IS แก้ปัญหาโรคพืชด้วยระบบควบคุมประจุไฟฟ้า

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีในอาหาร สิ่งนี้นำไปสู่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตผลเกษตรอินทรีย์ ซึ่งปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ ยาฆ่าแมลง หรือสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs)

IS Brand ส่วนผสมอินทรีย์ได้กลายเป็นผู้นำในด้านเกษตรอินทรีย์ โดยใช้เทคโนโลยีควบคุมประจุไฟฟ้าที่ทันสมัย พวกเขาได้พัฒนาวิธีการแก้ปัญหาโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคใบไหม้ โรคราน้ำค้าง และอื่นๆ อีกมากมาย ความก้าวหน้านี้มีศักยภาพในการปฏิวัติการเกษตรและช่วยให้เกษตรกรทั่วโลกปลูกพืชผลที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น

หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญในการทำเกษตรอินทรีย์คือการหาวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคพืชโดยไม่ต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรออร์แกนิกจำนวนมากพึ่งพาการรักษาธรรมชาติ เช่น สเปรย์ทองแดงและกำมะถัน แต่สิ่งเหล่านี้อาจมีราคาแพงและมีประสิทธิภาพจำกัด ส่วนผสมออร์แกนิคยี่ห้อ IS ใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป โดยใช้การควบคุมประจุไฟฟ้าเพื่อฆ่าเชื้อราเมื่อสัมผัส

เทคโนโลยีนี้ทำงานโดยใช้ประจุไฟฟ้าพิเศษเพื่อดึงดูดและฆ่าเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคพืช ทำได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมี ทำให้เป็นทางออกที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์ ประจุไฟฟ้าได้รับการปรับเทียบอย่างระมัดระวังเพื่อกำหนดเป้าหมายไปยังเชื้อราในขณะที่ปล่อยให้โรงงานและสภาพแวดล้อมโดยรอบไม่เป็นอันตราย

อัตราการใช้สารอินทรีย์ ตราไอเอส คือ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายสูง ผลิตภัณฑ์นี้ใช้งานง่ายและสามารถใช้ได้กับพืชหลากหลายชนิด รวมถึงผลไม้ ผัก และธัญพืช

ประโยชน์ของการใช้ส่วนผสมออร์แกนิกของ IS Brand มีมากมาย โดยการควบคุมโรคพืช เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตพืชผลและปรับปรุงคุณภาพของผลิตผลได้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้พวกเขาได้รับผลกำไรที่สูงขึ้นและมีส่วนร่วมในระบบอาหารที่ยั่งยืนมากขึ้น ผู้บริโภคยังได้รับประโยชน์จากอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าซึ่งปราศจากสารเคมีอันตราย

โดยสรุปแล้ว IS Brand Organic Ingredients ได้พัฒนาวิธีการแก้ปัญหาโรคพืชในการทำเกษตรอินทรีย์ พวกเขาได้สร้างวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อราโดยไม่ต้องใช้สารเคมีอันตรายโดยใช้พลังของการควบคุมประจุไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีสูง ความก้าวหน้านี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการเกษตรและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับทุกคน

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
ไอเอส 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. ช้อปปี้ http://ไปที่..link.. และ ติ๊กต็อก ช็อป http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ต้นยางอ่อนแอต่อโรคราต่างๆ เช่น โรคราสีชมพู โรคนี้ส่งผลกระทบต่อใบและกิ่งของต้นยาง ทำให้ผลผลิต และคุณภาพของยางลดลง

หนึ่งในสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถใช้ในการป้องกันและกำจัดโรคราในพืชคือ ไอเอส ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคเชื้อราในต้นยาง อัตราการผสมไอเอสต่อน้ำ 20 ลิตร คือ 50 ซีซี โดยควรละลายน้ำก่อนฉีดพ่นต้นยาง.

ไอเอส ทำงานโดยการควบคุมไอออน ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ไอเอส จะป้องกันไม่ให้สปอร์ของเชื้อรางอก ซึ่งจะช่วยลดการเกิดโรคเชื้อราสีชมพู นอกจากนี้ ไอเอส ยังช่วยเสริมกลไกการป้องกันตามธรรมชาติของพืช ทำให้พืชมีความทนทานต่อโรคเชื้อรา.

