[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | ค้นคำว่า - ตรวจฉลากโภชนาการ
12 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 1 หน้า, หน้าที่ 2 มี 2 รายการ

การทำฉลากโภชนาการ ขั้นตอนส่งตรวจฉลากโภชนาการ
การทำฉลากโภชนาการ ขั้นตอนส่งตรวจฉลากโภชนาการ



การตรวจ เพื่อออกฉลากโภชนาการ ติดต่อเซ็นทรัลแล็บเพื่อใช้บริการได้ง่ายๆแล้วในวันนี้ ผ่านทางเว็บไซต์ของเซ็ลทรับแล็บ ที่ให้บริการออนไลน์สำหรับตรวจวิเคราะห์ การทำฉลากโภชนาการ และการตรวจอื่นๆแล้ว เข้าใช้บริการได้ที่ http://ไปที่..link..

คลิบวีดีโอ อธิบายการกรอกฟอร์มส่งตรวจ http://ไปที่..link..
อ่าน:3046
ไส้กรอก-หมูยอ เปิดกฎหมายคุม คุณภาพห่วย โทษหนัก-คุกหัวโต
ไส้กรอก-หมูยอ เปิดกฎหมายคุม คุณภาพห่วย โทษหนัก-คุกหัวโต
ตรวจสอบข้อกฎหมายสำคัญคุมสินค้าไร้คุณภาพ หลังเกิดกรณีเจ้าหน้าที่บุกทลายแหล่งผลิตไส้กรอก ลูกชิ้น และหมูยอ ไม่มีคุณภาพ แสดงฉลากไม่ถูกต้อง

หลังจากเกิดกรณีพบผู้บริโภค ซึ่งเป็นเด็กหลายรายเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากการรับประทานไส้กรอก และเกิดภาวะ methemoglobinemia (เมธฮีโมโกลบินนีเมีย) จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานเป้าหมายใน จังหวัดชลบุรี

พร้อมตรวจสอบผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ทั้งไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ ซึ่งจากการเข้าไปฉลากผลิตภัณฑ์หลายรายการ ตรงกับฉลากผลิตภัณฑ์ที่ได้ข้อมูลจากผู้ป่วยว่าบริโภคแล้วเกิดอาการผิดปกติ และยังพบว่า ฉลากสินค้าไม่แสดงเลขสารบบอาหาร ถือเป็นการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง

อีกทั้งจากการตรวจสอบสถานที่ผลิตแห่งนี้ ตามหลักเกณฑ์ GMP ที่กฎหมายกำหนด พบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ (ได้คะแนนรวม 19 คะแนน คิดเป็น 16.67%) และยังพบข้อบกพร่องอื่น ๆ เช่น ไม่มีการควบคุมการผลิต ในกรณีที่มีการใช้วัตถุเจือปนอาหารอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตามหากมาดูในแง่การตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ พบว่า มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง ตั้งแต่ ฉลากสินค้า รวมไปถึงสถานที่ผลิต

โดยส่วนแรก คือ ฉลากสินค้า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 กำหนดรายละเอียดไว้ ดังนี้

1. ชื่อประเภท หรือชนิดของสินค้าที่แสดงให้เข้าใจได้ว่าสินค้านั้นคืออะไร กรณีที่เป็นสินค้าที่สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายให้ระบุชื่อประเทศที่ผลิต

2. ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้ผลิตเพื่อขายในไทย

3. ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในไทยของผู้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย

4. สถานที่ตั้งของผู้ผลิตเพื่อขาย หรือของผู้สั่งหรือผู้นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย แล้วแต่กรณี

5. แสดงขนาดหรือมิติ หรือปริมาณหรือปริมาตร หรือน้ำหนักของสินค้า แล้วแต่กรณี สำหรับหน่วยที่ใช้จะใช้ชื่อเต็ม หรือชื่อย่อ หรือสัญลักษณ์แทนก็ได้

6. ต้องแสดงวิธีใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าสินค้านั้นใช้เพื่อสิ่งใด

7. ข้อแนะนำในการใช้หรือห้ามใช้ เพื่อความถูกต้องในการใช้ที่ให้ประโยชน์แก่ผู้บริโภค เช่น ห้ามใช้ของมีคมกับการแซะน้ำแข็งในตู้เย็น

8.คำเตือน (ถ้ามี)

9.วันเดือนปีที่ผลิต หรือวันเดือนปีที่หมดอายุการใช้ หรือวันเดือนปีที่ควรใช้ก่อน วันเดือนปีที่ระบุนั้น เพื่อให้เข้าใจในประโยชน์ของคุณภาพหรือคุณสมบัติของสินค้านั้น (ถ้ามี)

10. ราคา โดยระบุหน่วยเป็นบาท และจะระบุเป็นเงินสกุลอื่นด้วยก็ได้

หากผู้ประกอบธุรกิจรายใดไม่จัดทำฉลากสินค้า หรือจัดทำฉลากไม่ถูกต้องตามประกาศดังกล่าว มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนต่อมาคือ กรณีการพบสารต้องห้ามในอาหาร โดยเฉพาะในไส้กรอก ลูกชิ้น และหมูยอ จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 25 ฐาน ผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากเป็นอาหารปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5_000 บาทถึง 1 แสนบาท

อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบแหล่งผลิต และยึดของกลางกว่า 32 รายการ เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ฝ่าฝืนมาตรา 6(7) สถานที่ผลิตอาหารไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP) โทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และฝ่าฝืนมาตรา 6(10) ผลิตภัณฑ์อาหารแสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
รู้หรือยัง! การขอ อย. ขั้นตอนและหลักฐานที่สำคัญ
รู้หรือยัง! การขอ อย. ขั้นตอนและหลักฐานที่สำคัญ
การทำธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับ เรื่องของกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดก็ตามจะต้องมีกฏหมายและมีมาตรฐานของธุรกิจนั้นๆที่ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้เข้ามาหากำไรจากการขายสินค้าและบริการที่ไม่มีคุณภาพอันจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะในหมวดหมู่ของอาหารเราจะคุ้นหูและรู้จักกันดีกับหน่วยงานที่เรียกว่าสำนักคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขผู้มีหน้าที่ให้การรับรองแก่สินค้าประเภทอาหารในลักษณะของเครื่องหมาย อย.

คำถามคือว่าแล้วจำเป็นแค่ไหนที่หากเราจะทำธุรกิจอาหารขึ้นมาจะต้องขออนุญาติทุกครั้งไปหรือไม่ และเพื่อให้ทุกคนเข้าใจในเรื่องนี้ตรงกันจะพาทุกท่านไปดูทีละขั้นตอนกับบทนิยมแห่งคำว่าอาหารไปจนถึงขั้นตอนการขอใบอนุญาต เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินธุรกิจของทุกคน นิยามคำว่าอาหารตามพระราชบัญญัติ อาหาร ในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 หมายถึง วัตถุทุกชนิดที่คนกิน ดื่ม หรือนำเข้าสู่ร่างการ แต่ ไม่รวมถึงยา วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หรือยาเสพติดให้โทษ

นอกจากนี้อาหารยังรวมถึงวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหาร วัตถุเจือปนอาหาร สี เครื่องปรุงแต่งกลิ่นรสด้วย โดยปัจจุบันนี้ประชาชนในท้องถิ่นต่าง ๆ ได้รวมตัวกันเป็นชมรมหรือสหกรณ์ นำวัตถุดิบที่ได้จากการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อบริโภคหรือจำหน่ายเป็นการช่วยลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ เช่น เครื่องดื่มทำจากผลไม้ท้องถิ่น เครื่องดื่มจากสมุนไพร กะปิ น้ำปลา ขนมหวาน อาหารขบเคี้ยว เป็นต้น

ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะต้องสะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพหรือมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ผู้ผลิตอาจต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายต่อไปซึ่งก็มีคำถามตามมาอีกว่าอ้าว! แล้วอาหารแบบไหนละที่ต้องขออนุญาตในการผลิต โดยในที่นี้ได้แบ่งไว้เป็น 2 หมวดหลักๆคือ 1.กลุ่มอาหารที่ไม่ต้องมีเครื่องหมาย อย. อาหารกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ไม่แปรรูปหรือถ้าแปรรูปก็จะใช้กระบวนการผลิตง่าย ๆ ในชุมชน ผู้บริโภคจะต้องนำมาปรุงหรือผ่านความร้อนก่อนบริโภค อาหารกลุ่มนี้ผู้ผลิตที่มีสถานที่ผลิตไม่เข้าข่าย โรงงาน (ใช้อุปกรณ์หรือเครื่องจักรต่ำกว่า 5 แรงม้า หรือคนงานน้อยกว่า 7คน) สามารถผลิตจำหน่ายได้โดยไม่ต้องมาขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แต่ต้องแสดงฉลากอาหารที่ถูกต้องไว้ด้วย 2.กลุ่มอาหารที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. อาหารกลุ่มนี้เป็นอาหารที่มีการแปรรูปเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรืออาหารสำเร็จรูปแล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้บริโภคในระดับต่ำ ปานกลางหรือสูง แล้วแต่กรณี ได้แก่

อาหารที่ต้องมีฉลาก อาหารกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน หรืออาหารควบคุมเฉพาะ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องขออนุญาตสถานที่ผลิตอาหารและขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร หรือจดทะเบียนอาหาร หรือแจ้งรายละเอียดของอาหารแต่ละชนิดแล้วแต่กรณี ได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

