[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3587 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 7 รายการ

การป้องกันกันกำจัดโรคพืช อย่างมีประสิทธิภาพ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคราสนิม โรคราต่างๆ
การป้องกันกันกำจัดโรคพืช อย่างมีประสิทธิภาพ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคราสนิม โรคราต่างๆ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1: ประโยชน์และวิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคพืช

บทนำ
การเกษตรสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดความเสียหายจากโรคพืช บทความวิชาการนี้นำเสนอการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชแพนน่อน (ที่มีสารออกฤทธิ์คือแมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ประสิทธิภาพของแพนน่อน (แมนโคเซป) ในการป้องกันกำจัดโรคพืช
แพนน่อน ซึ่งมีสารออกฤทธิ์สำคัญคือแมนโคเซป เป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืช (fungicide) ประเภทสัมผัส ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สามารถใช้ป้องกันกำจัดโรคพืชได้หลากหลายชนิด ได้แก่:

โรคใบจุด (Leaf spot diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ทำให้เกิดจุดบนใบพืช ส่งผลให้พื้นที่ในการสังเคราะห์แสงลดลง
โรคราสนิม (Rust diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Puccinia ทำให้เกิดแผลสีส้มหรือสีน้ำตาลบนใบพืช
โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Oomycetes ทำให้เกิดคราบขาวใต้ใบพืช
โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) - โรคที่ทำให้เกิดแผลยุบตัวบนผล ใบ และลำต้น
โรคใบไหม้ (Blight diseases) - โรคที่ทำให้ใบพืชเหี่ยวแห้งและตายอย่างรวดเร็ว
โรคผลเน่า (Fruit rot) - โรคที่ทำให้ผลไม้เน่าเสียก่อนเก็บเกี่ยว

แมนโคเซปมีความเหมาะสมในการใช้กับพืชหลายชนิด เช่น:

ข้าว - ป้องกันโรคไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae
ผัก - ป้องกันโรคราน้ำค้างและโรคใบจุดในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ และพืชผักอื่นๆ
ไม้ผล - ป้องกันโรคแอนแทรคโนสและโรคผลเน่าในมะม่วง ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ
มันฝรั่ง - ป้องกันโรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans
ยางพารา - ป้องกันโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora และ Colletotrichum

องค์ประกอบและประโยชน์ของปุ๋ยทางใบ FK-1
ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่:

ไนโตรเจน (N) - ช่วยในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น กระตุ้นการสร้างโปรตีนและคลอโรฟิลล์
ฟอสฟอรัส (P) - ช่วยในการออกดอก ติดผล และพัฒนาระบบราก มีบทบาทสำคัญในกระบวนการถ่ายทอดพลังงาน
โพแทสเซียม (K) - เพิ่มความแข็งแรงของพืช ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล และเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง
แมกนีเซียม (Mg) - เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง
ซิงค์ (Zn) - ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเติบโตและเอนไซม์ที่สำคัญ ส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีน

ประโยชน์ของการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1
การผสมแพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 และฉีดพ่นไปพร้อมกัน ให้ประโยชน์หลายประการต่อเกษตรกรและพืช ดังนี้:

1. เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ
การใช้สารป้องกันกำจัดโรคควบคู่กับการเสริมธาตุอาหารให้พืช เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ โดยแมนโคเซปจะช่วยป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อรา ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น

2. ประหยัดเวลาและลดต้นทุนการผลิต
การฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและปุ๋ยทางใบในคราวเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต เนื่องจาก:

ลดจำนวนครั้งในการฉีดพ่น
ประหยัดน้ำและเชื้อเพลิงที่ใช้ในการฉีดพ่น
ลดการสึกหรอของอุปกรณ์การเกษตร
ลดค่าแรงงานในการฉีดพ่น

3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช
ธาตุอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช ทำให้พืชแข็งแรงและต้านทานต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรคได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแมนโคเซปในการป้องกันกำจัดโรคพืช

4. เร่งการฟื้นตัวของพืชที่เริ่มแสดงอาการของโรค
หากพืชเริ่มแสดงอาการของโรค การได้รับทั้งสารป้องกันกำจัดโรคและธาตุอาหารพร้อมกัน จะช่วยให้พืชสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยแมนโคเซปจะช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ในขณะที่ธาตุอาหารจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย

5. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของสารป้องกันกำจัดโรค
ธาตุอาหารบางชนิดในปุ๋ยทางใบ FK-1 อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของแมนโคเซปเข้าสู่เนื้อเยื่อพืช ทำให้การป้องกันกำจัดโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อพืช ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:

1. การทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมี
ก่อนนำแพนน่อนและปุ๋ยทางใบ FK-1 มาผสมกันเพื่อใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ ควรทำการทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมีในปริมาณน้อยก่อน เพื่อตรวจสอบว่าไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การตกตะกอน การแยกชั้น หรือการเกิดฟอง

2. อัตราส่วนการผสมที่เหมาะสม
ควรใช้อัตราส่วนการผสมตามที่ระบุไว้บนฉลากของทั้งสองผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปแล้ว:

แพนน่อน (แมนโคเซป): ใช้อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ปุ๋ยทางใบ FK-1: ใช้อัตรา 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
หมายเหตุ แกะกล่องมาจะผสมสองถุง ต้องใช้ทั้งสองถุงผสมกัน

3. การผสมสารเคมี
ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของการใช้สารเคมี ควรปฏิบัติดังนี้:

เติมน้ำลงในถังพ่นประมาณครึ่งถัง
ละลายแพนน่อน (แมนโคเซป) ในน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน แล้วจึงเทลงในถังพ่น
คนให้เข้ากัน
เติมปุ๋ยทางใบ FK-1 ลงในถังพ่น
คนให้เข้ากันอีกครั้ง
เติมน้ำให้ได้ปริมาตรตามต้องการ
คนให้เข้ากันตลอดเวลาระหว่างการฉีดพ่น

4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่น
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น เมื่อแสงแดดไม่จัดและอุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดอาการไหม้ของใบพืช

5. ความถี่ในการฉีดพ่น
ความถี่ในการฉีดพ่นขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ระยะการเจริญเติบโต และความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปควรฉีดพ่นทุก 7-14 วัน หรือตามที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์