การเพิ่มผลผลิตของต้นยางอีกวิธีหนึ่งคือการใช้ปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ FK1 ซึ่งเป็นปุ๋ยฉีดพ่นทางใบที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว ธาตุอาหารเหล่านี้จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของต้นยาง และการขาดสารอาหารเหล่านี้อาจทำให้ผลผลิตและคุณภาพของยางลดลง_

อัตราการผสม FK1 ต่อน้ำ 20 ลิตร ใช้ ถุงแรก 50 กรัม และถุงที่สอง 50 กรัม ผสมเข้าด้วยกันแล้วคนให้เข้ากันจนละลายในน้ำ 20 ลิตร สารลดแรงตึงผิวใน FK1 จะช่วยเพิ่มการดูดซึมและการใช้สารอาหารของต้นยาง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มผลผลิต สามารถผสม ไอเอส และ FK1 ฉีดพ่นไปได้พร้อมกัน.

สรุปได้ว่า การป้องกันและกำจัดโรคราสีชมพูในต้นยางทำได้โดยใช้สารอินทรีย์ ไอเอส และปุ๋ยฉีดพ่นทางใบ เช่น FK1 เทคนิคเหล่านี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยสามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของต้นยางได้ เกษตรกรและเจ้าของสวนยางควรพิจารณานำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้เพื่อให้ต้นยางแข็งแรงและให้ผลผลิตที่ดีขึ้น

http://ไปที่..link..

เลือกซื้อ ไอเอส และ FK-1 เลื่อนลงล่างอีกนิดนะคะ

เชื้อราไตรโคเดอร์มาโดยเฉพาะยี่ห้อ Trichoderma Trichorex เป็นสารควบคุมทางชีวภาพที่สามารถใช้ในการป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในแตงกวา โรคราแป้งเป็นโรคเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อพืชหลายชนิด รวมทั้งแตงกวา ลักษณะเด่นคือมีแป้งสีขาวหรือเทาขึ้นที่ผิวใบ ลำต้น และผล

เชื้อราไตรโคเดอร์มาคือจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งพบในดินและเนื้อเยื่อพืช พวกมันเป็นที่รู้จักในด้านความสามารถในการผลิตเอ็นไซม์ที่สามารถสลายและย่อยสลายอินทรียวัตถุ ตลอดจนผลิตยาปฏิชีวนะและสารประกอบอื่นๆ ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชื้อรา Trichoderma Trichorex ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคพืชหลายชนิด รวมทั้งโรคราแป้ง

การใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ในการป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในแตงกวา แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำของผู้ผลิต ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการผสมผลิตภัณฑ์กับน้ำและนำไปใช้กับพืชที่ได้รับผลกระทบในลักษณะฉีดพ่นทางใบ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามอัตราการใช้และความถี่ที่แนะนำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

นอกจากการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์แล้ว ยังมีขั้นตอนอื่นๆ อีกหลายอย่างที่สามารถดำเนินการเพื่อป้องกันและควบคุมโรคราแป้งในแตงกวาได้ เหล่านี้รวมถึง:

-ปลูกแตงกวาพันธุ์ต้านทาน
-จัดให้มีการไหลเวียนของอากาศและระยะห่างที่เพียงพอระหว่างพืชเพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศ
-หลีกเลี่ยงการรดน้ำเหนือศีรษะ ซึ่งสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ชื้นซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาของโรคราแป้ง

การกำจัดและทำลายเนื้อเยื่อพืชที่เป็นโรคเพื่อลดการแพร่กระจายของโรค
โดยรวมแล้วเชื้อรา Trichoderma Trichorex สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการป้องกันและกำจัดโรคราแป้งในแตงกวา สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตและใช้ร่วมกับมาตรการป้องกันอื่น ๆ เพื่อควบคุมโรคเชื้อราที่พบบ่อยนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