เอกสารสำคัญที่ต้องจัดเตรียมเพื่อขอจัดตั้งโรงงาน/สถานที่ผลิต สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจ สำเนาทะเบียนบ้านผู้มีอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (เฉพาะกรณีเป็นนิติบุคลล) สำเนา ภพ.20 (เฉพาะกรณีเป็นนิติบุคคล) สำเนาทะเบียนบ้านของร้าน หรือบริษัท (กรณีที่อยู่ดังกล่าว ไม่ตรงกับที่อยู่ผู้มีอำนาจ) แผนที่ตั้งของร้าน หรือบริษัท แผนผังภายในร้าน หรือบริษัท ระบุ สถานที่ผลิต_ บรรจุ_ เก็บสินค้า ให้ชัดเจน สินค้าตัวอย่างพร้อม ฉลาก ภาพจาก goo.gl/aLQjA8 อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตผลิตอาหาร ใช้คนงานตั้งแต่ 7 -19 คน โดยไม่ใช้เครื่องจักร จนถึงเครื่องจักรไม่ถึง 5 แรงม้า (เข้าข่ายโรงงาน) 3_000 บาท ใช้คนงานตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป โดยไม่ใช้เครื่องจักรจนถึงเครื่องจักรไม่ถึง 5 แรงม้า (เข้าข่ายโรงงาน) 5_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 5- 91 แรงม้า 6_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 10 -24 แรงม้า 7_000 บาท ใช้เครื่องจักรตั้งแต่ 25 – 49 แรงม้า 8_000 บาท ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังตั้งแต่ 50 แรงม้า ขึ้นไป 10_000 บาท

สำหรับกรณีไม่เข้าข่ายโรงงาน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น (ฟรี) หลักฐานสำคัญเพื่อใช้ขอรับเลขสารบบอาหาร (อย.) ใบจดทะเบียนอาหาร/แจ้งรายละเอียดอาหาร (แบบ สบ.5) จำนวน 2 ฉบับ สำเนาการได้รับอนุญาตตั้งสถานที่ผลิต ใบรับรองสถานที่ผลิตอาหารที่เทียบเท่าเกณฑ์ Primary GMP ภาพจาก goo.gl/kh2tba สรุป 4 ขั้นตอนการขอเครื่องหมาย อย. จัดเตรียมสถานที่ผลิตอาหารให้ได้ตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP: GOOD MANUFACTURING PRACTICE) จัดเตรียมเอกสารโดยติดต่อขอข้อมูลได้ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอที่เป็นที่ตั้งของสถานที่ผลิตอาหารทุกแห่ง ยื่นเอกสารขออนุญาตตั้งสถานที่ผลิตอาหาร พร้อมนัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อตรวจสถานที่ ยื่นขอเอกสารอนุญาตขอรับเลขสารบบ 13 หลัก (เลข อย.) ตามแต่ชนิดของผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่ม ได้แก่ อาหารควบคุมเฉพาะ_ อาหารที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน และอาหารที่ต้องมีฉลาก สถานที่ยื่นคำขออนุญาต

ในกรณีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอที่ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ (0ne stop service center )สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรณีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ต่างจังหวัดให้ยื่นคำขอ ณ สำนักงานสาธารณสุขในจังหวัดนั้นๆ นี่คือเรื่องพื้นฐานในทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่สันทัดในการเดินเอกสารก็มีหลายบริษัทที่เข้าทำหน้าที่รับดำเนินการแทน แต่เราก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายทางที่ดีเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากทำเองก็จะช่วยลดต้นทุนได้ดีกว่าสำคัญคือสินค้าเรามีคุณภาพสถานที่ผลิตได้มาตรฐานทุกอย่างก็ผ่านอนุมัติง่ายและเร็วแน่นอน แต่สำหรับท่านใดที่มองว่าอยากเริ่มธุรกิจแบบที่ไม่ต้องยุ่งยากไม่ต้องขอจดทะเบียนให้วุ่นวายก็อาจจะเลือกลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ซึ่งเรามีให้เลือกมากมายตามความต้องการของทุกท่าน

ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
เตือนกัญชาผสมในขนม เครื่องดื่ม กินเข้าไปมาก ส่งผลอาการรุนแรงได้เท่ากับเสพโดยตรง
เตือนกัญชาผสมในขนม เครื่องดื่ม กินเข้าไปมาก ส่งผลอาการรุนแรงได้เท่ากับเสพโดยตรง
25พ.ย.62-นพ. โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กัญชาจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 สามารถนำกัญชาไปทำการศึกษาวิจัย และพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และนำไปใช้ในการรักษาโรคภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์เท่านั้น ในประเทศไทย ยังไม่ได้รับการยกเว้น หรืออนุญาตให้ผลิต หรือนำเข้ากัญชาที่ผสมในอาหาร หรือเครื่องดื่ม แต่มีบางประเทศ เช่น รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา แคนาดาอนุญาตให้นำกัญชาผสมในขนม อาหาร หรือเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ และประชาชนสามารถใช้ได้เองอย่างถูกกฎหมาย ในรูปแบบของ คุกกี้ บราวนี่ ช็อกโกเลต ลูกอม อมยิ้ม เยลลี่ ขนมขบเคี้ยว หรือเครื่องดื่ม

แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการควบคุมคุณภาพในการผลิต ไม่มีสารอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีการจำกัดปริมาณและต้องมีฉลากระบุปริมาณของสารไว้อย่างชัดเจนภายใต้กฎหมายควบคุม และบรรจุในภาชนะที่ป้องกันเด็ก เนื่องจากอาจเข้าใจผิดว่าเป็นขนมเพราะส่วนใหญ่จะมี สี กลิ่น รส น่ารับประทาน จนทำให้เกิดอันตรายได้

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า กัญชามีสารสำคัญตัวหนึ่งคือ ทีเอชซี ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง คือ มีฤทธิ์ต่อสมองและทำให้ร่างกายอารมณ์ และจิตใจเปลี่ยนแปลงไป ทีเอชซีจะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ อารมณ์ดี หัวเราะและหัวใจเต้นเร็ว ต่อมาจะกดประสาททำให้ผู้เสพมีอาการมีนงง เซื่องซึมและง่วงนอน หากเสพเข้าไปในปริมาณมากๆจะหลอนประสาททำให้เห็นภาพลวงตา หูแว่ว ความคิดสับสน ควบคุมตนเองไม่ได้ มีการนำมาใช้ ในทางที่ผิดโดยการสูบ เคี้ยว หรือผสมกัญชาลงในอาหาร ในกรณีสูบกัญชาจะเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วภายใน 2-3 นาที และจะออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทได้สูงสุดถึง 1 ชั่วโมง

แต่การรับประทานใช้เวลาในการออกฤทธิ์นานราวหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่า และจะถูกเปลี่ยนแปลงในร่างกาย และถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ ในกรณีไม่เคยเสพกัญชา จะอยู่ในร่างกายได้นาน 2-5 วัน สามารถตรวจหาสารสำคัญของกัญชาได้ในปัสสาวะ ด้วยชุดทดสอบกัญชาเบื้องต้นและ ยืนยันผลโดยใช้เครื่องมือชั้นสูง ได้แก่ เครื่องแก๊สโครมาโตกราฟี-แมสสเปกโทรมิเตอร์ (GC-MS) ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้งที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักยาและวัตถุเสพติด

การรับประทานอาหารที่ผสมกัญชา ออกฤทธิ์ได้เช่นเดียวกับการเสพ แต่ช้ากว่า จึงพบอาการข้างเคียงจากการใช้กัญชาในปริมาณเกินขนาดจนเกิดอันตรายได้ แต่อย่างไรก็ตาม การออกฤทธิ์จะขึ้นกับชนิด ปริมาณของสารสำคัญ และการตอบสนองที่แตกต่างกันในแต่ละคน การรับประทานจะไม่ทำให้กลิ่นติดตัวเหมือนการสูบ จึงนิยมใช้ในสถานบันเทิง การผสมในอาหารส่วนใหญ่จะมีสี กลิ่น และรสที่น่ารับประทาน จะไม่สามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอกว่ามีกัญชา ผสมหรือไม่ แต่อาจสังเกตที่สัญลักษณ์บนฉลากจะมีคำว่า cannabis_ THC_ CBD หรือ Hemp ต้องระมัดระวังและ ไม่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า และให้ความรู้กับเยาวชนเพื่อป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ นพ.โอภาสกล่าว
ไขข้อข้องใจ … ทำไมแหนมถึงกินดิบได้?
ไขข้อข้องใจ … ทำไมแหนมถึงกินดิบได้?
ไขข้อข้องใจ … ทำไมแหนมถึงกินดิบได้?
การรับประทานอาหารดิบนั้นเสี่ยวต่อการเป็นโรคพยาธิ ปวดท้อง อุจจาระร่วง กล้ามเนื้ออักเสบ หายใจไม่สะดวกและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นเราจึงไม่นิยมรับประทานอาหารแบบดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบกันมากนัก แต่มีอาหารอยู่ชนิดหนึ่งที่มักจะเห็นหลายๆ คนรับประทานแบบดิบกันนั่นก็คือ แหนม นั่นเอง

แหนมทำมาจากเนื้อหมูดิบที่ผ่านกระบวนการหมักออกมาให้เราได้รับประทานกัน ซึ่งการหมักนั้นจะเกิดเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคได้หากผ่านการหมักไม่ได้มาตรฐาน แต่หลายๆ คนก็หลงลืมและมองข้ามไปแล้วนำมากินดิบๆ กัน โดยเฉพาะนักดื่มทั้งหลายมักจะนำแหนมมากินดิบเพื่อแกล้มกับเครื่องดื่ม ซึ่งถือว่าเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยมาก ดังนั้นเราแนะนำว่าให้เพื่อนๆ รับประทานเมนูแหนมต่างๆ แบบปรุงสุกให้ดีเสียก่อน แต่หลายๆ คนก็บอกว่าชอบรสชาติของการกินดิบมากกว่า จะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เราได้กินดิบๆ แบบสะอาดและปลอดภัยเพราะเห็นบางคนก็กินดิบกันแล้วไม่เป็นอันตรายอะไร