6. ข้อควรระวัง

ควรผสมและใช้ทันที ไม่ควรเก็บสารละลายที่ผสมแล้วไว้ข้ามคืน
สังเกตอาการของพืชหลังการฉีดพ่น หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้
ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ หน้ากาก และชุดป้องกัน ขณะผสมและฉีดพ่นสารเคมี
ไม่ควรฉีดพ่นในขณะที่มีลมแรง เพื่อป้องกันการปลิวของละอองสารเคมีไปยังพื้นที่ข้างเคียง

สรุป
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืชด้วยธาตุอาหารที่จำเป็น ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีทางการเกษตรควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากและหลักการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและมีความปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

คำสำคัญ
แพนน่อน_ แมนโคเซป_ ปุ๋ยทางใบ FK-1_ โรคพืช_ สารป้องกันกำจัดโรคพืช_ ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม_ แมกนีเซียม_ ซิงค์_ การจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ_ ราสนิม_ ราน้ำค้าง_ ใบจุด_ แอนแทรคโนส_ ใบไหม้_ ผลเน่า_ การป้องกันโรคพืช
อ่าน:81
ปุ๋ยทางใบ FK-1: พลังแห่งธาตุอาหารที่เปลี่ยนการเติบโตของพืชของคุณ!
ปุ๋ยทางใบ FK-1: พลังแห่งธาตุอาหารที่เปลี่ยนการเติบโตของพืชของคุณ!
ท่านเคยสังเกตไหมว่าพืชของท่านเติบโตช้า ใบเหลือง หรือออกดอกออกผลไม่สมบูรณ์? นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าพืชของท่านกำลังขาดธาตุอาหารที่จำเป็น! แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะปุ๋ยทางใบ FK-1 คือคำตอบที่ท่านรอคอย!

ส่วนประกอบมหัศจรรย์ที่ครบครัน

ปุ๋ยทางใบ FK-1 ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น:

ไนโตรเจน - ตัวช่วยสำคัญในการสร้างใบและลำต้นที่แข็งแรง กระตุ้นการเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ ทำให้พืชเขียวชอุ่มน่ามอง

ฟอสฟอรัส - เร่งการเจริญเติบโตของรากและการออกดอกออกผล เสริมความแข็งแรงให้ระบบรากและช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น

โพแทสเซียม - เพิ่มความต้านทานโรคและแมลง ช่วยให้พืชทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และเสริมคุณภาพของผลผลิต

แมกนีเซียม - องค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยให้กระบวนการสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้พืชสร้างอาหารได้มากขึ้น

ซิงค์ - กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพื่อการเติบโต ช่วยให้พืชสร้างโปรตีนและเอนไซม์ที่จำเป็น เร่งการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช

ทำไมปุ๋ยทางใบ FK-1 จึงเหนือกว่า?

เมื่อพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 ธาตุอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่พืชโดยตรงผ่านทางใบ ซึ่งเร็วกว่าการให้ปุ๋ยทางดินถึง 8-10 เท่า! นี่คือประโยชน์ที่คุณจะได้รับ:

การดูดซึมที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ - ธาตุอาหารเข้าสู่พืชโดยตรง ไม่สูญเสียไปกับดินหรือน้ำ

เห็นผลภายใน 24-48 ชั่วโมง - พืชจะเริ่มมีสีเขียวเข้มขึ้น แตกใบอ่อนใหม่ และมีความสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด

ใช้ได้กับพืชทุกชนิด - ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก ไม้ผล ไม้ดอก หรือพืชไร่ FK-1 ช่วยเพิ่มผลผลิตได้อย่างน่าทึ่ง

แก้ปัญหาการขาดธาตุอาหารได้ทันที - เมื่อพืชแสดงอาการขาดธาตุอาหาร การพ่น FK-1 จะช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว

ประโยชน์มหาศาลที่คุณเห็นได้ด้วยตาตัวเอง

เกษตรกรผู้ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ต่างยืนยันว่าได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง:

พืชผักเติบโตเร็วขึ้น 30-40% เก็บเกี่ยวได้เร็วกว่ากำหนด

ไม้ผลออกดอกสม่ำเสมอ ติดผลดกและมีคุณภาพสูง

พืชแข็งแรงต้านทานโรคและแมลงได้ดีขึ้น ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

สีและรสชาติของผลผลิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

วิธีการใช้ที่ง่ายและคุ้มค่า

การใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ทำได้ง่าย เพียงผสมน้ำตามอัตราที่แนะนำและพ่นให้ทั่วทั้งต้น โดยเฉพาะบริเวณใต้ใบซึ่งมีปากใบมากกว่า พ่นในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ปุ๋ยทางใบ FK-1 ใช้ได้กับทุกช่วงการเติบโตของพืช ตั้งแต่ระยะต้นกล้า ระยะเจริญเติบโต ระยะออกดอก และระยะติดผล โดยแต่ละช่วงจะได้รับประโยชน์ที่แตกต่างกัน

เปลี่ยนสวนของคุณให้เขียวชอุ่มและให้ผลผลิตเต็มที่

ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรมืออาชีพหรือเพียงแค่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยให้พืชของคุณเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ

อย่าปล่อยให้พืชของคุณขาดสารอาหารสำคัญอีกต่อไป! เริ่มใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 วันนี้ และสัมผัสความแตกต่างที่คุณจะเห็นได้ด้วยตาตัวเอง!
อ่าน:121
ใส่ปุ๋ยแล้ว ควรให้ฮิวมิคเพิ่ม ดีไหม เพราะอะไร?
ใส่ปุ๋ยแล้ว ควรให้ฮิวมิคเพิ่ม ดีไหม เพราะอะไร?
ให้ปุ๋ยกับพืชแล้ว ให้ฮิวมิคเพิ่ม จะดีอย่างไร
ยิ่งยังไม่ได้ให้ปุ๋ย ควรรีบให้ฮิวมิคเลย ด้วยเหตุผลดังนี้

