[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - โควิด
22 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 2 หน้า, หน้าที่ 3 มี 2 รายการ

ทำไม ชื่อสายพันธุ์ โควิด-19 จึงเป็น แอลฟ่า เบต้า เดลต้า แกมม่า
ทำไม ชื่อสายพันธุ์ โควิด-19 จึงเป็น แอลฟ่า เบต้า เดลต้า แกมม่า
เราก็สงสัยอยู่นานพอสมควร ในครั้งแรก ที่ได้ยินว่า โควิด-19 กลายพันธุ์ พบครั้งแรกที่ประเทศอินเดีย มีชื่อว่า โควิด-19 สายพันธุ์ เดลต้า (Delta) ซึ่งมีการระบาดรุนแรง และรวดเร็วกว่าเดิม และวัคซีนที่มีปัจจุบัน หลายตัว ก็อาจจะไม่สามารถป้องกันได้

สักพักหนึ่ง ก็ได้ยินมาอีกว่า มี โควิด-19 สายพันธุ์ แอลฟ่า เบต้า แกมม่า ตามมาอีก และยังมีอีกเยอะเลย

จริงๆแล้ว เป็นอักษร กรีก นะ

จะเรียงเป็น ตัวอักษรเล็ก ตัวอักษรใหญ่ คำอ่านอังกฤษ คำอ่านไทยนะ
α Α alpha แอลฟา
β B beta บีตา
γ Γ gamma แกมมา
δ Δ delta เดลตา

จริงๆมีอีกเยอะ ที่นิยมใช้กัน เช่น λ แลมด้า Ω โอเมก้า Σ ซิกม่า ทำนองนี้

มันก็แปลกดี แต่คงมีเหตุผล ที่ตัวอักษรกรีก นิยม นำไปใช้ในหลายๆวงการเลย คณิตศาสตร์ วงการแพทย์ ซอฟแวร์ คอมพิวเตอร์

อย่างเช่นในวงการซอฟแวร์คอมพิวเตอร์

ซอฟแวร์ที่เป็น เวอร์ชั่น แอลฟ่า (alpha) นั้น เช่น ระบุว่า Version 1.1 alpha หมายถึง ซอฟแวร์ตัวนี้ ถูกปล่อยให้ใช้เป็นการทดสอบ ภายในองค์กร หรือในกลุ่มคนในวงจำกัดเท่านั้น เนื่องจาก กำลังพัฒนา หรือพัฒนาเสร็จแล้ว แต่.. ยังไม่แน่ใจว่าจะมี Bug หรือข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในระหว่างใช้งานหรือไม่

ซอฟแวร์ที่เป็น เวอร์ชั่น เบต้า (beta) นั้น เช่น ระบุว่า Version 1.2 beta หมายถึง ซอฟแวร์ตัวนี้ ถูกปล่อยให้ผู้ใช้จำนวนมาก สามารถนำไปใช้งานจริงได้แล้ว แต่ว่า.. ผู้ใช้โปรดรู้ไว้นะ ว่ายังเป็น beta version อยู่ อาจจะมี bug มีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง ถ้าเจออย่างว่ากันนะ แจ้งให้ทราบด้วยยิ่งดี

หลังจาก ปล่อยตัว beta ไปสักระยะ จนมั่นใจแล้ว ว่าไม่มี bug หรือข้อผิดพลาดเลย ก็อาจจะปล่อยตัวเต็มมาขาย เป็นเวอร์ชั่น 2.0 เช่นนี้ เป็นต้น

ที่นี้ โรค โควิด-19 ล่ะ แอลฟ่า เบต้า เดลต้า แกมม่า นี่คืออะไร ?

จริงๆแล้วเป็นการตั้งชื่อให้แตกต่าง เพื่อให้ทราบว่า เป็นโควิด-19 แต่ละสายพันธุ์ เพื่อให้ทราบที่มา และสื่อสารกันเข้าใจ เหมือนการตั้งชื่อทั่วไปเลย และ บังเอิญ เขาก็เลือกใช้ ตัว อักษร กรีก เหล่านี้ มาห้อยทายคำว่า โควิด-19 เพื่อบอกถึงสายพันธุ์ต่างๆ

แทนที่จะระบุไปเลย ว่า โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย โควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ มันอาจจะทำให้หลายๆคนมองภาพ และไปโทษเอาว่า นี่นะ โควิด-19 สายพันธุ์นี้ เป็นเพราะประเทศนี้ ประเทศนั้น มันอาจจะทำให้เกิดความแตกแยก โทษกันไป โทษกันมา เหมือนการไปว่าเขาด้วย ก็เลยเอาตัวอักษรกรีก มาระบุลงไป แทนการเรียกสายพันธุ์ต่างๆ
ฉลาดกิน ฟ้าทะลายโจรสู้โรค ป้องกันโควิด-19
ฉลาดกิน ฟ้าทะลายโจรสู้โรค ป้องกันโควิด-19
โดยแพทย์หญิงศรันยา สาครินทร์ แพทย์แผนปัจจุบัน จบจากโรงพยาบาลรามาธิบดีและศึกษาต่อปริญญาโท ด้านฝังเข็มยาจีน นวดทุยหนา และโภชนาการจากประเทศสหรัฐอเมริกา จึงมีความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพและการรักษาโรคจากทั้งศาสตร์ตะวันออกและตะวันตก

“ฟ้าทะลายโจร” พืชล้มลุกที่มีกำเนิดจากแถบประเทศอินเดียและศรีลังกา สำหรับในไทยฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่อยู่ในตำรายาไทยโบราณมานาน มีรสขม จัดอยู่ในกลุ่มยาเย็นมีสรรพคุณทางการแพทย์แผนไทยใช้เพื่อบรรเทาอาการไข้หวัด แก้ไอและเจ็บคอ ฟ้าทะลายโจรยังเป็นสมุนไพรที่ถูกบรรจุอยู่ในบียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2542 ของกระทรวงสาธารณสุข

จากผลการศึกษาและวิจัยพบว่า ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของฟ้าทะลายโจรมีสารสำคัญชื่อว่า

“สารแอนโดรกราโฟไลค์” (Andrographolide) ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ในทุกระยะและช่วยยับยั้งการอักเสบ และยังมีสารประกอบสาร Lactone 4 ชนิดที่มีฤทธิ์เย็นหนืด ช่วยจับโปรตีนของไวรัสให้อยู่กับที่ ทำให้ฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจรต้านไวรัสได้ดียิ่งขึ้น และช่วยป้องกันผลข้างเคียงจากยาปฏิชีวนะได้ ลดการบีบตัวของลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย ช่วยรักษาอาการไอ เจ็บคอป้องกันและบรรเทาหวัด

สำหรับแพทย์แผนจีนนั้นระบุว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็นจัด มีรสขมและแห้ง มีสรรพคุณลดความร้อน ทั้งความร้อนในร่างกายและความร้อนเกินที่เข้ามาในร่างกาย เช่น ติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ช่วยดูดความชื้นในร่างกาย ขจัดเสลดของเหลวต่างๆให้แห้ง จึงช่วยลดอุณหภูมิร่างกายได้เวลาเป็นไข้ขึ้นสูง ลดเจ็บคอ ช่วยเรื่องการทำงานของปอดเป็นหลัก สำหรับหมอเองก็ใช้ฟ้าทะลายโจรควบคู่กับสูตรยาจีนเพื่อช่วยลดอุณหภูมิความร้อนให้คนไข้ เพราะสามารถใช้ร่วมกันได้ หมอแนะนำให้กินแบบธรรมชาติ คือ กินเป็นใบทั้งแบบสดหรือแบบตากแห้งบดก็ได้

