ฟาร์มเกษตร
ครบเครื่อง เรื่องปุ๋ยยา
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้าจากฟาร์มเกษตร
1. โทรสั่งซื้อที่ 089-459-9003
2. แอดไลน์ไอดี PrimPB แชทสั่งซื้อ
3. สั่งทางเฟสปริม เฟสบุ๊คปริมคลิกที่นี่
4. สั่งผ่านะระบบตระกร้าสินค้า FKX.asia
5. สั่งผ่านเว็บลาซาด้า LAZADA.co.th
ทุกช่องทาง ชำระเงินขณะรับสินค้าที่บ้านคุณ
หมวด: ห้องปศุสัตว์ | อ่านแล้ว 6311 คน | สั่งพิมพ์หน้านี้ | L

วิจัยปลานิลกระชังไร้กลิ่นโคลน โดย ม.เกษตรฯ

ม.เกษตรฯ สุดยอดได้อีก! ส่งออกต่ำเพราะปลามีกลิ่นโคลน ตลาดยุโรปไม่ชอบ ม.เกษตรฯแก้ปัญหาได้ เป็นประโยชน์ต่อประเทศ..

data-ad-format="autorelaxed">


นักวิจัย ม.เกษตรฯได้รับทุน สกว.ศึกษาหาปัจจัยส่งเสริมอุตสาหกรรมปลานิล ระบุไทยเป็นแหล่งผลิตอันดับ 5 ของโลก แต่ปริมาณส่งออกต่ำเหตุปลามีกลิ่นโคลนที่ไม่พึงประสงค์ของตลาดยุโรป แนะแก้ปัญหาโดยเลี้ยงในกระชังแทนบ่อดิน พร้อมปรับสภาพแวดล้อม ลดต้นทุนการใช้ยาและสารเคมี
ดร.ประพันธ์ศักดิ์ ศีรษะภูมิ ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวในงานสัมมนาวิชาการเรื่อง “การศึกษาและการประเมินผลกระทบของปัจจัยเสี่ยงที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปลานิล (oreochromis niloticus) ของประเทศไทย”

จัดโดยฝ่ายเกษตร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ว่า ปลานิลเป็นปลาที่มีความสำคัญที่สุดในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในศตวรรษที่ 21 ประเทศไทยเราผลิตปลานิลได้เป็นอันดับ 5 ของโลก คือปีละมาณ 240,000 ตัน ผลผลิตกว่า 90% ใช้บริโภคภายในประเทศ และ 10% ส่งออกไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ สาเหตุที่ปลานิลไทยไม่ได้รับความนิยมหรือยังมีร้อยละของการส่งออกต่ำเป็นเพราะปลามีกลิ่นโคลน ซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ (Off Flavor) ของชาวยุโรป


ทั้งนี้ สกว.ให้ทุนสนับสนุนดำเนินโครงการศึกษาการประเมินผลกระทบของปัจจัยเสี่ยงที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงปลานิลในบางพื้นที่สำคัญของประเทศไทย พบว่า โรคระบาดที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลของไทยตอนนี้ คือ โรคระบาดที่เกิดจากเชื่อแบคทีเรีย โดยจะพบในปลาที่มีขนาด 300 - 800 กรัม ซึ่งเป็นขนาดที่เกษตรกรกำลังจะจำหน่ายได้พอดี


นอกจากเชื้อแบคทีเรียประเภทต่างๆ แล้ว สิ่งที่เกษตรกรต้องให้ความสนใจและพึงระวังในการเลี้ยงปลานิลคือ คุณภาพน้ำ เพราะถ้าคุณภาพน้ำมีการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ปลาตาย 100% โดยอุณหภูมิน้ำที่มีความเหมาะสมต่อการเลี้ยงปลานิล คือ 28-30 องศาเซลเซียสนอกจากนี้การให้ยาปฏิชีวนะก็เป็นสิ่งสำคัญต่อผู้บริโภค กล่าวคือ ถ้าจะส่งปลาไปจัดจำหน่ายควรหยุดการให้ยาใดๆทั้งสิ้นเป็นเวลา 14-21 วัน จากการศึกษาพบว่า คุณภาพของเนื้อปลาที่เลี้ยงในระบบกระชังจะดีกว่าปลาที่เลี้ยงในบ่อดิน

ด้าน ผศ.เยาวรัตน์ ศรีวรานันท์ จากภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนึ่งในนักวิจัยของโครงการ กล่าวเสริมว่า จากการ “ศึกษาและการประเมินผลกระทบของปัจจัยเสี่ยงที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบการตลาด ต้นทุนผลตอบแทนและการจัดการของการเลี้ยงปลานิลของประเทศไทย” พบว่า ปลานิลเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ราคามีความอ่อนไหวและผันผวนสูง การเลี้ยงปลานิลในแบบกระชังจะให้รายได้สุทธิน้อยกว่าการเลี้ยงแบบบ่อดิน เวลาคำนวณต้นทุนการผลิตจริงๆ ต้องอาศัยทักษะในการผลิต บวกกับความรู้ในเรื่องการจัดการ