ฮิวมิคเป็นสารอินทรีย์ที่ช่วยปรับปรุงดินให้มีโครงสร้างดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ และทำให้ธาตุอาหารในดินละลายและดูดซึมได้ง่ายขึ้น เมื่อให้ฮิวมิคเสริมหลังการให้ปุ๋ย จะช่วยให้ปุ๋ยที่ใส่ไปไม่สูญเสียเปล่า ถูกพืชดูดใช้ได้เต็มที่ ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้เร็ว แข็งแรง และให้ผลผลิตดีขึ้น

ในกรณียังไม่ได้ใส่ปุ๋ย การรีบใส่ฮิวมิคก่อน จะช่วยเตรียมสภาพดินให้พร้อมรับปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ดินจะนุ่ม ร่วนซุย รากพืชสามารถแผ่กระจายและดูดซึมธาตุอาหารได้ดี เมื่อใส่ปุ๋ยตามหลัง ฮิวมิคจะช่วยจับธาตุอาหารไว้ในดิน ไม่ให้ถูกน้ำชะล้างไปง่าย ๆ และค่อย ๆ ปล่อยธาตุอาหารให้พืชนำไปใช้ตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น การให้ฮิวมิคจึงเหมือนการ "ลงทุนล่วงหน้า" เพื่อให้ทั้งดินและปุ๋ยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ พืชก็จะเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์ในระยะยาว
อ่าน:131
สิ่งที่
สิ่งที่
สิ่งที่ "ฮิวมิค" ให้กับต้นทุเรียนได้ แต่ปุ๋ยทั่วไปให้ไม่ได้
1. **ปรับปรุงดินระยะยาว**
- ฮิวมิคช่วยฟื้นฟูโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำดี ระบายอากาศได้ เหมาะกับรากทุเรียนที่ต้องการดินโปร่ง
- ปุ๋ยเคมีทั่วไปมักทำให้ดินเสื่อมสภาพและแข็งตัวในระยะยาว

2. **เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมปุ๋ย**
- ฮิวมิคทำหน้าที่จับแร่ธาตุอาหารไว้ในดิน ป้องกันการสูญเสียจากการชะล้าง และช่วยให้รากทุเรียนดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่
- ปุ๋ยทั่วไปให้ธาตุอาหารโดยตรง แต่ไม่ช่วยรักษาหรือเสริมการดูดซึมในระยะยาว

3. **กระตุ้นการเจริญเติบโตของราก**
- ฮิวมิคส่งเสริมการแตกแขนงของรากฝอย ทำให้ระบบรากทุเรียนแข็งแรง ดูดน้ำและอาหารได้ดีกว่า
- ปุ๋ยทั่วไปไม่มีคุณสมบัติกระตุ้นระบบรากโดยตรงแบบนี้

4. **เสริมภูมิคุ้มกันต้นทุเรียน**
- ฮิวมิคช่วยให้ต้นไม้ทนต่อสภาวะเครียด เช่น โรคพืช ดินเค็ม น้ำแห้ง หรือสารพิษตกค้าง
- ปุ๋ยทั่วไปเน้นเรื่องการให้ธาตุอาหารอย่างเดียว ไม่ช่วยเรื่องเสริมความทนทานของต้น

5. **ส่งเสริมจุลินทรีย์ดีในดิน**
- ฮิวมิคเป็นอาหารของจุลินทรีย์มีประโยชน์ในดิน ช่วยให้ระบบนิเวศในดินสมบูรณ์
- ปุ๋ยเคมีบางชนิดทำลายจุลินทรีย์ดี และทำให้ดินเสื่อมโทรม

---

**สรุปสั้นมาก:**
> ฮิวมิคช่วยสร้างดินดี รากแข็งแรง ต้นทุเรียนดูดซึมอาหารเก่ง มีภูมิคุ้มกันสูง — สิ่งที่ปุ๋ยเคมีทั่วไปให้ไม่ได้

อ่าน:187
เกษตรกรหันมาใช้ ฮิวมิค จากคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ช่วยให้พืชเจริญเติบโต แข็งแร็ง ได้ผลผลิต
เกษตรกรหันมาใช้ ฮิวมิค จากคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ช่วยให้พืชเจริญเติบโต แข็งแร็ง ได้ผลผลิต
ฮิวมิค (Humic) เป็นสารอินทรีย์ธรรมชาติที่มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ทำให้เกษตรกรนิยมนำมาใช้ในการเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย ดังนี้:

**1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน:**

* ช่วยให้ดินร่วนซุย โปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น โดยเฉพาะดินเหนียวจะคลายตัว ส่วนดินทรายจะมีการจับตัวดีขึ้น
* เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน ทำให้พืชทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดีขึ้น
* ลดการชะล้างพังทลายของดิน

**2. เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน:**

* เป็นแหล่งของธาตุอาหารทั้งหลักและรอง รวมถึงจุลธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
* ช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารที่ถูกตรึงอยู่ในดินให้พืชสามารถนำไปใช้ได้มากขึ้น
* เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ย ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น ลดการสูญเสียปุ๋ยจากการชะล้าง
* ส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายอินทรียวัตถุและสร้างธาตุอาหาร

**3. กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช:**

* ช่วยให้ระบบรากแข็งแรง แตกแขนงได้ดี ทำให้พืชสามารถดูดน้ำและธาตุอาหารได้มากขึ้น
* ส่งเสริมการสังเคราะห์แสง ทำให้พืชสร้างอาหารได้มากขึ้น
* เพิ่มความต้านทานต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป และความเค็มของดิน

**4. ปรับสมดุล pH ของดิน:**

* ช่วยปรับสภาพดินที่เป็นกรดหรือด่างให้มีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช

**5. ลดผลกระทบจากสารเคมี:**

* ช่วยดูดซับสารพิษและสารเคมีตกค้างในดิน ลดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อพืชและสิ่งแวดล้อม

ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกดังกล่าวมาข้างต้น ทำให้ฮิวมิคได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงคุณภาพดิน และลดการใช้สารเคมีในการเกษตร
อ่าน:19
ลำไยไทยราคาพุ่ง เกษตรกรยิ้มรับทรัพย์
ลำไยไทยราคาพุ่ง เกษตรกรยิ้มรับทรัพย์
สวัสดีค่ะ! วันนี้เรามีข่าวดีสำหรับเกษตรกรชาวสวนลำไยมาฝากค่ะ