IS: สารต้านเชื้อราอินทรีย์สำหรับรากเน่าในกระเจี๊ยบเขียว

โรครากเน่าเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราทั่วไปและทำลายล้างซึ่งส่งผลต่อรากของพืชหลายชนิด รวมทั้งกระเจี๊ยบเขียว อาจทำให้การเจริญเติบโตของพืชแคระแกร็น เหี่ยวเฉา และอาจถึงขั้นตายได้ สารฆ่าเชื้อราทั่วไปมักใช้เพื่อต่อสู้กับโรครากเน่า แต่ก็มาพร้อมกับข้อกังวลของตนเอง เช่น มลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและอันตรายต่อสุขภาพสำหรับผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ปัญหาที่น่าจะเป็นไปได้: IS สารต้านเชื้อราอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด

ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างกว้างขวาง IS ได้รับการคิดค้นสูตรเฉพาะเพื่อควบคุมและยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรครากเน่าในกระเจี๊ยบเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ IS ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ซึ่งแตกต่างจากสารฆ่าเชื้อราทั่วไป ทำให้เกิดสภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของเชื้อรา

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งของ IS คือประสิทธิภาพสูงในการกำหนดเป้าหมายและดับเชื้อราที่ก่อโรค ด้วยการคัดสรรส่วนผสมออกฤทธิ์อย่างพิถีพิถัน IS ได้รับการออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรครากเน่าในกระเจี๊ยบเขียวโดยเฉพาะ วิธีการที่ตรงเป้าหมายนี้ช่วยให้แน่ใจว่าสารต้านเชื้อรามีประสิทธิภาพในขณะที่ลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และสภาพแวดล้อมโดยรอบให้น้อยที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น IS ยังแสดงให้เห็นถึงการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมกับพื้นผิวใบพืช ทำให้สามารถออกฤทธิ์ได้นานขึ้น สูตรของมันช่วยให้ครอบคลุมและกระจายได้ดีขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าสารต้านเชื้อรายังคงสัมผัสกับพืชและให้การป้องกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อเกาะติดกับใบไม้อย่างมีประสิทธิภาพ IS จะป้องกันไม่ให้เชื้อราสร้างตัวและแพร่กระจายต่อไป

ลักษณะเด่นของ IS คือองค์ประกอบอินทรีย์ มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการใช้สารฆ่าเชื้อราทั่วไป ผู้ใช้สามารถใช้ IS ได้อย่างมั่นใจ โดยรู้ว่ามีความเสี่ยงน้อยที่สุดต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติของออร์แกนิกยังทำให้เหมาะสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์ สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชั่นการเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อใช้ IS จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางการใช้งานที่แนะนำโดยผู้ผลิต สิ่งนี้จะช่วยให้มั่นใจถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารต้านเชื้อรา

โดยสรุป IS แสดงถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการต่อสู้กับโรครากเน่าในกระเจี๊ยบเขียว องค์ประกอบอินทรีย์ที่ได้จากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดทำให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับเกษตรกรและชาวสวน โดยการควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช IS ยับยั้งการเจริญเติบโตและการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา ช่วยลดการเกิดโรครากเน่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพสูงในการกำหนดเป้าหมายของเชื้อราและขยายการยึดเกาะกับผิวใบของพืช ทำให้เป็นสารต้านเชื้อราที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ IS เกษตรกรสามารถปกป้องพืชผลกระเจี๊ยบของพวกเขาได้ในขณะที่ส่งเสริมระบบนิเวศทางการเกษตรที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนมากขึ้น

ไอเอส ขนาด 3 ลิตร
อัตรส่วนการใช้ 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
1 แกลลอน ผสมน้ำได้ 1200 ลิตร ใช้ได้ 15 ไร่


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

ไอเอส และ FK-T สามารถใช้ได้กับทุกพืช ใช้ฉีดพ่นทางใบ กับอุปกรณ์ฉีดพ่นทั่วไป และใช้โดรนบินฉีดพ่นได้เช่นกัน


โรคราสนิม สาเหตุ เชื้อราสเกอกา (Skierka nephelii)
ลักษณะอาการ ใบลิ้นจี่ที่แก่บริเวณใต้ทรงพุ่ม แสดงอาการเป็นจุดนูนขนาดเล็กมากสีเหลือง เกิดกระจัด กระจายทางด้านใต้ใบ และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลในระยะต่อมา

