[sort by : last post | top views]..
+ โพสเรื่องใหม่ | ^ เลือกหน้า | All contents
3510 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 351 หน้า, หน้าที่ 352 มี 0 รายการ

ไล่พนักงานออก ไล่ผู้เช่าหอพักออก เมื่อทราบว่าติด โควิด-19 ผิด พรบ.โรคติดต่อ
ไล่พนักงานออก ไล่ผู้เช่าหอพักออก เมื่อทราบว่าติด โควิด-19 ผิด พรบ.โรคติดต่อ
กรมควบคุมโรค แนะเจ้าของบ้าน หอพัก สถานประกอบการทุกประเภท หากพบผู้พักอาศัยหรือลูกจ้างติดเชื้อ โควิด-19 ขอให้รีบแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยเร็ว เพื่อนำตัวเข้าสู่ระบบการแยกกักและป้องกันควบคุมโรค และไม่ไล่ผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยออกจากที่พักหรือที่ทำงาน เพราะอาจทำให้ผู้ติดเชื้อเสี่ยงอันตราย และยัง เป็นการทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปในวงกว้าง

กรมควบคุมโรคขอให้ข้อมูลว่า การไล่ผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยโควิด-19 จะทำให้เกิดผลเสีย และอาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 เนื่องจากอาจทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายออกไปในวงกว้างยากต่อการควบคุมโรค อาจทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย


ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ หากพบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19 ให้เจ้าของบ้านเช่า หอพัก หรือเจ้าของสถานประกอบการ รีบแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งอาจเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทราบและเริ่มการสอบสวนควบคุมโรคโดยเร็ว


ทั้งนี้ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติตามและร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้กับภาครัฐ เพื่อช่วยให้ผู้ติดเชื้อไม่ว่าจะมีอาการป่วยปรากฏแล้วหรือยังไม่มีอาการก็ตาม ได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานมีความปลอดภัย และลดโอกาสแพร่เชื้อต่อไปยังผู้อื่น

สำหรับการแจ้งข้อมูลต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เมื่อพบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 กรณีที่ผู้แจ้งเป็นเจ้าบ้านหรือเป็นผู้ควบคุมดูแลบ้าน ให้แจ้งชื่อที่อยู่ของตนเอง ความสัมพันธ์กับผู้ที่ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยเป็นโรคติดต่ออันตราย พร้อมแจ้งชื่อ อายุ เพศ สัญชาติ ที่อยู่ปัจจุบันของผู้ป่วย แจ้งวันเริ่มป่วย และอาการสำคัญที่ปรากฏด้วย


ในกรณีที่เป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ ให้แจ้งชื่อ ที่อยู่ สถานที่ทำงานของตนเอง แจ้งความสัมพันธ์กับผู้ที่ป่วย แจ้งชื่อ อายุ เพศ สัญชาติ ที่อยู่ปัจจุบัน และอาการสำคัญของผู้ป่วยด้วย โดยสามารถแจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังศูนย์บริการสาธารณสุข ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือสำนักอนามัย กทม. หรือสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค หรือโรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน


ส่วนการหาเตียงให้ผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยที่มีหลักประกันสุขภาพ ติดต่อกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) โทร.1330 กรณีเป็นผู้ประกันตนแจ้งสำนักงานประกันสังคม โทร.1506 จะมีเจ้าหน้าที่ประเมินอาการเบื้องต้น ถ้ามีอาการไม่รุนแรง จะแนะนำให้แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) โดยจะจัดส่งชุดเวชภัณฑ์ดูแลรักษาโรคเบื้องต้นไปให้ที่บ้าน

หากผู้ป่วยไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจขั้นยืนยันผลด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้ง หากผลเป็นบวกหรือติดเชื้อ จะทำการส่งตัวเข้าศูนย์พักคอย (Community Isolation) เพื่อให้ผู้ป่วยเข้ามาอยู่ในความดูแลของบุคลากรทางการแพทย์และรับยาได้ทันที โดยในส่วนของศูนย์พักคอยจะมีใบยินยอม ให้ผู้ป่วยกรอกรายละเอียดข้อมูลก่อนเข้ารับการรักษาในศูนย์พักคอย หรือในกรณีที่ผู้ป่วยเดินทางไปตรวจที่หน่วยบริการ ซึ่งทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit แล้วมีผลเป็นบวกที่แสดงว่าติดเชื้อ จะทำการส่งตัวเข้าศูนย์พักคอยก่อน โดยไม่ต้องรอผลตรวจตรวจ RT-PCR ระหว่างนี้ให้แยกอยู่ไม่ปะปนกับผู้ป่วยยืนยันรายอื่น


ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมศูนย์พักคอย โดยมีเป้าหมายกำหนดให้ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมี 50 สำนักงานเขตต้องมีเขตละ 1 ศูนย์ ศูนย์ละ 100 เตียง และหากเป็นไปได้บางเขตมีได้ 2 ศูนย์ ซึ่งจะได้เตียงผู้ป่วยเพิ่มอีก 5_000 เตียง หรือหากทุกเขตใน กทม. มี 2 ศูนย์พักคอยในแต่ละเขต เราจะได้เตียงผู้ป่วยเป็น 10_000 เตียง ซึ่งตอนนี้ กทม.เปิดศูนย์พักคอยรองรับแล้ว 49 เขต ในพื้นที่ 47 เขต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โทร. 02-245-4964

ที่มา http://www.farmkaset..link..
ยากำจัด เพลี้ยไฟแตงโม แตงโมใบหงิก แตงโมยอดตั้ง ไอ้โต้ง แตงโม เพลี้ยต่างๆ ฉีดพ่น มาคา
ยากำจัด เพลี้ยไฟแตงโม แตงโมใบหงิก แตงโมยอดตั้ง ไอ้โต้ง แตงโม เพลี้ยต่างๆ ฉีดพ่น มาคา
ป้องกัน กำจัด เพลี้ย แมลงจำพวกปากดู ศัตรูพืช เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ แมลงหวี่ขาว ฉีดพ่น มาคา

อัตราส่วนการใช้ 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นทั่วบริเวณที่มีการระบาด

คุณสมบัติของมาคา

หลักการทำงานและวิธีการออกฤทธิ์
วิธีการออกฤทธิ์ในการ ฆ่าและกำจัด โดยสารสกัดที่อยู่ในรูปของ อัลคาลอยด์ จะมีผลโดยเป็นพิษต่อระบบประสาทของแมลง และยับยั้งกระบวนการหายใจโดยจะไปมีผลในระบบของการสร้างพลังงานภายในเซลล์ร่างกายทำให้ร่างกายของแมลงขาดพลังงานทำงานช้าลงและตายในที่สุด จึงมีผลทำให้แมลงตายในที่สุด

วิธีการออกฤทธิ์ในการ ไล่ สารสกัดที่ได้ใช้ทั้งกลิ่นและการสร้างความเจ็บปวด ทรมานและเกิดอาการแสบ ร้อน ให้กับแมลงที่สัมผัสหรือได้รับสารนี้เข้าไป โดยกลิ่นที่ฉุนจะทำให้เกิดความไม่คุ้นเคยสร้างความสับสนให้กับแมลงและสารนี้ยังไปกระตุ้นระบบประสาทรับความรู้สึกในส่วนของความเจ็บปวด ความแสบ ร้อน ของแมลงให้เกิดมากขึ้นจนเกินกว่าที่ร่างกายของแมลงจะทนรับได้ จึงมีผลทำให้แมลงมีสภาวะที่ผิดปกติ ต้องบินหนีไป

สารในรูปของน้ำมัน ( oil ) ทำหน้าที่อุดรูหายใจของแมลง ( Spiracles block ) ทำให้แมลงไม่สามารถรับอากาศภายนอกได้ ดังนั้นกระบวนการใช้ออกซิเจนหรือกระบวนการสร้างพลังงาน ( ATP ) เพื่อใช้ในร่างกายจึงถูกรบกวนมีผลทำให้ metabolism ภายในร่างกายของแมลงถูกยับยั้ง แมลงหมดแรง เฉื่อยชา และตายในที่สุด

การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรานกอินทรีคู่ เพอร์เฟค เอ (สูตร 6-3-3)
ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ตรานกอินทรีคู่ เพอร์เฟค เอ (สูตร 6-3-3)
คุณกำลังมองหาปุ๋ยที่จะช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตให้กับพืชของคุณหรือไม่? ปุ๋ยอินทรีย์เคมี Perfect A (สูตร 6-3-3) ตรานกอินทรีคู่ ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงนี้เป็นสูตรพิเศษเพื่อกระตุ้นการแตกราก ส่งเสริมการแบ่งตัวและการขยายตัวของเซลล์ และเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร

ข้อดีอย่างหนึ่งของ Perfect A สูตร 6-3-3 คือความสามารถในการกระตุ้นการเกิดราก นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับต้นอ่อน เนื่องจากช่วยให้พวกมันพัฒนาระบบรากที่แข็งแรงและแข็งแรงซึ่งสามารถแพร่กระจายและยึดติดกับดินได้ สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้พืชสร้างตัวเองและเติบโตได้ แต่ยังทำให้พวกมันทนต่อความแห้งแล้งและความเครียดจากสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ได้มากขึ้น

นอกจากจะกระตุ้นการแตกรากแล้ว Perfect A สูตร 6-3-3 ยังส่งเสริมการแบ่งตัวและการขยายตัวของเซลล์อีกด้วย นี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะช่วยให้พืชเติบโตและแข็งแรงขึ้น ทำได้โดยการให้สารอาหารและแร่ธาตุที่จำเป็นซึ่งพืชต้องการในการเจริญเติบโตและเจริญเติบโต

ประโยชน์หลักอีกประการของ Perfect A สูตร 6-3-3 คือสารอินทรีย์ในปริมาณสูง อินทรียวัตถุมีความสำคัญเนื่องจากช่วยปรับปรุงโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ง่ายขึ้น ในความเป็นจริง การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเติมอินทรียวัตถุลงในดินสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้พืชแข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้น

โดยรวมแล้ว ปุ๋ยอินทรีย์เคมี Perfect A (6-3-3) ตรานกอินทรีคู่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการเพิ่มพลังให้กับพืชที่ต้องการในการเจริญเติบโตและเจริญเติบโต สูตรเฉพาะของสารอาหารและอินทรียวัตถุทำให้เหมาะสำหรับพืชหลากหลายชนิด และประวัติความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วทำให้เป็นทางเลือกที่ไว้วางใจได้ในหมู่เกษตรกรและชาวสวน

สนใจสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี @FarmKaset
อ่าน:3205
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนชอนใบ ใน มะกรูด และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนชอนใบ ใน มะกรูด และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
มะกรูดเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวที่เพิ่มความซ่าให้กับอาหารที่ใช้ อย่างไรก็ตาม ต้นมะกรูดมีความไวต่อหนอนชอนใบ ซึ่งอาจทำให้ใบและผลของต้นเสียหายได้ เพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ เกษตรกรและชาวสวนจำนวนมากหันมาใช้สารเคมีกำจัดแมลง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง โชคดีที่มีทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ - Bacillus thuringiensis วางตลาดภายใต้แบรนด์ Baserex

Bacillus thuringiensis (Bt) เป็นแบคทีเรียในดินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งสร้างโปรตีนที่เป็นพิษต่อตัวอ่อนของแมลงหลายชนิด รวมทั้งหนอนชอนใบ เมื่อตัวอ่อนกินเข้าไป โปรตีนจะขัดขวางระบบย่อยอาหารของพวกมัน นำไปสู่การอดอาหารและความตาย บีทีถูกใช้เป็นยาฆ่าแมลงทางชีวภาพมานานกว่า 50 ปี และถือว่าปลอดภัยสำหรับมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในการทำเกษตรอินทรีย์และทำสวน และมักใช้ในการควบคุมสัตว์รบกวนหลายชนิด รวมถึงหนอนผีเสื้อ แมลงปีกแข็ง และยุง

ตรา Baserex เป็นสายพันธุ์เฉพาะของบีทีที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดหนอนชอนใบในต้นมะกรูด ใช้งานง่ายและสามารถใช้กับใบของต้นไม้เป็นสเปรย์หรือฝุ่น แบคทีเรียจะถูกกินโดยตัวอ่อนเมื่อพวกมันกินใบ ผลกระทบของบีทีจะไม่เกิดขึ้นทันที - ตัวอ่อนจะใช้เวลาหลายวันในการตาย อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกมันกินแบคทีเรียเข้าไปแล้ว พวกมันก็จะหยุดกินอาหารและไม่สร้างความเสียหายต่อต้นไม้อีก

ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้บีทีเหนือสารเคมีกำจัดแมลงคือมันไม่ทำอันตรายต่อแมลงที่มีประโยชน์ เช่น ผึ้งและผีเสื้อ สารเคมีกำจัดแมลงสามารถมีผลในวงกว้าง ไม่เพียงแต่ฆ่าแมลงศัตรูพืชเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแมลงที่เป็นประโยชน์ซึ่งช่วยผสมเกสรพืชและควบคุมแมลงศัตรูพืชอื่นๆ ในทางกลับกัน Bt มีผลกับศัตรูพืชเป้าหมายเท่านั้นและไม่มีผลกระทบต่อแมลงชนิดอื่น

ประโยชน์อีกประการของการใช้บีทีคือไม่ทิ้งสารพิษตกค้างบนผลหรือใบของต้นไม้ สารเคมีกำจัดแมลงสามารถทิ้งสารตกค้างที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง แม้หลังจากล้างผักและผลไม้แล้วก็ตาม ในทางกลับกัน บีทีย่อยสลายตามธรรมชาติในสิ่งแวดล้อม และไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์

สรุปได้ว่าหนอนชอนใบอาจเป็นปัญหาสำคัญของต้นมะกรูด ทำให้ใบและผล เสียหายได้ อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ - Bacillus thuringiensis วางตลาดภายใต้แบรนด์ Baserex แบคทีเรียที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินี้เป็นพิษต่อหนอนชอนใบและแมลงศัตรูพืชอื่นๆ แต่ปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ใช้งานง่ายไม่เป็นอันตรายต่อแมลงที่มีประโยชน์หรือทิ้งสารพิษตกค้างไว้ที่ผลหรือใบของต้นไม้ การใช้บีที เกษตรกรและชาวสวนสามารถปกป้องต้นมะกรูดของตนได้ในขณะเดียวกันก็ปกป้องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ด้วย

บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ

ช่วยป้องกันและกำจัดแมลงในระยะ หนอน ในสวนไร่และแปลงผัก เช่น

หนอนใยผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนร่าน หนอนแปะใบส้ม หนอนไหมป่า
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด หนอนแก้วส้ม หนอนกินสนสามใบ
หนอนหัวดำมะพร้าว หนอนผีเสื้อ หนอนกินใบผัก หนอนบุ้ง หนอนคืบละหุ่ง

วิธีการใช้งาน

- ผสมน้ำ 75 กรัมหรือ 6 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร

- ฉีดพ่น ใบ กิ่ง ก้าน และ ลำต้น

- ฉีดพ่นเฉพาะในช่วงเย็นตอนที่มีแดดร่ม ลมสงบ

- ฉีดทุก 3-5 วัน

- สามารถใช้รวมกับเชื้อเมธาไรเซียม และ บิวเวอร์เรีย

- ไม่ควรใช้ร่วมกับยาเคมี

ปลอดภัยต่อพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค และผู้ใช้

ไม่มีพิษตกค้างเมื่อพ่น สามารถนำพืชมาบริโภคได้ทันที
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ จึงสามารถใช้แทนสารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชได้

❌ไม่ควรผสมเชื้อ บี ที กับสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะสารที่ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สารปฏิชีวนะและสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ คลอไรด์ เป็นต้น❌

!! ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน 06.00-09.00 น. หรือ 16.00-18.00 น.!!
** เพิ่มประสิทธิภาพจุลินทรีย์ ควรเเช่เชื้ออย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เชื้อกระจายตัว**
** ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง **
**หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นขนาดมีแสงแดดจัด หรือลมพัดแรง **บาซีเร็กซ์ : เชื้อบาซิลลิซ**

สั่งซื้อ
โทร 097-918-3530
facebook โรงงานปุ๋ยไดโนเร็กซ์
ไลน์ janemini1112
สามารเลือกซื้อกับลาซาด้า http://ไปที่..link.. และช้อปปี้ http://ไปที่..link..
การปลูกขนุน การดูแลรักษา และการป้องกันกำจัดโรคขนุน
การปลูกขนุน การดูแลรักษา และการป้องกันกำจัดโรคขนุน
ขนุนเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดใหญ่ ปลูกง่าย สามารถเติบโตได้ดีและเร็ว ผลมีขนาดใหญ่ รูปกลมหรือกลมยาว เปลือกมีหนามแหลมสั้นรอบผล เนื้อขนุนเป็นที่นิยม รับประทานกันทั่วไป เนื้อมีลักษณะเป็นยวงมีเมล็ดอยู่ข้างใน มีทั้งเนื้อชนิดหนา เนื้อบาง เนื้อแห้งกรอบ และเนื้อเละ สีของเนื้อแตกต่างกันไปแล้วแต่สายพันธุ์ แม้ว่าขนุนจะไม่ใช่ไม้ผลที่มีกำเนิดในประเทศไทย แต่ก็นำมาปลูกกันนานจนกลายเป็นพันธุ์ไม้ผลพื้นเมืองของไทยไปแล้ว สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกขนุนนั้นต้องคำนึงถึงความสมดุลหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของดิน

ชนิดของดินที่ขนุนเติบโตได้ดี
ขนุนเป็นไม้ผลที่ขึ้นได้ในดินเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินร่วน ดินร่วนปนทราย ดินทราย ดินเหนียว ดินลูกรัง ปกติขนุนชอบดินร่วน หรือดินร่วนปนทรายที่ต้องระบายน้ำดี ส่วนดินเหนียวหรือดินทรายต้องมีการปรับปรุงด้วยการใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก มากๆ จะช่วยให้ขนุนเจริญเติบโตได้ดีขึ้น

ความสมบูรณ์ของดินปลูกขนุน ขนุนชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีอินทรียวัตถุมาก ซึ่งทำให้ดินมีสีดำ ขนุนจะเจริญเติบโตได้เร็ว ให้ผลดก ผลใหญ่ เนื้อยวงมีสีเข้ม และมีรสหวานกว่าขนุนที่ปลูกในดินที่มีสภาพความสมบูรณ์ต่ำ อาจสังเกตว่าพืชที่ขึ้นปกคลุมอยู่นั้น ถ้ามีการเจริญเติบโตดี ใบมีสีเขียวเข้ม แสดงว่าดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง

ความเป็นกรด ด่างของดินปลูกขนุน
ขนุนขึ้นได้ในดินที่มีค่าความเป็นกรด-ด่าง 6-7.5 ถ้าดินมีค่าความเป็น..

http://www.farmkaset..link..
อ่าน:3203
ป้องกัน กำจัด หนอนปลอกข้าว (rice caseworm)
ป้องกัน กำจัด หนอนปลอกข้าว (rice caseworm)
ป้องกัน กำจัด หนอนปลอกข้าว (rice caseworm)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Nymphula depunctalis Guenee วงศ์ :Pyralidae อันดับ :Lepidoptera ชื่อสามัญอื่น :หนอนขยอก

หนอนปลอกข้าว Nymphula depunctalis Guenee ตัว เต็มวัยเป็นผีเสื้อกลางคืน ปีกสีขาวมีแถบสีน้ำตาลอ่อนถึงดำ 2-3 แถบตามขอบปีก ลำตัวค่อนข้างบอบบาง มีขนาด 6-8 มิลลิเมตร ความยาวของปีเมื่อกางออกประมาณ 15 มิลลิเมตร เพศผู้ตายหลังจากผสมพันธุ์ เพศเมียตอนกลางวันชอบหลบอยู่ในนาข้าวและวางไข่ตอนกลางคืน เพศเมียวางไข่เป็นแถว 1-2 แถว ติดกันบนผิวใต้ใบข้าวหรือก้านใบเหนือระดับน้ำ ไข่มีลักษณะกลม ผิวเรียบสีเหลืองอ่อน ระยะไข่นานประมาณ 4 วัน ตัวหนอนที่ฟักออกจากไข่มีสีครีมหัวสีเหลืองอ่อน ตัวหนอนที่โตเต็มที่มีสีเขียวอ่อน ตัวหนอนมีชีวิตกึ่งแมลงในน้ำ (semi-aquatic) มีเหงือกจำนวน 6 แถว สำหรับใช้รับอากาศจากน้ำ กินอาหารโดยทำปลอกหุ้มและอาศัยอยู่ในปลอกกัดกินส่วนผิวของใบอ่อนเกิดเป็นรอย ขาวเป็นแถบ เมื่อหนอนโตเต็มที่จะคลานขึ้นไปบนต้นข้าวแล้วยึดปลอกติดกับต้นข้าวอยู่เหนือ ผิวน้ำ ตัวหนอนจะถักไหมทำรังรอบตัวและเข้าดักแด้อยู่ภายในปลอกและสลัดปลอกทิ้งเมื่อ มีการลอกคราบ ตัวหนอนมี 5 ระยะ ระยะดักแด้ประมาณ 2 สัปดาห์

ลักษณะการทำลายและการระบาด

ตัวหนอนเริ่มกัดกินผิวใบอ่อนของข้าวและจะทำปลอกหุ้มลำตัวไว้ภายใน 2 วันต่อมา โดยตัวหนอนจะเคลื่อนย้ายไปยังปลายใบข้าวและกัดใบตรงด้านหนึ่งของเส้นกลางใบ และใช้สารที่สกัดจากร่างกายยึดริมขอบใบทั้งสองข้างเข้าหากันเป็นปลอกหุ้ม เห็นเป็นรอยเยื่อสีขาวบางๆไว้ ตัวหนอนสามารถเคลื่อนย้ายไปทำลายข้าวต้นอื่น โดยอาศัยปลอกลอยน้ำไปยังข้าวต้นใหม่ และคลานขึ้นไปกัดกินใบข้าวใหม่ต่อไปเรื่อยๆ มักพบระบาดเฉพาะแปลงข้าวที่มีน้ำขัง ในนาชลประทานและนาที่ลุ่มอาศัยน้ำฝน ความเสียหายเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆ ต้นข้าวสามารถฟื้นตัวจากการทำลายใบในระยะแรกๆได้ การมีน้ำขังในแปลงตลอดช่วงข้าวเจริญเติบโตทางใบมีผลทำให้หนอนปลอกระบาดมาก ขึ้น ถ้าระบาดรุนแรงก็สามารถทำให้ข้าวชะงักการเจริญเติบโต แคระแกร็น และแห้งตายเป็นหย่อมๆ แต่จะไม่เสียหายในระยะข้าวแตกกอเต็มที่แล้ว

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..
วิธีการไถกลบตอซังข้าว
วิธีการไถกลบตอซังข้าว
พื้นที่เขตชลประทาน ในเขตพื้นที่ชลประทานซึ่งสามารถปลูกข้าวได้ต่อเนื่อง 2-3 ครั้งต่อปี หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้วไม่ต้องเผาตอซังและฟางข้าว ให้ทำการไถกลบตอซังและฟางข้าวแล้วปล่อยน้ำเข้านา โดยให้ระดับน้ำพอท่วมวัสดุ หลังจากนั้นใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำอัตรา 5 ลิตรต่อไร่ เจือจางกับน้ำ 100 ลิตร คิดเป็นอัตราส่วน 1 : 20 ราดลงในแปลงข้าวเพื่อช่วยให้ตอซังข้าวย่อยสลายได้ง่าย หมักไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วจึงทำเทือกเพื่อเตรียมเพาะปลูกข้าวครั้งใหม่ต่อไป หรือสามารถปลูกพืชไร่เศรษฐกิจชนิดอื่นได้ เช่น พืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด ข้างฟ่าง ฯลฯ