กินเพื่อป้องกัน (For Prevention)

แบบใบสด ประมาณวันละ 2-3 ใบ เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 3 เดือนในช่วงฤดูหนาว จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายได้

แบบตากแห้งแล้วบดใส่แคปซูล กินวันละ 1 แคปซูล (ประมาณ 500 มิลลิกรัม) ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน ระยะเวลาและขนาดปริมาณประมาณนี้ยังไม่มีผลข้างเคียงเรื่องการทำลายตับ

มีงานวิจัยคำนวณอิงสารแอนโดกราโฟไลค์เพื่อป้องกันหวัดจะใช้ปริมาณ 11.2 มิลลิกรัมต่อวัน กิน 5 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 3 เดือน มีผลป้องกันหวัดได้

กินเพื่อรักษาอาการ (For Treatment)

สำหรับปริมาณการรักษา หมอแนะนำให้เลือกแบบตากแห้งแล้วบดใส่แคปซูล กินครั้งละ 1_500-3_000 มิลลิกรัม จำนวน 4 ครั้งต่อวัน หรือประมาณ 2-4 แคปซูล วันละ 3 มื้อ ระยะเวลา 7-10 วัน (หรือไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์) หากอิงจากสารแอนโดรกราโฟไลด์ระดับในการรักษาคือ ประมาณ 60-120 มิลลิกรัมต่อวันนั่นเองค่ะ

ข้อควรระวังในการรับประทานยาฟ้าทะลายโจร

-ห้ามใช้ยาฟ้าทะลายโจรในผู้ที่มีอาการแพ้

-ห้ามหญิงตั้งครรรภ์หรือให้นมบุตรกินฟ้าทะลายโจร

-สำหรับคนที่ถ่ายเหลว ท้องเสียบ่อย ระบบย่อยไม่ค่อยดี ภาวะธาตุอ่อนไม่ควรกินฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน หากร่างกายเย็นไปจะทำให้ถ่ายท้อง ถ่ายเหลว เพิ่มขึ้นได้

-ไม่ควรรับประทานในขนาดสูงติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจเสี่ยงทำให้แขนขาเป็นเหน็บชาหรืออ่อนแรง ท้องเสีย เนื่องจากยามีฤทธิ์เย็น ทำให้เลือดเดินไปเลี้ยงส่วนแขนขาติดขัด ระบบย่อยลำบาก

-หากรับประทานยาฟ้าทะลายโจรเพื่อลดอาการเจ็บคอ เมื่อครบ 24 ชั่วโมง แล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงกว่าเดิม ควรหยุดรับประทานแล้วพบแพทย์

-ควรระมัดระวังในการรับประทานยาฟ้าทะลายโจรควบคู่ไปกับยาลดความดันเพราะอาจเสริมฤทธิ์กันให้ความดันโลหิตลดมากกว่าเดิมได้

-ควรระมัดระวังในการรับประทานยาฟ้าทะลายโจรควบคู่ไปกับยาที่มีสารกันเลือดเป็นลิ่มและยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด เช่น วาร์ฟาริน แอสไพริน เป็นต้น

เพราะฉะนั้นสำหรับฟ้าทะลายโจร หมอถือว่าเลือกกินตามอาการจะดีกว่า เมื่ออาการดีขึ้นจึงหยุดยา ด้วยความที่ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็นและมีรสขม เมื่อกินเข้าไปติดต่อกันจะทำให้ร่างกายเย็น สำหรับแผนจีนเมื่อร่างกายเย็นมากจะทำให้เลือดลมไม่หมุนเวียน มักมีอาการอ่อนเพลีย บางคนอาจมีอาการท้องเสีย

ส่วนรูปแบบในการกินฟ้าทะลายโจรนั้น แนะนำให้กินแบบสดหรือตากแห้งแล้วบดหยาบมากกว่า เพราะจะได้สารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์เดี่ยวค่ะ เนื่องด้วยในฟ้าทะลายโจรแบบยังไม่ได้สกัดจะมีสาร Lactone ที่จะช่วยจับโปรตีนของไวรัสได้ดีกว่า ทำให้ฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจรแบบไม่สกัดทำงานต้านไวรัสได้ดีกว่า แต่จำนวนเม็ดที่กินอาจจะต้องมากกว่าแบบสกัด เพื่อให้ได้ฤทธิ์ถึงในระดับการรักษาอาการป่วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม การกินฟ้าทะลายโจรสามารถกินเพื่อการดูแลรักษาตนเองเป็นเบื้องต้น สร้างความแข็งแรง เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย แต่ควรกินในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นนะคะ

นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 545 ปีที่ 23 16 มิถุนายน 2564

ที่มา http://www.farmkaset..link..
ไล่พนักงานออก ไล่ผู้เช่าหอพักออก เมื่อทราบว่าติด โควิด-19 ผิด พรบ.โรคติดต่อ
ไล่พนักงานออก ไล่ผู้เช่าหอพักออก เมื่อทราบว่าติด โควิด-19 ผิด พรบ.โรคติดต่อ
กรมควบคุมโรค แนะเจ้าของบ้าน หอพัก สถานประกอบการทุกประเภท หากพบผู้พักอาศัยหรือลูกจ้างติดเชื้อ โควิด-19 ขอให้รีบแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยเร็ว เพื่อนำตัวเข้าสู่ระบบการแยกกักและป้องกันควบคุมโรค และไม่ไล่ผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยออกจากที่พักหรือที่ทำงาน เพราะอาจทำให้ผู้ติดเชื้อเสี่ยงอันตราย และยัง เป็นการทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปในวงกว้าง

กรมควบคุมโรคขอให้ข้อมูลว่า การไล่ผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยโควิด-19 จะทำให้เกิดผลเสีย และอาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 เนื่องจากอาจทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายออกไปในวงกว้างยากต่อการควบคุมโรค อาจทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย


ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ หากพบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19 ให้เจ้าของบ้านเช่า หอพัก หรือเจ้าของสถานประกอบการ รีบแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งอาจเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทราบและเริ่มการสอบสวนควบคุมโรคโดยเร็ว


ทั้งนี้ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติตามและร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้กับภาครัฐ เพื่อช่วยให้ผู้ติดเชื้อไม่ว่าจะมีอาการป่วยปรากฏแล้วหรือยังไม่มีอาการก็ตาม ได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานมีความปลอดภัย และลดโอกาสแพร่เชื้อต่อไปยังผู้อื่น

สำหรับการแจ้งข้อมูลต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เมื่อพบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 กรณีที่ผู้แจ้งเป็นเจ้าบ้านหรือเป็นผู้ควบคุมดูแลบ้าน ให้แจ้งชื่อที่อยู่ของตนเอง ความสัมพันธ์กับผู้ที่ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยเป็นโรคติดต่ออันตราย พร้อมแจ้งชื่อ อายุ เพศ สัญชาติ ที่อยู่ปัจจุบันของผู้ป่วย แจ้งวันเริ่มป่วย และอาการสำคัญที่ปรากฏด้วย


ในกรณีที่เป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ ให้แจ้งชื่อ ที่อยู่ สถานที่ทำงานของตนเอง แจ้งความสัมพันธ์กับผู้ที่ป่วย แจ้งชื่อ อายุ เพศ สัญชาติ ที่อยู่ปัจจุบัน และอาการสำคัญของผู้ป่วยด้วย โดยสามารถแจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังศูนย์บริการสาธารณสุข ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือสำนักอนามัย กทม. หรือสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค หรือโรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน


ส่วนการหาเตียงให้ผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยที่มีหลักประกันสุขภาพ ติดต่อกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) โทร.1330 กรณีเป็นผู้ประกันตนแจ้งสำนักงานประกันสังคม โทร.1506 จะมีเจ้าหน้าที่ประเมินอาการเบื้องต้น ถ้ามีอาการไม่รุนแรง จะแนะนำให้แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) โดยจะจัดส่งชุดเวชภัณฑ์ดูแลรักษาโรคเบื้องต้นไปให้ที่บ้าน

หากผู้ป่วยไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจขั้นยืนยันผลด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้ง หากผลเป็นบวกหรือติดเชื้อ จะทำการส่งตัวเข้าศูนย์พักคอย (Community Isolation) เพื่อให้ผู้ป่วยเข้ามาอยู่ในความดูแลของบุคลากรทางการแพทย์และรับยาได้ทันที โดยในส่วนของศูนย์พักคอยจะมีใบยินยอม ให้ผู้ป่วยกรอกรายละเอียดข้อมูลก่อนเข้ารับการรักษาในศูนย์พักคอย หรือในกรณีที่ผู้ป่วยเดินทางไปตรวจที่หน่วยบริการ ซึ่งทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit แล้วมีผลเป็นบวกที่แสดงว่าติดเชื้อ จะทำการส่งตัวเข้าศูนย์พักคอยก่อน โดยไม่ต้องรอผลตรวจตรวจ RT-PCR ระหว่างนี้ให้แยกอยู่ไม่ปะปนกับผู้ป่วยยืนยันรายอื่น


ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมศูนย์พักคอย โดยมีเป้าหมายกำหนดให้ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมี 50 สำนักงานเขตต้องมีเขตละ 1 ศูนย์ ศูนย์ละ 100 เตียง และหากเป็นไปได้บางเขตมีได้ 2 ศูนย์ ซึ่งจะได้เตียงผู้ป่วยเพิ่มอีก 5_000 เตียง หรือหากทุกเขตใน กทม. มี 2 ศูนย์พักคอยในแต่ละเขต เราจะได้เตียงผู้ป่วยเป็น 10_000 เตียง ซึ่งตอนนี้ กทม.เปิดศูนย์พักคอยรองรับแล้ว 49 เขต ในพื้นที่ 47 เขต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โทร. 02-245-4964

ที่มา http://www.farmkaset..link..
กนก แนะรัฐเร่งทบทวนนโยบายใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด ครม.มติหนุนแต่สธ.ให้ใช้ Favipiravir
กนก แนะรัฐเร่งทบทวนนโยบายใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด ครม.มติหนุนแต่สธ.ให้ใช้ Favipiravir
"กนก" แนะรัฐเร่งทบทวนนโยบายใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด หลังครม.มติหนุน แต่สธ.ให้ใช้ Favipiravir ชี้โจทย์ใหญ่รัฐบาลต้องเร่งวิจัยศักยภาพ-ส่งเสริมการปลูก เชื่อช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้

เมื่อวันที่ 29 ก.ค.นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาฟ้าทะลายโจรขาดแคลน เพราะความต้องการสูงในขณะนี้ว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องทบทวนว่าจะกำหนดนโยบายและวางอนาคตของสมุนไพรไทยอย่างไร เพราะในขณะนี้ ฟ้าทะลายโจรมีผลการวิจัยโดยแพทย์แผนปัจจุบันยืนยันแล้วว่าสามารถช่วยรักษาโรคไวรัสโควิด 19 ได้ และสามารถบอกได้จากการทดลองเชิงปฏิบัติกับผู้ป่วยแล้วว่าจำนวนหรือปริมาณการรับประทาน สารออกฤทธิ์ในฟ้าทะลายโจร คือ แอนโดรกราฟโฟไลด์ (Andrographolide) ต่อวัน และสามารถเปรียบเทียบผลกับผู้ป่วยที่ไม่ได้ทานฟ้าทะลายโจร แล้วพบว่าฟ้าทะลายโจรมีความปลอดภัยสูงต่อผู้ป่วย มีสิทธิภาพ ต่อการรักษาดี อีกทั้งหาได้ง่ายและราคาถูกสำหรับคนไทย เพราะฟ้าทะลายโจรเป็นพืชที่ปลูกได้ในทุกพื้นที่ ของประเทศ การที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการใช้ฟ้าทะลายโจร เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 เพื่อการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่ยังไม่มีอาการโรค โดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ยืนยันถึงประสิทธิภาพของการรักษาโรคโควิด 19 ของฟ้าทะลายโจร แต่ถ้าเข้าไปดูแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 21 ก.ค.64 ของกระทรวงสาธารณสุข แนะนำเรื่องการรักษา Covid-19 กรณีผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ให้ใช้ยา Favipiravir เท่านั้น ไม่ปรากฏฟ้าทะลายโจรอยู่ในแนวเวชปฏิบัติของกระทรวง

นายกนก กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่ายังมีความย้อนแย้งอยู่ในส่วนนโยบายการรักษา จึงต้องเร่งทบทวนกำหนดนโยบายที่ชัดเจน ทำไมประกาศฉบับหลังสุดคือ 21 กรกฎาคม 2564 จึงไม่มีฟ้าทะลายโจรในประกาศของแนวทางเวชปฏิบัติ ซึ่งส่งผลให้แพทย์ในโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขและแพทย์ทั่วไปไม่กล้าที่จะใช้ฟ้าทะลายโจรกับผู้ป่วยโควิด 19 อีกทั้งสปสช.ก็ไม่อาจจะนำฟ้าทะลายโจรรวมเข้าเป็นค่าใช้จ่ายการรักษาตามระบบ ประกันสุขภาพด้วย ผลที่ตามมาคือการใช้ยา Favipiravir ราคาแพงกว่าฟ้าทะลายโจรเป็นร้อยเท่า จะทำให้ค่ายารักษาโรคโควิด 19 สูงขึ้นอย่างมาก และถ้าองค์การเภสัชกรรมผลิตยา Favipiravir ไม่ทันกับความต้องการ อาจต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศที่ทำให้เสียทั้งเงินและเวลามากขึ้น คำถามที่กระทรวงสาธารณสุขต้องตอบประชาชนคือ ทำไมจึงไม่บรรจุฟ้าทะลายโจรลงในแนวทางเวชปฏิบัติฯ เพื่อให้เกิดการใช้ฟ้าทะลายโจรอย่างถูกต้อง กว้างขวาง และเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยจำนวนมหาศาลที่กำลังรอเข้าโรงพยาบาลสนาม

“ฟ้าทะลายโจรมีสารออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาโรคโควิด 19 มาก แต่การจะนำ ฟ้าทะลายโจรมาเป็นยารักษาโรคที่ได้มาตรฐานอย.นั้น เกี่ยวข้องกับกระบวนการอื่น ๆ อีกมาก ตั้งแต่การปลูกฟ้าทะลายโจรที่ปลอดภัย การเก็บเกี่ยวที่รักษาคุณภาพสารออกฤทธิ์ การแปรรูปเป็นแคปซูลที่ได้มาตรฐานจนถึงการใช้ที่ถูกต้อง รวมไปถึงการทำให้ฟ้าทะลายโจรเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศที่เกษตรกรได้รับส่วนแบ่งจากราคาปลีกของฟ้าทะลายโจรอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่มีเพียงบริษัทยาเท่านั้นที่ได้ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ และเกษตรกรได้เพียงราคาฟ้าทะลายโจรกิโลกรัมละ 100 บาทเท่านั้น ประเด็นเหล่านี้เกี่ยวข้องกับงานวิจัยหลายด้านที่ต้องทำเพิ่ม เกี่ยวข้องกับการวางโครงสร้างพื้นฐานของการผลิตและแปรรูปสมุนไพร ของประเทศ จนถึงเกี่ยวกับการยอมรับยาสมุนไพรของชาติและประชาชนโดยรวม โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องคิดไปข้างหน้า เพื่อใช้ศักยภาพของฟ้าทะลายโจรให้เกิดประโยชน์ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ในยุคโควิด-19 อย่างไร แต่ไม่ว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร โครงการสกลนครโมเดลที่ผมและทีมงานจะเดินหน้าขับเคลื่อน ฟ้าทะลายโจรเป็นหัวขบวนของการใช้สมุนไพรเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศต่อไป” นายกนก กล่าว