หลายครั้งเกษตรกรจะพบว่าขายปลาได้จำนวนเงินมาก แต่ได้กำไรน้อยกว่าที่คิดไว้ เพราะหมดเปลืองไปกับต้นทุนด้านยาปฏิชีวนะ เพราะผู้เลี้ยงส่วนใหญ่มีความคิดว่าต้องให้ยาหลายๆ ชนิดเพื่อการป้องกันโรคได้อย่างครอบคลุม ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองต้นทุนโดยไม่สมเหตุสมผล ดังนั้น เกษตรกรจึงต้องสังเกตคุณภาพของปลาที่เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอว่า แนวโน้มจะเป็นโรคอะไร แล้วรักษาไปตามอาหารของโรคนั้นมากกว่าการให้ยาหลายๆ ตัวไปพร้อมกัน


ทั้งนี้ ดร.ประพันธ์ศักดิ์ กล่าวสรุปว่า สิ่งที่เกษตรกรต้องคำนึงถึงในการเพาะเลี้ยงปลานิลคือ ปัจจัยสำคัญด้านรูปแบบการเลี้ยง ทำเลที่ตั้งของฟาร์ม คุณภาพของลูกพันธุ์ปลา การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำระหว่างการเลี้ยง การใช้ยาและสารเคมี อาหารและการจัดการตามหลักการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หากสามารถดูแลควบคุมปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ให้ดีได้ จะทำให้เกษตรกรประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงปลานิลและได้กำไรตามที่คาดการณ์ไว้

จาก bangkokbiznews.com

อ่านเรื่องนี้แล้ว : 6311 คน £




ความคิดเห็นจากผู้อ่าน:

ส่งความคิดเห็น

 

 
   
   

เลือกหมวด :

แสดงเนื้อหารวมจากทุกหมวด, สินค้าเกษตร, ไอเดียและเทคโนโลยีเกษตร, รวม VDO เด่นจาก FK, นาข้าว, เศรษฐกิจเกษตร, ภาพถ่ายเกษตร, ไร่อ้อย, มันสำปะหลัง, ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน, ไร่ข้าวโพด, ผักและการปลูกผัก, การปลูกพืช, ไม้ผล ไม้ยืนต้น, เกษตรน่ารู้, สมุนไพร, ไม้มงคล, พุทธศึกษา, FK Talk, สุขภาพ, การใช้ SUN กับพืชต่างๆ, แอพฯด้านเกษตร, ไม้ดอก ไม้ประดับ, องค์กรด้านเกษตร, ซื้อขายที่ดิน, ห้องปศุสัตว์, ประมง, เกษตรกรตัวอย่าง, ฟาร์มเกษตรพาเที่ยว, FK Freestyle, Agri live update, ออแกนิกส์, จักรกล, อุปกรณ์การเกษตร, ไร่กาแฟ,


แสดงทั้งหมดใน [ห้องปศุสัตว์]:
ไทยไฟเขียว นำเข้าเนื้อวัวเนเธอร์แลนด์ ย้ำปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ใน พ.ศ.2559 กรมปศุสัตว์ได้อนุมัติ อย่างเป็นทางการให้เนเธอร์แลนด์ส่งออกเนื้อลูกวัวและเนื้อวัวมายังประเทศไทย
อ่านแล้ว: 7012
ไก่โคราช เลี้ยงง่าย โตไว
ไก่เนื้อโคราช เป็นไก่ลูกผสมเกิดจากการผสมพันธุ์ ของพ่อพันธุ์พื้นเมือง ไก่เหลืองหางขาวของกรมปศุสัตว์ กับแม่พันธุ์ ไก่ มทส.
อ่านแล้ว: 7098
ไฟเขียวนำเข้าเนื้อวัวเนเธอร์แลนด์!!!
ย้ำปลอดภัยต่อผู้บริโภค-พรีเมี่ยม ขณะที่ไทยขยายเวลานำเข้าลูกไก่-ไข่ฟัก หลังโรควัวบ้าระบาดในยุโรปทำส่งออก-นำเข้าชะงัก
อ่านแล้ว: 6758
เลี้ยงวัวทุนน้อย แต่ครบวงจร ทำได้ไหม รวยได้ไหม?
ผมเลี้ยงวัวแม่พันธุ์เอาไว้ 4 ตัว อีก 4 ตัวเป็นวัวที่กำลังขุนอยู่ ก็ทำตามกำลังทุนและกำลังกายที่เรามี
อ่านแล้ว: 7857
โคเนื้อกำแพงแสน สร้างรายได้ ม.เกษตรฯกระจายพันธุ์ ช่วยเกษตรกรดันรายได้สุทธิพุ่ง
เกษตรกรที่เลี้ยงโคเนื้อกำแพงแสนแบบขุนขาย พบว่ามีต้นทุน 39,682.50 บาทต่อตัว หรือ 70.86 บาทต่อกิโลกรัม
อ่านแล้ว: 6302
คนเลี้ยงหมู สุดช้ำ แม้เงินเฟ้อ แต่ราคากลับถูกลง
อ้างเหตุผลความต้องการลดลงในช่วงปิดเทอมและเทศกาลกินเจ
อ่านแล้ว: 5565
ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์
การเตรียมดิน พืชอาหารสัตว์ เป็นพืชที่ต้องการแสงแดดในการเจริญเติบโตอย่างมาก ในแปลงปลูกหญ้า จึงต้องโค่นตัดต้นไม้ออก
อ่านแล้ว: 5874
หมวด ห้องปศุสัตว์ ทั้งหมด >>