พื้นที่เขตเกษตรน้ำฝน ในกรณีที่เกษตรกรมีการปลูกข้าวเป็นพืชหลักเพียงอย่างเดียวตลอดฤดูเพาะปลูกโดยอาศัยน้ำฝน หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวให้ทิ้งฟางข้าวและตอซังไว้ในพื้นที่ของเกษตรกร เพื่อเป็นการคลุมผิวหน้าดิน จากนั้นเมื่อเข้าสู่ต้นฤดูฝนประมาณปลายเดือนเมษายน หรือต้นเดือนพฤษภาคม ให้ทำการเตรียมดินพร้อมกับการไถกลบตอซังและฟางข้าว แล้วปฏิบัติเช่นเดียวกับในเขตชลประทาน โดยทำการปล่อยน้ำเข้านาให้ระดับน้ำท่วมวัสดุที่ไถกลบ หลังจากนั้นใส่ปุ๋ยอินทรีย์น้ำในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้อัตรา 5 ลิตร โดยให้เจือจางกับน้ำ 100 ลิตร ก่อนราดลงในแปลงนาข้าว หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้ตอซังข้าวเกิดการย่อยสลาย แล้วจึงทำเทือกเตรียมแปลงพร้อมที่จะปลูกข้าวต่อไป

ผลเสียจากการเผาตอซัง

เกษตรกรที่เตรียมพื้นที่สำหรับปลูกข้าวโดยทำการเผาตอซังข้าวเพื่อให้เกิดความสะดวกในการไถเตรียมดิน หรือเพื่อต้องการกำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูพืชนั้นจะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง
สมบัติของดินทั้งทางด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ เนื่องจากความร้อนจากการเผาตอซัง กล่าวคือ

1. ทำให้โครงสร้างของดินเปลี่ยนแปลงไป อนุภาคของดินจับตัวกันแน่นและแข็ง ทำให้รากพืชแคระแกร็น ไม่สมบูรณ์และอ่อนแอ การหาอาหารลดลงรวมทั้งเชื้อโรคพืชสามารถเข้าทำลายได้ง่าย

2. สูญเสียอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดิน คาร์บอนและอินทรียวัตถุในดินเมื่อถูกเผาจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูญเสียไปในบรรยากาศ ส่วนธาตุอาหารจะแปรสภาพให้อยู่ในรูปที่สามารถสูญเสียไปจากดินได้ง่าย

3. ทำลายจุลินทรีย์และแมลงที่เป็นประโยชน์ในดิน ทำให้ปริมาณและกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินลดลง เช่น กิจกรรมการเปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนจากบรรยากาศให้อยู่ในรูปของสารประกอบไนโตรเจนที่พืชใช้ประโยชน์ได้ การแปรสภาพอนินทรีย์ฟอสฟอรัสให้อยู่ในรูปของฟอสเฟตที่ละลายน้ำได้ และการย่อยสลายอินทรียสารเป็นการเพิ่มธาตุอาหารให้แก่ดิน นอกจากนั้นตัวอ่อนของแมลงศัตรูพืช เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียนที่อาศัยอยู่ในดินหรือตอซังพืชรวมทั้งจุลินทรีย์ที่สามารถควบคุมโรคพืชถูกเผาทำลายไป ซึ่งหากระบบนิเวศน์ของดินไม่สมดุลจะทำให้การแพร่ระบาดของโรคเกิดได้ง่ายขึ้น

4. สูญเสียน้ำในดิน การเผาตอซังพืชทำให้ผิวดินมีอุณหภูมิสูงถึง 90 องศาเซลเซียส น้ำในดินจะระเหยสู่บรรยากาศอย่างรวดเร็ว ให้ความชื้นของดินลดลง

อ้างอิง http://www.farmkaset..link..

🎗ซื้อ ชุดย่อยสลายตอฟาง กับ Lazada : http://www.farmkaset..link..

🎗ซื้อ ชุดย่อยสลายตอฟาง กับ Shopee : http://www.farmkaset..link..
ไม้ประดับใบไหม้ ดูว่ามีสาเหตุจากเชื้อรา หรือเพระแดดร้อนเกินไป หรืออาจจะเพราะขาดธาตุอาหารพืช
ไม้ประดับใบไหม้ ดูว่ามีสาเหตุจากเชื้อรา หรือเพระแดดร้อนเกินไป หรืออาจจะเพราะขาดธาตุอาหารพืช
ไม้ดอกไม้ประดับ ที่นิยมปลูกกัน อย่างเช่น มอนเตอร่า คล้า เดหลี สับปะรดสี ต้นฟิโล แก้วกาญจนา ลิ้นมังกร บัวดอย ปาล์ไผ่ ไทรย้อย พลูด่าง เข็มสามสี สาวน้อยประแป้ง ฯลฯ บางครั้งเกิดอาการ ใบเหลือง ใบซีด ใบไหม้ หรือติดโรคลุกลาม อย่างเช่น โรคจากเชื้อราต่างๆ ใบจุดสนิม ใบขีดสีน้ำตาล ราแป้ง ราดำ ฯลฯ

บางครั้งไม่ได้มีสาเหตุมาจากการเกิดโรค แต่เป็นเพราะร้อนเกินไป เช่นอยู่ใกล้ผนังปูนที่มีความร้อน หรือไม้ประดับบางอย่าง ก็ทนร้อนได้ไม่ดี โดนแดดจัดๆใบก็ไหม้ หรือในตอนให้น้ำ เราไม่ได้ระวัง ให้น้ำตอนอากาศร้อนมาก บางทีน้ำในสายยาง ในท่อประปาก็ร้อน ทำให้พืชใบลวก เหล่านี้เป็นพฤติกรรมของเราเอง ที่ปรับได้ ย้ายพื้นที่ได้ เพื่อแก้ที่ต้นเหตุแล้ว เราสามารถใช้ FK ธรรมชาตินิยม ฉีดพ่น เพื่อบำรุง ให้ฟื้นตัวและหายโทรมได้

ใบไหม้ และใบจุดประ ใบเหลือง จากการขาดธาตุรองธาตุเสริม อาการนี้ จะไม่ลุกลาม ไม่เป็นโรคติดต่อ เหมือนโรคจากเชื้อรา คือในบ้างครั้งเราให้ปุ๋ยเชิงเดี่ยวมากเกินไป เช่นให้แต่ปุ๋ยไนโตเจน อย่าง ยูเรีย เม็ดขาวๆเพียงอย่างเดียว พวกนี้จะเร่งใบได้ดี แต่ให้มากเกินไป ใบพืชจะอ่อน ไม่มีความแข็ง ไม่ทนร้อน ใบลวกได้ง่ายเช่นกัน ลองฉีดพ่น FK ธรรมชาตินิยม เพื่อให้พืชแข็งแรงขึ้น ใบเขียวและแข็งขึ้น ทำให้มีภูมิต้านทานสูงขึ้น