หากเพื่อนๆ อยากกินดิบเราแนะนำให้กินแหนมฉายรังสี เพราะแหนมฉายรังสีคือแหนมที่ทำมาเพื่อให้เรากินดิบได้โดยเฉพาะ และควรเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน อย่าง แหนมสุทธิลักษณ์ ที่ผ่านการฉายรังสี 2 กิโลเกรย์ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยต่อการรับประทานและยังได้รับการรับรองจาก WHO องค์การอนามัยโลก_ FAO องค์การอาหารและเกษตรสหประชาชาติ และ IAEA ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ และก็ไม่ต้องกังวลว่าแหนมฉายรังสีจะเป็นอันตราย เพราะว่าปลอดภัยมากๆ แถมยังสะอาดและได้มาตรฐานอีกด้วย

เพียงเท่านี้ก็เห็นแล้วว่าการรับประทานแหนมแบบดิบเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องเลือกแหนมที่ผ่านการฉายรังสีและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ หากคราวหน้าอยากรับประทานแบบดิบๆ ก็เลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
อยากขายของ ในห้าง ต้องอ่าน!
อยากขายของ ในห้าง ต้องอ่าน!
เชื่อแน่ว่าผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อยากขายของ และอยากจะให้สินค้าของตัวเองมียอดขายพุ่งกระฉุดกันทุกคน แต่ด้วยข้อจำกัดที่มากมายของธุรกิจ SMEs ก็อาจเป็นได้แค่เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้าเป็นไปได้ผู้ประกอบการหลายรายก็อยากจะให้สินค้าของตัวเองเข้าไปวางขายบนชั้นวางสินค้าของห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงร้านสะดวกซื้อต่างๆ เพราะจะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าได้อย่างแน่นอน

แต่การจะนำสินค้าเข้าไปขายในห้างเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของ SMEs มากนัก ถ้ามีความพยายามและตั้งใจอย่างแน่วแน่ โดยไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ วันนี้ มีเคล็ดลับการขายสินค้าผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงร้านสะดวกซื้อให้ประสบความสำเร็จ มาฝากผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ที่มีสินค้าดี และกำลังมองหาช่องทางการขายเหล่านี้

1.สินค้าต้องมีแบรนด์ ถึงแม้ว่าธุรกิจของคุณจะเป็น SMEs แต่ถ้าอยากจะติดปีกบินไปในท้องฟ้าที่กว้างใหญ่จำเป็นต้องมีแบรนด์สินค้า เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าสามารถจดจำสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อต้องจดจำได้ง่าย และสะท้อนถึงตัวตนสินค้าของคุณ อีกทั้งแพ็คเกจสินค้าต้องโดดเด่นสวยงามมีเอกลักษณ์ ดึงดูดสายตาลูกค้าได้ เพราะช่องการขายขนาดใหญ่เหล่านี้ ไม่ได้มีสินค้าของคุณวางจำหน่ายเพียงแบรนด์เดียว แต่มีสินค้าวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

2.ต้องสร้างความแตกต่าง หากคุณต้องการขายสินค้าในห้างให้ประสบความสำเร็จ สินค้าของคุณต้องมีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น เพราะจะสามารถสร้างความได้เปรียบมากกว่าสินค้าอื่นๆ อีกกว่าร้อยหรือพันรายการ ซึ่งจะเป็นเรื่องยากที่ลูกค้าจะหยิบหรือก้มดูสินค้าถ้าสินค้าของคุณไม่มีความแตกต่าง เพราะโดยพฤติกรรมของลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเดินไปที่สินค้าใหม่ๆ แปลกตา ซึ่งความแตกต่างของสินค้าจะเป็นจุดขายที่จะให้สินค้าคุณสามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ๆ ที่วางขายในช่องทางเดียวกันได้

3.ต้องรักษาคุณภาพสินค้า คุณภาพสินค้าเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องเอาใจใส่มากๆ เรียกได้ว่าจะต้องรักษาเอาไว้ยิ่งชีพเลยก็ว่าได้ เพราะในการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า คงคาดหวังว่าคุณภาพสินค้าที่ซื้อในวันนี้จะเหมือนกันกับที่ซื้อไปเมื่อครั้งก่อน หากคุณรักษาคุณภาพมาตรฐานสินค้าเอาไว้ก็จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำไปเรื่อยๆ คงไม่มีใครที่จะซื้อสินค้าที่มีคุณภาพแค่เพียงครั้งเดียว อีกทั้งถ้าคุณไม่รักสามารถรักษาคุณภาพสินค้าให้คงที่เหมือนเดิมได้ โอกาสที่สินค้าคุณจะถูกยกเลิกให้ขายในห้างก็มีสูง

4.ต้องส่งสินค้าต่อเนื่อง ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจ SMEs ประสบความสำเร็จและมียอดขายเพิ่มกระฉูดดั่งใจหวัง เพราะการส่งสินค้าเข้าไปวางขายในห้างหรือร้านสะดวกซื้ออย่างต่อเนื่อง จะทำให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าของคุณอย่างสม่ำเสมอ คนหนึ่งซื้อไปแล้วคนต่อไปก็สามารถหยิบจับและซื้อต่อได้ด้วย ไม่ใช่ซื้อไปแล้วคนหนึ่ง คนต่อไปต่อไปไม่สามารถหาซื้อได้ ดังนั้น หากคุณสามารถผลิตและส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ไม่ขาดตลาด ก็จะเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจคุณมียอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังทำให้คู่ค้าที่เป็นช่องทางการขายทั้งหลาย ให้ความไว้วางใจสินค้าของคุณให้ขายในห้างต่อไปได้ แต่ก็มี SMEs หลายรายที่สามารถนำสินค้าเข้าไปขายในช่องทางเหล่านั้นได้ ต้องหลุดจากวงโคจรไป เพราะไม่สามารถผลิตและส่งสินค้าได้ทันเวลาที่กำหนดไว้ได้ หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ ต้องทำการประเมินกำลังการผลิตสินค้าให้เพียงพอต่อการสั่งซื้อด้วย

5.ต้องมีความสามารถเจรจาต่อรอง หากคุณมีความสามารถในการเจรจาต่อรองกับคู่ค้าที่เป็นช่องทางการขายขนาดใหญ่แล้ว ก็จะเป็นการเปิดประตูโอกาสให้สินค้าคุณเข้าไปวางขายได้ โดยคุณต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่าสินค้าของคุณดีมีคุณภาพ ลูกค้าซื้อไปแล้วต้องกลับมาซื้อซ้ำอย่างแน่นอน ดังนั้น ถ้าคุณคิดที่จะนำสินค้าไปขายในช่องทางเหล่านี้ ต้องกล้าที่จะเข้าไปเจรจาต่อรองอย่างสมเหตุสมผล ว่าทำไมสินค้าของคุณจึงเหมาะที่จะขายในห้างหรือร้านสะดวกซื้อ เพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาการซื้อขายนั่นเอง สำหรับแบรนด์สินค้าตัวอย่างที่คนพูดถึงกันมาก ที่สร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับสินค้า จนสามารถเข้าไปวางขายในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11

กระทั่งประสบความสำเร็จและมียอดขายพุ่งกระฉุด เติบโตเป็นบริษัทขนาดใหญ่ก็มี ซึ่งผู้บริโภคหลายๆ คนอาจไม่คิดว่าสินค้าเหล่านี้จะสามารถขายได้ในช่องทางการขายเหล่านี้ นั่นเพราะสินค้าเหล่านี้มีการคิดค้นนวัตกรรมการผลิตที่แตกต่าง แปลกใหม่ บรรจุภัณฑ์สวยงาม มีคุณภาพ รสชาติอร่อย ได้แก่ ข้าวโพดต้ม (แบรนด์ วี คอร์น) เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดได้เพียงแค่ 6 เดือน แตกต่างจากข้าวโพดต้มข้างถนน เก็บได้นานถึง 8 วันในตู้เย็น บรรจุภัณฑ์มีความแปลกใหม่ดึงดูดสายตาผู้บริโภคได้ดี รสชาติอร่อย หวาน หอม ไม่ติดฟัน

กล้วยปิ้ง แบรนด์ Dole กล้วยปิ้ง ปัจจุบันไม่เพียงมีแค่แบบเสียบไม้ขายข้างทาง แต่ถูกยกระดับทำออกมาในรูปแบบสำเร็จรูปวาวขายใน 7-11 บรรจุภัณฑ์สวยงามปลอดภัย ภายในมีน้ำจิ้มให้ด้วย รสชาติอร่อย ถือเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ แต่เดิมหาซื้อกินได้เฉพาะกลางวัน แต่เดี๋ยวนี้สามารถซื้อกินได้ตลอด 24 ชั่วโมง สาหร่ายอบกรอบทะเล แบรนด์ เถ้าแก่น้อย เป็นสินค้าที่ผู้บริโภครู้จักกันเป็นอย่างดี เติบโตจากธุรกิจ SMEs จนสามารถเข้าตลาดหุ้นได้สำเร็จ โดยเถ้าแก่น้อยสร้างความแตกต่างในตลาดขนมขบเคี้ยวแบบเดิมๆ แม้เริ่มต้นจะผลิตขายในห้างไม่ได้เนื่องจากกระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน

จนทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อย บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเทียบเท่าญี่ปุ่น กระทั่งสามารถตอบสนองและครองใจผู้บริโภคได้สำเร็จ คุณได้เห็นแล้วว่า หากสามารถนำสินค้าที่ตัวเองผลิตขึ้นมาไปวางขายในห้างหรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ ได้ ก็จะเป็นโอกาสในการขยายตลาดให้กับสินค้าของคุณได้มากเลยทีเดียว เพราะช่องทางการขายเหล่านั้นมีมากมายกระจายทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะสามารถเข้าไปได้ ดังนั้น หากโอกาสนั้นมาถึง คุณต้องรักษาประโยชน์เอาไว้ให้จงได้ครับ

ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..ยากขายของ-ในห้าง-ต้องอ่าน/
วิธีสร้างความรวย
วิธีสร้างความรวย "ด้วยข้าวเกรียบปลา"
“ข้าวเกรียบ” เป็นอาหารว่างที่คนนิยมบริโภคกันมานาน และแพร่หลายไปทั่วประเทศ โดยใช้เป็นกับแกล้ม รับประทานเล่น และยังเป็นของฝากได้อีกด้วย

