พริกหนุ่ม หยกสยามทนโรค น้ำหนักผลดี - ป้าอำรวย–ลุงสุนทร

พริกหนุ่ม หยกสยามทนโรค น้ำหนักผลดี - ป้าอำรวย–ลุงสุนทร พริกหนุ่ม...พืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรมหาศาล ไม่เพียงเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศเท่านั้น ยังสามารถส่งออกไป มาเลเซีย สิงคโปร์ อีกด้วย แต่สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับเกษตรกรนั่นคือ...โรคระบาดในพริก ป้าอำรวย–ลุงสุนทร ไข่ติ สองสามีภรรยาชาว อ.หนองม่วงไข่จ.แพร่ ปลูกพริกหนุ่มมากว่า 30 ปี บนพื้นที่ 3 ไร่ เล่าว่า เดิมทีปลูกพริกพันธุ์พื้นเมืองมีลำต้นสูง ไม่ทนต่อโรค ได้ผลผลิตแค่ปีละ 4-5 ตัน

แต่หลังจากเห็นสวนข้างๆ ปลูกพริกหนุ่มเขียวพันธุ์ใหม่ “หยกสยาม” ได้ผลดี ทนต่อโรค รูปทรงพริกตั้งตรงไม่หงิกงอ สีสันสวยงาม จึงเอามาทดลองปลูกบ้าง ปรากฏว่าได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าตัวได้ ปีหนึ่งทำได้ถึง 11-12ตัน สร้างรายได้ปีละ 2-3 แสนบาท ตอนนี้เลยปลูกแต่พันธุ์นี้มาแล้ว 5 ปี

การปลูกก็ไม่ยุ่งยาก...เริ่มเพาะต้นกล้าในถาดหลุม 25-30 วัน พอต้นกล้าขึ้นใบจริง 3-4 ใบ ย้ายลงแปลงที่ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วัน และไถพรวนเพื่อย่อยดินให้ร่วนซุย ยกร่องปรับแปลงให้สม่ำเสมอ หว่านปุ๋ยอินทรีย์ลงบนแปลงในอัตรา 1 ตันต่อไร่ เพื่อให้ต้นพริกได้ตั้งตัวเร็วที่สุด
ให้น้ำทางร่อง 4 วันต่อครั้ง แต่ถ้าเป็นระบบน้ำหยด เปิดวันเว้นวัน...เท่านี้ก็จะได้พริกตามที่ตลาดต้องการ โดยจะมี 3 ระยะให้เก็บเกี่ยว ช่วงแรกเป็นพริกเขียว, พริกก้ามปู (พริกโหด) และพริกแดง

“พริกก้ามปูเป็นพริกที่ได้ราคาดีที่สุด เพราะมีน้ำหนักกำลังดี เก็บตอนสีเขียวแกมแดงส่งถึงตลาดพริกจะแดงพอดี เป็นที่ชื่นชอบของแม่ค้าและผู้บริโภค”

สำหรับเรื่องโรคที่พบในพริก ป้าอำรวย บอกว่า จะมีโรคผลเน่า ซึ่งจะแก้ปัญหาโดยใช้โนมิลดิวฉีดพ่น หากพบเพลี้ยไฟก็ใช้โมแซท โรคเชื้อราใช้เทนเอ็ม

ส่วนโรคใบจุด โรคราแป้ง โรครากและโคนเน่า ปัจจุบันไม่มีปัญหาแล้ว เพราะพริกหนุ่มพันธุ์เขียวหยกสยาม จะสามารถต้านทานโรคพริกเหล่านี้ได้ดีมากกว่าพันธุ์อื่น

สนใจอยากได้คำปรึกษาหรือไปเยี่ยมชมสวน ติดต่อได้ที่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 7 ต.หนองม่วงไข่ อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ หรือ 08-4804-4403.

อ้างอิง:www.thairath.co.th

ส่งความคิดเห็น