อาการใบไหม้ ราแป้ง ราสนิม ใบจุดสนิม ใบจุดสาหร่าย โรคเหล่านี้ มีสาเหตุจากเชื้อรา และระบาดลุกลามได้ ติดข้ามพืชได้ อยู่บริเวณเดียวกันก็ปลิวไปติด และเป็นโรคต่อกัน หากเป็นโรคที่มีสาเหตุจากเชื้อราเหล่านี้ ฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ ยับยั้งโรคพืช ทุก 3-5 วัน ต่อเนื้อง 2-3 ครั้ง เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคพืช
อ่าน:3202
ปุ๋ยสะตอ ปุ๋ยน้ำสะตอ บำรุงกล้าสะตอ โตใบ ใบเขียว ขยายทรงพุ่ม ปลูกเยอะใช้ FK-1 ปลูกน้อยใช้ FKธรรมชาตินิยม
ปุ๋ยสะตอ ปุ๋ยน้ำสะตอ บำรุงกล้าสะตอ โตใบ ใบเขียว ขยายทรงพุ่ม ปลูกเยอะใช้ FK-1 ปลูกน้อยใช้ FKธรรมชาตินิยม
ปุ๋ยน้ำสำหรับสะตอ ฉีดพ่นกล้าสะตอสม่ำเสมอ เสริมสร้างความสมบูร์ แข็งแรง แก้ปัญหาต้นแคระ โตช้า ใบเหลือง ขาดธาตุ ฉีดพ่น ปุ๋ย FK เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต เพิ่มความสมบูรณ์ สังเคราะห์แสงได้ดี แตกยอดใบ ติดดอก ออกผล

ปลูกน้อย ใช้ FKธรรมชาตินิยม ปลูกเยอะ ใช้ FK-1

FKธรรมชาตินิยม และ FK-1 เป็นอาหารพืชทางใบ สำหรับเลี้ยง ดูแล พืชพันธุ์นานาชนิด ส่งเสริมการเจริญเติบโต เสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรง ด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่ประกอบอยู่ในผลิตภัณฑ์

อัตราส่วนการใช้

FKธรรมชาตินิยม ผสม 1 ฝา ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ

FK-1 แกะกล่องออกมา มีสองถุง ต้องใช้พร้อมกัน ถุงแรก 50กรัม ถุงที่สอง 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร คนให้แตกตัวละลายเข้ากับน้ำ ฉีดพ่นทางใบ (ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ถุงที่สอง เป็นธาตุเสริม และสารจับใบ)

เคมีธาตุอาการพืช เป็น อาหารพืชโดยตรง ไม่ได้อันตรายเหมือน ยาเคมี ที่เป็นสารเคมีอันตราย ซึ่งหลายครั้งถูกเข้าใจผิดไปอย่างมาก เนื่องจาก เคมีธาตุอาหารพืชนั้น เป็นธาตุอาหารโดยตรง ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตพืชได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูง

ยกตัวอย่างเคมีธาตุอาหารพืช ที่จำเป็นอย่างมาก ต่อการเจริญเติบโตของพืช
ธาตุ N หรือ ไนโตรเจน
ธาตุ P หรือ ฟอสฟอรัส
ธาตุ K หรือ โพแตสเซียม
ธาตุ Mg หรือ แมกนีเซียม
ธาตุ Zn หรือ ซิงค์ หรือ สังกะสี
และยังมีอีกหลายธาตุ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช

---
ข้อมูล FKธรรมชาตินิยม

อาหารเสริมเพืชทางใบ ซึ่งประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง และธาตุเสริม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบการปลูกพืช หากไม่เคยเติมธาตุเหล่านี้ ซึ่งธาตุรองธาตุเสริมที่ขาด จะกลายเป็นข้อจำกัดการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจาก "พืชจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด" ตามกฎ Liebig s law of the minimum_ FKธรรมชาตินิยม ประกอบด้วย ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เกิดอาการขาดธาตุ ซึ่งบางอย่าง เป็นธาตุที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถให้ได้

เมื่อพืช ได้รับธาตุอาหารที่ขาดไป ธาตุอาหารพืชต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในดิน ที่พืชไม่เคยดูดกินไปใช้ประโยชน์ได้ ก็สามารถนำไปใช้ได้ เนื่องจาก ธาตุบางตัว เป็นตัวนำพาธาตุอื่นๆ จึงทำให้พืช ใช้ประโยชน์ จากการปลดปล่อยธาตุอาหารเดิมที่มีอยู่ รวมกับธาตุอาหารที่ได้รับเข้าไปใหม่ ได้อย่างเต็มที่

---
ข้อมูล FK-1

ปุ๋ยน้ำตรา FK ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์การใช้งาน แตกต่างกับปุ๋ยโดยทั่วไป ซึ่งปุ๋ย FK ถูกออกแบบมา เพื่อบำรุงพืชโดยตรง ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงดินหรือเพิ่มจุลินทรีย์ให้กับดิน เพื่อให้ดินดูแลพืช ซึ่งวิธีปรับปรุงดินนี้จะทำให้พืชตอบสนองได้ช้า และอาจจะไม่ได้ผลผลิตดีในรอบการปลูกปัจจุบัน การใช้ปุ๋ยน้ำ FK นั้นจึงเป็นการป้อน ธาตุหลัก(Primary nutrient) ธาตุรอง(Secondary nutrient) ธาตุเสริม(Micronutrient) ให้กับพืชโดยตรง

FK-1 คือปุ๋ยน้ำความเข้มข้นสูง ในรูปแบบผงละลายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ในหนึ่งกล่อง 2 กิโลกรัม ประกอบด้วย สองถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม (ต้องใช้พร้อมกันทั้งสองถุง ผสมกัน ถุงแรก 50กรัม ถุงที่สอง 50กรัม ต่อน้ำ 20ลิตร)

คุณสมบัติ FK-1

ประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแตสเซียม อย่างละ 20% ซึ่งนับว่าเป็นธาตุหลักที่สูงมาก เมื่อเทียบกับปุ๋ยในท้องตลาดทั่วไป จึงเรียกได้ว่า FK-1 คือปุ๋ยที่มีความเข้มข้นสูง นอกจากนั้นแล้ว ยังมีธาตุรองและธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช คลอบคุมถึงบางธาตุ ที่เกิดขึ้นเองไม่ได้ซึ่งถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบปลูก

FK Fertilizer - ประสิทธิภาพ

FK-1 เป็นปุ๋ยความเข้มข้นสูง สูตร 20-20-20 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป เป็นเหตุผลที่ทำให้ในช่วงวันที่ 1-7 ปุ๋ยตรา FK1 มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าปุ๋ยเคมีโดยเฉลี่ย

จุดอ่อนของปุ๋ยเคมี (The weakness of chemical fertilizers)

ถึงแม้ปุ๋ยเคมีจะปลดปล่อยธาตุอาหารได้อย่างรวดเร็วกว่าปุ๋ยอินทรีย์ แต่ในทางกลับกัน ธาตุอาหารจะหมดไปอย่างรวดเร็ว จะสังเกตุได้ว่า ในวันที่ 14 ปุ๋ยเคมีได้ปลดปล่อยธาตุอาหารหมดไปแล้ว แต่ในส่วนของ ปุ๋ยอินทรีย์ ยังคงให้อาหารกับพืชที่ปลูกได้อย่างต่อเนื่อง

ปุ๋ย FK ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ (FK Fertilizer is designed to solve this problem)

ธาตุรอง และธาตุเสริม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และถูกดึงออกจากดินในทุกๆรอบการปลูกพืช ซึ่งปุ๋ยทั่วๆไป ไม่เคยเติมธาตุเหล่านี้ ซึ่งธาตุรองธาตุเสริมที่ขาด จะกลายเป็นข้อจำกัดการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจาก "พืชจะเจริญเติบโตได้มากที่สุด เท่ากับธาตุอาหารที่มีต่ำที่สุด" ตามกฎ "Law of the minimum" ปุ๋ยตรา FK ประกอบด้วย ธาตุรอง ธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เกิดอาการขาดธาตุ ซึ่งบางอย่าง เป็นธาตุที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่สามารถให้ได้

การใช้งาน
ผสมปุ๋ยบัวแก้ว 50 กรัม และ F1 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ผสมปุ๋ยบัวแก้ว 500 กรัม และ F1 500 กรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร
ฉีดพ่นพืชที่ปลูก ทุกๆ 7-30 วัน ตามความเหมาะสม