ตอนนี้ราคาลำไยไทยกำลัง พุ่งสูงขึ้น อย่างต่อเนื่องค่ะ โดยเฉพาะผลผลิตจากภาคเหนือที่มีคุณภาพสูง กำลังได้รับความนิยมจากตลาดส่งออก ทั้งจีนและประเทศในแถบเอเชียค่ะ

ราคาลำไยสดเกรด A ตอนนี้สูงถึง 30-40 บาทต่อกิโลกรัม แล้วนะคะ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 15% ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีกำลังใจในการดูแลสวนมากขึ้นค่ะ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนช่วยสนับสนุนการส่งออกลำไยให้เข้าถึงตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้มาตรการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพของผลไม้ไทยค่ะ

นี่ถือเป็นช่วงเวลาทองของลำไยไทยที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ ถ้ารักษาคุณภาพและมาตรฐานนี้ไว้ เชื่อว่าลำไยไทยจะครองใจตลาดโลกไปอีกนานค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามข่าวเกษตรดี ๆ กับเรานะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ สวัสดีค่ะ!
อ่าน:117
สถานการณ์ทุเรียนไทยปี 2568: โอกาสทางการค้าและปัญหาภายในประเทศที่ต้องจับตา
สถานการณ์ทุเรียนไทยปี 2568: โอกาสทางการค้าและปัญหาภายในประเทศที่ต้องจับตา
สถานการณ์ทุเรียนไทยปี 2568: โอกาสทางการค้าและปัญหาภายในประเทศที่ต้องจับตา
ในปี 2568 ทุเรียนไทยยังคงเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มีความสำคัญทั้งในด้านการส่งออกและตลาดภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทายไม่น้อย ทั้งด้านปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันจากต่างประเทศ รวมถึงปัญหาหลายประการภายในประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ

## 📈 ปริมาณผลผลิตเพิ่มสูง – โอกาสและความท้าทาย

ภาคตะวันออกของไทยคาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดประมาณ 1_045_410 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 56.89% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศที่เหมาะสมและการขยายพื้นที่ปลูกที่ต่อเนื่อง

แม้จะดูเป็นโอกาสที่ดี แต่การมีผลผลิตจำนวนมากอาจนำไปสู่ “ภาวะผลผลิตล้นตลาด” หากการกระจายผลผลิตไม่ดีพอ หรือเกิดอุปสรรคในการส่งออก โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างจีน

## ปัญหาการส่งออก: สารตกค้าง-การแข่งขันสูง

ในช่วงต้นปี 2568 มีกรณีพบสารย้อมสี Basic Yellow 2 (BY2) ในทุเรียนส่งออกไปยังประเทศจีน ทำให้ทางการจีนเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลไทยได้เร่งออกมาตรการควบคุม เช่น การตรวจสารตกค้าง การสุ่มตรวจสวน และสร้างระบบ QR Traceability เพื่อความโปร่งใส

นอกจากนั้น ไทยยังเผชิญการแข่งขันจากผู้ส่งออกรายอื่น เช่น มาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งสามารถส่งทุเรียนพันธุ์ดีในราคาที่แข่งขันได้ โดยคาดว่าการแข่งขันนี้อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ส่งออกทุเรียนไทยประมาณ 1.7-5.7 หมื่นล้านบาทในช่วงปี 2568-2573

## 🧩 ปัญหาทุเรียนภายในประเทศ: ความท้าทายที่ต้องร่วมกันแก้

แม้การส่งออกจะมีความสำคัญ แต่ปัญหาภายในประเทศก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาเช่นกัน:

### 1. ราคาตกจากผลผลิตล้นตลาด
ผลผลิตทุเรียนจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันอาจทำให้ราคาหน้าสวนตกลงอย่างหนัก โดยเฉพาะหากทุเรียนบางส่วนสุกเกินหรือเสียหายจากการจัดเก็บไม่เหมาะสม

### 2. การใช้สารเคมีไม่เหมาะสม
บางพื้นที่มีการใช้สารเร่งการสุกหรือสารตกแต่งเปลือก เช่น การย้อมสี ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และกระทบต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยทั้งในและต่างประเทศ

### 3. ระบบขนส่งและกระจายสินค้าไม่ทั่วถึง
ยังขาดแคลนระบบขนส่งห้องเย็น คลังพักผลไม้ที่ทันสมัย หรือศูนย์กลางกระจายสินค้าในบางจังหวัด ส่งผลให้ทุเรียนบางล็อตเสียหายก่อนถึงตลาดปลายทาง

### 4. ปัญหาการปลอมแปลงสายพันธุ์
มีการร้องเรียนจากผู้บริโภคในประเทศว่า ทุเรียนที่ซื้อไม่ตรงสายพันธุ์ที่ระบุ เช่น ซื้อมูซังคิงแต่ได้หมอนทอง หรือขายทุเรียนอ่อนเป็นทุเรียนแก่

### 5. ขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยว
หลายพื้นที่เผชิญปัญหาแรงงานไม่เพียงพอในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตหล่นเสียหาย หรือเก็บไม่ทัน

### 6. ความเสี่ยงจากสภาพอากาศ
ฝนที่ตกผิดฤดู ลมพายุ หรือภาวะแห้งแล้ง ล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณของผลผลิต

## 🔎 ทางออกและแนวโน้มในอนาคต

แม้จะมีปัญหาและความท้าทายหลายด้าน แต่ทุเรียนไทยยังคงมีศักยภาพในตลาดโลก โดยเฉพาะหากเกษตรกรสามารถผลิตทุเรียนคุณภาพสูง ปลอดสาร และปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด

การพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยว การแปรรูป และระบบโลจิสติกส์ รวมถึงการส่งเสริมตลาดภายในประเทศให้เข้มแข็ง จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างเสถียรภาพระยะยาวให้กับ “ราชาแห่งผลไม้” ของไทย