ที่มา http://www.farmkaset..link..
วิธีปลูกกระชาย สมุนไพรมากสรรพคุณ ทำอาหารได้หลายเมนู
วิธีปลูกกระชาย สมุนไพรมากสรรพคุณ ทำอาหารได้หลายเมนู
เป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรที่มาแรงไม่แพ้ ฟ้าทะลายโจร เลยทีเดียว หลังจากมีข่าวว่า กระชาย มีฤทธิ์ต้านไวรัสโควิดได้ดีในหลอดเพาะเชื้อ ส่วนประสิทธิภาพการรักษาในคนต้องรองานวิจัยเพิ่มเติม แต่ก็ทำให้ราคาของกระชายเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากหลักสิบเป็นหลักร้อยต่อกิโลกรัม แถมยังมีคนนำไปทำเป็นส่วนผสมทำเครื่องดื่มและอาหารขายกันมากมาย หากใครอยากลองปลูกกินเองที่บ้านหรือจะเพาะในสวนไว้ขายสร้างรายได้ รวมข้อมูลมาฝากกันแล้ว

ลักษณะกระชาย
กระชาย กระชายขาว หรือ กระชายเหลือง (Fingerroot_ Chinese ginger_ Chinese keys_ Galingale) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าสั้น ๆ ค่อนข้างกลมเรียงต่อกัน เหง้าตรงกลางจะมีขนาดใหญ่กว่าแง่งด้านข้าง เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาล เนื้อด้านในสีเหลือง รากอวบยาว ปลายแหลมออกเป็นกระจุก ผิวสีน้ำตาลอ่อน เหนือดินเป็นกาบใบสีแดงเรื่อย ๆ 3-6 กาบ หุ้มซ้อนกันเป็นชั้นความสูงต้นประมาณ 80 เซนติเมตร มีใบเดี่ยวเรียงสลับ โคนสอบปลายเรียวแหลม ออกดอกเป็นช่อ มีทั้งดอกสีขาวและสีขาวอมชมพูบริเวณยอด มีผลแห้งแต่เมื่อแก่จะไม่แตก

การขยายพันธุ์กระชาย
วิธีปลูกกระชาย
กระชายสามารถขยายพันธุ์ได้ 2 วิธีคือ ปลูกด้วยต้นและเหง้า หัวพันธุ์ที่ดีควรมีอายุประมาณ 7-9 ดือน ลักษณะสมบูรณ์ ไม่มีโรคหรือแมลงรบกวน ก่อนปลูกควรแช่ในน้ำยาป้องกันเชื้อราและสารป้องกันแมลงในดินก่อน 30 นาที เหมาะสำหรับปลูกในดินร่วนซุยอุดมสมบูรณ์ พื้นที่แดดรำไร มีความชื้นสูง ควรเริ่มปลูกช่วงพฤษภาคมไปจนถึงธันวาคม เพราะกระชายจะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว

ทั้งนี้กระชายหัวจะขายได้ดีกว่ากระชายซอย ก่อนหน้านี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 30-40 บาท ต่อกิโกกรัม ก่อนจะพุ่งสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2564 มาอยู่ที่ประมาณ 105-135 บาท ต่อกิโลกรัม

หมายเหตุ : ***ราคาเฉลี่กระชาย ณ วันที่ 1 ม.ค. - 29 ก.ค. 64 จาก kasetprice
วิธีปลูกกระชายในกระถาง
ตัดหัวหรือเหง้าที่สมบูรณ์ให้ติดรากประมาณ 2-3 ราก ทารอยแผลที่ถูกตัดด้วยปูนแดง พร้อมกับนำไปตากในที่ร่มจนกว่าปูนจะแห้ง
จากนั้นนำเหง้าที่ได้ไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 คืน เตรียมไว้ประมาณ 3-5 หัวต่อกระถาง
นำดินที่จะปลูกมาตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน แล้วนำไปผสมกับปุ๋ยคอก ในอัตราดิน 2 ส่วนต่อปุ๋ยคอก 1 ส่วน
กระถางที่นำมาใช้ควรมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15-18 เซนติเมตร จากนั้นใส่ดินที่เตรียมไว้ลงไปประมาณ 3 ใน 4 ส่วน
นำเหง้ากระชายมาปลูกในกระถาง แล้วกลบด้านบนด้วยดินอีกชั้น จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม ประมาณ 1 เดือน ก็จะมีแตกใบอ่อนให้เห็นแล้ว
วิธีปลูกกระชายในแปลงปลูก
วิธีปลูกกระชาย
ขุดไถดินตากไว้ประมาณ 7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรคและศัตรูพืช จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกและพรวนดินอีกครั้ง เพื่อให้ดินโปร่งระบายน้ำได้ดี
นำเหง้ากระชายมาแบ่งส่วน ตัดแต่งรากให้เหลือเพียง 2 ราก
ยกแปลงสูงประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันดินยุบเมื่อฝนตก จากนั้นนำเหง้าที่เตรียมไว้มาปลูกลงหลุมขนาด 15 เซนติเมตร ระยะปลูก 30x30 เซนติเมตร แล้วกลบดินให้หัวเสมอผิวดิน
นำฟางหรือหญ้าแห้งมาคลุมหน้าดินความหนาประมาณ 2 นิ้ว พร้อมกับรดน้ำให้ชุ่ม เพื่อป้องกันวัชพืชและรักษาความชื้นในดิน
หมั่นให้น้ำ 2–3 วันต่อครั้ง และกำจัดวัชพืชสม่ำเสมอ
วิธีเก็บเกี่ยว
วิธีเก็บเกี่ยวกระชายให้ใช้มือถอนหรือจอบขุด แต่ควรถอนช่วงที่ดินชื้น หรือรดน้ำให้ดินชุ่มก่อนหากดินแห้ง เพื่อป้องกันเหง้าเสียหายขณะเก็บเกี่ยว โดยส่วนใหญ่กระชายจะเก็บเกี่ยวได้หลังปลูกประมาณ 7-8 เดือน หรือเมื่อใบและลำต้นมีสีเหลืองและยุบตัวลง ทั้งนี้หากต้องการขยายช่วงเวลาเก็บเกี่ยว ควรคลุมหน้าดินด้วยฟางและรดน้ำเป็นครั้วคราว เพื่อป้องกันเหง้าและรากฝ่อในช่วงฤดูร้อน

โรคที่ต้องระวัง
โรคเน่า ส่วนมากจะระบาดในดินทราย ดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ดินที่มีสภาพเป็นกรดหรือดินที่มีการใส่ปุ๋ยเคมีในปริมาณมาก นอกจากนี้ไม่ควรปลูกกระชายที่เดิมซ้ำหลายปี หากต้องการปลูกควรปรับปรุงดินก่อน โดยการผสมปูนขาวในดินอัตราส่วน 200-300 กิโลกรัมต่อไร่

