประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

อัตราส่วนผสม เมทาแลกซิล ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ และโรคพืชต่างๆจากเชื้อรา
50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร *ควรผสมฉีดพ่นไปพร้อมกับ สตาร์เฟอร์สูตร 30-20-5 เพื่อให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของโรคพืชได้เร็ว และกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

อัตราส่วนผสมใช้ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ (ทุกสูตร)
อัตราส่วน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดโรคในต้นกะหล่ำปลี

กะหล่ำปลี เป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นิยมปลูกเพื่อบริโภคและจำหน่าย แต่กะหล่ำปลีก็อ่อนแอต่อโรคพืชหลายชนิด โดยเฉพาะ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคเน่าดำ โรคราน้ำค้าง สนิม และโรคเชื้อราต่างๆ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อผลผลิตและคุณภาพของกะหล่ำปลี

บทความนี้ นำเสนอวิธีการใช้ Metalaxyl ผสมกับ Starfer Fertilizer 30-20-5 ฉีดพ่นเพื่อป้องกันและกำจัดโรคเหล่านี้ในต้นกะหล่ำปลี

Metalaxyl เป็นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืชชนิดดูดซึม มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมโรคเชื้อราหลายชนิด

Starfer Fertilizer 30-20-5 เป็นปุ๋ยสูตรเร่งโต เร่งเขียว ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ในอัตราส่วน 30-20-5

การผสม Metalaxyl กับ Starfer Fertilizer 30-20-5

ผสม Metalaxyl 50 กรัม กับ Starfer Fertilizer 30-20-5 25 กรัม
ใส่น้ำลงในถังผสม 200 ลิตร
คนให้เข้ากันจนละลาย

วิธีการฉีดพ่น

ฉีดพ่นให้ทั่วต้นกะหล่ำปลี โดยเฉพาะบริเวณใบ
ฉีดพ่นตอนเช้าหรือเย็น
ฉีดพ่นเป็นประจำทุก 7-10 วัน

ข้อควรระวัง

สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก แว่นตา
ห้ามฉีดพ่นขณะมีลมแรง
เก็บ Metalaxyl และ Starfer Fertilizer 30-20-5 ให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 ฉีดพ่น

ช่วยป้องกันและกำจัดโรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคเน่าดำ โรคราน้ำค้าง สนิม และโรคเชื้อราต่างๆ ในต้นกะหล่ำปลี
ช่วยให้กะหล่ำปลีเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง
เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของกะหล่ำปลี

เกษตรกรควรศึกษาวิธีการใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

อัตราส่วนผสม เมทาแลกซิล ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ และโรคพืชต่างๆจากเชื้อรา
50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร *ควรผสมฉีดพ่นไปพร้อมกับ สตาร์เฟอร์สูตร 30-20-5 เพื่อให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของโรคพืชได้เร็ว และกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

อัตราส่วนผสมใช้ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ (ทุกสูตร)
อัตราส่วน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..

การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดโรคพุทรา

ต้นพุทราเป็นไม้ผลที่ได้รับความนิยม นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลสด นำมาแปรรูปเป็นแยม หรือทำเป็นน้ำพุทรา แต่ปัญหาใหญ่ที่พบเจอคือ โรคพืชต่างๆ โดยเฉพาะโรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคเน่าดำ โรคราน้ำค้าง สนิม และโรคเชื้อราต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อผลผลิตและคุณภาพของผลพุทรา

การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5

เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรคพืชในต้นพุทรา โดย Metalaxyl เป็นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช ชนิดดูดซึม เข้าทางใบและราก ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5

เป็นปุ๋ยสูตรเร่งโต เร่งเขียว มีธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ช่วยให้ต้นพุทราเจริญเติบโต แข็งแรง ใบเขียว ฟื้นฟูจากโรค

วิธีการใช้

ผสม Metalaxyl 50 กรัม กับปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 25 กรัม หรือ 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่นให้ทั่วใบและลำต้น ทุก 7-10 วัน
ฉีดพ่นป้องกันก่อนโรคระบาด
ฉีดพ่นเมื่อพบโรคระบาด

ข้อควรระวัง

สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก แว่นตา
ระวังอย่าให้เข้าปาก ตา จมูก
เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ห้ามผสม Metalaxyl กับสารเคมีอื่นๆ

ผลลัพธ์

ป้องกันและกำจัดโรคพืชในต้นพุทราได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต้นพุทราเจริญเติบโต แข็งแรง ใบเขียว
ผลพุทราสมบูรณ์ คุณภาพดี

การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ช่วยให้เกษตรกรสามารถป้องกันและกำจัดโรคพืชในต้นพุทรา เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลพุทรา

อัตราส่วนผสม เมทาแลกซิล ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ และโรคพืชต่างๆจากเชื้อรา
50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร *ควรผสมฉีดพ่นไปพร้อมกับ สตาร์เฟอร์สูตร 30-20-5 เพื่อให้พืชฟื้นตัวจากการเข้าทำลายของโรคพืชได้เร็ว และกลับมาเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

อัตราส่วนผสมใช้ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ (ทุกสูตร)
อัตราส่วน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ถัง 16-20 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 25 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
ถัง 200 ลิตร ใช้ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 250 กรัม (1ส่วน4ถุง)

ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 1 ถุง บรรจุ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำได้ 800 ลิตร ใช้ได้ประมาณ 10 ไร่

📌สั่งซื้อ สอบถาม

»โทร 097-918-3530
»ไลน์ janemini1112

🔎ซื้อกับลาซาด้า ช้อปปี้
.
» ซื้อสินค้า ที่ช้อปปี้: http://ไปที่..link..
.
» ซื้อสินค้า ที่ลาซาด้า: http://ไปที่..link..