“ข้าวเกรียบ” เป็นอาหารว่างที่คนนิยมบริโภคกันมานาน และแพร่หลายไปทั่วประเทศ โดยใช้เป็นกับแกล้ม รับประทานเล่น และยังเป็นของฝากได้อีกด้วย เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ปัจจุบันจึงมีการผลิตข้าวเกรียบหลากหลายชนิดออกมา แต่ที่ยังคงครองความนิยมไม่เปลี่ยน คือ ข้าวเกรียบกุ้งและข้าวเกรียบปลา วันนี้ จึงนำข้อมูล “ข้าวเกรียบปลาทะเล” การแปรรูปวัตถุดิบที่มีอยู่มากในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ มาให้พิจารณาดู

ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลการทำ “ข้าวเกรียบปลาสด” คือ มาหามะ มูนะ ประธานกลุ่มข้าวเกรียบปลาบ้านใหม่ ต.กะลุวอเหนือ จ.นราธิวาส ซึ่งเล่าให้ฟังถึงการทำข้าวเกรียบปลาของกลุ่มว่า เพราะพื้นที่ตำบล กะลุวอเหนืออยู่ติดชายทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก สมัยก่อนนั้นจะมีปลาเยอะมาก แต่ละครัวเรือนจึงมักนำปลาที่เหลือมาถนอมอาหารและแปรรูปโดยการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ทำปลาเค็ม_ หมักทำนํ้าบูดู และทำข้าวเกรียบปลา ซึ่งสามารถนำไปขายตามตลาดได้ จากนั้นก็ได้ทำออกมาขายเรื่อย ๆ

ต่อมาระยะหลังปลามีน้อย จับปลาไม่ได้ รายได้หลักที่เคยได้จากการหาปลาขาดหายไป ทำให้แต่ละครัวเรือนเกิดปัญหาการเงิน จนในที่สุดเกิดการรวมตัวของกลุ่มแม่บ้าน เพื่อผลิตสินค้าชุมชนออกจำหน่ายในท้องตลาด ปัจจุบันสมาชิกกลุ่มข้าวเกรียบปลา มีรายได้เข้ากระเป๋าเฉลี่ยคนละหลายพันบาท

อุปกรณ์ ที่ใช้ในการทำ มี เตาแก๊ส เขียง ครก อ่างผสม แผ่นกระดานสำหรับปั้นข้าวเกรียบ ลังถึงสำหรับใช้นึ่ง มีดสำหรับหั่น กระด้ง หรือแผงสำหรับตากข้าวเกรียบ และเครื่องใช้เครื่องมืออื่น ๆ ที่หยิบยืมเอาจากใน ครัวได้

วัตถุดิบ ที่ใช้ มี แป้งมัน 1 กก. เนื้อปลาหลังเขียว 600 กรัม เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 3 ช้อนโต๊ะ นํ้าตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมโขลกละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ นํ้าเดือด 1 ถ้วยตวง นํ้าสะอาด ½1/2 ถ้วยตวง และเกลือเม็ด

ขั้นตอนการทำ “ข้าวเกรียบปลาสด”

เริ่มจากนำปลาหลังเขียวมาล้างให้สะอาด ควักไส้ทิ้งและชำแหละปลาเอาแต่เนื้อ นำเนื้อปลามาล้างนํ้าเกลือเพื่อดับกลิ่นคาว 1-2 ครั้ง ก่อนจะนำไปลวกนํ้าร้อนให้เนื้อปลาพอสุก ๆ ดิบ ๆ เสร็จแล้วนำเนื้อปลาที่ได้ไปโขลกหรือบดให้ละเอียดและเหนียว

โขลกพริกไทยกับกระเทียมให้ละเอียด แล้วนำส่วนผสมพริกไทยกระเทียมที่ได้มามาผสมกับเนื้อปลาที่บดเตรียมไว้ คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันดี ตั้งพักไว้สักครู่

เทแป้งมันที่เตรียมไว้ใส่ลงในอ่างผสม ค่อย ๆ เทนํ้าเดือดจัดลงในส่วนผสมแป้ง นวดแป้งกับนํ้าร้อนพอเข้ากัน แล้วจึงใส่ส่วนผสมเนื้อปลา ปรุงรสชาติด้วยเกลือ นํ้าตาล นวดส่วนผสมแป้งกับเนื้อปลาไปเรื่อย ๆ (ระหว่างนวด ต้องคอยพรมนํ้าทีละน้อย เพื่อไม่ให้แป้งแข็งจนเกินไป เพราะถ้าแป้งแข็งเกินไปข้าวเกรียบอาจจะแตกได้ )

เมื่อส่วนผสมแป้งกับเนื้อปลาเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน ให้ปั้นเป็นแท่งกลมยาว ใส่ลังถึงที่กรุด้วยใบตอง นึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วตั้งทิ้งไว้ค้างคืนเพื่อให้ผิวนอกแข็ง เพื่อสะดวกในการหั่น

ใช้มีดหั่นข้าวเกรียบที่นึ่งแล้วเป็นชิ้น ๆ ขนาดหนา-บางตามความต้องการ นำมาวางเรียงในกระด้งให้เต็ม ก่อนจะนำไปตากแดดประมาณ 1-2 แดด เมื่อข้าวเกรียบแห้งสนิทดีแล้ว ก็พร้อมบรรจุถุงขาย หากจะรับประทานก็ให้นำไปทอดนํ้ามันร้อนจัด ข้าวเกรียบจะพองตัว กรอบ อร่อย

ข้าวเกรียบปลาสดเป็นสินค้าที่นำรายได้มาสู่สมาชิกกลุ่มค่อนข้างสูง นอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีคุณภาพดี สด ใหม่ ผลิตจากปลาหลังเขียวแท้ ไม่มีสารกันบูด สารกันเชื้อรา ผงชูรส สารแต่งกลิ่นปรุงรสใด ๆ ไม่มีกลิ่นคาว


ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..

ผู้ประกอบการ SMEs OTOP วิสาหกิจชุมชน ท่านใดกำลังมองหาแล็บทดสอบผลิตภัณฑ์ด้าย เกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม
-เพื่อขอขึ้นทะเบียน อย.
-เพื่อจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า
-ส่งออกไปต่างประเทศ
-งานวิจัย
-เพื่อทราบผล

ให้เซ็นทรัลเเล็บไทยหนึ่งในผู้นำแล็บทดสอบผลิตภัณฑ์อันดับต้นๆของ ASEN และได้รับการยอมรับทั่วโลก ด้วยห้องปฏิบัติการมาตรฐานระดับสากล เป็นผู้ช่ายในการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ของท่าน ผ่านวิธีการทดสอบที่ถูกต้องแม่นยำและน่าเชื่อถือ

สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..
สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่ที่ต้องการตรวจฉลากโภชนาการ สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..
ขั้นตอน และเคล็ดลับ “SME” นำสินค้าขายใน ห้างสรรพสินค้า
ขั้นตอน และเคล็ดลับ “SME” นำสินค้าขายใน ห้างสรรพสินค้า
ปัจจุบันประเทศไทยมี ผู้ประกอบการ SME ที่อยู่ในระบบกว่า 3 ล้านราย แต่ในความจริงแล้วยังมี SME อีกมากที่ไม่ได้อยู่ในระบบ จึงประมาณการว่าโดยรวมแล้ว ประเทศไทยมีผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมไม่ต่ำกว่า 9 ล้านราย!

แน่นอนว่าผู้ประกอบการ SME ทุกคนที่พัฒนาสินค้าออกมาแล้ว อยากมี “ช่องทางการจำหน่าย” ที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าหนึ่งในช่องทางที่ SME อยากนำพาสินค้าของตัวเองเข้าไปขายคือ ช่องทางของ Modern Trade รายใหญ่ เพราะเชนค้าปลีกเหล่านี้ มีทั้งสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ

การนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่าย มีหลักเกณฑ์ และขั้นตอนที่พิจารณาคัดเลือก
5 วิธีการ และขั้นตอนนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า

1. ศึกษากลุ่มสินค้า

– อาหารสด และอาหารพร้อมรับประทาน
เนื้อสัตว์ อาหารทะเลสด และแปรรูป ผักสด ผลไม้สด และแปรรูป
อาหารพร้อมปรุง อาหารสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนม ไส้กรอก
เบเกอรี่ โดนัท คุกกี้ เค้ก

– อาหารแห้ง
ข้าวสาร น้ำมัน น้ำปลา ซอสปรุงอาหาร แป้ง เส้น

– เครื่องดื่ม
น้ำผลไม้ นม ชา กาแฟ เครื่องดื่มสมุนไพร

– ขนมขบเคี้ยว
ขนมอบกรอบ ลูกอม มันฝรั่ง ปลาเส้น ผลไม้อบแห้ง

– สุขภาพ/ความงาม
สินค้าดูแลหน้า เส้นผม ผิวพรรณ สุขภาพช่องปาก ยา และสินค้าทำความสะอาดร่างกาย

– ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาดพื้น

– สินค้าใช้ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น แอร์ หม้อหุงข้าว เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องนอน สินค้าตกแต่งบ้าน และปรับปรุงบ้าน
เครื่องใช้ในครัวเรือน หม้อ กระทะ จานชาม ช้อนส้อม
สินค้าใช้ทำความสะอาด และอุปกรณ์ทำความสะอาด

– เครื่องแต่งกาย
เครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี เด็ก และแฟชั่น

2. สินค้าต้องผ่านมาตรฐาน GMP / HACCP
ผู้ประกอบการที่จะนำเสนอสินค้าให้ห้างสรรพสินค้าพิจารณา โดยเบื้องต้นสินค้านั้นต้องมีมาตรฐาน GMP / HACCP ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิต ทั้งด้านความสะอาด ปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมายในด้านจริยธรรม และการจ้างแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย

3. เข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณา
โดยจะมีฝ่ายจัดซื้อ (Buyer) แต่ละแผนกสินค้าของห้างพิจารณาผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ มีกระบวนการพิจารณาอยู่ที่ 30 วัน

โดยทางห้าง และผู้ประกอบการธุรกิจ SME จะมีการพูดคุยร่วมกัน เช่น เงื่อนไขต่างๆ กำลังการผลิต ต้นทุนสินค้า สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องพัฒนา หรือปรับปรุงสินค้าเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของห้างสรรพสินค้า

หากสินค้าผ่านการคัดเลือก ห้างสรรพสินค้า และผู้ประกอบการ SME สามารถตกลงกันในเงื่อนไขต่างๆ ได้แล้ว ก็พร้อมให้สินค้านั้นเข้ามาวางสินค้านั้น เข้ามาวางจำหน่ายในสาขาต่างๆ

4. สินค้าที่วางขาย ต้องตอบโจทย์ความคุ้มค่าคุ้มราคา และสร้างผลกำไรให้กับห้าง– ผู้ประกอบการ
เนื่องจากเชื่อในการเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นอีกหนึ่งหลักเกณฑ์สำคัญของการพิจารณาสินค้าที่นำมาวางขายคือ ต้องสร้าง Win-Win ให้กับทั้ง 3 ฝ่าย

– ลูกค้า ซื้อสินค้าคุณภาพดี มีมาตรฐาน และความปลอดภัย ราคาเข้าถึงได้
– ผู้ประกอบการ ต้องทำแล้ว มีกำไร
– ห้างสพพสิรค้า ต้องมีกำไรเช่นกัน

ดังนั้น ปัญหาอย่างหนึ่งของ SME คือ ต้นทุนการผลิตสินค้า สูงกว่าราคาขายในร้านค้าปลีก หากเป็นเช่นนี้จะส่งผลให้ SME มีผลกำไรน้อย ไปจนถึงไม่มีกำไร และขาดทุน!

ด้วยเหตุนี้เอง ห้างสรรพสินค้า จึงมีทีมงานพัฒนาธุรกิจ และทีมพัฒนาคุณภาพสินค้า ให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการในด้านการลดต้นทุน เพราะถ้าผู้ประกอบการรายนั้นๆ ยังผลิตในต้นทุนที่สูงกว่าราคาขาย ย่อมไม่เกิดการค้าที่ Win-Win ได้ทุกฝ่าย

5. เมื่อสินค้าวางจำหน่ายแล้ว ต้องพัฒนามาตรฐานต่อเนื่อง – ทบทวนยอดขาย – ไม่หยุดนำเสนอนวัตกรรมใหม่
สินค้าที่ผ่านการคัดเลือก และได้วางจำหน่ายในห้างแล้ว ทั้งผู้ประกอบการ SME และห้างสรรพสินค้า จะทำงานร่วมกันแบบ “คู่ค้าพันธมิตร” (Business Partner) เพื่อสร้างการเติบโตด้วยกัน ประกอบด้วย

– ผู้ประกอบการตต้องทบทวนยอดขายกับทีมจัดซื้อเป็นประจำ
– มีการส่งเสริมการขายต่อเนื่อง
– มีการพัฒนามาตรฐานต่อเนื่อง ทั้งตรวจสอบคุณภาพ และรักษาคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ
– มีการนำเสนอสินค้าใหม่ หรือสินค้านวัตกรรมใหม่

ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..

ผู้ประกอบการ SMEs OTOP วิสาหกิจชุมชน ท่านใดกำลังมองหาแล็บทดสอบผลิตภัณฑ์ด้าย เกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม
-เพื่อขอขึ้นทะเบียน อย.
-เพื่อจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า
-ส่งออกไปต่างประเทศ
-งานวิจัย
-เพื่อทราบผล

ให้เซ็นทรัลเเล็บไทยหนึ่งในผู้นำแล็บทดสอบผลิตภัณฑ์อันดับต้นๆของ ASEN และได้รับการยอมรับทั่วโลก ด้วยห้องปฏิบัติการมาตรฐานระดับสากล เป็นผู้ช่ายในการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ของท่าน ผ่านวิธีการทดสอบที่ถูกต้องแม่นยำและน่าเชื่อถือ

สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..

สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่ที่ต้องการตรวจฉลากโภชนาการ สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..


เริ่มต้นธุรกิจน้ำดื่มต้องรู้
เริ่มต้นธุรกิจน้ำดื่มต้องรู้
ข้อมูลสำคัญสำหรับการขอสร้าง โรงงานน้ำดื่ม
ถ้าสนใจลงทุนขนาดเล็ก(ขนาด A) หรือ ครัวเรือน
ให้เริ่มจากติดต่อ อย. ในท้องที่ก่อนเลยคะ เนื่องจากเป็นขนาดเล็กให้สร้างตามแปลน อย.ได้

ถ้าสนใจ แบบกลางแบบอัตโนมัต หรือ ขนาดใหญ่
สิ่งที่ต้องเช็คข้อมูลเบื้องต้นก่อน ที่จะเริ่มทำได้คือ

ขนาดของพื้นที่ สามารถออกแบบและดัดแปลงได้ ขนาดพื้นที่โรงงาน ควรจะมากกว่า 250 ตารางเมตร ยิ่งมากยิ่งดี..ถ้ามีข้อจำกัดเรื่องขนาดโรงงาน ให้โทรสอบถามได้โดยตรง
สถานที่ตั้งโรงงาน ต้องสามารถดูด น้ำบาดาลได้อย่างน้อย 3-8 Qต่อชั่วโมง (ขุดบ่อควรลึกอย่างน้อย 40 เมตร)หรือ มากกว่านี้ยิ่งดี หรือ ใช้น้ำประปาก็ได้ แล้วแต่สะดวก..
สามารถขอไฟ 3 เฟส ขนาดของเมนเบรกเกอร์ อย่างน้อย 50แอมป์ ถึง 100แอมป์ ได้ในพื้นที่จะสร้างโรงงาน.

ในพื้นที่ สามารถขออนุญาติตั้งโรงงานได้ ขอ รง. ได้ ขนาด 40-80 แรงม้า (สำหรับเฉพาะโรงบรรจุน้ำ ยังไม่รวมถ้าจะทำเป่าขวดในอนาคต)(ต้องไปเช็คที่ กรมโรงงาน ในจังหวัด)
ขั้นตอนหลังจากท่านหาข้อมูล ศึกษาความเป็นไปได้ และ ประเมินตลาดแล้ว มีดังต่อไปนี้
ติดต่อทางบริษัท เพื่อ เริ่มสำรวจ พื้นที่ วางแปลนโรงงาน และ ทำรายละเอียดเครื่องจักร ที่ต้องการ
นำลายละเอียดเครื่องจักร มาเป็นส่วนประกอบในลายละเอียด โครงสร้าง การสร้างโรงงาน แยกจุดหนักเบา ร่องน้ำไหล กระบวนสายพานการผลิต(GMP) ..

ผู้ผลิตเครื่องจักร จะต้องสามารถเตรียมเอกสาร เพื่อติดต่อ อย. และ กรมโรงงาน ให้ทางลูกค้า
ผู้ผลิตเครื่องจักร ส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลา 1-3 เดือนในการผลิตเครื่องจักร ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวน
วางตำแหน่งเครื่องจักรให้เหมาะสม ในแบบแปลนการสร้างโรงงาน (สมควรให้ผู้เชี่ยวชาญร่วมออกแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับการทำงาน การปฎิบัติงาน และ รองรับโอกาศทางการตลาดจะขยายงานในอนาคต)
ติดต่อ อย. ประจำท้องที่ แจ้งจุดประสงค์ ในการทำโรงผลิตน้ำดื่ม ใช้เอกสารที่ผู้ผลิต เครื่องจักร เตรียมให้

ส่งน้ำดิบตรวจสอบหาสารปนเปื้อน (เพื่อจะได้จัดเตรีมระบบกรองได้ถูกต้อง)
สร้างโรงเรือน
สร้าโรงเรือน ตามแบบ มาตราฐาน อย. (ส่วนใหญ่เหมาะกับโรงงานขนาดเล็ก หรือ ครัวเรือน)
สร้างโรงงานตามแบบมาตราฐาน อย. บวกกับลายละเอียด ขนาดและจำนวนเครื่องจักร (ส่วนใหญ่เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีผลิตภัณฑ์ต่างๆหลากหลาย เช่น น้ำแร่ น้ำขวด น้ำถ้วย น้ำถัง เป็นต้น)
ติดตั้งเครื่องจักร ตามแบบแปลน และ ทดสอบเครื่องจักร
นำน้ำที่ผ่านกระบวนการกรอง แบบแปลนโรงงาน พร้อมกรอกแบบฟอร์ม ยื่นขอ อย.

ออกแบบ ขวด และ ฉลาก พร้อมกับ ได้รับการตรวจสอบจาก อย.
เริ่มผลิตและจำหน่าย

แหล่งน้ำ
การผลิตน้ำดื่ม สามารถใช้น้ำประปาหรือน้ำบาดาลก็ได้ ในการผลิต
ในกรณีที่ผู้ประกอบการมีปัญหาเรื่องน้ำ คือน้ำประปาไม่ถึง หรือ น้ำประปาเข้าถึงแต่ไม่เพียงพอต่การผลิต ผู้ประกอบการจะต้องขอ อนุญาติการใช้น้ำบาดาลกับกรมทรัพยากรธรณี

ขนาดการผลิต
การผลิตสำหรับอุตสาหกรรมครัวเรือน
ใช้เครื่องจักรรวมไม่เกิน 5 แรงม้าและคนงานรวมไม่เกิน 7 คนต้องขอ อย.