---

# ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตทุเรียน ด้วย ฮิวมิค FK

## ✔️ **Value-Oriented (ให้คุณค่า): ปลูกทุเรียนให้คุ้มค่าทุกต้นทุน**

ในยุคที่ต้นทุนเกษตรเพิ่มสูง ทั้งปุ๋ยเคมี ค่าแรง และค่าขนส่ง การเลือกใช้ **ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของดินและรากต้นทุเรียน** จึงเป็นทางออกที่คุ้มค่า

**ฮิวมิค FK** คือสารปรับปรุงดินที่มีส่วนผสมของฮิวมิก แอซิด จากธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำดี รากเดินลึก พร้อมรับสารอาหารได้อย่างเต็มที่

🌿 **ผลลัพธ์ที่เกษตรกรทุเรียนหลายรายยืนยัน:**
- ลดต้นทุนปุ๋ยเคมีลงได้กว่า 30%
- ทุเรียนติดลูกดี ต้นไม่โทรมหลังให้ผลผลิต
- ดินฟื้นตัวไว หลังเจอฝนตกหนักหรือน้ำท่วม

---

## ✔️ **Personalization (ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม): สำหรับเกษตรกรทุเรียนโดยเฉพาะ**

ไม่ว่าคุณจะปลูก **หมอนทอง_ ชะนี_ พวงมณี หรือก้านยาว** – ฮิวมิค FK ก็สามารถปรับสูตรการใช้ให้เหมาะสมกับ:
- **ช่วงอายุของต้น:** ตั้งแต่ลงปลูกใหม่ – ผลผลิตปีที่ 10
- **สภาพดิน:** ดินเหนียว ดินทราย ดินลูกรัง
- **ฤดูกาลและเป้าหมาย:** เร่งฟื้นต้น – เร่งราก – เพิ่มขนาดผล

📌 ตัวอย่างการใช้:
- *ต้นเล็ก:* 10กรัม หรือประมาณ 1 ช้องแกง ต่อน้ำ 20 ลิตร ราดโคนเดือนละ 1-2 ครั้ง
- *ต้นให้ผลผลิต:* ใช้ร่วมกับปุ๋ยเกล็ด/ปุ๋ยอินทรีย์ กระตุ้นการกินปุ๋ย ดูดซึมไวขึ้น

---

ฮิวมิคFK เป็นหนึ่งในสินค้าขายดี จากฟาร์มเกษตร ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และใช้ได้ผลกับพืชทุกชนิด

---

## 🔚 สรุป: ทางเลือกใหม่ของเกษตรกรทุเรียนยุคใหม่

✅ ลดต้นทุน ✔️ เพิ่มผลผลิต
✅ บำรุงดิน ✔️ ฟื้นฟูราก
✅ ใช้คู่กับปุ๋ยเดิมได้ ไม่ต้องเปลี่ยนระบบ
อ่าน:262
อัปเดตสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2568: ผลผลิตเพิ่ม มาตรการรัฐคุมราคา และแนวโน้มตลาดโลก
อัปเดตสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2568: ผลผลิตเพิ่ม มาตรการรัฐคุมราคา และแนวโน้มตลาดโลก
อัปเดตสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2568: ผลผลิตเพิ่ม มาตรการรัฐคุมราคา และแนวโน้มตลาดโลก
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทยที่มีบทบาทในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงานชีวภาพ ล่าสุด สถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี **2568** มีแนวโน้มที่น่าจับตามอง ตั้งแต่การคาดการณ์ผลผลิต ราคาตลาด ไปจนถึงมาตรการที่ภาครัฐออกมาเพื่อควบคุมและรักษาเสถียรภาพ วันนี้เรามาอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดกัน

---

### **📌 ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2568 คาดแตะ 5.2 ล้านตัน**
ด้วยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและการพัฒนาเทคนิคการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ **กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 5.2 ล้านตัน** ซึ่งมากกว่าปี 2567 ที่อยู่ที่ 5 ล้านตัน

ปัจจัยที่ช่วยให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่
✅ **การใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง** ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น
✅ **การบริหารจัดการน้ำและปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ** เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
✅ **สภาพอากาศที่เอื้ออำนวย** ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้ดี

---

### **📌 มาตรการรัฐ: คุมราคาข้าวโพด – ลดต้นทุนเกษตรกร**
คณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการ **รักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2568** ด้วยงบประมาณกว่า **70 ล้านบาท** เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับราคาที่เป็นธรรม รวมถึงป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังมีแผน **เปิดจุดรับซื้อข้าวโพด** เพิ่มขึ้นในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ **ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ** ซึ่งเป็นแหล่งปลูกหลัก

---

### **📌 จีนเดินหน้านำเข้าข้าวโพด GMO ไทยปรับกลยุทธ์อย่างไร?**
จีนยังคงเดินหน้า **อนุมัติและนำเข้าข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม (GMO)** ซึ่งอาจทำให้ราคาข้าวโพดในตลาดโลกปรับตัวขึ้นลงตามอุปสงค์และอุปทาน

อย่างไรก็ตาม **ข้าวโพดไทยที่ไม่ใช่ GMO ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดพรีเมียม เช่น ญี่ปุ่น และยุโรป** ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยทางอาหาร ทำให้ไทยสามารถรักษาตลาดในกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้

---

### **📌 ลดฝุ่น PM2.5! รัฐเข้มมาตรการห้ามเผาข้าวโพด**
ในปี 2568 รัฐบาลมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในการ **ลดฝุ่น PM2.5** โดยกำหนดให้ **ห้ามนำเข้าข้าวโพดจากแหล่งที่มีการเผา** ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดมลพิษทางอากาศ

มาตรการนี้จะช่วยให้
✅ เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปใช้ **แนวทางการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม**
✅ ตลาดข้าวโพดไทยได้รับความเชื่อถือในระดับสากล
✅ ลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจากมลพิษฝุ่นละออง

---

### **📌 สรุปแนวโน้มตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2568**
✔ **ผลผลิตเพิ่มขึ้น** คาดแตะ 5.2 ล้านตัน
✔ **รัฐเข้มมาตรการคุมราคา** สนับสนุนเกษตรกรผ่านจุดรับซื้อ
✔ **การแข่งขันสูงจากข้าวโพด GMO ของจีน** ไทยยังคงรักษาตลาดพรีเมียม
✔ **มาตรการลดฝุ่น PM2.5 เข้มขึ้น** ส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวโพดอย่างยั่งยืน