โรคราดำ สาเหตุ เชื้อรา แคบโนเดียม และเมลิโอลา (Copnodium sp. และ Meliola sp.)
ลักษณะอาการ ใบ กิ่ง ช่อดอก และช่อผล มีลักษณะเป็นคราบเขม่าหรือฝุ่นผง มีสีดำ ขึ้นเจริญปกคลุมทำให้ชะงักการเจริญเติบโตและผิวของผลไม่สะอาด เมื่อถูกน้ำฝนชะล้างคราบเขม่าสีดำของเชื้อราจะหลุดไปเอง

โรคราน้ำค้างเทียม หรือโรคผลไหม้สีน้ำตาล สาเหตุ เชื้อราเพอร์โรโนไฟโธรา (Peronophythora litchii)
ลักษณะอาการ เกิดแผลสีน้ำตาลดำรูปร่างและขนาดไม่แน่นอน และขอบแผลมีลักษณะไม่ชัดเจนบนก้านผล ผล ใบ และรากลิ้นจี่ เชื้อราสร้างส่วนขยายพันธุ์สีขาวฟูบนแผลในช่วงระยะหลังของการติดเชื้อ เมื่อสภาพแวดล้อมชุ่มชื้นและมีฝนตก

ไอเอส เป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติทั้งหมด โดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงอันทันสมัย การควบคุมประจุไฟฟ้า สามารถฉีดพ่นได้ก่อนการเก็บเกี่ยว โดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม ไอเอส และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม


สั่งซื้อ
โทร 0909-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

อัลคาลอยด์เป็นกลุ่มของสารประกอบอินทรีย์ที่พบในพืชหลายชนิดและมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาที่หลากหลาย หนึ่งในอัลคาลอยด์ดังกล่าวคือ ตรา มาคา ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในแตงกวา

เพลี้ยอ่อนเป็นแมลงดูดน้ำนมขนาดเล็กที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อต้นแตงกวา พวกมันกินใบและลำต้นของพืชทำให้เหี่ยวเฉาและตาย นอกจากนี้เพลี้ยยังขับสารเหนียวที่เรียกว่าน้ำหวานซึ่งสามารถดึงดูดแมลงศัตรูพืชและการติดเชื้อราได้

เพื่อป้องกันและควบคุมเพลี้ยในแตงกวา เกษตรกรและชาวสวนมักใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช อย่างไรก็ตาม ยาฆ่าแมลงเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อแมลง สัตว์ และมนุษย์ที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นจึงมีความสนใจเพิ่มขึ้นในการหาทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนแทนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

ทางเลือกหนึ่งคือแบรนด์ มาคา ซึ่งได้มาจากรากของต้น Maca (Lepidium meyenii) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเทือกเขา Andes ของเปรู ตรามะค่า เป็นสารอัลคาลอยด์จากธรรมชาติที่พบว่ามีคุณสมบัติฆ่าแมลง เพลี้ยอ่อน

จากการศึกษาพบว่าตรา มาคา สามารถลดประชากรเพลี้ยในต้นแตงกวาได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่จัดทำโดยนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การเกษตรและสัตวแพทยศาสตร์ในคลูช-นาโปกา ประเทศโรมาเนีย พบว่าความเข้มข้นของตรามาคา 5% ในน้ำสามารถฆ่าเพลี้ยได้ 90% ภายใน 24 ชั่วโมง

มาคา ทำงานโดยรบกวนระบบประสาทของเพลี้ยทำให้เป็นอัมพาตและตาย ตรามะค่าไม่เป็นพิษต่อคน สัตว์ และแมลงที่มีประโยชน์ ไม่เหมือนกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช อีกทั้งยังย่อยสลายได้ทางชีวภาพและไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายในสิ่งแวดล้อม

การใช้เพลี้ยแป้ง มาคา ผสมน้ำฉีดพ่นที่ใบและลำต้นของแตงกวา ความเข้มข้นของตรามะค่าอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเพลี้ยอ่อนและระยะการเจริญเติบโตของพืช สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อการใช้งานและการใช้งานที่เหมาะสม

สรุปได้ว่า มาคา เป็นสารอัลคาลอยด์จากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดเพลี้ยในแตงกวา เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและไม่เป็นพิษต่อสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ เมื่อใช้แบรนด์ มาคา เกษตรกรและชาวสวนสามารถปกป้องพืชผลของพวกเขาและส่งเสริมระบบนิเวศที่ดี

