<กลับหน้าค้นข้อมูล
แจ้งลิงค์ในเนื้อหาเสีย
รับซื้อตรง ผลผลิตเกษตรกร ทั่วประเทศ หอการค้าไทย จับมือ กลุ่มเซนทรัล รับซื้อ พืช ผัก ผลไม้
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่หอการค้าไทยได้ผลักดันการเพิ่มศักยภาพของเกษตรกร ด้วยการจับมือกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (Modern Trade) รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งพืช ผัก และผลไม้ ผ่านการประสานงานในพื้นที่กับหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเริ่มมีการรับซื้อไปบางส่วนแล้ว ขณะนี้ หอการค้าไทยได้ขยายความร่วมมือไปยังท็อปส์_ แฟมิลี่มาร์ท_ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกร ในการสร้างช่องทางการตลาดและรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้ประกอบการกับหอการค้าไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ การร่วมเป็นพี่เลี้ยงในโครงการ Big Brother 3 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ Season 2 ถึง Season 4 โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของบริษัทในเครือที่มีความหลากหลายทางด้านธุรกิจ เข้ามาช่วยรับบริษัทน้องมา Coaching เชิงลึกจำนวน 24 ราย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทน้อง คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 95 ล้านบาท รวมถึงการเป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้หัวข้อ "การสร้างหน้าร้าน Omni channel" และจัดกิจกรรม Onsite Visit เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการบริหารจัดการคลังสินค้า การจัดส่งสินค้า การบริหารหน้าร้าน และการจัดทำฉลากสินค้าเพื่อการจัดจำหน่าย นอกจากนั้น ยังได้ร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ Digital Economy and E-Commerce ของหอการค้าไทย ริเริ่มโครงการ Cloud for Digital Transformation in Private Sector และนำเสนอให้สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย รับไปจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์ของประเทศต่อไป
"หอการค้าไทยเชื่อว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้จะเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ที่มักประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดได้เป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังเป็นหนทางในการบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยสร้างช่องทางทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการขนาดเล็ก และเชื่อมั่นว่า กลุ่มเซ็นทรัลจะเข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงในโครงการ Big Brother อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งนำเครื่องมือใหม่ ๆ มาช่วยเหลือ SME ได้มากยิ่งขึ้น" นายกลินท์ กล่าว
นางสุจิตา เพ็งอุ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ Large Format ผู้บริหารท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่นที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ อีกทั้งขาดช่องทางการจำหน่ายเนื่องจากตลาดส่งออกยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ การร่วมมือกับหอการค้าไทย จึงเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 2 โดยร่วมระบายผลผลิตให้ออกสู่ตลาดโดยเร็วที่สุด ด้วยการรับซื้อตรงผัก ผลไม้จากเกษตรกรทั่วประเทศ นำเข้าช่องทางจัดจำหน่ายผ่านทุกแพลตฟอร์มของท็อปส์และแฟมิลี่มาร์ท เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคเป็นวงกว้าง รวดเร็ว ทั่วประเทศ พร้อมทั้งส่งทีมจัดซื้อประจำภูมิภาคร่วมสำรวจและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างทันท่วงทีตามการแนะนำเพิ่มเติมจากหอการค้าไทย
"ปีที่ผ่านมา เรารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปทั่วประเทศ จาก 1_170 ชุมชน จำนวน 9_000 รายการ ช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่า 24_000 ครัวเรือนทั่วประเทศ แม้ว่าประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดแต่บริษัทฯ ยังขยายความช่วยเหลือต่อไป ในปี 2564 จากความร่วมมือกับหอการค้าไทยและเครือข่ายในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านโครงการความร่วมมือเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ ทำให้ท็อปส์และแฟมิลี่มาร์ท สามารถขยายความช่วยเหลือเกษตรกรได้เพิ่มมากขึ้น ใน 14 จังหวัด อีกกว่า 1_800 ครัวเรือน เช่น รับซื้อแก้วมังกร ส้มเขียวหวาน จากวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืนแพร่_ ส้มโอทับทิมสยาม กลุ่มเกษตรกรบ้านแสงวิมานจ.นครศรีธรรมราช_ มันแกวหวาน วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ผักริมโขง_ มะม่วงแรด จากวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก จ.ฉะเชิงเทรา_ ชมพู่ทับทิบจันทร์ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตชมพู่ทับทิบจันทร์ ดอนคา จ.ราชบุรี เป็นต้น" นางสุจิตา กล่าว
ด้าน นางสาวเมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ Small Format ผู้บริหารแฟมิลี่มาร์ท เปิดเผยว่า ในส่วนของแฟมิลี่มาร์ท แม้ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็ก แต่มีจุดแข็งคือจำนวนสาขาที่กระจายตัวในชุมชน ย่านการค้า อาคารสำนักงาน เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย จึงเป็นอีกช่องทางการจัดจำหน่ายที่จะช่วยเร่งระบายผลผลิตให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ โดยเน้นจำหน่ายผัก ผลไม้ตามฤดูกาลที่เป็นแพคเล็ก เช่น กล้วยหอม ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง ลิ้นจี่ แตงกวา มะเขือเทศ ผักสลัด ผักบุ้ง มะนาว หอมใหญ่ กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี และพริก เป็นต้น และอำนวยความสะดวกในทุกช่วงเวลาเร่งรีบกับผลไม้พร้อมรับประทาน เช่น สับปะรด ส้มโอ แก้วมังกร เมล่อน นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยที่มีความสนใจ ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่าย ซึ่งบริษัทฯ มีทีมจัดซื้อพี่เลี้ยงให้กับกลุ่ม SMEs ภายใต้โครงการ Big Brother ที่ดำเนินร่วมกับหอการค้าไทย เพื่อนำองค์ความรู้ ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ธุรกิจ SMEs เติบโตได้อย่างมั่นคง
นางสาวภาธิณี เลี้ยงหิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอีเว้นท์และประชาสัมพันธ์ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด กล่าวว่า ไทวัสดุภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพชีวิต และเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมทั้งเป็นสื่อกลางนำสินค้ามาจัดจำหน่าย ส่งผลให้วิสาหกิจชุมชนมีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้เป้าหมายในอนาคต ไทวัสดุยังคงมุ่งเน้นและตอกย้ำในการมีส่วนร่วมพัฒนาสินค้าชุมชนให้ยั่งยืนมากขึ้น โดยวางแผนในการเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าชุมชนต่าง ๆ จัดหาพื้นที่ในการสร้างตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับผู้ค้าได้ส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากท้องถิ่นถึงมือลูกค้าได้สะดวกรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น
Reference: ryt9.com/s/prg/3210539