กะหล่ำปลี: พืชฤดูหนาวที่เหมาะกับเกษตรกร ปลูกง่าย...
👤
โดย: Admin
📅
2025-10-25 10:05:29
🌐
125.24.94.185
กะหล่ำปลี: พืชฤดูหนาวที่เหมาะกับเกษตรกร ปลูกง่าย เก็บเกี่ยวเร็ว
กะหล่ำปลีเป็นพืชผักที่เจริญเติบโตได้ดีในช่วง **ฤดูหนาวของประเทศไทย (พฤศจิกายน–กุมภาพันธ์)** อากาศเย็นช่วยให้ใบหนาและหัวแน่น ลดความเสี่ยงต่อโรคและแมลง ใบแข็งแรงและสีเขียวเข้มช่วยให้หัวกะหล่ำซ้อนตัวได้ดี ทำให้ผลผลิตคุณภาพสูง และสามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น
---
ดินที่เหมาะสม
* กะหล่ำปลีชอบดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี ไม่แฉะ
* ค่า pH อยู่ระหว่าง 5.8–6.8
* พรวนดินลึกประมาณ 25–30 เซนติเมตร เพื่อให้รากลึกและแข็งแรง
* ควรหลีกเลี่ยงการปลูกซ้ำในแปลงเดิมเกิน 1–2 รอบ เพื่อป้องกันโรคในดิน
---
ธาตุอาหารที่สำคัญ
* ไนโตรเจน (N) ช่วยสร้างใบให้เขียวและแข็งแรง ใบแข็งแรงเป็นพื้นฐานของหัวแน่น
* ฟอสฟอรัส (P) ส่งเสริมการเจริญเติบของราก ให้พืชดูดน้ำและธาตุอาหารได้เต็มที่
* โพแทสเซียม (K) เพิ่มความแน่นของหัว ปรับแรงดันน้ำในเซลล์ให้หัวไม่หลวม
* แมกนีเซียม (Mg) เป็นส่วนประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ลดอาการใบซีด
* สังกะสี (Zn) ช่วยการเจริญเติบโตของใบอ่อนและรักษาโครงสร้างใบให้สมบูรณ์
ช่วง **เริ่มแตกใบ → ตั้งหัว** เป็นช่วงสำคัญที่สุด เพราะกำหนดคุณภาพหัวกะหล่ำ
---
การปลูกและการดูแล
* ระยะปลูก 30–40 เซนติเมตร ระหว่างแถว 50–60 เซนติเมตร
* รักษาความชื้นให้สม่ำเสมอ ไม่แฉะหรือแห้งเกินไป
* คลุมดินด้วยฟางหรือเศษหญ้าเพื่อลดการระเหยของน้ำและลดวัชพืช
* ใส่ธาตุอาหารตามระยะการเจริญเติบโต (เริ่มแตกใบ–ตั้งหัว)
* ป้องกันศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ หนอนกระทู้ และโรคใบจุด ตั้งแต่ระยะอ่อน
---
การเก็บเกี่ยว
* เก็บเมื่อหัวแน่นเต็มที่ (ประมาณ 60–80 วันหลังปลูก)
* เลือกเก็บในช่วงเช้าใบยังสดและไม่ช้ำ
* การเก็บหัวสมบูรณ์ช่วยให้คุณภาพสูง ขายได้ราคาดี และลดการเน่าเสีย
---
อ้างอิง
* Marschner, H. (2012). Mineral Nutrition of Higher Plants. Academic Press.
* Havlin, J. L., Tisdale, S. L., Nelson, W. L., & Beaton, J. D. (2014). Soil Fertility and Fertilizers. Pearson.
* FAO (2017). Leafy Vegetables Production Guidelines.
---
#ความรู้เกษตร #ปลูกผักฤดูหนาว #กะหล่ำปลี #เกษตรกรไทย #เกษตรอินทรีย์ #ผักปลอดภัย #ทำสวนทำไร่ #แชร์ความรู้เกษตร