### **ฮิวมิค FK: ตัวช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลดต้นทุน ปรับปรุงดิน เพื่อเกษตรกรยุคใหม่** 🌽🌱

ปัจจุบัน **เกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์** ต้องเผชิญกับหลายความท้าทาย ทั้งเรื่อง **ต้นทุนปุ๋ยที่สูงขึ้น ดินเสื่อมคุณภาพ และความผันผวนของตลาด** ในปี **2568** ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น **5.2 ล้านตัน** แต่ **หากไม่มีการจัดการดินที่ดี** อาจส่งผลให้ผลผลิตไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

**ฮิวมิค FK** จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ **ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนปุ๋ยเคมี และฟื้นฟูดินให้มีความสมบูรณ์** พร้อมช่วยให้เกษตรกรปรับตัวเข้าสู่แนวทางเกษตรกรรมที่ยั่งยืน

---

## **✔️ Value-Oriented: ฮิวมิค FK ให้คุณค่าอะไรกับเกษตรกรข้าวโพด?**

### ✅ **1. เพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้สูงขึ้น 20-30%**
- ฮิวมิคช่วยให้ **รากแข็งแรง** และ **ดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น**
- ข้าวโพดเจริญเติบโตเร็วขึ้น เมล็ดเต็มและสมบูรณ์

### ✅ **2. ลดต้นทุนปุ๋ยเคมี ใช้ได้น้อยลงแต่ได้ผลดีขึ้น**
- ฮิวมิคช่วย **ตรึงปุ๋ยในดิน** ทำให้พืชดูดซึมได้อย่างเต็มที่
- ลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้ **15-30%** โดยไม่ลดผลผลิต

### ✅ **3. ปรับปรุงโครงสร้างดิน แก้ปัญหาดินเสื่อมสภาพ**
- เพิ่ม **อินทรียวัตถุในดิน** ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี
- เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มี **ปัญหาดินแข็ง ดินแน่น หรือดินเสื่อมโทรม**

### ✅ **4. ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และการเผาตอซังที่ก่อให้เกิด PM2.5**
- ทำให้ซากพืชย่อยสลายเร็วขึ้น **ไม่ต้องเผา ลดฝุ่นควัน**
- สนับสนุนแนวทางเกษตรอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

---

## **✔️ Personalization: ฮิวมิค FK ตอบโจทย์เกษตรกรข้าวโพดแต่ละแบบได้อย่างไร?**

📌 **สำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิต**
- ใช้ **ฮิวมิค FK** ร่วมกับปุ๋ยเคมี จะช่วยให้ข้าวโพดออกฝักใหญ่ น้ำหนักดี
- ลดความเสี่ยงจาก **ดินเสื่อมและธาตุอาหารขาดแคลน**

📌 **สำหรับเกษตรกรที่ต้องการลดต้นทุน**
- ใช้ฮิวมิค FK **ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี** และทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้เต็มที่
- ลดต้นทุนระยะยาว โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีมากเกินไป

📌 **สำหรับเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์หรือเกษตรยั่งยืน**
- ฮิวมิค FK **เป็นสารอินทรีย์ 100%** ไม่มีสารเคมีตกค้าง
- ช่วยปรับปรุงดินให้สมบูรณ์ โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี

📌 **สำหรับเกษตรกรที่มีปัญหาดินแข็ง หรือดินเสื่อมคุณภาพ**
- ฮิวมิคช่วย **ฟื้นฟูดิน เพิ่มอินทรียวัตถุ** ให้ดินร่วนซุย เหมาะสำหรับการปลูกพืชระยะยาว

---

## **✔️ Authority: ฮิวมิคFK สำคัญอย่างไร**

- งานวิจัยหลายฉบับระบุว่า **ฮิวมิคแอซิด และฟลูวิค ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร และกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช**

- **ผลผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนปุ๋ยลดลง** และดินดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

🌍 **ช่วยสนับสนุนนโยบายภาครัฐเรื่อง PM2.5 และเกษตรยั่งยืน**
- รัฐบาลส่งเสริม **การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และลดการเผาตอซัง**
- การใช้ฮิวมิค FK ช่วยลดมลพิษ **และทำให้ดินดีขึ้นในระยะยาว**

---

## **📌 วิธีใช้ฮิวมิค FK กับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์**

📍 **ระยะเตรียมดิน:** ผสมฮิวมิค FK กับปุ๋ยอินทรีย์ หรือโรยลงดินก่อนปลูก
📍 **ระยะต้นกล้า (1-2 สัปดาห์แรก):** ฉีดพ่นทางใบ เพื่อกระตุ้นการแตกราก
📍 **ระยะขยายต้น:** ผสมฮิวมิค FK กับน้ำแล้วราดโคนต้น เพื่อช่วยดูดซึมธาตุอาหาร
📍 **ระยะออกฝัก:** ใช้ฮิวมิค FK ควบคู่กับปุ๋ยสูตร 15-15-15 เพื่อเพิ่มคุณภาพและขนาดฝัก

---

## **📌 สรุป: ฮิวมิค FK คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์**

✅ **เพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 20-30%**
✅ **ช่วยให้ดินอุ้มน้ำและดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น**
✅ **ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ประหยัดต้นทุนระยะยาว**
✅ **ช่วยลดปัญหาดินเสื่อม ดินแข็ง และเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน**
✅ **เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่น PM2.5**

ปรุงดิน เพิ่มผลผลิตข้าวโพดของคุณ ด้วย "ฮิวมิค FK" วันนี้!** 🌱✨
อ่าน:333
มันสำปะหลังราคาตกต่ำ 1.80 บาท ต่อ กก. ต้นปี 68นี้ กลางปีจะดีขึ้นไหม?
มันสำปะหลังราคาตกต่ำ 1.80 บาท ต่อ กก. ต้นปี 68นี้ กลางปีจะดีขึ้นไหม?
มันสำปะหลังราคาตกต่ำ 1.80 บาท ต่อ กก. ต้นปี 68นี้ กลางปีจะดีขึ้นไหม?
สถานการณ์มันสำปะหลังในปี 2568: ราคาตกต่ำ ผลกระทบ และแนวโน้มอนาคต