ประโยชน์กระชาย
วิธีปลูกกระชาย
กระชายเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งในแง่ของการบำรุงร่างกาย และใช้เป็นยาบรรเทาอาการต่าง ๆ อาทิ ท้องร่วง ท้องเดิน ท้องอืด โรคกระเพาะ ลำไส้ใหญ่อักเสบ นอกจากนี้ยังถือเป็นยาอายุวัฒนะ ที่มีรสเผ็ดร้อนขม กลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัวด้วย แถมยังทำอาหารได้หลากหลายอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดสุรินทร์_ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร_
กรมส่งเสริมการเกษตร_ สวนพฤกษศาสตร์ และกรมวิทยาศาสตร์บริการ

ที่มา http://www.farmkaset..link..
พช.โคราช นำร่อง “1 วัด 1 สวนสมุนไพร ต้านภัยโควิด – 19” เพิ่มพื้นที่ขยายผลการปลูกพืชสมุนไพรไทย
พช.โคราช นำร่อง “1 วัด 1 สวนสมุนไพร ต้านภัยโควิด – 19” เพิ่มพื้นที่ขยายผลการปลูกพืชสมุนไพรไทย
วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 16.00 น. นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายสิทธิชัย พรทิพย์พิทักษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นางจำเรียง มณีพินิจ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน นางสาวธัญลักษณ์ ชันไธสง ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานและสนับสนุนการบริหารงานพัฒนาชุมชน และนักวิชาการ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมทำกิจกรรมศูนย์แบ่งปันขยายผลการปลูกพืชผักสวนครัว และพืชสมุนไพรไทย “1 วัด 1 สวนสมุนไพร ต้านภัยโควิด – 19” เพื่อเป็นคลังสมุนไพรแบบพึ่งพาตนเอง โดยใช้พื้นที่วัด เป็นพื้นที่แบ่งปันให้กับชุมชนสำหรับนำมาบริโภค และทำเป็นยาสมุนไพร เสริมหรือทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบันในการต้านเชื้อโควิด-19
โดยได้รับความเมตตาจาก พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง) อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อนุญาตให้ใช้พื้นที่ว่างภายในบริเวณวัดบึง (พระอารามหลวง) เป็นจุดนำร่อง บูรณาการขับเคลื่อนขยายผลเพิ่มพื้นที่การปลูกพืชสมุนไพรไทย และช่วยรณรงค์ให้ทุกวัดใช้พื้นที่ในบริเวณวัดปลูกสมุนไพรแบ่งปัน ภายใต้โครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง และโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๘ พรรษา
ท่านพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดบึง (พระอารามหลวง) กล่าวปาฐกถาว่า “ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในทั่วประเทศ นับวันยิ่งทวีคูณขึ้น และในส่วนของจังหวัดนครราชสีมาเองนั้นก็เป็นพื้นที่ของการระบาดของโรคเป็นอย่างมาก คนป่วยมีจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลที่รักษาไม่เพียงพอ ดังนั้นการดูแลตัวเอง การพึ่งตนเอง โดยการปลูกพืชสมุนไพรไว้เพื่อนำไปแปรรูปบริโภคในครัวเรือน เช่น ฟ้าทะลายโจร กระชาย และสมุนไพรไทยชนิดต่างๆ ซึ่งได้มีผลการวิจัยว่าสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิด-19 ได้ดี วันนี้อาตมาจึงมีความปรารถนา และยินดีอย่างยิ่งที่จะใช้พื้นที่ว่างภายในวัดได้ทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่พี่น้อง ญาติโยม ทั้งหลาย รวมถึงพระลูกวัดที่จะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันจากสมุนไพรที่ปลูกในวันนี้ จากนั้นก็จะได้ขยายผลไปสู่วัดต่างๆ ในทุกระดับให้มีการปลูกสมุนไพรไว้ใช้ และแบ่งปันให้กับญาติโยม และพี่น้องประชาชนในชุมชนนำไปขยายผลกันต่อไปให้ทั่วถึง”
ด้าน นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้มีนโยบายในการขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง ศูนย์แบ่งปันพืชผักสวนครัว และรณรงค์ส่งเสริมให้ชุมชนปลูกพืชสมุนไพรไทยโดยผู้นำทำเป็นต้นแบบ “ผู้นำต้องทำก่อน” และเพิ่มพื้นที่การปลูกพืชสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร กระชาย ชิง ข่า ตะไคร้ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นพืชสมุนไพรไทยทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกัน และบรรเทายับยั้งการติดเชื้อไข้หวัด หรือ เสริมสร้างภูมิต้านทานในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ สำหรับไว้ใช้เองในครัวเรือนและแบ่งปันกันในชุมชน ขณะที่นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้จัดกิจกรรม Kick Off “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักแบ่งปัน” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ (28 กรกฎาคม 2564) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยจังหวัดได้กำหนดการจัดกิจกรรมศูนย์แบ่งปัน ไว้ 5 จุดดำเนินการ แบ่งตามกลุ่มโซนอำเภอ แต่ละกลุ่มโซนอำเภอจะได้รับการสนับสนุนพันธุ์พืชสมุนไพรสนับสนุนศูนย์แบ่งปันจังหวัด เพื่อนำไปจัดกิจกรรมในพื้นที่ต้นแบบที่ได้ขยายผลตามโครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผลผลิตที่ได้นำไปแจก แบ่งปันให้ประชาชนในชุมชน ได้ขยายพันธุ์ปลูก และบริโภคให้ครบทุกครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดังกล่าวข้างต้น จังหวัดนครราชสีมาได้มอบนโยบายให้ทุกอำเภอ บูรณาการส่วนราชการ องค์กร ภาคี เครือข่าย ร่วมกับผู้นำการเปลี่ยนแปลง และครัวเรือนจิตอาสา ร่วมใจกันรณรงค์ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดไปทั้งเดือนสิงหาคม 2564 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564 เพื่อให้เกิดความมั่นคงทั้งในด้านอาหารและด้านสมุนไพรไทย ควบคู่กันไป

ณ วัดบึง (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

#ChangeForGood
#CDD #กรมการพัฒนาชุมชน
#พช_นครราชสีมา #CNS
📸 ที่นี่โคราช สถานีข่าว พช. รายงาน

ที่มา http://www.farmkaset..link..
5 สมุนไพรพื้นบ้าน สร้างภูมิป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
5 สมุนไพรพื้นบ้าน สร้างภูมิป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
หลังจากมีการประกาศว่าพืชสมุนไพรสามารถต้านเชื้อไวรัสได้ โดยเฉพาะยาฟ้าทลายโจร ก็ทำให้ยาฟ้าทลายโจรถึงกับขาดตลาด และมีราคาพุ่งสูงปรี๊ด เนื่องจากหลายคนมีการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณยาที่ผลิตออกสู่ท้องตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

เช่นเดียวกับกระชายขาว ที่ปัจจุบันเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระชายขาวสด หรือกระชายขาวสกัดเม็ด ซึ่งจากความต้องการที่เพิ่มขึ้ ทำให้เริ่มมีการตั้งข้อสังเกตในตัวสมุนไพรอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติสร้างภูมิคุ้มกัน และต้านไวรัส ว่าจะขาดตลาดตามาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น กระเทียม ขิง หรือมะขามป้อม และเพื่อให้เพื่อนๆ ได้รู้จักพืชสมุนไพรสร้างภูมิคุ้มกัน และต้านไวรัสกันมากขึ้น วันนี้ สามย่านมิตรทาวน์ มีข้อมูลควรรู้ของสมุนไพร 5 ชนิดอย่าง ฟ้าทลายโจร กระชาย ขิง มะขามป้อม และกระเทียม มากฝาก