การผลิตแบบอุตสาหกรรมทั่วไป
ใช้เครื่องจักรขนาดเกิน 5 แรงม้าและคนงานเกิน 7 คนต้องติดต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม
ต้องผ่านการตรวจสอบใบอนุญาติ 2 ประเภทคือ
ใบอณุญาติผลิตอาหาร
ใบสำคัญการขึ้นทะเบียน อย.

ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..

สำหรับผู้ผลิตสินค้าน้ำดื่ม ที่สนใจส่งน้ำดิบตรวจสอบหาสารปนเปื้อน สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..

สำหรับผู้ผลิตสินค้าน้ำดื่ม ที่สนใจตรวจฉลากโภชนาการ สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์ นี้ http://ไปที่..link..
อย.แนะวิธีการจดแจ้งเครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง
อย.แนะวิธีการจดแจ้งเครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง
“กัญชา” เป็นพืชสมุนไพรมากคุณค่า นอกจากจะมีประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว กัญชายังเป็นพืชสมุนไพรทางเลือกในวงการเครื่องสำอางระดับโลกอีกด้วย ปัจจุบันเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชา (Cannabis Beauty) กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (skincare) ผลิตภัณฑ์บำรุงผม ผลิตภัณฑ์น้ำหอมและเครื่องสำอางแต่งหน้า (Makeup) ฯลฯ

“CBD” หรือ Cannabidol คือส่วนหนึ่งของกัญชาที่ถูกไปใช้เป็นวัตถุดิบในวงการความสวยความงาม เนื่องจากสารชนิดนี้มีคุณสมบัติต่อต้านอาการอักเสบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นบำรุง และปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด ช่วยเพิ่มคอลลาเจนฟื้นฟูผิวหน้าให้เรียบเนียน กระตุ้นการผลัดเซลล์ และสร้างผิวใหม่ ลดรอยแดง รอยดำดูจางลง พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกัญชา (Cannabis Beauty) เป็นสินค้าขายดีในทั่วทุกมุมโลก

ผู้ผลิตสินค้าเครื่องสำอางในเมืองไทยต่างเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดของสินค้ากลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน ผู้ผลิตแต่ละรายตั้งใจพัฒนาสินค้าออกมาวางขายในอนาคต อย่างไรก็ตาม การผลิตสินค้าคงเวลาไม่นานเท่าไร หลายคนสงสัยว่า ขั้นตอนการยื่นจดทะเบียนเครื่องสำอางจากกัญชากับองค์การอาหารและยา (อย.) จะยุ่งยากพอๆ กับการขึ้นทะเบียนยาหรือไม่ สามารถหาคำตอบได้ ดังต่อไปนี้

อย.ปลดล็อกผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชา
ภญ.ปริณดา เตชะศิรินุกูล สำนักควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปัจจุบัน อย.ปลดล็อกให้นำส่วนต่างๆ ของกัญชง กัญชา ที่ไม่มีวัตถุเสพติดนำมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบผลิตภัณฑ์สุขภาพประเภทต่างๆ ที่ อย. กำกับดูแล ได้แก่ ยา อาหาร เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ ซึ่งแต่ละส่วนที่ อย. กำกับดูแลมีความแตกต่างกันในเรื่องขั้นตอนการรับขึ้นทะเบียน การรับจดแจ้ง

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เป็นสินค้าที่ อย. กำกับดูแล อยู่ในระดับความเสี่ยงต่ำ เพราะเป็นสินค้าที่ใช้ภายนอก หากสามารถแสดงหลักฐานได้ว่า สินค้าดังกล่าวมีความปลอดภัย สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ อย. กำหนด ก็สามารถจดแจ้งทะเบียนสินค้ากับ อย.ได้เลย สังเกตได้ว่า การยื่นคำขอกับ อย. จะใช้คำไม่เหมือนกัน กรณีเครื่องสำอางใช้คำว่าจดแจ้ง หากเป็นผลิตภัณฑ์ยาจะใช้คำว่าขึ้นทะเบียน หมายความ เอกสารต่างๆ ที่นำมายื่นกับ อย.ต้องแสดงหลักฐานอย่างชัดเจน มีผลแล็บ ผลการวิจัยต่างๆ กรณีการจดแจ้งจะใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างปลอดภัยมีความเสี่ยงต่ำ ผู้ประกอบการที่มาขออนุญาตเพียงแค่การยื่นแจ้งแสดงความจำนงตามที่เงื่อนไข อย. กำหนด
เครื่องสำอาง

สินค้า “เครื่องสำอาง” ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอางของ อย. คือ วัตถุที่ใช้สำหรับทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ ฯลฯ กับส่วนภายนอกของร่างกายมนุษย์ รวมถึงการใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อทำความสะอาด เพิ่มความสวยงาม หรือระงับกลิ่นกาย หรือปกป้องดูแลส่วนต่างๆ ของร่างกายให้อยู่ในสภาพดี รวมทั้งเครื่องประทินผิวต่างๆ แต่ไม่รวมเครื่องประดับและเครื่องตกแต่งซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย

หากผู้ประกอบการ ไม่รู้ว่าสินค้าที่ผลิตจัดอยู่ในกลุ่มเครื่องสำอางหรือเปล่า ก็ให้ดูคำนิยามตรงนี้ หากไม่ได้กับมนุษย์โดยตรง แต่ใช้กับสัตว์เลี้ยง จะไม่เข้านิยามเครื่องสำอาง เพราะ อย. ดูแลเครื่องสำอางที่ใช้กับมนุษย์และใช้บริเวณผิวหนังภายนอก ไม่สามารถใช้เครื่องมือฉีดเข้าไปในร่างกายได้ หากมีการผลักดันใต้เซลล์ผิวจะเกินนิยามของเครื่องสำอางทันที กรณีน้ำชง เช่น น้ำคอลลาเจน ก็ไม่อยู่ในกลุ่มเครื่องสำอาง แต่จัดอยู่ในประเภทอาหารหรือยา สินค้าเครื่องสำอางลงลึกได้มากที่สุดแค่ใช้กับช่องปากและฟัน เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก สเปรย์ระงับกลิ่นปาก จัดเป็นเครื่องสำอางได้ แต่สเปรย์สมุนไพรระงับเจ็บคอ ฉีดเข้าไปในลำคอ ก็ไม่ใช่กลุ่มเครื่องสำอาง

กรณีใช้น้ำมันกัญชงที่อนุญาตใส่ลงไปในยาสีฟัน จัดเป็นเครื่องสำอาง หากมีสวนล้างเข้าไปภายในร่างกาย ไม่นับเป็นเครื่องสำอางเช่นเดียวกัน เพราะวัตถุประสงค์หลักของเครื่องสำอางคือ เพื่อความสะอาดและความสวยงาม หากอ้างวัตถุประสงค์เพื่อบำบัดรักษาโรคหรือแสดงสรรพคุณส่งเสริมสุขภาพ ไม่นับว่าเป็นเครื่องสำอาง แม้จะใช้ภายนอกก็ตาม

ปัจจุบัน อย. มีหน่วยงานขึ้นมากำกับดูแลโดยตรง เรียกว่า กองผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือ cosmesutical ดูแลรับผิดชอบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอก หวังผลในการเปลี่ยนแปลงสุขภาพแต่ไม่ถึงว่าเป็นยา สินค้าเครื่องสำอาง เพื่อความสะอาดและความสวยงาม ผู้ประกอบการสามารถขออนุญาตได้ที่กองผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยตรง หากแจ้งว่าเป็นเครื่องสำอาง ที่ช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงิน แสดงว่าผู้ผลิตไม่มีความจริงใจกับผู้บริโภค เพราะการจดแจ้งเป็นเครื่องสำอาง ไม่สามารถอวดอ้างถึงสรรพคุณว่า เปลี่ยนแปลงร่างกายได้ เพราะเครื่องสำอางใช้แล้ว ทำให้ลักษณะการมองดูดีขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น

สารเทอร์ปีน (Terpene) จะให้กลิ่นเฉพาะเป็นน้ำมันหอมระเหยสกัด ที่มีในกัญชง กัญชา นำมาใช้ประโยชน์กับผลิตภัณฑ์สำอาง น้ำหอม ที่เน้นกลิ่นหอมอะโรมาที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ปกป้องดูแลส่วนต่างๆ ของร่างกายให้อยู่ในสภาพดี อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ในประเทศไทยผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดอยู่ในกลุ่มเครื่องสำอาง แต่ประเทศญี่ปุ่นจัดกลุ่มนี้อยู่ในสินค้ายา

หลักเกณฑ์แยกชนิดเครื่องสำอางของ อย.
ภญ.ปริณดา เตชะศิรินุกูล กล่าวว่า อย. มีหลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติของสินค้าเครื่องสำอางจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

1. วิธีใช้งาน ที่เน้นการใช้ภายนอกเท่านั้น
2. วัตถุประสงค์การใช้งานหรือสรรพคุณ ที่แสดงบนฉลาก เน้นทำความสะอาด เพื่อความสวยงาม สินค้ากำจัดสิวและแบคทีเรีย แม้ใช้ภายนอก แต่อ้างว่าสรรพคุณด้านบำบัดรักษา ก็ไม่ใช่สินค้าเครื่องสำอาง หากนำกัญชา กัญชง มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางและนำมาขึ้นทะเบียน กองผลิตภัณฑ์สมุนไพร ไม่สามารถใช้สาร CBD THC เกินเงื่อนไขที่กำหนด มิฉะนั้น กลายเป็นสินค้ายาเสพติด ผิดกฎหมายเหมือนที่เคยเป็นมา
3. สูตรส่วนประกอบของสารที่แจ้งได้ ต้องอยู่ในตำราเครื่องสำอาง ในปัจจุบันมีการปลดล็อกบางส่วน ของพืชกัญชา กัญชงมาใช้เป็นเครื่องสำอางได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ขั้นตอนจดแจ้งสถานที่ผลิตเครื่องสำอาง