FK-T (FK ธรรมชาตินิยม) ปลอดภัย อาหารเสริมพืชชั้นเลิศ ลดต้นทุนปุ๋ย ได้ผลผลิตเพิ่ม พืชฟื้นตัวได้เร็ว
ขนาด 1 ลิตร
อัตราผสม 50 ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

แนะนำให้ผสม มาคา และ FK-T ฉีดพ่นไปพร้อมกัน
อัตราผสม สำหรับการฉีดพ่นพร้อมกัน
มาคา 50 ซีซี และ FK-T 50ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ ทุก 3-5วัน ต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง หมั่นสังเกตุอาการ

การผสมฉีดพ่นไปพร้อมกันส่งผลให้..

เมื่อพืช ถูกโรคหรือแมลงศัตรูพืชต่างๆเข้าทำลาย พืชจะมีความอ่อนแอ ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูได้ต่ำกว่าปกติ
การที่เราใช้เฉพาะตัวยา ตัวยาจะช่วยหยุดโรค หรือกำจัดแมลง แต่พืชของเรานั้นจะยังทรงตัว ฟื้นตัวจากโรค หรือฟื้นตัวจากความเสียหายของการเข้าทำลายของแมลงได้ช้า

เปรียบได้คล้ายกับคนป่วย หากได้รับแต่เฉพาะยา ไม่ทานอาหาร ไม่บำรุง ร่างกายก็จะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงดังเดิมได้ช้า
พืชก็เช่นกัน หากเราให้ยา และให้อาหารเสริมพืชทางใบหรือ FK-T ไปพร้อมกัน พืชจะได้รับธาตุอาหารที่จำเป็นไปพร้อมกับยารักษาโรคหรือยาปราบศัตรูพืช จึงช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาให้ผลผลิตดีดังเดิม

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

เชื้อราไตรโคเดอร์มา (Trichoderma) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในการเกษตรเป็นชีวภัณฑ์ป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราชนิดอื่น หนึ่งในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวคือ Trichorex แบรนด์ของเชื้อราไตรโคเดอร์มาที่เป็นสูตรเฉพาะสำหรับป้องกันและควบคุมโรคราสนิมในข้าวโพด

โรคราสนิมในข้าวโพดเกิดจากเชื้อราหลายชนิดในสกุล Puccinia และอาจนำไปสู่การสูญเสียผลผลิตอย่างมากหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาการของโรคราสนิม ได้แก่ ตุ่มหนองสีน้ำตาลแดงขนาดเล็กบนใบ ลำต้น และรวงของต้นข้าวโพด ตุ่มหนองเหล่านี้สามารถแตกออกและปล่อยสปอร์ ซึ่งสามารถแพร่โรคไปยังต้นอื่นได้

เชื้อรา Trichorex เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคราสนิมในข้าวโพด เนื่องจากมีเชื้อรา Trichoderma ที่ยังมีชีวิตที่สามารถอาศัยอยู่ที่รากและใบของต้นข้าวโพดได้ เชื้อราไตรโคเดอร์มาจะหลั่งเอนไซม์และสารประกอบอื่นๆ ที่ขัดขวางการเจริญเติบโตและการแพร่พันธุ์ของเชื้อราที่ก่อให้เกิดสนิม นอกจากนี้ เชื้อราไตรโคเดอร์มายังสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของพืช ช่วยป้องกันการติดเชื้อราได้ดียิ่งขึ้น

ในการใช้ Trichorex ควรใช้ผลิตภัณฑ์กับดินหรือฉีดพ่นโดยตรงบนพืชที่สัญญาณแรกของโรคราสนิมหรือเพื่อเป็นมาตรการป้องกัน สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตสำหรับอัตราการใช้และความถี่ที่เหมาะสม

Trichorex เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคราสนิมในข้าวโพด และสามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์การจัดการโรคอื่นๆ เช่น การปฏิบัติทางวัฒนธรรมและการบำบัดด้วยสารเคมี เมื่อใช้ Trichorex เกษตรกรสามารถปรับปรุงสุขภาพและผลผลิตของต้นข้าวโพด และลดความจำเป็นในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