1.ฟ้าทะลายโจร
เป็นสมุนไพรที่ช่วงนี้ได้ยินชื่อกันมาพักใหญ่แล้ว เนื่องจากมีงานวิจัยที่รับรองแล้วว่า ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย โดยเฉพาะกลไกในการต้านไวรัสเข้าสู่เซลล์ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสที่ปอด ช่วยขับเหงื่อ และบรรเทาอาการ ไข้ ไอ และเจ็บคอ เป็นต้น

2.กระชายขาว
เป็นพืชสมุนไพร ที่มีสารแพนดูราทิน (pan-duratin) มีฤทธิ์ในการต้านไวรัสทั้งในระยะก่อนและหลังการติดเชื้อ และยังฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเชื้อเอดส์ ต้านไวรัสไข้เลือดออกในกลุ่ม Flaviviridae family และยังยั้งเชื้อพิโคร์นาไวรัส (picornaviruses) ซึ่งก่อโรคมือเท้าปาก สามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดี แต่เนื่องจากกระชายมีฤทธิ์ร้อน อาจส่งผลให้เกิดอาการร้อนใน ดังนั้น จึงไม่ควรบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป

3.ขิง
เป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อร่างกาย เพราะมีทั้ง วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และเส้นใยจำนวนมาก โดยปกติทั่วไปมักจะนำมากินแก้หวัด เนื่องจากขิงมีรสเผ็ดร้อน จึงมีฤทธิ์ต้านไวรัสไขหวัดใหญ่ มีสรรพคุณช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต้านไวรัส ต้านการอักเสบ ลดเสมหะ แก้คัดจมูก เพิ่มการไหลเวียนโลหิตและขับเหงื่อ

4.มะขามป้อม
ป็นสมุนไพรพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เพราะมีวิตามินซีสูง นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต และใยอาหาร อีกทั้งยังมีสรรพคุณหลักเป็นยาแก้ไอ และละลายเสมหะ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น

5.กระเทียม
เป็นเครื่องสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด และเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ อีกทั้งยังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA และ RNA ของเซลล์ในร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์ช่วยลดไขมันในเลือด ลดโคเลสเตอรอล ลดการแข็งตัวของเลือด ลดความดัน ลดการปวดเกร็ง ยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย-รา-ไวรัส ต้านมะเร็ง มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความรุนแรงของการติดเชื้อ และช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วยให้สั้นลง

ปัจจุบันการวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับกันวงกว้าง เนื่องจากแต่ละชนิดมีสรรพคุณต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สมุนไพรไทยถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการช่วยป้องกันและบรรเทาอาการได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณข้อมูลจาก : คู่มือดูแลสุขภาพสำหรับประชาชนด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพร _ คลังความรู้สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และ medthai

ที่มา http://www.farmkaset..link..
ครู กศน.อำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ นำนักศึกษาสร้างศูนย์การเรียนรู้พืชสมุนไพร ต้านภัยโควิด-19
ครู กศน.อำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ นำนักศึกษาสร้างศูนย์การเรียนรู้พืชสมุนไพร ต้านภัยโควิด-19
นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรี เปิดเผยว่า คณะครู และ นักศึกษา กศน.อำเภอรัตนบุรี ได้ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรม สร้างศูนย์การเรียนรู้พืชสมุนไพร ต้านภัยโควิด-19 โดยปลูกพืชสมุนไพร อาทิ ฟ้าทะลายโจร ขิง ข่า ตะไคร้ ขมิ้น ณ บริเวณรอบสำนักงาน กศน. เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้พืชสมุนไพร สร้างความตระหนักให้กับนักศึกษา และประชาชนได้เห็นคุณค่า และสรรพคุณของสมุนไพรพื้นบ้าน ในการรักษาโรคเบื้องต้น ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง จึงได้นำผลไม้สด ไปมอบให้เป็นกำลังใจ

ทั้งนี้ การส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร เป็นไปตามนโยบายของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ และขยายผลสู่ชุมชน ซึ่งสมุนไพรที่ปลูก มีสรรพคุณสร้างภูมิคุ้มกันของอาการโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทั้ง เพื่อสร้างทักษะด้านอาชีพให้กับนักศึกษาในอนาคต โดยนำพืชสมุนไพร ไปขยายผลส่งเสริมการปลูกในชุมชนและครัวเรือน ตลอดจนได้มีแหล่งเรียนรู้พืชสมุนไพร ไว้ศึกษาค้นคว้า ตระหนักถึงคุณค่าและสรรพคุณของสมุนไพรพื้นบ้าน ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้

ที่มา http://www.farmkaset..link..
วัคซีน mRNA คืออะไร? วัคซีนป้องกัน โควิดที่เป็น mRNA มียี่ห้ออะไรบ้าง
วัคซีน mRNA คืออะไร? วัคซีนป้องกัน โควิดที่เป็น mRNA มียี่ห้ออะไรบ้าง
วัคซีน mRNA คืออะไร? จากกระแสความต้องวัคซีน mRNA ในบ้านเราจนเกิดแอชแท็กบนโลกออนไลน์ ทำให้การเปิดจองวัคซีนโมเดอร์นา จากหลายโรงพยาบาลเอกชนหมดในระยะเวลาอันรวดเร็ว หลายคนจึงอยากรู้จักวัคซีน mRNA ว่าคืออะไร วัคซีนยี่ห้อไหนบ้างที่เป็นวัคซีน mRNA วัคซีน mRNA มีประสิทธิภาพอย่างไร และทำไมถึงได้รับการยอมรับทั่วโลก

mRNA คืออะไร

mRNA คือรูปแบบการสร้างโปรตีนอย่างนึ่งของร่างกาย โดยทั่วไปร่างกายมนุษย์จะมีผลิต mRNA อยู่แล้ว แต่การสร้างวัคซีน mRNA คือการที่เราต้องการให้ร่างกายสังเคราะห์โปรตีนที่ลักษณะคล้าย ๆ โปรตีนหนาม หรือสไปค์ (spike) โปรตีนของไวรัส เป็นการจำลองลักษณะของไวรัสเข้ามาในร่างกายของเราโดยที่ไม่มีการติดเชื้อ ทำให้ร่างกายเตรียมพร้อมที่จะต่อสู่ หากมีเชื้อไวรัสตัวนั้นเข้าสู่ร่างกาย

วัคซีน mRNA ย่อมาจาก Messenger Ribonucleic Acid เป็นเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนรูปแบบใหม่ ที่ลงลึกถึงระดับโมเลกุล จากเดิมที่ใช้โปรตีนของไวรัส หรือใช้ไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนแอฉีดเข้าไปร่างกายเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมา แต่สำหรับเทคโนโลยี mRNA จะแตกต่างออกไป โดยชิวิธีฉีดพันธุกรรมโมเลกุลที่เรียกว่า mRNA เข้าไปในร่างกาย ซึ่งร่างกายก็จะสร้างโปรตีนที่มีลักษณะคล้ายหนามของไวรัสโควิด-19 แต่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ขึ้นมา ซึ่งโปรตีนตัวนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานเพื่อต่อสู่กับไวรัส นอกจากนี้วัคซีนยังมี ไขมันอนุภาคนาโน (lipid nanoparticle) ที่ใช้ห่อหุ้ม mRNA เพื่อป้องกันการ​ย่อยสลายจากเอนไซม์ไรโบนิวคลิเอสซึ่งมีอยู่ทั่วร่างกาย

โดยธรรมชาติ สารพันธุกรรม mRNA เหล่านี้จะถูกขจัดออกจากร่างกายภายในระยะเวลาไม่นาน จึงไม่สะสมหรือฝังตัวอยู่ในนิวเคลียสของเซลล์ในร่างกาย