ผู้ประกอบการที่ต้องการจดแจ้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จำเป็นต้องจดแจ้งสถานที่ผลิตด้วย สำหรับเครื่องสำอางที่มีกัญชา กัญชงเป็นวัตถุดิบ อย.อนุญาตให้เฉพาะผู้ผลิต ไม่อนุญาตให้ผู้นำเข้ามาจดแจ้ง เพื่อนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยได้ เพราะรัฐบาลส่งเสริมให้มีการผลิตภายในประเทศเท่านั้น ส่วนสถานที่ผลิต ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การผลิตเครื่องสำอางที่ อย.กำหนดไว้ หากเป็นผู้ประกอบการเครื่องสำอางที่มีพื้นที่ผลิตอยู่แล้ว จะใช้กัญชา กัญชงเป็นส่วนผสมเข้าไปด้วย ก็ไม่ต้องยื่นจดทะเบียนสถานที่ผลิตใหม่ เพราะถือว่าผ่านเกณฑ์มาก่อนแล้ว

สถานที่ผลิตเครื่องสำอางจากกัญชง กัญชา ต้องมีอย่างน้อย 2 ห้อง คือ ห้องผลิต และห้องเก็บวัตถุดิบ ไม่สามารถผลิตกลางแจ้งได้ ไม่อนุญาตให้ผลิตแบบเปิด ซึ่งสถานที่ผลิตดังกล่าวสามารถใช้บริเวณบ้านได้ แต่ต้องแยกสัดส่วนจากบริเวณที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน มีอุปกรณ์การผลิตที่ถูกหลักสุขอนามัย เมื่อเตรียมสถานที่ ตามหลักเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอจดทะเบียนสถานที่ผลิตได้ ผ่านทางระบบออนไลน์ ก่อนยื่น ควรคุยกับเจ้าหน้าที่ อย.สักเล็กน้อย

การติดต่อประสานงานกับ อย.สามารถส่งข้อมูลผ่านทางออนไลน์ได้ทั้งหมด โดยเข้าไปที่ระบบ E submission ไป submit จัดส่งเอกสารประกอบคำร้อง เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สำเนาจดทะเบียนบริษัทและร้านค้า หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารแล้ว จะโทร.นัดตรวจเยี่ยมสถานที่จริง หากโรงงานอยู่ใน กทม. จะใช้เจ้าหน้าที่ อย.

หากอยู่ต่างจังหวัด จะเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเข้าไปตรวจสอบโรงงานในระยะเวลาไม่เกิน 20 วัน หากพบสถานที่ผลิตตรงตามตามหลักเกณฑ์ที่ อย.กำหนด ก็สามารถเริ่มต้นจดแจ้งสินค้าเครื่องสำอางได้เลย หากใครไม่สะดวกในเรื่องการสื่อสารออนไลน์ สามารถเขียนคำร้องยื่นกับ อย. หรือสาธารณสุขจังหวัดได้โดยตรง

หากได้รับการอนุมัติ ต้องเสียค่าธรรมเนียมจดแจ้งเครื่องสำอาง 900 บาท กรณีที่เป็นนิติบุคคลหรือประชาชนทั่วไป หากยื่นจดแจ้งในนามวิสาหกิจชุมชนจะได้ลดหย่อนใบจดแจ้ง เหลือ 500 บาท อย.จะประมวลผลต่อว่า สูตรการผลิตเหมาะสมหรือไม่ หากผ่านการอนุมัตให้มีการจดแจ้งทะเบียนเครื่องสำอางจะมีอายุการใช้งาน 3 ปี นับจากวันที่ออกใบรับจดแจ้ง

กัญชา กัญชง กฎหมายเดิม (ก่อน 16 ธันวาคม 2563)
กัญชา กัญชง จัดเป็น Narcotic natural and synthesis ซึ่งเป็นวัตถุห้ามใช้ลำดับที่ 306 ในบัญชีท้ายประกาศฯ ชื่อวัตถุต้องห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง พ.ศ. 2559 ซึ่งในสมัยก่อน ไม่สามารถใช้งานได้จนกระทั่งกฎหมายยาเสพติดถูกปลดล็อก จึงสามารถนำส่วนอื่นของกัญชา กัญชง ที่ไม่ใช่สารเสพติดมาใช้ประโยชน์ได้

ปัจจุบันกัญชาที่ยังเป็นสิ่งเสพติดอยู่คือ ช่อดอกและเมล็ดกัญชา ที่น่าภาคภูมิใจมากๆ ก็คือเมล็ดกัญชง ได้ถูกปลดล็อกแล้วสามารถนำมาใส่ในเครื่องสำอางได้ แต่เมล็ดกัญชายังนับเป็นสารเสพติดอยู่ไม่สามารถนำมาใช้ในเครื่องสำอางได้ กัญชา-กัญชงแตกต่างกันที่ ปริมาณสาร THC ไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นกัญชง ถ้าเกินปริมาณที่กำหนด จัดเป็นกัญชา

ดังนั้น สามารถปลูกกัญชงและนำเมล็ดกัญชงหรือน้ำมันสกัดจากสารกัญชง มาใช้ในเครื่องสำอางได้ ส่วนอื่นๆ ของกัญชา เช่น เปลือก ลำต้น เส้นใย ราก ใบ กิ่ง ก้าน ยังนำมาใช้เป็นเครื่องสำอางได้ ในขณะนี้ อย. ได้ยกร่างกฎหมายเรื่องการใช้ประโยชน์ เปลือก ใบ ราก มาบดเป็นผงใส่ในเครื่องสำอาง ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบถามความเห็นของผู้ประกอบการและประชาชน

ปัจจุบันเครื่องสำอางสามารถใส่ได้แค่เมล็ดกัญชงหรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชงเท่านั้น ส่วนอื่นที่ปลดล็อกแล้ว เช่น ราก กิ่ง ใบ หรือแม้ทั้งสารสกัด CBD ที่มีสาร THC ไม่เกิน 0.2 อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล ตอนนี้นำร่องให้ใช้น้ำมันสกัดจากเมล็ดกัญชงในการผลิตเครื่องสำอางได้แล้ว แต่อนุญาตให้ใช้เฉพาะผู้ผลิตในประเทศ และแหล่งผลิตที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่ได้อนุญาตให้มีการนำเข้า เพราะรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเกษตรกรในประเทศ และใช้วัตถุดิบที่ปลูกในประเทศอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น

เงื่อนไขใช้เมล็ดกัญชงในเครื่องสำอาง
อย.กำหนดสเปกว่า เมล็ดกัญชงหรือสารสกัดกัญชงที่นำมาใช้ในเครื่องสำอาง มี สาร THC ปนเปื้อนได้ไม่เกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ กรณีใช้ในเครื่องสำอาง กลุ่ม soft gelatin capsule เช่น น้ำมันมาใส่ในแคปซูลนุ่มๆ แล้วบีบทาเฉพาะจุด อาจมีการเสี่ยงของผู้บริโภคเกิดขึ้น จึงลดระดับ THC ในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ไม่เกิน 0.001 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในช่องปากและอื่นๆ เช่น ยาสระผม ยาระงับกลิ่นกาย ใส่น้ำมันเมล็ดกัญชงได้ แต่ THC ต้องน้อยกว่า 0.001 เปอร์เซ็นต์ ต้องใช้ภายนอกเท่านั้น จึงอยู่ในหลักเกณฑ์นี้ นอกเหนือจากนี้จัดอยู่ในกลุ่มยา

ติดฉลากเครื่องสำอางจากกัญชง
ภญ.ปริณดา เตชะศิรินุกูล กล่าวว่า หลัง อย. อนุญาตให้มีการจดแจ้งทะเบียนเครื่องสำอางแล้ว ต้องเพิ่มคำเตือนในฉลากเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเมล็ดกัญชง ซึ่งสามารถใช้ใน 2 รูปแบบ คือ
รูปแบบทั่วไป เช่น แชมพู สบู่ ครีมบำรุงผิว ลักษณะนี้จะมีคำเตือน 2 อย่าง คือ ผลิตภัณฑ์นี้อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้หากมีอาการผิดปกติขึ้นกรุณาหยุดใช้และปรึกษาแพทย์โดยด่วน

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงมาก เช่น น้ำมันหยอด บางคนคิดว่ารับประทานได้ จะต้องเพิ่มคำเตือนว่า ห้ามรับประทาน ปัจจุบันก็มีคนมาขออนุญาตจดแจ้งเครื่องสำอางกับ อย.บ้างแล้ว แต่ยังไม่มีใครผ่านเพราะติดปัญหาเรื่องเอกสารประกอบการพิจารณาไม่ครบถ้วนชัดเจน
หลักเกณฑ์การรับจดแจ้ง

เอกสารประกอบการพิจารณา คือส่วนสำคัญที่สุดในการจดแจ้งเครื่องสำอางกับ อย. จำเป็นต้องมีเอกสารแสดงผลวิเคราะห์ปริมาณ THC ในวัตถุดิบ น้ำมันกัญชงที่จะใช้ผู้ประกอบการสามารถขอจากผู้ขายวัตถุดิบได้ว่า น้ำมันที่นำมาขายมีปริมาณ THC เท่าไร
จุดที่มีปัญหามากคือ เอกสารระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบต้องชัดเจน ซึ่งเป็นใบอนุญาตปลูกตามกฎหมายของ พ.ร.บ.ยาเสพติด รวมทั้งเอกสารการรับซื้อพืชกัญชงที่ออกด้วย อย. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่กองสารเสพติดเพิ่มเข้ามา ต้องแนบเข้ามาด้วย ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหลายคนไม่มีเอกสารยืนยัน อย. ไม่รู้ว่าวัตถุดิบมาจากไหน ก็ไม่สามารถอนุญาตให้จดแจ้งได้

นอกจากนี้ ยังมีหนังสือรับรอง ออกโดยคณะกรรมการบริษัท รับรองกับ อย. ว่าจะผลิตเครื่องสำอาง โดยไม่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงของเครื่องสำอาง หากเกินจริง ยินยอมให้ อย. ยกเลิกเพิกถอนใบอนุญาตได้ แนบฉลากประกอบการพิจารณา สุดท้ายต้องคำนวณปริมาณ THC จากผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยคำนวณจากปริมาณจากสารที่วิเคราะห์ได้ และเปอร์เซ็นต์ที่ใช้ในสูตร