ไตรโคเร็กซ์ : เชื้อไตรโคเดอร์มา

ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นใบเหลือง รากเน่า
โคนเน่า ไฟท้อปเธอร่าในทุเรียนโรคแคงเกอร์ในส้ม - มะนาว
โรคทลายปาล์มเน่าโรคแอนแทรกโนสใน มะละกอ แตงโม แตงกวาโรคใบจุด ใบแห้ง
โรคกาบใบเน่า โรคกาบใบแห้งโรคไหม้ในข้าว โรคกุ้งแห้งในพริก
โรคผลเน่าไตรโคเร็กซ์

ใช้อย่างไร

1. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นบริเวณกิ่ง ก้าน ใบ หรือราดบริเวณโคนต้น

2. ผสมเชื้อ 20 กรัม ต่อปุ๋ยอินทรีย์ 20 กก.ในการปลูกหรือรองก้นหลุมก่อนปลูก

* ไม่ควรผสมใช้ร่วมกับเชื้อบิวเวอร์เรียและเมธาไรเซียม ควรฉีดสลับกันทุก 7-10 วัน *

ผลิตภัณฑ์ของเราดีกว่าอย่างไร
1.มีห้องปฏิบัติการเพาะเชื้อจุลินทรีย์
- คัดสายพันธุ์เฉพาะ ผ่านการทดสอบ/วิจัย
- สายพันธุ์เชื้อผ่านการตรวจจาก วว.และ สวทช
2.เชื้อจุลินทรีย์เลี้ยงในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- มีตู้บ่มเชื้อควบคุมอุณหภูมิ
- ได้เชื้อจุลินทรีย์สมบูรณ์ แข็งแรง
3.มีห้องสำหรับการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์
- เพื่อลดการปนเปื้อนระหว่างการเพาะเชื้อ
- ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น แสง
4.ควบคุมคุณภาพเชื้อจุลินทรีย์ตลอดการผลิต

ป้องกันกำจัดโรคพืช
-โรคใบเหลือง ใบเหี่ยว
-โรคใบจุด ราน้ำค้าง
-โรคราแป้ง
-โรคราสีชมพู กาบใบแห้ง
-โรคผลเน่า ในพริกทุเรียน
-โรคใบไหม้
-โรคเหี่ยวเขียว เหี่ยวเหลือง
-โรครากเน่าโคนเน่า
-โรคเมล็ดเน่า

กลไกการป้องกันโรคพืช
1.เจริญเติบโต แข่งขัน แย่งอาหาร น้ำ และที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช
จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณ ลงอย่างรวดเร็ว
2.การสร้างสารปฏิชีวนะ มาทำลายผนังเซลล์เชื้อราโรคพืช
ทำให้เส้นใยเชื้อราโรคพืชเกิดการไหม้ และตาย 
3.เป็นปรสิต สร้างเส้นใยพันรัดน้ำเลี้ยงจากเชื้อโรคพืช
ทำให้เส้นใยสลายลดการขยาย เผ่าพันธุ์ลง


สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

Bacillus Thuringiensis tra Baserex เป็นบาซิลลัสชนิดหนึ่งที่ใช้ในการป้องกันและกำจัดตัวอ่อนแมลงวันผลไม้ในมะม่วง แมลงวันผลไม้เป็นปัญหาศัตรูพืชที่สำคัญของชาวสวนมะม่วง และพวกมันสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อผลผลิต ตัวอ่อนของแมลงวันผลไม้จะกินเนื้อผลไม้ทำให้ผลไม้เน่าเสียและไม่เหมาะสำหรับการบริโภค สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การสูญเสียที่สำคัญสำหรับเกษตรกร

Bacillus Thuringiensis tra Baserex เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่นิยมใช้เป็นสารกำจัดศัตรูพืชทางชีวภาพ เป็นที่ทราบกันดีว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะหนอนผีเสื้อ แมลงเม่า และแมลงปีกแข็ง แบคทีเรียสร้างสารพิษที่เรียกว่า Bt toxin ซึ่งเป็นพิษต่อตัวอ่อนของแมลงหลายชนิด เมื่อตัวอ่อนกินเข้าไป สารพิษจะทำให้ระบบย่อยอาหารเป็นอัมพาต ส่งผลให้ตายได้