ข้อดีของเทคโนโลยี mRNA

ใช้เวลาในการผลิตน้อยกว่าวัคซีนทั่วไป เนื่องจากใช้กระบวนการสังเคราะห์ในห้องปฎิบัติการ ไม่จำเป็นต้องอาศัยโรงงานขนาดใหญ่
การผลิตไม่ต้องใช้กระบวนการซับซ้อน
สามารถผลิตวัคซีนได้ในริมาณมาก
สามารถปรับปรุงวัคซีนเพื่อรองรับสายพันธุ์หากมีการกลายพันธุ์ได้ง่าย
แม้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้ และเป็นเทคนิคการผลิตวัคซีนแบบใหม่ ที่ยังไม่เคยใช้ในการผลิตวัคซีนตัวอื่น ทำให้มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยระยะยาว แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาอันสั้น ได้มีการนำไปใช้แล้วกว่า 100 ล้านโดส ทำให้มีประสบการณ์การใช้อย่างรวดเร็ว ที่ทำให้มั่นใจถึงความปลอดภัยได้
ข้อจำกัดของวัคซีน mRNA

ต้องเก็บรักษาวัคซีนที่อุณหภูมิต่ำมาก เนื่องจาก mRNA ถูกทำลายได้ง่าย
ต้องอาศัยนาโนพาร์ติเคิล (Nanoparticle) ซึ่งเป็นสารที่นำมาห่อหุ้มป้องกัน และเป็นตัวนำพา mRNA สารนี้อาจกระตุ้นการแพ้รุนแรงได้
การใช้วัคซีนชนิด mRNA ป้องกันโรคโควิด-19
ปัจจุบันทั่วโลกฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA มากกว่า 500_000_000 โดส จากการศึกษาพบว่ามีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่ำประมาณ 3-5 : 1_000_000 โดส ซึ่งใกล้เคียงกับวัคซีนอื่น ๆ ที่กำลังฉีดทั่วโลก โดยภาพรวมถือว่าวัคซีนชนิดนี้มีความปลอดภัยสูง และเป็นวัคซีนที่ได้ผลในการป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 สูงถึงร้อยละ 95

ปัจจุบันวัคซีน mRNA มียี่ห้ออะไรบ้างปัจจุบันวัคซีน mRNA มีอยู่ด้วยกัน 2 ยี่ห้อ (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2564) ได้แก่ ไฟเซอร์-โมเดอร์นา

วัคซีนไฟเซอร์
ประเทศผู้ผลิต คือ สหรัฐอเมริกา โดยบริษัท BioNTech/Pfizer มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีอาการโดยรวม ร้อยละ 95 มีคำแนะนำให้ฉีดกลุ่มอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์

วัคซีนโมเดอร์นา
ประเทศผู้ผลิต คือ สหรัฐอเมริกา โดยบริษัท Moderna มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีอาการโดยรวม ร้อยละ 94.1 ส่วนประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงโดยรวม ร้อยละ 100 โดยมีคำแนะนำให้ฉีดกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ห่างกัน 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน

ข้อมูลจาก http://www.farmkaset..link..
รับซื้อตรง ผลผลิตเกษตรกร ทั่วประเทศ หอการค้าไทย จับมือ กลุ่มเซนทรัล รับซื้อ พืช ผัก ผลไม้
รับซื้อตรง ผลผลิตเกษตรกร ทั่วประเทศ หอการค้าไทย จับมือ กลุ่มเซนทรัล รับซื้อ พืช ผัก ผลไม้
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่หอการค้าไทยได้ผลักดันการเพิ่มศักยภาพของเกษตรกร ด้วยการจับมือกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (Modern Trade) รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งพืช ผัก และผลไม้ ผ่านการประสานงานในพื้นที่กับหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเริ่มมีการรับซื้อไปบางส่วนแล้ว ขณะนี้ หอการค้าไทยได้ขยายความร่วมมือไปยังท็อปส์_ แฟมิลี่มาร์ท_ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกร ในการสร้างช่องทางการตลาดและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้ประกอบการกับหอการค้าไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ การร่วมเป็นพี่เลี้ยงในโครงการ Big Brother 3 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ Season 2 ถึง Season 4 โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของบริษัทในเครือที่มีความหลากหลายทางด้านธุรกิจ เข้ามาช่วยรับบริษัทน้องมา Coaching เชิงลึกจำนวน 24 ราย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทน้อง คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 95 ล้านบาท รวมถึงการเป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้หัวข้อ "การสร้างหน้าร้าน Omni channel" และจัดกิจกรรม Onsite Visit เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการบริหารจัดการคลังสินค้า การจัดส่งสินค้า การบริหารหน้าร้าน และการจัดทำฉลากสินค้าเพื่อการจัดจำหน่าย นอกจากนั้น ยังได้ร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ Digital Economy and E-Commerce ของหอการค้าไทย ริเริ่มโครงการ Cloud for Digital Transformation in Private Sector และนำเสนอให้สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย รับไปจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์ของประเทศต่อไป

"หอการค้าไทยเชื่อว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้จะเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ที่มักประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดได้เป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังเป็นหนทางในการบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยสร้างช่องทางทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการขนาดเล็ก และเชื่อมั่นว่า กลุ่มเซ็นทรัลจะเข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงในโครงการ Big Brother อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งนำเครื่องมือใหม่ ๆ มาช่วยเหลือ SME ได้มากยิ่งขึ้น" นายกลินท์ กล่าว

นางสุจิตา เพ็งอุ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ Large Format ผู้บริหารท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่นที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ อีกทั้งขาดช่องทางการจำหน่ายเนื่องจากตลาดส่งออกยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ การร่วมมือกับหอการค้าไทย จึงเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 2 โดยร่วมระบายผลผลิตให้ออกสู่ตลาดโดยเร็วที่สุด ด้วยการรับซื้อตรงผัก ผลไม้จากเกษตรกรทั่วประเทศ นำเข้าช่องทางจัดจำหน่ายผ่านทุกแพลตฟอร์มของท็อปส์และแฟมิลี่มาร์ท เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคเป็นวงกว้าง รวดเร็ว ทั่วประเทศ พร้อมทั้งส่งทีมจัดซื้อประจำภูมิภาคร่วมสำรวจและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างทันท่วงทีตามการแนะนำเพิ่มเติมจากหอการค้าไทย

"ปีที่ผ่านมา เรารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปทั่วประเทศ จาก 1_170 ชุมชน จำนวน 9_000 รายการ ช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่า 24_000 ครัวเรือนทั่วประเทศ แม้ว่าประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดแต่บริษัทฯ ยังขยายความช่วยเหลือต่อไป ในปี 2564 จากความร่วมมือกับหอการค้าไทยและเครือข่ายในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านโครงการความร่วมมือเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ ทำให้ท็อปส์และแฟมิลี่มาร์ท สามารถขยายความช่วยเหลือเกษตรกรได้เพิ่มมากขึ้น ใน 14 จังหวัด อีกกว่า 1_800 ครัวเรือน เช่น รับซื้อแก้วมังกร ส้มเขียวหวาน จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืนแพร่_ ส้มโอทับทิมสยาม กลุ่มเกษตรกรบ้านแสงวิมานจ.นครศรีธรรมราช_ มันแกวหวาน วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักริมโขง_ มะม่วงแรด จากวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก จ.ฉะเชิงเทรา_ ชมพู่ทับทิบจันทร์ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตชมพู่ทับทิบจันทร์ ดอนคา จ.ราชบุรี เป็นต้น" นางสุจิตา กล่าว