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้กัญชงสามารถใช้ชื่อ hemp หรือ กัญชง เป็นส่วนหนึ่งของชื่อเครื่องสำอางได้ โดยระบุชัดเจนว่าได้มาจากส่วนใด ปัจจุบันอนุญาตให้ใช้แค่เมล็ด ฉะนั้น ต้องตั้งชื่อให้ชัดเจนว่า Hemp seed oil จะใช้ส่วนไหนต้องแจ้งให้ถูกต้อง ไม่ใช้แค่ชื่อ hemp หรือ บอกว่า สบู่กัญชงลอยๆ ต้องแจ้งให้ชัดเจนว่า สบู่น้ำมันเมล็ดกัญชง หากเป็นน้ำมันสกัดจากกัญชง ต้องระบุว่า hemp oil bodycare หรือน้ำมันนวดผิว ชื่อต้องบอกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้วย เพราะกลัวผู้บริโภคจะนำไปใช้ผิด ชื่อต้องอยู่ในเครือข่ายเครื่องสำอาง ไม่อ้างบำบัดบรรเทารักษาป้องกันโรค

กรณีผู้ประกอบการเป็นผู้ปลูกเองหรือเป็นแค่ผู้ซื้อวัตถุดิบมาใช้ก็ตาม หากไม่มั่นใจว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้มีปริมาณสาร THC เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ สามารถดำเนินงานตรวจสอบได้กับห้องปฏิบัติการ

การโฆษณาเครื่องสำอาง
หลังจาก อย.อนุมัตการจดแจ้งเครื่องสำอางเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ผู้ประกอบควรตระหนักคือ การโฆษณา เนื่องจาก อย.ตรวจพบความผิดของการโฆษณาเครื่องสำอางเยอะมาก ทางสื่อสังคมทางออนไลน์ต่างๆ ทั้งนี้ การโฆษณาเครื่องสำอางไม่ต้องขออนุญาต ผู้ประกอบการสามารถลงโฆษณาไปก่อนได้ หากเป็นยาและอาหารต้องให้เจ้าหน้าที่ อย.ดูก่อน สำหรับเครื่องสำอางลงไปก่อนได้ แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดผลเสียหรือไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นแหล่งกำเนิด คุณภาพ สภาพ ปริมาณ ลักษณะตัวเครื่องสำอางเอง และสิ่งที่โฆษณาต้องไม่เกินจริง

น้ำมันสกัดจากเมล็ดกัญชงทำให้ผิวนุ่มได้ แต่ไม่สามารถแก้โรคสะเก็ดเงินได้ เพราะเป็นการโฆษณาเครื่องสำอางเกินจริง กลายเป็นยารักษาโรคแทน และไม่สามารถโฆษณาเกี่ยวกับการบรรเทารักษาโรค กรณีมีเงินอยากลงโฆษณา แต่ไม่รู้จะถูกต้องหรือไม่ สามารถให้ อย. ช่วยออกความคิดเห็นได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5_000 บาท หากเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โทรทัศน์ สื่อโซเชียลต่างๆ เสียค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10_000 บาท ระยะเวลาพิจารณาทำการ 60 วัน หากอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถค้นหาได้ในกูเกิ้ล พิมพ์คำว่า อย. เครื่องสำอาง นี่เป็นเว็บไซต์ทางการของกลุ่มควบคุมเครื่องสำอาง ภายในเว็บไซต์นี้จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ การขออนุญาต แบบฟอร์มคำขอ คู่มือประชาชน

อย.อยากเน้นย้ำให้ผู้บริโภค ตรวจสอบเลขที่ใบรับจดแจ้ง ของ อย. หรือเลขที่ใบรับอนุญาตต่างๆ ของ อย. มีช่องทางทั้งหมด 4 ช่องทาง 1. เป็นเพื่อนกับ อย. @fdathai ทางไลน์ 2. แอปพลิเคชั่น อย. สมาร์ท 3. เว็บไซต์หลัก fda.moph.go.th 4. เว็บไซต์ oryor.com ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาเลือกซื้อสินค้าเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ถูกต้อง และปลอดภัยได้อย่างสบายใจ

ข้อมูลจาก http://ไปที่..link..
สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่มีส่วนประกอบของกัญชา สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์นี้ http://ไปที่..link..

สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่สนใจตรวจฉลากโภชนาการของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จาก กัญชา-กัญชา สามารถส่งตัวอย่างเข้าตรวจวิเคราะห์กับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CENTRAL LAB THAI ได้ที่ลิงค์นี้ http://ไปที่..link..


12 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 1 หน้า, หน้าที่ 2 มี 2 รายการ
|-Page 1 of 2-|
1 | 2 |


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
โรงงานรับจ้างผลิตปุ๋ย OEM/ODM เป็นแบรนด์สินค้าของคุณ ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยเม็ด ไตรโคเดอร์มา บิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม จุลินทรีย์ย่อยสลาย ยาปราบฯ สารปรับสภาพดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ปุ๋ยเคมี ทำได้ทุกชนิด
เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท
ปุ๋ยยาฯ จุลินทรีย์ต่างๆ ปุ๋ยน้ำต่างๆ ปุ๋ยน้ำอะมิโน ไตรโคฯ ประเภทน้ำ ประเภทผง บรรจุขวด บรรจุซอง ทุกชนิด ฯลฯ
เริ่มต้นเพียง 45,000 บาท
ปุ๋ยเม็ดทุกชนิด บรรจุกระสอบ 50 กิโลกรัม บิ๊กแบ็ค 1 ตันเพื่อส่งออก กระสอบ 25 กิโลกรัม ทำได้ทุกชนิด ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สารปรับสภาพดิน อะมิโนเม็ดสกัด ฮิวมิค ฯลฯ
โทร 090-592-8614
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
การป้องกันและกำจัด โรคเหี่ยว จากเชื้อรา ฟิวซาเรียม ในเมล่อน ด้วยสารอินทรีย์
Update: 2566/01/11 09:56:58 - Views: 3080
INVET ไดโนเตฟูราน และ ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยอ่อน ศัตรูพืช และเร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ย สำหรับต้นดอกกุหลาบ
Update: 2567/02/23 10:41:33 - Views: 112
หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด (Fall Armyworm)
Update: 2564/08/12 00:13:30 - Views: 3043
ป้องกันและกำจัดเพลี้ยอ่อน ศัตรูพืชสำหรับต้นแตงกวา ด้วย INVET และเร่งฟื้นฟู ด้วย ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5
Update: 2567/02/23 14:44:44 - Views: 131
การป้องกัน กำจัดเพลี้ย กำจัดแมลงศัตรูพืช ด้วย ชีวภัณฑ์ บิวเวอเรีย และ เมธาไรเซียม ได้ผลดี และปลอดภัย
Update: 2566/11/10 06:26:57 - Views: 7869
โรคแอนแทรคโนส กำจัดโรค ในทุเรียน โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อราสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ
Update: 2566/05/22 10:38:26 - Views: 7432
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 0-0-60 : สูตรลับผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก และคุณภาพสำหรับมะไฟของคุณ
Update: 2567/03/13 12:01:10 - Views: 104
ยากำจัดโรคใบจุดตากบ ใน กาแฟ โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/14 14:39:11 - Views: 7133
ไขข้อข้องใจ … ทำไมแหนมถึงกินดิบได้?
Update: 2565/11/16 13:48:55 - Views: 9816
โรคราน้ำค้างแตงโม
Update: 2564/08/21 21:51:25 - Views: 3473
ยากำจัดโรคผลเน่า ใน แตงกวา โรคที่เกิดจากเชื้อรา ฉีดพ่นไอเอสใช้ได้กับพืชทุกชนิด (ขนาด 3 ลิตร ใช้ได้15 ไร่)
Update: 2566/06/03 15:31:30 - Views: 7479
กำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ใน ทับทิม เร่งฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเชื้อรา ไตรโครเร็กซ์ ปุ๋ยน้ำอะมิโน โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/24 15:59:18 - Views: 3011
ส้มตำ อาหารไทยในซุปเปอร์มาเก็ต ประเทศพม่า
Update: 2557/10/07 13:44:14 - Views: 3178
ปุ๋ยสำหรับอ้อย เพื่อบำรุงผลผลิต การแก้โรคอ้อย ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ป้องกันกำจัดเพลี้ย ในไร่อ้อย
Update: 2563/06/18 17:25:32 - Views: 3482
ป้องกันกำจัด เพลี้ยไฟมะม่วง มาคา ทางออกสำหรับเพลี้ยไฟมะม่วงและเพลี้ยอ่อน
Update: 2565/12/18 13:06:57 - Views: 3094
การปลูกฟ้าทะลายโจร
Update: 2564/08/20 22:59:07 - Views: 2980
ฟาร์มิค ฮิวมิค แอซิด สารปรับปรุงดิน ฟื้นระบบราก ปลดปล่อยธาตุอาหาร เพิ่มผลผลิต สำหรับต้นมันฝรั่ง
Update: 2567/02/13 09:36:19 - Views: 166
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนเจาะฝักถั่ว ใน ถั่วฝักยาว และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/07 14:31:14 - Views: 3106
มันสำปะหลังผลผลิตต่ำ! เพราะขาดธาตุ สังกะสี เพราะเกี่ยวข้องกับการสร้าง คลอโรฟิลล์ สังเคราะห์โปรตีน ส่งเสริมการใช้ฟอสฟอรัส และไนโตรเจน ฯลฯ
Update: 2564/08/10 12:17:29 - Views: 3468
ยาฆ่าหนอน ใน ต้นส้ม และพืชทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ ไอกี้-บีที และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2566/04/18 11:50:21 - Views: 3016
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022