การใช้ Bacillus Thuringiensis tra Baserex เป็นวิธีการควบคุมแมลงวันผลไม้เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเข้าทำลายของแมลงวันผลไม้ในมะม่วง แบคทีเรียจะถูกนำไปใช้กับต้นมะม่วงในรูปแบบสเปรย์ และแมลงวันผลไม้จะกินแบคทีเรียเมื่อพวกมันกินผลมะม่วง เมื่อแบคทีเรียถูกกินเข้าไป พวกมันจะเริ่มทำงาน ทำให้ระบบย่อยอาหารของตัวอ่อนเป็นอัมพาตและทำให้พวกมันตาย วิธีการกำจัดศัตรูพืชนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่เป็นอันตรายต่อแมลงที่มีประโยชน์หรือสิ่งแวดล้อม

Bacillus Thuringiensis tra Baserex เป็นวิธีการทางธรรมชาติและปลอดภัยในการควบคุมตัวอ่อนแมลงวันผลไม้ในมะม่วง และมีข้อดีหลายประการที่เหนือกว่าสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และยังสามารถทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายไว้บนผลไม้ ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการบริโภค ในทางตรงกันข้าม Bacillus Thuringiensis tra Baserex เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายบนผลไม้

การใช้ Bacillus Thuringiensis tra Baserex นั้นคุ้มค่ากว่าการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชแบบดั้งเดิม เนื่องจากแบคทีเรียมีราคาไม่แพงนัก และไม่ต้องใช้แรงงานมากเท่ากับการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวสวนมะม่วงที่กำลังมองหาวิธีกำจัดตัวอ่อนแมลงวันผลไม้ที่คุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สรุปได้ว่า Bacillus Thuringiensis tra Baserex เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมตัวอ่อนแมลงวันผลไม้ในมะม่วง เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคุ้มค่า เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวสวนมะม่วง ด้วยการใช้ Bacillus Thuringiensis tra Baserex ชาวสวนมะม่วงสามารถลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและปกป้องพืชผลของพวกเขาจากผลเสียหายของการรบกวนของแมลงวันผลไม้

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌
ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน

โรคเชื้อราเป็นปัญหาหลักสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลือง เนื่องจากอาจทำให้ผลผลิตและคุณภาพของพืชลดลงอย่างมาก โชคดีที่มีวิธีป้องกันและกำจัดโรคเหล่านี้อย่างได้ผลโดยใช้สารประกอบอินทรีย์และ IS

IS หรือ "Improved Spreadability" เป็นสารผสมที่ช่วยกระจายสารประกอบอินทรีย์ให้ทั่วถึงทั่วทั้งโรงงาน อัตราการผสมที่แนะนำคือ 50 ซีซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร และสามารถใช้ร่วมกับสารกำจัดเชื้อราอื่นๆ

สารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่งคือ FK-1 ซึ่งมีส่วนผสมของไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว การผสมผสานที่อุดมด้วยสารอาหารนี้ไม่เพียงช่วยป้องกันโรคเชื้อรา แต่ยังส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช

ในการใช้ FK-1 เพียงผสม 50 กรัมของถุงแรก (ที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม) และ 50 กรัมของถุงที่สอง (ที่มีแมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว) กับน้ำ 20 ลิตร ใช้ส่วนผสมกับต้นถั่วเหลือง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้กระจายอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ IS

การใช้สารประกอบอินทรีย์และ IS เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองสามารถป้องกันและกำจัดโรคเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชที่ดีและเพิ่มผลผลิตสูงสุด

โรคไฟทอฟธอราคุกคามต้นทุเรียนอย่างมาก ทำให้ผลผลิตพืชลดลงและเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสำหรับเกษตรกร อย่างไรก็ตาม ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างครอบคลุม มีการพัฒนารูปแบบ IS ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อราอินทรีย์ โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ควบคุมและยับยั้งเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อราบนผิวใบทุเรียน นอกจากนี้ เมื่อใช้ร่วมกับอาหารเสริมพืช FK-T IS สามารถเร่งการฟื้นตัวจากการบุกรุกของเชื้อรา ส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง และเพิ่มภูมิคุ้มกันของพืช