ข้อควรระวัง (สำคัญมาก)
ต้องฉีดพ่นในช่วงเวลาที่ไม่มีแดดจัด มิฉะนั้นอาจทำให้เกิดอาหารใบลวกได้ เช่นฉีดพ่นให้เสร็จสิ้น ก่อน 6 โมงเช้า หรือทำการฉีดพ่นหลัง 5 โมงเย็น หลังจากที่แดดร่มแล้ว หรือฉีดพ่นได้ทั้งวัน ในวันที่แน่ใจว่าแดดไม่แรง

Law of the Minimum (กฎต่ำสุด)
ไม่ว่าจะให้ปุ๋ยมากแค่ไหน พืชจะโตได้เท่ากับ ธาตุหลัก ธาตุรอง ที่ไม่เคยให้กับพืชและดิน ธาตุอาหารที่มีอยู่น้อยที่สุด จะจำกัดการโตของพืชเป็นข้อบกพร่องเล็กๆ ที่ทำให้ดูเหมือนว่า ใส่ปุ๋ยไปมากเท่าไร ก็ยังไม่ได้ผล

ปุ๋ยตรา FK จากฟาร์มเกษตร เราตระหนักถึงเรื่อง Law of the Minimum หรือ กฎต่ำสุด จึงออกแบบปุ๋ยตรา FK ใน 1 กล่อง ให้ประกอบด้วย สองถุง ด้านใน คือ ปุ๋ยธาตุหลักหนึ่งถุง และ F1 ธาตุรอง ธาตุเสริม อีกหนึ่งถุง ที่ผ่านการคำนวณสัดส่วนเพื่อผสมใช้ไปพร้อมกันได้อย่างลงตัว เพื่อนำพาพืชของท่าน ให้เจริญเติบโต ด้วยธาตุหลัก ธาตุรองที่ครบถ้วน และไม่เคยได้ถูกเติมเต็ม จากการใช้ปุ๋ยทั่วๆไปตามท้องตลาด ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารต่างๆมากมาย และเติมเต็มส่วนที่ขาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การให้ปุ๋ยทั่วๆไป ที่มีธาตุหลักเพียง 3 ตัว คือ N P K และธาตุรอง ธาตุเสริมอื่นๆ มีอยู่แล้วในดินของคุณ แล้วแต่สภาพดินบริเวณนั้น ว่าโชคดี มีธาตุรอง ธาตุเสริม และ OM อยู่มากแค่ไหน ในทุกๆปี ธาตุรองธาตุเสริมเหล่านี้ โดนลดลงไปทุกรอบของการเพาะปลูก เพราะการเติมเฉพาะ N P K ให้กับดิน อย่างมากก็เพิ่ม แคลเซียม และ ซิลิกอน อีกสองตัว จากสารปรับสภาพดินต่างๆ แต่ธาตุรองธาตุเสริมมีมากมาย จนแทบจะจำชื่อได้ไม่หมด พืชคุณจะถูกจำกัดคุณภาพ และการเจริญเติบโต ด้วยธาตุรอง ธาตุเสริม ที่มีอยู่น้อยที่สุด เสมือนถังน้ำที่มีความสูงของไม้ประกบ ที่มีความสูงไม่เท่าแผ่นอื่นๆ อยู่เพียงแผ่นเดียว พืชคุณเสมือนน้ำในถัง จะสามารถโตอยู่ในถังน้ำ (เปรียบถังน้ำว่าเป็นดิน) ได้มากที่สุดเท่ากับไม้ประกบแผ่นที่มีความสูงน้อยที่สุด เพียงเท่านั้น

---


การสั่งซื้อ

โทร 090-592-8614

ไลน์ไอดี http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ฟาร์มเกษตร http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ช้อปปี้ http://www.farmkaset..link..

สั่งซื้อกับ ลาซาด้า http://www.farmkaset..link..
คู่มือโรคมะพร้าว แนวทางการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อรา ที่เกิดขึ้นกับต้นมะพร้าว
คู่มือโรคมะพร้าว แนวทางการป้องกันและกำจัดโรคเชื้อรา ที่เกิดขึ้นกับต้นมะพร้าว
มะพร้าวเป็นพืชที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในเขตร้อนชื้น เป็นที่รู้จักในด้านการใช้งานมากมาย ทั้งอาหาร เครื่องสำอาง และวัสดุก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม ต้นมะพร้าวยังอ่อนแอต่อโรคเชื้อราต่างๆ ซึ่งทำให้ผลผลิตและคุณภาพลดลงอย่างมาก ในบทความนี้ เราจะพูดถึงโรคเชื้อราในมะพร้าวที่พบบ่อยที่สุด อาการของมัน และมาตรการป้องกันและกำจัดที่แนะนำ

โรคเชื้อราที่มีผลต่อต้นมะพร้าว ได้แก่ โรคมะพร้าวใบไหม้ โรคใบแห้ง มะพร้าวต้นกลวง โรคโคนเน่า หรือ "โคนเน่า" มีสาเหตุมาจากเชื้อรา Phytophthora palmivora ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินที่ชื้นและอบอุ่น เชื้อราโจมตีฐานของต้นไม้และแพร่กระจายขึ้นไปจนไปถึงมงกุฎซึ่งส่งผลต่อใบอ่อนและดอก

อาการของโรคตาเน่า ได้แก่ ใบเหลืองและเหี่ยว ลำต้นเน่า และมีกลิ่นเหม็น เมื่อโรคลุกลาม ต้นไม้จะออกลูกมะพร้าวน้อยลง และคุณภาพของมะพร้าวที่ผลิตได้ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

เพื่อป้องกันและกำจัดโรคตาเน่า มาตรการที่แนะนำคือการใช้ IS ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในขณะเดียวกันก็บำรุงพืชด้วย FK-1 เมื่อเปิดกล่อง FK-1 คุณจะพบกับถุงสองใบ ถุงแรกเป็นธาตุหลัก ประกอบด้วย ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และถุงที่สองเป็นธาตุเสริม ประกอบด้วย แมกนีเซียม สังกะสี และสารลดแรงตึงผิว อัตราส่วนผสมให้ใช้ 50 g. ของถุงแรกและ 50 g. ถุงที่ 2 ผสมน้ำ 20 ลิตร

วิธีใช้ IS ผสม 50 ซีซี. ของสารละลายในน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดให้ทั่วโคนต้นมะพร้าว ให้แน่ใจว่าได้คลุมดินรอบ ๆ ต้นมะพร้าวแล้ว ทำซ้ำทุก 2-3 เดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่มีเชื้อรามากที่สุด

นอกจากการใช้ระบบ IS แล้ว ยังจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาแนวปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่ดี เช่น ดูแลให้มีการระบายน้ำที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป และกำจัดวัสดุจากพืชที่ติดเชื้อออกจากรอบโคนต้นไม้