ในช่วงต้นปี 2568 เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อราคามันสำปะหลังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยราคาหัวมันสดอยู่ที่ประมาณ 1.80 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรจำนวนมากต้องหาทางปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ราคามันสำปะหลังตกต่ำ

ผลผลิตล้นตลาด

ในปี 2568 ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ส่งผลให้เกิดอุปทานล้นตลาด ทำให้ราคาปรับตัวลดลง

ความต้องการจากต่างประเทศลดลง

แม้ว่าจีนจะยังเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย แต่นโยบายการนำเข้าของจีนที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณการสั่งซื้อลดลง

การแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้าน

ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและกัมพูชาเริ่มขยายการปลูกมันสำปะหลังมากขึ้น และเสนอราคาที่แข่งขันได้มากกว่า ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของไทยลดลง

มาตรการแก้ไขจากภาครัฐและแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร

ท่ามกลางวิกฤติราคามันสำปะหลังที่ลดลง รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการหลายประการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและกระตุ้นตลาด

การเจรจาขยายตลาดส่งออก

กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งเจรจากับจีนเพื่อเพิ่มปริมาณการนำเข้ามันสำปะหลังของไทย ล่าสุดมีข้อตกลงนำเข้ากว่า 1.68 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 5_314.95 ล้านบาท

ส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังในประเทศ

รัฐบาลกำลังผลักดันให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมเอทานอลเพิ่มการใช้มันสำปะหลังในกระบวนการผลิต เพื่อลดผลผลิตส่วนเกินในตลาด

โครงการประกันรายได้เกษตรกร

มีการพิจารณาปรับปรุงโครงการประกันรายได้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อช่วยลดความเดือดร้อนของเกษตรกร

แนวโน้มอนาคตของราคามันสำปะหลัง

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคามันสำปะหลังอาจเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงกลางปี 2568 หากมาตรการของรัฐบาลสามารถเพิ่มปริมาณการส่งออกได้สำเร็จ รวมถึงการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากจีน เช่น อินเดียและยุโรป

นอกจากนี้ เกษตรกรอาจต้องปรับตัวโดยการเพิ่มคุณภาพของผลผลิต หันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้

ฮิวมิค FK: ทางเลือกใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง

หนึ่งในวิธีที่เกษตรกรสามารถใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต คือ การใช้ฮิวมิค FK ซึ่งเป็นสารอินทรีย์สกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยปรับปรุงดิน เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร และทำให้พืชแข็งแรงขึ้น

✅ ช่วยเพิ่มผลผลิต – ฮิวมิค FK กระตุ้นการแตกรากและการดูดซึมสารอาหาร ทำให้ต้นมันสำปะหลังเจริญเติบโตได้ดีขึ้น และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง

✅ ลดต้นทุนปุ๋ยเคมี – ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารจากดินได้ดีขึ้น ทำให้สามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ โดยไม่กระทบต่อคุณภาพผลผลิต

✅ เพิ่มความต้านทานต่อโรคและสภาพอากาศ – พืชที่แข็งแรงจากการใช้ฮิวมิค FK จะสามารถต้านทานโรคพืชและสภาพอากาศที่แปรปรวนได้ดีขึ้น ลดโอกาสสูญเสียผลผลิต

บทสรุป

ปี 2568 นับเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในไทย อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐและการปรับตัวของเกษตรกรเอง คาดว่าอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยยังคงมีอนาคตที่สดใสหากสามารถแก้ไขปัญหาการตลาดและการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากเกษตรกรต้องการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต ฮิวมิค FK เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับต้นมันสำปะหลัง และช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮิวมิค FK และวิธีการใช้งาน สามารถติดต่อผู้จัดจำหน่ายหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการฟาร์มของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
อ่าน:169
แนวโน้มข้าวคาร์บอนต่ำ กับตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก
แนวโน้มข้าวคาร์บอนต่ำ กับตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก
แนวโน้มข้าวคาร์บอนต่ำ กับตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก
แนวโน้มการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำกำลังเป็นที่สนใจในตลาดโลก เนื่องจากผู้บริโภคและนโยบายการค้าระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปกป้องสิ่งแวดล้อม การผลิตข้าวแบบดั้งเดิมที่มีน้ำขังในนาข้าวมักปล่อยก๊าซมีเทนในปริมาณสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ประเทศไทยในฐานะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ได้เริ่มส่งเสริมการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการไทยไรซ์ นามา (Thai Rice NAMA) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) โครงการนี้มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำนาโดยการส่งเสริมเทคโนโลยีและวิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเวียดนาม พบว่าเวียดนามมีการส่งเสริมการปลูกข้าวคาร์บอนต่ำอย่างจริงจังและมีเป้าหมายชัดเจน โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ เวียดนามมีเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวคาร์บอนต่ำให้ได้ 6.25 ล้านไร่ภายในปี 2030 ซึ่งคาดว่าจะผลิตข้าวคาร์บอนต่ำได้ประมาณ 6.3 ล้านตัน ขณะที่ไทยมีศักยภาพการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านตัน

นอกจากนี้ สหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของข้าวไทย มีแนวโน้มที่จะบังคับใช้เกณฑ์การค้าข้าวคาร์บอนต่ำในอนาคต หากไทยไม่ปรับตัว อาจต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก

ดังนั้น การเร่งพัฒนาการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำและการปรับปรุงเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลกและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

**ฮิวมิค FK กับการเพิ่มผลผลิตข้าวคาร์บอนต่ำ**

การใช้ **ฮิวมิค FK** สามารถช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวคาร์บอนต่ำได้โดยการปรับปรุงคุณภาพของดินและลดการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการเกษตร โดยมีแนวทางหลัก ๆ ดังนี้

---

### **1. เพิ่มอินทรียวัตถุและความอุดมสมบูรณ์ของดิน**
- **ฮิวมิค FK** อุดมไปด้วย **ฮิวมิกแอซิด (Humic Acid) และฟุลวิกแอซิด (Fulvic Acid)** ซึ่งช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินสามารถกักเก็บน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น
- ลดความเป็นกรดในดินและช่วยให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินเจริญเติบโตดีขึ้น

---

### **2. ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดต้นทุน และลดก๊าซเรือนกระจก**
- การใช้ฮิวมิค FK ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์สามารถช่วยลดปริมาณการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N₂O)
- ดินที่มีฮิวมิคสูงสามารถดูดซับธาตุอาหารจากปุ๋ยได้ดีขึ้น ทำให้พืชนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียธาตุอาหารในดิน

---

### **3. เพิ่มการดูดซับคาร์บอนในดิน (Carbon Sequestration)**
- ดินที่มีปริมาณอินทรียวัตถุสูงสามารถกักเก็บคาร์บอนในรูปของฮิวเมต (Humate) ทำให้การปลูกข้าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
- ลดการปล่อยก๊าซมีเทน (CH₄) จากดินเปียกที่เกิดจากการทำนาแบบดั้งเดิม

---

### **4. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของข้าว เพิ่มผลผลิต**
- ฮิวมิค FK ช่วยกระตุ้นการแตกกอของข้าว ทำให้ได้รวงข้าวมากขึ้น
- ช่วยให้ระบบรากพืชแข็งแรง ข้าวดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ทำให้เมล็ดข้าวเต็ม น้ำหนักดี
- เพิ่มความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช ลดการใช้สารเคมี

---

### **5. ลดการใช้น้ำและส่งเสริมระบบการปลูกข้าวแบบยั่งยืน**
- ดินที่ได้รับฮิวมิค FK สามารถอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ลดการใช้น้ำในการปลูกข้าว
- ส่งเสริมการทำนาแบบ **"เปียกสลับแห้ง" (Alternate Wetting and Drying: AWD)** ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากนาข้าว

---

### **สรุป**
การใช้ **ฮิวมิค FK** ในการปลูกข้าวคาร์บอนต่ำมีประโยชน์ทั้งในด้าน **การเพิ่มผลผลิต** และ **ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม** โดยช่วยปรับปรุงดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มความยั่งยืนของการผลิตข้าวในระยะยาว

อ่าน:224
3587 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 7 รายการ
|-Page 1 of 359-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 | 353 | 354 | 355 | 356 | 357 | 358 | 359 |


โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี @FarmKaset

กลุ่มสินค้าขายดีมาก

ฮิวมิค FK
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
ไทอะมีทอกแซม
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ
แพนน่อน
สั่งซื้อได้ที่ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
สั่งกับ TikTok | แอดไลน์สั่งซื้อ


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค: การปลดปล่อยธาตุอาหารแบบธรรมชาติเพื่อพัฒนาผลผลิตที่ยั่งยืน
Update: 2567/02/13 09:54:19 - Views: 3537
เพลี้ยในถั่วฝักยาว: ปัญหาและวิธีการจัดการ
Update: 2566/11/23 14:23:33 - Views: 3780
การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังให้สูงสุดด้วยปุ๋ย FK-1 และ FK-3
Update: 2566/01/05 13:07:55 - Views: 3470
การปลูกกัญชาถูกกฎหมาย ทำได้อย่างไร
Update: 2564/11/19 15:20:31 - Views: 3490
การจัดการหนอนผีเสื้อศัตรูพืช: วิธีแก้ปัญหาและป้องกันความเสียหายในสวนและแปลงปลูก
Update: 2566/11/16 14:22:42 - Views: 3911
โรคแอนแทรคโนส มะม่วง
Update: 2564/05/04 11:29:05 - Views: 3729
ปุ๋ยบำรุง ขนุน โตไว รากแข็งแรง ติดดอก ออกผลผลิตสูง FK-1 มี สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์, N,P,K,Mg,Zn
Update: 2564/11/11 12:53:04 - Views: 3462
อาการขาดธาตุอาหารในพืช N, P, K, Mg, Zn
Update: 2566/11/04 11:43:09 - Views: 3535
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคใบจุดตากบ ในพริก ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง 100%
Update: 2565/12/19 12:29:04 - Views: 3569
โรคใบด่างมะละกอ เชื้อไวรัสในมะละกอ ต้องกำจัดเพลี้ยอ่อน ซึ่งเป็นพาหะนำโรค และมีดตอนกิ่งที่ไม่สะอาดก็มีส่วน
Update: 2563/06/10 16:16:45 - Views: 5391
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนแมลงวันทอง ใน น้อยหน่า และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/09 12:23:38 - Views: 3516
วิธีการป้องกันและควบคุม เพลี้ยในต้นดอกทานตะวัน
Update: 2566/11/17 12:54:22 - Views: 3463
ดอกทานตะวัน ใบไหม้ ใบจุด ราน้ำค้าง กำจัดโรค เชื้อราต่างๆในดอกทานตะวัน ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK สวน ปุ๋ย ศัตรูพืช
Update: 2565/11/08 10:05:01 - Views: 3524
ชุดผลิตภัณฑ์คู่หู ดูแลต้นมะม่วง ปู๋ยน้ำอะมิโน บำรุงต้นมะม่วง แก้โรคเชื้อรา เพลี้ย หนอน ศัตรูมะม่วง โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/11 15:20:27 - Views: 3546
การป้องกันและการจัดการโรคเชื้อราในดอกทานตะวัน: วิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อสวนทานตะวันที่แข็งแรงและผลิตผลสูง
Update: 2566/11/18 10:28:27 - Views: 3555
กำจัดเชื้อรา มะเขือเทศ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/01 10:54:30 - Views: 3567
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนเจาะกิ่ง ใน ทับทิม และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/28 14:13:07 - Views: 3569
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าเพลี้ย ในพืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/01/24 08:43:04 - Views: 3659
โรคข้าว: โรคกาบใบแห้ง (Sheath blight Disease) ป้องกัน ยับยั้งด้วย ไอเอส บำรุงด้วย FK-1
Update: 2564/01/28 10:56:01 - Views: 3623
หนอนคอรวงข้าว หากปีที่แล้วเคยระบาด ปีนี้ป้องกันไว้ดีกว่าแก้
Update: 2564/04/30 21:52:18 - Views: 3613
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022