IS: สารต้านเชื้อราที่มีประสิทธิภาพ:
IS เป็นผลจากการวิจัยและพัฒนาที่ทุ่มเทเพื่อหาทางออกที่มีประสิทธิภาพสูงในการต่อสู้โรคไฟทอปธอราในต้นทุเรียน สารต้านเชื้อราอินทรีย์นี้ทำหน้าที่โดยการควบคุมสภาวะแวดล้อมบนผิวใบพืช ทำให้ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย IS จึงยับยั้งการพัฒนาและการแพร่กระจายของเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพิ่มความยึดมั่นและความปลอดภัย:
ข้อดีอย่างหนึ่งของ IS คือความสามารถในการยึดติดกับผิวใบพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การยึดเกาะที่ดีขึ้นนี้ช่วยให้สารต้านเชื้อราสามารถให้การปกป้องได้ยาวนานขึ้น ช่วยลดความจำเป็นในการทาซ้ำบ่อยๆ นอกจากนี้ IS ยังมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมด ทำให้ปลอดภัยต่อทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม เกษตรกรสามารถใช้ IS ได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อตนเอง ผู้บริโภค หรือระบบนิเวศ

ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วด้วยอาหารเสริมพืช FK-T:
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ IS ขอแนะนำให้ใช้อาหารเสริมพืช FK-T ร่วมกับสารต้านเชื้อรา FK-T เป็นอาหารพืชชั้นเยี่ยมที่มีประโยชน์มากมายต่อต้นทุเรียน เมื่อรวมกับ IS แล้ว FK-T จะช่วยเร่งกระบวนการฟื้นตัวจากการบุกรุกของเชื้อรา

ประโยชน์ของ FK-T:

การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและใบที่สวยงาม: FK-T ส่งเสริมการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและแข็งแรง ส่งผลให้ใบเขียวชอุ่มและสดใส สูตรเฉพาะของมันสนับสนุนการสังเคราะห์แสงที่เหมาะสม ทำให้ต้นทุเรียนเจริญเติบโตได้

การเพิ่มการสะสมอาหารและการผลิตผลไม้: โดยการให้สารอาหารที่จำเป็น FK-T ช่วยในการสะสมอาหารสำรองภายในพืช เพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันพร้อมสำหรับการออกดอกและติดผล สิ่งนี้มีส่วนช่วยให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและปรับปรุงคุณภาพพืชผล

ความแข็งแรงและความต้านทานโรค: การใช้ FK-T เป็นประจำจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและสุขภาพโดยรวมของต้นทุเรียน ทำให้ไม่เสี่ยงต่อโรคใบร่วงและโรคอื่นๆ อาหารเสริมให้สารอาหารที่หลากหลายรวมถึงธาตุที่จำเป็นเพื่อเสริมสร้างพืชให้แข็งแรงจากโรคต่างๆ

Speedy Recovery and Vigor: FK-T ช่วยให้ต้นทุเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อราฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ช่วยให้พืชฟื้นคืนชีวิตชีวา ป้องกันไม่ให้พืชดูอ่อนแอหรือขาดความดแจ่มใส

เสริมภูมิคุ้มกันของพืช: FK-T ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ กระตุ้นกลไกการป้องกันของพืชจากโรคต่างๆ รวมถึงไฟทอฟธอร่า ด้วยการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน FK-T ช่วยเพิ่มความสามารถของพืชในการป้องกันการโจมตีของเชื้อราในอนาคต

บทสรุป:
การรวมกันของ IS สารต้านเชื้อราอินทรีย์ และสารเสริมพืช FK-T นำเสนอโซลูชั่นที่ทรงพลังสำหรับการควบคุมและกำจัดโรคไฟทอปธอราในต้นทุเรียน เมื่อ IS สร้างสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา และ FK-T ส่งเสริมการเจริญเติบโตและภูมิคุ้มกันที่ดี เกษตรกรสามารถเพลิดเพลินกับผลผลิตพืชผลที่ดีขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของพืช และเพิ่มความต้านทานต่อโรค ความก้าวหน้าด้านการวิจัยและพัฒนานี้นำความหวังมาสู่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน มอบแนวทางที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับไฟทอปธอรา และรับประกันสุขภาพในระยะยาวและผลผลิตของสวนทุเรียน

สั่งซื้อ
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset มี @ ด้วยนะคะ
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link.. ได้เช่นกัน