ด้าน นางสาวเมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ Small Format ผู้บริหารแฟมิลี่มาร์ท เปิดเผยว่า ในส่วนของแฟมิลี่มาร์ท แม้ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็ก แต่มีจุดแข็งคือจำนวนสาขาที่กระจายตัวในชุมชน ย่านการค้า อาคารสำนักงาน เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย จึงเป็นอีกช่องทางการจัดจำหน่ายที่จะช่วยเร่งระบายผลผลิตให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ โดยเน้นจำหน่ายผัก ผลไม้ตามฤดูกาลที่เป็นแพคเล็ก เช่น กล้วยหอม ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง ลิ้นจี่ แตงกวา มะเขือเทศ ผักสลัด ผักบุ้ง มะนาว หอมใหญ่ กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี และพริก เป็นต้น และอำนวยความสะดวกในทุกช่วงเวลาเร่งรีบกับผลไม้พร้อมรับประทาน เช่น สับปะรด ส้มโอ แก้วมังกร เมล่อน นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยที่มีความสนใจ ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่าย ซึ่งบริษัทฯ มีทีมจัดซื้อพี่เลี้ยงให้กับกลุ่ม SMEs ภายใต้โครงการ Big Brother ที่ดำเนินร่วมกับหอการค้าไทย เพื่อนำองค์ความรู้ ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ธุรกิจ SMEs เติบโตได้อย่างมั่นคง

นางสาวภาธิณี เลี้ยงหิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอีเว้นท์และประชาสัมพันธ์ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด กล่าวว่า ไทวัสดุภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพชีวิต และเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมทั้งเป็นสื่อกลางนำสินค้ามาจัดจำหน่าย ส่งผลให้วิสาหกิจชุมชนมีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้เป้าหมายในอนาคต ไทวัสดุยังคงมุ่งเน้นและตอกย้ำในการมีส่วนร่วมพัฒนาสินค้าชุมชนให้ยั่งยืนมากขึ้น โดยวางแผนในการเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าชุมชนต่าง ๆ จัดหาพื้นที่ในการสร้างตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับผู้ค้าได้ส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากท้องถิ่นถึงมือลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น

Reference: ryt9.com/s/prg/3210539
อ่าน:2994
22 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 2 หน้า, หน้าที่ 3 มี 2 รายการ
|-Page 2 of 3-|
1 | 2 | 3 |


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
โรงงานรับจ้างผลิตปุ๋ย OEM/ODM เป็นแบรนด์สินค้าของคุณ ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยเม็ด ไตรโคเดอร์มา บิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม จุลินทรีย์ย่อยสลาย ยาปราบฯ สารปรับสภาพดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ปุ๋ยเคมี ทำได้ทุกชนิด
เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท
ปุ๋ยยาฯ จุลินทรีย์ต่างๆ ปุ๋ยน้ำต่างๆ ปุ๋ยน้ำอะมิโน ไตรโคฯ ประเภทน้ำ ประเภทผง บรรจุขวด บรรจุซอง ทุกชนิด ฯลฯ
เริ่มต้นเพียง 45,000 บาท
ปุ๋ยเม็ดทุกชนิด บรรจุกระสอบ 50 กิโลกรัม บิ๊กแบ็ค 1 ตันเพื่อส่งออก กระสอบ 25 กิโลกรัม ทำได้ทุกชนิด ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สารปรับสภาพดิน อะมิโนเม็ดสกัด ฮิวมิค ฯลฯ
โทร 090-592-8614
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
มาเด้อกินข้าว "ลูกอิสาน" กินข้าวเหนียว กับอู๋ปลา ผักกระถินริมรั่ว ถั่วฝักยาว
Update: 2562/08/30 09:39:40 - Views: 3094
คุณปริม ปิยะมาศ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ มองสิ่งของแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อำนาจเจริญ
Update: 2562/09/02 19:38:59 - Views: 3022
สปก.ทุ่มสองพันล้าน พัฒนาศูนย์เรียนรู้ทั่วประเทศ 
Update: ././. .:.:. - Views: 3009
แก้โรคทุเรียนใบไหม้ ทุเรียนใบติด รักษาอาการทุเรียนใบไหม้ โรคใบติดทุเรียน ด้วยการฉีดพ่น ยับยั้งการระบาดของเชื้อรา
Update: 2563/07/02 14:34:05 - Views: 5492
กำจัดเพลี้ย ใน กะหล่ำดอก เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย บิวทาเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/05/15 14:13:01 - Views: 2994
ยากำจัดโรคราน้ำค้าง ใน แตงกวา โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/03 14:15:02 - Views: 6416
โรคไหม้ในพืช หรือเรียกว่าโรคใบไหม้ มีสาเหตุจากเชื้อราหลายชนิด มีชื่อเรียกต่างกันออกไป
Update: 2566/11/04 08:42:14 - Views: 205
การป้องกันและกำจัด โรคใบไหม้ และ โรคใบจุด ใน อินทผลัม ด้วย ไอเอส และ FK-1
Update: 2566/02/19 06:56:21 - Views: 3003
ยากำจัดโรคราสนิม ใน ฝรั่ง โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/03 11:38:41 - Views: 7537
มะละกอผลเน่า มะละกอใบไหม้ ราขาวมะละกอ ราดำมะละกอ ควบคุม ป้องกันกำจัด ก่อนโรคจะสร้างความเสียหาย
Update: 2566/11/04 19:44:55 - Views: 7989
คู่มืองป้องกันและกำจัดโรคในลำไย โรคราต่างๆ ใบไหม้ ราแป้ง ราสนิม กิ่งแห้ง และราอื่นๆ
Update: 2566/04/30 08:55:27 - Views: 16447
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนเจาะดอก ใน ดอกมะลิ และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/10 14:29:29 - Views: 3130
ชุดผลิตภัณฑ์คู่หู ดูแลต้นมะม่วง ปู๋ยน้ำอะมิโน บำรุงต้นมะม่วง แก้โรคเชื้อรา เพลี้ย หนอน ศัตรูมะม่วง โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/11 15:20:27 - Views: 7890
ความสำเร็จอันหอมหวานของการปลูกทุเรียน: คู่มือสำหรับเกษตรกร
Update: 2566/04/28 13:19:39 - Views: 14560
หากเราตากฝนตกปรอยๆ จะทำให้เราเป็นหวัดได้ แต่ตากฝนตกหนักนั้นไม่เป็นไร นี่เรื่องจริงนะเออ..
Update: 2564/09/05 01:47:10 - Views: 4209
การจัดการเพลี้ยในต้นถั่วพู: วิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดความเสียหาย
Update: 2566/11/20 12:54:43 - Views: 379
เริ่มต้นธุรกิจน้ำดื่มต้องรู้
Update: 2565/09/12 15:34:51 - Views: 3000
การรับมือกับโรครากเน่ายอดเน่าในสับปะรด: วิธีป้องกันและกำจัดโรคที่เกิดจากเชื้อราในสับปะรด
Update: 2566/11/08 12:55:15 - Views: 183
ราสนิมขาวผักบุ้ง โรคผักบุ้งใบไหม้ และโรคราต่างๆ สร้างความเสียหายต่อผลผลิต ควบคุม ป้องกันกำจัดก่อนเกิดความเสียหาย
Update: 2566/11/04 09:56:30 - Views: 7834
คำนิยม ขอบคุณลูกค้าท่านนี้ ทำสวนทุเรียน สั่งซื้อ FK-1 ฉีดพ่นทุเรียนต่อเนื่อง
Update: 2564/02/20 00:24:13 - Views: 3064
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022