ไมคอร์ไรซากับระบบรากข้าว:...
👤
โดย: ผู้ดูแล
📅
2025-10-14 20:26:49
🌐
125.25.81.80
ไมคอร์ไรซากับระบบรากข้าว: ความร่วมมือระหว่างราและพืชในดินนา
ภายใต้พื้นนาแฉะที่เรามองไม่เห็น มีชีวิตขนาดจิ๋วนับล้านกำลังทำงานร่วมกัน และหนึ่งในนั้นคือ “ราไมคอร์ไรซา” (Mycorrhiza) สิ่งมีชีวิตที่ทำหน้าที่เป็น “สะพานชีวภาพ” เชื่อมระหว่างรากข้าวกับอนุภาคดิน ช่วยให้พืชดูดธาตุอาหารและน้ำได้มากกว่าความสามารถของรากโดยตรง
---
1. ไมคอร์ไรซาคืออะไร
คำว่า *Mycorrhiza* มาจากภาษากรีก *Mykes* = รา และ *Rhiza* = ราก หมายถึง “ราราก” ซึ่งเป็นราที่อาศัยอยู่ร่วมกับรากพืชในลักษณะพึ่งพากัน (Symbiosis)
ในระบบนาข้าว พบมากในกลุ่ม **ราไมคอร์ไรซาแบบอาร์บัสคูลาร์ (Arbuscular Mycorrhiza; AMF)** ซึ่งอยู่ในไฟลัม *Glomeromycota* เช่น สกุล *Glomus, Rhizophagus,* และ *Acaulospora* ราเหล่านี้จะเจริญเส้นใยแทรกเข้าไปในรากข้าว และขยายออกไปในดินได้ไกลกว่ารากหลายเท่า
---
2. กลไกการทำงานของไมคอร์ไรซาในระบบรากข้าว
เมื่อรา AMF เข้าสู่ราก จะสร้างโครงสร้างคล้ายต้นไม้เล็ก ๆ เรียกว่า **อาร์บัสคูล (Arbuscule)** อยู่ภายในเซลล์ราก ซึ่งเป็นจุดแลกเปลี่ยนสารอาหารระหว่างพืชกับรา
* ฝั่งรา → ส่งฟอสฟอรัส (P), สังกะสี (Zn), และน้ำให้พืช
* ฝั่งพืช → ส่งน้ำตาลและคาร์บอนให้ราใช้ดำรงชีวิต
ผลที่เกิดขึ้นคือระบบรากมี “แขนงเส้นใย” เพิ่มขึ้นในระดับไมโครเมตร ช่วยให้ข้าวสามารถดูดธาตุอาหารได้แม้ในสภาพดินที่ธาตุเคลื่อนที่ช้า เช่น ฟอสฟอรัส หรือในดินที่น้ำขังซึ่งรากข้าวดูดอาหารได้จำกัด
---
3. ประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของข้าว
3.1 เพิ่มประสิทธิภาพการดูดธาตุอาหาร
งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าข้าวที่มีการเข้าร่วมของราไมคอร์ไรซาสามารถเพิ่มการดูดซับฟอสฟอรัสได้มากขึ้น **20–50%** เมื่อเทียบกับข้าวที่ไม่มีรา โดยเฉพาะในดินที่มี P ต่ำ
3.2 เสริมความทนแล้งและดินเค็ม
เส้นใยของรา AMF ทำให้รากดูดน้ำได้ไกลขึ้น และกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนอะบซิสิก (ABA) ซึ่งช่วยให้พืชปิดปากใบเมื่อขาดน้ำ จึงทนแล้งได้ดีขึ้น
ส่วนในดินเค็ม ราจะช่วยปรับอัตราการแลกเปลี่ยนไอออน K⁺/Na⁺ ลดการสะสมโซเดียมในใบข้าว ทำให้ไม่เกิดอาการใบไหม้
3.3 กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันพืช (Induced Resistance)
ราไมคอร์ไรซายังสามารถกระตุ้นให้ข้าวสร้างเอนไซม์ป้องกันโรค เช่น peroxidase และ chitinase ทำให้ต้านทานเชื้อราก่อโรคบางชนิดได้ดีขึ้น
---
4. ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดไมคอร์ไรซาในนาข้าว
* ชนิดพันธุ์ข้าว: ข้าวบางพันธุ์ (เช่น ข้าวไร่) มีการตอบสนองต่อ AMF มากกว่าข้าวนาชลประทาน
* สภาพน้ำในนา: การขังน้ำต่อเนื่องจะลดการเจริญของราได้บ้าง เพราะราเป็นสิ่งมีชีวิตต้องการออกซิเจน จึงควรมีช่วง “แห้งสลับเปียก”
* การใช้ปุ๋ยฟอสฟอรัสสูง: ถ้ามี P มากเกินไป ราจะลดการเข้าร่วม เพราะพืชไม่ต้องการความช่วยเหลือ
* การใช้ยาฆ่าเชื้อราในดิน: อาจทำลายไมคอร์ไรซาโดยไม่ตั้งใจ
---
5. แนวทางประยุกต์ในระบบนาข้าว
* ใช้เชื้อราไมคอร์ไรซาในรูป *Biofertilizer* ผสมในช่วงเตรียมกล้า หรือคลุกเมล็ดพันธุ์ก่อนปักดำ
* จัดระบบน้ำแบบ “เปียกสลับแห้ง” เพื่อให้มีออกซิเจนในดินมากพอสำหรับการเจริญของรา
* ลดการใช้ปุ๋ยเคมี P ลงบางส่วน เพื่อกระตุ้นการร่วมอาศัยของรา
* เพิ่มอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้จุลชีพในดิน
---
6. บทสรุป
ไมคอร์ไรซาเปรียบเหมือน “รากซ้อนราก” ของข้าว ทำให้พืชมีระบบดูดธาตุอาหารที่กว้างและยืดหยุ่นมากขึ้น การเข้าใจและส่งเสริมให้รานี้เจริญร่วมกับพืช จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของจุลินทรีย์ในดิน แต่เป็นแนวทางของ **เกษตรวิทยาศาสตร์สมัยใหม่** ที่พาเกษตรกรไปสู่การผลิตข้าวอย่างยั่งยืนในอนาคต
สนับสนุนองค์ความรู้โดย... ปุ๋ยทางใบ FK-1 จาก ฟาร์มเกษตร รวมธาตุอาหารพืช (N P K Mg Zn) ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี...
บรรจุ 2 กิโลกรัม ราคา 890 บาท ส่งถึงบ้าน จ่ายปลายทาง...
---
อ้างอิง:
* Smith, S.E. & Read, D.J. (2008). *Mycorrhizal Symbiosis.* Academic Press.
* Solaiman, Z.M. et al. (2014). *Mycorrhizal fungi and phosphorus use efficiency in rice systems.* Plant and Soil.
* Wang, F. et al. (2020). *Arbuscular mycorrhizal fungi improve salt tolerance in rice.* Applied Soil Ecology.
---
#ไมคอร์ไรซา #ระบบรากข้าว #ดินมีชีวิต #จุลินทรีย์ดินนา #ข้าวไทยยั่งยืน #Mycorrhiza #RiceRootSystem #Biofertilizer