data-ad-format="autorelaxed">
ปลูกผัก 9 ชนิด
อดีตเป็นมนุษย์เงินเดือน เรียนจบแค่ ม.ศ.3 ทำงานเป็นชิปปิ้งนำเข้าส่งออกให้บริษัทยักษ์ใหญ่ สุดท้ายต้องอำลาชีวิตลูกจ้างในเมืองหลวงกลับมาสวมหมวกเกษตรกรเต็มขั้นที่ บ้านของตัวเองใน ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมเรียนต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขา พัฒนาชุมชน สำหรับ “ผู้ใหญ่สุธรรม จันทร์อ่อน” เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติสาขาบัญชีฟาร์มปี 2553 และหมอดินอาสาดีเด่น จ.นครปฐม ซึ่งใช้เนื้อที่ 17 ไร่เศษในการผลิตพืชผักปลอดสารพิษและในปี 2540 รวมกลุ่มชาวบ้านทำเกษตรผสมผสานโดยเน้นเกษตรอินทรีย์ ใช้สมุนไพรและสารชีวภาพแทนการใช้สารเคมีเพื่อลดต้นทุนการผลิตและสร้างความ สมดุลทางธรรมชาติ ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการควบคุมดูแล โดยการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และสำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม จนกลายมาเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชน (เกษตรอินทรีย์) บ้านปลักไม้ลายตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงในปัจจุบัน
ผู้ใหญ่สุธรรมเป็นคนแรกในการนำเมล็ดพันธุ์มะลอกอจากต่างประเทศมาผสมกับ มะละกอพื้นบ้านของไทย โดยได้รับการทดลองวิจัยในห้องแล็บมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จนได้มะละกอพันธุ์ใหม่ชื่อว่าพันธุ์ปลักไม้ลายหรือชื่อทางการค้ามะละกอ พันธุ์ฮอลแลนด์ในปัจจุบัน จนนำไปขยายพันธุ์ปลูกกันทั่วประเทศ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังได้คิดค้นวิธีการเลี้ยงไก่อินทรีย์ โดยวิธีการเลี้ยงปล่อยในป่าไผ่ข้างบ้านให้หากินเองตามธรรมชาติ ซึ่งการเลี้ยงแบบนี้ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองอย่างระหว่างต้นไผ่และไก่ อีกทั้งยังรักษาระบบนิเวศอีกด้วย โดยอาหารไก่นั้นจะเป็นรำข้าวผสมกับเศษพืชผักอินทรีย์ที่ปลูกมาใช้เป็นอาหาร ไก่ ส่วนผลผลิตไข่ไก่ นอกจากเก็บไว้รับประทานในครัวเรือนแล้วยังจำหน่ายอีกด้วย
นอกจากนี้ผู้ใหญ่สุธรรมยังดัดแปลงพื้นที่ปลูกผัก 9 ชนิดในพื้นที่เดียวกัน โดยเน้นพืชผักที่มีอายุไล่เลี่ยกันและดูแลซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นผักกาด คะน้า ผักโขม มะเขือ ข้าวโพดอ่อน โดยปลูกพืชสมุนไพรร่วมด้วย อาทิ สะเดา โหระพา ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น เพื่ิอป้องกันโรคและแมลงมารบกวนแทนการใช้สารเคมี ยาปราบศัตรูพืช ปัจจุบันผลผลิตจากศูนย์แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นพืชผักและไก่ไข่อินทรีย์ นอกจากรับประทานเองในครัวเรือนแล้วยังส่งจำหน่ายโรงพยาบาลใน จ.นครปฐมสามพราน ริเวอร์ไซด์ และห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ อีกด้วย
อดีตเป็นมนุษย์เงินเดือน เรียนจบแค่ ม.ศ.3 ทำงานเป็นชิปปิ้งนำเข้าส่งออกให้บริษัทยักษ์ใหญ่ สุดท้ายต้องอำลาชีวิตลูกจ้างในเมืองหลวงกลับมาสวมหมวกเกษตรกรเต็มขั้นที่ บ้านของตัวเองใน ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พร้อมเรียนต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขา พัฒนาชุมชน สำหรับ “ผู้ใหญ่สุธรรม จันทร์อ่อน” เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติสาขาบัญชีฟาร์มปี 2553 และหมอดินอาสาดีเด่น จ.นครปฐม ซึ่งใช้เนื้อที่ 17 ไร่เศษในการผลิตพืชผักปลอดสารพิษและในปี 2540 รวมกลุ่มชาวบ้านทำเกษตรผสมผสานโดยเน้นเกษตรอินทรีย์ ใช้สมุนไพรและสารชีวภาพแทนการใช้สารเคมีเพื่อลดต้นทุนการผลิตและสร้างความ สมดุลทางธรรมชาติ ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการควบคุมดูแล โดยการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และสำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม จนกลายมาเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชน (เกษตรอินทรีย์) บ้านปลักไม้ลายตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงในปัจจุบัน
ผู้ใหญ่สุธรรมเป็นคนแรกในการนำเมล็ดพันธุ์มะลอกอจากต่างประเทศมาผสมกับ มะละกอพื้นบ้านของไทย โดยได้รับการทดลองวิจัยในห้องแล็บมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จนได้มะละกอพันธุ์ใหม่ชื่อว่าพันธุ์ปลักไม้ลายหรือชื่อทางการค้ามะละกอ พันธุ์ฮอลแลนด์ในปัจจุบัน จนนำไปขยายพันธุ์ปลูกกันทั่วประเทศ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังได้คิดค้นวิธีการเลี้ยงไก่อินทรีย์ โดยวิธีการเลี้ยงปล่อยในป่าไผ่ข้างบ้านให้หากินเองตามธรรมชาติ ซึ่งการเลี้ยงแบบนี้ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองอย่างระหว่างต้นไผ่และไก่ อีกทั้งยังรักษาระบบนิเวศอีกด้วย โดยอาหารไก่นั้นจะเป็นรำข้าวผสมกับเศษพืชผักอินทรีย์ที่ปลูกมาใช้เป็นอาหาร ไก่ ส่วนผลผลิตไข่ไก่ นอกจากเก็บไว้รับประทานในครัวเรือนแล้วยังจำหน่ายอีกด้วย
นอกจากนี้ผู้ใหญ่สุธรรมยังดัดแปลงพื้นที่ปลูกผัก 9 ชนิดในพื้นที่เดียวกัน โดยเน้นพืชผักที่มีอายุไล่เลี่ยกันและดูแลซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นผักกาด คะน้า ผักโขม มะเขือ ข้าวโพดอ่อน โดยปลูกพืชสมุนไพรร่วมด้วย อาทิ สะเดา โหระพา ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น เพื่ิอป้องกันโรคและแมลงมารบกวนแทนการใช้สารเคมี ยาปราบศัตรูพืช ปัจจุบันผลผลิตจากศูนย์แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นพืชผักและไก่ไข่อินทรีย์ นอกจากรับประทานเองในครัวเรือนแล้วยังส่งจำหน่ายโรงพยาบาลใน จ.นครปฐมสามพราน ริเวอร์ไซด์ และห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ อีกด้วย
source: komchadluek.net/news/lifestyle/224546