กล่าวโดยสรุป โรคตาเน่าเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราทั่วไปที่ส่งผลต่อต้นมะพร้าวและทำให้ผลผลิตและคุณภาพลดลงอย่างมาก การใช้ IS ร่วมกับการปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่ดีเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและกำจัดโรค ทำให้ต้นมะพร้าวแข็งแรงและให้ผลผลิต
อ่าน:3201
3510 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 351 หน้า, หน้าที่ 352 มี 0 รายการ
|-Page 70 of 352-|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56 | 57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82 | 83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106 | 107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115 | 116 | 117 | 118 | 119 | 120 | 121 | 122 | 123 | 124 | 125 | 126 | 127 | 128 | 129 | 130 | 131 | 132 | 133 | 134 | 135 | 136 | 137 | 138 | 139 | 140 | 141 | 142 | 143 | 144 | 145 | 146 | 147 | 148 | 149 | 150 | 151 | 152 | 153 | 154 | 155 | 156 | 157 | 158 | 159 | 160 | 161 | 162 | 163 | 164 | 165 | 166 | 167 | 168 | 169 | 170 | 171 | 172 | 173 | 174 | 175 | 176 | 177 | 178 | 179 | 180 | 181 | 182 | 183 | 184 | 185 | 186 | 187 | 188 | 189 | 190 | 191 | 192 | 193 | 194 | 195 | 196 | 197 | 198 | 199 | 200 | 201 | 202 | 203 | 204 | 205 | 206 | 207 | 208 | 209 | 210 | 211 | 212 | 213 | 214 | 215 | 216 | 217 | 218 | 219 | 220 | 221 | 222 | 223 | 224 | 225 | 226 | 227 | 228 | 229 | 230 | 231 | 232 | 233 | 234 | 235 | 236 | 237 | 238 | 239 | 240 | 241 | 242 | 243 | 244 | 245 | 246 | 247 | 248 | 249 | 250 | 251 | 252 | 253 | 254 | 255 | 256 | 257 | 258 | 259 | 260 | 261 | 262 | 263 | 264 | 265 | 266 | 267 | 268 | 269 | 270 | 271 | 272 | 273 | 274 | 275 | 276 | 277 | 278 | 279 | 280 | 281 | 282 | 283 | 284 | 285 | 286 | 287 | 288 | 289 | 290 | 291 | 292 | 293 | 294 | 295 | 296 | 297 | 298 | 299 | 300 | 301 | 302 | 303 | 304 | 305 | 306 | 307 | 308 | 309 | 310 | 311 | 312 | 313 | 314 | 315 | 316 | 317 | 318 | 319 | 320 | 321 | 322 | 323 | 324 | 325 | 326 | 327 | 328 | 329 | 330 | 331 | 332 | 333 | 334 | 335 | 336 | 337 | 338 | 339 | 340 | 341 | 342 | 343 | 344 | 345 | 346 | 347 | 348 | 349 | 350 | 351 | 352 |


กลุ่มทางใบปุ๋ยประสิทธิภาพสูง
*โปรดอ่าน ใช้ FK-1 ในช่วงแรก เพื่อเร่งโต เร่งราก เร่งดอก จับคู่กับ FK-3 ในช่วงเร่งผลผลิต พืชออกผลทุกชนิด ใช้ FK-1 กับ FK-3, นาข้าว ใช้ FK-1 กับ FK-3R (Rice), ไร่อ้อย ใช้ FK-1 กับ FK-3S (Sugarcane), มันสำปะหลัง ใช้ FK-1 กับ FK-3C (Cassava)

FK-1
สั่ง FK-1 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3
สั่ง FK-3 กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3S
สั่ง FK-3S กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3R
สั่ง FK-3R กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK-3C
สั่ง FK-3C กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มอินทรีย์ ปุ๋ย ยาปราบฯ
ที่ขายดีที่สุดบน ลาซาด้า

FKT250-IS250-499B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 1ลิตร
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 3ลิตร
สั่งไอเอส3ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
มาคา
สั่งมาคากับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอกี้-บีที
สั่งไอกี้-บีทีกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L
สั่ง FK-T 1ลิตร กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FK ธรรมชาตินิยม
สั่งFK-T 250ซีซี กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
ไอเอส ขนาด 250ซีซี
สั่งไอเอสกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-IS1L-970B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-MAKA-980B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
FKT1L-AiKi-990B
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มเคมียาปราบฯประสิทธิภาพสูง

invet
สั่ง อินเวท กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
metalaxyl
สั่ง เมทาแลคซิล กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
carron
สั่ง คาร์รอน กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้


กลุ่มปุ๋ยทางใบผสมสูตรเองได้
เว็บระบบคำนวณการผสมปุ๋ย


starfer 30-20-5
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 10-40-10
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
starfer 15-5-30
สั่งกับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้
maxza
สั่ง แม็กซ่า กับ | ลาซาด้า | ช้อปปี้



บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd.

ให้บริการตรวจวิเคราะห์
ตรวจฉลากโภชนาการ
ตรวจสารสำคัญกัญชา/กัญชง
ตรวจน้ำใช้ในกระบวนการผลิต
ฟอร์มขอใบเสนอราคา
สำหรับตรวจวิเคราะห์อื่นๆ ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (ตรวจวิเคราะห์ได้ทุกอย่าง) โปรดกรอก ฟอร์มขอใบเสนอราคา
ตรวจขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี
ตรวจสารพิษตกค้างเพื่อการส่งออก
ตรวจผักสดปลอดเชื้อจุลินทรีย์ E. coli, Salmonella spp.
ส่งตัวอย่างมะละกอ เพื่อการทดสอบการดัดแปลงพันธุกรรม
ส่งตัวอย่างเพื่อทดสอบ ปริมาณอะฟลาทอกซินในเมล็ดแมงลัก ลูกเดือย และพริกแห้ง เพื่อส่งออกนอกราชอาณาจักร
Hardline Test Application
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด | ปุ๋ยทุเรียน | ปุ๋ยมันสำปะหลัง | ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย | ปุ๋ยนาข้าว | ปุ๋ยยางพารา | ปุ๋ยมะพร้าว | ปุ๋ยข้าวโพด | ปุ๋ยปาล์ม | ปุ๋ยสับปะรด | ปุ๋ยถั่วเหลือง | ปุ๋ยพริกไทย | ปุ๋ยกาแฟ | ปุ๋ยมะนาว | ปุ๋ยส้ม | ปุ๋ยลำไย | ปุ๋ยลิ้นจี่ | ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง | ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว | ปุ๋ยมังคุด | ปุ๋ยมันฝรั่ง | ปุ๋ยหอมหัวใหญ่ | ปุ๋ยกระเทียม | ปุ๋ยหอมแดง | ปุ๋ยมะเขือเทศ | ปุ๋ยกล้วยไม้ | ปุ๋ยอินทผลัม | ปุ๋ยน้อยหน่า | ปุ๋ยชมพู่ | ปุ๋ยเงาะ | ปุ๋ยมะม่วง | ปุ๋ยมะขาม | ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้ | ทุเรียนใบติด | มันสำปะหลังใบไหม้ | โรคอ้อยใบไหม้ | ข้าวใบไหม้ | ยางพาราใบไหม้ | โรคมะพร้าวใบไหม้ | โรคราน้ำค้างข้าวโพด | ปาล์มใบไหม้ | โรคสับปะรด | โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟใบไหม้ | ราสนิมมะนาว | ส้มใบไหม้ | ลำไยใบไหม้ | ลิ้นจี่ใบไหม้ | หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้ | กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย | โรคใบจุดมังคุด | มันฝรั่งใบใหม้ | โรคหอมเลื้อย | โรคใบจุดกระเทียม | โรคหอมแดง | ราแป้งมะเขือเทศ | โรคจุดสนิมกล้วยไม้ | อินทผลัมใบไหม้ | น้อยหน่าดอกร่วง | ชมพู่ใบไหม้ | เงาะใบไหม้ | มะม่วงใบไหม้ | ราแป้งมะขาม | โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยทุเรียน | เพลี้ยมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยข้าว | เพลี้ยยางพารา | เพลี้ยมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยสับปะรด | เพลี้ยถั่วเหลือง | เพลี้ยพริกไทย | เพลี้ยกาแฟ | เพลี้ยมะนาว | เพลี้ยส้ม | เพลี้ยลำไย | เพลี้ยลิ้นจี่ | เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยมังคุด | เพลี้ยมันฝรั่ง | เพลี้ยหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยกระเทียม | เพลี้ยหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยกล้วยไม้ | เพลี้ยอินทผาลัม | เพลี้ยน้อยหน่า | เพลี้ยชมพู่ | เพลี้ยเงาะ | เพลี้ยมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้ | โรคทุเรียน | โรคมันสำปะหลัง | โรคอ้อย | โรคข้าว | โรคยางพารา | โรคมะพร้าว | โรคข้าวโพด | โรคปาล์ม | โรคสับปะรด | โรคถั่วเหลือง | พริกไทยใบไหม้ | โรคกาแฟ | โรคมะนาว | โรคส้ม | โรคลำไย | โรคลิ้นจี่ | โรคหน่อไม้ฝรั่ง | โรคกระเจี๊ยบเขียว | โรคมังคุด | โรคมันฝรั่ง | โรคหอม | โรคกระเทียม | โรคหอมแดง | โรคมะเขือเทศ | โรคกล้วยไม้ | โรคอินทผาลัม | โรคน้อยหน่า | โรคชมพู่ | โรคเงาะ | โรคมะม่วง | โรคมะขาม | โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด | เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน | เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | เพลี้ยอ้อย | เพลี้ยศัตรูข้าว | เพลี้ยแป้งยางพารา | เพลี้ยศัตรูมะพร้าว | เพลี้ยข้าวโพด | เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน | เพลี้ยแป้งสับปะรด | เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง | เพลี้ยแป้งพริกไทย | เพลี้ยแป้งกาแฟ | เพลี้ยไฟมะนาว | เพลี้ยไฟส้ม | เพลี้ยแป้งลำไย | เพลี้ยแป้งลิ้นจี่ | เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง | เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว | เพลี้ยไฟมังคุด | เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง | เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่ | เพลี้ยไฟกระเทียม | เพลี้ยไฟหอมแดง | เพลี้ยมะเขือเทศ | เพลี้ยไฟกล้วยไม้ | เพลี้ยแป้งอินทผาลัม | เพลี้ยแป้งน้อยหน่า | เพลี้ยไฟชมพู่ | เพลี้ยแป้งเงาะ | เพลี้ยจักจั่นมะม่วง | เพลี้ยมะขาม | เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช | กำจัดหนอนทุเรียน | กำจัดหนอนมันสำปะหลัง | กำจัดหนอนกออ้อย | กำจัดหนอนในนาข้าว | กำจัดหนอนในสวนยางพารา | กำจัดหนอนมะพร้าว | กำจัดหนอนข้าวโพด | กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน | กำจัดหนอนสับปะรด | กำจัดหนอนถั่วเหลือง | กำจัดหนอนพริกไทย | กำจัดหนอนกาแฟ | กำจัดหนอนมะนาว | กำจัดหนอนส้ม | กำจัดหนอนลำไย | กำจัดหนอนลิ้นจี่ | กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง | กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว | กำจัดหนอนมังคุด | กำจัดหนอนมันฝรั่ง | กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่ | กำจัดหนอนกระเทียม | กำจัดหนอนหอมแดง | กำจัดหนอนมะเขือเทศ | กำจัดหนอนกล้วยไม้ | กำจัดหนอนอินทผาลัม | กำจัดหนอนน้อยหน่า | กำจัดหนอนชมพู่ | กำจัดหนอนเงาะ | กำจัดหนอนมะม่วง | กำจัดหนอนมะขาม | กำจัดหนอนพริก
โรงงานรับจ้างผลิตปุ๋ย OEM/ODM เป็นแบรนด์สินค้าของคุณ ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยเม็ด ไตรโคเดอร์มา บิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม จุลินทรีย์ย่อยสลาย ยาปราบฯ สารปรับสภาพดิน ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ปุ๋ยเคมี ทำได้ทุกชนิด
เริ่มต้นเพียง 15,000 บาท
ปุ๋ยยาฯ จุลินทรีย์ต่างๆ ปุ๋ยน้ำต่างๆ ปุ๋ยน้ำอะมิโน ไตรโคฯ ประเภทน้ำ ประเภทผง บรรจุขวด บรรจุซอง ทุกชนิด ฯลฯ
เริ่มต้นเพียง 45,000 บาท
ปุ๋ยเม็ดทุกชนิด บรรจุกระสอบ 50 กิโลกรัม บิ๊กแบ็ค 1 ตันเพื่อส่งออก กระสอบ 25 กิโลกรัม ทำได้ทุกชนิด ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์เคมี สารปรับสภาพดิน อะมิโนเม็ดสกัด ฮิวมิค ฯลฯ
โทร 090-592-8614
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025


ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
โรคใบติดทุเรียน โรคราสีชมพูในทุเรียน โรคทุเรียนกิ่งแห้ง ต้องหมั่นสังเกตุตรวจดูแลสวน หากพบ ให้เร่งป้องกันกำจัด
Update: 2566/11/04 14:14:10 - Views: 8835
การป้องกันและกำจัดโรค ที่เกิดกับลิ้นจี่
Update: 2563/11/19 08:30:15 - Views: 4605
ฮิวมิค แอซิด ฟาร์มิค: ปรับปรุงดินและเพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของต้นแก้วมังกร
Update: 2567/02/13 09:55:58 - Views: 135
กำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าหนอนเจาะฝักถั่ว ใน ถั่วฝักยาว และ พืชทุกชนิด บาซีเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/03/07 14:31:14 - Views: 3118
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยอ่อน ศัตรูพืชสำหรับต้นข้าวโพด
Update: 2567/02/22 13:47:19 - Views: 150
โรคทุเรียน โรคกิ่งแห้งในทุเรียน โรคทุเรียนใบไหม้ ใบติด อาการทุเรียนใบร่วง ส่งผลต่อการเจริญเติบโต และทำให้ผลผลิตตกต่ำ ป้องกัน กำจัด ได้อย่างไร
Update: 2566/11/06 06:34:48 - Views: 388
การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดโรคในต้นทับทิม
Update: 2567/02/29 13:16:03 - Views: 160
โรคข่าเหลือง โรคหัวเน่าในข่าเหลือง
Update: 2564/08/29 23:18:01 - Views: 3576
กำจัดแมลงศัตรูพืช ยาฆ่าไรแดง ใน ชาเขียว และ พืชทุกชนิด บิวทาเร็กซ์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/02/11 09:55:51 - Views: 3057
โรคเชื้อราในต้นแคคตัส: วิธีป้องกันและการรักษา
Update: 2566/11/20 09:00:46 - Views: 258
ไขข้อข้องใจ … ทำไมแหนมถึงกินดิบได้?
Update: 2565/11/16 13:48:55 - Views: 9909
กำจัดเชื้อรา สาเหตุของโรคยางไหล ใน มังคุด ไตรโคเดอร์มา ไตรโคเร็กซ์ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
Update: 2566/01/09 14:23:24 - Views: 3040
เงาะ การป้องกันกำจัดหนอนเงาะ และป้องกันราแป้ง กำจัดเพลี้ย ในเงาะ
Update: 2564/04/20 10:02:29 - Views: 3340
การป้องกันกำจัด โรคราสนิม โรคราแป้งในแตงกวา
Update: 2566/01/12 07:51:16 - Views: 3111
คู่มืองป้องกันและกำจัดโรคในลำไย โรคราต่างๆ ใบไหม้ ราแป้ง ราสนิม กิ่งแห้ง และราอื่นๆ
Update: 2566/04/30 08:55:27 - Views: 16673
ปัญหาส้มใบเหลือง แก้ได้ง่ายๆ ด้วยปุ๋ยสตาร์เฟอร์
Update: 2567/03/15 14:03:18 - Views: 154
มะนาว โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ ผลผลิตดี ฉีดพ่นปุ๋ย FK-1 ต้นทุนต่อไร่ถูกกว่าปุ๋ยเม็ด 4เท่า เพิ่มผลผลิตสูงสุด 20เปอร์เซ็นต์
Update: 2566/04/20 10:15:25 - Views: 3038
ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ สูตร 10-40-10+3 MgO: เพิ่มพลังให้มะนาวออกดอกและเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์
Update: 2567/02/12 14:03:12 - Views: 145
🔥 ไอเอส ยาอินทรีย์ ยับยั้งโรคพืชจากเชื้อรา โรคใบไหม้ โรคใบแห้ง โรคราสนิม โรคราน้ำค้าง โรคใบจุด
Update: 2564/02/07 13:59:32 - Views: 3181
เพลี้ยศัตรูพืชในต้นมะกรูด การควบคุมและป้องกันการระบาดของพลี้ย
Update: 2566/11/09 10:21:53 - Views: 510
GA4 © FarmKaset.ORG | สถาบันอนุญาโตตุลาการ : 2022